ฟีดแบ็กหลังจากปล่อยเอ็มวีออกไป 
“ไมค์ ถือว่าตอบโจทย์นะครับ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดังมาก แต่ก็มีคนรู้จักประมาณหนึ่ง ถือว่าเป็นที่ยอมรับในกลุ่มใหม่ๆ บ้าง ฝรั่งก็มี ซึ่งไม่เคยเจอ ส่วนใหญ่เป็นพวกคนที่เขาชอบเต้น แดนเซอร์ เด็กอินเตอร์ พวกฝรั่งจากต่างประเทศ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะพอเลิกจากดูโอ้มาโซโล่ก็เท่ากับว่าเริ่มจากศูนย์ใหม่ ต้องทำให้คนรู้จักใหม่ แต่อาจจะมีบุญเก่าว่าเคยเป็นกอล์ฟ-ไมค์ คนก็ยังรู้จักชื่ออยู่ (ยิ้ม)”
ถ้าตัดเรื่องมาร์เก็ตติ้งออกไป แนวเพลงที่เป็น ไมค์ พิรัชต์ จริงๆ คือแนวไหน
“จริงๆ ไมค์เป็นแร็ปเปอร์ครับผม แต่ไม่เคยมีใครรู้และไมค์ก็ ไม่เคยแร็ปให้ใครฟังเหมือนกัน จะมีเฉพาะบางโชว์เท่านั้น และไมค์จะแร็ป ได้แต่ภาษาอังกฤษ เพราะภาษาไทยลิ้นยังพันกันอยู่ (ยิ้ม) ไม่ใช่ว่าเป็นคนไทยแต่กระแดะไปพูดภาษาอังกฤษนะครับ
แต่ ไมค์เป็นคนที่ฝึกพูดภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก เพราะไมค์ทำงานกับคนต่างชาติค่อนข้างเยอะ ไมค์จำเป็นต้องพูดภาษาของเขาให้ได้ ซึ่งการพูดภาษาอังกฤษบ่อยๆ ไม่ใช่เราไม่รักเมืองไทยหรือไม่รักบ้านเกิดตัวเอง แต่มันคือการฝึกฝนเพื่อไม่ให้ขายหน้าประเทศชาติ เพราะสมมติอีกหน่อยถ้าไมค์ไปต่างประเทศได้และยังพูดภาษาอังกฤษสำเนียงแย่ อยู่หรือใช้คำมั่วๆ เขาก็ จะดูถูกบ้านเราได้ เหมือนเมื่อก่อนเวลาไมค์ไปโรงเรียนแล้วพูดภาษาอังกฤษ เพื่อนไมค์จะชอบถามว่าพูดภาษาอังกฤษทำไม กระแดะเหรอ ไมค์ก็จะตอบไปเลยว่าเปล่า แต่พูดเพราะว่าเราอยู่โรงเรียนอินเตอร์เท่านั้นเอง (ยิ้ม) เวลาเถียงไมค์จะเถียงด้วยเหตุผลเสมอ”
เมื่อก่อน กอล์ฟ-ไมค์ ถือว่าเป็นดูโอ้ที่ดังที่สุด พอมาแยกกันทำแล้วกังวลไหมว่าจะไม่ดังเท่าเมื่อก่อน 
“ไม่ นะครับ เพราะไมค์คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ควรจะแยกออกมา ไม่อย่างนั้นมันก็จะกลายเป็น กอล์ฟ-ไมค์ๆๆ จะไม่มีใครรู้เลยว่าคนไหนกอล์ฟ คนไหนไมค์ คนไหนเป็นยังไง แต่พอแยกมา 1 ปี เหมือน ภาพเริ่มชัดเจนขึ้น คนก็รู้จักมากขึ้น แทนที่จะเรียก กอล์ฟ-ไมค์ ก็เหลือแค่ ไมค์อย่างเดียว”
รู้สึกอย่างไรที่หลายๆ กระแสมองว่าพี่น้องคู่นี้วงแตกเพราะแข่งกันเอง ทะเลาะกัน หรือทำงานด้วยกันไม่ได้
“ไมค์คิดว่ามันเป็นแค่มาร์เก็ตติ้งอย่างหนึ่ง ถ้าเราแยกโดยที่ไม่มีข่าวเลยคนก็ไม่รู้ (ยิ้ม)”
ตัวตนจริงๆ ของ ไมค์ พิรัชต์ เป็นอย่างไร
“เคยมีหลายคนถามคำถามนี้ แต่ไมค์ไม่สามารถบอกได้ เป็นคำพูดก็ไม่ได้ มันต้องสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วคุณก็จะอ๋อ (ยิ้ม)” 
ถ้าอย่างนั้นพอจะบอกได้ไหมว่าไลฟ์สไตล์ของผู้ชายชื่อ ไมค์ พิรัชต์ เป็นยังไง
“ต่าง จากบุคลิกครับ ถ้าไมค์บอกว่าไมค์ชอบไปวัดเพื่อนั่งวิปัสสนาจะมีใครเชื่อไหมครับ เพราะว่าทุกคนใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่มันจับต้องได้เท่านั้น มันทำให้มนุษย์เราเรียกได้ว่า 98-99% มองเฉพาะสิ่งที่เห็นภายนอกจนลืมมองสิ่งภายใน แต่สิ่งที่ไมค์ทำอยู่เสมอคือสวดมนต์ นั่ง-สมาธิ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไมค์ปาร์ตี้ครับ แต่เลือกที่จะปาร์ตี้ เลือกสังคม ไมค์ถึงมีเพื่อนน้อย”
ทุกวันนี้มีเพื่อนกี่คน
“2-3 คนเองครับ ไม่นับคนส่วนใหญ่ที่มักจะชอบเคลมว่าเป็นเพื่อนไมค์ แต่จริงๆ เขาถามไมค์หรือเปล่าว่าไมค์นับเขาเป็นเพื่อนไหม (ยิ้ม) คนพวกนี้จะชอบพูดเองเออเองทั้งนั้น แต่จริงๆ แล้วคนที่สนิทด้วยมีแค่ 2-3 เท่านั้น”
มีคนในวงการบ้างไหม
“หญิง แม้น (ม.ร.ว.แม้นนฤมาศ ยุคล) คือ 1 ในนั้น แต่อีก 2-3 คนนี่เป็นคนนอกวงการหมด ซึ่งคนเหล่านี้เขาไม่พูดลับหลังอยู่แล้ว อย่างที่บอกแหละครับคนเราชอบมองแต่ภายนอก มากเกินไป ไมค์ก็เลยเขียนเรื่องนี้ในเพลงไมค์ด้วยเหมือนกัน ถึงเพลงไมค์จะเป็นเพลงฮิปฮอป เพลงดาร์กๆ ก็จริง แต่เนื้อหามันคือเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ ความจริงของโลกและสัจธรรม แต่ฟังไปแล้วอาจจะไม่มีใครรู้”
ในฐานะนักร้อง วันนี้คาดหวังงานเพลงตัวเองอย่างไร
“ไมค์ รู้สึกว่าค่อนข้างอิ่มตัวประมาณหนึ่งแล้วสำหรับตลาดเพลงในบ้านเรา ไมค์กำลังมองการณ์ไกลว่าไปต่าง-ประเทศน่าจะเวิร์กกว่า ซึ่งตอนนี้ก็มองไว้ว่านำร่องด้วยละครเข้าไปประเทศอื่นด้วย และค่อยตามไปด้วยเพลง เพราะละครอาจจะเข้าถึงง่ายกว่า”
ได้ข่าวกำลังจะมีละครกับเอ็กแซ็กท์ด้วย
“ใช่ ครับ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ดีเทลอะไรเลย รู้แค่ว่ามีละครกับเอ็กแซ็กท์และเรียนแอ็กติ้งกับหม่อมน้อยอยู่ เพราะโดยส่วนตัวแอ็กติ้งไม่ได้เรื่องเลย ไม่รู้วิธีแอ็กติ้งและเป็นคนขี้กลัว เวลาทำอะไรจะกลัวทำ ไม่ได้และชอบกดดันตัวเองมาก ไมค์จะค่อนข้างละเอียดกับทุกดีเทล ถ้าไม่ได้ดีพออย่างที่เราต้องการหรือเท่าสแตนดาร์ดที่คิดไว้จะหงุดหงิด ทำให้เสียสมาธิ ซึ่งการแสดงละครต้องใช้สมาธิค่อนข้างเยอะ”
ที่ผ่านมาเวลาขึ้นเวทีคอนเสิร์ตกดดันไหม
“ทุกๆ เรื่องครับ ไม่ว่าจะเป็นโชว์หรือร้องเพลงก็กลัวหมด ตื่นเต้นทุกครั้งเพราะกลัวพลาด กลัวอย่างเดียวคือความผิดพลาด เพราะเราอาจจะเป็นพวก Perfectionist ก็เลยไม่กล้าที่จะพลาด และไม่ชอบให้คนมานั่งติ”
หลังจากแยกกันทำงานกับพี่กอล์ฟ มีการพูดคุยหรือปรึกษาเรื่องงานเพลงของตัวเองบ้างไหม
“หลัง จากแยกก็ยังเลยครับผม (หัวเราะ) ปกติตอนเป็นดูโอ้จะคุยกันเฉพาะเรื่องงาน ครอบครัวไมค์เป็นครอบครัวทำงาน ทุกคนจะทำงานของตัวเองเลยไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัวกันเท่าไร เรียกว่าไม่คุยกันเลยมากกว่า เพราะทุกคนโตๆ กันแล้ว ดูแลตัวเองได้”
ตอนนี้ก็เท่ากับว่าต่างคนต่างทำ
“ครับ โปรดิวเซอร์ก็แยกกันด้วย เพราะไม่อยากให้งานออกมาเหมือนกัน”
นอกจากอาชีพนักร้อง ไมค์ พิรัชต์ มีความฝันอย่างอื่นไหม
“(นิ่ง คิด) ไม่รู้ฝันสูงไปรึเปล่านะครับ ไมค์ฝันว่าอยากไปถึงฮอลลีวูดในฐานะนักแสดงและหลายๆ อย่าง ไมค์เป็นคนที่คิดว่าอยากจะทำหลายๆ อย่างให้ได้ โชคดีที่ไมค์มีพรสวรรค์ตรงที่เป็นคนเรียนรู้ค่อนข้างเร็ว อย่างเทนนิสไมค์ก็เล่นได้ภายใน 5 นาที ปิงปองก็เรียนรู้ภายในครึ่งชั่วโมง สามารถแข่งกับคนที่เคยเล่นนานๆ ได้ เรื่องตีลังกาก็เหมือนกัน ตีลังกากลับหลังครั้งแรกในชีวิตไมค์ใช้เวลาเพียง 1 นาที เพราะคนที่ทำให้ดูเขาบอกว่าอยู่ที่ใจ ไมค์ก็อ๋อ...อยู่ที่ใจ (ยิ้ม) เลยให้เขาทำให้ดู 2-3 ครั้ง แล้วไมค์ก็ทำตาม มันก็ทำได้ เพราะไมค์คิดว่าคนเราเกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน สัดส่วนทุกอย่างในร่างกายเหมือนกัน มีสมองเหมือนกัน เวลาก็มีเท่ากัน ทำไมเขาทำได้แล้วเราจะทำไม่ได้ ถ้าเราคิดจะเรียนรู้ซะอย่าง”
เป้าหมายต่อจากนี้เป็นอย่างไร
“สร้างอิมเมจโซโล่ของตัวเองให้แข็งแรงก่อน ละครอาจจะช่วยประมาณหนึ่ง คิดว่าน่าจะเริ่มถ่ายปลายเดือนนี้”
อยากบอกอะไรกับแฟนคลับที่ติดตามผลงานมาตั้งแต่ตอนเป็น กอล์ฟ-ไมค์ จนถึงวันนี้
“ต้องออก ตัวก่อนว่าโปรโมตไม่ค่อยเก่งนะครับ ถ้าให้พูดตรงๆ ไมค์จะฝากแค่ว่าอยากให้ซัพพอร์ตคนไทยด้วยกัน รอดูผลงานของไมค์ที่จะออกมาต่อจากนี้ และหลังจากนี้ไปมันจะมีอะไรมากขึ้น ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าสัญญาได้รึเปล่า ใช้คำว่าจะพยายามแล้วกัน ไมค์จะพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าเต็มร้อยไม่ได้จะพยายามให้ได้ 95% (ยิ้ม) เพราะจะมีเรื่องของมาร์เก็ตติ้งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
แล้วคนที่อาจจะยังมองแบบเนกาทีฟ
“ต้อง ขอบคุณเขามากกว่าที่อุตส่าห์สละเวลาในชีวิตของเขาเพื่อมาพูดถึงไมค์ คนเหล่านี้เป็นอีกแรงผลักดันที่ทำให้ไมค์ไม่ท้อ ไม่ถอย พอเห็นข้อความแย่ๆ ในยูทูบรู้สึกว่า เดี๋ยวจะพิสูจน์ให้ดูว่าไมค์ทำได้ เหมือนยิ่งอยากจะทำให้เห็น
จริงๆ ไมค์ไม่โกรธและไม่เกลียด ขอแค่อย่ามาก้าวก่ายครอบครัว คนที่ไมค์แคร์และคนที่ไมค์รัก เพราะถ้าถึงตอนนั้นไมค์ก็มีวิธีที่จะหาเขาจนเจอ แน่นอนทุกคนเห็นไมค์อาจจะมองว่าเป็นคนที่ใจดี แต่จริงๆ ไมค์เป็นคนมี 2 บุคลิก เหมือน Devil กับ Angel แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Angel ประมาณ 99% อีก 1% นั้นไม่ค่อยจะออกมาเท่าไรและไม่ค่อย มีใครเห็น เพราะไมค์เป็นคนใจเย็นและนั่งสมาธิตลอดเวลา”
แสดงว่าการนั่งสมาธินี่ขาดไม่ได้เลย
“จำ เป็นครับ สติเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับไมค์ เรื่องนี้มีทั้งคนไม่รู้ และคนไม่เชื่อ อย่างปีใหม่ทุกคนจะหาสถานที่ไปเคานต์ดาวน์ แต่ไมค์เลือกที่จะไปสวดมนต์ที่วัดและปล่อยโคม พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ (ยิ้ม)”
สิ่งที่ไม่เคยได้ทำและอยากจะทำที่สุด
“ทำ หนังครับ เป็นผู้กำกับเอ็มวีหรือหนังสักเรื่องหนึ่ง ไมค์เป็นคนชอบเปิดยูทูบ ศึกษาเรื่องการทำหนัง มุมกล้อง การจัดแสง การเล่าเรื่อง โปรดักชั่น ไมค์จะศึกษาพวกนี้ด้วยตัวเองหมดเลย”
ถือเป็นความฝันได้ไหม
“ถือ เป็นความฝันได้ครับ ซึ่งอาจจะเป็นจริงเร็วๆ นี้ ก็ต้องรอดูกันไป หรือว่าพอหนังสือออกไปแล้วอาจจะเป็นจริงแล้วก็ได้ ไมค์เป็นคนที่มีอะไรเซอร์ไพรส์ตลอดเวลา เวลาทำแล้วจะไม่บอกใคร”
เรื่องหัวใจช่วงนี้ล่ะ
“เรื่องสาวๆ เอาไว้ก่อนละกัน เพราะตอนนี้ไมค์ถูกตั้งฉายาว่า ไอ้บ้างาน คงไม่มีสาวๆ คนไหนที่ชอบคนบ้างานอย่างไมค์หรอก (ยิ้ม)” 
[M1KE D. ANGELO FAMILY # 32] ไปปล่อยเต่ากับ ไมค์ พิรัชต์..ไม่เคย "ละเลย"{แตกประเด็นจาก A12161411}
AYO!!!!! จากน้องดิน สู่ Mike D. Angelo
THE DARK MIKE
"หลังๆ ผมก็ปล่อยวางบ้าง บางเรื่องที่เราคิดว่ามันได้เท่านี้ เราก็ต้องรู้จักหยุด"
My Way พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล
"ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล" รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติขึ้นแท่นพระเอก เล่นละครเรื่อง "รากบุญ" ประกบ "มาร์กี้-ราศรี บาเลนซิเอก้า" ปัด แสดงละครเรื่อง "ลิขิตฟ้าชะตาดิน" เก่งกว่า "สน-ยุกต์ ส่งไพศาล" เพราะไม่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าใครทั้งนั้น ฝันอยากทำงานเพลงโกฮอลลีวู้ด 
โปรเจ็กต์งานเพลง งานละคร ในอนาคตล่ะ
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา 
น่ารักแบบนี้จะไม่ให้รักได้ไง
รายนามสมาชิกครอบครัว งานซูเปอร์คาร์ แอนด์ ออโต้โชว์ 2012
