Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขุนศึก เสมา รสชาติความเป็นคน ติดต่อทีมงาน

สัปดาห์นี้เดินเรื่องกำลังดี ตัวละครมีพัฒนาการมากกว่าตอนแรกๆเยอะ ด้วยเวลาในเรื่องเดินมาหลายปีแล้ว


ขุนรามเมื่อยเอว บอกเมียว่าไปขุดดิน ถ้าเป็นบ้านอื่นขุนรามคงน่วมแน่


พระครูขุนให้เสมาเรียนเพิ่ม เสริมทักษะยุทธงานนี้ดั่งพยัคฆ์ติดปีก ใช้เวลาว่างมาเสริมจุดแข็งลบจุดด้อย ทำให้ไม่ต้องจมปลักกับความเศร้า

โบราณว่า “ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำลัง”

พระเอกใช้ไม้ศอกได้ดีตอนซ้อม สู้สองคนได้ว่องไว ไม่กลัวคนรุม ฟิตจริงแรงดีดลอยตัวตอนขึ้นบันไดเจดีย์ ไม่ต้องใช้สลิง  
งานนี้สามเกลอสำเร็จวิทยายุทธพุทไธสวรรย์ ฉากซ้อมทำได้ดี ทำให้เกิดพัฒนาการของตัวละคร

" ณ ที่ใดดวงใจไม่ไหวหวั่น              ขอฝ่าฟันอุปสรรคและขวากหนาม
ถึงสิ้นชาติวาสนาชะตาทราม            จะฝากนามให้โลกรู้กูก็ชาย"

(พนมเทียน เพชรพระอุมา ตอน ดงมรณะ)


กรุงหงสาวดี พระเจ้าแปรว่าราชการแทน ปกครองชาว ปยูหรือพยู ณ เมืองแปร ใช้ให้สมิงมะตะเบิด ชาวมอญมาลอบสังหารองค์พระนเรศ

ครูฝึกบุคลิกเหมาะ หน่วยก้านดี แถมแสดงดีด้วย สมิงมะตะเบิดคงพูดได้สามภาษาพม่า มอญ ไทย ปลอมเป็นตะพุ่นสบาย คุยกับเสมารู้เรื่อง
(เสมาไปรบ ที่ละแวก ชาวละแวกพูดภาษาเขมร สั่งการรบ)


ฉากที่โรงช้างตอนกลางคืน สามเกลอรอบกองไฟ จัดแสงดีมาก ฉากหลังอลังการ

" โอ้ราตรี      นี้พี่เหงา    เศร้าดวงจิต
รำพึงคิด       โดดเดี่ยว   เปลี่ยวหนักหนา
พิษรักร้อน    เริงรุม       สุมอุรา
โอ้ขวัญตา    จะรู้          บ้างหรือไร
 สงัดเงียบ    เยียบเย็น   ทุกย่อมหญ้า
พระพายพริ้ว ผ่านมา      พฤกษาไหว
น้ำค้างพรม   ลมหนาว    ร้าวฤทัย  
ปวดทรวงใน เหลือระงับ  หลับไม่ลง  "

(พนมเทียน เพชรพระอุมา)


ฉากแต้มกับขุนราม ปะหน้ากันระลึกความหลัง แสดงได้ดีทั้งสองท่าน “ไกลสุดขอบฟ้า ใกล้แค่ปลายจมูก” ความคับแค้นที่ถูกทิ้งให้ลำบาก จากภัยสงคราม ใครไม่เจอคงไม่รู้
(เหตุการณ์ช่วงที่ออกญาจักรีลอบเปิดประตูเมือง ให้ทัพพระเจ้าบุเรงนองเข้าเกาะเมือง จนขุนราม แต้ม บ้านแตกสาแหรกขาด) แต่พี่น้องตะเภาเดียวกัน บ้าวัตถุทั้งคู่


ฉากเอื้อยแตงขัดขี้ไคล เพื่อลบ “กลิ่นโคลนสาบควาย” หรือ “เหม็นสาบคนจน” ให้สิ้นไปด้วยผู้ดีจะผิดกลิ่น
ทั้งที่ทุกคนต่างอาบน้ำจากแม่น้ำเหมือนกัน แต่สิ่งชำระล้างต่างกัน


ฉากเสมา แสดงมุทิตาจิต(ยินดีเมื่อผู้อื่นเป็นสุข)ตรงข้ามกับริษยา ในงานหมั้นเรไรกับขัน แสดงความเป็นคนมีคุณธรรม ใจกว้าง
และขออโหสิกรรมต่อสองคน  เพราะงานนี้เสมาดูถ้าจะเลื่อนชั้นกลับมาดังยาก  

บัวเผื่อนกับพุด รู้ทางกันดีคนหนึงแกล้งบังเอิญ คนหนึงแกล้งลืม


ฉาก ขันกับพุด ไปขี่พลายแสนพลพ่าย แสดงระบบวรรณะของสมัยนั้น ที่ตะพุ่นหญ้าช้าง เป็นดั่งทาส ขันกับพุดหาข้ออ้างกุดหัวเสมาอยู่
เสมาต้องอดกลั้น ตอนที่เสมาต้องหมอบเป็นบันไดให้ขัน ขึ้นช้างถ่ายแบบใช้มุมกล้องดีแล้ว ไม่ต้องให้เห็นช้าง

ที่จีนขุนนางผู้น้อย ขันที ต้องหมอบแบบนี้เวลาขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์ขึ้นม้า หรือเป็นม้านั่งเวลาไม่มีเก้าอี้

ช้างแสนรู้จริงๆ ตัวนี้อ้อนน่าดู พระเอกสั่งช้างใช้หมอบ ยืน ซ้อมมาดี

หมายเหตุ พลายแสนพลพ่าย(พน-พ่าย หรือ พน-ละ พ่าย อ่านตามความนิยม) แปลว่า ช้างตัวผู้ที่ทหารมากหลาย หรือกำลังที่มากล้น ต้องหนีไป จากไป แพ้ไป(พ่าย)

ดาบแสนศึกพ่าย แปลความเช่นเดียวกัน
คนละช้างกับเจ้าพระยาปราบหงสา(ก้านกล้วย)


ฉากซ้อนแผน โดยบัวเผื่อน เจ้ากรมข่าวลือ เด็ดจริงๆ งานนี้ “เพื่อนเราเผาเรือน” มิใช่คนไกล รู้แจ้งกันเสียที “ ดาบนี้คืนสนอง ” แก่ผู้ให้เสีย

กระดาษที่ดวงแขอ่าน หาได้ดีเป็นกระดาษเยื้อหนาขอบกระดาษ ตัดไม่เรียบมาก แบบกระดาษทำมือ
มุมกล้องเล่าเรื่องเข้าใจ ไม่ต้องเห็นข้อความที่เขียนให้เหนื่อยแรงค้นคว้าอีก  


ฉากเรไรถกเครียดในเรือนขุนราม มีสายฝนโปรยปรายสวยงาม ราวกับพายุเข้า ถ่ายสวยมาก ต้นไม้โยกไหวด้วยลมแรง บันทึกเสียงดี
บรรยากาศเหมาะสัมพันธ์กับบทสนทนาที่ต้องแตกหัก เพราะความจริงปรากฏว่าเล่นกันเป็นขบวนการ
เรไรเริ่มเปลี่ยนท่าทีจากเหตุการณ์นี้ เพราะอยู่ในสภาพเสียเปรียบ


ฉากสมเด็จพระนเรศ แลพระเอกา ประทับ ณ พลับพลา ทำได้ดี มีอ่านรายงาน จากสมุดไทย
ซึ่งต้องอ่านทุกวันและมีรายงานจากกรมกองต่างๆ ที่ต้องอนุมัติ กลั่นกรองจากสายงานต่างๆ  
เป็นงานประจำของกษัตริย์อยุธยา โดยมีอาลักษณ์ บันทึกทุกวันที่ว่าราชการ ไว้ในสมุดไทย


ฉากที่เสมาไหว้ขอให้ขัน ละหวายเลิกเฆี่ยนตี พระเอกแสดงได้ดี รักพวกพ้อง ไปที่ไหนก็เป็นผู้นำ
ประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปีที่รับราชการ สอนให้เสมารู้จักแก้ปัญหาด้วยปัญญา ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า และไม่ลืมตัว


ฉากลอบสังหารพระนเรศ ถ่ายดีใช้ดอลลี่ ภาพมุมกว้าง พระเอกไวมาก โผมารับขอช้างทัน คนอื่นเพิ่งหันหน้ามอง

ถ่ายความชุลมุนวุ่ยวายได้ดี คิวดีราวกับดูภาพข่าว สมิงมะตะเบิดมีเวลาฉุดนางเอกแถมพาขึ้นม้าขี่เคียงกัน(แทนที่จะจับเอาตัวพาด)ได้ยังไงอย่าคิดมาก
เดี๋ยวพระเอกไม่ไล่ตาม(ถ้าเป็นดวงแข  คงกินข้าวอุทิศให้ไปที่ชอบๆ) ท่าวิ่งขึ้นขี่ม้าเท่ซะไม่มี พระเอกซ้อมมาดี เวลาตอนนั้นเย็นๆ

พอพระเอกขี่ม้าไล่ตาม แดดเปรี้ยงสงสัยขี่ตามข้ามวัน แถมปล่อยมีดบินขณะอยู่บนหลังม้า ยิ่งกว่าลี้คิมฮวง ทั้งที่ไกลขนาดนั้น

มีดบินเสมาไม่พลาดเป้า หรือเสมาเฟยเตา(小李飞刀 เซี่ยวหลี่เฟยเตา หรือเซี่ยวลี้ปวยตอ-มีดบินลี้น้อย มีคู่แข่งเสียแล้ว)
ปักที่คอสมิงมะตะเบิดแต่ไม่เป็นไร สงสัยมีของดี

ฉากดวลกันของสองนักรบเขียนบทดี ใจถึงทั้งคู่ ถ่ายดีมาก ใช้ภาพมุมกว้างวางกล้องบนดอลลี่ ถ่ายแบบภาพยนตร์มีภาพหลายมุม แสงสวย

ท่ามวยทั้งสองคนต่างกันคนละทางมวย

พระเอกหันหลังวิ่งไต่ต้นไม้ หมุนตัวเตะหัวสมิงมะตะเบิดกลางอากาศได้สุดเท่ เปลี่ยนจากรับเป็นรุกด้วยท่า “นารายณ์ข้ามสมุทร”

อาศัยต้นไม้เป็นฐานส่งตัวให้สูง มีแรงส่งหมุนตัวเตะกลางอากาศ  แต่ดันรับเตะได้ทันแต่ล้มไม่เป็นท่า

งานนี้โนสลิง โนแสตนอิน ทั้งสองคน คิวบู๊ดูง่าย ไม่รุนแรงเหมาะกับโทรทัศน์ พระเอกเจ็บแผลเพราะโดนซ้ำ
แต่สมิงมะตะเบิดไม่เจ็บแผลเลยโม้จริงๆ นางเอกมาช่วยยังแค่ให้เสียจังหวะ พระเอกปล่อยหมัดชุดส่งท้ายด้วยลูกถีบจนล้มกลิ้ง
ช้างเพื่อนแก้วส่งเสียงมาแต่ไกลสมิงมะตะเบิดเผ่นแนบ เสียงเอฟเฟ็กดีมากกลมกลืนกับการต่อสู้


ฉากเข้าพระเข้านางมีช้างมาเสริมให้ดูน่ารัก แต่ช้างอ้อนจริงๆจะกินตลอด โบราณว่า “อ้อยเข้าปากช้าง” ทวงคืนยาก
นางเอกยิ้มสู้ ขี่ช้างชมป่า ดีที่พระเอกประคองช่วยไม่งั้นมีเสียว มีพาช้างไปอาบน้ำด้วย จากนั้นค้างแรมกลางป่า คงฝากท้องกับปลาย่าง


ฉากเข้าพระเข้านางแสดงได้ดี เพราะไม่เคยทั้งคู่ นางเอกแข็งในจังหวะแรกเหมาะแล้ว มีพอประมาณ  
เรไรยังดีได้คิดว่ามีคู่หมั้นแล้ว เสมาก็รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ขืนใจหญิงถ้าไม่ยอมดีกว่าขุนแผนเยอะ ว่าแต่คืนนั้นนอนกันยังไง บนพื้นหรือบนต้นไม้

เสมาหลังบาดเจ็บคงไม่มีแรงทำกระไร เมื่อกลับค่ายไม่มีใครสงสัย ขนาดขันเตรียมชิ่งเพราะคิดว่าเรไรมีมลทินแล้ว ยังไม่สงสัยแถมพระเอกขี่ช้างพานางเอกกลับแบบนั่งห่างๆ

ม้าที่เตลิดไปมีเจ้าพนักงานจูงคืนสองตัว ทำได้ดีไม่มีหล่น


ฉากดวงแข ต่อว่าเสมา ณ โรงช้าง แสดงให้เห็นว่าเสมาเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ ไม่ทำร้ายสตรีใด แม้ต้องตกต่ำด้วยอุบายของดวงแขก็ตาม
ถึงโมโหแต่โทษตนเองที่เบาปัญญา แถมแยกแยะได้ว่าใครควรที่จะมอบความรักให้ จึงลังเลเมื่อรับแหวนจากศรีเมือง
(ชายชาตรี ย่อมหวั่นไหว ต่อสาวงามที่เพียบพร้อมแลมีใจภักดิ์ แถมเอ๊าะกว่าด้วย แต่สัจจะที่ให้กับเรไร ย่อมไม่แปรผัน พูดแล้วไม่คืนคำ)


เรไรเริ่มแสดงความเจ้าปัญญาโดยใช้อุบายให้เอื้อแตงรับคำท้า หลังจากที่อยู่นิ่งๆเสียนาน ต่างจากดวงแขเริ่มแสดงความเจ้าปัญหา

อย่างว่าคนรอบข้างที่นึกว่าหวังดี กลับกลายเป็นให้โทษ พึ่งตนเองดีกว่า แถมกดดันให้ดวงแข ไหว้ขอขมาได้ ไม่ดุก็ต้องดุ สถานการณ์บังคับ

งานนี้สี่สาวไม่เก็บงำ ความรู้สึกแล้วเปิดใจเต็มที่  

ดวงแข เดินสไบปลิว เลิกสร้างภาพ ซ่อนลาย เพราะคนอื่นรู้ทันหมด
เอื้อยแตง ใช้สไบเป็นผ้าเช็ดมือก่อนเปิป  ไม่ลืมตัวเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น จริงใจไม่ปิดบัง
เรไร กำจัดจุดอ่อน ตอนนี้แยกมิตรศัตรูได้แล้ว รู้ว่าจะวางตัวอย่างไร
ศรีเมือง เป็นน้องก็ยอมขอให้เสมายังห่วงใย ไม่สร้างศัตรู ไม่ริษยาใคร

สี่สาวนี้เหมือนกันที่ รักเสมาอย่างที่เป็น พึงใจทั้งรูปกายแลความประพฤติ มิยึดติดเรื่องฐานะ ยศศักดิ์ เชื่อมั่นในความสามารถของเสมา ว่าต้องเอาดีได้ซักวัน

ถ้าไม่มารักชายคนเดียวกัน คงไม่หมางใจกันเพียงนี้ เพราะเลือกผู้ชายเป็น ดูคนออกว่าคนไหนเป็นคนดี ฝากผีฝากไข้ได้ แล้วจึงทอดสะพานให้ คิดก่อนทำวางแผนซับซ้อน

ลำพังชายรูปงาม คารมดี แต่ไร้คุณภาพ คุณธรรม หลอกแม่หญิงทั้งสี่มิได้  ดีไม่ดีจะโดนสั่งสอน เจ็บตัวเปล่าได้ง่ายๆ

"รักแท้นั้นยากหา สุดจะคว้ามาเชยชม
มิตรแท้ที่นิยม ยิ่งยากหากว่ารักแท้"

(พนมเทียน เพชรพระอุมา ตอน จอมพราน)


ฉากที่เสมา โดนขันเฆี่ยนเป็นร้อยที  ถ่ายได้ดีตะพุ่นคนอื่นกับพระเอก ดูต่างกันเหลือเกิน งานนี้พระเอกหมดสภาพนอนซมเพราะแผลอักเสบ

เรไรก็มียาไม่มาก ได้ดวงแข ลูกนายเงินกู้ จัดยาดีๆมาให้ ด้วยความห่วงใย แค่วันเดียวฟื้น
เสมารู้คุณคนจึงไปขอบน้ำใจด้วยคนเอง แต่คนละเรื่องที่จะรัก

แต่เสมาน่าจะนอนรองใบตองด้วย ช่วยให้แผลหายเร็ว แผลไม่ติดผ้า มีใช้แต่โบราณ  เปลี่ยนได้ง่ายและใบที่ใช้แล้วนำไปเผาเลย ในภาพยนตร์สุริโยไทก็มี ปัจจุบันมีงานวิจัยรับรองแล้ว


ฉากที่สิน สู้เพื่อรักษาห่อยา ถ่ายได้ดีโดยเฉพาะช่วงแรกที่ยังไม่คว้าไม้พาย ดูเก่งกว่าตอนแรกเยอะ
ฉากคัดเลือกทหารวังหน้า ถ่ายดี คิวดียังดูทวนเป็นแบบไทยอยู่ พระเอกซ้อมมาดี งานนี้ใช้กำราบด้วยอาวุธที่ศัตรูถนัด

กะลามะพร้าว มีใช้จริงเพื่อบอกเวลา หน่วงช้าเร็วด้วยขนาดรูที่เจาะ มีใช้กับชนไก่ กัดปลา


ฉากเรไร โยกเรือจนดวงแขตกน้ำ ได้เอาคืนบ้าง สมเป็นบุตรีขุนราม เชื้อไม่ทิ้งแถว
สมเป็นลูกชายชาติทหาร ฆ่าได้หยามไม่ได้ นางเอกแสดงดี ที่เรียบร้อยเพราะการอบรม และเข้าใจสถานทางสังคมที่ตนเองอยู่
ฉากแน่นมีผู้คนประกอบฉากตลอด ถ่ายได้ดีมีเปลี่ยนระนาบความชัดรับกับผู้พูด


เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามได้สัปดาห์หน้า


ปล.cg มีในสองตอนนี้หลายฉากมาก เสริมให้สมบูรณ์ ผู้จัดและทีมงานประณีตในรายละเอียด เช่น

ฉากพายเรือภาพมุมสูง เห็นแนวคลองโค้งจะมีปราสาท เจดีย์ อยู่ระยะไกล มีแทบทุกครั้งที่มีฉากแบบนี้

ท่าน้ำติดพระราชวัง ครึ่งบนกำแพงวัง มีปราสาท เจดีย์ทองสองข้าง ทำได้ดีเนียน ไม่โดด

การตัดต่อดีมาก กระชับ โดยเฉพาะฉากการรบเรียงเรื่องได้ดี ไม่สับสน พัฒนาการดี

เสียงประกอบ เก็บดาบ ชักดาบ ดาบคราง มีไม่ขาด เพิ่มอรรถรสในการชม

แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 55 10:18:12

แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 55 16:57:02

แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 55 13:04:20

จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย
เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 12:49:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com