คห.41 ในมาตราระบุไว้ว่า มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท"
คำสำคัญมันอยู่ที่กระทำชำเรา และคำว่ามิใช่ภรรยาหรือสามีของตน....
ฉะนั้นก่อนที่จะเอากฏหมายการข่มขืนกระทำชำเรามาอ้างอิง....เราควรมองไปที่การสมรสด้วยไม่ใช่เหรอคะ
แล้วถ้ามองที่ตัวกฏหมายการสมรสของผู้เยาว์ คห.43 ชี้แจงมาบ้างแล้ว และที่ขอเพิ่มเติมคือ
การสมรสของผู้เยาว์ จะกระทำได้ต่อเมื่อ
- ถ้าชายและหญิงมีอายุมากกว่า17ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน20ปี ทั้งคู่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม
- ถ้าอายุไม่ถึง17ปี ต้องได้รับคำสั่งศาล คือ ศาลต้องอนุญาตให้สมรสก่อน เพราะอาจมีเหตุอันสมควร เช่น หญิงตั้งครรภ์
จากข้อกฎหมาย ดังนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1454, 1436 บัญญัติว่า
ผู้เยาว์จะทำการหมั้น หรือสมรสได้ต้องได้รับความยินยอมของบุคคลดังต่อไปนี้
(๑) บิดาและมารดา ในกรณีที่มีทั้งบิดามารดา
(๒) บิดาหรือมารดา ในกรณีที่มารดาหรือบิดาตายหรือถูกถอนอำนาจปกครองหรือไม่อยู่ในสภาพหรือฐานะที่อาจให้ความยินยอม หรือโดยพฤติการณ์ผู้เยาว์ไม่อาจขอความยินยอมจากมารดาหรือบิดาได้
(๓) ผู้รับบุตรบุญธรรม ในกรณีที่ผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรม
(๔) ผู้ปกครอง ในกรณีที่ไม่มีบุคคลซึ่งอาจให้ความยินยอมตาม (๑) (๒) และ (๓) หรือมีแต่บุคคลดังกล่าวถูกถอนอำนาจปกครอง
การหมั้นที่ผู้เยาว์ทำโดยปราศจากความยินยอมดังกล่าวเป็นโมฆียะ
สรุปคือ ถ้าในกรณีที่แม่อาทิจอายุต่ำกว่า 18 แต่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ให้สมรสได้ ก็ถือว่าพ่อและแม่ของอาทิจได้เป็นสามีภริยากันถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อพ่อแม่ของอาทิจเป็นคู่สมรสกันอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และไม่ได้มีข่มขืนกระทำชำเราเกิดขึ้น ก็ไม่ได้มีความผิดตามกฏหมายมาตรา 277 ใช่มั๊ยคะ???
ส่วนกฏหมายพรากผู้เยาว์มาตรา 319 เราก็ต้องมาดูความหมายของผู้เยาว์ด้วย
ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 20
ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อทำการสมรส หากการสมรสนั้นได้ทำตามบทบัญญัติมาตรา 1448
ดังนั้นหากพ่อแม่อาทิจสมรสกันถูกต้องดังที่กล่าวข้างต้น ก็ถือว่าเป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามกฏหมายค่ะ ฉะนั้นพ่อของอาทิจก็ไม่มีความผิดฐานพราะผู้เยาว์เช่นกัน