 |
---- ยินดีกับคุณป๊อก-คุณตั๊กด้วยมาก ๆ -->> ป๊อก-ตั๊ก ตื้นตัน เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ พร้อมจดทะเบียนแล้ว
|
 |
ขอให้มีความสุขและครองรักครองเรือนกันอย่างมั่นคงต่อไปนะคะ
************ ป๊อก-ตั๊ก ตื้นตัน เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระราชวังสวนจิตรลดา เจ้าตัวเผยพระองค์ท่านทรงประทานพรให้มีความสุขและรักกันนานๆ แย้มสินสอด 9.9 แสน ทอง 9 บาท ที่ดิน 1 ไร่ ส่วนงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสพระราชทานจะมีขึ้นปลายปีนี้ หลังจากคู่รัก ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก และ ตั๊ก นภัสกร มิตรเอม จัดพิธีหมั้นหมายแบบไทยๆ เป็นการภายในไปตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่องศาศิลป์ ซึ่งเป็นสถาบันสอนศิลปะการแสดงไทยของทั้งคู่ ล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำของวันนี้(19 มิ.ย.) ทั้งคู่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระราชวังสวนจิตรลดา จากนั้น ป๊อก-ตั๊ก ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่บริเวณด้านหน้าวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข พร้อมเผยพระองค์ท่านทรงประทานพรให้มีความสุขและรักกันนานๆ ส่วนสินสอดทุ่มสุดตัวเงินสด 999,999 บาท ทอง 9 บาท ที่ดิน 1 ไร่ ที่รังสิต โดยงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสพระราชทานจะมีขึ้นปลายปีนี้ ป๊อก: สำหรับวันนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นค่ะ และวันนี้เราก็ได้พระมหากรุณาธิคุณจากท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล อีกท่านนึงด้วยที่มาเป็นสักขีพยานและก็มี หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา พอเข้าไปตอนสมเด็จพระเทพฯเสด็จ ออกมาตื่นเต้นมาก เราก็กังวลกับการหมอบกราบและการเดินของเราด้วย เราเตรียมตัวกันตั้งแต่ 8โมงเช้า แต่งหน้าทำผม นัดที่นี้บ่ายโมง และสมเด็จพระเทพฯท่านทรงจำได้ว่าตั๊กเป็นอาจารย์ เมื่อวันที่ 14มิถุนายน ที่ผ่านมา ต่อยมวยหน้าพระพักตร์ ตั๊ก : เราตื่นเต้นตั้งแต่เริ่มซ้อมพระราชทานแล้ว ท่านก็ทรงรับสั่งอย่างเป็นกันเองกับพวกเรามาก ท่านมุ้ยก็อยู่ตรงนั้นด้วย ก็คุยกันสนุกสนาน คุยกันเรื่องทั่วไป รวมถึงการแสดงต่อยมวยที่ผ่านมา ท่านก็ทรงอวยพรให้พวกเรา ถามว่าท่านอวยพรอะไรบ้างจะบอกว่าตอนนั้นผมหูดับ (หัวเราะ) ตอนท่านประทานถุงที่ระลึกผมก็เริ่ม หูหนักตามของที่ระลึกของท่าน ท่านทรงเป็นกันเองมาก ป๊อก : เราหูอื้อเพราะตื่นเต้นมาก จะร้องไห้ ที่เรารู้สึกตื่นเต้นมากก็คือตอนที่เริ่มรับน้ำสังข์รดศีรษะและตอนที่ท่านเจิมให้ เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริงเหรอ( ยิ้ม) ท่านทรงอวยพรให้มีความสุขและรักกันนานๆ ตั๊ก : ส่วนผมเริ่มตื่นเต้นตั้งแต่พระองค์ท่านปรากฏต่อหน้าเรา ท่านเสด็จมาถึง ผมก็สั่นหมดแล้ว แต่ถ้าตื่นเต้นจริงๆ คือตอนถือพานดอกไม้ธูปเทียน คือพิธีการทั้งหมดที่สวนจิตรลดา เรื่องการขอพระราชทาน ผมขอกันมาปีกว่าแล้วครับ ตอนจดหมายตอบรับมา ผมยังทำยุทธหัตถีกับผู้พันเบิร์ดอยู่เลยครับ พอรับโทรศัพท์ก็หันมาถามเบิร์ดว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ผู้พันเบิร์ดก็แนะให้ไปตัดชุด เพราะเขาเตรียมตัวรอแล้ว จากนั้นก็บอกป๊อกเลยว่าให้เตรียมชุด เราเองก็ได้มีเวลาเตรียมตัวตัดชุด3 สำหรับงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสพระราชทานจะมีขึ้นปลายปีนี้ ตั๊ก : ส่วนงานเลี้ยงฉลองกะว่าจะปลายปีนี้ ประมาณเดือนพฤศจิกายน ให้หมดฝนก่อน แต่ฤกษ์ยังขอไว้ก่อน เพราะต้องขออนุญาตสถานที่เพราะลำบากนิดนึง แต่ว่าคงไม่ยากเกินไปนัก ต้องขอคุยกับผู้ใหญ่ ไม่ใช่ในโรงแรม คือเราอยากจัดกลางแจ้ง ซึ่งยังมีโขนอยู่ยังชอบศิลปะไทย หรือการแสดงไทยๆ หลายอย่าง ขอใบ้ให้สถานที่เป็นละแวกสถานที่ที่เราพบกันครั้งแรก(ยิ้ม) แต่ไม่ใช่แถวสนามหลวง ท่านมุ้ยเคยบอกว่า ถ้าจัดสนามหลวงคนด่าแน่(หัวเราะ) ป๊อก : ส่วนเรื่องจดทะเบียนสมรส ก็จดเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนนามสกุลแล้วค่ะ ถามว่ารู้สึกยังไงที่เปลี่ยนนามสกุล ก็อาจจะต้องเขียนยาวขึ้น พยายามลองฝึกลายเซ็นใหม่ ก็มีเขินๆ แต่ตอนจดทะเบียนมือไม่สั่นแล้ว คลายแล้ว เพราะออกมาแล้วค่ะ ซึ่งเรื่องชุดก็ตื่นเต้นว่าต้องเตรียมอะไรยังไงบ้าง ทั้งนี้ทั้งคู่ได้เล่าย้อนถึงบรรยากาศวันหมั้นที่ผ่านมาว่า... ป๊อก : อันดับแรกเลยต้องขออภัยทุกท่านเลยค่ะ ณ วันหมั้นเราไม่ได้เชิญสื่อเลยแม้แต่สื่อเดียว เราจัดการภายในเล็กๆ ในหมู่ญาติพี่น้อง ตั๊ก : เรื่องสินสอดทองหมั้น ก็ธรรมดา ผมมีน้อยตามที่มี เจ้าสาวไม่ว่าอะไร เลข9 เงินสด999,999 บาท ทอง9บาท แต่แหวนไม่ถึง9กะรัตนะ (หัวเราะ) แล้วก็มีที่ 1ไร่แถวรังสิตครับ ป๊อก : แหวนทำมาปีกว่าแล้ว ซึ่งป๊อกออกแบบเองไม่เหมือนใคร แหวนก็ไม่มีความหมายอะไร เราอยากใส่แค่นั้นเอง ได้จากคนที่เราอยากได้อยู่แล้ว เราก็โอเค ตั๊ก : เรือนหอตอนนี้อยู่บ้านป๊อกไปก่อน เพราะบ้านผมกำลังปรับปรุง แต่งเข้าบ้านเขาก่อนเพราะน้ำท่วมปีที่ผ่านมา ส่วนเรื่องหนังนเรศวรก็ได้คุยกับท่านมุ้ย ท่านก็บอกของผมน่าจะแล้วเสร็จแก้ไขอีก2คิวน่าจะเสร็จแล้ว ที่เหลือก็มีแต่ซีจีของพระองค์ท่าน ไม่น่ามีปัญหา ส่วนธีมงานแต่งที่คิดไว้เน้นแบบไทย ตั๊ก : ก็ยังเป็นไทยอยู่ครับ แต่เราอนุญาตให้ประยุกต์ครับ(ยิ้ม) ป๊อก : เพราะเราเป็นคนไทย เราชอบศิลปวัฒนธรรมไทย ถ้าร่างกายมีไทยๆสักชิ้นก็โอเคแล้วค่ะ ตั๊ก : แต่ไม่ได้ใส่มาชิ้นเดียวนะครับ (หัวเราะ) เรื่องงานแต่งตอนนี้ผมวางโครงร่างไว้หมดแล้วครับ เหลือแต่สถานที่อย่างเดียว ยังไม่พร้อมมีทายาทตอนนี้ ป๊อก : คิดว่าตอนนี้ยังไม่ดีกว่าค่ะ แต่ในอนาคตยังไม่แน่ใจ ขอแป๊บนึง ส่วนเรื่องจัดงานเราจะไม่ตระหนกแล้ว เพราะเราจัดงานหมั้นไปแล้ว งานแต่งเราจะจัดเองเพราะเราสนุก เราจะไม่จ้างใคร ไม่ได้จ้างออแกไนซ์ที่ไหนเลย ตั๊ก : ไม่ใช่เราหยิ่งนะครับ แต่เรารู้สึกว่าเราอยากทำอยากเหนื่อย ส่วนการใช้ชีวิตคู่ ปกติผมทำกับข้าวเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ผมรู้สึกว่าการใช้ชีวิตคู่มันเพิ่งเริ่มต้น และเราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้เกร็งกันเกินไป อย่างวันนี้เราก็รู้สึกเลยว่า มันเพิ่งเริ่มต้นชีวิตคู่ ก็บอกเขาไปว่า ในฐานะผู้ชายคนนึง จะบอกว่าเมื่อรักเขาแล้ว เราก็ทำหน้าที่ของเราเป็นผู้ชายที่หนักแน่น เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ถึงแม้ว่าบางทีเราต้องให้เขาเดินนำหน้าบ้าง เราต้องให้เกียรติเขา เรื่องฮันนีมูนนี้ยังไม่ได้คิดเลย เราต้องมองกันข้ามปีขอจัดงานฉลองกันก่อนครับ พิธีวันนี้เติมเต็มชีวิตคู่อย่างไรบ้าง? ป๊อก : ด้วยหลักฐานหลายๆ อย่าง ก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นความจริงแล้ว และเรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่ไปอีกขั้นนึง อย่างน้อยเราได้เห็นมิตรภาพดีๆ ที่พอเราบอกข่าวว่าเราจะเข้าพระราชทานน้ำสังข์ ก็จะมีพวกพี่ๆ หลายๆ ท่านให้ความเมตตา เราเลยรู้สึกว่าดีจังเลย ที่เราเกิดมาได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ดีกับเรา (มีอะไรอยากบอกตั๊กไหม?) เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่หลายๆ อย่างได้ดีอย่างครบถ้วน และพิสูจน์ได้หลายๆ อย่างว่าเราเลือกคนไม่ผิด
ที่มาและภาพจาก http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000075377
จากคุณ |
:
Homme-Mali
|
เขียนเมื่อ |
:
20 มิ.ย. 55 09:50:18
|
|
|
|  |