Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[Fate Zero] คุณได้สิ่งดีๆ อะไรบ้างจากการรับชมอนิเมเรื่องนี้ ? ติดต่อทีมงาน

จริงๆ วันนี้ว่าจะเขียนบางสิ่งบางอย่างต่อ  หลังจากว่างเว้นไปนาน  แต่ก็มีเหตุหนึ่งมาดลใจอย่างไม่คาดฝัน  เลยตัดสินใจมาตั้งกระทู้นี้ในวันนี้ในที่สุด   นั่นเป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าถ้าจุดประเด็นขึ้นมา   ทุกคนคงมีคำตอบอยู่ในใจ  มีความคิดอยู่ในมือ  และมีความเห็นที่อยากจะระบายถ่ายทอดออกมา  ผ่านตัวอักษรที่ไร้จุดจบอันเป็นอนันต์

จุดประสงค์ของกระทู้นี้เป็นคำถามง่ายๆ ว่า  “ ดูอนิเมเรื่องนี้จบแล้ว  คุณได้รับสิ่งดีๆ อะไรกลับไปบ้าง ”  

สำหรับเราที่ขอประเดิมคำตอบก่อนแล้ว  แน่นอนว่าตั้งแต่เริ่มต้นติดตาม  จนถึงจุดลาจากของเรื่องในตอนสุดท้ายนี้  นับได้ว่า  มีทั้งทุกข์-สุข   อบอุ่นยิ้มได้   ร้อนรนจนใจสั่น   ทั้งประหลาด   อัศจรรย์   ตื่นเต้น  ตกใจ   ทั้งอยากเอาใจช่วย   บางทีอยากสาปส่ง   บางช่วงอึดอัด   บางตอนคับข้อง   บ้างก็ผ่อนคลาย  แต่บางคราก็สยดสยองขวัญ  ฯลฯ  

มันหลากหลายรูปแบบอรรถรสที่ผสมผสานกันอยู่อย่างลงตัว  แม้ว่าบางจุดเราจะบ่นๆ ไปบ้าง  แต่โดยภาพรวมก็ยังถือว่าเป็นอนิเมที่สร้างความประทับใจให้เราได้มากมายอยู่ดี   ทั้งๆ ที่เราอ่านการ์ตูนอยู่ไม่มากนัก  อนิเมก็ตามแค่ไม่กี่เรื่อง  แทบจะนับได้  จำได้ว่าเรื่องที่ทำให้ซาบซึ่งใจมากก็เคยมีแค่บุปผาคู่บัลลังก์  ,  Tsubasa Chronicle , โฮลิค    ,  โค้ดกีอัส    นอกนั้นก็ดูผ่านๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ( รวมถึงเฟทสเตย์ไนท์ด้วย ถึงตามดูแต่ก็ค่อนข้างเฉยๆ )  

แต่ ณ ตอนนี้ต้องยอมรับว่า Fate Zero ทำให้ทัศนคติหลายๆ อย่างของเราเปลี่ยนไป  โดยเฉพาะเรื่องราวของ “เอมิยะ  คิริสึงุ”  ใครจะรู้ว่าคนที่เราสาปส่งที่สุดในตอนแรกๆ ของเรื่อง  จะกลายเป็นม้ามืดที่เอาคะแนนความสงสารไปจากเรามากที่สุดในตอนสุดท้าย  ภาพของเขาผู้มีใบหน้าเศร้าโศกหม่นหมองเจือปนแววตาเหลือกตะลึงลาญ  ในคราวที่พุ่งทะยานตัวออกไปท่ามกลางทะเลเพลิงโหมไหม้   เขาที่ทำได้แค่ขุดคุ้ยเศษซากปรักหักพังค้นหาสิ่งมีชีวิตที่เหลือรอด  เพียงเพื่อหวังจะได้พบเห็นแม้เพียงหนึ่งลมหายใจของผู้อื่นที่เปรียบดั่งสิ่งปลอบประโลมใจคนรู้สึกผิดบาปเช่นนั้น  มันช่างน่าสงสารจับจิตจับใจเสียจนผู้ชมอย่างเราอดกลั้นน้ำตาไว้แทบไม่ได้  โดยเฉพาะดวงหน้าเปื้อนน้ำตาของคิริสึงุที่ประคองข้อมือของชิโร่ไว้แล้วกล่าวคำขอบคุณ(ที่เด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ )  ความเจ็บปวดอันใดที่เคยผ่านมาก่อนในชีวิต  ก็แทบจะไม่สามารถนำมาอธิบายเทียบเท่ากับความสิ้นหวังของชายคนนี้ได้ทั้งหมดในตอนจบได้เลย  

อนึ่งฉากสุดท้ายที่ชิโร่พูดคุยกับคิริสึงุและพูดว่าจะสืบทอดเจตนารมณ์ของคิริสึงุที่ไม่สมหวังนั้น  มันทำให้รู้สึกตื้นตันใจมาก  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้าต่อไปจากนี้  ก็รู้สึกอยากเอาใจช่วยชิโร่จากก้นบึ้งหัวใจผู้ชมอย่างเรา ทั้งที่เราไม่ค่อยใส่ใจชิโร่ในภาคสเตย์ไนท์เท่าไหร่นักออกจะไม่ชอบด้วยซ้ำไป

และมันรู้สึกลงตัวดื่มด่ำมากที่สุดก็คือการย้อนศรคำถามของเชอร์เลย์ทิ้งท้ายไว้ประมาณว่า  คิริสึงุอยากโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แบบไหน  คำตอบนั้นของคิริสึงุทำให้เรารู้สึกสะท้อนใจมาก  แม้ดูเหมือนจะขัดแย้งกับสิ่งที่เคยพบพานผ่านมาในชีวิตนักฆ่าของคิริสึงุ  แต่นั่นก็เป็นความปรารถนาดั้งเดิมที่เขาได้ตั้งใจเอาไว้   ช่างงดงามและสูงส่งแต่กลับเป็นอุดมคติที่ห่างไกลเกินเอื้อม   และยิ่งพอคิดว่าในค่ำคืนที่ดวงจันทร์อันงดงามนั้น  เป็นวาระสุดท้ายของชีวิตป๋าคิริสึงุแล้วก็ยิ่งสลดใจแต่ก็ผ่อนคลายปลดปลงแทนป๋า  ตรงที่ยังมีชิโร่อยู่ตรงนั้นล่ะ

มันสะท้อนให้เห็นได้อย่างหนึ่งว่า  บางครั้งความฝันและความปรารถนาของคนเรา  แม้จะเด็ดเดี่ยว  เข้มแข็ง  แกร่งกล้าเพียงใด  แต่สุดท้ายมันก็อาจจะพังทลายลงมาได้   ถ้าหากหนทางที่เดินผ่านเหยียบข้ามมานั้น  เราได้เคยหลงลืม  ละเลย  หรือทอดทิ้ง “อะไรบางอย่าง” ไป   ซึ่ง “อะไรบางอย่าง”  เหล่านั้น  เป็นสิ่งที่มีค่าไม่เท่ากันในมุมมองของแต่ละคน   และ “อะไรบางอย่าง”  นี่เอง  ที่สุดท้ายแล้วก็เป็นสิ่งที่ชดเชยความหวังของป๋าเขาได้ในตอนท้ายที่สุดสุดท้ายนั่นเอง ( แล้ว “อะไรบางอย่าง”  นั่น  ตกลงมันคืออะไร ?  นั่นเป็นสิ่งที่แล้วแต่คุณจะตีความแตกต่างกันออกไป )

นั่นคือสิ่งที่เราคิดว่าได้รับจากปลายปากกาจินตนาการความฝันของผู้แต่งเฟทซีโร่   แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ จขกท  ได้รับอย่างเป็นรูปธรรมในชีวิตจริงๆ แม้จะไม่สามารถสัมผัสจับต้องได้เสียทีเดียว  แต่ทุกครั้งที่ได้เห็น  ได้มอง  ได้รับรู้  ก็ให้รู้สึกอบอุ่นประทับใจไม่รู้ลืม  นั่นก็คือ  “ เหล่าผองเพื่อนในโลกไซเบอร์แห่งนี้ ”  ที่ไม่ว่าจะเป็นคำถามแบบใด  ความคิดเห็นแบบไหน  ก็ล้วนได้รับความอนุเคราะห์เกื้อกูลไขข้อข้องใจได้เสียทุกทีไป    แม้บางความเห็นของเราจะบ้าบิ่นมุทะลุไปด้วยความหลงอยู่บ้าง  แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงมิตรไมตรีที่ดีต่อกันได้ไม่เปลี่ยนแปลง  ซึ่งสิ่งนี้นี่เองที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจที่ได้คลิกเข้ามาที่ห้องการ์ตูนในพันทิปเสมอมา

ในตอนนี้   เฟทซีโร่ก็ได้อวสานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสมาอภิปรายข้อมูลความรู้ในลักษณะเช่นนี้อีกหรือไม่มากน้อยเพียงใด   พอคิดอย่างนั้นแล้วก็ให้รู้สึกสลดหดหู่ใจ  เสียดายความผูกพันกับทุกๆ คนในที่นี้  และคิดถึงวันเก่าๆ ที่อาจจะต้องค่อยๆ ห่างหายไปในอนาคตอันใกล้นี้ หงส์ฯ เองก็คิดว่ากระทู้นี้   คงเป็นกระทู้สุดท้ายแล้ว   ที่จะได้มีโอกาสตั้งขึ้นเพื่อระดมพลังความคิดเห็นของเหล่าคนผู้รักซีรี่ย์เฟทซีโร่   เพราะเมื่อการ์ตูนจบลง  กระแสก็คงจะเริ่มสร่างซาไป  และไม่นานการพูดคุยสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างสนุกสนานละเอียดลออแบบนี้  ก็คงร้างลาไปตามการณ์ด้วยเช่นกัน  แต่ก็คงหักห้ามปรากฏการณ์นั้นไม่ได้  เพราะงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา  การสนทนาใดๆ ก็ตามย่อมมีคราต้องยุติในที่สุด  

แต่สิ่งหนึ่งที่จะยังคงประทับใจไม่รู้ลืม  คือความรู้สึกดีๆ  ทั้งที่มีต่อเหล่าเพื่อนพองผู้ชม Fate Zero และกับทั้งตัวละครทุกๆ คนในเรื่องนี้  ซึ่งไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี  แต่ถึงที่สุดแล้วเขาก็เป็นตัวจำลองของจิตใจมนุษย์ที่สุดแสนจะล้ำลึก   และมีความพยายามในการตะเกียกตะกายไปให้ถึงซึ่งความฝันอันเหนือความคาดหมายจะหยั่งถึงได้ทั้งหมดทั้งปวงนั่นเอง  

สุดท้ายเราขอขอบคุณมิตรจิตจากล็อคอิน  ดังนี้

คุณม้าใช้  - คลังข้อมูลที่เราจำติดใจที่สุด  และยังเป็นท่านที่เรามอบใจ (กิ๊บ) ให้มากที่สุดอีกด้วย

คุณKross_ISC – สุดยอดผู้วิเคราะห์ประเด็นหลักได้อย่างเยี่ยมยิ่งเท่าที่เคยมีมา  ไม่มีครั้งใดที่เขาตั้งกระทู้หรือแสดงความเห็นแล้วเราจะมองข้ามผ่านไปเฉยๆ ได้

คุณกุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย -  อนุเคราะห์ข้อมูลดีๆ มาในครั้งหนึ่งซึ่งเราซึ้งใจจนขออนุญาตประกาศนามไว้
ณ ที่นี้

คุณหมาป่าเงอะงะ – ถ้าไม่มีข้อความจากคุณ  เราคงไม่รู้ว่า SS 2 ฉายเมื่อไหร่  และได้คุยแลกเปลี่ยนข้อมูลดีๆ มากมายจริงๆ

คุณอากาศไม่เป็นใจ , คุณ realEVE  - เจอกันครั้งใดสุขใจทุกทีกับอุดมการณ์โบกป้ายแฟนคลับลุงโทคิโอมิ ^_^

คุณไล่ฮก – จำได้ว่าเป็นท่านที่ตั้งกระทู้ไว้มากมายและเราก็ชอบแวะเข้าไปอ่าน  เข้าไปแสดงความคิดเห็น  มีโหวตบ้างบ่อยๆ เป็นท่านที่ทำให้กระทู้เฟทคึกคักดีเป็นระยะๆ

คุณSt.RL – เจอกันบ่อยในกระทู้เฟท  วลีบางตอนก็คมคายเสียจนเราต้องจดเก็บไว้  เท่าที่จำได้ดีที่สุดก็มีเรื่องที่กล่าวถึงความต่างทางคุณค่าของฝุ่นและทราย

คุณตลกวิชาการ -  บางทีอ่านข้อความคุณแล้วอดอมยิ้มไม่ได้นะ  ตลกปนซึ้งดี

และอีกมากมายหลายคนเหลือจะคณานับที่เรายังไม่ได้เอ่ยถึง  ก็ต้องขออภัยไว้อย่างสูง ณ ที่นี้  แต่ถึงอย่างไรเสีย  ก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีเยื่อใยไมตรีต่อกันเลยนะคะ  อย่าได้น้อยใจยาไปเลย  ด้วยเหตุนี้จึงขอเชิญท่านเข้ามาปั้มตราชื่อไว้ ณ ที่นี้ได้เลย  กับคำถามของกระทู้นี้   ที่ว่า  “ คุณได้อะไรดีๆ จากอนิเม Fate Zero บ้าง ? ”

ปล.  ถ้าอนิเมเรื่องนี้ได้ลิขสิทธิ์เข้าไทยก็ดีเลยสิ  แต่ที่ดียิ่งกว่าดี  คือเอาส่วนที่เป็นนิยายมาเป็นลิขสิทธิ์แปลไทยด้วยเลยนี่จะเยี่ยมมาก  เพราะเราอ่านภาษาอังกฤษไม่คล่อง ( เท่านี้ก็บอกได้ว่าไม่ต้องสืบถึงภาษาญี่ปุ่นเลย )  แต่พอดูอนิเมแล้ว   ชักอยากติดตามอ่านนิยายขึ้นมาบ้างจัง  (ทั้งๆ ที่ ปกติเรา จะไม่อ่านนิยายเลย  เพราะเป็นเรื่องแต่งที่ยาวเกินความสามารถจะตั้งสมาธิอ่านได้จนจบ  แต่เราคิดว่าถ้าเป็น Fate Zero อาจจะอ่านจนจบก็ได้นะ )

สุดท้าย  ขออภัยที่ข้อความในหัวข้อกระทู้นี้ยาวมากมายไปไม่น้อยเลยทีเดียว

จากคุณ : หงส์อรุณ
เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:18:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com