สถานี 4 ภาค หนังอีกเรื่องที่ขอส่งกำลังใจให้ถึงแม้จะเงียบมาก
|
|
สถานี 4 ภาค เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องของสังคมประเทศไทย ผู้กำกับมีผลงานเรื่องก่อนคือ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ แต่ไม่ค่อยได้รับเสียงตอบรับมากนักและปีนี้ผู้กำกับก็สร้างเรื่องสถานี 4 ภาคให้คนดูหนังกลุ่มเฉพาะได้รับชมกัน
ผมได้มีโอกาสนั่งชมนั่งเรื่องนี้ในวันสุดท้ายของการฉายในโรงภาพยนตร์ลิโด ในความรู้สึกแรกบอกได้เลยว่าไม่ใช่ทางของผมเลยหนังเเนวนี้ แต่ซื้อตั๋วดูก็เพราะคำบอกเล่าของผู้กำกับหน้าโรง "ผมทำหนังเพราะอยากจะเล่าในสิ่งที่ผมอยากเล่า ถ้าไปขอทุนทำก็มีแต่ธุรกิจ" และก็รู้มาว่าผู้กำกับทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สร้างหนังปีล่ะ1 เรื่องตามที่ใจของ เขาได้ฝันเอาไว้
นี่แหละที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อตั๋วหนังทั้งที่คิดว่าไม่อยากจะดูเลยด้วยซ้ำไป
หนังเล่าถึงตัวตนสังคมของคนยากจน 4 ภาคของประเทศไทย ตีความจากในหนังนะครับว่าเป็นคนจน แต่ละเรื่องมีความสมดุลของชีวิตเป็น อย่างมาก สุขได้แค่ไหน ทุกข์มีแค่ไหน ทั้งหมดนี้มันคือมนุษย์ และมนุษย์ก็ต้องทนอยู่ต่อไปเพื่อวันข้างหน้า
บทภาพยนตร์ได้แรงบันดาลใจมาจากนวนิยายหรือเปล่าอันนี้จำไม่ได้ แต่ผมไม่สนใจตรงนั่น ผมสนใจวิธีการ การทำงานร่วมกับชาวบ้านที่ไม่รู้จักการ แสดงเลย วิธีการนี้ คุณต้อยอุรุพงศ์ ผู้กำกับหนังสั้นที่โด่งดังเคยใช้มาเหมือนกัน แต่คุณสืบผู้กำกับหนังสถานี 4 ภาค มีความสนุกกับการทำงานกับชาวบ้าน มีความตั้งใจจากสิ่งที่ตัวเขาคิดจะทำ และสุดท้ายหนังก็สำเร็จมาอย่างภาค ภูมิใจ
ตัวหนังถ้าจะเปรียบว่าเป็นหนังเฉพาะกลุ่มไหมผมก็ว่าน่าจะใช่นะครับ แต่ตัวหนังในเรื่องนี้มันมีพลังบางอย่างที่ทำให้ผมคอยคิดตลอดเวลา ว่าสุดท้ายมันจะจบอย่างไร และก็จริงครับตามสูตรหนังแนวนี้ จบแบบ ปลายเปิด คือให้เราได้คิดต่อ และมันก็ได้ผลจริง ๆ ผมออกมาจากโรงหนัง ขับรถไป ต้องคิดตลอดทางว่า
"ใจผู้กำกับมันทำด้วยอะไร ทำไมเขาถึงรักหนังขนาดนั้น" นั่นเป็นความคิดแรกนะครับ
"ใจของผู้กำกับเค้าคิดอะไร ทำไมทำหนังแบบนี้ออกมา"
"ใจของผู้กำกับเค้าคิดการไกลมากที่จะทำให้เรารู้สึกเขาใจสังคมมากกว่าที่เราเป็นอยู่"
และคำตอบของสิ่งที่คิดทั้งหมดคือ หนังเค้าเจ๋งมากอ่ะ เค้าเล่าเรื่องของคนยาก จนในหลายด้านที่ทำให้เราต้องกลับมามองตัวเองว่า "ที่ตูมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ได้ ยังสบายกว่าใครบางคนที่เราไมได้พบเจอ"
มันอาจจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่มันสะท้อนความคิดให้เราได้รับรู้ว่า "ความจนมันโหดร้ายกับชีวิตคนเสมอ แต่เราจะขนะความจนได้ยังไง"
สิ่งสุดท้ายที่อยากจะบอกให้กับผู้กำกับ ผมปลื้มใจแทนคุณนะครับ เพราะฝรั่งที่นั่งชมอยู่ด้านหน้าผม เขาตั้งใจดูหนังมาก และพอหนังจบเขาก็นั่งฟังการสนทนาระหว่างผู้กำกับกับ คนดูจนจบ ผมไม่รู้นะว่าเขาคิดอะไร แต่ผมรู้อย่างเดียวคือ
ผมปลื้มแทนคุณสืบมากที่มีคนต่างชาติประมาณ 7 คนตีตั๋วหนังของคุณ แทนที่จะดูเรื่องอื่น
จากคุณ |
:
KiLLMovie
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มิ.ย. 55 01:23:25
|
|
|
|