 |
คุณหมอมนัสยกตัวอย่างถึงเคสของน้องนักศึกษาที่เลือกจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย หลังจากทำศัลยกรรม ถึงแม้ทางครอบครัวของนิสิตคนนี้ออกมายืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับวงการการทำศัลยกรรม โดยเฉพาะระหว่างคนไข้กับแพทย์ น้องเขาคงมีสิ่งซ่อนเร้นภายในใจ ยิ่งหากบอกว่าเป็นคนเครียดง่าย นอนไม่หลับ คุณหมอยิ่งต้องสังเกตแล้วว่า นอนไม่หลับเพราะอะไร หากเป็นเพราะจมูกไม่สวย แสดงว่าเขามีจินตนาการผิดปกติ หรือมีวิธีที่คิดที่แรงเกินไป และมันจะไม่จบ แม้จะทำจมูกครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ยังจินตนาการว่ามันไม่สวย แบบนี้เราต้องแนะนำให้น้องไปรักษาด้านจิตใจก่อน และหมอขอแนะนำให้น้องๆ วัยรุ่นที่คิดจะทำศัลยกรรมควรปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อน หลายคนที่ไม่บอก พอทำเสร็จแล้วกลับบ้าน คุณพ่อคุณแม่ทักว่าไม่สวย คราวนี้เริ่มเครียดแล้ว หาทางออกไม่เจอ จะกลับไปแก้ก็เสียค่าใช้จ่ายเยอะกว่าเดิมมากครับ
การทำศัลยกรรมไม่ถูกใจ ใช่ว่าจะไม่มีทางออก บางคนศึกษาข้อมูลมามากต่อมากแล้ว แต่ดันดวงตกพบกับเรื่องบังเอิญ 1 ใน 100 ที่ใครๆ ไม่เคยพบ ก็ต้องหาวิธีแก้กันไป คุณหมอบอกว่าศัลยกรรมแก้ได้เรื่อยๆ จนกระทั่งผิวหนังของเราไม่สามารถทำได้แล้ว คนไข้มี 2 ประเภท คือ คนไข้ที่ไม่เคยพอใจเรียกว่า ติดศัลยกรรม และคนไข้ที่เจอปัญหาจริงๆ อย่างกรณีแรกมีคนไข้คนหนึ่งมาแก้จมูกกับผม 11 ครั้ง จนกระทั่งผิวหนังบางจนไม่สามารถทำได้ เราก็ต้องให้เขาหยุดเพราะทำต่อไม่ได้แล้ว ส่วนคนไข้ที่เพิ่งทำครั้งแรกและไม่พอใจ ควรรอดูผลลัพธ์ประมาณ 3 เดือน เพราะแผลยังคงบวมอยู่ แต่หากดูแล้วไม่ดีดั่งที่ใจปรารถนาก็ควรกลับไปพบคุณหมอท่านเดิม แต่หากคุณหมอยังยืนยันว่าสิ่งที่ทำนั้นดีอยู่แล้ว เราก็ต้องกลับมาพินิจพิจารณาว่า ดีจริงไหม และอยากแก้ไขกับคุณหมอคนใหม่ไหม เพราะหากไปทำที่อื่นใหม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าทำครั้งแรก
หมอมนัสได้ยกตัวอย่างค่าทำศัลยกรรมจมูกของตัวเองว่า ทำครั้งแรกเริ่มต้นที่ 50,000 บาท แต่หากต้องให้แก้ไขจากที่อื่นราคาสูงถึง 70,000- 200,000 บาท เลยทีเดียว นี่คือเหตุผลที่คุณหมอต้องการให้คนไข้เสาะหาข้อมูลก่อนทำศัลยกรรมอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน ศัลยกรรมเดี๋ยวนี้มีหลายแบบ ทั้งแบบเกาหลีที่ฮิตๆหรือสวยแบบธรรมชาติ สำหรับตัวผม ผมชอบศิลปะ และผลงานของผมจะต้องดูเนี้ยบ เนียน ต้องถามคนไข้ว่าอยากสวยตอนทำงาน หรืออยากสวยบนเวทีในกรณีที่เป็นนักร้อง เพราะมุมมองแต่ละแบบไม่เหมือนกัน ที่สำคัญคือต้องตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ให้ได้มากที่สุด นี่คือความท้าทายของคุณหมอศัลยกรรมในยุคนี้ครับ ศัลยกรรมไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความสวย ผู้หญิงที่สวยเพียบพร้อมต้องสวยทั้งใบหน้า วาจาและจิตใจ คุณหมอฝากทิ้งท้ายว่า การทำศัลยกรรมเป็นเพียงแนวทางหนึ่งที่ทำให้เราดูดีขึ้น และประหยัดเวลาในการแต่งหน้าและแต่งตัว แต่ทุกคนก็ต้องดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย ที่สำคัญผมเชื่อว่าทุกคนมีศาสนา และทุกศาสนามีเครื่องมือจัดการถึงกระบวนการทางจิตใจอยู่แล้ว เพียงแค่ทุกคนนำไปปรับใช้ ความสวยที่เราพึงพอใจก็จะเกิดขึ้นเองครับ ข้อมูลจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9550000087689
จากคุณ |
:
Dear Nostalgia
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.ค. 55 13:38:09
|
|
|
|
 |