[Spoil] EXEcutional - 185 # all night long
|
 |
EXE ตอนใหม่กับการขึ้นราคาของ C-KiDs เป็น 45 บาท 'Orz หลังจากตอนอลังการมาแล้วตอนนี้เลยผ่อนคลายกันสักเล็กน้อย
เปิดตอน ณ โลกจริงที่โรงเรียนในเช้าวันหนึ่ง เจ้าเป็ดเดินสบายๆผิวปากมาแต่เช้า พอเดินมาเจอกระจกหน้าต่างเห็นเงาตัวเองก็เลยจดๆจ้องๆจับผมแต่งหล่อให้เรียบร้อย พอดีนั้นเองคู่ขาก็โผล่มา วิริยาโผล่มาพูดเลยว่าคงจะดีถ้าส่องกระจกแล้วหน้าตาแย่ๆหล่อขึ้นมาได้ เป็ดเห็นวิริยาก็พูดเลยว่ายัยเต้าหู้ทอดหลบอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร วิริยาบอกเธอชื่อวิริยาและที่นี่ก็เป็นที่นั่งประจำด้วยเพราะสงบดี
วิริยาเลยถามเป็ดจะมานั่งด้วยไหมแถมบอกเลยว่าถ้าขอร้องดีๆจะแบ่งขนมให้กินก็ได้ เป็ดก็ไม่สนบอกจะรีบไปทำการบ้าน(ลอกเกษมตอนเช้า เจริญจริงๆ) แต่หารู้ไม่ว่า....
มัจฉา: ยืนคุยกับใครอยู่เหรอตะกี้ วิริยา: คนโง่ส่องกระจกน่ะ... มัจฉา: ??
[ตอนเย็น] มาทางสองหนุ่มที่กำลังเดินคุยกันอยู่นั้นคือกานดาและไวพจน์ซึ่งคืนนี้ไวพจน์ขอมานอนบ้านกานดา(คิดแล้วสินะว่าใครเป็นเหยื่อรายต่อไป) โดยไวพจน์ถามให้แน่ใจว่านอกจากกานดาแล้วไม่มีใครอยู่บ้าน กานดาบอกเมื่อก่อนพี่วิศนะอยู่แต่ไปทำงานที่อื่นแล้ว จึงเข้าทางไวพจน์บอกงั้นเดี๋ยวไปซื้อเบียร์มาดื่มกันแต่กานดาเบรกก่อนเลยบอกเกิดพี่กลับมาเจองานเข้าแน่(ถึงวิศนะไม่กลับมาก็ไม่ได้เฟ้ย กานดามันยังไม่บรรลุนิติภาวะ) และเหตุผลที่วันนี้ไวพจน์มาขอนอนค้างบ้านกานดาเพราะบ้านไวพจน์ญาติๆจากต่างจังหวัดแห่กันมา กานดาเองก็ไม่ขัดเพราะยังไงเจ้าเป็ดกับอัษฏาเองก็เคยมานอนอยู่เหมือนกัน ไวพจน์เห็นบ้านช่องกานดาก็ดูจะน่าสงบดี กานดาบอกเลยว่าสงบสงัดเย็นยะเยือกเลย ไวพจน์ได้ยินแบบนี้ก็บอกดีเลยชอบๆ(หึๆๆ)
เดินคุยๆอยู่นั้นเองก็มาจะเอ้กับเจ้าเป็ดพอดี เจ้าเป็ดเห็นไวพจน์อยู่ด้วยก็สงสัยว่าโผล่มาได้ไง ไวพจน์ก็บอกมานอนค้างบ้านกานดาแถมยังชวนเจ้าเป็ดให้มานอนบ้านกานดาด้วยบอกมาปาร์ตี้ๆกัน แน่นอนว่าผู้ที่เคยได้ประสบการณ์มาแล้วอย่างเจ้าเป็ดมีหรือจะเอาตัวเองไปเจออะไรแบบนั้นอีกก็เลยบอกปฎิเสธอ้างว่าไม่ชอบค้างบ้านตยแปลกหน้า ไวพจน์เลยพูดเลยว่าเจ้าเป็ดเองก็เคยค้างแท้ๆ เจ้าเป็ดก็พยายามดิ้นบอกอยากนอนบ้านตัวเองมากกว่า
เจ้าเป็ดที่ยังไงก็ไม่ยอมท่าเดียว(แน่ล่ะ)ไวพจน์เองก็ไม่ยอมเหมือนกันเจ้าเป็ดเลยรีบหาทางเอาตัวรอดบอกให้ไวพจน์โทรชวนคนอื่นสิ ไวพจน์เลยช่วยไม่ได้บอกเจ้าเป็ดใจดำและโทรหาคนอื่นทันที เหยื่อรายแรกนั้นก็คือ อัษฏา
ไวพจน์: อัษฏาเหรอนี่ไวพจน์นะ ไวพจน์: อัษฏานายว่างป่าวคืนนี้ อัษฏา: หืม ว่างสิมีอะไรเหรอ? ไวพจน์: มานอนค้างบ้านเจ้ากานดากัน... อัษฏา: ........... อัษฏา: เอ่อ.... โทษทีนะ ฮันไม่ว่างน่ะ ไวพจน์: โกหก!! (ดริฟแถ 180 องศากันเลยทีเดียว)
จบการสนทนาเหยื่อรายที่หนึ่งชิ่งไปอย่างรวดเร็วจนไวพจน์บอกไม่ไหวเลย จึงรีบโทรหาเหยื่อรายที่สองต่อทันที...
ไวพจน์: ฮัลโหล มัจฉาเหรอนี่ไวพจน์เอง ไวพจน์: อ๋อ.. ไม่มีธุระอะไรหรอก มานอนค้างด้วยกันหน่อยสิ!! แกร่ก!!(เสียงวางสาย)
ไวพจน์ที่โดนวางสายใส่ก็ยังมีหน้ามาพูดอีกว่าโดนวางสายแบบนี้โดยไม่พูดแปลว่าปฎิเสธใช่ไหม กานดาบอกเลยไม่โดนด่าใส่ก็บุญแล้ว อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงนะเฟ้ย(แถมยังม.ต้นด้วย) ไวพจน์จึงบอกหมดตัวเลือกแล้วจึงกลับมาชวนเจ้าเป็ดให้มาด้วยกันซะดีๆ เจ้าเป็ดยังไงก็ไม่ยอมเลยเสนอตัวแทนให้เองเลยและผู้โดนหวยล็อคคนนั้นก็คือ เกษม
เกษมที่จู่ๆโดนเจ้าเป็ดลากมาก็งงๆไหงเขามาอยู่ที่นี่ได้ เจ้าเป็ดก็เตรียมการให้อย่างดีบอกว่าบอกพ่อแม่เกษมให้แล้วว่าคืนนี้เกษมมานอนค้างบ้านเพื่อนทำรายงานทั้งที่จริงๆไม่มีรายงานสักหน่อย เจ้าเป็ดบอกกานดากับไวพจน์มันเหงาเลยให้เกษมมานอนด้วย เกษมก็บอกเลยทำไมเจ้าเป็ดไม่ค้างซะเองเลยเล่า
ระหว่างที่เจรจากันอยู่นั้นฟ้าก็เริ่มมืด พระอาทิตย์กำลังตกดิน เจ้าเป็ดที่รู้ว่าหมดเวลาแล้วจึงรีบชิ่งโดยทันที ไวพจน์ยังอุตส่าห์บอกจะรีบไปไหนมานั่งเล่นด้วยกันก่อนแต่เจ้าเป็ดก็อ้างอีกว่าจะรับกลับไปกินข้าวที่บ้าน สรุปจึงเป็นเกษมเพิ่มอีกคนที่ตกเป็นเหยื่อไป แถมก่อนเจ้าเป็ดจะเอาตัวรอดก็โบกมือหน้าเครียดให้กับเกษมด้วยโดยที่เกษมเองไม่อาจเข้าใจได้เลยว่านั้นหมายความว่ายังไง
พอค่ำมืด ไวพจน์ที่สำรวจบ้านกานดาหาห้องกานดาแต่ไปเจอห้องของวิศนะแทน ไวพจน์ถึงกับแปลกใจที่ห้องสะอาดเกินกว่าเป็นห้องผู้ชาย กานดาบอกเพราะพี่เขาเจ้าระเบียบ แต่วินาทีนั้นไวพจน์ตาไวไปสังเกตเห็นสิ่งๆหนึ่งในห้องวิศนะ นั่นคือหมอนมือแมวรุ่น Limited แต่กานดาบอกไว้ก่อนเลยว่านั่นเป็นของสำคัญของพี่ห้ามแตะหรือเคลื่อนย้ายเด็ดขาดไม่งั้นโดนเชือด ไวพจน์ก็พูดเลยว่าวิศนะโหดจริง
พอตอนกินข้าวโดยนั่งล้อมวงกินที่พื้น ไวพจน์ถามกานดาว่าอยู่บ้านคนเดียวตลอดเลยเหรอจนบอกเลยว่าพ่อแม่ชะล่าใจเป็นบ้า กานดาบอกแล้วทำไมเขาเป็นคนน่าไว้ใจทำไมจะวางใจไม่ได้ ไวพจน์บอกชมตัวเองหน้าตาเฉยและบอกเหตุผลว่าไม่ระแวงเรื่องเพื่อนมาเมาหรือพาหญิงเข้าบ้านมั่งเหรอไง กานดาบอกไม่มีทางอีกอย่างพี่เขาก็กลับมาดูความเรียบร้อยบ่อยๆ เกษมเองก็คิดอยู่ว่ากานดาเองก็ไม่ใช่คนชอบเที่ยวเตร่ด้วย
และก็เข้าประเด็น เกษมถามแย้มๆว่ากานดามีแฟนรึยัง กานดาตอบชัดเจนเลยว่าไม่มีแต่ไวพจน์นั้นรู้ดีว่ากานดาไปกินแห้วสาวที่ไหนไม่รู้ที่หอคอยภูตแล้วตอนนี้ภัสสรก็แอบชอบอยู่ด้วย(ยังมีไปหักอกมัจฉาอีก) กานดาบอกที่บ้านเขาสะอาดก็ไม่ใช่ว่าตัวเองจะเป็นคนเรียบร้อย แต่เพราะพี่จู้จี้กว่าแม่อีกเคยบอกเลยว่า "กานดา... อาทิตย์นี้ฉันจะกลับไปที่บ้าน ถ้าบ้านรกล่ะก็แกจะมีสภาพยับเยินพอๆกันกับสภาพบ้านแน่" ไวพจน์ก็คิดเลยว่าคนมีพี่น้องก็ไม่น่าอิจฉาเท่าไร
ไวพจน์ก็บอกถ้าเบื่อๆก็ชวนเจ้าเป็ดมานอนบ่อยๆสิ บอกตอนเย็นอยู่ดีๆรีบกลับบ้านเฉยเลย กานดาก็บอกว่าเจ้าเป็ดมันชิ่งกลับไปก่อนเพราะว่ากลัวยังไงล่ะ บอกเลยว่าซอยบ้านเจ้าเป็ดผีเฮี้ยนมาก พอเริ่มมืดเจ้าเป็ดก็จะรีบกลับบ้านเพราะไม่อยากผ่านซอยตอนกลางคืน ไวพจน์บอกน่ากลัวแฮะเขายิ่งไม่ถูกกับเรื่องพวกนี้เท่าไรบอกโชคดีที่ไม่ใช่แถวนี้(หึๆๆ) กานดาบอกก็บอกใช่มั้ยล่ะและบอกเขาจะเช่าเรื่องอุบัติเหตุรถบรรทุกทับสุดสยองเมื่อห้าปีก่อนให้ แต่ไวพจน์บอกไม่ต้องเล่าเดี๋ยวนอนไม่หลับ
คุยไปคุยมาไวพจน์ก็ขอพูดเรื่องหนึ่งหน่อยนั้นคือเรื่อง... กานดามันทำกับข้าวโคตรอร่อย เกษมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่กานดาบอกก็ธรรมดาๆออก ไวพจน์บอกเลยแบบนี้ไม่ธรรมดาแล้ว กานดาบอกคงเพราะอยู่บ้านคนเดียวเลยทำกินเองบ่อย แถมงบค่าอาหารก็จำกัดต่อให้อยากกินที่ร้านก็ไม่มีเงิน ฟังแล้วน่าสงสาร แต่ความรู้สึกน่าสงสารนั้นก็อยู่ได้แวบเดียวเมื่อจู่ๆเกษมขอปลาเห็ดชิ้นสุดท้ายไปกิน แต่ไวพจน์ไม่ยอมบอกจองไว้แล้วตั้งแต่ยังไม่ทอดเกษมบอกเลยอย่ามามั่ว จึงกลายเป็นศึกดวลตะเกียบที่ไวพจน์พูดเลยว่าฝีมือตัวเองคีบถั่วลิสงไม่มีหล่นสักเม็ด เกษมก็เกทับบอกธรรมดาเขาคีบเต้าหู้ไข่จากหม้อสุกี้กินได้สบายๆ กานดาเองก็อยากเข้าไปดวลด้วยแต่ก็รู้ความสามารถไม่พอ(อีกอย่างเห็นนะว่าแกใช้ส้อม)
กานดาเห็นแย่งกันแบบนี้เลยบอกไปซื้อมาเพิ่มก็ได้เดี๋ยวทำให้กินเอง(แน่นอนว่าออกตังค์ให้ด้วย) ไวพจน์เลยดีใจจนเผลอพลาดโดนเกษมเอาปลาเห็ดเข้าปากไปเรียบร้อย ไวพจน์เลยเซ็งบอกออกไปซื้อตอนนี้เลยเห็นว่ามีซุปเปอร์อยู่แถวนี้เดินไปแป๊บเดียวก็ถึง
แต่หารู้ไม่ว่าทันทีที่ไวพจน์เปิดประตูบ้านก็เจอบางสิ่งบางอย่างตัวจางๆตัวแหว่งๆ ทั้งสามที่เจอดีโดยไม่ทันตั้งตัวก็ตกใจสุดขีดวิ่งเผ่นกลับเข้าบ้านหนีจนเผลอเข้าไปในห้องวิศนะ กานดาบอกมันห้องพี่เขาห้องเขาอยู่ชั้นบน ไวพจน์ถามก่อนว่าห้องกานดาปลอดภัยรึเปล่ากานดาก็ยังกล้าพูดเลยว่าไม่เลยอันตรายกว่าก็เลยไม่กล้าขึ้นไปเลย
พอเผ่นเข้ามาห้องวิศนะกันหมดทั้งสามคนปุ๊บประตูห้องก็ปิดเองซะเฉยๆแถมสิ่งที่ไม่อาจพิสูจน์ได้นั้นก็โผล่ให้เห็นจะๆที่ประตูห้องจนทั้งสามคนตกใจขนหัวลุกกันอีกรอบ งานนี้ตัวใครตัวมันต่อให้ห้องของวิศนะก็ไม่สนแล้วต่างคนต่างโดดหนีขึ้นเตียงที่อยู่ไกลประตูที่สุดทันที
ไวพจน์: กานดาฉันอยากออกจากห้องนี้แล้ว กานดา: เกษมไปเปิดประตูเด๊ะ!! เกษม: เรื่องดิครับ!!
ขณะที่ทั้งสามหมดหนทางโดยสิ้นแล้วแถมสิ่งๆนั้นที่ดูเหมือนจะเข้ามาใกล้ได้อยู่แวบหนึ่งจู่ๆก็หายไปต่อหน้าต่อตาไวพจน์คนเดียว อีกสองคนยืนยันว่าตัวเองยังเห็นอยู่ ไวพจน์เลยคิดขึ้นได้ว่าหรือว่าเมื่อหนุนหมอนมือแมวแล้วจะมองไม่เห็น กานดาที่ก็ไม่เคยรู้ก็บอกให้ไวพจน์เอามาเลยแต่ไวพจน์บอกไม่มีทางจนกลายเป็นศึกแย่งหมอนกัน แต่แย่งกันได้ไม่ทันไรคนที่ไม่มีหมอนก็ได้เห็นว่ามันกำลังเข้ามาหาแล้ว แถมยังซวยซ้ำซากเมื่อจู่ๆฟ้าผ่าลงตรงบ้านกานดาจนไฟดับอีก
ในคืนนั้นทั้งสามคนเลยแนบชิดกันอยู่บนเตียงวิศนะนอนอยู่กับผีและเป็นคืนที่แสนยาวนานสำหรับทั้งสามหนุ่ม ส่วนคำถามที่ตอบได้ยากคือจะมีใครอีกไหมที่จะมานอนบ้านกานดาอีก
[เช้าวันต่อมา] เจ้าเป็ดมาถึงโรงเรียนที่เช่นเคยเดินสบายๆ(รอดตัวจากเมื่อคืนแล้วนิ) จนเดินมาเห็นกระจกก็อดไม่ได้ที่จะส่องจัดผมแต่งหล่อและยิ้มให้กับหน้าตัวเอง แต่ทันทีนั้นวิริยาเปิดหน้าต่างบานที่เจ้าเป็ดส่องอยู่ขึ้นจากอีกด้านของหน้าต่างพูดเลยว่า...
วิริยา: จะส่องหล่อต่อก็ได้นะ.. ทุกคนในห้องกำลังฮาคลืนอยู่น่ะ เจ้าเป็ด: ระ... เรื่องของฉัน!!
เจ้าเป็ดไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นกระจกที่มองไม่เห็นข้างใน
จบตอน
จบตอนคั่นฮาๆกันไป ตอนหน้าคงกลับไปบู๊ต่อเหมือนเดิม
หน้าเดียวตอนนี้เอาฉากสามหนุ่มขนหัวลุกมาให้ชมกันแล้วกันครับ
จากคุณ |
:
neozero
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ค. 55 23:12:45
|
|
|
|