ความคิดเห็นที่ 1 ปริศนา ชื่อยาน "โพรมีธีอุส" กับ "สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาว" Prometheus...ชื่อ "โพรมีธีอุส" ก็คือ เป็นเทพไททันองค์หนึ่งในเทพปกรณัมกรีก(Greek Mythology) ที่มีความเฉลียวฉลาด เป็นผู้ขโมยไฟจากเฮสเทีย เทพีแห่งเตาไฟลงไปให้มนุษย์ เป็นเหตุให้มนุษย์รู้จักใช้ไฟในการหุงหาอาหาร และใช้เพื่อแสงสว่างจนสามารถต่อยอดพัฒนาเป็นอารยธรรมอันตรุ่งเรื่องขึ้นมาได้ แต่เทพซุสผู้ยิ่งใหญ่พิโรธ และลงโทษโพรมีธีอุสด้วยการขังไว้ในถ้ำบนเทือกเขาคอเคซัส ทั้งให้นกยักษ์มาจิกกินตับของโพรมีธีอุสทุกวัน โดยที่ไม่ตาย และทุกคืนตับของพรอมิธีเอิสจะงอกใหม่ เพื่อให้นกยักษ์จิกกินในวันรุ่งขึ้น!...แต่สำหรับมนุษย์แล้ว โพรมีธีอุสถือว่าเป็นเทพที่กล้าหาญ และเป็นเทพที่ดีต่อมนุษยชาติ จึงได้รับการยกย่องและนับถือ ในหลังฐานทางโบราณคดี-วิทยาศาสตร์ ให้ทฤษฎีว่า มนุษย์รู้จักใช้ไฟเมื่อมีการระเบิดของภูเขาไฟในอัฟริกา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 แสนปีมาแล้ว นับเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกของมนุษย์ หลังจากนั้นความเป็นอยู่ของมนุษย์ก็เริ่มดีขึ้น และไฟถูกนำมาใช้ประโยชน์สืบต่อกันมาจนพัฒนาต่อยอดเจริญก้าวหน้าเป็นอารยธรรมจวบจนทุกวันนี้... ในเชิงศาสนา คัมภีร์ฤคเวทย์พรามหมณ์-ฮินดูในอินเดีย หรือลัทธิเก่าแก่อย่าง "โซโรอัสเตอร์"ของชาวเปอร์เซีย กล่าวถึง การบูชาไฟ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่เด่นที่สุดเพื่อขอพรจากพระเป็นเจ้าให้ทรงมอบความสุขและความโชคดีให้แก่ผู้ที่บูชานั้น และพิธีกรรมยังคงสืบทอดและดำเนินอยู่ในยุคปัจจุบันศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ยังมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญของหนังเรื่องนี้ ที่ดูจะลงตัวกับธีมที่ว่าด้วยการท้าทายพระเจ้า(ในคติศาสนา โดยเฉพาะศาสนาคริสต์) ในชื่อหนังไม่น้อย นั่นคือ "Ancient Astronauts" หรือทฤษฎีที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาว(Extraterrestrial Beings) ได้เคยมาเยือนโลกในช่วงประวัติศาสตร์ยุคโบราณ หรือยุคก่อนประวัติศาสตร์(Prehistory) และติดต่อกับมนุษย์มาแล้ว ผู้เสนอทฤษฎีนี้เชื่อว่าการติดต่อดังกล่าวได้ส่งอิทธิพลต่อการพัฒนาของมนุษยชาติทั้งใน มิติทางวัฒนธรรม, เทคโนโลยี-นวัตกรรมใหม่ๆ หรือแม้แต่ในด้านศาสนา ทฤษฎีนี้ถูกเสนอมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19-ต้นศตวรรษที่ 20 ก่อนจะถูกพูดถึงอย่างจริงจังและแพร่หลายในครึ่งหลังศตวรรษที่ 20 โดยนักเขียนหลายคน ตัวอย่างหนึ่งในนั้นคือ "อีริช ฟอน ดานิเกน" (Erich von Däniken) นักเขียนชาวสวิส ในหนังสือชื่อ Chariots of the Gods (1968) จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:06:00

ความคิดเห็นที่ 2 ปริศนา The Engineer - Space Jockey - พระเจ้าต่างดาวผู้ให้กำเนิดมนุษย์ ? เปิดฉากแรกของ Prometheus ผู้ชมจะได้เห็นยานอวกาศบินมาสู่น้ำตกยักษ์แห่งหนึ่ง แต่แปลกที่รูปลักษณ์ยานไม่ใช่ยานทรงโค้งแบบยาน Derelict แต่เป็นจานบินกลมดำทะมึน และแล้ว Engineer ก็ปรากฏตัว ดื่มสารเหลวสีดำปริศนา? ทันใดร่างก็แหลกหัก ตกลงสู่หุบเหวน้ำตก... ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่า สารเหลวสีดำได้ทำปฏิกิริยากับเซลล์-DNAของร่าง Engineer จนกลายเป็นเซลล์-DNAใหม่ เข้าใจว่ามันคงเป็นเซลล์-DNA ต้นแบบของมนุษย์ และด้วยตอนหลัง ลูกยาน Prometheus ชันสูตรซากหัว Engineer บนดาว LV-223 พบว่ามีรหัสพันธุกรรมตรงกับของมนุษย์ทุกประการ!...ลูกยานโดยเฉพาะ "ปีเตอร์ เวย์แลนด์" และ "เอลิซาเบธ ชอว์" จึงยิ่งเชื่ออย่างสนิทใจว่าพวก Engineer นี่แหละคือพระเจ้าต่างดาวผู้สร้างมนุษย์! แต่แล้วในท้องเรื่อง กลับเกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด ปีเตอร์ เวย์แลนด์ ถูก Engineer ฆ่าตายเอาดื้อๆ ลูกเรือก็โดดอสูรกายเอเลี่ยนกลายพันธุ์(อันจากสารเหลวดำ) ฆ่าเรียบ ที่รอดก็มีเฉพาะนักโบราณคดีสาว เอลิซาเบธ ชอว์ กับ หุ่นแอนดรอยด์ "เดวิด" ซึ่งเดวิดก็โดน Engineer ฉีกร่างหัวขาด แต่ก็ยังมีความทรงจำ-ทำงานได้อยู่ เอลิซาเบธ ชอว์ จึงสรุปว่าเหตุที่ Engineer มีโปรแกรมจะเดินทางไปยังโลกนั่นหาใช่อื่นใด แต่เพื่อทำลายมนุษยชาติ ด้วยสารเหลวดำปริศนาในไหจำนวนมากนั้นเป็นแน่แท้ จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:07:24

ความคิดเห็นที่ 3 *ข้อสังเกตเบื้องต้น กรณี Engineer... - ในหนัง คุณเวย์แลนด์+ทีมลูกยานนักบินอวกาศ สันนิษฐานจากหลักฐานโบราณคดีเก่าแก่ และเชื่อว่าพวก Engineer นี่แหละคือพระเจ้ามนุษย์ต่างดาวผู้สร้างมนุษย์ ที่สำคัญรหัสพันธุกรรมตรงกับของมนุษย์ทุกประการดังได้กล่าวไปแล้วนั่นเอง แต่หนัง Prometheus ถึงแม้เหมือนจะสื่อนัยยะว่า Engineer เป็นต้นกำเนิดมนุษย์แต่ก็ไม่ได้สรุปแบบฟันธง 100% ว่ามันจริงตามนั้น?...และ Engineer ก็ไม่มีบทพูดใดๆสนทนาโต้ตอบใดๆทั้งสิ้น แถมฆ่า เวย์แลนด์-ฉีกหัวเดวิด เอาดื้อๆแบบไม่อธิบายพูดพล่ามทำเพลงใดๆทั้งสิ้น... Engineer อาจเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตอีกสายพันธุ์อันเป็นญาติสนิทกับสายพันธุ์มนุษย์ก็เป็นได้? และพระเจ้าผู้สร้างที่แท้จริงอาจเป็นตัวอะไรอีกตัวที่อยู่บนยานจานบิน? หรืออาจจะเป็นอย่างอื่นๆที่ไม่ใช่หรือไม่เกี่ยวกับพระเจ้าเลย? - ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า Engineer จะไปโลกเพื่อจะล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ เพราะ Engineer ยังไม่ได้ไปโลกแต่อย่างใด ด้วยโดนขัดขวางโดยทีมนักบินยาน Prometheus ขับพุ่งชนยาน Derelict ของ Engineer ตกเสียก่อน และตัว Engineer เองแม้รอดชีวิตแต่ภายหลังตอนท้ายเรื่องก็ถูกเอเลี่ยน Trilobite (ปลาหมึกกลายพันธุ์) เขมือบสิ้นชีพในที่สุดเช่นกัน...การจะไปโลกเพื่อล้างทำลายมนุษย์ จึงเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานจากโศกนาฏกรรมที่ได้ประสบหายนะจากสารเหลวดำ อันบรรจุอยู่หม้อไหจำนวนมหาศาลในยานของ Engineer ซึ่งก่อให้เกิดการกลายพันธุ์เป็นอสูรกาย...แต่ก็ไม่แน่สารเหลวดำอาจมีคุณสมบัติอื่นๆนอกเหนือจากนั้น? หรือ Engineer อาจมีองค์ความรู้-ภูมิปัญญาในการใช่สารเหลวดำเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆที่ไม่ใช่แค่ให้กลายพันธุ์?... - Engineer กับ Space Jockey(ใน ALien1) อาจไม่ใช่พวกเดียวกัน?...สังเกต Engineer ตนแรกตอนเปิดเรื่อง ร่างกายเป็นคนเปลือยเปล่าไม่มีชุดเกราะ แต่ภายในเรื่องตอนหลังๆนั้นจะเห็นเป็นพวกที่ใส่ชุดเกราะ โดยหมวกเกราะครอบที่สวมมีลักษณะเหมือนหัวกะโหลก Space Jockey ใน ALien1...และพวกที่ตายเป็นศพแห้ง ชุดเกราะก็ประหนึ่งแห้งไปกับร่างกายด้วย? ราวกับชุดเกราะเป็นผิวหนังติดกับร่างกายเป็นเนื้อเดียวกัน อันสอดคล้องกับพันธุวิศวกรรมเชิงกลชั้นสูง หรือ "Biomechanics" (ทำนองเดียวกับร่างกายของเอเลี่ยนซีโนมอร์ฟ ดูรายละเอียด ตำนาน Alien : Space Jockey อีกที)...หรือเป็นได้ไหมว่า Engineer อาจแบ่งได้เป็นหลาย Class ? จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:08:38

ความคิดเห็นที่ 4 ปริศนา สารเหลวสีดำ กับ อสูรกายกลายพันธุ์-เอเลี่ยนซีโนมอร์ฟ ? ในหนังแสดงให้เราได้เห็นว่า สารเหลวสีดำลึกลับที่บรรจุอยู่ในหม้อไหภายในถ้ำ-ยานของ Engineer มีคุณสมบัติพิเศษคือก่อให้เกิดปฏิกิริยากับสิ่งมีชีวิต เมื่อสัมผัสหรือไปอยู่ในร่างกายสิ่งมีชีวิตใดๆแล้วจะส่งผลให้มีการกลายพันธุ์! โดยจะทำปฏิกิริยาให้ผลต่างๆกันไปตามแต่ปัจจัยของสภาพบรรยากาศดาว ณ ขณะนั้น และโดยเฉพาะขึ้นอยู่โครงสร้างทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตนั้นๆด้วย (ทำนองเดียวกับการฟักตัวของเอเลี่ยนซีโนมอร์ฟ) แต่ที่เหมือนกันก็คือ มันให้ผลออกมาในออกจะเป็นในแง่การกลายเป็นอสูรกายที่น่าสยดสยอง...รูปแบบการกลายพันธุ์หลักๆเท่าที่ปรากฏในภาพยนตร์ Prometheus จำแนกได้ดังนี้ 1. Hammerped (อสูรกายงู) ในร่างลูกยานนาม "มิลเบิร์น"(Milburn) : หนอนตัวเล็กๆบนดาวนั้น? ไปโดนสารของเหลวสีดำ > กลายพันธุ์เป็น Hammerped > เข้าสู่ร่างกายมนุษย์(มิลเบิร์น) กลายเป็นตัวหนอนใหญ่?ออกมาจากร่างกายอีกที > ออกมาแล้วอาจโตเต็มวัยเป็นอะไรต่อไปอีก?...*และที่น่าสนใจคือ Hammerped มีเลือดเป็นกรดเช่นเดียวกับเอเลี่ยนซีโนมอร์ฟ จากคุณ : (ยืมแอ็คเคาร์แฟนมาใช้ครับ) (mineday) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:10:41

ความคิดเห็นที่ 5 2. Zombie (อสูรกายแบบผีดิบ) "ไฟฟิลด์" : > ลูกยานนาม ไฟฟิลด์ ติดเชื้อจากน้ำเลือดกรดของ Hammerped (อาจได้รับเชื้อปฏิกิริยาจากสารเหลวสีดำไปด้วยในตัว) > ติดเชื้อแล้ว หน้าตา-ร่างกาย พุพอง-บิดเบี้ยว สติสัมปชัญญะเลอะเลือน กลายเป็นอสูรกายแบบผีดิบ! จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:12:11

ความคิดเห็นที่ 6 3. "ชาลี ฮอลโลเวย์"กลายพันธุ์? : เมื่อหุ่นเดวิดแอบใสสารเหลวสีดำในน้ำดื่มให้นักวิทยาศาสตร์ลูกยานนาม ฮอลโวเวย์ ดื่ม > ผลคือร่างกายฮอลโลเวย์ค่อยๆเปลี่ยนแปลงผิดปกติไป ตาแดงก่ำ ตัวเริ่มซีดขาว แนวเส้นเลือดบนผิวหนังเริ่มไหม้คล้ำ > ฮอลโวเวย์อาจกลายเป็นตัวอะไรต่อ? ถ้าไม่ถูกเผาตายเสียก่อน...(คงออกมาเป็นแนว Zombie ทำนองเดียวกับที่ไฟฟิลด์เป็น?) จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:13:07

ความคิดเห็นที่ 7 4.1. Trilobite (อสูรกายปลาหมึก) กำเนิดจากครรภ์ของ เอลิซาเบธ ชอว์ : ในท้องเรื่องชอว์กับฮอลโวเวย์เป็นคู่รักกัน และเมื่อหลังจากฮอลโวเวย์ดื่มน้ำที่มีสารเหลวดำผสม ดันไปมีเพศสัมพันธ์กับ ชอว์ > สารเหลวดำถ่ายทอดสู่ตัวชอว์(ทางตัวสเปิร์ม) > เกิดปฏิสนธิ ชอว์จึงตั้งครรภ์อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ตัวอ่อนเด็กทารกมนุษย์ตามปกติ แต่มันเป็นอสูรกายมีหางรูปร่างคล้ายปลาหมึก > เมื่อถูกเอาออกจากท้องแล้วก็ไม่ตายง่ายๆ > แต่เติบโตกลายพันธุ์เป็นเอเลี่ยน Trilobite Adult ต่อไป... *ประเด็นนี้มีข้อน่าสังเกตสำคัญ นั่นคือหนังระบุชัดไว้เจนว่านางเอกของเรานั้นเป็นหมัน ไม่อาจสืบทายาทโดยวิถีธรรมชาติ! ชวนให้คิดลงลึกว่าครรภ์สยองนี้ เป็นผลพวงจากสารเหลวสีดำโดยตรง(น่ากลัว - -'' ) หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงโดยสภาวะอย่างอื่นกันแน่ --- แล้วในอนาคตข้างหน้าล่ะ? เธอจะสามารถตั้งครรภ์ด้วยตนเองได้หรือไม่ !?! จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:13:58

ความคิดเห็นที่ 8 4.2. Trilobite Adult (อสูรกายปลาหมึกยักษ์) : คือ Trilobite ที่เจริญเติบโตเป็นร่างยักษ์ ซึ่งต่อไปได้โจมตี Engineer พลาดถึงตาย! (แม้แต่ Engineer เองยังเอาไม่อยู่) จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:15:09

ความคิดเห็นที่ 9 5. Deacon : เกิดจาก Trilobite Adilt จู่โจม Engineer และปล่อยน้ำเชื้อเข้าสู่ร่าง > ฝักตัวเติบโตกลายเป็นอสูรกาย Deacon ซึ่งดูจะมีเค้าโครงรูปลักษณ์คล้ายๆกับ เอเลี่ยนซีโนมอร์ฟ มากพอสมควร จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:16:01

ความคิดเห็นที่ 10 6. Engineer > มนุษย์ ? : อ้างอิงจากฉากแรกของหนัง ดังได้กล่าวแล้วว่า Engineer ร่างเปลือย ดื่มสารเหลวสีดำ แล้วพลันแนวเส้นเลือดบนผิวหนังเริ่มไหม้คล้ำ ร่างก็แหลกหัก ตกลงสู่หุบเหวน้ำตก เซลล์-DNA แปลสภาพกลายเป็น เซลล์-DNA ชุดใหม่ สันนิษฐานกันว่ามันน่าจะเป็น เซลล์-DNA ของมนุษย์? ...*และคาดว่าสารเหลวสีดำในถ้วยผอบที่ Engineer ดื่ม คงเป็นตัวเดียวกันกับสารเหลวดำในไหที่ก่อให้เกิดอสูรกายทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้น แต่อาจจะมีส่วนผสมอื่นๆเพิ่มเติมด้วย? อาจกล่าวได้ว่า สารเหลวสีดำในไหเป็นสารพิเศษที่ก่อปฏิกิริยาต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งให้ผลออกมาได้กว้างมาก ยากที่จะคาดเดาว่าจะลงเอยเป็นตัวอะไรต่อ...*ส่วนจะเกี่ยวของกับเอเลี่ยนซีโนมอร์ฟหรือไม่นั้นไม่มีใครทราบได้ แต่คาดว่าคงมีเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย?...กำเนิดซีโนมอร์ฟในเริ่มแรกสุดอาจเกิดมาจากปฏิกิริยาจากสารเหลวสีดำด้วยก็เป็นได้? จากคุณ : mineday เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:16:53

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้จากแนวคิดของผมนะ เป็นไปได้หรือเปล่าว่า     พวก Engineer จะมีฐานทัพที่ใช้ผลิตหรือเก็บอาวุธชีวะเคมีแบบนี้อยู่ในดาว2ดวง ดาวดวงแรกก็คือ LV.223 ตามหลังในเรื่องนี้คือใช้ผลิตและเก็บเจ้าน้ำดำเหนียวนี้        ส่วนดาวอีกดวงนึงซึ่งไม่น่าห่างไกลกันนักคือ LV.426 (ในเอเลี่ยนภาคแรก)ใช้เป็นที่ผลิตและเก็บ สิ่งที่พัฒนามาจากสารน้ำดำเหนียว  ก็คือไข่และตัวซีโนมอฟ(อาจจะรวมถึงสร้างตัวที่เป็นQueen ขึ้นมาเพื่อผลิตไข่ด้วย) เหตุการที่เกิดขึ้นใน LV.426 น่าจะเกิดก่อนเหตุการใน LV.223 ประมาณ ไม่นานนัก    ก็อาจจะเกิดความผิดพลาดในระบบการรักษาความปลอดภัยในการเก็บป้องกันรักษาตัวอ่อนของซีโนมอฟ   ทำให้เจ้าตัวนี้หลุดอออกมาอาละวาดไล่ฆ่าพวก  Engineer ที่อยู่ในฐานทัพในดาวดวงนี้ซะเกลี้ยงไปทั้งหมด     ส่วนที่ในยานลำนั้นคือ ไข่ที่อาจจะขนย้ายไปดาวดวงอื่น     ผู้ควบคุมยานคือ  Engineer ที่นอนแห้งอยู่ตรงนั้นก็คงจะโดน"เจ้าตัวเกาะหน้า"จัดการ     และก่อนที่จะบังคับยานลำนี้หนีออกจากดาวดวงนี้      ก็คงจะเป้นเพราะว่าโดนเจ้าตัวกลายพันธุ์ที่อยู่ในท้องทะลวงออกมาจึงตายซากคาที่ตามที่ปรากฎในเอเลี่ยนภาคแรก           สำหรับเนื่องจากว่าเหตุการณ์มันผ่านมานานกว่า2พันปี     พวกซีโนมอฟบนดาวดวงนี้ก็คงจะฆ่ากันเองเป็นอาหารหรือไม่ก็แก่ตายกันไปทั้งหมดเนื่องจากระยะเวลามันนานเกินกว่า2พันปี      ดังนั้นทีมงานสำรวจของพวกมนุษย์ในเอเลี่ยนภาคแรกจึงไม่เจออะไรนอนกจากไข่ สำหรับที่อยู่ในไข่ก็เดาเอาว่ามันก็เหมือนการจำศีลหรือคล้ายๆกับมนุษย์นอนแช่แข็ง     เพื่อรอเวลาในการที่ยานอวกาศเดินทางใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว ดังนั้นมันถึงมีชีวิตรออยู่ได้ยาวนานมากๆ สำหรับในดาว LV.223ในเรื่องที่เราเอามาถกกันนี้ ก็อาจจะเกิดการรั่วไหลออกมาสำหรับสารน้ำดำเหนียวนี้    โดยที่พวก Engineer ยังไม่ทราบ      ก็อาจจะทำให้เกิดการกลายพันธุ์จากพวก Engineer ที่โดนสารนี้เข้าไปทำให้กลายเป็นพวกซอมบี้   และพวกสิ่งมีชีวิตในดาวดวงนี้ก็อาจจะกลายพันธุ์เป็นพวกอสูรกาย    ไล่ฆ่าไล่จับ Engineer มาเป็นอาหารแบบว่าระบาดไปทั่วดาวดวงนี้     ทำให้บรรดาพวก Engineer ต้องหนีกันแบบหัวซุกหัวซุนไปทั้งหมด(ตามที่เห็นในทางภาพโฮลิแกรมที่ดูกัน)      ตัว Engineer ก็อาจจะรอดแค่ตัวเดียวคือที่เจอในเรื่องนี้      อาจจะเป็นไปได้ว่าหลบเข้ามาในห้องนี้ได้ทันเวลาแค่คนเดียว      แล้วก็เลยอาจจะส่งข่าวของความช่วยเหลิอไปที่ดาวแม่      แล้วตัวเองก็หลบมานอนหลับในโลงแช่แข็งเพื่อรอเวลาที่หน่อยกูภัยจากดาวแม่จะมาช่วยเหลือปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับจำศีล สำหรับพวกนี้หายไปไหนหมดตอนที่ฝ่ายมนุษย์มาถึง ? ก็น่าจะเป็นเหมือนกับบนดาว LV.426    คือเวลาผ่านมาถึง2พันปีแล้วพวกกลายพันธุ์ก็น่าจะกินกันเองและแก่ตายหมดไปในที่สุด       ดังนั้นจึงไม่เหลืออะไรให้เห็นอีก สำหรับการที่ Engineer ขับยานเพื่อจะออกจากดาวดวงนี้       ผมคิดว่าไม่น่าจะไปบอมส์ทำลายล้างโลกละครับ       ผมคิดว่าเจ้านี่น่าจะตั้งเป้าหมายใหม่ว่าจะรีบกลับไปรายงานด่วนที่ดาวแม่มากกว่านะ       และอาจจะข้องใจด้วยว่าส่งข่าวมาให้มาสำรวจและกู้ภัย     ทำไมไม่มาภายในระยะเวลาที่เร็วที่สุด    นี่ผ่านไปเกิน2พันปีแล้วยังไม่มา      อาจจะเกิดปัญหาอะไรกับดาวแม่ ? จากคุณ : เสือปลาขี้เมา เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 00:02:05

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยเกือบทุกสมมติฐานเลยครับ  ตัวหนังยังขาดรายละเอียดบางส่วนที่ ควรจะอธิบายให้ชัดเจนให้สมบูรณ์อีกนิดนึงครับ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ชม จินตนาการ กันไปเองมากกว่า 70%  แต่ก็แนวเดียวกับ เอเลี่ยน ซีรีส์ แหละเนอะ  ดูมา 20-30 ปีแล้ว ยังไม่รู้เลยว่ามันมาจากไหน จากคุณ : KennyK เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 10:49:00