Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขุนศึก เสมา สูงสุดคืนสู่สามัญ ติดต่อทีมงาน

สัปดาห์สุดท้าย ตอนสุดท้ายของขุนศึก จบบริบูรณ์ตามบทประพันธ์

เดินเรื่องแบบทีละเรื่อง จบเป็นเรื่องๆ ค่อยๆคลี่คลาย สมกับตอนสุดท้ายที่สรุปเรื่องทั้งหมด ตามงบประมาณและข้อจำกัด

แม้บางเหตุการณ์เล่าเรื่องด้วยเสียงพากย์แทน เล่าได้เต็มความในส่วนเรื่องของเสมา

ตัวละครหลักทุกตัวมีอนาคตต่างกัน และหายไปจากพงศาวดารในตอนจบ

เหตุการณ์จากตอนแรก ถึงตอนสุดท้าย ใช้เวลาเดินเรื่อง ๑๐ปี
เหตุการณ์ในตอนสุดท้าย ถึงตอนจบ ใช้เวลาเดินเรื่องประมาณ ๒๐ ปี

บันทึกเสียงมีรั่ว ในฉากกลางแจ้ง เช่น เสียงรถเครื่อง


เสมา รับเป็นผู้ใหญ่มาสู่ขอดวงแข ให้หลวงนเรนทร์ภักดี ดวงแขฝันสลาย ชอกช้ำระกาใจ
อย่างว่าเสมาไม่เคยเป็นผู้ใหญ่สู่ขอใคร เลยพูดไม่ค่อยถูก ดวงแขจึงดูแคลนหลวงนเรนทร์ภักดี ราวกับบุษบาดูแคลนจรกา ในอิเหนา ความว่า

              ในลักษณ์นั้นว่าจรกา    รูปชั่วต่ำช้าทั้งศักดิ์ศรี
ทรลักษณ์พิกลอินทรีย์            ดูไหนไม่มีจำเริญใจ
เกศานาสิกขนงเนตร            สมเพชพิปริตผิดวิสัย
เสียงแหบแสบสั่นเป็นพ้นไป   รูปร่างช่างกระไรเหมือนยักษ์มาร
เมื่อยิ้มเหมือนหลอกหยอกเหมือนขู่     ไม่ควรคู่เคียงพักตร์สมัครสมาน
ดั่งกากาลชาติช้าสาธารณ์   มาประมาณหมายหงส์พงศ์พระยา
แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย   อย่ามีคู่เลยจะดีกว่า
พี่พลอยร้อนใจแทนทุกเวลา   ฤาวาสนาน้องจะต้องกัน

(อิเหนา บทพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)

เป็นบุญของหลวงนเรนทร์ภักดีที่มีโอกาสไปเจอคนที่ดีกว่า บ้านนี้แม่ยายดีมาก แต่ลูกๆแสบๆทั้งนั้น


ขันกับพุด เป็นทหารไร้สังกัด เพราะเจ้าพระยาจักรีออกจากราชการเพื่อรับผิดครากบฏมอญ มียศแต่ไร้ศักดิ์แบบเสมาสมัยก่อน


เสมากับเราไร ลงเอยได้ ด้วยพระครูขุนช่วย เทศน์สอนขุนรามจนได้คิด
ฉากในโบสถ์ถ่ายสวยใช้ดอลลี่ กับการซูมเลนส์ทำให้ภาพน่าชม แต่มีเงารถเครื่องแวปผ่านไปแวบหนึง

ขุนรามไม่เคยรู้มาก่อนว่า ปู่เสมาเป็นถึงขุน เมื่อรู้แล้วก็กลัวเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก
กลัวเสียฟอร์มที่จะมารักลูกเขยทั้งที่ไปรังแกเสียนาน พระครูขุนจึงเทศน์โปรดสัตว์ถึงเรื่องนินทานี้ ความว่า

 อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ    ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
แม้องค์พระปฏิมายังราคิน        มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา

(สุนทรภู่ พระอภัยมณี)


งานแต่งจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่มาให้พร แต่ไม่เห็นพ่อเสมา ภูษาเจ้าสาวงามมาก เรไรราวเบญจเพส เสมาใกล้สามสิบ

ฉากในเรือนหอ เรไรมาทราบว่าเสมารักษาของที่ได้รับไว้อย่างดี ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน จึงเข้าใจตัวตนเสมาทั้งหมด
(ว่าผู้พ่ายรัก กลัวเมียไม่รัก ยอมอยู่ในโอวาทเมีย)


สามเดือนต่อมาหลวงพิมาย ใกล้สิ้นลมเสมารีบมาดูใจ พร้อมรับปากจะรับศรีเมืองไปดูแลเป็นเมียอีกคน
สรพงษ์แสดงดีมาก ศรีเมืองแสดงอารมณ์ได้ดี ร่ำไห้น่าสงสาร จนน่าปลอบ ฉากนี้สะเทือนอารมณ์ผู้ชม ถ่ายทำ จัดแสง ตัดต่อดีมาก


เรไร ใจกว้างดั่งแม่น้ำ ยินดีให้ศรีเมืองมาร่วมชายคาด้วย ด้วยเป็นคนดี ใจเย็น เรียบร้อย และอ่อนวัย จะได้ช่วยคุมเสมา ไม่ให้มีคนต่อไป เพราะเสมากลัวเมีย


ขัน ไร้สังกัดแถมโดนพุดทิ้งไปอยู่สังกัดใหม่ ไม่บอกกัน ซ้ำโดนลิ้วล้อซ้อมน่วมอีก เลยน้อยใจจะใช้ดาบเชือดคอตาย แต่กลัวเจ็บ

แม่กับน้องจึงเข้ามาทัน ขันยึดติดในยศศักดิ์ พูดจาแบบสิ้นคิด อกตัญญู จนแม่อำพันพูดว่า

“ใจคอพ่อขัน จะทิ้งแม่กับน้องได้ลงคอรึ”

แม่รำพันแสดงดีมาก ถึงหัวอกแม่ ที่เลี้ยงลูกมาอย่างดี แต่ลูกไม่เอาถ่านเอง
ดีที่ได้ปัญญาของดวงแข ไปขอให้เสมาฝากงานให้ขัน เพราะดวงแขมีบุญคุณ ต่อเสมาหลายครั้ง


เสมารับขัน ไปเป็นทหารรักษาพระราชมณเฑียรแลประตูกำแพงชั้นนอก
พูดง่ายๆเป็นยามเฝ้าวัง และกำแพงวังชั้นนอกก่อน แล้วค่อยเลื่อนทีหลัง จะได้ไม่น่าเกลียด

“หากเราแค้น แลแก้แค้นกันอยู่เช่นนี้ ย่อมผูกเวรกันไม่จบสิ้น ไม่เป็นคุณแก่ผู้ใดเลย จงหยุดด้วยการสิ้นพยาบาทกันเสีย แต่ตรงนี้เถิด”

เสมาช่วยขัน โดยใจเมตตา เนื่องจากอโหสิกรรมไปแล้ว แต่ครั้งเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง สองคนนี้จึงเป็นมิตรกัน ไม่จองเวรกันอีก

ขันไปพบรักบัวเผื่อนจนแต่งงานกัน เพราะทำงานในวังเหมือนกัน

แต่ดวงแข ยังไม่ปล่อยวาง กล่าวคำยุแยง จนเรไรเอ่ยว่า
“แม่ดวงแขพูดให้ฉันเจ็บช้ำแล้วตัวเองมีสุขขึ้นกระนั้นหรือ”

เรไรอโหสิ ให้ดวงแขแล้ว แต่ดวงแขไม่ละทิฐิ จึงต้องทุกข์ระทมเอง


สมเด็จพระนเรศ วรราชาธิราช เสด็จสวรรคต ณ เมืองหาง(เขตเชียงตุง พม่า) ขณะยกทัพไปตีอังวะ รวมพระชนมพรรษา ๕๐พรรษา

สมเด็จพระเอกาทศรุทร(กษัตริย์แห่งเทพยาดา ทั้ง ๑๑ ไม่ใช่รถ ๑๑ คัน)พระอนุชา ทรงขึ้นครองราชย์สืบต่อ

พม่ารามัญ ขาดศึกแก่อยุธยานานถึง ๑๕๐ปีจนถึงเสียกรุงครั้งที่สอง


แปดปีหลังการครองราชย์

เสมาอายุห้าสิบปีแล้ว เป็นออกญารามจตุรงค์ สังกัดสมเด็จพระเอกา

สินกับสมบุญอายุราวสี่สิบแปดปี ย้ายไปสังกัดเจ้าฟ้าสุทัศน์ อุปราชวังหน้า

พุด กับขัน ย้ายไปสังกัดพระอินทราชา


เสมา อายุ ๕๐ปี ปะดาบกับจมื่นศรีสรรักษ์ อายุ ๑๗ปี ข้ารับใช้สนิทของพระอินทราชา
พระเอกฝีมือเหนือกว่า จมื่นไม่ด้อยกว่ามากใช้ท่วงท่าเดียวกันเข้าต่อตี จนท้ายสุดเสมามีชัยแต่ดาบหักเสีย ด้วยดาบซ้อมมิใช่ดาบแสนศึกพ่าย คิวบู๊ดี

เสมาสังหรณ์ใจว่า “สักวันจมื่นศรีสรรักษ์ผู้นี้จะกุมชะตาสำคัญของบ้านเมืองไว้เป็นแน่” ด้วยแรงทะเยอทะยาน บวกฝีมือ


เสมามีบุตรสองคน บุตรชาย วัยสิบขวบ กับ บุตรสาว วัยเจ็ดขวบ เรไร กับศรีเมืองกลมเกลียวกันดี ช่วยกันดูแลครอบครัว


ขันกับพุด เจอตัวการที่สร้าง “แผลเก่า” งานนี้จึงต้องตายไปข้างหนึ่ง พุดตายคาที่ แต่ขันพิการ
บัวเผื่อน ต้องลำบากดูแลขันผู้พิการ แต่ตอนดีๆ ก็กอบโกยไปมิใช่น้อย วิ่งเต้นเก่งขนาดนั้น

ดวงแขช่วยปลดเปลื้องความรู้สึกผิดในใจ ของเสมาตลอดสิบกว่าปี แม้จะมุสาก็ตาม ณ เรือนขัน

“ที่ฉันครองตัวไม่ได้ออกเรือน หาใช่เพราะยังฝังใจเรื่องท่านเจ้าคุณ กับแม่เรไรอยู่ดอกเจ้าค่ะ หากแต่อยู่เช่นนี้ฉันสุขสบายนักจึงไม่อยากออกเรือนไปหาความลำบาก”

ดวงแขยอมเป็นเรือเก่า อยู่บนคานทอง ดีกว่าอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก  เข้าทำนอง

แม้แผ่นดินสิ้นชายที่พึ่งเชย      อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า
เพราะแผ่นดินไม่ไร้เท่าพุทรา   คงถึงคราบุญดีมีมาเอง
แม้แผ่นดินสิ้นชายที่ดีงาม        อย่าไปมัววู่วามทำรีบเร่ง
เพราะผู้ชายแลล้วนควรจะนึกเกรง   ชอบข่มเหงน้ำใจร้ายสิ้นดี

อย่าไปอ่อนเขาวอนให้มีคู่        ถึงจะอยู่แก่เฒ่าก็เข้าที
ไม่ต้องเลอะเปรอะเปื้อนรักปักราคี...ดีกว่ามีมาทำให้ช้ำอุรา
แม้แผ่นดินสิ้นชายที่พึ่งเชย      อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า
เสียร่างกายใจช้ำยังเสียน้ำตา...อยู่ ทึมทึก ดีกว่าให้คร่าเอย

เพลง แม้แผ่นดินสิ้นชาย
ขับร้อง :  ชัชฏาภรณ์  รักษณาเวช

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=656305


ด้วยเหล่าขุนนางแตกแยกกัน สมเด็จพระเอกา มีรับสั่งให้พระอินทราชาออกผนวช

สิน กับสมบุญ ต้องโทษจำคุกประมาณสามปี เหตุการณ์ครั้งนี้สะเทือนใจเสมามาก จึงไปทำสมาธิที่โบสถ์วัดพุทไธศวรรย์ นึกถึงคำสอนพระครูขุน ความว่า

 “เสมาเอ๋ย โลกเรานี้ไม่มีกระไรเที่ยงแท้ดอก ดูแต่ตัวเจ้าเถิด แต่เล็กก็มาอยู่ที่วัด แล้วก็จากไปเป็นทหาร มีอำนาจวาสนารุ่งเรือง
แต่ยามเกิดทุกข์เจ้าก็ยังกลับมาที่วัดอีก ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หมุนเวียนเปลี่ยนไป ไม่มีกระไรแน่นอน ดุจดังดวงตะวันที่ลับหายไปจากขอบฟ้า
แลรอคอยเพลารุ่งอรุณอีก วนเวียนอยู่เช่นนี้ เช่นเดียวกับชีวิตของมนุษย์”


ฉากเสมา กับเรไร พายเรือกลางสระบัว เหมือนกับสมัยเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่เรไรเคยลงเรือ เมื่อเสมานำเรือมาเทียบท่าเพราะขุนรามไม่ให้เหยียบเรือน

ถ่ายสวยมาก ทั้งสองพลอดรักกัน ราวกับครั้งแรกรุ่น
เสมาคิดลาออก หลังสิ้นพ่ออยู่หัว เพราะเบื่อหน่ายการแย่งชิง แม่เรไรเห็นด้วย ความว่า

 “เสมาใจตรงกับฉัน ฉันเองก็อยากให้เสมาออกจากราชการเช่นกัน บัดนี้เราไม่ต้องการกระไรอีกแล้ว จะวนเวียนกับกิเลสให้เกิดทุกข์ไปทำกระไร สู้อยู่เป็นสุขเช่นนี้ไม่ได้”

เสมายิ้มบางๆอย่างสุขใจที่เรไรมีความเห็นตรงกัน ทั้งคู่พายเรือ เก็บดอกบัวหยอกล้อกันไป(ไม่ต้องถามศรีเมือง เพรารู้ว่าไม่มีปัญหา)


เมื่อสมเด็จพระเอกา เสด็จสวรรคต เหล่าขุนนางจึงทูลเชิญเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ขึ้นครองราชย์
แต่จมื่นศรีสรรักษ์ได้นำกำลังทหารบุกเข้าปลงพระชนม์แล้วทูลเชิญพระอิน ทราชาลาผนวชมาขึ้นครองราชย์แทน ทรงพระนามว่า “พระเจ้าทรงธรรม”

ช่วงระหว่างนั้นเกิดเหตุการณ์ ชิงอำนาจอยู่ ๑ปี

เสมาลาออก บวชเป็นภิกษุ ๒ปี
สิน กับสมบุญ จำคุกอยู่  เอื้อยแตง จำเรียง ค้าขาย
ขันพิการ อยู่เรือน กับบัวเผื่อน ดวงแข

ทุกคนจึงไม่เกี่ยวข้องกับการผลัดแผ่นดินครั้งนี้

เสมา สิน สมบุญ ลาออกจากราชการ ประกอบสัมมาชีพ ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุขในปั้นปลายของชีวิต


ขอขอบคุณ ทีวีซีน ผู้จัดและคณะ เหล่านักแสดง ที่ผลิตละครให้มีคุณภาพจนจบเรื่อง ด้วยความประณีต วิริยอุตสาหะ จนสำเร็จด้วยดี

ขอให้มีกำไรดี มีกำลังใจผลิตผลงานที่มีคุณภาพยิ่งๆขึ้นไป

ขอขอบคุณผู้อ่านที่สนใจทุกท่าน ที่สละเวลาอ่าน แนะนำ

ที่เขียนมาบทวิจารณ์นี้ขึ้น เพื่อช่วยขยายความให้เข้าใจง่ายในการชม ทำให้ได้อรรถรสในทุกแง่มุม เท่าที่จะมีความรู้พอขีดเขียน

และชมเชย เสนอแนะต่อทีวีซีน ในการแก้ไขในตอนต่อๆไป ให้ดียิ่งๆขึ้น ซึ่งสามารถรักษาคุณภาพงานได้คงเส้นคงวา ในทุกๆตอน ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง

หากข้อเขียนมีความผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย
เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 55 15:55:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com