เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่เป็นรายการฝึกนรกเปลี่ยนสองม้าดีดกะโหลกให้กลายเป็นเมียและแม่ที่ยอดเยี่ยมของคุณแม่...ผู้โหดซะยิ่งกว่าจ่านรกประจำค่ายฝึกรด.ซะอีก...
โดยหลังจากเย็บชุดเจ้าสาวเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมตัวเจ้าสาวให้พร้อมสำหรับวันแต่ง และขั้นตอนการเตรียมงานเลี้ยงอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาว โดยในส่วนของเจ้าสาวนั้นก็ได้ประดาญาติผู้หญิงที่ใกล้ชิดกับเจ้าสาวอย่างคุณแม่ คุณป้า คุณน้า คุณอา เข้ามาช่วยกันผสมโรงขัดสีฉวีวรรณสองแฝดซะจนกิ๊งไปทั้งตัว หลังจากโดนคุณย่าจับอบไอน้ำแบบประยุกต์ (นอนให้ญาติๆ เอาพรมกับผ้านวมโยนทับให้ร้อน จะได้เหงื่อออกมากๆ ผิวจะได้เรียบเนียนสวยนิ้ง...จากที่คุณย่าท่านแนะเคล็ดมานะ) เป็นที่เรียบร้อย (ตรงนี้มีฉายให้เห็นฉากที่สองแฝดออกไปทักทายแสดงความเคารพบรรดาคุณป้าคุณน้า...หรือก็คือพวกพี่น้องของแม่ที่ออกเรือนกันไปแล้ว...ที่หอบลูกหอบหลานมาแสดงความยินดีกับสองแฝดด้วย นอกนั้นก็มีฉากเล็กๆ แต่น่ารักน่าเอ็นดู คือฉากที่คุณย่ากับน้องสาวของสองแฝดต้องมารับหน้าที่ดูแลหลานๆ...หรือก็คือลูกๆ ของคุณน้าคุณป้าที่กะเตงมางานด้วยกันนั่นแหละ...ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กอ่อนไม่ก็เด็กเล็กกันทั้งนั้น แต่ด้วยดีกรีความเทพระดับย่าและน้องของสองแฝดจอมม้าดีดกะโหลก ก็ทำให้คุณย่าดูไม่หนักใจกับการต้องรับผิดชอบส่วนที่กระจองอแงที่สุดในการเตรียมงานแต่งเท่าไหร่นัก)
ขณะที่ญาติผู้ชายคนอื่นๆ ต่างแยกย้ายกันไปจัดหาของเตรียมงานเลี้ยง ซึ่งโดยมากก็เป็นแกะที่ประดาญาติๆ ฝ่ายชายช่วยกันเอามาสมทบทุนกันคนละตัวสองตัว เยอะหน่อยก็ห้าตัวเป็นอย่างสูง ซึ่งก็นับเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะครอบครัวของฝ่ายชายค่อนข้างจะบ่จี๊กันพอดู เรียกว่าหาเงินค่าสินสอดพอแต่งเมียให้ลูกชาย 2 คนรวดได้นี่ก็บุญโขแล้ว
ด้วยเหตุด้านความขัดสนของครอบครัวเช่นนี้ พ่อของเจ้าบ่าวทั้งสองกับญาติอีกคนหนึ่งจึงรวมหัวกันบำเพ็ญตนเป็นปู รีดเลือดตัวเองมากันคนละหยดสองหยดเอาไปหักคอขอซื้อแกะทั้งฝูงกับเจ้าของฝูงแกะฝูงหนึ่งเอาดื้อๆ ประมาณว่า "พวกตรูมีเท่านี้แหละ ขายๆ มาเหอะน่าอย่าเรื่องมาก" เล่นเอาเจ้าของแกะถึงกับปรี๊ดแตก ด่าสองพี่น้องเข้าให้ว่ามีเงินเท่าเลือดปูแค่นี้จะเอามาซื้อแกะทั้งฝูงได้ไงฟะ
แต่ที่สุดของที่สุด เจ้าของฝูงแกะผู้ดวงกุดก็เป็นฝ่ายทนความหน้าด้านหน้าทนของพ่อเจ้าบ่าว...ผู้เอาเรื่องการแต่งงานอันเป็นวันสำคัญที่สุด เป็นวันที่ทุกคนมีหน้าที่ต้องร่วมฉลองอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาวมาอ้างกดราคาแกะั...ไม่ไหว ยอมโดนหักคอซื้อแกะแบบขาดทุนป่นปี้แต่โดยดี ก่อนจะปล่อยให้ไอ้ปูหน้าเลือดทั้งสองยิ้มร่าต้อนแกะทั้งฝูงของตัวเองจากไปด้วยสายตาเจ็บปวดระคนแค้นอย่างที่สุด
ได้แกะมาเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนสำคัญที่สุดก่อนการเตรียมอาหาร นั่นคือการ "เชือดแกะ" นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่างานนี้เชือดจริง เจ็บจริง ตายจริง แถมยังเอาไอ้หนูวัยละอ่อนประมาณหมายังเลียก้นถึงมาช่วยงานหยิบโน่นจับนี่เวลาพวกผู้ใหญ่เปิดเพลงมีดปาดคอแกะจนเลือดสาดกระจายแบบไม่กลัวองค์กรสิทธิ์เด็กและสตรีจะเล่นงานอีกต่างหาก (แถมพอแหวะท้องเอาเครื่องในออกมาแล้ว ยังมีการพาเด็กๆ ไปดูขดไส้ที่ไหลออกมาพร้อมชี้โบ้ชี้เบ้สอนให้อีกว่านี่คือไส้ นี่คือกระเพาะ นี่คือเซ่งจี๊กันแบบหน้าตาเฉย ซึ่งก็ช่วยไม่ได้ละนะ ยังไงมันก็เป็นวิถีชีวิตของเขานี่นา)
ภาพประดาผู้ชายช่วยกันจับแกะไว้ให้อยู่นิ่งๆ เปิดโอกาสให้คนลงมีดจัดการปาดคอแกะจนเลือดสาดเต็มพื้นดินทำเอาบักสมิธ...ผู้แม้จะคุ้นเคยกับธรรมเนียมของคนแถบนี้อยู่บ้าง...อดทำสีหน้าผะอืดผะอมไม่ได้
หมายเหตุ - ช็อตเด็ดที่สุดของฉากนี้อยู่ที่ลุงคนเชือดแกะหันไปเรียกให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ดูท่าทางโตกว่าเด็กอื่นมาลองหัดเชือดด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกดู โดยมีลุงคนเชือดเป็นคนสอนวิธีเชือดให้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนกล่าวนามของอัลลอฮ์ก่อนเชือด (ตามหลักของศาสนาที่ก่อนเชือดต้องเอ่ยนามของอัลลอฮ์ว่า "ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตาปราณียิ่ง" นั่นแล...อันนี้ว่าตามที่เค้าแปลไว้ในเรื่องเลยนะ) เริ่มเชือด ถลกหนัง แหวะท้องชำแหละเนื้อกับเครื่องใน ทำเอาสมิธถึงกับอึ้ง หันไปถามอาลีที่ยืนดูอยู่ด้วยกันว่าอาลีเองก็เคยหัดเชือดแกะแบบนี้มาก่อนรึเปล่า อาลีก็รับหน้าตาเฉยว่า เด็กผู้ชายทุกคนต้องเคยหัดเชือดแกะกันมาแล้วทั้งนั้นแหละ ว่าจบก็ถามสมิธกลับว่าแล้วสมิธล่ะไม่เคยเชือดแกะรึไง หรือว่าที่บ้านเกิดเค้าไม่กินแกะกัน สมิธก็หัวเราะแหะๆ ตอบว่าแกะน่ะกินอยู่ แต่ให้เชือดเองกับมือน่ะไม่เคยหรอก อาลีก็ส่งเสียงรับในคอด้วยสีหน้าเฉยๆ (แต่บักสมิธแอบคิดในใจแล้วว่าตูคงโดนแอบปรามาสในใจไปแล้วแหงๆ ว่าเป็นลูกผู้ชายแค่เชือดแกะเชือดวัวแค่นี้ยังไม่กล้าไม่เคยทำ)
จากคุณ |
:
Drake
|
เขียนเมื่อ |
:
16 มิ.ย. 55 08:38:09
|
|
|
|