Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
The Dark Knight Rises ทำไมผมถึงรักมัน...? (ไม่น่าจะสปอยล์) ติดต่อทีมงาน

**พูดในมุมของคนรักคอมมิคแบทแมน**

ในคอมมิค Batman R.I.P บท “The Butler Did It Again” วายร้ายที่เข้าไปเจาะความทรงจำของบรูซ เวย์นถึงกับซูฮกบรูซว่า “เขาใช้ทุกความทุกข์ทรมาน ทุกความเจ็บปวด ทุกความล้มเหลว มาทำให้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น” คำพูดนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมมาก มันเป็นคำนิยามที่สรุปถึงความเป็นแบทแมนได้ดีที่สุด

มีคนถกเถียงกันว่า แบทแมนควรจะจัดอยู่ในหมวดของ “ซูเปอร์ฮีโร่” หรือไม่ เพราะแบทแมนไม่มีพลัง “ซูเปอร์” บางคนบอกว่า แบทแมนน่าจะจัดเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ เพราะความรวยก็อาจจัดได้ว่ามีอะไรที่อยู่เหนือกว่าคนอื่น แต่ผมกลับคิดว่า “จิตใจอันแข็งแกร่ง” ของแบทแมนต่างหากที่ทำให้เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่

พ่อแม่ตาย คนรักตาย คู่หูตาย หลังหักจนพิการ ติดยา สู้กับมนุษย์ต่างดาว (กับพวก Justice League) และอื่นๆอีกสารพัด แต่ทุกครั้งที่ล้มเหลว แบทแมน/บรูซก็จะกลับมา “ผงาด” ได้ด้วยจิตใจที่แกร่งเหนือมนุษย์

The Dark Knight Rises ทำให้ผมสัมผัสกับสิ่งที่ว่ามาข้างต้นได้มากกว่าแบทแมนเวอร์ชั่นอื่น...

TDKR ไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์พร้อม ยอมรับว่าผมมีปัญหากับครึ่งแรกของหนัง จนกระทั่งแผนการของเบนเริ่มเดินหน้าเต็มตัวนั่นแหละ ผมแทบละสายตาจากจอไม่ได้ ความรู้สึกมันพุ่งทะยานแบบสูงสุดเมื่อได้เห็น “บรูซที่ร่วงหล่น” ได้กลับมา “ผงาด” อีกครั้ง จนกระทั่งถึงตอนจบที่ส่วนตัวผมคิดว่า ทำได้น่าประทับใจมากๆ (โดยเฉพาะ ในฐานะแฟนคอมมิคแบทแมนของแกรนท์ มอร์ริสัน ใครเคยอ่านหลังเหตุการณ์ Batman R.I.P. คงเข้าใจ)

เบนไม่ใช่โจ๊กเกอร์ และผมยอมรับว่า “แบทแมน VS โจ๊กเกอร์” ใน The Dark Knight มันช่างสนุกเสียเหลือเกิน อีกทั้ง TDKR ยังมีความเหมือนกับ Batman Begins มากกว่าจะเป็น TDK และผมยังคิดว่า TDK เป็นหนังที่ดีที่สุดในไตรภาคของโนแลน แต่ TDKR เปี่ยมด้วยอารมณ์ฮึกเหิมในแบบที่ TDK ไม่มี และองก์ที่สามของ TDKR ก็ดีกว่าองก์ที่สามของ BB

คริสเตียน เบล ทำได้ดีกับบทของบรูซ เวย์นที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ บรูซ เวย์นเหมือนจะรับความโศกเศร้าได้ง่ายกว่าใน TDK แต่เมื่อมาเจอกับเบน บวกด้วยอายุที่มากกว่าเดิม และร่างกายที่ “น่วม” กว่าเดิม บรูซก็ต้องกลับมาพบกับความเจ็บปวดอีกครั้ง พูดง่ายๆคือ BB = ความกลัว , TDK = ความโกลาหล , TDK = ความเจ็บปวด

แอนน์ แฮธาเวย์โดดเด่นมากกับบทของซาลิน่า ไคล์ ทำให้นึกถึงเซลิน่าในคอมมิคเวอร์ชั่นของ Jeph Loeb (ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจหลักของแบทแมนของคริสโตเฟอร์ โนแลนมาตั้งแต่ต้น)  

แกรี่ โอลด์แมนทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้วกับบทบาทของเจมส์ กอร์ดอน แม้ภาคนี้จะถูกตัวละครอื่นๆแย่งความเด่นไปเยอะ , โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ โดดเด่นกับบทของจอห์น เบลค แต่การแสดงของเขา... ผมรู้สึกเหมือนไม่ต่างอะไรกับใน Inception เท่าไหร่  , ทอม ฮาร์ดี้ก็ทำหน้าที่เบนได้ตามอัตภาพ ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ถึงกับโดดเด่นแบบสุดๆ

บทของโจนาธาน โนแลนและคริสโตเฟอร์ โนแลนอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่สามารถจับหัวใจของแบทแมนได้อยู่หมัด มีการนำเอานิยายคลาสสิคอย่าง Tale of the Two Cities ของชาลส์ ดิคเก้นส์มาใช้ ซึ่งนิยายคลาสสิคมักจะเป็นวัตถุดิบสำหรับคอมมิคซูเปอร์ฮีโร่ของอเมริกาอยู่แล้ว แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ตรงนี้เท่านั้นเอง นอกจากนิยายคลาสสิคที่ว่า TDKR ยังเอาคอมมิค Knight Fall , No Man’s Land และ The Dark Knight Returns มาใช้แบบเต็มๆ

คริสโตเฟอร์ โนแลน – เขาทำได้อีกแล้ว... อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ผมมีปัญหากับการเล่าเรื่องในช่วงแรก แต่โดยรวมแล้ว TDKR ถือว่ายังรักษาฟอร์มมาตรฐานของตัวเองได้อยู่

TDKR เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เพียงเรื่องเดียวในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่ทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิม เกิดแรงบันดาลใจแบบเดียวกับบทใน Batman R.I.P. ดังกล่าว และมีฉากจบที่ทำให้ขนลุก แม้จะไม่สมบูรณ์พร้อมก็ตาม

8.5 / 10

(ปล. โรง Imax Paragon ปรับปรุงเรื่องเสียงด้วยนะครับ เสียงพูดในเรื่องนี้ “เบามาก” ถูกซาวด์อื่นๆกลบแบบแทบไม่ได้ยินอะไรเลย สงสารพวกชาวต่างชาติที่เข้ามาดูจริงๆ...)

แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 55 23:08:50

แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 55 23:06:10

จากคุณ : หมาหัวโจก
เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 23:05:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com