ความคิดเห็นที่ 1 ถาม ความลับสุดยอดเลยน่ะนั่น หาก ไม่มีการ หวงมุก หวงบท ท่านที่ใจดีคงจะตอบให้ หรือ ทาง สำนักพิมพ์บอกเอง สำหรับคนที่ทำในวงการ .... (ความเห็นส่วนตัว) ส่วนใหญ่ จะหวงมุก หวงบท ไม่ค่อยเปิดเผย หากเริ่มใหม่ คงต้องไปสืบเองโดย โทรถามทาง บ. ที่คิดจะไปสมัคร ได้หรือไม่ได้ลองถามต่อว่า หากได้ทางบ. จะส่งงานให้แบบไหน หากสามารถรับงานมาทำได้แล้ว ต่อไปคือประสบการณ์การทำงานของเราเองว่าจะให้เสร็จตามปกติได้เวลาประมาณเท่าไร เมื่อรู้ว่า ทำงานได้ตามเวลาเท่าไร ต่อไปก็จะรู้ว่าเมื่อรับงานมาแล้วจะส่งให้ได้ตามเวลาได้ตามระยะเวลาเท่าไร (ผมมั่วตอบน่ะ อย่าเชื่อผม ให้ลองโทรไปสืบเองทันทีเลย) แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 55 11:53:06 จากคุณ : นักเขียน ใส้แห้ง เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 11:21:38

ความคิดเห็นที่ 2 1. ส่งเมลติดต่อหรือ walk-in เข้าไปเลยก็ได้ครับ ปกติสำนักพิมพ์ส่วนใหญ่น่าจะเปิดรับนักแปลตลอดอยู่แล้วครับ 2. โดยส่วนใหญ่จะไม่กำหนดคุณสมบัติไว้เป็นพิเศษครับ เพราะสุดท้ายก็ต้องเทสท์ก่อนรับงานอยู่ดี 3. ตัวเล่มอาจจะต้องไปรับ-ส่งคืนที่สำนักพิมพ์ หรือให้ส่งผ่านทางไปรษณีย์ครับ แต่การส่งไฟล์คำแปล สามารถส่งผ่านอีเมลได้เลยครับ ส่วนที่ถามว่าต้องไปบ่อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณงานที่ได้รับและความเร็วในการทำงานของฝั่งผู้แปลด้วยครับ 4. แล้วแต่รูปแบบครับ ถ้าแปลลงนิตยสารก็อาจจะได้เป็นตอนๆ ไป แต่ส่วนใหญ่มักจะได้เป็นเล่ม 5. ปกติก็ไม่น่าจะเกิน 1 เดือนครับ (ช้าสุดก็ไม่น่าจะเกิน 2 เดือน) 6. ตามแต่เวลาว่างและความยากง่ายของงานครับ อันนี้แล้วแต่บุคคลจริงๆ 7. อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละเจ้าครับ ถ้าผ่านการทดสอบแล้วก็สอบถามเอาไว้ด้วยก็ดีครับ จากคุณ : Zeromorph เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 11:24:11

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามารอดูคำตอบ จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 12:15:59

ความคิดเห็นที่ 4 แอบมาดูคำตอบเหมือนกัน จากคุณ : watabo เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 12:42:30

ความคิดเห็นที่ 5 1. ได้ทุกทางครับ ปกติจะเป็นการเดินเข้าไปสมัครเอง แต่ช่วงนี้นักแปลเก่งๆ ขาดแคลนเอาเรื่อง คล้ายๆ กับว่า generation มันขาดตอนยังไงยังงั้น ประกอบกับกระแสบูมของสิ่งพิมพ์ญี่ปุ่นมันแรงขึ้นทุกวันๆ (โดยเฉพาะไลท์โนเวล) หลายๆ สำนักพิมพ์เลยใช้วิธี "scout" ตัวนักแปลกันเป็นว่าเล่น ส่วนมากก็จะใช้วิธีแนะนำต่อๆ กันผ่านกลุ่มนักแปลหรือคนที่รู้จักกันในวง นักแปลค่ายนี้โดนดึงไปแปลให้ค่ายโน้น จึงถือเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป 2. เท่าที่ทราบ ไม่ค่อยจะกำหนดคุณสมบัติไว้แบบนั้นนะครับ แต่จะเป็นทำนองว่าให้ลองเทสต์แปลงานตัวอย่างเพื่อดูฝีมือ ถ้าออกมาโอเคก็ส่งงานให้ทำ อย่างนักแปลที่ผมรู้จักแต่ละคน ก็แทบจะไม่มีคนไหนเคยสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ถ้าไปสอบก็คือผ่าน แต่ไม่ไปสอบกัน เรื่องก็คือ การแปลการ์ตูน (ย้ำอีกครั้ง การ์ตูน) หลายๆ กรณีมันไม่จำเป็นต้องใช้เกณฑ์คุณสมบัติที่สูงปรี๊ดขนาดนั้น ขอแค่ถอดความรู้เรื่องก็แปลได้ ในความคิดของผม คนแปลการ์ตูนเก่งไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาญี่ปุ่น แต่ต้องเก่งภาษาไทย และ "ฉลาดแปล" มากกว่าครับ ไม่เจาะลึกละกัน เดี๋ยวยาว คนที่ไปเรียนญี่ปุ่นกลับมา อ่านเขียนญี่ปุ่นคล่อง พูดญี่ปุ่นน้ำไหลไฟดับ แต่แปลงานไม่ได้เรื่องเอาเสียเลยก็มีให้เห็นบ่อย เพราะไม่ถนัดการใช้ภาษาไทยนั่นเอง 3. แล้วแต่สำนักพิมพ์ครับ บ้างก็ให้ไปรับเองที่สำนักพิมพ์ บ้างก็นัดเจอกันข้างนอก บ้างก็ส่งเป็นไปรษณีย์มาให้ที่บ้าน ส่วนมากเป็นกรณีหลังสุด พอทำเสร็จ ก็ส่งสำเนางานกลับไปยังสำนักพิมพ์ หรือนัดเจอเพื่อคืน ส่วนไฟล์บทแปลก็ส่งกันทางอีเมลนี่ละ ถ้าเป็นยุคก่อนที่คอมพิวเตอร์ยังไม่แพร่หลายกัน นักแปลต้องส่งงานเป็นสมุดจดนะเออ แหม ยุคอนาล็อกช่างลำบากแท้หนอ 4. เป็นเล่มครับ นอกเสียจากว่าคุณรับผิดชอบแปลงานรายสัปดาห์ในนิตยสาร (เช่น BOOM ฯลฯ) ถึงจะได้สำเนางานเป็นตอนๆ รายสัปดาห์มา 5. ไม่มีกำหนดแน่นอน แล้วแต่งาน แล้วแต่สำนักพิมพ์ งานไหนเร่งก็อาจภายในเดือน งานไม่เร่งก็อาจจะไม่กำหนด พูดแค่ว่าเสร็จเมื่อไหร่ก็ส่ง กรณีที่สำนักพิมพ์ส่งงานมาล่วงหน้านานๆ จนลืมกันไปเลยก็มี มาตรว่าลืมกันทั้งคนแปลและสำนักพิมพ์ ผมเคยมีไอเดียไว้ว่าจะทำ community เฉพาะสำหรับนักแปล เอาไว้แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น หานักแปลหน้าใหม่ๆ พร้อมกับกระจายงานแปลที่ไม่มีที่ไป ไอเดียนี้อยู่ในหัวมานานหลายปีมาก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีโอกาสได้ทำ คิดแล้วก็น่าเสียดายเหมือนกัน เพราะมันน่าสนุกดี (ฮา) จากคุณ : Genocide Fang เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:18:12

ความคิดเห็นที่ 6 ความเห็นข้างบนตอบกันไปหมดแล้วและตอบถูกด้วย (หมายถึงว่าตรงประสบการณ์จริงที่ประสบมา) เห็นด้วยว่านักแปลแลดูขาดแคลนมาก ถ้าเป็นโซนมังกะยังพอจะมีหมุนเวียนต่อเนื่องเข้ามาเรื่อยๆ ต่อพอเขยิบไปถึงระดับ LN / อนิเม ก็จะงวดลง...งวดลง... ส่วนค่าตอบแทน เมื่อสิบปีก่อนได้รับเท่าไหร่ ตอนนี้ก็ยังคงอัตราเดิม... // ตาลอย // จากคุณ : Draconia เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:52:10

ความคิดเห็นที่ 7 มาถึงหลังตลาดวายไปแล้ว เลยไม่ทันได้ตอบเลยแฮะ ผมเองก็อยากเขยิบขึ้นไปแปลในโซน LN อยู่เหมือนกันนะ แต่ตอนนี้ติดภารกิจสำคัญอีกอย่างทำให้จต้องปฏิเสธโอกาสนั้นไป (แต่นั่นละ ผมเองยังไม่มั่นใจเหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองมีฝีมือพอจะแปล LN ได้หรือยัง -3-) เห็นด้วยตรงที่สิ่งสำคัญที่สุดของการแปลก็คือ "แปลเป็น" และ "ใช้คำในภาษาไทยให้เป็น" มากกว่า "เก่งญี่ปุ่น" แฮะ เก่งญี่ปุ่นมันช่วยให้เราเข้าใจสารได้ แต่จุดสำคัญที่สุดอยู่ที่ว่าจะ "ถ่ายทอด" มันออกมาในภาษาไทยหรือเปล่านี่แหละ ซึ่งตรงนี้ใช่ว่าคนที่เก่งญี่ปุ่นทุกคนจะทำได้ จากคุณ : Drake เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:04:17

ความคิดเห็นที่ 8 เราคิดว่ามันควรจะเก่งทั้งสองทางนะ รับสารมาผิดๆ แปลออกมาสวย มันก็สวยแบบผิดๆ รึเปล่า เจอบ่อยเหมือนกันประเภทสำนวนที่เป็น คำ+คำช่วย+กริยา แล้วคนแปลก็ถอดมาแบบนั้นทั้งดุ้น เพราะคิดว่าตัวเองรู้คำศัพท์นั้นอยู่แล้ว ทั้งที่จริงๆ แล้วพอสามคำนั้นมาอยู่ด้วยกัน ความหมายมันจะเป็นอีกแบบนึงไป (คิดไปเองป่าวไม่รู้ แต่อะไรแนวๆ นี้ภาษาญี่ปุ่นเยอะมาก) คืออ่านแล้วรู้เลยง่ะว่า ต้นฉบับเขียนไรมา คนแปลถึงแปลออกมาเป็นอย่างนี้ ถ้าเป็นเราเมื่อสามปีก่อน ก็คงคิดว่าหมายความอย่างนั้นเหมือนกัน ฮา แต่ก็รู้อีกล่ะว่า คนอ่านทั่วไปคงไม่รู้หรอก ถ้าไม่มีใครเอามาแปะเทียบให้ดู ส่วนตัวเราไม่โกรธนะ แอบเข้าใจและเห็นใจ แต่เท่าที่เคยอ่านในกระทู้พันทิป นักอ่านส่วนใหญ่ถ้ารู้เค้าโกรธนะ แหะๆ จริงๆ เราไม่อยากใช้คำว่าเก่งนะ ไม่ใช่ทุกคนจะเก่งมาแต่เกิด และมันก็ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ แต่อยากให้เน้นขนขวาย หาความรู้ ตรวจสอบ ตรวจทานมากกว่า ในยุคอินเตอร์เน็ตแบบนี้ นักแปลรุ่นใหม่น่าจะมีตัวช่วยกว่าสมัยก่อนเยอะ -------------------------------------edit --------------------------------------- เปลี่ยนใจแล้วค่ะ ขอโทษที .. พอมาคิดดูดีๆ เราก็บอกเองว่ามันไม่ใช่คำว่าเก่ง จริงด้วยค่ะ สรุปว่าคนแปลไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาญี่ปุ่นเลยนี่นา ขอแค่ขยันค้นคว้า ตรวจสอบ ตรวจทานให้ดีๆ อย่ามั่นใจในตัวเองแบบผิดๆ ว่ารู้จักความหมายของคำนั้นๆ เพียงพอแล้ว แค่นั้นก็น่าจะหลีกเลี่ยงการรับสารแบบผิดๆ ได้แล้วเนอะ :D ส่วนสำนวนภาษาไทยนี่คงต้องเก่งจริงๆ เป็นทักษะเฉพาะคน เพราะเรื่องของสำนวนมันบอกกันยาก มันค้นคว้ากันตรงๆ ไม่ได้นี่เนอะ คงต้องเป็นทักษะส่วนตัว + ประสบการณ์ + เป็นคนรักการอ่าน อ่านเยอะๆ ขออภัยด้วยค่ะสำหรับความแบบผิดๆ ข้างบน :) แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 55 20:41:33 จากคุณ : สาวแว่นเลี้ยวซ้าย เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:27:53

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆ กลับมาอ่านเมนท์บนแล้วก็อดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้นะ ต้องเก่งภาษาไทย ต้องขยันขนขวายภาษาญี่ปุ่น ต้องรอบคอบหมั่นตรวจทาน เป็นอาชีพที่ถ้าจะทำให้ดีนี่ qualification สวนทางกับ income จริงๆ - -" จากคุณ : สาวแว่นเลี้ยวซ้าย เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 00:51:01

ความคิดเห็นที่ 10 เคยทำเป็นอาชีพเสริมอยู่ 5 ปี กับ 4 สำนักพิมพ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว พอจะมีแปลงานอนิเมบ้างนิดหน่อยเท่าที่เวลาจะอำนวยจากงานหลัก รู้สึกมันเป็นงานที่ต้องอาศัยใจรักนะถึงจะทำได้และทำได้ดี ค่าจ้างก็คงๆอยู่ในเรตนี้มาตลอดเกินสิบปีแล้วด้วย ถ้าไม่อาศัยใจรักและความสุขที่ได้ทำก็คงทำงานนี้ได้ไม่นาน ;-D จากคุณ : asayake เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 09:37:34

ความคิดเห็นที่ 11 รายได้ที่ได้ พอทำเป็นงานประจำไหมฮะ จากคุณ : gunkung เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 11:57:50

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าจะทำเป็นอาชีพจริงๆจังๆ รายได้ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร(ถึงจะไม่สูงลิบลิ่วก็เถอะ) ค่าจ้างมันไม่ค่อยเพิ่มหรือเพิ่มยาก แพ้เงินเฟ้อแน่นอน แต่ก็ต่อรองกันได้(เป็นบางโอกาส) แต่การจะเป็นฟรีแลนส์ทุกๆสาขาอาชีพ ต้องหมั่นเงินเก็บบางส่วนไว้ใช้ในยามจำเป็นด้วยนะ และต้องแบ่งเอาเงินอีกส่วนไปลงทุนด้วย ถ้าใครรู้ว่าไม่มีระเบียบวินัยในตัวเองดีพอ ก็หันไปทำงานประจำ หรือทำกิจการส่วนตัวเถอะ จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 13:05:47