ขุนศึก บทส่งท้าย สรุปคุณภาพงานผลิตละคร

บทประพันธ์
ไม้เมืองเดิม ซึ่งแต่งไม่จบ ใช้เวลาแต่งได้สองปีเศษ ได้เสียชีวิตไปก่อน
สุมทุม บุญเกื้อ(น้องชาย) แต่งต่อจนจบบริบูรณ์


บทละคร
ดัดแปลงจากบทประพันธ์ได้ดี กระชับ เน้นการต่อสู้ และให้เสมาเป็นตัวเอกเดินเรื่อง เป็นบุคลที่สามเล่าเรื่องในประวัติศาสตร์  

เสมาเป็นตัวละครที่มีส่วนร่วม ในวีรกรรมของพระนเรศจนกู้กรุงสำเร็จ โดยไม่ได้ทำให้ประวัติศาสตร์ยุ่งเหยิง แลจากไปอย่างไร้ร่องรอย

บทละครมีแต่เนื้อไม่มีน้ำ เล่าเรื่องแบบเส้นตรง ตามเส้นเวลา

บทเขียนอ้างอิงข้อมูลจากพงศาวดารไทยรบพม่า โดยไม่นำเหตุการณ์ที่ยังสรุปไม่ได้ทางวิชาการ มาทำให้เป็นประเด็น

เอกลิขิต นำความเหมาะสมในการเชื่อมโยงเหตุการณ์มาพัฒนาบท
เช่นเดียวกับไม้เมืองเดิม ที่นำช่องว่าง ข้อยกเว้น ทางประวัติศาสตร์ สังคมยุคนั้น มาสร้างเงื่อนไขในการเดินเรื่อง

เป็นการพัฒนาแนวการประพันธ์ต่อจากนิยาย “ทหารเอกพระบัณฑูร” เป็นเรื่องสมัยเสียกรุงครั้งที่ 2  ที่ไม้เมืองเดิมประพันธ์ไว้ในช่วงแรกๆ

พัฒนาการตัวละครดีมาก มีความลึก มีจุดเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ ไม่ใช่ผ่านแล้วผ่านเลย
ทำให้การคิดอ่านของตัวละครทีที่มาที่ไป มีกิเลส ตัณหา คุณธรรม หิริโอตัปปะไม่เท่ากัน ไม่ใช่คนบ้องตื้น หรือถูกยัดเยียดให้เป็น

บทเจรจาสำนวนโบราณแต่กะทัดรัด ได้ใจความ ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ใช้ภาษาสุภาพไม่หยาบคาย
ระดับภาษาที่ใช้สื่อสารระหว่างชนชั้นแบ่งชัดเจน ค้นคว้ามาดี มีปรากฏในเอกสารโบราณ

คุณแมวมึนส์(tutorcat)ได้ให้ความเห็นต่อบทละคร ไว้ว่า

แมวชอบคนเขียนบทที่มีมุมมองสงครามว่า เป็นเรื่องของการปกครองและผลประโยชน์ของผู้คนในแต่ละอาณาจักร

คือไม่ใช่จะมีฝ่ายร้าย ฝ่ายดี แบบขาวกับดำเลย

พม่าต้องตีเมืองขึ้นที่แข็งเมือง ฝ่ายไทยก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ทำเมืองขึ้นอื่นๆก็จะเห็นเป็นเยี่ยงอย่าง

จากคุณ  : พิมพ์บน 3310 : แมวมึนส์ (tutorcat)

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12166667/A12166667.html


นักแสดง
ดีแบบสามประสาน คือ ใหญ่ กลาง ใหม่ ทำงานส่งเสริมกันดี ทำให้ถ่ายทอดเรื่องราวได้ราบรื่น

รุ่นใหญ่แสดงดีทุกท่าน ออกเสียงถูกสำเนียง เนิบนุ่ม มีหางเสียง ไม่ห้วนแห้งแบบมะนาวไม่มีน้ำ จนออกเสียงเพี้ยนจากตัวเขียน ซึ่งเป็นธรรมดาของภาษาที่ยังไม่ตาย

เสมา อธิชาติ รูปกายแบบชายอกสามศอก สมกับบทเสมา ลักษณะใกล้เคียงบทประพันธ์
แสดงได้ทุกอารมณ์ ทุ่มเทเต็มที่ ทั้งแรงกาย แรงใจ แลเพลา ไม่มีใครเหมาะกว่านี้แล้วในช่อง3

เรไร พลอย เหมาะสมกับบทละคร ด้วยลักษณะครอบครัว และสถานการณ์ เป็นคนดื้อเงียบ หัวแข็ง ใจเด็ด แบบแข็งนอกอ่อนใน
สามารถสื่อออกมาได้ดี ถ้าไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์นักแสดง เพียงแต่ลีลาการเดินไม่เป็นแบบสาวชาววัง

พุด ดูแล้วไม่ต้องตีความ เป็นตัวร้ายชัดเจนเหมือนละครโบราณ แสดงความชั่วร้ายได้ตลอดเรื่อง ไม่มีผีเข้าผีออก บู๊ได้ดี

ขัน แสดงหลากอารมณ์รัก ชัง แค้น เป็นคนชั่วเพราะหูเบา คบคนชั่วเป็นมิตร บู๊ได้ดีสมกับประสบการณ์สั่งสม

สิน สมบุญ แสดงนิสัยต่างกันชัดเจน ลุยได้ทุกฉาก เสริมให้พระเอกเป็นพี่ใหญ่ จากทาส ไพร่ ขึ้นมาเป็นคุณหลวง ดูติดดิน ฝีมือมาปรากฏชัดจากเรื่องนี้ บู๊ได้ดี

เอื้อยแตง ดวงแข บัวเผื่อน ฝีมือไม่ผิดหวัง บทยากต้องชิงไหวชิงพริบ แสดงอารมณ์หลากหลาย แถมมีหักมุมตอนท้ายอีก

จำเรียง ศรีเมือง แสดงได้ดี มีพัฒนาการ ผู้จัดวางบทเหมาะสม ไม่ถ่วงรุ่นพี่ๆ มีโอกาสรับบทยากๆในอนาคต

พระนเรศ พระเอกา เหมาะสมถึงแม้ดูไม่ดุดัน ล่ำสันแบบในภาพยนตร์ แต่การแสดงสีหน้า แววตา น้ำเสียง โดดเด่น ดูเป็นนักปกครอง
บทละครเสริมให้พระเอกา มีส่วนช่วยพระนเรศ ในหลายภารกิจ ซึ่งต่างจากภาพยนตร์

พระราชมนู หน้าเป็นไทย แสดงดี บทละครไม่ต้องมีเรื่องเสียเวลา มีวินัย ใส่ใจราชการ

พระเจ้านันทบุเรง ไม่มีใครเหมาะกว่านี้อีกแล้ว

พระมหาอุปราช แสดงดี น้ำเสียงตอนสำคัญหนักแน่นมีพลัง แต่อายุน้อยไปไม่ตรงกับประวัติศาสตร์

พระเจ้าแปร แสดงดี มีความนิ่ง แต่อายุน้อยไปไม่ตรงกับประวัติศาสตร์

สมิงมะตะเบิด บู๊ก็เจ๋ง แสดงก็ดีด้วย ม้ามืดจริงๆ


นักแสดงสมทบท่านอื่นๆ แสดงได้ดี สามัคคี ไม่ว่าฉากใหญ่ ฉากเล็ก ทำให้ละครมีความสมบูรณ์ ไม่มัวมองกล้อง อาจมีเนิบนาบบ้างเวลาสู้กัน


คิวบู๊
เหมาะสมกับละครโทรทัศน์ ไม่รุนแรงเกินไป มีความปลอดภัยในการแสดง นักแสดงซ้อมมาดีทุกคน

ระดับความยากของคิวบู๊จะไล่จากน้อยไปหามาก แรกๆไม่ซับซ้อน หลังๆซับซ้อนมาก เพราะตัวหลักๆเก่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เห็นพัฒนาการเชิงยุทธของตัวละคร ซึ่งดีขึ้นทุกๆด้าน

การถ่ายมีทั้งแบบอัตราภาพปกติ กับถ่ายแล้วไปเร่งความเร็ว หรือทำภาพช้า มีความปลอดภัยในการถ่ายทำ


การถ่ายทำ
ดัดแปลงจากบทละครได้ดี ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ เวลา คิวนักแสดง เงื่อนไขของนักแสดงในการทำงาน
(นักแสดง ต้องทำงานอื่นไปด้วย ไม่สามารถรับงานๆเดียวจึงทุ่มไม่ได้เต็มที่อย่างงานภาพยนตร์)

เวลาเช่าสถานที่ ทั้งที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี พ.ศ.2554 เสียหายไปมาก แต่แก้ไขอย่างประณีต ไม่สุกเอาเผากิน

อุปกรณ์ถ่ายทำมีคุณภาพดี ใช้เครื่องค้ำจุน ดอลลี่ เครน สเตดดี้แคม ไฟ แผ่นสะท้อน แผ่นทอนแสง ได้ภาพนิ่ง ไม่สั่นไหว แสงสวย

ถ้าได้กล้องhd อย่าง red epic หรือscalet ต่อเลนส์กล้องslr(ราคาถูกกว่าเลนส์ถ่ายหนัง)จะดีกว่านี้มาก

ฉากยุทธหัตถี ใช้เครนถ่ายภาพกว้างจากมุมสูง ตรงตามคำบรรยาย และตรงกับในพงศาวดาร ถ่ายดีตามงบประมาณ

ฉากเสมา ต้องกระสุนปืนที่ละแวก จังหวะการแสดงอารมณ์ กับคิวบู๊แบ่งได้ดี ดูไม่สะดุด และเดินเรื่องได้ใจความ

ฉากเสมา สัปยุทธกับสมิงมะตะเบิด ในศึกพระเจ้าแปร ตื้นเต้นเร้าใจที่สุด

มุมกล้องวางได้ดี สัมพันธ์กับงานcg ฉากหลังทางช่องหน้าต่าง มีเครื่องตกแต่ง  ไม่ปล่อยว่าง

ถ้ามีงบ100-150 ล้านบาท คงสามารถถ่ายทำได้ทุกฉาก และขยายได้20-25 ตอนได้ไม่ยาก โดยไม่ต้องยืดเรื่อง


กำกับศิลป์
ใส่ใจรายละเอียดทุกฉาก ทุกสถานที่ มีเครื่องประกอบฉากเหมาะสมกับฐานะผู้เป็นเจ้าของ เช่น
เครื่องครัว ภาชนะขบฉัน ของตกแต่ง คนจน คนรวย หรูหราต่างกันชัดเจน และไม่ผิดยุคสมัยมากนัก

ไปเสียที่ใช้กระจก ไม่ใช้คันฉ่อง(กระจกมียุคพระนารายณ์) อาจด้วยขุนราม มีลูกสาวคนเดียวจึงลงทุนซื้อของยุโรปให้เรไร

พื้นไม้ ตรงท้องพระโรง พระที่นั่งสรรเพชญเป็นรอยด่าง ทุกครั้งที่ถ่าย ทางเจ้าของฉากน่าจะซ่อมให้ ตอนถ่ายภาพยนตร์พระนเรศก็เป็นแต่ไม่เยอะขนาดนี้

อาคารก่ออิฐถือปูนสมัยนั้น ยังไม่มีช่องหน้าต่าง ช่างโบราณจะก่ออิฐเว้นเป็นช่องแคบสูง มีหลายช่อง เพื่อให้แสง และลม เข้ามาในอาคารได้

แบบโบสถ์วัดมอญที่โรงถ่ายที่เมืองกาญจน์ ช่องหน้าต่างมีสมัยพระนารายณ์ รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ

วังหลวงมุงกระเบื้องสีแดง ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ยังไม่อ่อนช้อย แนวฐานอาคารเป็นเส้นหย่อนท้องสำเภาหรือหย่อนท้องช้าง มีสมัยราชวงศ์ปราสาททอง

โดยงบที่จำกัดถือว่าทำได้ดี จะลงทุนแก้ไขแบบในภาพยนตร์พระนเรศคงยาก(ภาพยนตร์สุริโยไท ก็ไม่ได้แก้เนื่องจากงบจำกัด)


เครื่องแต่งกาย
เลือกสีเสื้อ เนื้อผ้า ได้ดี เหมาะกับแต่ละคน แต่ละฉาก ทำให้ตัวละครหลักเด่น ไม่ถูกกลืนไปกับสีเสื้อและฉากหลัง ดึงดูดสายตาผู้ชม

ชุดเกราะในเรื่องยังอิงกับที่ทำใช้ในละครกันเก่าก่อน แต่เพิ่มรายละเอียดแบบในภาพยนตร์พระนเรศ ดูดีตามยศที่สูงขึ้น

ของพม่าดูสวยงามตามแบบในภาพยนตร์พระนเรศ

อาวุธ มีความหลากหลาย ไม่ซ้ำจนเกินไป มีเขน ดั้ง ประกอบไม่ใช้ถือแต่ดาบอย่างเดียว


บันทึกเสียง
ใช้ไมค์หนีบไร้สาย แต่เสียงลมไม่เข้ามาก เสียงชัด มีพร่าบ้างแต่ไม่มาก มีเสียงรถเครื่องหลงมาบ้างแต่เล็กน้อย


cg
มีทุกตอน เสริมฉากให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะเลือดสาด
แผนที่ประกอบทำได้ดี ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจ โดยไม่เปลืองงบประมาณ
ฉากวังหลวง ทำได้ใกล้เคียงแบบจำลองที่พิพิธภัณฑ์ แต่ยังไม่ตกแต่งให้เรียบร้อย
ฉากเสมา โยกตัวหลบกระสุนแบบแมททริก ได้สองครั้งติดๆกัน โม้ได้สุดยอดจริงๆ


ลำดับภาพ
ลำดับเรื่องราวไม่สับสน คิวบู๊ดูรู้เรื่อง มีภาพซ้ำ ภาพช้า เมื่อพระเอกแสดงท่ายาก ทำให้ผู้ชมทึ่งในคุณภาพงานผลิต

"งานที่ทำมายากลำบากทุกแผนก นักแสดงมี่ทุ่มเทในทุกฉาก ไม่มีตกหล่น เพราะการตัดต่อที่มีคุณภาพ"


เสียงประกอบ
ทำได้ดีเสริมให้ฉากต่อสู้ สงครามได้อรรถรส โดยเฉพาะดาบแสนศึกพ่าย ดูราวกับเป็นดาบวิเศษ


ดนตรีประกอบ
ใช้เครื่องสากลหลายชิ้น แบบภาพยนตร์พระนเรศ กลมกลืนกับละคร
ดนตรีไทย ไพเราะ เข้ากับละครได้ดี

เพลงประกอบละคร สองเพลง แต่งประณีต นักร้องทั้งสองคุณภาพเสียงไม่ผิดหวัง

เพลงศึกไหนไม่เท่าศึกหัวใจ แทนใจเสมา ทำนองอนุรักษ์ เคารพผู้สร้างละคร ผู้ประพันธ์เพลง ยุคก่อน

เพลงคนใจร้าย ทำนองสมัยใหม่ แทนใจเรไร เข้ากับเรื่องได้ดี ไม่ยึดติด เข้ากับละคร ที่ยกระดับงานผลิตให้เป็นสากล


แต่งหน้า
แต่งหญิงมีเข้มไป อ่อนไป ไม่เหมือนกันทุกตอน ถ้าไม่มีขนตาปลอมในทุกฉากจะดีกว่าดี เพราะสาวๆงามทุกนางอยู่แล้ว

แต่บาดแผล จากการต่อสู้ ดูสมจริง


กำกับการแสดง
จังหวะรับส่งดี สมจริง ระดับเสียงสนทนาไม่โดด ส่งอารมณ์ไม่ขาดช่วง

ฉากเข้าพระเข้านาง โอ้โลมปฏิโลม ทำได้เหมาะสมไม่น่าเกลียด เด็กดูได้ ใช้แสงเงาเสริมความ

ฉากเกี้ยวพาราสี ทำได้สวยงามไพเราะ หยอกเอินกันน่าเอ็นดู

ฉากที่นักแสดงร่วมฉากจำนวนมาก มีความพร้อมเพรียง มีพลัง อารมณ์ที่แสดงออกมาเป็นคนจับต้องได้ ไม่แบนแบบนิทาน


คุณjaywell ได้แสดงความเห็นถึงคุณค่าของการละครขุนศึกในพ.ศ.๒๕๕๕นี้ ว่า

ละครจบได้ดีมาก
สมจริงตามประวัติศาสตร์ และ บอกที่มาที่ไปของเสมาจนถึงบั้นปลายชีวิต
มีเหตุมีผลว่าทำไมเสมาถึงต้องลาออก ในท้ายที่สุด

-เคารพบทประพันธ์
-สมจริงตามประวัติศาสตร์
-และไม่ทำร้ายจิตใจคนดู

เยี่ยมจริงๆ
จากคุณ : jaywell

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12291439/A12291439.html


ละครขุนศึกให้คติที่สืบทอดกันมาคือ "คนดีไม่สิ้นศรีอยุธยา"

เพลง อยุธยา
คำร้อง: พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ

      (สร้อย) กรุงศรีอยุธยา ราชธานีไทย
 ถึงเคยแตกแหลกไป         ก็ไม่สิ้นคนดี
 เราจะรบศัตรู                 ต่อสู้ไพรี
 เราจะกู้เกียรติศรี-         อยุธยาไว้เอยฯ

อยุธยารุ่งเรืองกระเดื่องนาม เมืองงามธรรมชาติช่วยสนอง
บริบูรณ์ลุ่มน้ำและลำคลอง ท้าวอู่ทองทรงสร้างให้ชาวไทย

(สร้อย)
ครั้งโบราณแพ้พม่าเป็นข้าเขา พระนเรศวรเจ้าทรงกู้ได้
ไล่ศัตรูไปพ้นแผ่นดินไทย ศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี

(สร้อย)
ชาวศรีอยุธยามาด้วยกัน   เลือดไทยใจมั่นไม่พรั่นหนี
ชีวิตเราขอน้อมยอมพลี   ไว้เกียรติศรีอยุธยาคู่ฟ้าดินฯ
(สร้อย)

 
ขุนศึก เป็นละครที่ดีที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของช่อง3
มีเพียงตะวันเดือด เมื่อปีกลายที่เทียบเคียงได้ ด้วยพัฒนาเป็นบทละครโดยตรง แต่คิวบู๊ ตัดต่อยังไม่ประณีตเท่า ส่วนเรื่องราวสนุกคนละแบบ

ขอให้ช่อง3 และทีวีซีน รักษาคุณภาพงานผลิตให้ดียิ่งขึ้นไป



ปล.หากพร้อมมิตร ไม่พร้อมผลิตผู้ชนะสิบทิศ ยังมีทีวีซีน เอกลิขิต แลคณะให้ได้หวัง ยกชุดจากขุนศึก มาผลิตได้เลย เสริมแต่งด้วยงบประมาณ คงได้ฝัน

แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 15:57:07

แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 15:42:03

แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 14:57:54

จากคุณ	: ต็กโกวคิ้วป้าย
เขียนเมื่อ	: 28 มิ.ย. 55 14:14:59