 |
''แดน-วรเวช'' กับความฝันครั้งใหม่ ขึ้นแท่นผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์
|
 |
แดน-วรเวช ดานุวงศ์ นักร้องชื่อดัง ที่ล่าสุดหันมาเอาดีด้านภาพยนตร์ เรื่อง “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์” ไม่ใช่ในฐานะนักแสดง แต่เลื่อนขั้นมาเป็นผู้กำกับ และเขียนบทภาพยนตร์เองอีกด้วย ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนหนุ่มไฟแรงเช่นเขา ที่มีความฝันไม่หยุดหย่อน อยากจะทำงานบันเทิงในหลากหลายรูปแบบ โดยก่อนหน้านี้ก็มีผลงานกำกับละครมาแล้ว
ช่วงหนึ่งเรามีโอกาสเจอ แดน ในกองถ่าย ก็เลยถือโอกาสคุยซะหน่อย รู้ว่าตัวเองอยากเป็นผู้กำกับหนังตั้งแต่เมื่อไหร่ “น่าจะสัก 3 -4 ปี ก่อนหน้านี้น่ะครับ มันเกิดจากว่าเราดูหนังแล้วทำไมไม่มีใครทำแบบนี้นะ ทำไมไม่มีมุกนี้นะ จากนั้นก็คิดว่าสักวันต้องขอกำกับหนังบ้างแล้วล่ะ พอรู้ว่าอยากทำหนังก็ไปตระเวนกำกับหนังสั้น กำกับเอ็มวีก่อน เพราะรู้ว่างานทำหนังมันเป็นงานใหญ่มาก ผมพอจะรู้ตัวเองว่าเราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน วันนี้เราทำตรงนี้ได้ ตรงนั้นเรายังทำไม่ได้ ผมไม่อยากให้ใครมารู้สึกว่า โธ่เอ๊ย!กะแล้วว่ามันทำไม่ได้จริง ๆ ขั้นแรกก็คือการเอาตัวเองไปสู้กับปัญหาก่อน เจอปัญหาให้เยอะที่สุด พอถึงงานที่มันใหญ่จริง ๆ จะกลายเป็นปัญหาเล็ก ๆ หรือผมมองว่ามันไม่เป็นปัญหาสำหรับผมเลยก็ได้”
และเตรียมตัวอย่างไรต่อ “เมื่อเราพร้อมแล้ว เราก็เดินไปคุยกับคนที่คิดว่าเขาจะเชื่อใจเรา ก็พอดีว่า พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว เขาก็เชื่อใจเราว่าเราน่าจะทำงานได้ ก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่เชื่อใจผม จากนั้นก็เป็นขั้นตอนเขียนบท ตอนเขียนนี่ผมเขียนบทไม่เป็นเลยนะ ก็ไปหาบทละครเก่า ๆ บทหนังมาดู ประเด็นไม่ได้เกี่ยวกับไดอะล็อกจะเขียนยังไง แต่ประเด็นคือแบบ ต้องเขียนแบบฟอร์มว่า กลางวัน, ห้อง ผมไม่รู้ว่ามันต้องทำยังไง (หัวเราะ) ต้องมีกี่ซีน ไม่รู้เลย คือต้องเริ่มใหม่หมดเลยครับ ตรงนี้แหละคือความสนุกของผม”
ก่อนจะมาเป็นคืนวันเสาร์ฯ นี่ใช้เวลานานแค่ไหน และไอเดียที่มาของเรื่องราวครั้งนี้เป็นอย่างไร “ตั้งแต่เริ่มเขียนบทผมเขียนพล็อตไว้หลายอันครับ พล็อตไปเรื่อยก็เป็นสิบร่างได้ครับ ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ครับ ส่วนจุดเริ่มต้นหนังเรื่องนี้มันเกิดจากผมสนใจกับคำว่า คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ ผมชอบชื่อเรื่องครับ ซึ่งผมไม่ได้คิด คนที่เอาชื่อนี้มาบอกผมคือพี่เอโกะ(สุภาพร เลิศฐิติวีรกานต์–ไลน์โปรดิวเซอร์ ผู้ประสานงานสร้าง) เค้ามีแค่ชื่อเรื่องให้ผม แต่ผมติดใจเลยว่าชื่อเรื่องนี้น่าทำหนังนะ มันน่าจะดูมีอะไร พอเราได้คำนี้มา เราก็มาแตกประเด็นว่าทำอะไรได้บ้าง ก็ประชุมทีมงานกันว่าใครมีไอเดียอะไรโยนไอเดียกันมาได้เลยเพื่อทำพล็อตให้มันแข็งแรง แล้วก็ได้ไอเดียว่าสังคมยุคนี้ว่าความรักที่จริงจังมันได้หายไปมากมันได้โดนกลืนกินด้วยความรักฉาบฉวย สมมุติว่าคนเราคนนึงมีแฟนแล้ว มันมีสิ่งเร้าหลายอย่าง ทั้งผู้หญิงสวย ผู้ชายหล่อ แล้วดันมาจีบเราอีก หรือบางทีเรามีแฟนอยู่แล้วเราคบกันมานานแต่คุยกันแล้วไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มันก็รักล่ะนะแต่ว่ามันไม่ได้ยิ้มเลย ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไง ใครเป็นผู้แสดงในเรื่อง คอยติดตามกันต่อไปนะครับ เล่าหมดเดี๋ยวไม่ตื่นเต้น”. ข่าวจาก : เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th/entertainment/134188
จากคุณ |
:
Dear Nostalgia
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ค. 55 10:12:03
|
|
|
|  |