อื้มเราเห็นด้วยกับ คห 67 นะ พูดถูกใจเรามากอะ เราเคยเจอกรณีคล้่ายๆแบบนี้มาจากเพื่อนเรา
ผู้ชายตามจีบผู้หญิงมาเป็นปีๆ ยอมละทิ้งตัวตน ยอมทุกอย่างๆเพื่อให้ผู้หญิงคนนี้รัก สุดท้ายผู้หญิง
ก็ตกลงคบด้วย ซึ่งพอคบกันผู้หญิงคนนี้ก็เอาแต่ใจมาก เอาแต่ใจชนิดที่ว่าไม่เคยฟังความเห็นฝ่ายชาย ไม่เคยเข้าใจฝ่ายชายเลย ไม่ให้คบเพื่อนที่ตัวเองไม่ชอบ และอีกต่างๆนานา ( ** อันนี้เราไม่ได้ว่าคุณตุ๊กเป็นแบบนั้นนะคะ แค่เล่าสิ่งที่เคยพบมาให้ฟัีง)
ระหว่างที่คบกันมองภายนอกก็เหมือนจะ happy ดี แต่ฝ่ายชายมาบ่นกับเราตลอดว่าเขาอึดอัดมาก เราก็งงๆกับมัน เอ้าแล้วจะคบไปทำไมวะ ขนาดอึดอัดนะ ยังเห็นมันคบกันมาเป็นสี่ซ้าห้าปี
แล้วมันมีความสุขจริงๆหรอ ?? แต่ เราก็ไำม่ได้พูดกับมันไปหรอก มีแอบคิดในใจว่าไอเพื่อนเราคนนี้
มันรักแฟนมันจังเว้ย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเขาจีบของเขามานานแล้วผู้หญิงก็สวยมาก เป็นเหมือนนางในฝัน (คล้ายๆกรณีคุณบ๊วยกับคุณตุ๊ก) บางเรื่องที่ไม่ชอบ หรืออาจจะทุกเรื่องที่ไม่ชอบในตัวตนของผู้หญิงคนนี้มันก็เลยอาจจะพยามมองข้ามไปได้ในยามแรกรัก แต่ พอเวลาผ่านไปสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ความรักยั่งยืน และ ทำให้ชีวิตคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่งก็คือ
" ความเข้าใจซึ่งกันและกัน" ถ้าปราศจากสิ่งนี้แล้วมันก็ยากที่ความรักซึ่งหมดความหลงหรือความสดใหม่สามารถก้าวไปได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะสุดท้ายจริงๆคนเราทุกคนก็คงต้องการคนที่เข้าใจเรา และ ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น อาจจะไม่ต้องทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเ้ลย ในกรณีเพื่อนชายของเราสุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวและเลิกรากับแฟนคนนี้ไป เราก็แอบสงสารผู้หญิงนิดนึง เพราะผู้หญิงคนนี้เขาก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่พึ่งมาเป็นทำไมไอเพื่อนเรามันถึงพึ่งจะมาทนไม่ไหว ก็คงเป็นเพราะความหลงไหลมันหมดไปแล้ว แต่ อีกใจหนึ่งก็ไม่สงสารเท่าไหร่นะเพราะผู้หญิงเขาก็เยอะเกินไปจริงๆ

ในกรณีเพื่อนเรามันยังพอรับไหวเพราะมันเป็นแค่แฟนกัน เมื่อพบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ก็ไม่ใ่ช่เรื่องผิดร้ายแรงที่ทางใครทางมันเพื่อไปหาคนที่ใช่กว่าดีกว่าแต่งงานกันไปแล้วไปกันไม่รอดในภายหลัง
ส่วนในกรณีของคุณบ๊วยกับคุณตุ๊กที่เราบอกว่าเห็นด้วยกับ คห67 ก็คือ
" ปัญหาคือข้อเสียของเหรียญอีกด้านหนึ่งมันเคยเป็นที่ยอมรับของลูกคุณแม่มาก่อน แต่ตอนนี้มันกลับเป็นข้ออ้างให้ลูกคุณแม่ว่าเป็นความชอบธรรมในการไปหาอีกด้านของเหรียญอันอื่น"
คุณตุ๊กอาจจะไม่เข้าใจคุณบ๊วย คุณบ๊วยอาจจะพึ่งค้นพบว่าเข้ากับคุณตุ๊กไม่ได้ แต่ การนอกใจก็ไม่ใช่สิ่งที่สามีพึงกระทำต่อภรรยา ถ้าเป็นแฟนกันมันยังไม่ถึงขั้นผิดร้ายแรงนะ เพราะคนเรามีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่นี่ึคุณแต่งงานกันแล้ว คุณไม่มีสิทธิเอาข้ออ้างพวกนี้มาเป็นความชอบธรรมในการไปหาผู้หญิงอีกคนได้ ที่ คุณบ๊วยเคยให้สัมภาษณ์ว่า แต่ก่อนเคยยอมคุณตุ๊กแต่เดี๋ยวนี้ไม่ยอมแล้ว คุณตุ๊กก็เลยรับไม่ได้ เราว่าเป็นความสัมภาษณ์ที่ค่อนข้างห่วยแตกมากๆ
อย่างน้อยก็ควรจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่านี้นะคะ ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นยังไงก็ตามแต่ความจริงก็คือเขาเป็นผู้หญิงที่คุณเคยรัก และ เป็นแม่ของลูกคุณ
ปล.ความเห็นเรื่องแม่ของบ๊วยอ่านแล้วรู้สึกได้เลยเหมือนกันว่าเหมือนจะโยนความผิดไปทางคุณตุ๊ก
แบบนี้แหละคะมันเลยยิ่งทำให้คุณบ๊วยดูแย่ยิ่งขึ้นไปใหญ่