ความคิดเห็นที่ 1 ผมชอบนะ ดิบดี จากคุณ : อั้ม ติ่งเหลือม เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:20:10

ความคิดเห็นที่ 2 ผมชอบอ่ะ จากคุณ : pichet152 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:26:48

ความคิดเห็นที่ 3 เหมือกันเลย รู้สึกเฉยๆกับเรื่อง the hurt locker มาก ปีนั้นเราเชียร์เรื่องนี้ จากคุณ : waanjorjae เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:28:08

ความคิดเห็นที่ 4 ยกมือว่าเรารู้สึกเหมือนเจ้าของ กท ทุกประการค่ะ จากคุณ : panda5 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:32:53

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ชอบเหมือนกัน หนังดีแต่ไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยม รู้สึกจะเป็นหนังยอดเยี่ยมออสการ์ที่รายได้น้อยที่สุดด้วยนะ จากคุณ : แฟนสวย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:32:56

ความคิดเห็นที่ 6 เราก็ชอบนะค่ะ จากคุณ : SSANTI BOY เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:33:29

ความคิดเห็นที่ 7 หลับ จากคุณ : CD-Ghost เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:36:49

ความคิดเห็นที่ 8 ผมชอบแฮะ เวลากู้ระเบิดในหนังเรื่องนี้ รู้สึกว่ามันสามารถระเบิดได้ทุกเมื่อจริงๆ จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:37:41

ความคิดเห็นที่ 9 ผมชอบครับ คนละเรื่องกับ จขกท เลย จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:38:24

ความคิดเห็นที่ 10 รอบแรกที่ดูลุ้นอยู่ว่าเมื่อไหร่จะรบกันสักที  รอบสอง เออ หนังดีนี่หว่าถึงจะไม่มันเท่าที่หวังไว้ จากคุณ : เสือดำขโมยใจ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:39:26

ความคิดเห็นที่ 11 เราชอบนะ^^ จากคุณ : jajangSD เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:39:46

ความคิดเห็นที่ 12 ดูแบบมึน ๆ แล้วก็จบแบบ งงๆ นะคะเรื่องนี้ จากคุณ : pingpang เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:45:42

ความคิดเห็นที่ 13 บางครั้ง การมอบรางวัลออสการ์ให้หนังเรื่องไหน มักมี"นัยแฝง"ของชาวฮอลลีวู้ดอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่ความยอดเยี่ยมในฐานะภาพยนตร์อย่างเดียว ในปีที่ The Hurt Locker ได้เข้าชิง เป็นการเข้าชิงที่ถูกเวลาครับ ผมคิดว่าฮอลลีวู้ดเลือกหนังเรื่องนี้ เพื่อส่ง"ข้อความ"บางอย่างให้ถึงรัฐบาลสหรัฐในตอนนั้น มันเป็นหนังที่มีเนื้อหามาถูกเวลา จากคุณ : JEDIYUTH เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:46:35

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆ ว่าไปก็ไม่ค่อยมีอะไรหรอกครับ แต่ หนังมันสื่อถึงชีวิต ของคนในประเทศ สถาการ์ มากกว่า ต้องการสื่อสาร แบบนั้นมากกว่านะครับ จากคุณ : แบงค์ชิกิ (Banks_Shiki) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:49:34

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับมุมมองของคุณ JEDIYUTH นะคะ และกรณีของ The Hurt Locker คงไม่ใช่ครั้งแรก และครั้งสุดท้าย แต่ที่นอกเหนือจากนั้นคือ รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ 'อ่อนด้อย' หรือธรรมดามากซะจนถึงขนาดที่ว่า เหตุผลเดียวที่ทำให้มันได้รางวัลใหญ่ไปครองจะแค่เพราะมันมาถูกที่ถูกเวลาเท่านั้น ส่วนตัวยอมรับว่าไม่ได้ถึงกับชื่นชอบหนังเรื่องนี้สุดจิตสุดใจ แต่ก็ชอบในระดับหนึ่ง และเห็นด้วยกับการที่หนังได้รางวัล ที่สำคัญคือ รู้สึกว่าหนังทำหน้าที่ได้ดีในการถ่ายทอดภาวะจิตใจของตัวละครนำ แม้ว่าโดยฟอร์มของหนัง ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างมาเพื่อหวังรางวัลใหญ่ในระดับนี้เลยด้วยซ้ำ (ออกจะฟอร์มเล็ก - อินดี้นิดๆ ด้วยซ้ำ) ดังนั้น จะเป็นหนังเรื่องนี้หรือ Up in the Air ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นหนังที่ดีในระดับเดียวกัน เรื่องไหนจะได้รางวัลดิฉันไม่ได้รู้สึกแปลกใจ หรือข้องใจแต่อย่างใด (ซึ่งกรณีถ้าย้อนถึงเหตุผลของคุณเจไดยุทธ แน่นอนว่าโดยกระแสสังคมมะกัน ณ เวลานั้น The Hurt Locker ย่อม 'เข้าทาง' มากกว่า) แต่จะรู้สึกข้องใจเล็กน้อย - ปานกลาง หาก The Blind Side คว้ารางวัลใหญ่ไปครอง เพราะส่วนตัวคิดว่าหนังค่อนข้างจะธรรมดาไปนิด ยกเว้นการแสดงของ แซนดรา บูลล็อค ซึ่งยอมรับว่าโดดเด่นที่สุดในหนัง แต่้้ถ้าให้ดิฉันนึกถึงหนังที่ทำให้ตัวเองต้องย้อนถามตัวเองว่า "นี่หรือคือหนัง Oscar?" ก็คงจะนึกถึง The King's Speech และ The Artist เพราะบอกตรงๆ ว่าส่วนตัว เชียร์ The Social Network และ The Descendants มากกว่า จากคุณ : BBJane เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:03:09

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าเจ๋งดีนะ แล้วมันก็ถูกเวลาอย่างที่คุณ JEDIYUTH บอก จากคุณ : Home_Nature เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:10:29

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่งได้ดู The Hurt Locker ปีที่แล้ว นี่แหละ คือหนัง Oscar!!!555555++ จากคุณ : ดากานดากะไข่ย้อย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:13:38

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่รู้สิ แต่ดูแล้วมันลุ้นกับการกู้ระเบิด จะรอดไม่รอด  ถึงมันจะไม่ใช่หนังที่เอาดาราตัวพ่อตัวแม่มาเล่น ไม่ใช่หนังทุนมหาศาล แต่มันใช่!!!! สำหรับเรา ชอบๆๆๆๆ จากคุณ : PJ_jp เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:20:46

ความคิดเห็นที่ 19 หลับตอนกลางเรื่องงะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ความจำสั้นสันหลังยาว) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:22:20

ความคิดเห็นที่ 20 งานศิลปะ มักมีทั้งคนชอบ และ คนไม่ชอบ หลายๆครั้งขึ้นอยู่กับ style ที่รับรู้ได้ของแต่ละคน (เหมือนงานของแวนโกะ) การแยกองค์ประกอบ จะแสดงให้เห็นว่า The Hurt Locker ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด (บท, กำกับ, การแสดง, ตัดต่อ, ฯลฯ) การที่จะได้หนังยอดเยี่ยม ยังต้องดูว่า คณะผู้ตัดสินในปีนั้นๆมีใครบ้าง จุดเด่นของ The Hurt Locker คงเป็นเรื่องการสร้างแรงกดดันต่อผู้ชม (นอกจากแก่นของเรื่องที่แข็งแรง มีทั้ง motive มีทั้ง theme ครบ) ส่วน ชอบ ไม่ชอบ เป็นคนล่ะเรื่องกันครับ จากคุณ : ยังอยากเป็นคนไทยอยู่ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:27:49

ความคิดเห็นที่ 21 เราชอบคะ ปีนั้นมีแต่คนเชียร์อวาตาร์ แต่เราเชียร์เรื่องนี้ ชอบการถ่ายทำแบบสมจริง ชอบฉากที่พระเอกไปกู้ระเบิดรถเก๋งแต่กลับเจอชุดระเบิดอีกเป็นสิบลูก และฉากสไนเปอร์ซุ่มยิงโดยมีพระเอกเป็นซีกเกอร์ เราว่าถ่ายทำได้ดีมาก ผกก.เก่งในการถ่ายทอดบรรยากาศของความกดดัน แสดงให้เห็นว่าคนจะเป็นทหารนอกจากเก่งแล้วจิตใจก็ต้องเข้มแข็งด้วย จากคุณ : บ่ซ้ำแล้วเน้อ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:31:51

ความคิดเห็นที่ 22 ดูแล้วง่วงนอน จากคุณ : ป๊อบตี้ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:32:38

ความคิดเห็นที่ 23 หือ มีคนเชียร์ Avatar ให้ได้รางวัลนี้ด้วยเหรอ... ว่าไป ผมกลับมองว่า Up in the Air นี่ ยังไม่ใช่ครับ ไม่คิดว่าจะเข้ารอบสุดท้ายด้วย.... The Blind Side ผมก็วางไว้ตรงระดับธรรมดาเหมือนกัน King Speech นี่ ผมก็ว่าเบาไป..... Hurt Locker ดูไม่สนุกน่ะครับ.... ไม่รู้ว่าดูรอบสอง สาม จะเป็นไงมั่ง จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:52:44

ความคิดเห็นที่ 24 จนบัดนี้ผมก็ยังดูไม่จบครับ หลายรอบแล้ว ทำใจดูต่อไม่ได้จริงๆ หนังที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิตคือ the thin red line และคาดว่าเรื่องนี้จะเป็น เรื่องที่สอง ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:54:24

ความคิดเห็นที่ 25 ผมชอบนะ Reality ดี อย่างฉากตอนถูกสุ่มยิง ที่พวก Blackwater โดนสอยก่อนเพื่อน(ค่อนข้างไม่มีระเบียบ พวกทหารรับจ้างเนี่ย ชอบโชว์ประสบการณ์) ส่วนพวกที่เหลือวัดใจกัน ใครดุ๊กดิ๊กก่อนกันก็ม่องเท่ง....ตอนแรกๆก็อึดอัดนะฉากนี้ แต่มานั่งคิด เอ่อ...ของจริงก็แบบนี้แหละ ตรูยอมทนอึดอัด ดีกว่าโดนไข้โป้ง แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 55 21:29:29 จากคุณ : Free Bees เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 14:57:09

ความคิดเห็นที่ 26 ปีนั้นผมเชียร์ Up in the Air ไม่ก็ Inglourious Basterds แต่ The Hurt Locker ได้ก็ไม่ถึงกับยี้...อะไร เพราะเอาจริงหนังก็มีดีอยู่เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 55 15:49:57 จากคุณ : Amadeuz Wolfgang เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 15:49:23

ความคิดเห็นที่ 27 เหมือน จขกท เลยค่ะ   ปล. ดูไม่จบเรื่องด้วยวางไว้หน้าทีวี มาหลายเดือนแระ ไม่ไหวจริงๆ >< จากคุณ : ICESTYLE เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 16:03:19

ความคิดเห็นที่ 28 มันเป็นหนังสงคราม ที่เจ๋งที่สุดเรื่องนึง ออสการ์ ควรหรือ ปล่าวแล้วแต่มุมมอง ชอบมากอะระทึก ลุ้นสุด ซื้อ blu ray เก็บไว้ทันที Thin red line ภาพสวยมากนะ ได้บรรยากาศ สงคราม โดดเดี๋ยว หดหู่ดี ชอบบ จากคุณ : เยลลี่มะขาม เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 16:12:50

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบสุึดๆ เป็นหนังที่เดาไม่ถูกว่าระเบิดจะระเบิดหรือไ่ม่  ไม่ใช่หนังตลาดทั่วไปที่ฉากพระเอกกู้ระเบิดยังไง คนก็เดาได้ว่าไม่ระเบิดแน่ๆ จากคุณ : เฉลียวศักดิ์ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 16:13:50

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นหนังออสการ์ที่แปลกกว่าหนังออสการ์เรื่องอื่นๆพอสมควร แต่ไม่ใช่หนังไม่ดีนะ ทั้งบท การแสดง กำกับ ก็สุดยอด แต่หนังแนวนี้ปกติไม่ค่อยได้ออสการ์เท่่าไหร่ จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 16:27:54

ความคิดเห็นที่ 31 สนุกดี ไม่นึกว่าเรื่องจะได้รางวัล ออสก้า จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 16:33:44

ความคิดเห็นที่ 32 จริง ๆ แล้วออสการ์นี่ตามกระแสที่สุดเลยนะ จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 16:45:57

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้า กท นี้ไม่พูดถึงนี่ลืมหนังเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ นะครับ แล้วยิ่งบอกว่าเป็นหนังที่ได้ออสก้า ยิ่งลืมไปใหญ่ว่าได้รางวัลนี้ สำหรับผม เรื่องนี้ เฉยๆ ครับ จากคุณ : เอ..ชีวิตมันขาดไรไปน๊า เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 16:48:25

ความคิดเห็นที่ 34 เราชอบนะเรื่องนี้ ก่อนดูนี่ง่วงมากจะหลับมิหลับแหล่ เดาว่าตัวเองคงดูไม่ไหว แต่พอดูไป ตาค้างซะงั้น แถมดูจบแล้วยังอึ้งจนนอนไม่หลับอีกแน่ะ :) จากคุณ : ... (Ta_Chuy) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 17:16:15

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องเทียบความทรงพลังแบบฉากต่อฉาก เรื่องไหนเป๊ะสุด เรื่องนั้นแหละ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Avatar ถือว่าเยี่ยมมากแล้วนะ (กรุณาอย่าดราม่า)  The Hurt LOCKER นี่แหละ เฉือนไปจริงๆ เจมส์ คาเมรอนก็ออกมายอมรับเลย ว่าเมียเก่าแกเจ๋ง (ปกติลุงก็เป็นคนถ่อมตัวอยู่แล้วอะนะ) แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 55 17:57:51 จากคุณ : OBERON เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 17:49:47

ความคิดเห็นที่ 36 the blind side กรั่กๆๆๆๆๆ จากคุณ : yatiko เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 18:28:34

ความคิดเห็นที่ 37 สนุก กดดัน ได้อารมณ์ สมควรแก่รางวัล the blind side ก็ดีนะครับ แต่ยังไม่เข้มข้นพอ inglorious ผมชอบมาก เชียร์ด้วย ชอบเควนตินอยู่แล้ว up in the air ก็สนุก เศร้า เหงา จากคุณ : StreamRider เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 18:41:46

ความคิดเห็นที่ 38 The Hurt LOCKER ก็ชอบนะ มันกึ่มๆบอกไม่ถูก ก้ำกึ่งระหว่างความชอบกับความอึดอัด แต่ชอบ District 9 กับ Inglourious Basterds มากกว่า Blind Side ก็ซึ้งนะ แต่เฉยๆ Up in the Air ก็เฉยๆ อาจจะเพราะดูแบบไม่มีซับ เก็บเนื้อหาได้ไม่หมด แถมโดนเพื่อนสปอยล์ฉากเด็ดบนเฟสบุ๊คไปก่อน (ประชดมันไปว่าทำไมไม่เล่าทั้งเรื่องเลยล่ะ มันยังไม่รู้ตัว ตอบมาว่าคัดมาโพสต์แต่ฉากประทับใจ กรรม) Avatar ชอบ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขนาดได้รางวัล จากคุณ : ouiya เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 19:01:03

ความคิดเห็นที่ 39 มันได้เพราะมันเสียดสีกองทัพสหรัฐได้อย่างถึงพริกถึงขิงครับ... สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือฉากสุดท้ายที่พระเอกกลับเข้าสงคราม มันไม่ได้อยากปลดชนวนเพื่อชีวิตแล้ว มันเสพติด... จากคุณ : ตุ๊กตาไขลานที่ไม่มีลานให้ไข เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 19:47:19

ความคิดเห็นที่ 40 คุณไม่ชอบแต่คนอื่นเขาชอบ โดยเฉพาะกรรมการเขาชอบ จากคุณ : กะเทยเด็กแนว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 20:26:06

ความคิดเห็นที่ 41 เราชอบเรื่องนี้มากค่ะ และไม่ปวดหัวล่ะ coverfield เหวี่ยงกว่ายังดูชิลๆ อันนี้เด็กๆ ค่ะ 5555 ที่ติดใจเป็นพิเศษคือตอนจะจบล่ะค่ะ ที่พระเอกไปยืนเคว้งตอนจะซื้อนมให้ลูก จากคุณ : Ruminated เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 20:41:33

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบมากครับ ผกก. เก่งออก ออสก้าหรือไม่ผมไม่ค่อยสนใจด้วย จากคุณ : semplice เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 20:55:13

ความคิดเห็นที่ 43 ผมชอบครับ ชอบทุกภารกิจที่ออกไปกู้ระเบิด ชอบความเรียลของหนัง มีคนๆ นึงเคยบรรยายถึงฉากที่พวกพระเอกถูกซุ่มยิงกลางทะเลทรายแล้วต้องซุกในหลุมดูเชิงกันตั้งแต่บ่ายถึงหัวค่ำว่าฉากนั้นมันสื่ออะไร...อาจจะสปอยล์... ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจนะว่าจะหมอบอยู่ตรงนั้นทำอะไรตั้งนาน ทั้งที่กระสุนนัดสุดท้ายยิงไปตั้งนานแล้ว ยังหมอบอยู่นานสองนาน จนพลบค่ำกว่าจะเคลื่อนกำลังกลับฐานจะสื่ออะไร จะยืดทำไม... เค้าอธิบายว่าสงครามจริงๆ มันก็น่าจะอีหรอบนี้ ถ้าไม่อยากตายก็ต้องแน่ใจก่อนว่าข้าศึกไม่ได้ซุ่มอยู่ตรงนั้นแล้ว ถ้าเป็นสงครามเรืองอื่น กระสุนนัดสุดท้ายจบกลับฐานแบบฮีโร่ไม่ต้องรอดูสถานการณ์แบบใน the hurt locker จากคุณ : jcutler เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 21:01:31

ความคิดเห็นที่ 44 อีกอย่างนึงที่ชอบคือ แต่ละภารกิจมันค่อนข้างเรียงลำดับได้ตรงใจผมนะ ผมชอบภารกิจสุดท้ายที่สุด ไล่จนมาถึงภารกิจแรกๆ แต่ละภารกิจมันมีเรื่องราวแฝง ความน่าสนใจต่างกันไป มีสปอลย์... ภารกิจแรก หน่วยกู้ระเบิดทำงานกันอย่างไง เปิดตัวพระเอก เปิดโลกทัศน์ของผมว่าหน่วยกู้ระเบิดมีวิธีทำงานกันอย่างไง คนขับรถที่ไม่ชอบอเมริกันที่มาทำลายบ้านเมือง แต่ต้องยอมให้กับความกร้าวของพระเอก ภารกิจสอง มิตรและศัตรู ความกดดัน ความระห่ำของพระเอก ต้องทำงานท่ามกลางคนที่ดูอยู่ไกลๆ ทุกคนที่อยู่รอบๆ สามารถเป็นคนร้ายได้ทุกคน ภารกิจสาม ระเบิดมนุษย์ การตัดสินใจของพระเอก ค่อนข้างชอบตอนนี้มากๆ ถ้าพระเอกเป็นแค่พวกเสพย์ติดสงครามไร้หัวใจ พระเอกคงทำลายระเบิดลูกนั้นไปพร้อมกับร่างเบ๊คแฮ่ม... แต่ว่าเขาเลือกที่จะแข็งใจล้วงระเิบิดออกมาจากร่างเด็ก แล้วศพเด็กจะได้ไปทำพิธีซะ ภารกิจสี่ ฉันไม่รู้จะทำอย่างไงดีต้องขอโทษด้วยจริงๆ ขอโทษด้วย... คนที่ระห่ำไ่ม่ยอมแพ้อย่างพระเอกต้องพูดคำนี้ออกมา เมื่อเค้าหมดปัญญาไม่สามารถแก้ระเบิดลูกนี้ได้ในเวลา จากคุณ : jcutler เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 21:18:37

ความคิดเห็นที่ 45 ตาม  ความคิดเห็นที่ 13 ค่ะ และนอกจากนั้นแล้ว มันยังถูก "จริต" อเมริกันชนอีกด้วย ประมาณนั้น จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 23:05:33

ความคิดเห็นที่ 46 ผมว่ามันลุ้นระทึกดี แต่สมควรถึงขั้นได้ออสการ์รึเปล่า ผมไม่แน่ใจ จากคุณ : ฆ่าไม่นับสับไม่เลี้ยง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 01:10:17

ความคิดเห็นที่ 47 ในบรรดาหนังที่เข้าชิงปีนั้น แม้ว่าเราจะกรี๊ด Inglorious Basterd กะ Up in the Air มาก แต่เรื่องนี้จี๊ดใจที่สุด และลุ้นให้เรื่่องนี้ได้รางวัล : ) จากคุณ : jimkong เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 01:52:21

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่าคนส่วนมากไม่ชอบ ไม่งั้นรายได้ไม่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนั้นหรอก แล้วจะเป็นหนังที่ได้ออสการ์ที่ถูกลืม แผ่นหนังจมในกะบะลดราคา และไม่มีวันได้เหยียบทำเนียบหนังคลาสสิก ตามตูด Million Dollar Baby , The Departed ไปติดๆ จากคุณ : Boy4Boyz เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 02:01:55

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ^ แต่ 2 เรื่องที่ว่าก็จะเป้นหนังคลาสสิคอยู่แล้วนะ จากคุณ : OBERON เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 07:55:46

ความคิดเห็นที่ 50 ผมชอบนะ บีบอารมณ์ดี จากคุณ : ar.2524 (ar.2524) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 11:54:29

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องนี้เป็นปากเป็นเสียงให้คนอเมริกันหันไปดู ว่าที่สมรภูิมในอิรักจริงๆมันเป็นอย่างไร เหมือนที่ platoon พาคนดูไปกลางสงครามเวียตนาม เรื่องนี้พาคนดูไปกลางสงครามตะวันออกกลาง ผมมองว่าพล็อตมันอิงนิทานโบราณอัศวินสู้กับอสูรกาย (ในที่หนังให้ตัวคนร้ายเป็นใครไม่รู้ มาเจออีกทีทิ้งระเบิดไว้ เหมือนอสูรกายมองไม่เห็นตัว)นอกจากกับดักอภินิหารที่วางไว้ พระเอกต่อกรไล่ล่าแกะรอยไปเรื่อยๆ ยังไม่ถึงตัวสักที หนังจบเสียก่อน ซึ่งจริงๆอสูรกายที่ว่ามันมองไม่เห็นเป็นตัวเสียด้วย อัศวินชาวอเมริกันสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็นตัวที่เรียกว่า ก่อการร้าย จากคุณ : kinglear เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 13:50:51

ความคิดเห็นที่ 52 The Departed นี่เห็นด้วยว่าไม่ถึงขนาดนั้น ลืมๆ ไปเถอะ แต่ Million Dollar Baby นี่สุดยอดมากๆ เลยนะ ควรค่าได้รางวัล สำหรับ The Hurt Locker ก็เข้าไม่ถึงเหมือนกัน ก็ดีระดับนึง แต่ไม่คิดว่าถึงขนาดได้รางวัล จากคุณ : zervilz เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 13:53:12

ความคิดเห็นที่ 53 แวะกลับมาดูอีกที คนตอบล้นหลามกว่าที่คิด ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ที่พูดถึง The Blind Side ผมไม่ได้หมายความว่า มันเหมาะที่จะได้ออสการ์ แต่ผมหมายถึงถ้ามันฟลุดได้ขึ้นมา ยังโอเคกว่า The Hurt Locker ส่วนเรื่องที่ผมเชียร์ในปีนั้น คือ Up in the Air กับ District9 ครับ ปล.ผมว่า Million Dollar Baby มันเหมาะกับออสการ์มากเลยนะ แถมยังเป็นหนังออสการ์ที่ดูสนุกอีกด้วย ได้ IMDb ตั้ง 8.1 จากคุณ : Gusbell ครับผม เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 17:41:25

ความคิดเห็นที่ 54 เป็นหนังดีนะ แต่ขอดูรอบเดียวพอ จากคุณ : น้องพี่เพลิน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 55 20:45:55

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 15 ปีนั้นผมก็เชียร์ The Social Network ขาใจครับ แต่เสียายมากๆที่ไมไ่ด้ จากคุณ : ไอ้มัส (imustzatu) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 01:20:58

ความคิดเห็นที่ 56 เวลาผมชงกาแฟ   ผมจะใส่น้ำตาล 2 กาแฟ 3  และน้ำร้อน คุณชอบเหมือนผมมั้ย จากคุณ : เด็กดื้อนิรัน5 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 01:38:22

ความคิดเห็นที่ 57 อย่าไปคิดมาก....Oscar ก็คือ ใครกินก๋วยเตี๋ยว ใครกินก๋วยจับ ใครกินบะหมี่ ใครกินเกาเหลา ก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น จากคุณ : Fantomas (Fantomas) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 10:48:37

ความคิดเห็นที่ 58 ผมก็ชอบนะ ... :) จากคุณ : blacklist เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 11:23:06