 |
[Fate Zero] คุณได้สิ่งดีๆ อะไรบ้างจากการรับชมอนิเมเรื่องนี้ ?
|
 |
จริงๆ วันนี้ว่าจะเขียนบางสิ่งบางอย่างต่อ หลังจากว่างเว้นไปนาน แต่ก็มีเหตุหนึ่งมาดลใจอย่างไม่คาดฝัน เลยตัดสินใจมาตั้งกระทู้นี้ในวันนี้ในที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าถ้าจุดประเด็นขึ้นมา ทุกคนคงมีคำตอบอยู่ในใจ มีความคิดอยู่ในมือ และมีความเห็นที่อยากจะระบายถ่ายทอดออกมา ผ่านตัวอักษรที่ไร้จุดจบอันเป็นอนันต์
จุดประสงค์ของกระทู้นี้เป็นคำถามง่ายๆ ว่า ดูอนิเมเรื่องนี้จบแล้ว คุณได้รับสิ่งดีๆ อะไรกลับไปบ้าง
สำหรับเราที่ขอประเดิมคำตอบก่อนแล้ว แน่นอนว่าตั้งแต่เริ่มต้นติดตาม จนถึงจุดลาจากของเรื่องในตอนสุดท้ายนี้ นับได้ว่า มีทั้งทุกข์-สุข อบอุ่นยิ้มได้ ร้อนรนจนใจสั่น ทั้งประหลาด อัศจรรย์ ตื่นเต้น ตกใจ ทั้งอยากเอาใจช่วย บางทีอยากสาปส่ง บางช่วงอึดอัด บางตอนคับข้อง บ้างก็ผ่อนคลาย แต่บางคราก็สยดสยองขวัญ ฯลฯ
มันหลากหลายรูปแบบอรรถรสที่ผสมผสานกันอยู่อย่างลงตัว แม้ว่าบางจุดเราจะบ่นๆ ไปบ้าง แต่โดยภาพรวมก็ยังถือว่าเป็นอนิเมที่สร้างความประทับใจให้เราได้มากมายอยู่ดี ทั้งๆ ที่เราอ่านการ์ตูนอยู่ไม่มากนัก อนิเมก็ตามแค่ไม่กี่เรื่อง แทบจะนับได้ จำได้ว่าเรื่องที่ทำให้ซาบซึ่งใจมากก็เคยมีแค่บุปผาคู่บัลลังก์ , Tsubasa Chronicle , โฮลิค , โค้ดกีอัส นอกนั้นก็ดูผ่านๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ( รวมถึงเฟทสเตย์ไนท์ด้วย ถึงตามดูแต่ก็ค่อนข้างเฉยๆ )
แต่ ณ ตอนนี้ต้องยอมรับว่า Fate Zero ทำให้ทัศนคติหลายๆ อย่างของเราเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องราวของ เอมิยะ คิริสึงุ ใครจะรู้ว่าคนที่เราสาปส่งที่สุดในตอนแรกๆ ของเรื่อง จะกลายเป็นม้ามืดที่เอาคะแนนความสงสารไปจากเรามากที่สุดในตอนสุดท้าย ภาพของเขาผู้มีใบหน้าเศร้าโศกหม่นหมองเจือปนแววตาเหลือกตะลึงลาญ ในคราวที่พุ่งทะยานตัวออกไปท่ามกลางทะเลเพลิงโหมไหม้ เขาที่ทำได้แค่ขุดคุ้ยเศษซากปรักหักพังค้นหาสิ่งมีชีวิตที่เหลือรอด เพียงเพื่อหวังจะได้พบเห็นแม้เพียงหนึ่งลมหายใจของผู้อื่นที่เปรียบดั่งสิ่งปลอบประโลมใจคนรู้สึกผิดบาปเช่นนั้น มันช่างน่าสงสารจับจิตจับใจเสียจนผู้ชมอย่างเราอดกลั้นน้ำตาไว้แทบไม่ได้ โดยเฉพาะดวงหน้าเปื้อนน้ำตาของคิริสึงุที่ประคองข้อมือของชิโร่ไว้แล้วกล่าวคำขอบคุณ(ที่เด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ) ความเจ็บปวดอันใดที่เคยผ่านมาก่อนในชีวิต ก็แทบจะไม่สามารถนำมาอธิบายเทียบเท่ากับความสิ้นหวังของชายคนนี้ได้ทั้งหมดในตอนจบได้เลย
อนึ่งฉากสุดท้ายที่ชิโร่พูดคุยกับคิริสึงุและพูดว่าจะสืบทอดเจตนารมณ์ของคิริสึงุที่ไม่สมหวังนั้น มันทำให้รู้สึกตื้นตันใจมาก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้าต่อไปจากนี้ ก็รู้สึกอยากเอาใจช่วยชิโร่จากก้นบึ้งหัวใจผู้ชมอย่างเรา ทั้งที่เราไม่ค่อยใส่ใจชิโร่ในภาคสเตย์ไนท์เท่าไหร่นักออกจะไม่ชอบด้วยซ้ำไป
และมันรู้สึกลงตัวดื่มด่ำมากที่สุดก็คือการย้อนศรคำถามของเชอร์เลย์ทิ้งท้ายไว้ประมาณว่า คิริสึงุอยากโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แบบไหน คำตอบนั้นของคิริสึงุทำให้เรารู้สึกสะท้อนใจมาก แม้ดูเหมือนจะขัดแย้งกับสิ่งที่เคยพบพานผ่านมาในชีวิตนักฆ่าของคิริสึงุ แต่นั่นก็เป็นความปรารถนาดั้งเดิมที่เขาได้ตั้งใจเอาไว้ ช่างงดงามและสูงส่งแต่กลับเป็นอุดมคติที่ห่างไกลเกินเอื้อม และยิ่งพอคิดว่าในค่ำคืนที่ดวงจันทร์อันงดงามนั้น เป็นวาระสุดท้ายของชีวิตป๋าคิริสึงุแล้วก็ยิ่งสลดใจแต่ก็ผ่อนคลายปลดปลงแทนป๋า ตรงที่ยังมีชิโร่อยู่ตรงนั้นล่ะ
มันสะท้อนให้เห็นได้อย่างหนึ่งว่า บางครั้งความฝันและความปรารถนาของคนเรา แม้จะเด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง แกร่งกล้าเพียงใด แต่สุดท้ายมันก็อาจจะพังทลายลงมาได้ ถ้าหากหนทางที่เดินผ่านเหยียบข้ามมานั้น เราได้เคยหลงลืม ละเลย หรือทอดทิ้ง อะไรบางอย่าง ไป ซึ่ง อะไรบางอย่าง เหล่านั้น เป็นสิ่งที่มีค่าไม่เท่ากันในมุมมองของแต่ละคน และ อะไรบางอย่าง นี่เอง ที่สุดท้ายแล้วก็เป็นสิ่งที่ชดเชยความหวังของป๋าเขาได้ในตอนท้ายที่สุดสุดท้ายนั่นเอง ( แล้ว อะไรบางอย่าง นั่น ตกลงมันคืออะไร ? นั่นเป็นสิ่งที่แล้วแต่คุณจะตีความแตกต่างกันออกไป )
นั่นคือสิ่งที่เราคิดว่าได้รับจากปลายปากกาจินตนาการความฝันของผู้แต่งเฟทซีโร่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ จขกท ได้รับอย่างเป็นรูปธรรมในชีวิตจริงๆ แม้จะไม่สามารถสัมผัสจับต้องได้เสียทีเดียว แต่ทุกครั้งที่ได้เห็น ได้มอง ได้รับรู้ ก็ให้รู้สึกอบอุ่นประทับใจไม่รู้ลืม นั่นก็คือ เหล่าผองเพื่อนในโลกไซเบอร์แห่งนี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นคำถามแบบใด ความคิดเห็นแบบไหน ก็ล้วนได้รับความอนุเคราะห์เกื้อกูลไขข้อข้องใจได้เสียทุกทีไป แม้บางความเห็นของเราจะบ้าบิ่นมุทะลุไปด้วยความหลงอยู่บ้าง แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงมิตรไมตรีที่ดีต่อกันได้ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งสิ่งนี้นี่เองที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจที่ได้คลิกเข้ามาที่ห้องการ์ตูนในพันทิปเสมอมา
ในตอนนี้ เฟทซีโร่ก็ได้อวสานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสมาอภิปรายข้อมูลความรู้ในลักษณะเช่นนี้อีกหรือไม่มากน้อยเพียงใด พอคิดอย่างนั้นแล้วก็ให้รู้สึกสลดหดหู่ใจ เสียดายความผูกพันกับทุกๆ คนในที่นี้ และคิดถึงวันเก่าๆ ที่อาจจะต้องค่อยๆ ห่างหายไปในอนาคตอันใกล้นี้ หงส์ฯ เองก็คิดว่ากระทู้นี้ คงเป็นกระทู้สุดท้ายแล้ว ที่จะได้มีโอกาสตั้งขึ้นเพื่อระดมพลังความคิดเห็นของเหล่าคนผู้รักซีรี่ย์เฟทซีโร่ เพราะเมื่อการ์ตูนจบลง กระแสก็คงจะเริ่มสร่างซาไป และไม่นานการพูดคุยสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างสนุกสนานละเอียดลออแบบนี้ ก็คงร้างลาไปตามการณ์ด้วยเช่นกัน แต่ก็คงหักห้ามปรากฏการณ์นั้นไม่ได้ เพราะงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา การสนทนาใดๆ ก็ตามย่อมมีคราต้องยุติในที่สุด
แต่สิ่งหนึ่งที่จะยังคงประทับใจไม่รู้ลืม คือความรู้สึกดีๆ ทั้งที่มีต่อเหล่าเพื่อนพองผู้ชม Fate Zero และกับทั้งตัวละครทุกๆ คนในเรื่องนี้ ซึ่งไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี แต่ถึงที่สุดแล้วเขาก็เป็นตัวจำลองของจิตใจมนุษย์ที่สุดแสนจะล้ำลึก และมีความพยายามในการตะเกียกตะกายไปให้ถึงซึ่งความฝันอันเหนือความคาดหมายจะหยั่งถึงได้ทั้งหมดทั้งปวงนั่นเอง
สุดท้ายเราขอขอบคุณมิตรจิตจากล็อคอิน ดังนี้
คุณม้าใช้ - คลังข้อมูลที่เราจำติดใจที่สุด และยังเป็นท่านที่เรามอบใจ (กิ๊บ) ให้มากที่สุดอีกด้วย
คุณKross_ISC สุดยอดผู้วิเคราะห์ประเด็นหลักได้อย่างเยี่ยมยิ่งเท่าที่เคยมีมา ไม่มีครั้งใดที่เขาตั้งกระทู้หรือแสดงความเห็นแล้วเราจะมองข้ามผ่านไปเฉยๆ ได้
คุณกุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - อนุเคราะห์ข้อมูลดีๆ มาในครั้งหนึ่งซึ่งเราซึ้งใจจนขออนุญาตประกาศนามไว้ ณ ที่นี้
คุณหมาป่าเงอะงะ ถ้าไม่มีข้อความจากคุณ เราคงไม่รู้ว่า SS 2 ฉายเมื่อไหร่ และได้คุยแลกเปลี่ยนข้อมูลดีๆ มากมายจริงๆ
คุณอากาศไม่เป็นใจ , คุณ realEVE - เจอกันครั้งใดสุขใจทุกทีกับอุดมการณ์โบกป้ายแฟนคลับลุงโทคิโอมิ ^_^
คุณไล่ฮก จำได้ว่าเป็นท่านที่ตั้งกระทู้ไว้มากมายและเราก็ชอบแวะเข้าไปอ่าน เข้าไปแสดงความคิดเห็น มีโหวตบ้างบ่อยๆ เป็นท่านที่ทำให้กระทู้เฟทคึกคักดีเป็นระยะๆ
คุณSt.RL เจอกันบ่อยในกระทู้เฟท วลีบางตอนก็คมคายเสียจนเราต้องจดเก็บไว้ เท่าที่จำได้ดีที่สุดก็มีเรื่องที่กล่าวถึงความต่างทางคุณค่าของฝุ่นและทราย
คุณตลกวิชาการ - บางทีอ่านข้อความคุณแล้วอดอมยิ้มไม่ได้นะ ตลกปนซึ้งดี
และอีกมากมายหลายคนเหลือจะคณานับที่เรายังไม่ได้เอ่ยถึง ก็ต้องขออภัยไว้อย่างสูง ณ ที่นี้ แต่ถึงอย่างไรเสีย ก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีเยื่อใยไมตรีต่อกันเลยนะคะ อย่าได้น้อยใจยาไปเลย ด้วยเหตุนี้จึงขอเชิญท่านเข้ามาปั้มตราชื่อไว้ ณ ที่นี้ได้เลย กับคำถามของกระทู้นี้ ที่ว่า คุณได้อะไรดีๆ จากอนิเม Fate Zero บ้าง ?
ปล. ถ้าอนิเมเรื่องนี้ได้ลิขสิทธิ์เข้าไทยก็ดีเลยสิ แต่ที่ดียิ่งกว่าดี คือเอาส่วนที่เป็นนิยายมาเป็นลิขสิทธิ์แปลไทยด้วยเลยนี่จะเยี่ยมมาก เพราะเราอ่านภาษาอังกฤษไม่คล่อง ( เท่านี้ก็บอกได้ว่าไม่ต้องสืบถึงภาษาญี่ปุ่นเลย ) แต่พอดูอนิเมแล้ว ชักอยากติดตามอ่านนิยายขึ้นมาบ้างจัง (ทั้งๆ ที่ ปกติเรา จะไม่อ่านนิยายเลย เพราะเป็นเรื่องแต่งที่ยาวเกินความสามารถจะตั้งสมาธิอ่านได้จนจบ แต่เราคิดว่าถ้าเป็น Fate Zero อาจจะอ่านจนจบก็ได้นะ )
สุดท้าย ขออภัยที่ข้อความในหัวข้อกระทู้นี้ยาวมากมายไปไม่น้อยเลยทีเดียว
จากคุณ |
:
หงส์อรุณ
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มิ.ย. 55 22:18:23
|
|
|
|  |