Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<< ถึงเวลาหรือยังที่ ข่าว 'การฆ่าตัวตาย' จะไม่ใช่ข่าวที่เราเข้าใจแค่ว่าเป็น 'การกระทำโง่ๆ' >>> [ย้ายจาก : บันเทิงวิทยุ-โทรทัศน์] ติดต่อทีมงาน

... อ่านข่าวและกระแสความเห็นเกี่ยวกับ การฆ่าตัวตาย ของวันที่ผ่านมา พบว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่หลายคนยังมองปัญหา ‘การฆ่าตัวตาย’ ว่าเป็นการกระทำโง่ๆ เพราะความเข้าใจปัญหาสุขภาพจิตในเรื่องนี้ ยังมีไม่มากพอในบ้านเรา

แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ผ่านมาหลายปี สื่อ ยังคงนำเสนอ‘การฆ่าตัวตาย’ ไม่ต่างจากที่ผ่านมา คือ พาดหัวให้ดูหวือหวา เขียนเหตุให้ดูน่าฮือฮา

แถมบางครั้งยังไม่ให้เกียรติผู้ตาย พยายามนำเสนอภาพที่คิดว่าขายได้เช่น ภาพร่างของผู้เสียชีวิตแบบเน้นให้เห็นชัด และที่น่าสลด คือ การขายข่าวที่ทำให้ผู้ตาย กลายเป็น ตัวตลกในสังคม

จริงอยู่ว่า หน้าที่อันดับต้นๆของสื่อคือ ‘ขายข่าว’ แต่การขายข่าว บางครั้งสามารถสร้างสรรค์ มากกว่า ทำลายหรือทับถมให้สังคมงมงายหรือเข้าใจผิด

สื่อมีโอกาสมากกว่านักวิชาการหรือรัฐมนตรี ในการแทรกความรู้ หรือ เชิญผู้เชี่ยวชาญมาพูดคุยเพื่อช่วยให้สังคมเข้าใจ สาเหตุและการป้องกัน ไปพร้อมๆกับการนำเสนอข่าวเพื่อขายให้เข้าถึงประชาชน

1. การฆ่าตัวตาย หลายครั้งเกิดจาก ‘โรค’ ที่สมองมีความผิดปกติของสารสื่อประสาทที่มีผลต่อ อารมณ์และความคิด  ซึ่งหากได้รับการรักษาก็ดีขึ้นได้ เช่น

โรคซึมเศร้า ที่มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์อย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง ซึ่งอาจเป็น ซึมเศร้า หดหู่ หรือ หงุดหงิดกระสับกระส่าย ร่วมกับอาการอื่นๆ ,

โรคจิต ที่มีเสียงหูแว่ว หรือ หวาดระแวง เช่น เสียงสั่งให้ทำร้ายตัวเอง หรือ หวาดกลัวในสิ่งที่สมองคิดไปเอง จนตัดสินใจลาโลก ,

โรคย้ำคิดย้ำทำ ที่สมองสั่งให้คิดซ้ำๆในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเรื่องงาน เรื่องลามกหยาบคาย ฯลฯ ทำให้เครียดที่หยุดคิดไม่ได้ ,

โรค Body dysmorphic disorder ที่ เจ้าตัวจะมองว่า ร่างกายของตัวเองผิดปกติ ซึ่งแม้จะไปปรับแต่งหรือผ่าตัดอย่างไร ก็ยังรู้สึกว่ามีปัญหาจนอาจทำให้คิดสั้นอยากตายได้ ฯลฯ

รวมถึง โรคอีกหลายๆโรคทางจิตเวชที่เป็นเหตุของการฆ่าตัวตาย ฯลฯ

2. การฆ่าตัวตาย หลายครั้งเกิดจาก ‘โรคทางกาย’ ที่สร้างความทุกข์ทรมานแก่เจ้าตัว เช่น มะเร็งบางชนิด บางระยะ ที่สร้างความเจ็บปวดเรื้อรัง ไม่สามารถบรรเทาด้วยยา และรู้ว่ารักษาไม่หาย , ผู้ป่วยที่ต้องล้างไตสัปดาห์ละสามวัน ส่วนวันที่เหลืออยู่อย่างอ่อนเพลีย ไม่อาจใช้ชีวิตได้เช่นคนทั่วไป ฯลฯ

3. การฆ่าตัวตาย หลายครั้ง ไม่ได้เกิดจากโรค แต่เป็นภาวะที่เจ้าตัวรู้สึกว่า ‘ไม่มีทางออก’ แม้คนนอกอย่างเราๆจะเห็นว่า มีหนทางช่วยเหลือ แต่ในจุดนั้น เจ้าตัวไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่สามารถหาช่องทางที่จะขอความช่วยเหลือ

เช่น วัยรุ่นวัยเรียน ถูกเพื่อนล้อถูกแกล้งในโรงเรียนจนทนไม่ไหว ถูกกระทำซ้ำๆแล้วไม่มีคนยื่นมือช่วยเหลือ  ผู้ใหญ่หลายคนมองว่าพวกเขาอ่อนแอ แทนที่จะมองว่า หลายครั้งปัญหาการรุมแกล้งของเด็กในโรงเรียน มันร้ายแรงมาก แต่เราโตจนหลงลืม และ เด็กก็ไม่ได้เข้มแข็งเหมือนกันทุกคน

, หลายคนถูกทารุณกรรมจากคนในครอบครัวซ้ำๆ ถูกตบ ถูกซ้อม คิดว่าตัวเองไม่สามารถออกจากครอบครัวได้เพราะติดขัดเช่น กลัวอีกฝ่ายจะไม่ยอมให้ไป กลัวออกไปแล้วจะหาที่อยู่ที่กินไม่ได้ สุดท้ายก็เลือกจบชีวิตลง

... ได้แต่หวังว่าจะมีสักวัน ที่มี สื่อดีๆ ให้ความสำคัญกับปัญหานี้และมีกลวิธีทำให้ ข่าว เป็นมากกว่าการขาย เพราะเชื่อว่า ถ้าสามารถกระจายความรู้เรื่องสุขภาพจิตให้ประชาชนได้มากกว่านี้

ideaเมื่อความเข้าใจว่า ‘คนฆ่าตัวตายคือคนโง่’ เปลี่ยนเป็น ‘คนฆ่าตัวตาย คือ คนที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ไม่มีคนรู้ ไม่มีคนเข้าใจ’

เราจะรู้แต่เนิ่นๆว่าอะไรคือ สัญญาณเตือนที่ควรเข้าไปช่วยเหลือ รู้ว่าอะไรคือสัญญาณอันตรายของคนใกล้ชิดที่ควรรีบจัดการ

เราจะลดปัญหานี้ได้อีกมากมายหลายเท่า เราจะช่วยได้อีกหลายชีวิต โดยไม่ต้องรอให้เป็นหน้าที่ของหมอหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงเพียงอย่างเดียว

แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 21:15:11

แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 19:38:56

แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 19:23:51

แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 19:22:12

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 19:18:34




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com