Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เธอไม่ยอมปล่อยหรือฉันไม่ยอมไป? <<I Miss You>> บทวิจารณ์โดย อภินันท์ บุญเรืองพะเนา ติดต่อทีมงาน


พอดีไปเจอบทวิจารณ์เรื่องหนัง I MISS U ซึ่งอ่านแล้วได้มุมมองดีค่ะ เลยเอามาแบ่งปันนะคะ


โดย :  อภินันท์ บุญเรืองพะเนา

ในความเป็นหนังผี โดยส่วนตัวของผม I Miss You ถือว่าเป็นหนังผีในระดับที่ไม่ได้น่ากลัวมาก จังหวะการออกมาหลอกอยู่ในขั้นเบสิกทั่วไป ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์และเดาได้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหน อย่างเช่น จังหวะที่หมอบียืนมองรถหมอธนาที่กำลังขับออกไปหลังจากมาส่งตัวเองที่บ้าน แล้วผีหมอนกมายืนอยู่ข้างหลัง นั้นถือเป็นมุกโบราณซึ่งเห็นมาแล้วนับไม่ถ้วน แน่นอน พอเราเดาได้ว่าผีจะต้องมา และมันก็มาจริงๆ ความน่ากลัวหรือการที่จะทำให้เราสะดุ้งสะเทือนได้ ก็มลายหายไป จุดนี้ ผมพูดในมุมของตัวเองที่ดูหนังผีมาระดับหนึ่ง แต่สำหรับอีกหลายคน ผมไม่รู้ เพราะคุณดูแล้ว คุณอาจจะบอกว่าน่ากลัวก็เป็นได้

ดังนั้น แทนที่จะสะดุ้งสะเทือนไปกับการหลอกหลอนของผี ผมคิดว่าความหลอนของหนังเรื่องนี้อยู่ที่รายละเอียดอื่นๆ ของหนังมากกว่า ที่เด่นชัดที่สุดคืองานด้านภาพ อย่างวอลล์เปเปอร์ภาพถ่ายหมอนกใบมหึมาเท่าผนังซึ่งหมอธนานำไปติดไว้ในห้อง โถงนั้น สร้างความรู้สึกหลอกหลอนได้อย่างน่าประหลาด และหนังเองก็ใช้สอยภาพนี้ได้คุ้มค่า เหมือนอย่างฉากที่ตัวประกอบอย่างทราย เจริญปุระ เดินเข้าไปในห้อง มุมกล้องที่ถ่ายจากมุมสูงนั้น ให้ความรู้สึกน่าหวาดหวั่นราวกับมีสายตาของใครบางคนจับจ้องเธออยู่ ผมคุยเล่นกับน้องๆ ที่ไปดูด้วยกันว่า ถ้าหนังให้ภาพถ่ายของหมอนกกะพริบตาสักนิด จะสยองกว่านี้ แต่นั่นอาจจะเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่านักก็ได้ เพราะความจริง ลำพังเพียงแค่นั้นก็หลอนพอแล้ว
       
       ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของหมอธนานั้น ก็สร้างความรู้สึกหลอนให้กับเราได้ดียิ่งกว่าการหลอกของผีเสียด้วยซ้ำ เฉพาะอย่างยิ่ง การที่เขามักจะไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งเคยไปด้วยกันกับแฟนสาวสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ การที่เขามักจะสั่งกาแฟสองแก้วเสมอ (ทั้งๆ ที่ไปนั่งดื่มคนเดียว) แก้วหนึ่งวางข้างหน้าตัวเอง และอีกแก้วหนึ่งวางอีกฝั่งของโต๊ะราวกับว่าสั่งไว้ให้ใครอีกคน มันเป็นภาพที่น่าขนลุกไม่ใช่แค่เฉพาะกับหมอบีเท่านั้น หากแต่เราๆ ท่านๆ ก็จะรู้สึกแบบนั้นตามไปด้วย นี่คือความสำเร็จแห่งการสร้างความหลอนโดยไม่จำเป็นต้องมีผีเป็นเครื่องมือ

ความแยบคายของหนังในส่วนนี้ นอกเหนือไปจากทำให้เราสัมผัสได้ในความโรแมนติกของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งมั่นคงใน รักไม่เสื่อมคลาย ยังส่งเสียงบอกแทรกไปด้วยว่า บางครั้ง พฤติกรรมที่สะท้อนความโรแมนติกก็ดูน่ากลัวได้เหมือนกัน ถ้าหากมัน “เยอะเกินไป”
       
       ด้วยเหตุนั้น ในมุมมองส่วนตัว ผมจึงชอบหนังเรื่องนี้ในมุมที่ไม่เกี่ยวกับผี และพูดกันตรงๆ I Miss You นั้น จะถูกจดจำในความเป็นหนังรักมากกว่าการเป็นหนังผี แต่แม้จะเป็นหนังรัก I Miss You ก็ไม่ได้เอ่ยถึงแต่ด้านที่สวยงามของความรัก หากแต่ยังปรับแว่นขยายให้เรามองเห็นด้านร้ายๆ ของมันด้วย ตัวประกอบอย่างทราย เจริญปุระ ที่โผล่มาเพียงแค่สองสามฉาก แต่กลับมีอิทธิพลต่อเนื้อหาของหนังอย่างมหาศาล โดยเฉพาะการปรากฏตัวครั้งที่สองของเธอ ในฉากที่ต้องทุ่มเถียงกับหมอบีนั้น ตีแผ่ความคิดออกมาอย่างเด่นชัดเกี่ยวกับความร้ายของความรักความใคร่ที่ยึด โยงอยู่กับการแย่งชิงเพื่อให้ได้มาครอบครอง

ความรักที่มากเกินจนกลายเป็นความยึดมั่นถือมั่น อันตรายต่อความสุขทางใจเช่นใด ความผูกพันอันล้นเกินก็ไม่ต่างไปจากนั้น เพราะมันจะส่งผลเป็นความทุกข์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ผมชอบถ้อยคำประโยคหนึ่งซึ่งออกจากปากของหมอนกตอนที่หมอธนาสวมแหวนหมั้นให้ (ถ้าจำไม่ผิด เธอพูดว่า “นี่มันไม่ใช่แค่ผูก แต่มันมัดแล้วนะ”) เพราะถ้อยคำประโยคนั้นสามารถสื่อสารสาระของเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง เช่นเดียวกับสัญลักษณ์อย่างหนึ่งซึ่งหนังหยิบมาใช้ คือ “นก” ที่ติดอยู่ในห้องเก็บศพ มันเทียวบินวนชนกระจกหน้าต่างเพื่อหาทางออกอยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แลดูน่าเวทนา

อย่างไรก็ดี ก็อย่างที่หลายคนคงรู้ครับว่า หนังเรื่องนี้มีตอนจบ 3 แบบ และเท่าๆ ที่ผมดูมาแล้วหนึ่งแบบ ผมรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องจ่ายสามรอบ เนื่องจากตอนจบที่ว่านั้น ผมพอจะเดาได้ว่าเป็นฉากไหนตอนใด และถ้าเข้าใจไม่ผิด ผมคิดว่าตอนจบสามแบบคงจะหมายถึงซีนสั้นๆ (ไม่น่าจะถึงหนึ่งนาที) ซึ่งพูดกันอย่างถึงที่สุด ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการที่เราจะซึมซับประเด็นเนื้อหาของหนังได้หรือไม่ได้
       
       เหนืออื่นใด ผมคิดว่า การที่หนังมาเฉลยตอนจบเหมือนติ่งเล็กๆ นั้น เป็นความล้นเกินเสียด้วยซ้ำ เพราะมันเหมือนแค่จะมาเฉลยสรุปว่าสุดท้าย ใครได้ครอบครองใคร ดังนั้น ต่อให้หนังจะมีตอนจบอีกสักสิบแบบ ก็คงไม่จำเป็น เนื่องจากฉากก่อนหน้านั้นที่กล้องพาเราไปดูผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับ เรื่องราวที่เล่ามาตั้งแต่ต้น ถือเป็นการทำพลังด้านเนื้อหาของหนังให้ครบถ้วนสมบูรณ์และเปิดมุมมองโลกทัศน์ ให้กว้างขวางลึกซึ้งเพียงพอแล้ว เกี่ยวกับประเด็นความรัก ความตาย และความผูกพัน

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000069067&#Opinion

 
 

จากคุณ : yzai
เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 55 20:26:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com