ความคิดเห็นที่ 1 โดนถล่ม จนจมลงมาสู่ท้ายตาราง ใน อันดับ 10 จนได้ สำหรับเหล่าเรือพิฆาตต่างดาว Battleship ที่โรงฉายยังคงหดแล้ว...หดอีก ตามจำนวนหนังใหม่ที่เข้ามา ในฐานะหนังเก่า(ที่สุด)ในตารางตอนนี้ ก็เลยโดนริบโรงไปตามระเบียบ แม้อันดับจะรูดลงมาค่อนข้างเยอะ แต่รายได้ก็ไม่ได้ร่วงโหดอย่างที่คิด เพราะลดลงไปครึ่งนึงพอดี มาอยู่ที่ 2 แสนบาท แล่นเรือกันมาสองสัปดาห์ ยิงนก ตกเอเลี่ยน(เอ่อ!!??) ไปแล้ว 148.4 ล้านบาท รายได้ในเอนเตอร์เทนอาจจะค่อนข้างกระโดดจากแหล่งอื่นอยู่พอสมควร (Mojo ล่าสุด ให้หนังอยู่ราวๆ 147 ล้านบาท) เอาเป็นว่าถ้ายึดตามรายได้ของเอนเตอร์เทนแล้ว ก็จะกลายเป็นว่า มหากาพย์เรือรบ แซงตู้กดเงิน ATM เออรัก เออเร่อ ก็เป้นอันจบสิ้นกันที!!! หลังจากที่เรื่องหลัง ปิดรายได้เอาไว้ที่ 148.1 ล้านบาท กลายเป็นอันดับสองของปีไปแล้วทันที! (แต่ก็น่าเสียดายเหมือนกัน ที่หนังไม่ทันได้แซงขึ้นไปสูดอากาศบนยอดเขา อันดับ 1 แห่งปีกับเขาบ้าง เพราะโดนแร้ง เอ้ย!! ก๊วนฮีโร่ของเรารุมทึ้งไปซะก่อนละ!!) ส่วนอนาคตในตารางก็ยังถือว่าก้ำกึ่งเช่นกัน แม้ว่าสัปดาห์หน้า หนังในวงกว้างจะน้อยเพียงหยิบมือ แต่ก็คิดว่าโรงสำหรับเรือรบของเรา ก็คงเหลือไม่พอที่จะเก็บเงินอยู่ใน Top 10 เช่นกัน!! (แต่อย่างน้อย ก็ยังทำได้ดีกว่าในบ้านเกิด ที่อยู่ในสภาพ “ตายสนิท” ไปแล้วล่ะน่า!!!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:54:44

ความคิดเห็นที่ 2 แม้จะเป็นหนังใหม่จำกัดเครือ แต่ก็ทำได้ไม่เลว เข้าสู่ Top 10 ใน อันดับ 9 สำหรับแอ็กชั่นมันส์ระห่ำ The Viral Factor ผลงานเรื่องล่าสุดของพระเอกหนุ่ม เจย์ โชว์ (ในมาดเหี้ยม หนวดรก ที่แทบจะลืม เมื่อมองผ่านแว้บๆ!) ปะทะกับหนุ่มเชียะ ถิงฟง ในบรรยากาศหลากหลายประเทศ (รวมทั้งเพื่อนบ้านเราอย่างมาเลเซีย, เวียดนาม) แน่นอนว่า ชื่อของพระเอกหนุ่ม เจย์ โชว์ และแนวบู๊ระห่ำ ก็น่าจะเรียกแฟนๆ หนังฮ่องกงได้ไม่น้อย แต่ก็อย่างที่รู้กันว่า หนังฮ่องกงในบ้านเรายุคนี้ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าในอดีต ยิ่งฉายเพียงไม่กี่โรง ในเครือเดียวด้วยแล้ว ทำให้สุดสัปดาห์แรก หนังเก็บไปเบาะๆ ที่ 3 แสนบาท ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะเทียบกับกลุ่มหนังจำกัดโรงทั้งหลาย เพราะโรงฉายก็ไม่ได้น้อยนิดไปเสียทีเดียว (เปิดตัวที่สิบกว่าโรง เฉลี่ยต่อโรงอยู่ที่เกือบ 3 หมื่นบาท) ซึ่งก็ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับหนังเอเชียอีกครั้งเช่นกัน หนังเอเชียเรื่องก่อนหน้าที่เปิดตัวไปในบ้านเรา คือหนังการ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง From Up On Poppy Hill ที่มีแฟนๆ จากค่ายจิบลิมาให้การอุดหนุนอยู่แล้ว แม้จะฉายโรงเดียว ก็เปิดตัวไม่เลวที่ 2 แสนบาท แต่เอาคนละแนวมาเทียบกัน อาจจะไม่ค่อยเห็นภาพ(รวมถึงไม่ยุติธรรม)ซักเท่าไหร่ ก็เลยต้องย้อนกลับไปหาหนังเอเชียแนวบู๊ (แต่เนื้อหาคนละยุค) Arrow, the Ultimate Weapon ที่ได้โรงฉายไปพอๆ กัน (12 โรง) และเปิดตัวด้วยรายได้เท่ากันอีก ที่ 3 แสนบาท ย้อนกลับมาดูเครดิตของหนุ่มเจย์ โชว์ในบ้านเรากันบ้าง ก็ต้องยอมรับว่า หนังของเขาในช่วงหลังๆ ถือว่าฟอร์มดีด้วยกันทั้งนั้น (แต่ทำเงินรึเปล่าก็อีกเรื่องนึงนะ!!) เรื่องล่าสุดที่มาเฉิดฉายในบ้านเราเมื่อปีก่อนก็คือหนังโกอินเตอร์ของเขา อย่าง The Green Hornet หนังซูเปอร์ฮีโร่ในบทลิ่วล้อ (แต่ดันเด่นกว่าพระเอกซะงั้น!) เปิดตัวในบ้านเราในวงกว้างไปที่ 13 ล้านบาท หรือวกกลับมาฝั่งเอเชีย กับตำนานหมัดเมายาจกชู True Legend ในฐานะ หนังสามมิติเอเชียเรื่องแรกในตอนนั้น ก็เปิดตัวในบ้านเราได้ไม่เลวทีเดียว (สำหรับหนังเอเชียในยุคนี้) ที่ 7 ล้านบาท น่าเสียดายเหมือนกัน ที่หนังมาในฐานะหนังคั่นเวลา จึงได้โรงฉายน้อยไปหน่อย แต่ด้วยสภาวะของหนังเอเชียที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ในตอนนี้ (กระทั่งมีสตาร์ดังๆ ก็ตาม!) ค่ายหนังก็คงไม่คิดจะเสี่ยงหรอกครับ ยิ่งในช่วงซัมเมอร์ที่เริ่มจะปะทุเช่นนี้ด้วยแล้ว!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:55:10

ความคิดเห็นที่ 3 หลุดจาก Top 5 ยาวลงมาถึง อันดับ 8 สำหรับรอม-คอมไทย ชอบกด Like ใช่กด Love ที่ดูเหมือนว่า งานนี้คนดูจะกด Like ให้หนังน้อยไปซักหน่อย รายได้ก็เลยไม่กระเตื้องอย่างที่หนังแนวนี้ควรจะเป็นซักเท่าไหร่ สัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปกว่า 60% ลงไปเหลืออยู่ที่ 8 แสนบาท ส่ง Love มาสองสัปดาห์ มีคนดู กด Like ให้แล้ว4 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในอาการหงอยเหงาเศร้าสลดพอสมควร อย่างที่เคยบอกไป(ตอนเปิดตัว)ว่า สภาพก็ไม่ได้ต่างจากหนังรอม-คอมจากค่ายเล็กค่ายอื่นๆ ซักเท่าไหร่ (ที่ไม่ใช่ GTH , M๓๙, สหมงคลฟิล์ม) อย่าง รัก 555 อย่าท้าก๋อย ของเฮียรงค์ที่หอบหนังหลบมาจากค่าย GTH ก็สภาพอิดโรยน่าดู เก็บไปได้แบบหดหู่ใจค่าย ที่ 2.8 ล้านบาท หรือหนังจากค่ายห้าดาว อย่าง รักสุดท้ายป้ายหน้า ที่จริงๆ ค่ายใหญ่อยู่ แต่รายได้ไม่ใหญ่ตาม เก็บไปได้แบบน่าผิดหวังที่ 9.9 ล้านบาท แม้จะไม่ได้แย่เท่า โด๋-นัท รอม-คอมเรื่องแรกจากค่ายโกลเด้น เอ ที่ทำเงินไปได้แบบหดหู่สุดๆ เพียง 3 แสนบาทเท่านั้น!!! ในส่วนเครดิตของคุณมอส อย่างที่เคยบอกไปว่า ห่างจากจอเงินมาร่วม 15 ปี รายได้ของหนังอาจจะเทียบกันไม่ได้ (เพราะอัตราของยุคนั้นต่างกันเกินไป) แต่เอาเข้าจริง รายได้หนังเรื่องล่าสุดของเขา ก็ใช่ว่าจะสู้เรื่องเก่าๆ ได้เลย อย่างเช่นเรื่องก่อนหน้าเมื่อ 15 ปีก่อน อย่าง จักรยานสีแดง ก็ทำเงินเอาไว้ในระดับหัวแถวของปีนั้น (และอันดับต้นๆ ของไทยในยุคนั้น) ถึง 49 ล้านบาท เลยทีเดียว หรือย้อนกลับไปอีก อย่าง บันทึกจากลูก(ผู้)ชาย ประกบหนุ่มแอนดริว (และสาวทราย ลูกสาวผู้กำกับ) ก็ทำเงินไปได้พอสมควรในตอนนั้น ที่ 17 ล้านบาท ไล่ไปไล่มา กลายเป็นว่าหนังเรื่องล่าสุดของคุณมอส กลายเป็นหนังทำเงินรั้งท้ายไปซะงั้น!! (ก็ทุกเรื่องเล่นทำเงินเกิน 10 ล้านกันหมดนี่นา!) ฝั่งของผู้กำกับ ภาคภูมิ วงษ์จินดา ที่พลิกแนวมา แม้จะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับย่ำแย่ขนาดนั้น แม้จะเทียบเรื่องก่อนหน้าไม่ได้ อย่าง Who are You? ใครในห้อง? ที่เปิดตัวได้ค่อนข้างดี แต่กระแสลบกลบจนหนังรูดกราว เก็บเงินรวมไปได้ที่ 22.2 ล้านบาท แต่หนังก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ทำได้น้อยที่สุดของผู้กำกับเขา เพราะบ๊วยสุดตกเป็นของ ฟอร์มาลีนแมน : รักเธอเท่าฟ้า ที่ได้เฮียเอกชัยมาช่วยขับขานเพลง แต่ก็ไปได้ไม่ดีเท่าไหร่ เก็บเงินไปแบบหดหู่เพียง 1.9 ล้านบาทเท่านั้น!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:55:30

ความคิดเห็นที่ 4 อันดับ 7 เป็นหนังใหม่เช่นกัน แต่เปิดตัวเข้ามาได้อันดับต่ำกว่าคาดมากๆ สำหรับหนังทริลเลอร์หลอนใจ คน-โลก-จิต ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับฝีมือดี(เคย)ร้อยล้าน นนทรีย์ นิมิบุตร หลังจากที่ล้มสนั่นไปกับหนังฟอร์มยักษ์ ที่เคยเป็นความหวังของค่าย คราวนี้เฮียแกขอจับหนังแนวทริลเลอร์ที่หาดูได้ยากในบ้านเรา (และหาคนดูยากในบ้านเราเช่นกัน!!) จากบทระดับรางวัล พร้อมกับนักแสดงหน้าใหม่อีกไม่น้อย ถือเป็นการหาญกล้ามาก เพราะนอกจากจะเล่นกับหนังแนวขายยากแล้ว ช่วงเวลาที่เปิดตัวก็ถือว่า สุ่มเสี่ยงที่จะหายเข้าไปในกลีบเมฆเช่นกัน!! แม้ตัวหนังจะดูมีความน่าสนใจกว่าหนังแนวนี้ของบ้านเราหลายๆ เรื่องอยู่ก็ตาม แต่ท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้น หนังเปิดตัวไปได้เพียง 2.2 ล้านบาท เรียกได้ว่าน้อยเกินคาด เกินฟอร์มหนังอยู่มากพอสมควรทีเดียว (รวมไปถึงโรงฉายที่ไม่ได้น้อยซักเท่าไหร่) แต่ถ้าว่ากันตามแนวหนังแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะธรรมดาอยู่พอสมควร (แม้จะน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ อยู่มากโข!) อย่างปีที่แล้ว ค่ายใบโพธิ์ก็เพิ่งจะส่งหนังหลอนรวมผู้กำกับดัง หลุดสี่หลุด ลงจอไปตอนต้นปี แต่ก็ได้รับความสนใจจากคนดูน้อยเกินคาด(ทั้งที่ก็โหมโปรโมตอยู่พอสมควร) เลยเปิดตัวไปได้แบบอ่อนแรง ที่ 6.6 ล้านบาท หรือหนังที่พยายามทลายกำแพงหนังแนวนี้ อย่าง บอดี้ ศพ# 19 ที่ทำได้ไม่เลวเลยในการโปรโมตสร้างกระแส ก็ยังทำได้ดีที่สุด ด้วยการเปิดตัว ที่ 9.3 ล้านบาทเท่านั้น! อ่านดูแล้วอาจจะดูโหดร้าย แต่มาดูในเครดิตของเฮียนนทรีย์ อาจจะหดหู่ยิ่งกว่า เพราะหนังคนจิตๆ ของเฮียแก กลายเป็นหนังทำเงินเปิดตัวน้อยที่สุดของเฮียแกไปเสียแล้ว!! พ่ายให้แก่หนังเล็กดูสบาย อย่าง โอเค เบตง ที่คาดว่าไม่น่าจะแพ้ได้แล้ว ก็ยังอุตส่าห์ทำได้น้อยกว่าไปที่ 3.2 ล้านบาท ซึ่งก็เทียบไม่ได้กับหนังเรื่องก่อนหน้าของเฮีย อย่าง ปืนใหญ่จอมสลัด อีกเช่นกัน เพราะฟอร์มผิดกัน แต่ก็อุตส่าห์แป้กเกินคาด เปิดตัวไปได้แบบไม่สนั่นหวั่นไหว ที่ 30.9 ล้านบาท (ส่วนหนังเปิดตัวสูงสุดของเฮียแกก็ยังคงเป็น ท็อปฟอร์ม อย่าง นางนาก ที่เคยเรียกคนดูเข้าโรงแบบถล่มทลายในระดับ 40 ล้านบามมาแล้ว!!!) กลายเป็นว่า การกลับมาสู่จอเงินในรอบ 4 ปีของเฮียแก กลับกลายเป็นเรื่องที่ดูหดหู่ลงไปถนัดตา งานนี้ ทั้งค่าย ทั้งผู้กำกับก็คงเจ็บตัวกันไปไม่น้อย ก็หวังว่าเฮียแกจะกลับมากับหนังใหม่ ฮิตเปรี้ยงอีกครั้งในเร็ววันนะครับ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:56:00

ความคิดเห็นที่ 5 ยังคงอยู่กับหนังใหม่ ใน อันดับ 6 สำหรับหนังแอ็กชั่นไซไฟขายฮา เลือดยุโรป Iron Sky หนังจากแดนโปแลนด์ ที่นานๆ ทีจะเห็นหนังแนวนี้จากฝั่งยุโรป ข้ามฟากมาเข้าฉายในบ้านเราซักทีนึง! ที่หน้าหนัง ค่อนข้างขายความเป็นหนังบู๊ เอฟเฟ็คกระจาย(ปนฮา) อยู่พอสมควร ทำเอาคนดูในบ้านเราที่กำลังโหยหาหนังแนวนี้อยู่ ได้เข้าโรงไปอุดหนุนกันซักครั้ง แต่เอาเข้าจริง หนังก็ไม่ได้เน้นในส่วนของเอฟเฟ็คซักเท่าไหร่ ทำให้สัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 2.4 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างน้อย สำหรับหนังแนวนี้(หน้าหนังล่ะนะ!) แต่ด้วยฟอร์มที่ไม่ได้ใหญ่โต แถมโรงฉายยังกระจ้อยร่อยเกินคาด (ไม่ถึง 20 โรงด้วยซ้ำ!!) ก็พลอยทำให้รายได้ของหนังดูดีขึ้นมาทันตาเห็น! (เฉลี่ยต่อโรงหลักแสนเลยนี่นา!!) แต่ก็อย่างที่บอกไป ในส่วนของตัวรายได้ก็ยังคงน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ ในแนวเดียวกัน ฟอร์มเดียวกันอยู่ดี ทั้งเรื่องก่อนหน้า อย่าง Lockout ที่ทำได้ฮิตเกินคาดมากๆ แม้จะออกมาคั่นเวลารอยักษ์ แต่ก็เก็บเงินสัปดาห์แรกไปได้ไม่น้อย ที่ 12 ล้านบาท หรือแอ็กชั่น-คอมเมดี้ แย่งสาวงาม(??) This Means War แม้จะเปิดตัวได้ไม่เท่าไหร่ แต่ก็ทำได้มากกว่าอยู่ดีกว่าเท่าตัว ที่ 7 ล้านบาท กระทั่งย้อนไปดูหนังเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับบนดวงจันทร์เมื่อปีก่อน อย่าง Apollo 18 ที่เจอโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกซะจนคนเมิน เปิดตัวไปได้พอๆ กัน ที่ 1.8 ล้านบาท แต่ด้วยกระแสวิจารณ์ที่ออกมาค่อนข้างก้ำกึ่ง รวมถึงหน้าหนังที่ทำให้คนดูบางกลุ่ม ที่หวังจะดูฉากแอ็กชั่นเน้นๆ ตองผิดหวังกลับไป คงทำให้อนาคตของหนังแทบจะหมดลงก็ว่าได้ในสัปดาห์หน้า ในเมื่อยักษ์ของเรา ก็มาในแนวแอ็กชั่น ไซไฟ คอมเมดี้ แถมเล่นกับเรื่องนอกโลก เช่นกัน!!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:56:20

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากที่ทำให้ได้ฮือฮามาหลายสัปดาห์ ก็ถึงเวลาที่ กระท่อมน้อยกลางป่า The Cabin in the Wood หล่นลงมาอยู่ อันดับ 5 อีกครั้ง!! งานนี้ หนังอาจจะไม่ต้องเจอกับคู่แข่งแนวเดียวกันตรงๆ แต่ก็มาค่อนข้างเยอะ แถมกระแสของหนังก็อยู่ในกลุ่มก้ำกึ่ง(ค่อนไปทางบวก) ก็ไม่ได้แปลว่าจะช่วยหนุนหนังในวงกว้างได้มากเท่าที่ควร เพราะสัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงเกินครึ่งไปนิดหน่อย เก็บไปอีก  3.5 ล้านบาท ฉายจริงมาสองสัปดาห์ บ้านน้อยหลังนี้ สุขีไปด้วยรายได้ 19 ล้านบาท หลังจากที่สามารถแซงขึ้นเป็นแชมป์ในกลุ่มหนังสยองขวัญฝรั่งปีนี้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน (ล้มแชมป์เก่า อย่างผีกระดูกอ่อน The Devil Inside หยุดเอาไว้ที่ 4.6 ล้านบาท ไปแบบสบายๆ) หนังก็ยกระดับความเป้นแชมป์ด้วยการ(กำลังจะ)กลายเป็นหนังสยองฝรั่งเรื่องแรก ที่สามารถผ่านหลัก 20 ล้านไปได้ในปีนี้อีกด้วย!! (ซึ่งถ้าพูดถึงหนังสยองทุกสัญชาติแล้ว ตอนนี้ก็คงมีเพียง 407 เที่ยวบินผี เรื่องเดียวเท่านั้น ที่สามารถผ่านหลักนี้ไปได้ ซึ่งก็ยากที่จะแซงอีกเช่นกัน!) ถ้าว่ากันถึงหนังสยองขวัญเมื่อปีก่อน ก็ไม่ได้สดใสอะไรมากนัก แม้ว่าจะมีหนังฮิตถล่มอยู่บนหัวตารางระดับ 50 ล้าน 100 ล้าน (อย่าง ลัดดาแลนด์ และ Final Destination 5 ที่ทำเงินไป 117 และ 50 ล้านบาท ตามลำดับ) แต่นอกจากสองเรื่องขาโหดนั้นแล้ว ก็ไม่มีเรื่องไหน สามารถผ่านหลัก 20 ล้านบาทได้เลย!! กระทั่งอันดับ 3 ของกลุ่มอย่าง The Thing ก็ปิดเอาไว้ไม่ได้ใกล้เคียงเท่าไหร่ ที่ 13.6 ล้านบาท ทำเอาตลาดหนังสยองจากต่างแดน ดูจะไร้ซึ่งลูกค้ากลุ่มใหญ่ไปซะทีเดียว ส่วนพ่อมหนุ่ม คริส เฮมส์เวิร์ธ รายได้รวมของหนังในตอนนี้ ยังสู้รายได้วันแรกของหนัง “โคตรฮิต” ของเขาอย่าง The Avengers ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!!! (ก็ล่อไปตั้ง 39 ล้านบาทเลยนี่นา!!!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:56:44

ความคิดเห็นที่ 7 หนังใหม่อีกเรื่องเช่นกัน เปิดตัวเข้ามาใน อันดับ 4 สำหรับหนังภาคต่อเต้นๆ โยกๆ ทะลุจอ StreetDance 2 หนังเต้นทะลุจอจากแดนผู้ดี ที่ภาคแรกเคยคว้าตำแหน่ง “หนังเต้นสามมิติเรื่องแรกของโลก” ไปครองแบบปุบปับ (ตัดหน้าคู่แข่งจากฝั่งฮอลลิวู้ด ไปแบบ “ปาดหน้า” กันเลยทีเดียว) ที่ภาคนี้ ยังคงได้หนุ่มสาวขาเต้น(ที่ส่วนใหญ่ เป็นแดนเซอร์ให้นักร้องดัง)มาร่วมจอไม่แพ้ภาคแรก รวมไปถึงลีลาการแด๊นซ์ ที่ผสมผสานระหว่างหลายแขนง และแหวกแนวอีกมากมาย ก็น่าจะดึงดูดคนดูที่ชอบการเต้นประกอบเพลงเร้าใจให้ตีตั๋วเข้ามาได้ไม่ยาก...ถ้าหนังดูน่าสนใจมากกว่านี้อีกหน่อยล่ะนะ! โดยสัปดาห์แรก หนังเรียกคนดูไปได้ที่ 3.8 ล้านบาท ถือว่าค่อนข้างธรรมดา ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย กระทั่งในกลุ่มหนังวัยรุ่นขาแด๊นซ์ ก็ถือว่าไม่ได้สร้างความตื่นเต้นได้มากเท่าไหร่ (ทั้งๆ ที่มีสามมิติมาช่วยแล้วก็ตาม) แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังแนวนี้ก็ไม่ได้หลุดมาถึงบ้านเราเสียทุกเรื่องไป (ก็คงเพราะรายได้เอาแน่เอานอนไม่ได้ด้วยล่ะ) ทำให้พระเอกของหนังกลุ่มนี้ ตกเป็นของตระกูลดังอย่าง Step Up ที่ค่อยๆ สร้างฐานแฟนๆ ขึ้นมาในบ้านเราได้ไม่น้อยแล้ว แม้ว่าหนังจะไม่ได้ทำเงินถล่มทลายมาตั้งแต่ภาคแรก (ซึ่งทำเงินเปิดตัวไป 4.5 ล้านบาท) แต่สองภาคถัดมาก็ถือว่า เป็นหน้าเป็นตาให้หนังตระกูลนี้ได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว (สองภาคหลังเปิดตัวที่ 12.4 และ 22.9 ล้านบาท ตามลำดับ โดยเรื่องหลังคือสถิติของหนังกลุ่มนี้ด้วย) นอกจากตระกูล Step Up เรื่องอื่นที่พอจะนึกย้อนไปได้ก็คือ Fame หนังรีเมคผลงานของผู้กำกับเลือดไทยที่ไปได้ดีในฮอลลิวู้ด แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรเท่าไหร่ เพราะรายได้เปิดตัวไปแบบจุ๋มจิ๋ม เพียง 8 แสนบาทเท่านั้น!! ขณะที่ StreetDance ที่โหนกระแสเปิดตัวอันดับ 1 ในเกาะอังกฤษมาช่วยขาย ก็ทำเงินไปได้ไม่หนีกันเท่าไหร่(แต่น้อยกว่านิดนึง) ที่ 3 ล้านบาท ก็ต้องถือว่า ยังห่างไกลกับกลุ่ม Step Up อยู่พอสมควรทีเดียว (ทั้งตัวเลขรายได้ และอัตราแฟนๆ หนังที่เพิ่มขึ้นเพียงเลขน้อย) ยิ่งกระแสของหนังที่ค่อนไปทางลบพอสมควร ก็ยิ่งบ่งบอกได้ว่า ใช่ว่าหนังเต้นจะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าในบ้านเราได้เสมอไป ถ้าไม่มีแรงดึงดูดที่มากพอล่ะนะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:57:13

ความคิดเห็นที่ 8 เกินคาดมากๆ เพราะกระโดดขึ้นหนึ่งอันดับ เข้าสู่ Top3 ใน อันดับ 3 ซะงั้น! สำหรับหนังรวมพล ก๊วนซ่าส์เมื่อวันวาน American Reunion ที่พาแฟนๆ ย้อนหวนกลับไปนึกถึงวันวานได้ไม่น้อยทีเดียว แม้ว่าคำวิจารณ์และกระแสจะไม่ได้ออกมาเริดหรูเท่าไหร่(แต่อยู่ในแดนบวก) หนังก็ยังคงเรียกคนดูที่ต้องการความประทับใจ กลับมาได้มากเกินคาดอยู่ดี เพราะสัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปเพียง 40%! ลงมาอยู่ที่  4 ล้านบาท ย้อนวัยมาสองสัปดาห์ ชุมนุมเรียกแขกกลับมาได้แล้ว 13.7 ล้านบาท ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว ไม่ว่าจะเทียบกับหนังแนวไหนในปีนี้ รวมไปถึงทำได้ค่อนข้างอยู่ในมาตรฐานของหนังตลกเรต R ที่มักจะทำเงินลดลงไม่ถึงครึ่งกันเท่าไหร่ (โดยเฉพาะหนังที่ฟอร์มดีๆ หน่อย) ทั้งก่อนหน้าอย่าง Horrible Bosses หนังรวมดาวดังมาเป็นเจ้านายแสบ แม้ว่าจะเปิดตัวในบ้านเราไม่เท่าไหร่ แต่ก็อุตส่าห์ทำเงินลดลงไม่ถึงครึ่งเช่นกัน (แต่มันก็เกือบๆ ที่ 49% แล้วนา!) เก็บเงินไปได้อีกหน่อย ที่ 8 แสนบาท หรือครูสาวซ่าส์ อย่าท้าแหยม(สำนวนพิลึกแฮะ!!) Bad Teacher ที่ได้สาวดิแอซมาร้ายปนฮา ก็ร้ายจนได้ดีไม่น้อย เพราะทำเงินลดลงไม่ถึงครึ่งเช่นกัน (ดีกว่าอีกนิด ที่ 46%) แต่ก็ยังสู้แก๊งส์แอ้มของเราไม่ได้อยู่ดี ที่ 2.8 ล้านบาท ซึ่งตำแหน่งแชมป์หล่นย้อยที่สุด ตกเป็นของ เพื่อนแอ้ม Friends with Benefits ที่กระแสดีเกินคาด ทำเงินลดลงไปเพียง 28% เท่านั้น!!! แม้จะเป็นตัวเงินไม่สูงเท่าไหร่ ที่ 2.3 ล้านบาท รวมไปถึงแชมป์หนังตลกเรต R ปีก่อน อย่าง The Hangover Part II ก็ทำเงินลดลงไม่ถึงครึ่งเช่นกัน (48%) แต่แก๊งค์เมาก็ทำได้ไม่ห่างแก๊งค์แอ้มเท่าไหร่ ที่ 5 ล้านบาท ในส่วนของตระกูลแก๊งค์แอ้มด้วยกันนั้น รายได้ภาคนี้ยังถือว่าตามห่างรายได้ภาคอื่นๆ อยู่พอสมควร (โดยเฉพาะ เพิ่งจะทำได้ใกล้เคียงกับรายได้เปิดตัวของภาคก่อนหน้าด้วยซ้ำไป!!) ภาคก่อนหน้าซึ่งถือว่าเป็นภาคที่ทำได้น้อยที่สุดมาก่อน อย่าง American Wedding แม้จะทำรายได้ทรุดลงไปมากในระดับ 70%! (โดนแฟนฉัน & ปลานีโม่ ทำพิษ!!!) แต่ก็เก็บรายได้สองสัปดาห์ไปในระดับเกือบแตะหลัก 20 ล้านโน่นแล้ว! (ซึ่งแทบไม่ต้องไปพูดถึงสองภาคแรก ที่ทำเงินทำทองในระดับใกล้ๆ 30 ล้านกันทั้งนั้น!!) อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับหนังว่า ยังคงมีแฟนๆ ให้การต้อนรับอย่างต่อเนื่องอยู่ไม่น้อย ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเป็นหนังตลก(ที่คนไทยชอบดู)เพียงไม่กี่เรื่องในช่วงนี้ด้วยหรือเปล่า เลยได้อานิสงค์ไปเต็มๆ ก็คงต้องมาลุ้นกันหนักหน่อยล่ะในสัปดาห์หน้า ว่ายักษ์ใหญ่ที่ตลกเช่นกัน แต่เป็นตลก แอ็กชั่น ไซไฟ.....จะดึงลูกค้าจากตลกห่ามไปมากหรือเปล่า?? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:57:35

ความคิดเห็นที่ 9 ยังคงไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เพราะหนังใหม่มาทำอะไรไม่ได้ สำหรับหนังเพี้ยนปนดาร์ก Dark Shadows ยังคงรั้งตำแหน่งรองแชมป์ อันดับ 2 ต่อไปได้อีกหนึ่งสมัย แน่นอนว่าทั้งเพี้ยน และทั้งแหวกกว่าชาวบ้านในตลาดช่วงนี้ ก็ย่อมได้รับความสนใจจากคนดูในบ้านเราอย่างต่อเนื่องเป็นธรรมดา (โดยเฉพาะแฟนๆ ของป๋าเดปป์ และเฮียเบอร์ตั้น ที่ก็ไม่ได้มีน้อยๆ ซะหน่อย) แต่ด้วยกระแสที่ออกมาก้ำกึ่งพอสมควร ก็พลอยทำให้รายได้ที่น่าจะมากกว่านี้ พลอยหายไปเกินคาดอยู่ไม่น้อย แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ในเมื่อรายได้ก็หล่นลงมาที่ครึ่งนึงพอดีเป๊ะ! เก็บในสัปดาห์นี้ไปอีก  7.5 ล้านบาท ออก(จาก)โลงมาสองสัปดาห์ แวมไพร์ออกล่าเหยื่อได้แล้ว 28 ล้านบาท ถือว่าลดลงค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับหนังฟอร์มดีหลายๆ เรื่องที่มักจะตกลงเกินครึ่ง (แต่ปีนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ถึงครึ่งกันแฮะ!) ดูเหมือนว่าถึงตอนนี้ หนังก็เตรียมจ่อที่จะเป็น หนัง 30 ล้าน เรื่องที่ 12 ของปีนี้ได้อีกเรื่องหนึ่งแล้ว (ตามหลัง 407 เที่ยวบินผี ซึ่งปิดเอาไว้ที่ 34.5 ล้านบาท และอยู่ในอันดับที่ 11 ในขณะนี้) แต่โอกาสที่จะแซงทะลุขึ้นไปถึง Top 10 ประจำปี คงเป็นเรื่องยากเต็มทนไปแล้ว เพราะหนังในกลุ่ม Top 10 ต่างก็ทำเงินในระดับ 40 ล้านด้วยกันทั้งนั้น!! หรือในกลุ่มของหนังแวมไพร์เขี้ยวงามทั้งหลาย ตระกูลสุดฮิตอย่าง Twilight อาจจะเป็นคู่มือที่เกินตัวไปอยู่ซักหน่อย (เพราะภาคที่น้อยที่สุดอย่างภาคแรก ก็ทำเงินสองสัปดาห์ไปถึง 49.3 ล้านบาทเข้าไปแล้ว!) มองย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน เรื่องที่ทำได้ดีที่สุดรองจากตระกูลข้างต้นก็คงหนีไม่พ้น Priest ที่แม้จะเน้นแอ็กชั่นเป็นหลัก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ รายได้รูดลงไปถึง 80%!!! (เก็บไปอีกเพียง 2.8 ล้านบาท) แต่รายได้เปิดตัวที่เยอะกว่าชาวบ้านชาวเมืองในกลุ่มนี้หน่อย รายได้รวมเลยไปอยู่ที่ 24.5 ล้านบาทในสองสัปดาห์ ขณะที่ในผลงานเก่าๆ ของทั้งนักแสดงสุดป่วง และผู้กำกับสุดเพี้ยนนั้น ด้านหนุ่มเดปป์ก็สบายใจหายห่วงพอสมควร เพราะหนังทะยานเข้าสู่ Top 10 ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด มาหยุดอยู่ในอันดับ 7 แซงหน้า Sleepy Hollow ที่ 26.6 ล้านบาทไปแบบสบายๆ และจ่อขึ้นแซง The Tourist ในอันดับ 6 อีกหนึ่งตำแหน่ง (ที่ 31.1 ล้านบาท) และคาดว่า น่าจะเป็นอันดับที่สูงสุดของหนังล่าสุดเรื่องนี้แล้วก็ว่าได้ เพราะหนังเก่าที่เหลือในโซน Top 5 ก็ต้องยอมรับว่า ทำเอาไว้ไกลเกินเอื้อมกันจริงๆ (อันดับ 5 อย่าง Alice in Wonderland ก็ปิดในระดับ 56.3 ล้านบาทโน่นแล้ว!) ฟากผู้กำกับเบอร์ตั้นนั้นอาจจะดูดีขึ้นมาอีกหน่อย เพราะไต่ขึ้นไปได้สูงสุดถึงอันดับ 3 ตามหลังเพียง Alice in Wonderland ในฐานะแชมป์ของเขา และหนังที่เปิดตัวสูงสุด อย่าง Planet of the Apes แต่รายได้ลดลงค่อนข้างเยอะ เลยปิดรายรับรวมเป็นรองไปที่ 52 ล้านบาท มาดูผลงานร่วมกันของทั้งคู่กันบ้าง ก็แทบจะไม่แตกต่างจากเครดิตของเฮียเบอร์ตั้นเท่าไหร่นัก เพียงแต่ตัด Planet of the Apes ออก ก็เลยทำให้แวมไพร์เดปป์ของเรา กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับสองในเครดิตร่วมกันของทั้งคู่ไปแล้ว (อันดับรองลงมาก็ Sleepy Hollow นั่นแหละ) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:58:10

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ยังคงอยู่ใน อันดับ 1 แบบไม่สะดุ้งสะเทือนซักเท่าไหร่ สำหรับเหล่าฮีโร่ประจัญบานพิทักษ์โลก The Avengers แม้จะสามารถยึดแชมป์เอาไว้ได้เป็นสมัยที่สามติดต่อกัน แต่ด้วยโรงฉายที่ลดลงไปค่อนข้างมาก (เกือบร้อยโรง) จากการมาของหนังใหม่หลากหลายเรื่อง ทำเอารายของหนังที่น่าจะยืนโรงได้มากกว่านี้ ต้องหายไปเช่นกัน สัปดาห์นี้ หนังยังคงหล่นแรง ร่วงลงไปกว่า 60% เก็บไปอีก 11.9 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ เหล่าฮีโร่ถล่มโรงทลายไปแล้ว 239.6 ล้านบาท!!! (ข้อมูลจากบล็อกคุณ Alexkh อีกครั้งนึงครับ) รายได้ถือว่าอ่อนแรงลงไปอย่างผิดหูผิดตาพอสมควรทีเดียว รวมไปถึงรายได้รวมที่น่าจะทะลุหลัก 250 ล้านอย่างง่ายๆ ก็พลาดท่าไปค่อนข้างเยอะ (คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย กว่าจะผ่านได้ ทำให้ช้ากว่าเจ้าของสถิติอย่าง Transformer 3 ที่ใช้เวลาเพียง 15 วันเท่านั้น!!) มาถึงตอนนี้ สถิติของหนังประจำปีนี้ก็เรียกได้ว่า เหลือน้อยลงไปที่จะให้ได้เก็บเกี่ยวแล้ว อย่างสถิติรายได้สัปดาห์ที่สามสูงสุด หนังก็ถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะลดลงอย่างน่าใจหายเสียจนทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 3 ของปีนี้เท่านั้น (ตามหลังโคตรฮิต ทรงตัวดี อย่าง ATM เออรัก เออเร่อ ที่ทำเอาไว้สูงมากถึง 19 ล้านบาท และตกน้อยกว่าคาดอย่าง Battleship ที่เฉือนชนะไปที่ 13 ล้านบาท) แต่อย่างน้อย ก็เป็นหนังทำเงินสามสัปดาห์เกิน 10 ล้านเป็นเรื่องที่สามประจำปีนี้ได้อยู่ (แม้จะปริ่มๆ ก็ตาม!) รวมไปถึงการครองบัลลังก์ถึงสามสัปดาห์ซ้อน ก็ถือเป็นสถิติสูงสุดประจำปีนี้เช่นกัน ร่วมกับหนังฮ็อตอย่าง Battleship ที่ทำเอาไว้ 3 สัปดาห์เช่นกัน (ส่วน ATM นั้น บางแหล่งก็บอกว่าได้ 3 สัปดาห์เช่นกัน แต่เนื่องจากใช้ข้อมูลตามเอนเตอร์เทนก็ถือว่าไม่ได้ล่ะ!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:58:40

ความคิดเห็นที่ 11 ฝั่งของสถิติตลอดกาลนั้น หนังก็แทบจะหมดลุ้นสถิติลำดับต้นๆ ไปตั้งแต่ในมุ้งแล้ว เทียบง่ายๆ กับแชมป์เมื่อปีก่อน ที่เปลี่ยนมือมาเป็นของ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ แม้จะรายได้ลดลงเยอะในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่มาสัปดาห์ที่สาม ทรงตัวได้ดีเหลือเชื่อ เก็บไปอีกถึง 21 ล้านบาท หรือคู่แค้นอย่างไม่เป็นทางการ Transformer 3 แม้จะเจอพลังพ่อมดน้อย แต่ก็โดนต่อยไม่หนักพอ เก็บไปได้อีกมหาศาลถึง 20 ล้านบาทโน่น! ขณะที่รายได้รวมของหนังในกลุ่มตลอดกาลนั้น หนังสามารถทะลุเข้าสู่ Top 5 มาอยู่ในอันดับที่ 4 ได้สำเร็จ (แซงหน้า ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๑ ที่ 219 ล้านบาท ไปได้หลายวันแล้ว) และคาดว่าน่าจะเป็นอันดับสุดท้ายของหนังแล้ว ที่จะไต่ขึ้นมาได้ เพราะหนังตามหลัง อันดับ 3 อย่าง Transformer 3 อยู่อีกไกลเหลือเกิน!! (295.2 ล้านบาทแน่ะ!!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:59:10

ความคิดเห็นที่ 12 ซึ่งก็อย่างที่บอกไปว่า หนังใช้เวลาช้ากว่า Transformer 3 ในการทะลุหลัก 250 ล้านค่อนข้างเยอะทีเดียว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจแล้วล่ะ ที่หนังจะไม่สามารถไล่ตามไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว แต่อย่างน้อย ถึงตอนนี้ หนังก็มาได้ไกลมากพอสมควรทีเดียว สำหรับหนังฟอร์มยักษ์ซักเรื่อง แม้ระดับ 250 ล้าน จะยังไม่การันตีว่าหนังจะได้แชมป์ประจำปีนี้ไปจนจบปี แต่คาดว่า งานหนักที่สุดก็คงต้องตกไปอยู่กับหนังเรื่องอื่นอยู่ดีล่ะ ว่าจะหาทาง(อันน้อยนิด) แซงขึ้นไปได้ยังไง(กัน???) เอาเป็นว่าถ้าสัปดาห์หน้าหนังไม่โดนทำร้ายมากเกินไป ก็น่าจะผ่านหลัก 250 ล้านได้อย่างสวัสดิภาพอยู่ล่ะครับ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:00:31

ความคิดเห็นที่ 13 แม้เหล่าฮีโร่จะยังเป็นแชมป์ แต่ก็แทบหมดแรงหลังจากกรำศึกมารอบด้าน Top 10 สัปดาห์นี้ เลยเก็บเงินไปแบบหงอยๆ เพียง 36.6 ล้านบาท น้อยกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (63.9 ล้านบาท) ไป 43% และน้อยกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (64.4 ล้านบาท) ไปอีก 44% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ป๋าแจ็ค พา Pirates of the Caribbean 4 แล่นฉิว ขึ้นคว้าแชมป์ตามคาด ด้วยรายได้ที่อาจจะลดหลั่นจากภาคหลังๆ มาหน่อย ที่ 49 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:01:05

ความคิดเห็นที่ 14 สุดสัปดาห์หน้า ความคึกคักคงกลับมาในโรงอีกไม่น้อย ถึงเวลาพิทักษ์โลกจากต่างดาวอีกครั้ง! (อยู่ในช่วงซัมเมอร์ ก็คงต้องทำใจกันนิสนึงล่ะ!!) แต่คราวนี้ ไม่ได้พึ่งสัตว์ประหลาด หรือผู้มีพลังเหนือมนุษย์ที่ไหน แต่เป็นองค์กรคุ้นหน้า ที่มาพร้อมกับดารานำคุ้นเคยของเราอีกครั้ง!!! นำโดยป๋าวิล สมิธ คนเดิม หลังจากที่หายไปจากจอเสียนาน(ร่วม 4 ปี) จนคนดูแทบลืมหน้า ก็ได้เวลา เจาะเวลา หาอดีตคู่หู เพื่อช่วยกันกู้โลกอีกครั้ง กับ ปฏิบัติการ ชายชุดดำ พะบู๊ต่างดาว Men In Black III ตามมาด้วยหนังเล็กหนังน้อยที่ขอร่วมวงในโปรแกรมซักนิดก็ยังดี! ทั้งหนังจีนแฟนตาซีสุดวิจิตร เรื่องราวของชาวหนุ่มที่หลุดเข้าไปในภาพ “สวรรค์ของชายหนุ่ม” ที่มีแต่เทพยดาสาว! แต่งานนี้ ไม่รู้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังฝรั่งแนวเทพๆ เรื่องหนึ่งหรือเปล่า เพราะงานศิลป์, โปสเตอร์ และ ชื่อเรื่อง ให้อารมณ์คล้ายกันซะเหลือเกิน!! ใน ”Mural” หนังแดนผู้ดีแนวดนตรี กึ่งสารคดีนิดๆ เรื่องราวของสองนักร้องหนุ่มสาว ที่โดนใส่กุญแจมือติดกัน ก่อนจะได้ขึ้นคอนเสิร์ตในอีก 24 ชม.! ใน ”You Instead” และหนังทำเงินถล่มทลายจากแดนจิงโจ้ กับเรื่องจริงสุดประทับใจ ของเจ้าตูบ “ขนแดง” ที่ออกตามหาเจ้าของ ไปยังที่แสนไกล ใน ”Red Dog เหล่าจารชน จะพาต่างดาวมาถล่มโรงเละเทะแค่ไหน??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01032&c=11 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 22:49:15 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:01:43

ความคิดเห็นที่ 15 ว่าแต่ The Avengers ออกจากโรงวันไหน จะไปดูรอบที่สี่ปิดท้าย แล้วไปดูสไปเดอร์แมนวันที่ 29 ครับ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 22:32:35 จากคุณ : lucaman เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:32:06

ความคิดเห็นที่ 16 Avengers เต็มที่ก็น่าจะอยู่ถึงวันที่ 20 มิถุนาล่ะครับในกรุงเทพ เพราะต้องผ่านทั้ง MIB3, Snow White, I Miss U, Prometheus ในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า หายเกลี้ยงแบบจริงจังก็คงตอนเจอกับ G.I.Joe ล่ะครับ จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 00:50:20

ความคิดเห็นที่ 17 คน โลก จิตแผ่วกว่าที่คิดแฮะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ จากคุณ : LuvasnoB เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 01:37:32

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านแล้วครับ เสียดาย Avengers นะ รายได้ตกลงเยอะกว่าในอเมริกาอีก ฮวบเอาฮวบเอาเลยทีเดียว จากคุณ : Jakey_G เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 11:53:33

ความคิดเห็นที่ 19 เอ่อ... วันที่บนหัวมันผิดค่ะ  อ่านตอนแรกแล้วงงๆ ค่ะ จากคุณ : หว่าหวาจัง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 13:28:55

ความคิดเห็นที่ 20 ฟันไปบานแล้วทั่วโลกคุ้มค่าเงินที่เสียไปดูจริงๆ The Avengers จากคุณ : ชายคนนั้น เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 14:20:22

ความคิดเห็นที่ 21 หนังไทยแสนจะแผ่ว . . . ก็ขอแสดงความยินดีกับ Battle Ship ที่ใช้แรงเฮือกสุดท้ายย  เฉือนชนะ ตู้กดเงินได้ แต่ ยังไงก็ต้องรอตัวเลขที่แน่นอนอีกทีสินะ สำหรับ Avengers ทีม ก็ผิดคาดไปเหมือนกันนะเนี่ย ฟอร์มแรง บทดี สทนาสนุก รวมดาราคับคั่ง แต่สงสัยจะแซง TF 3  ในไทยยากนะเนี่ย ในขณะที่ทั่วโลกแล้ว  แซง TF3 ไปเรียบร้อยแล้ว . . . ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : B-Crusher เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 14:51:28

ความคิดเห็นที่ 22 กิ๊ฟหมดเสียแล้ว ขอติดไว้เดือนหน้าแล้วกันนะครับ ^^ จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 15:01:09

ความคิดเห็นที่ 23 Box Office Thai เรา ล่วงหน้ามากครับ อีกตั้ง 5 เดือนแหน่ะ อิอิ จากคุณ : DICK&JANE เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:15:51

ความคิดเห็นที่ 24 american pie reuion สนุกดีครับ เห็นรายได้เเล้วสงสารหนังไทยครับ ผมคงไปอุดหนุนหนังเรื่องคนโรคจิต จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 23:38:13

ความคิดเห็นที่ 25 ช่วงนี้มันหน้าฝนอะ (คนดูน้อยอยู่แล้ว) ทำไมจขกท.จึงเรียกว่า "ซัมเมอร์" อะ ซึ่งเป็นหน้าทำเงินของโรงหนังในประเทศเมืองหนาวเขา จากคุณ : mamao เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 02:08:10

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาโหวต ^^ จากคุณ : บ่าวเมืองเทิง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 08:02:43

ความคิดเห็นที่ 27 หนังพวกนี้จะยืนโรงกันไปถึงตุลาเลยเหรอครับ อิอิ จากคุณ : Leopaul เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 11:45:49

ความคิดเห็นที่ 28 เสียดาย The Avengers ด้วยอีกคนค่ะ วันนี้กะจะไปดูอีกรอบ ปรากฏว่าฉายแค่โรงเดียว 3 เวลาและพากย์ไทยเท่านั้น อดไปตามระเบียบค่ะ เพราะอยากดูซาวด์แทรกมากกว่า และเวลารอบก็ไม่ได้ เสียดายมากกก อยากดูป๋าบ๊อบ เฮียธอร์ โลกิ อีกซักครั้ง T^T จากคุณ : ตัวรั่ว (heakfrog) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 22:35:59

ความคิดเห็นที่ 29 ไปดูชอบกดlike ใช่กดlove มา หนังก็สนุกดีครับ แต่รำคาญตรง หนังแฝงโฆษณา เยอะไปหน่อย แทบทุกฉากเลย ทำให้เสียอรรถรสในการชมไปไม่น้อย แต่เห็นรายได้แล้ว น้อยเกิ๊นนนนนน จากคุณ : โชริแมน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 22:44:22

ความคิดเห็นที่ 30 จขกท. คิดการไกล มองเห็นถึงอนาคตวันที่ 17-20 ตค. นู่น จากคุณ : MindDriller เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 05:01:44

ความคิดเห็นที่ 31 ดู MIB มาแล้ว เพื่อนบอกว่าสนุกกว่าภาคก่อนๆ มันแตกต่างจากภาคก่อนมาก แต่ส่วนตัวแล้วไม่ได้ดูภาคก่อนๆมาเลยค่ะ ดูภาคนี้ครั้งแรก ก็ชอบอยู่ ได้หลายอารมณ์ ไม่เพียงแต่ดูเอาตลกอย่างเดียวค่ะ น่ารักดีนะเรื่องนี้ จากคุณ : คิ้วบาง เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 19:25:50

ความคิดเห็นที่ 32 รอดู MIB เหมือนกัน คิดถึงมากกกกกกกกกสุดๆแล้ว > < จำได้ว่าดูภาคแรกไปเมื่อตอนสมัยยังอยู่ ม.2 ส่วนภาค 2 ก็ต่อจากนั้นไม่กี่ปี แล้วก็เว้นไปยาวนานมาก จนต้องไปดูการ์ตูนแทนให้พอหายคิดถึงอ่ะ จากคุณ : MeeMuay เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 03:16:48

ความคิดเห็นที่ 33 ชอบ American Pie มากๆ ผมว่าภาคนี้ดีกว่า 2 กับ 3 อีก คงเป็นเพราะโตมาพร้อมกันกับเรื่องนี้ด้วย จากคุณ : via iPhone (บ้าแพะ) เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 07:05:47

ความคิดเห็นที่ 34 ขอแย้งนิดนึงนะ Iron Sky เป็นหนังฟินแลนด์ไม่ใช่หรือครับ http://www.imdb.com/title/tt1034314/ Country:Finland | หนังสนุกดี สำหรับผู้ที่ติดตามข่าว ตปท. และการเมืองฝรั่ง วันนี้เพิ่งไปดู Dark Shadows มา เรื่องนี้ถ้าใครไม่ใช่แฟน ผกก. หรือพระเอก คงมีบ่นเหมือนกัน แต่ผมชอบนะ ฉากงามดี จากคุณ : สิงห์นักสูบ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 20:26:23

ความคิดเห็นที่ 35 อู้ย! สงสัยจะมีคำว่าแลนด์เหมือนกัน เลยสับสน (เบลอตั้งแต่วันที่หัวกระทู้เลยทีเดียว 555) ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยท้วงให้ จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 00:03:17