2. มนุษย์ผิดตรงไหน ทำไมต้องมาทำลายพวกเรา?
เมื่อนำข้อมูลที่ผมพูดถึงในข้อหนึ่งมาสมทบ ทำให้เชื่อได้ว่า Engineer คือที่มาของมนุษย์ มนุษย์เราวิวัฒนาการมาจากพวกเขา และในอดีตมีการพบปะกันหลายครั้ง ดูจากหลักฐานโบราณคดี และลูกเรือ Prometheus ก็ได้ตรวจสอบ DNA จากหัว Engineer คนหนึ่งเปรียบเทียบกับมนุษย์แล้ว ปรากฎว่า DNA ตรงกันจริง แต่ทำไมพวกเขาถึงจะส่ง “อาวุธ” มายังโลกล่ะ
เราสรุปว่าพวกเขาอยากจะทำลายมนุษย์ได้ ก็เพราะลูกเรือพบว่า Engineer วางแผนจะส่งยานอวกาศรูปทรงคล้ายโดนัทหลายลำบรรทุกของเหลวสีดำที่สามารถทำให้ เหยื่อ ซึ่งก็คือมนุษย์โลกติดเชื้อ และกลายเป็นตัวประหลาด บ้าคลั่ง ฆ่าผู้อื่น เหมือนที่ลูกเรือสองคนโดนเข้าไป
นอกจากนี้ สังเกตว่า Engineer ที่มีชีวิตรอดในยานคนนั้น เมื่อเขาตื่นขึ้นมาหลังจากสภาวะหลับไหลกว่า 2,000 ปี พอเขาเริ่มรู้ตัวว่านี่คือมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่พวกเขาสร้างขึ้นจากดาวเคราะห์ที่พวกเขาวางแผนจะไปทำลาย เขาไม่ลังเล และเริ่มทำร้ายมนุษย์ทันที ราวกับว่าการฆ่าล้างมนุษย์เป็นภารกิจสำคัญมาก
สร้างมนุษย์แล้วทำไมถึงเปลี่ยนใจอยากฆ่าล้างมนุษย์?
ทฤษฎีบนอินเตอร์เน็ตตอนนี้ก็มีตั้งแต่ Engineer เริ่มรู้สึกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เริ่มก้าวร้าว ทำลายกันเอง ผิดจุดประสงค์ของพวกเขา จึงต้องทำลายเสีย
บางทฤษฏีถึงกับพูดถึงเรื่องศาสนา ว่าหลังจากพวกเขาไม่ได้กลับมาโลกมนุษย์สักพัก (เพราะไม่มีหลักฐานโบราณคดีอื่นๆ หลังจากนั้น) มนุษย์ก็หันไปนับถือบูชาศาสนาของตัวเอง ซึ่งพวกเขาต้องการให้มนุษย์นับถือพวกเขาเองมากกว่า ซึ่งก็กลับไปสนับสนุนภาพผนังถ้ำ ฯลฯ อีก
ส่วนตัวผมอยากจะโยงเรื่องนี้เข้ากับชื่อของหนังเอง Prometheus หรือไททันโพรมีธีอุส น่าจะมีความหมายมากกว่าแค่ชื่อของยานอวกาศในหนัง เพราะประเด็นนี้ผู้กำกับได้นำมาเล่นในคลิปไวรัลโปรโมทหนังตั้งแต่แรกแล้ว ที่ ปีเตอร์ เวย์แลนด์ วัยหนุ่ม พูดถึงเชิง ยกย่องโพรมีธีอุสว่าเขาถูกพวกเทพลงโทษ เพราะขโมยไฟซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีมาให้มนุษย์ ตรงนี้แหละที่ผมเชื่อว่ามันเกี่ยวกับเหตุผลของหนัง Engineer เปรียบเหมือนเหล่าเทพเจ้า พวกเขาถือตัวว่าเป็นผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ จึงมีสิทธิ์จะทำอะไรกับพวกเราก็ได้
พวกเขาสร้างเราขึ้นมาแล้ว แต่เขาอยากให้พวกเราเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยทรงปัญญา และการที่มีมนุษย์อยู่บนโลกมันน่าจะมีผลประโยชน์แก่เหล่า Engineer ทางใดทางหนึ่ง ไม่งั้นพวกเขาจะสร้างเราทำไมแต่แรก แต่พอมนุษย์ก้าวหน้ามากเกินไป จึงต้องกำจัดทิ้ง
ส่วนทฤษฎีเกี่ยวกับศาสนานั้นก็น่าสนใจ เพราะถ้าจำตัวเลขในหนังได้ จะพบว่าเหตุการณ์ที่ทำให้แผนการทำลายล้างมนุษย์ของพวก Engineer ล้มเหลวนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ซึ่งก็ถือว่าใกล้เคียงกับปี 2094 ในหนัง ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกับที่ศาสนาหลักๆ อย่างคริสต์ พุธ เริ่มเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Engineer ถือว่ามนุษย์นับถือพระเจ้าผิดองค์แทนที่จะเป็นพวกเขา จึงตัดสินใจกวาดล้าง อย่าลืมว่า หนังดูจะให้ความสำคัญกับฉาก และบทสนทนาต่างๆ ที่เกี่ยวกับปรัชญาทางศาสนา และไม้กางเขนพอสมควร
แน่นอนว่าคำถามข้อนี้เป็นคำถามหลักของหนัง เพราะตัวละครของชอว์เองก็พูดในตอนท้ายว่า เธออยากจะไปค้นหาคำตอบว่า ทำไมพวกเขาถึงเปลี่ยนใจ สร้างเราแล้วจะกำจัดเราทิ้ง ซึ่งเราคงจะได้คำตอบในภาคต่อ
อัพเดต: จากบทสัมภาษณ์ คำถามข้อนี้อาจจะดูแคบไปตั้งแต่แรก และอาจจะไม่ได้สำคัญที่สุด (แต่ก็อาจจะใช่ ในทางอ้อม) เพราะผู้กำกับและผู้เขียนบท ได้แนะนำว่า การดูหนังเรื่องนี้แล้วออกมาจากโรงฯ คำถามที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็น “ไอ้ของเหลวสีดำ ตกลงมันทำอะไรได้บ้าง?” ริดลีย์ สก็อตต์ บอกว่าสัตว์ประหลาดที่จู่โจมลูกเรือสองคนนั้นจริงๆ แล้วเป็นผลมาจากของเหลวสีดำทำปฏิกิริยากับหนอน ซึ่งมีภาพของหนอนอยู่ในหนังด้วยถ้านึกดีๆ ตอนที่เดวิดเหยียบพื้นดินในห้องโถงนั้น
ผู้เขียนบทยังบอกอีกว่า การคิดว่าของเหลวสีดำเป็น “อาวุธ” นั้นแสดงว่าผู้ชมอาจตัดสินจากที่ตัวละครคิด หรือตัดสินจากผลลัพธ์ที่ดูเลวร้าย จริงๆ แล้วมันอาจจะทำอะไรกับมนุษย์ก็ได้ ถ้าส่งมายังโลกสำเร็จ ไม่ว่าจะทำลาย ปฏิวัติ DNA มนุษย์ หรืออื่นๆ ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของหนังภาคต่อ