TDKR วิจารณ์+สปอยล์ ด้านลึกสุดของฮีโร่
|
 |
ผมขอวิเคราะห์สองฟากครับ ฟากตัวร้ายกับฟากของฮีโร่
ความคาดหวังต่อตัวร้าย
หลังจาก TDK ที่โจ๊กเกอร์โดดเด่นมากๆ โดดเด่นตรงที่ตัวโจ๊กเกอร์ระดมคำถามที่ขบไม่แตกให้เราตลอดทั้งเรื่อง จนเหมือนเราอดคิดไปด้วยไม่ได้ว่า ถ้าเราเป็นชาวกอตแธมเราจะทำอย่างไร โจ๊กเกอร์สบประมาทไว้ว่า(ไม่เป๊ะนะครับ) คนดีทั้งหลายที่เห็นอยู่ เมื่อถึงจุดหนึ่งพวกมันจะกินกันเอง ! แล้วท้าทายประโยคนี้ด้วยฉากเรือเฟอร์รี่สองลำ...
มาภาคนี้ TDKR ตัววายร้ายไม่มีคำถามอะไรมาถามเรามากนัก ถ้าเทียบแรงจูงใจในการก่อการร้ายระหว่างภาคนี้กับภาคที่แล้ว ดูเหมือนว่าแรงจูงใจของภาคที่แล้วน่าสนใจกว่า นั่นคือโจ๊กเกอร์พยายามพิสูจน์ว่าคนเราไม่ได้สูงส่งไปกว่าตัวประหลาดอย่างเขาเลย(ซึ่งแม้จนถึงบัดนี้มีใครกล้าพูดเต็มปากเต็มคำบ้างว่าโจ๊กเกอร์ประเมินมนุษย์ผิด? ถ้าเหตุการณ์จริงจะไม่มีใครในหมู่เรากดระเบิดเรืออีกลำจริงหรือ? )
แต่ใน TDKR ในช่วงทั้งหมดของหนังปูว่าแรงจูงใจของตัวร้ายเป็นอุดมการณ์ของพันธมิตรแห่งเงาในการทำลายอารยธรรม สำหรับคนดูที่อาจจะลืมๆ ภาคแรกไปแล้ว อาจจะแทบจำไม่ได้ว่าแล้วทำไมพันธมิตรแห่งเงาจึงจำเป็นต้องทำลายอายธรรมด้วย ยิ่งตอนหลังมาเฉลยว่าเป็นแรงแค้นส่วนตัวของลูกสาวราช อัลกูล ก็ยิ่งทำให้ความน่าสนใจของแรงจูงใจในการก่อการร้ายลดลงไปอีก
จริงๆ จะว่าไปประเด็นในการก่อการร้ายไม่น่าสนใจไปทั้งหมดก็ไม่เชิง เรื่อง อนาธิปไตย เรื่องความตึงเครียดทางชนชั้น (ผ่านปากนางแมวป่า) สองประเด็นหลักนี้ ถูกอ้างถึงแต่ไม่ได้ถูกขยายความมากนัก ทั้งที่สองประเด็นหลักที่ว่านี้ เป็นสาเหตุหลักที่เบนใช้มันในการปลุกระดมผู้คนให้เกิดจลาจล พูดง่ายๆ คือหนังปูเรื่องความตึงเครียดทางชนชั้นในกอตแธมน้อยเกินไป (ก็มีปูมาบ้างนิดหน่อยๆจากปากของนางแมวป่า) หนังใช้เวลาปูเรื่องเด็กในคุกมืดมากกว่าเรื่องความตึงเครียดสะสมทางชนชั้นของกอตแธมที่เป็นเหมือนเชื้อเพลงรอให้เบนมาจุดไฟ จนรู้สึกว่าเบน จุดไฟ ได้ง่ายไปหน่อย
สรุปความน่าสนใจว่าด้วยแรงจูงใจ เทียบ TDKR และ TDK คือประเด็นที่โจ๊กเกอร์ท้าทายเรามันถูกถ่ายทอดได้อย่างมีพลังกว่า ในขณะที่ประเด็นเรื่องแรงจูงใจของเบนนั้นถูกถ่ายทอดมาอย่างเบาบางเกินไป และตอนจบประเด็นเรื่องชนชั้นก็ดี เรื่องอนาธิปไตยก็ดี เป็นเพียง ข้ออ้าง ของเบนและลูกสาวราช อัลกูล เท่านั้นเองที่จะแก้แค้นเรื่องส่วนตัว ยิ่งทำให้มันดรอปลงถ้าเทียบกับว่าโจ๊กเกอร์มันเชื่อของมันอย่างนั้นจริงๆ ว่ามนุษย์ทั่วไปมันก็เลวไม่ต่างจากตัวประหลาดอย่างมัน ส่วนอุดมการณ์ของพันธมิตรเงานั้นไม่ได้ถูกขยายเพิ่มเติมอีกแล้วในภาคนี้ มันเลยทำให้เลือนๆ ไปบ้าง ว่าในสายตาของตัวร้ายในภาคนี้นั้นทำไมกอตแธมจึงสมควรถูกทำลาย
ทั้งหมดนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่ชอบ TDK ผิดหวังกับตัวร้ายในภาค TDKR
น้ำหนักที่กลับมาสู่แบทแมนและบรูซ เวย์น
แต่ข้อดีของภาคนี้ที่มาทดแทนด้านลึกในแรงจูงใจของตัวร้าย คือการขยายความตอนจบของ TDK หลังจากฉากจบในภาคที่แล้วที่สรุปได้ว่าแบทแมน เป็นมากกว่าฮีโร่ แบทแมนยกตำแหน่ง ฮีโร่ ให้กับฮาร์วี่ย์ ส่วนตัวเองกลับยอมจมไปอยู่ในด้านมืด เพื่อให้ฮาร์วี่ย์เป็นแรงบันดาลใจในด้านสว่างของคนทั้งเมืองแทนที่จะมี ตัวประหลาด อย่างเขาเป็นแรงบันดาลใจ ดังที่กอร์ดอนบอกไว้ในตอนจบของภาคที่แล้ว เราต้องไล่จับเขา เพราะเขารับมันได้ เพราะเขาทนกับมันได้....เขาไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นยิ่งกว่า...เป็นผู้พิทักษ์ในความมืด เป็นอัศวินแห่งรัตติกาล...
คำว่า Rises หรือ ผงาด คือการปีนขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของการทนแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ ผ่านสัญลักษณ์ทั้งจากการพลิกฟื้นจากการเป็นคนพิการ ผ่านการปีนคุกในหลุม และสำคัญกว่านั้นคือ เมื่อ ฮีโร่ อย่างฮาวี่ย์ ถูกทำลายลง แบทแมนที่ยอมจมอยู่ในด้านมืดเพื่อเป็นดังท้องฟ้าราตรีให้ ดาว อย่างฮาวีย์เจิดจรัส ตลอดมานั้น ต้อง Rises ขึ้นมาด้วยตัวเอง เขาต้องกลับมาเป็นความหวังของคนทั้งเมืองเอง (หลังจากที่ฝากทุกอย่างไว้กับฮาวี่ย์ในภาคที่แล้ว)
ความจริงตัวเวย์นเองก็แทบจะ แบกรับไว้ไม่ได้ แล้ว ความเชื่อมั่นของเขาถูกสั่นคลอนอย่างหนัก ทั้งแรงจูงใจที่จะมีชีวิตอยู่(เวย์นเชื่อมาตลอดว่าถ้าคนรักในภาคที่แล้วไม่ตาย เธอจะเลือกเขา แต่ก็เปล่า ฉากที่อัลเฟรดบอกความจริงเรื่องนี้ แทบทำให้ผมน้ำตาตก) ทั้งพละกำลังที่ถอดถอย ทั้งทรัพย์สินประดามีที่สูญหายไป ทั้งเพื่อนอย่างอัลเฟรด(จะเรียกว่าญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเขาก็ว่าได้) พูดง่ายๆ คือ เมื่อมาถึงกลางเรื่องแล้ว เวย์น สูญเสียทุกอย่างเท่าที่คนๆ หนึ่งสูญเสียได้...
อะไรที่ทำให้เขาปีนขึ้นมาจาก หลุม ได้ ? ผมว่านี่คือแกนหลักของเรื่องทั้งหมด .....
คุณไม่มีอะไรติดค้างคนพวกนี้แล้ว...คุณให้พวกเขาไปหมดแล้ว นางแมวป่าพูด
ยัง...ยังไม่ทุกอย่าง... แบทแมนกล่าว
คำถามสุดท้ายนี้ อยากให้คุณๆ ที่ดูแล้วช่วยกันตอบหน่อยแล้วกันครับ
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 11:32:08
จากคุณ |
:
น้องจั้ง
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ค. 55 10:12:04
|
|
|
|