ความคิดเห็นที่ 1 เปิดตัวเข้ามาท้ายตาราง แต่ไม่ท้ายที่สุด ใน อันดับ 9 สำหรับหนังจีนสุดวิจิตร Mural ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ กอร์ดอน ชาน (กับโปเย เวอร์ชั่นสุดฮิตในบ้านเกิด Painted Skin) ที่คราวนี้กลับมาพร้อมกับหนังแฟนตาซีสุดอลัง สวยสดงดงาม เรื่องราวของสามหนุ่มสามมุม ที่ทะลุมิติเข้าไปในรูปภาพ ซึ่งเป็นดั่งสวรรค์ของชายหนุ่ม เพราะมีแต่สาวงาม! ก็คงเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคอหนังเอเชีย ที่มาพร้อมกับบรรยากาศสวยงามได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ด้วยการโปรโมตที่เงียบเชียบ และโรงฉายที่ได้เพียงน้อยนิด เลยไม่น่าแปลก ที่หนังจะทำเงินเปิดตัวไปเพียง 1 แสนบาท[/u] เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน้อยทีเดียว แม้ว่าจำนวนโรงฉายจะถือว่าค่อนข้างน้อย (ไม่ถึง 10 โรง) แต่ด้วยรายได้เฉลี่ยที่ออกมา ก็ถือว่าไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นมาซักเท่าไหร่ (อยู่ที่หมื่นกว่าบาทต่อโรง) ยังคงตอกย้ำสถานการณ์ความซบเซาของหนังเอเชีย(น้อยโรง)ในบ้านเราอยู่ต่อไป หลังจากที่สัปดาห์ก่อนก็เพิ่งมีหนังฮ่องกงเปิดตัวไป(แต่คนละแนว) อย่าง The Viral Factor ที่แม้ว่าจะได้โรงฉายไปใกล้เคียงกัน (ที่สิบโรงต้นๆ) แต่ทำรายได้เฉลี่ยดีกว่า รายได้เปิดตัวเลยสูงกว่าที่ 3 แสนบาท หรือกระทั่งหนังบู๊ย้อนยุค สัญชาติเกาหลี อย่าง Arrow, the Ultimate Weapon ที่ก็ได้โรงปริมาณไม่แตกต่างกันนัก ก็ยังเปิดตัวได้มากกว่าอีกเช่นกัน ที่ 3 แสนบาท ในเครดิตของผู้กำกับชานนั้น แม้จะมีหนังฮิตมากๆ ในบ้านเกิดไปแล้ว แต่ในบ้านเรา ก็ถือว่า หายากเต็มทน ผลงานเรื่องก่อนหน้า อย่าง The King of Fighters ซึ่งดัดแปลงจากเกมดังในอดีต ก็ใช่ว่าจะได้รับความสนใจจากคนดูในบ้านเราเท่าไหร่ เปิดตัวจากโรงฉายเดียวไปเพียง 6 พันบาทเท่านั้น!!! หรือผลงานสุดฮิตในบ้านเกิด อย่าง Painted Skin ที่บอกไปข้างต้น ก็ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคนดูในบ้านเราเช่นกัน แม้จะได้โรงไปค่อนข้างเยอะ ก็เปิดตัวไปเพียง 2.8 ล้านบาท ที่ทำได้ดีที่สุดในยุคหลังๆ ของเขาก็คงเป็นหนังควงเฉินหลง มาแอ็กชั่นแฟนตาซี ใน The Medallion อาจจะทำเงินน้อยกว่าหนังเฉินหลงเรื่องอื่นๆ ในช่วงนั้น แต่ก็เปิดตัวไปได้ถึงระดับ 10 ล้านบาทเลยทีเดียว จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:20:35

ความคิดเห็นที่ 2 ยังคงไหลลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับบ้านสยอง จอมหักมุม The Cabin in the Wood หลุดจาก Top 5 ไหลลงมาอยู่ อันดับ 8 แล้ว ก็ต้องยอมรับว่า หนังโดนยักษ์ใหญ่กว่ากลบกระแสไปเสียหมด คนดูเลยค่อยๆ พากันเมินหนีหนังไปพอสมควร สัปดาห์นี้ หนังจึงทำเงินลดลงไปถึง 86%!!! เก็บไปอีกเล็กน้อย ที่  5 แสนบาท บ้านสยอง เปิดให้จับจองพักกันมาแล้วสามสัปดาห์ ที่ 21 ล้านบาท แม้รายได้จะรูดลงมาเยอะ แต่มาถึงตอนนี้ หนังก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรทีเดียว นอกจากจะกลายเป็นหนังสยองฝรั่ง ทำเงินทะลุหลัก 20 ล้านเป็นเรื่องแรกของปีนี้แล้ว หนังยังเป็นเรื่องแรกในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่ Final Destination 5 ทะลุหลักนี้ได้เลยทีเดียว!! (แต่ถ้ารวมทุกสัญชาติ ยังคงตามหลังหนังไทยอย่าง 407 เที่ยวบินผี เรื่องเดียวอยู่ดี) แต่อันดับต่างๆ ในปีนี้ของหนังก็เรียกได้ว่า ไต่ขึ้นไปสูงกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะแรงที่หลังเหลืออยู่ ก็เรียกได้ว่า แทบจะหมดก๊อกแล้วเช่นกัน!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:21:04

ความคิดเห็นที่ 3 หล่นลงมาเพียง 1 ขั้น มาอยู่ใน อันดับ 7 สำหรับหนังแอ็กชั่นไซไฟ เสียดสีการเมือง Iron Sky ที่ดูเหมือนว่า จะได้รับผลกระทบจากพี่ยักษ์ไซไฟขายฮาของเรามากตามคาด จากแนวทางที่คล้ายคลึงกัน แม้อันดับจะเหมือนหล่นน้อย แต่รายได้ของหนังกลับรูดลงไปถึง 70%!! อยู่ที่ 6 แสนบาท บุกโลกมาสองสัปดาห์ เหล่านาซียึดตั๋วจากคนดูไปได้แล้ว 3.8 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ถือว่าน้อย (สำหรับหน้าหนัง) แต่ก็ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับโรงฉายที่มี (เกือบๆ 20 โรงในกรุงเทพ) การจะเอาไปเปรียบกับหนังคล้ายๆ กันในปีนี้ ก็คงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ทั้งหนังที่อัดแอ็กชั่นเป้นหลักมากกว่า อย่าง Lockout ก็ถือว่า ใช้เวลาเพียง 2 วันทำเงินมากกว่าเหล่านาซีด้วยซ้ำ!! (เก็บเงินรวมล่าสุดไป 21.3 ล้านบาท) หรือแอ็กชั่น-คอมเมดี้ แต่คนละแนว อย่าง This Means War ที่แซงเหล่านาซีไปตั้งแต่เปิดตัว เก็บรายได้รวมไปพอประมาณ ที่ 14.7 ล้านบาท แม้กระแสจะออกมาไม่เลวนัก แต่ด้วยหน้าหนังที่อาจจะทำให้คนดูบางกลุ่ม(ที่เน้นแอ็กชั่น)ต้องผิดหวัง (เพราะตัวหนังก็ออกมาค่อนข้างเฉพาะกลุ่มกว่าที่คิดอยู่แล้ว) ก็คงทำให้กระสปากต่อปากในวงกว้าง ไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:21:57

ความคิดเห็นที่ 4 อานิสงค์หนังอื่นร่วงแรง พลอยทำให้หนังกระโดดขึ้นมาหนึ่งขั้น อยู่ใน อันดับ 6 ซะงั้น สำหรับหนังไทย แนวทริลเลอร์ คน-โลก-จิต ที่แม้คำวิจารณ์จะออกมาไม่ขี้เหร่มากนัก แต่กระแสก็ยังคงเงียบฉี่ไม่มีเปลี่ยนจากตอนเปิดตัว (ยิ่งโดนหนังใหญ่กระแสดีกว่ามากลบด้วยแล้ว ก็ยิ่งเตลิดไปกันใหญ่!!) แต่การที่อันดับของหนังเพิ่มขึ้น เพราะรายได้ที่ตกลงน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ หน่อย ที่ 64% เก็บไปอีก 8 แสนบาท หลอนมาสองสัปดาห์ เก็บเงินไปได้แล้ว 4.1 ล้านบาท   เป็นตัวเลขที่น้อยมากๆ สำหรับหนังไทยซักเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะค่ายใหญ่ๆ อย่างค่ายใบโพธิ์ด้วยแล้ว แต่มาปีหลังๆ กลับเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ที่ค่ายนี้จะมีหนังทำเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากปีที่แล้ว ค่ายก็มีหนังทำเงินในระดับนี้อยู่ 2 เรื่อง (จากทั้งสิ้น 14 เรื่อง) เรื่องล่าสุดก็คือ เพื่อนไม่เก่า ซึ่งเข้าฉายช่วงซัมเมอร์ฝรั่งเช่นกัน เลยถูกคนดูเมินเฉยไปแบบน่าสงสาร ที่ 3.8 ล้านบาท ขณะที่หนังแนวเดียวกันของค่ายใบโพธิ์เมื่อปีก่อน อย่าง หลุดสี่หลุด ที่แม้จะเปิดตัวได้มากกว่า แต่กระแสก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เลยรูดลงไปพอๆ กัน (65%) เก็บเงินไปอีกเพียง 2.3 ล้านบาท ผิดกับเรื่องที่พยายามปลุกกระแสหนังแนวนี้ อย่าง บอดี้ ศพ# 19 หนังผีอุดมเอฟเฟ็ค อาจจะได้รับคำชมที่มากกว่าเยอะ เลยทำเงินลดลงไปน้อยเกินคาด (36%!!) และเป็นตัวเลขที่พอใช้ได้ ที่ 6 ล้านบาท ในส่วนเครดิตของผู้กำกับนนทรีย์ ก็ถือว่าย่ำแย่ไม่แพ้กัน หลังจากที่หนัง ทำสถิติรายได้เปิดตัว “บ๊วย” ที่สุด ในกลุ่มหนังของเฮียแกแล้ว มาสัปดาห์นี้ หนังยังทำเงินสัปดาห์ที่สอง ไม่ถึงหลักล้านบาท ของเฮียแกไปอีกตำแหน่งด้วย กระทั่งหนังที่ดูฟอร์มเล็กๆ ชิลๆ กว่า อย่าง โอเค เบตง ก็ยังทำได้โหดกว่ามาก ด้วยรายได้สัปดาห์ที่สองที่เพิ่มขึ้น 5%!!! เก็บเงินสัปดาห์ที่สองไปอีก 3.6 ล้านบาท แต่เปอร์เซ็นตืที่ลดลง อาจจะดีกว่า ปืนใหญ่จอมสลัด หนังเรื่องก่อนหน้าของเฮียแกหน่อย ที่รูดลงไปเยอะเกินคาดอยู่พอสมควร (63%) แต่ถ้าดูเป็นตัวเลข ก็ยังถือว่ามากกว่ารายได้รวมของหนังใหม่เสียอีก ที่ 11 ล้านบาท งานนี้ เลยไม่รู้ว่า จะได้เห็นหนังแนวนี้กลับมาในตลาดบ้านเราอีกนานแค่ไหน ในเมื่อกลับมาทีไร ก็ทำเอาผู้สร้างช้ำใจกลับไปซะขนาดนี้ (ไม่รู้ว่างานนี้ ผิดที่การโปรโมต หรือที่ตัวหนังเองกันแน่???) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:22:35

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากที่กระโดดเข้า Top 3 ไป ก็ถึงเวลาร่วงลงมาอีกสองขั้น มาอยู่ อันดับ 5 สำหรับหนังรวมก๊วน(เคย)วัยรุ่นสัปดน American Reunion เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับผลกระทบจากยักษ์ใหม่พอสมควร ทั้งแนวตลกที่ถูกเบียดแย่งลูกค้า และโรงฉายที่ต้องเจียดไปให้ ทำเอาสัปดาห์นี้ รายได้ไหลแรงตามคาด รูดลงมาถึง 75%!! ลงมาอยู่ที่  1 ล้านบาท รวมพลมาสามสัปดาห์ พากันย้อนวันวานทะเล้นกันไปแล้ว 16.5 ล้านบาท แม้จะสู้ภาคก่อนๆ ไม่ได้ที่ต่างก็ทำเงินในระดับ 20 ล้านกันขึ้นไปทั้งนั้น (ภาคที่เคยน้อยที่สุด ก็คือภาคก่อนหน้า American Wedding ก็ทำเงินปิดเอาไว้ที่ 22 ล้านบาทแล้ว!) แต่ถ้าเทียบกันในกลุ่มหนังตลก เรต R ช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่า ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว หนังทำได้มากกว่าหนังฮิตเกินคาด อย่าง ครูสุดแสบ Bad Teacher ที่เข้าฉายชนหนังใหญ่ แต่ก็มิวาย ทำไปได้ไม่เลว ที่ 13.7 ล้านบาท แม้ไม่อาจหาญไปเทียบกับตลกเรต R ฟอร์มยักษ์เมื่อปีก่อน อย่าง The Hangover Part II ที่ได้ฉากหลังในไทย เรียกแฟนใหม่แฟนเก่าเข้าโรงไม่น้อย ที่ 26.8 ล้านบาท แต่ถ้าพูดถึงหนังตลกในกลุ่มนี้ด้วยกันแล้ว หนังก็ยังคงเป็นที่ 1 ในกลุ่มตลกเรต R อยู่ดีล่ะ!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:23:02

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นเพียงเรื่องเดียว ที่อันดับไม่ขยับไปไหน ยังคงอยู่ใน อันดับ 4 เช่นเดิม สำหรับหนังโยกย้าย ส่ายสะโพก สามมิติภาคต่อ StreetDance 2 ที่โดนกระหน่ำซ้ำเติมจากยักษ์ใหญ่ไม่ต่างไปจากเรื่องอื่นๆ เพราะกระแสหนังก็ไม่ได้ดีเด่ซักเท่าไหร่อยู่ก่อนแล้ว แถมรอบฉายก็โดนสูบไปพอสมควรอีก ทำเอาสัปดาห์นี้ หนังเต้นไม่ออก เพราะแรงหดไปถึง 70%!! อยู่ที่ 1.2  ล้านบาท เต้นมาสองสัปดาห์ ลีลากระแทกใจขาแด๊นซ์ไปแล้ว 6.6 ล้านบาท   ก็ถือว่าร่วงลงมาแรงพอสมควร แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ StreetDance ภาคแรก ที่สัปดาห์ที่สองเจองานเบากว่า (ชนกับ “ป๋าครูซ คัมแบค” ใน Knight & Day ที่ทำได้ไม่โหดอย่างแต่ก่อน) รายได้เลยลดลงไปน้อยกว่า ที่ 56% เก็บเงินไปอีก 1.3 ล้านบาท แต่รายได้รวมยังห่างพอตัว ที่ 5.6 ล้านบาท ขณะที่เมื่อเทียบกับหนังตระกูลดังอย่าง Step Up ก็ถือว่าห่างไกลกันพอสมควร (ทั้งตัวรายได้ และเปอร์เซ็นต์ที่ลดลง) โดยภาคที่ทำเงินลดลงมากที่สุด คือภาคแรก ลดลงไปมากถึง 64% (แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะต้องชนกับของแข็ง อย่างสายลับหน้าย่น Casino Royale) ส่วนภาคที่ทำได้ดีที่สุด (และเหมือนจะสบายสุด) คือ ภาค 3 ที่เป็นสามมิติเป็นภาคแรกด้วย เลยยื้อคนดูไว้ได้ไม่น้อย รายได้เลยลดลงไม่ถึงครึ่ง (44%) ซึ่งก็แทบไม่ต้องไปพูดถึงตัวเลขรายได้ ที่ห่างกันพอสมควรอีกเช่นกัน (เก็บสัปดาห์ที่สองไปที่ 1.6, 4.6 และ 12.7 ล้านบาท ตามลำดับภาค) กระทั่งหนังเต้นรีเมค(โดยคนไทย) อย่าง Fame ก็เก็บเงินไปได้น้อยนิดเพียง 1.3 ล้านบาท เท่านั้น งานนี้ ใช่ว่าหนังเต้นทุกเรื่องจะประสบความสำเร็จเหมือนๆ กัน ถ้าไม่มีจุดเด่นที่ดึงดูดได้จริงๆ จังๆ ต่อให้เป็นภาคต่อก็ใช่ว่าจะฮิตเสมอไปล่ะนะ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:23:37

ความคิดเห็นที่ 7 ขยับลงมาอีกนิด จากตำแหน่งรองแชมป์สองสมัย สู่ อันดับ 3 สำหรับแวมไพร์หลงยุค หวังเอาฮา Dark Shadows ที่ต้องได้รับผลกระทบจากพี่ยักษ์ชุดดำแน่นอน ในเมื่อทั้งสองเรื่องต่างก็เป็นหนังฟอร์มดี เอาใจกลุ่มคนดูรักเสียงฮาซะขนาดนี้ แม้กลิ่นอายจะออกมาแตกต่างกันสุดๆ ก็ตามทีเถอะ ถึงอย่างไร ก็ยังทำเอาหนังเลือดเหือดแห้งไปถึง 70%! เหลืออยู่ที่  2.2 ล้านบาท เข้า(โลง)ฉายมาสามสัปดาห์ คนดูถูกสูบ(เงิน)ไปแล้ว 33 ล้านบาท กลายเป็นหนังเรื่องที่ 12 ในปีนี้ ที่ทะลุหลัก 30 ล้านอย่างเป็นทางการไปแบบสบายๆ (แต่อันดับล่าสุดประจำปีนี้ ยังคงอยู่ในอันดับที่ 13 เตรียมจ่อแซง407 เที่ยวบินผี ที่ 34.5 ล้านบาท เต็มทน!) แต่คาดว่าอันดับประจำปีนี้ นอกจากการแซง 407 ก็คงไปไหนได้ไม่ไกลแล้ว เพราะรายได้ลดลงมาค่อนข้างเยอะทีเดียว (ก่อนที่คู่แข่งใหม่ๆ จะมาอีกเพียบ) รวมไปถึงหนังในกลุ่มแวมไพร์ด้วยกัน แม้หนังจะสามารถแซงนักล่าแวมไพร์เมื่อปีก่อน อย่าง Priest ที่ทำเงินแป้กผิดฟอร์ม (แต่ตามคาด) ที่ 26.7 ล้านบาท ไปแบบสบายๆ แต่ถ้าจะไปสู้กับแวมไพร์ขายหล่อ อย่าง Twilight ก็คงจะกระไรอยู่ เพราะภาคที่น้อยที่สุด อย่างภาคแรก ก็ทำเงินปาไปถึง 58 ล้านเข้าไปแล้ว (แทบไม่ต้องไปเทียบกับภาคอื่นที่เรียกเงินกันซะมันส์เขี้ยว!!!) ขณะที่เครดิตของคู่หู ผู้กำกับ-นักแสดงคู่บุญนั้น ก็แทบไม่กระดิกแล้วเช่นกัน มีเพียงในด้านหนุ่มเดปป์เท่านั้น ที่หนังสามารถฝ่าปราการสุดท้าย อย่าง The Tourist ขึ้นมาได้สำเร็จเสียที (ที่ 31.1 ล้านบาท ไปอยู่ในอันดับ 6) เพราะด่านต่อไปอย่าง Alice in Wonderland ก็ถือว่า รออยู่แค่ในโพรงกระต่ายไปแล้ว!! (ที่ 56.3 ล้านบาทเลยนี่นา!) ส่วนเครดิตผู้กำกับเบอร์ตั้น และของทั้งคู่ร่วมกันนั้น อันดับก็ยังคงอยู่เช่นเดิมดังสัปดาห์ก่อน (ที่อันดับ 3 และ 2 ตามลำดับ) ดูจากรายได้แล้ว เหมือนจะไม่โสภาตามที่ค่ายคาดหวังกันซักเท่าไหร่ (ทั้งในบ้านเรา และในบ้านเกิด) ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะ ทุนสร้างที่สูงส่งมโหฬารด้วยนี่สิ!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:25:28

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นแชมป์มาสามสมัย ก็ถึงเวลาที่จะต้องสละบัลลังก์แล้วสิ สำหรับก๊วนฮีโร่ The Avengers ลงมาเป็นรองแชมป์ ใน อันดับ 2 แบบจำยอมไปเสีย แน่นอนว่าเจอยักษ์ใหญ่ที่ใหม่กว่า ก็ต้องยอมหลีกทางให้เป็นธรรมดา ด้วยโรงฉายที่ลดลงไปกว่าครึ่ง (โรงสามมิติก็ไม่น้อย) แถมกลุ่มคนดูก็ไม่ต่างกันอีก ทำเอาสัปดาห์นี้ เหล่าฮีโร่หมดแรงสู้ไปถึงสองในสาม! ลงไปอยู่ที่ 4 ล้านบาท ช่วยโลกมาสี่สัปดาห์ ได้ใจคนดูไปถล่มทลายถึง 248.2 ล้านบาท!!! (รายได้รวมจากบล็อกคุณ Alexkh) แม้จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่เหมือนจะยังมีแรงยันไว้ได้มากกว่าที่คิดพอสมควร เพราะรายได้สัปดาห์ที่สี่ของหนัง กลับกระโดดขึ้นไปอยู่ในอันดับ 2 ของปีนี้อีกจนได้ (ตามหลังเพียง ATM เออรัก เออเร่อ ที่ก็ร่วงหนัก แต่ยังเหลือไว้เยอะอยู่ที่ 6 ล้านบาท) ส่วนรายได้ 250 ล้านบาทนั้น คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยซักหนึ่งสัปดาห์ กว่าจะทำได้ (นั่นแปลว่า หนังทำได้ช้ากว่า Transformer 3 ที่ใช้เวลาเพียง 15 วันอยู่ค่อนข้างมาก แต่ถึงอย่างไรก็ยังเร็วกว่า Avatar ที่ต้องใช้เวลาร่วม 7 สัปดาห์กว่าจะมาถึง!) ฟากสถิติตลอดกาล หนังก็แทบไม่เหลืออะไรที่จะไต่ขึ้นไปไหวแล้วจริงๆ ทั้งรายได้สัปดาห์ที่ 4 ที่ยังห่างไกลกับ Transformer 3 อยู่พอสมควร (เรื่องหลังยังเก็บไปอีกถึง 7 ล้านบาท แม้จะไม่ใช่สถิติของปีก่อนก็ตาม) รวมไปถึงรายได้รวม ที่ยังคงอยู่ในอันดับ 4 ต่อไป (ซึ่งก็คงไม่ไปไหนอีกเช่นกัน) แต่ที่หนังกำลังจะคว้ามาอีกตำแหน่งก็คือ กลายเป็นหนัง 250 ล้านเรื่องที่ 4 ที่สามารถผ่านหลักนี้ได้ในบ้านเรา (เรื่องก่อนหน้าก็คือ Transformer 3 อีกเช่นกัน ส่วนเวลาที่หนังใช้ ก็อย่างที่บอกไปข้างบนแล้ว) จากแรงที่หนังเหลืออยู่ในขณะนี้ ก็น่าเสียดายเหมือนกัน ที่หนังน่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีกซักหน่อย แต่ด้วยกองทัพหนังใหม่ที่กำลังจะตามมาอีกมากมาย คาดว่าโรงฉายของหนังก็คงจะหายไปอีกมากด้วยเช่นกัน แฟนๆ หนังคงได้แต่ลุ้นแล้วล่ะว่า หนังจะสามารถยึดแชมป์ไปได้จนจบปี สมใจรึเปล่า??? (ซึ่งโอกาสก็ยังมีมากอยู่ดีล่ะ!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:25:57

ความคิดเห็นที่ 9 ขึ้น อันดับ 1 แบบสบายใจ ไร้คนต่อกร (แหงอยู่แล้วสิ!) สำหรับภาคต่อเหล่าชุดดำ สะกรำต่างดาว Men in Black III หนึ่งในภาคต่อชื่อดังที่หลายๆ คนคงไม่คิดว่าจะได้กลับมาแล้ว เพราะจากลาจอเงินไปอย่างยาวนานร่วมทศวรรษเลยทีเดียว!! (ที่ปิดฉากไปเพราะภาคที่แล้วโดนด่าซะเละ แถมทำเงินน้อยกว่าภาคแรกอีกน่ะ) กลับมาคืนจออีกครั้ง ก็ถือเป็นการควงหนุ่มผิวเข้มสุดฮ็อต วิลล์ สมิธ กลับมาคืนจอในรอบ 4 ปีอีกเช่นกัน! งานนี้ เลยพาคนดูกลับไปลุยยุคอดีตแทน (เพราะป๋า K ลี โจนส์ของเราเริ่มบู๊ไม่ค่อยไหวแล้ว!!) รวมไปถึงเข้าฉายในระบบสามมิติตามสมัยนิยมเสียด้วย แฟนๆ เดนตายของหนังชุดนี้ (รวมไปถึงแฟนเฮียวิลล์) ก็คงกลับมาอุดหนุนกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งแน่นอน ทำให้สัปดาห์แรก หนังเปิดตัวแบบสบายๆ ไปถึง 40 ล้านบาท ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว สำหรับหนังภาคต่อที่ห่างหายจากจอไปอย่างยาวนาน แต่ถ้าพูดตามฟอร์มและหน้าหนัง ก็ถือว่า ไม่ได้รุนแรงมากมายเท่าไหร่นัก (โดยเฉพาะโรงฉายที่หนังกวาดไปในระดับ 200 กว่าโรง ซึ่งปีนี้เพิ่งมีเพียง 3 เรื่องที่ได้โรงในระดับนี้ไป คือ Battleship และ The Avengers นั่นเอง) หากเทียบกับรายได้เปิดตัวของหนังในปีนี้ด้วยกันแล้ว หนังสามารถขึ้นไปได้ถึงอันดับ 4 เลยทีเดียว (แซงหน้า Wrath of the Titans เคยทำไว้ค่อนข้างห่าง ที่ 33.5 ล้านบาท แต่ตามหลังหนังไทยหนึ่งเดียวใน Top 5 อย่าง ATM เออรัก เออเร่อ เคยเปิดตัวไว้ในระดับ 45 ล้านบาทเลย) นั่นก็รวมไปถึง กลายเป็นหนังเรื่องที่ 4 ของปีนี้ ที่สามารถเปิดตัวในระดับ 40 ล้านบาทด้วย (ช่วงเวลานี้ของปีก่อนก็เพิ่งจะมี 4 เรื่องเท่ากัน) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:26:26

ความคิดเห็นที่ 10 มาดูในกลุ่มหนังมนุษย์ต่างดาวบุกโลกกันบ้าง หลายๆ ปีมานี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่ฮ็อตฮิตจริงๆ แถมแต่ละเรื่องก็ฟอร์มยักษ์มากพอที่จะกวาดเงินในบ้านเราเป็นว่าเล่นอีกด้วย อย่างในปีนี้ก็เพิ่งมีต่างดาวยอดฮิตในบ้านเรา (แต่เน่าในบ้านเกิด) อย่าง Battleship เปิดตัวช่วงก่อนซัมเมอร์ฝรั่งด้วยรายได้ถล่มทลายถึง 51 ล้านบาท หรือถ้าจะนับเล่นๆ อีกเรื่องก็คือหนังมหาฮิตที่เน้นความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ (แต่มีธีมต่างดาวบุกเหมือนกัน) อย่าง The Avengers ก็คือเจ้าของสถิติเปิดตัวสูงสุดในบ้านเราตอนนี้ ที่ 78 ล้านบาท หรือที่โหดสุดๆ ไปเลยก็คือตัวพ่อเมื่อปีก่อน อย่าง Transformer 3 ที่ช่วงนี้พูดถึงบ่อยมาก เปิดตัวเป็นแชมป์สูงสุดประจำกลุ่มนี้ (พ่วงสูงสุดตลอดกาลอีกตำแหน่ง!) ด้วยรายได้มโหฬาร 115 ล้านบาทโน่น!!! เปิดตัวมหาศาลกันขนาดนี้ ก็พลอยทำเอาชายชุดดำของพวกเราดูฝ่อลงไปทันที่ แต่ถึงยังไง หนังก็ยังไต่ขึ้นไปติด Top 10 ของกลุ่มนี้ได้อยู่ดีล่ะนะ (อยู่ในอันดับ 6 ตามหลัง War of the Worlds ค่อนข้างห่าง ที่ 50.8 ล้านบาท) ข้ามมาดูเครดิตของบิ๊กวิลล์กันเสียหน่อย ถือว่าเป็นหนึ่งในดาราที่มีหนังเปิดตัวในระดับฮ็อตฮิตมากที่สุดคนหนึ่งของบ้านเราก็ว่าได้ เพราะมาถึงเรื่องล่าสุดนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ 3 ของเขาแล้ว ที่สามารถเปิดตัวในระดับ 40 ล้านบาท (โดยมีเฉียดๆ อีก 2 เรื่อง) รวมไปถึงอันดับในเครดิตรายได้เปิดตัวของเขาก็อยู่ในอันดับ 3 ด้วยเช่นกัน (ตามหลังสุดฮิต I Am Legend ที่ฮิตทั่วโลก รวมถึงในบ้านเรา ที่ 42.7 ล้านบาท และแชมป์ไม่เปลี่ยน อย่าง I, Robot ที่เฉือนชนะไปเพียงเสี้ยวเล็บ ที่ 43 ล้านบาท จะเห็นว่า ทั้งสามเรื่องบนยอดตอนนี้ รายได้แทบจะห่างกันไม่มากจริงๆ) เมื่อกลับมาเทียบกับตระกูลชายชุดดำด้วยกัน หนังจึงกลายเป็นภาคที่เปิดตัวสูงสุดไปโดยปริยาย ซึ่งส่วนหนึ่งได้สามมิติ และค่าตั๋วที่ปีต่างกัน(มาก) มาช่วยไว้ด้วย เนื่องจากภาคแรก(เมื่อ 15 ปีก่อน) เคยเปิดตัวในระดับอันดับต้นๆ ของยุคนั้น ประมาณ 25 ล้านบาทในสามวัน ขณะที่ภาคสอง (ในอีก 5 ปีต่อมา) แม้ว่าจะเปิดตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น ที่ 27 ล้านบาท ทำให้พอมองเห็นว่า แฟนๆ หนังแอ็กชั่นของเฮียวิลล์ ยังคงมีอยู่ไม่น้อยที่พร้อมจะอุดหนุน แต่หนังอาจจะลำบากหน่อย ตรงที่ต้นทุนสูงมหาศาลเกินตัวหนังเอามากๆ (มีข่าวว่าร่วม 300 ล้านดอลล่าร์!!) คาดว่าแค่ค่าตัวดาราชุดเดิมในหนังคงปาเข้าไปไม่น้อยแล้วทีเดียว ที่หนังน่าจะมีลุ้นอยู่บ้างก็คงเป็น การผ่านหลัก 100 ล้านไปอีกเรื่องให้ได้ของเฮียวิลล์นี่แหละ แม้ว่ากระแสหนังจะออกมาเป็นบวกมากกว่าที่คิด (ออกจะแห้งแล้งแอ็กชั่นไปเสียหน่อยนึง!) แต่ด้วยคู่แข่งที่กำลังจะตบเท้ากันเข้ามา คงทำเอาป๋าวิลล์ของเรา ไปต่อไม่เป็นก็เป็นได้!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:27:21

ความคิดเห็นที่ 11 คู่หูชุดดำถล่มโรงไปไม่น้อย (แม้จะท่ามกลางหนังเก่าที่โรยแรง) ช่วยดัน Top 9 สัปดาห์นี้ พุ่งขึ้นไปได้อีกหน่อย ที่ 50.4 ล้านบาท มากกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (36.6 ล้านบาท) ไป 37% แต่แอบน้อยกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (65.8 ล้านบาท) ที่ 24% ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่แอนิเมชั่นภาคต่อ Kung Fu Panda 2 โชว์ลีลาพะบู๊ขึ้นเป็นแชมป์ ด้วยรายได้เปิดตัวในระดับต้นๆ ของหนังการ์ตูนในบ้านเรา ที่ 28.3 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:28:12

ความคิดเห็นที่ 12 สุดสัปดาห์หน้า งานอาจจะเข้าเหล่าชายชุดดำมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะเล็งบัลลังก์จากเฮียวิลล์กันแบบเน้นๆ แล้ว ยังเป็นคู่ฟัดต่างสไตล์ที่เรียกได้ว่า “พอฟัดพอเหวี่ยง” กันไม่น้อยทีเดียว!! สองเรื่องเต็งที่ว่า นำโดยฟากหนังฝรั่งที่ภาษีดีกว่าหน่อย กับการนำนิทานสุดคลาสสิคมาขึ้นจอแบบตีความใหม่อีกครั้ง(นึงแล้ว!!) แต่ครั้งนี้ ออกแนวมืดหม่น, พีเรียดแฟนตาซี และยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างกว่ามาก! รวมไปถึงรวมดาราดังไว้คับคั่ง ทั้งเจ้าหญิงหิมะขาวที่ต้องทิ้งเขี้ยว, นายพรานที่ต้องทิ้งค้อนสายฟ้า และราชินีดีกรีออสการ์ ผู้สวย(ขโมยซีน)ไม่สร่าง ใน Snow White and the Huntsman ตามมาด้วยหนังผีไทยฟอร์มดี ได้ดาราหนุ่มหล่อขั้นเทพ ขวัญใจแม่ยกน้อยใหญ่ หวนคืนจอเงินครั้งแรกในรอบ 4 ปี ห้อมล้อมด้วยนักแสดงสาวหลากหลายมากฝีมือ (ที่คนหนึ่งต้องกลายเป็นผี!!!) จากผู้กำกับหนังผีที่ติดอันดับสยองในบ้านเรา ใน ”I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน” รวมไปถึงอีกหนึ่งหนังไทยแนวรอม-คอม ที่ขอฝ่ากระแสสองยักษ์ตบกัน เป็นตัวเลือกเรียกเสียงฮา ให้กับผู้ที่มีอารมณ์สุนทรีในศิลปะแบบพระเอกของเรื่อง (ซะที่ไหนกันเล่า!!??) ใน ”Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์” และรอบพิเศษของหนังโคตรคัลต์ ที่ถือเป็นการฉายแบบ “จัดเต็ม” ด้วยเรตจัดหนัก “ฉ 20+” เฉพาะระบบสามมิติ เอาให้คนดูเข้ามาดูปลาเขี้ยวคม(จริงอ่ะ?) ทะลุจอกันแบบจุใจ เพียงสองสัปดาห์เท่านั้น กับหนังดีดี อุดมแคลเซียม ”Piranha 3DD” จะเป็นราชินีใจร้าย หรือความรักจนวันตายของผีสาว ที่จะโน้นน้าวเฮียวิลล์ลงจากบัลลังก์ได้??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01048&c=11 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 55 16:39:47 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:29:12

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านกระทู้นี้แล้วสนุกจริงๆ ค่ะ ให้ข้อมูลแน่นดี จากคุณ : miyuna เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 17:49:42

ความคิดเห็นที่ 14 *** เข้ามาอ่านและให้กำลังใจครับ *** จากคุณ : สมาชิกหน้าเหลือง เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 18:10:59

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากจ้ะ... จากคุณ : .....**{~_^}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 18:57:11

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่แปลกใจ กับMural นะครับ พล้อทเรื่องเหมือนการ์ตูนมากมาก แต่หนังเอเชียพอเข้าไปดู มักไม่เป็นตามที่คาด คนเลยไม่กล้าเสี่ยง น่าเจาะตลาดแผ่นง่ายกว่านะ ในุมมองผม จากคุณ : seventoonแห่งโลกมืด เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 19:00:36

ความคิดเห็นที่ 17 แอบโหวต MIB ไป >< เเต่แอบรัก American Pie : Reunion  <3 หนังที่ผมไม่คิดว่าจะทำให้รู้สึกดีเกินกว่าที่คิดไว้ จากคุณ : liescene เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 20:00:08

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณนะคร้าบบ จากคุณ : ปลาตะเพียนโออิชิ เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 23:54:58

ความคิดเห็นที่ 19 MIB ไม่รู้จะถึง 100 ล้านรึเปล่า กระแสดูไม่ค่อยดีเท่าไร แถมสัปดาห์นี้ก็เจองานหนัก ทั้งหนังไทย หนังเทศอีกตะหาก จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 08:33:09

ความคิดเห็นที่ 20 Art Idol เรื่องนี้ เจ๊งชัวร์!!! แบบไม่ต้องคิด (อยากจะบอกว่า โคตะระเบื่อกับการทำงานกับพวกติสส์เลย จนบางทีอยากจะถามว่า มริงจะเยอะไปไหน) ที่จะเบียด MIB 3 อย่างรุนแรง คงไม่พ้น Prometius แน่นอน แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 55 10:30:28 แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 55 10:29:37 จากคุณ : แมวอ้วน (หมูน้อย กะ แมวอ้วน) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 10:29:14

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ ตามอ่านอยู่ตลอดน่ะครับ จากคุณ : Love Anyone เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 10:56:24

ความคิดเห็นที่ 22 ูู^^ อัพเดต ทุกสัปดาห์ ขอบคุณครับ.. จากคุณ : บ่าวเมืองเทิง เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 17:21:28

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณจ้า จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 08:48:08

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณครับ จากคุณ : stinkbutt เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 17:10:53

ความคิดเห็นที่ 25 สามวันสามเรื่อง MIB, Snow white,และ i miss you. ดีทั้งสามเรื่องเลยครับ เเต่เชียร์ i miss you มากหน่อยครับเพราะหนังทำได้น่าติดตามตลอดเรื่อง ตื่นเต้นไม่น่าเบื่อเลยครับ สายป่านเเสดงได้ดีมากครับเเบกเรื่องทั้งเรื่องได้เลย ติ้กเเสดงได้ดีครับเเต่เเสดงตกไปจากที่เคยทำได้ครับไม่ว่ากันเพราะห่างหายไปนาน สำหรับผู้หญิงดูพี่ติ้กก็คุ้มเล้วครับ snow white อะไรที่ประหลาดใจมากทำได้ dark มากครับ คล้ายกับ dark night สนุกดีครับ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆอีกเช่นเคยครับ จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:30:25

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบพระคุณมากขอรับ ^ ^ จากคุณ : xcessshin เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 16:54:44