 |
หนังได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการอธิบายโลกใบใหม่ที่เราล้วนคาดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง ครั้งแล้วครั้งเล่าผ่านสายตา J โชว์ความเก๋าของ K (ให้เอเลี่ยนกินตัวเอง เพื่อไปเอาปืนจากในท้องยิงทะลุออกจากข้างนอก) และการปรับโลกทัศน์ที่ใหญ่ที่สุด ไกลที่สุดเท่าที่จะไปถึง คือ บางทีกาแล็กซี่ของเรา ก็อาจเป็นเพียงของเล่นของมนุษย์ต่างดาวได้เช่นเดียวกัน
อีกส่วนหนึ่งที่ MIB ได้รับการจดจำในเวลานั้น ก็คือ ณ ช่วงเวลานั้นเป็นยุคที่วงการ Make Up + Visual Effect - Special Effect รุ่งเรืองสูงสุด หนังหลายเรื่องสามารถขยายเขตแดนของความเป็นไปได้ของพล็อตเหนือจินตนาการ ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ และ 3 หัวเรือใหญ่ๆ ก็ได้แก่ Dick Smith ชำนาญเรื่องการ Make Up แบบ Realism (The Exorcist, Amadeus), Rick Baker ชำนาญด้านแฟนตาซี (Nutty Professor, The Grinch, Hellboy, MIB (ได้รางวัล Oscar สาขา Best Make Up)), Stan Winston ชำนาญด้าน Make Up ผสม Mechanic (Terminator, Aliens, Jurassic Park, A.I. , The Thing) แต่หลังยุค Avatar เป็นต้นมา ก็เป็นยุคที่ Make Up ได้รับความเสื่อมถอย เพราะมีทางเลือกเป็นเทคโนโลยี Motion Capture นั่นเอง
และอีกสิ่งหนึ่งของ MIB ที่น่าสนใจก็คือการได้ Barry Sonnenfeld ผู้กำกับที่เชี่ยวชาญการกำกับหนังตลกประเภทสถานการณ์สุดเพี้ยน ถ้าจะให้นิยามก็คือ Tim Burton ที่ตลกมากกว่า แต่มืดหม่นน้อยกว่า อย่าง The Addams Family, Get Shorty, Wild Wild West(คือถึงหนังจะโดนด่าว่าแย่เพียงใด แต่ผมก็ยังสนุกกับภาพ ภาษาและสถานการณ์เพี้ยนๆ ตลอดทั้งเรื่องได้) ฉะนั้นจึงเหมาะเหม็งกับการเล่าเรื่องของเหล่าคนที่ต้องดูแลเอเลี่ยนให้สงบเรียบร้อย เป็นอย่างดี
ดังนั้นหากสรุปเรื่องราวทั้งหมดของ Men In Black I ก็น่าจะเป็น เจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ซึ่งเป็นคู่หูถูกปลดประจำการเพราะชราภาพ จึงต้องการ Recruit เจ้าหน้าที่คนใหม่ เขาไปพบกับตำรวจ NYPD ผิวดำคนหนึ่ง เขาว่องไว และมีโลกทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร (คิดนอกกรอบ และใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึกเดิม) เข้ากับองค์กรไม่ได้ ซึ่งสมเหตุสมผลที่จะเข้ามาอยู่ในหน่วยงาน ดังนั้นเขาจึงกลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ MIB ต่อมามีคดีเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่เก๋าจึงค่อยๆ สอนเรื่องราวต่างๆ ที่ตำรวจหนุ่มไม่เคยรู้ โลกทัศน์ที่เปลี่ยนไป เหนือจินตนาการขึ้น มีสถานการณ์เพี้ยนๆ มากขึ้น เจ้าหน้าที่คนใหม่กู้โลกสำเร็จ ส่วนเจ้าหน้าที่นายเดิม อยากกลับไปมีชีวิตแบบปกติกับคนที่รัก หลังจากกรำงานมานาน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ใหม่ได้หมอชันสูตรศพมาเป็นคู่หูใหม่ จากการที่ร่วมหัวจมท้ายกันมา ทุกๆ อย่างที่หนังปูมา ล้วนมีบทสรุปชัดเจน ครบถ้วน สวยงาม บริบูรณ์ ตรงตามกรอบของ Buddy Cop Film ทุกประการ ปัญหาเดียวในตอนนี้คือ..มันทำเงิน และพวกเขาอยากทำภาคต่อ...
ผมขอเบรคไว้ตรงนี้ก่อน เพื่อที่จะแตกหัวข้ออีกประเด็นหนึ่ง ประเด็นนี้มีชื่อว่า เรามีทางเลือกอะไรบ้างสำหรับการทำหนังภาคต่อ(ที่ไม่ได้คิดไว้ก่อน)
แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 12:12:08
จากคุณ |
:
นักคิดหมายเลข 1
|
เขียนเมื่อ |
:
27 พ.ค. 55 22:06:13
|
|
|
|
 |