Review: Moonrise Kingdom "เด็กมีปัญหา หา หา แฟนไม่ได้เลยเธอ"

มือใหม่หัดเขียน review ค่ะ เขียนลง blog ไว้ที่ http://wp.me/p26iTc-2D และอยากแบ่งปันให้ได้อ่านกันค่ะ (มีการตัดทอนเล็กน้อย) ถ้ามีอะไรแนะนำ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^

-------------------------


Moonrise Kingdom
Directed by Wes Anderson
★★★★☆


กำลังสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงตัดสินใจไปดูหนังเรื่องนี้ อาจเพราะชอบโปสเตอร์มั้ง แล้วเห็นกระแสดีทีเดียววัดจากเพื่อนๆ ที่ไปดู และเห็นว่าเป็นหนังของ Wes Anderson ด้วย ที่ได้ยินชื่อมานานแล้ว แต่ไม่เคยดูหนังเฮียแกสักที แถมเป็นหนังเปิดเทศกาล Cannes ปีนี้อีก เลยลองสักตั้ง ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ

ก่อนจะเข้าเรื่องหนัง ขอบ่นก่อนเล็กน้อย สงสัยว่าไม่ได้ดูสกาล่านาน (ปกติจะได้ดูที่ลิโด้) เลยแอบงงเล็กน้อยที่มีโฆษณาก่อนฉายเยอะมาก ซึ่งอาจไม่เท่าโรงหนังเครือใหญ่ๆ แต่รู้สึกว่าเยอะเหมือนกัน ส่วนคนดูเรื่องนี้ก็เยอะทีเดียวในแง่ของจำนวน ในแง่ของนิสัยก็มีคนเยอะๆ ล้นๆ เช่นกัน เจอไปรายหนึ่งนั่งข้างหลังดิฉันเองค่ะ หัวเราะได้ทุกช็อต ไม่ว่าตัวละครจะทำอะไร พูดอะไร จนดิิฉันรำคาญ (มาก) เลยต้องยอมรับก่อนว่าอาจไม่ค่อยมีสติและสมาธิจดจ่อกับหนังอย่างเต็มที่

Moonrise Kingdom (หรือชื่อไทยว่า "คู่กิ๊กซ่าส์ สารพัดแสบ") เล่าเรื่องราวของ แซม ลูกเสือวัยกระเตาะสุดแนวที่ลาออกจากค่ายลูก:-)ลางคันเพื่อหนีไปใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง 2 ต่อ 2 กับ ซูซี่ สาวน้อยสุดแสบที่เขาปิ๊งตั้งแต่แรกเจอ ซึ่งแน่นอนว่าเธอก็มีใจให้เขาเช่นกัน แต่อะไรๆ ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเขาคิด เมื่อพวกผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าลูกเสือ ตำรวจ และพ่อแม่ของซูซี่ ฯลฯ รวมถึงเด็กๆ อย่าง ลูกเสือร่วมรุ่นของแซม และน้องๆ ของซูซี่ ต่างแท็กทีมกันตามหาคู่รักตัวป่วนอย่างสุดพลัง

เห็นหลายคนชมเด็กว่าน่ารักกกกกก แต่ส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยจะรักเด็กอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น คือจะรู้สึกมากกว่าว่าตัวละครเด็กเป็นผู้ใหญ่ ส่วนตัวละครผู้ใหญ่หลายคนนี่ก็เหมือนกับเด็กเด็กดูแก่แดด ผู้ใหญ่ก็ดูไร้เหตุผล สรุปแล้วจากการกระทำหลายๆ อย่าง ถ้าไม่นับหนังหน้าอาจคิดว่าตัวละครในเรื่องทุกตัวอายุไล่เลี่ยกันเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าหนังจะถ่ายทอดออกมาอย่างเรียบง่าย แต่ก็ซ่อนอะไรไว้ข้างในเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องของสไตล์ อย่างที่บอกว่าไม่เคยดูผลงานของคุณเวสมาก่อน เลยไม่คุ้นกับอะไรแบบนี้ ซึ่งก็ชอบนะ โดยเฉพาะทางด้านภาพที่ได้เห็นอะไรแปลกใหม่ อย่างการแพนกล้องไหลไปเรื่อยๆ อย่างกับภาพพาโนรามา มีขึ้นบน ลงล่างอีก (ไม่รู้ภาษาหนังเรียกว่าอะไร 55+) ภาพก็ดูสีซอฟท์ๆ ฟุ้งๆ อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เลยรู้สึกดูเพลินไม่เบื่อเลย อีกอย่างที่ชอบคือ ดนตรีประกอบที่อลังการและเข้ากับเรื่องมากๆ เพราะจริงๆ แถมมีเพลงนึงคุ้นหูอีก เหมือนเพลงลูกเสือมั้ง ออกแนวอินเดียแดง มีเนื้อร้องด้วย ใครรู้ชื่อเพลงช่วยบอกหน่อยจะดีมากเลย 55+

นักแสดงในเรื่องนี้ก็เล่นได้ดีเช่นกัน อย่างตัวเด่นของเรื่องอย่าง Jared Gilman ที่เล่นเป็นแซม กับ Kara Hayward ที่เล่นเป็นซูซี่ รู้สึกว่าทั้งคู่เหมาะกับบทนี้สุดๆ หน้าตาก็ให้ แถมเวลาเข้าฉากด้วยกันจะรู้สึกได้ถึงเคมีของทั้งคู่ และคอยลุ้นให้ทั้งคู่สมหวังได้หนีไปอยู่ด้วยกันตลอดไป (เอาจริงๆ คืออยากเป็นซูซี่ซะเอง 55+) ส่วนนักแสดงคนอื่นดูแค่ชื่อก็รับรองความสามารถได้อยู่แล้ว แต่ขอสารภาพตามตรงว่าตอนแรกไม่รู้ว่า Bruce Willis เล่นเป็นตำรวจ ดูไปสักพักแล้วเพิ่งนึกได้ว่า อ้าววว นี่เฮียบรู๊ซนี่หว่า (อาจเป็นเพราะไม่ค่อยเห็นลุงแกเล่นบทแนวนี้มั้ง เลยไม่คุ้นหน้า - พยายามแก้ตัว 55+)

ดูหนังแล้วก็ได้คิดอะไรหลายอย่าง (อีกแล้ว) อย่างประเด็นที่หนังเน้นค่อนข้างชัดเลยว่า ประสบการณ์จากการลงมือทำจริงนั้นมันเริ่ดกว่าการศึกษาจากตำราหรือจากการฝึกแต่ไม่เคยได้ทำนะจ๊ะ อย่างเหล่าลูกเสือตัวน้อยรวมทั้งครูฝึกต่างๆ ที่เชี่ยวชาญจะฝึกฝนไปทำไม ถ้าหากว่าไม่คิดจะออกสนามในสถานการณ์จริง หรือซูซี่ที่ได้อ่านเรื่องราวการเดินทางต่างๆ จากวรรณกรรมมากมาย แต่จะเกิดประโยชน์อะไรถ้าเธอไม่ลองออกผจญภัยด้วยตัวเองดูสักครั้ง รวมถึงเรื่องของความรักที่ทุกคนรู้จัก เคยได้ยิน ได้อ่าน แต่ถ้าเราไม่ได้เรียนรู้ที่จะรักใครสักคน ทั้งหมดก็คงไร้ความหมาย

อย่างเรื่องของความรักที่เราอาจรู้สึกว่าเด็กพวกนี้ทำไมแก่แดดจัง อายุแค่นี้ไปกันถึงขั้นนี้แล้วเหรอ ฉันอายุปูนนี้แล้วยังไปไม่ถึงพวกแกเล้ยยยยยยย >_< ... แต่ก็นั่นแหละความรักมันไม่ได้จำกัดอายุหรอก มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกวัย และจะผิดอะไรที่เด็กจะรักกันและคิดหนีสังคมที่ไม่เข้าใจเขาไปอยู่ในอาณาจักรที่มีเพียงคน 2 คนที่เข้าใจกันและกัน แทนที่จะใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่กับคนที่ไม่ได้รักอย่างทุกข์ทรมาน สู้เอาเวลาที่มีค่ามาอยู่กับคนที่เรารักไม่ดีกว่าเหรอ เริ่มต้นได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีไม่ใช่เหรอ ... อาจฟังดู ideal แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ :)


:: สรุป ::
หนังสนุกดี ดูแล้วรู้สึกอบอุ่น และ nostalgic อย่างบอกไม่ถูก (ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกิดยุคนั้น แต่ชอบการแต่งตัวของซูซี่นะ เหมือนชิซูกะเลย ชื่อก็คล้ายกันอีกวุ้ย) และจะหาหนังเฮียเวสมาดูอีกแน่ๆ ปลื้มสไตล์เฮียมากค่ะ

จากคุณ	: meanbrat
เขียนเมื่อ	: 18 มิ.ย. 55 03:13:01