TDKR... review หลังจากรอคอยมาจนตัวสั่นน แฮ่มม+
|
 |
เป็นสัปดาห์ที่หมดหมุ่นอยู่กับ TDKR ทั้งวันทั้งคืน สารพัดเว็บบอร์ดที่เข้าประจำก็เกิดระแวงกลัวสปอยด์ไม่กล้าเข้า วันๆนั่งเฝ้าดู BATMAN begin กับ TDK รอให้ถึงวันศุกร์หลังเลิกงาน เพราะซื้อตั๋วล่วงหน้าไปแล้ว 2 อาทิตย์...เป็นหนึ่งในหนังที่ตั้งตาคอยมากๆๆทีเดียว
ผมไปดูมาแล้ว IMAX พารากอน ฟิล์ม 70 mm ใหญ่เต็มจอตลอด 172 นาที เอาแค่ความรู้สึกหลังดูจบแบบไม่สปอยด์ก่อน
สนุกมากครับ...หนังฮีโร่รันทดอาภัพ...ตลกโปกฮา...และเท่ที่สุด
การถ่ายทำมีพลังมากด้วยกล้อง IMAX แถมยังทำพังไปหนึ่งตัว(หลายล้านนะนั่น) คมชัดกิ๊ก ยังทรงพลังด้วยการเล่าเรื่องแบบกล้องนิ่ง และการเลื่อนช้าๆ ตัดสลับกับเสียงดนตรี และซาวเอฟเฟคที่กระหึ่มเร้าตลอดฉากแอ็คชั่น ไม่ตัดภาพเสี่ยวแดกด้วยการ closeup เหตุการณ์ป้อนให้คนดู ถ้าคนตาย...ก็ไม่ได้ไปclose upถ่ายหน้าเลือดไหลออกปาก ถ้าปาระเบิด...ก็ไม่ได้close upไปทีระเบิดกระทบอิฐ ถ้าต่อยกัน...ก็ไม่ได้close upให้เห็นหมัดจังๆช้าๆ ...แต่ถ่ายมุมกว้างแล้วตัดสลับให้คนดูควานหาเอาเอง...(โดยเฉพาะฉากระเบิด) ซึ่งมันทำให้มันสมจริงและระทึกลึกๆ มากกว่าตื่นเต้นที่ไปอยู่ไกล้ๆ ผมชอบมากกกก ว่ากันว่า ท่ามกลางยุคที่ VFX และ 3D ครองโลก กล่าวกันว่านี่อาจเป็นงาน 2D ชิ้นสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดของยุค...โนแลนด์ไม่นิยม CG มาก
การวางองค์ประกอบภาพของแต่ละเหตุการณ์ทำได้สวยงาม...ไม่เห่อมุมแอ็คชั่นหรือดราม่าเกินไป...แต่จะเล่านิ่งๆ...นิ่งสุดๆ แล้วให้เสียงเอฟเฟคกับเนื้อเรื่องเร้าแทน ก็ผลงานระดับขึ้นหิ้งน่าเก็บสะสมทีเดียว
เนื้อเรื่อง ไม่สามารถเทียบกับภาค 2 ได้...เพราะมันคนละแนว ตัวร้ายภาค 2...โจ๊กเกอร์...เน้นสงครามประสาท...จิตวิทยา...ทำลายจิตใจ...ถึงสุดขั้วหัวใจมนุษย์...หลักๆคือเล่นสนุกกับแบทแมน...ไม่ได้สนเมืองเท่าไร ตัวร้ายภาค3...เบน...เน้นลุย...อึดถึกอมหิต...ทำลายอย่างเดียว...แบบเดียวกับภาค 1 เลย...ไม่สนแบทแมนมาก...กรูขอบอมเมืองอย่างเดียว โจ๊คเกอร์...แบทแมนต้องสู้กับแผนของมัน...พร้อมกับปกป้องชาวเมือง...สละตัวเอง แต่เบน...แบทแมนนี่ต้องสู้ตัวๆ วัดพลังกันดุ้นๆ...พร้อมกับแผน...พร้อมกับศรัทธาชาวเมือง...พร้อมๆกับตัวเอง แต่โดยเนื้อเรื่องแล้ว...โหดกว่าเดิมมาก
ภาค 2 แบทแมนต่อสู่ เพื่อศรัทธาชาวเมือง ภาคนี้ แบทแมนกลับมาสู้กับตัวเอง...กับสู้เพื่อไม่ให้เมืองพังเป็นหลัก แยกบริบทชัดเจนไม่ซ้ำซ้้อน
สิ่งที่ชอบ 1.ฉากปะทะกันครั้งแรก...รู้เลยว่าโดนทรยสแพ้แน่ๆ...แต่โนแลนด์ไม่สน...โชว์แบทแมนโดนอัดกว่า 10 นาทีร้องโอดครวญ...ทรมานใจยิ่งนัก...ฟีลตอนนี้สุดๆ 2.ฉากมุมกว้างระเบิดทั้งหลาย เต็มจอ...มันแพนกว้าง...ปล่อยยาว...ไม่ closeup ...เหมือนค่อยๆให้รับรู้จากการต้องกวาดสายตาดูให้ทั่ว...ว่าหายนะสุดเลยนะ...มันน่าทึ่งมาก 3.ความน่ากลัวของเบน...ปูมาแบบต่อให้วางแผนขนสารพัดอาวุธมารุมก็สู้อีตานี่ไม่ได้...ตัวตัวก็แพ้...โหดเกิ๊นนน...หน้ากากเท่มาก 4.โดยรวมแล้วภาคนี้แอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญ...เน้นพลังไม่ต้องใช้หัวคิดให้ปวดตับมากมายแล้ว...สนุก 5.ฉากต่อสู้กันตอนสุดท้าย...นี่เป็นฮีโร่ตัวแรกที่ปะทะท่ามกลางประชาชน...โดยไม่ได้แอบไปตีไปปราบเอาคนเดียว...ซัดกันโจ่งครึ่มสะใจมาก 5.ฉากตื่นมาเรียกหาอัลเฟรดประโยคเดียวเท่านั้นแหละ...ไม่อยู่แล้ว T T 6.ฉากที่มีอัลเฟรดทุกฉาก...โดยเฉพาะฉากสุดท้าย T T สะอื้น 7.สมเป็นภาคจบ...สมชื่อ RISE ไม่ต้องเป็นแค่อัศวินในเงามืดที่คนเข้าใจผิดต่อไป...แต่ผงาดขึ้นมาอย่างผ่าเผยเป็นความหวังเลย
สิ่งที่ไม่ชอบ 1....เฉลยได้กระชากหักอารมณ์เกิน ...เพราะไม่ได้ปูเนื้อหาของยัยนี่มาก...แต่สิ่งที่แสดงมาแต่ต้นคือเบน...เลยไม่อินตอนเฉลย...โผล่มาดื้อๆด้วยเหตุผลที่แทรกมาแป๊บๆ ...จึงกลับกลายเป็นตัวร้ายที่สุดไม่ใช่เบน...เลยดูกระจอกงอกง่อยน่าผิดหวังไปทันที...หมดพลังหมดลุ้นเลยพอไม่มีเบน 2....ดราม่าตัวร้ายไม่อิน 3. ตลอด 3 ภาค...รอแล้วก็ยังไม่มีฉากเฉลยว่า...นอกเหนือจากเหตุผลที่พ่อแม่บรูซรักเมืองทำเพื่อเมืองแล้ว...ทำไมแบทแมนยอมถวายสละตัวทำเพื่อก็อธแธมขนาดนั้น
สรุป...โดยรวมเป็นหนังฮีโร่ที่สนุกเกรด A++ ถ้าให้คะแนน TDK 9/10 ผมให้ TDKR 9/10 เท่ากัน
ถ้าดูหลายรอบได้ไหม?...ชัวร์ดูหลายรอบก็สนุกเพราะ TDK เป็นภาคที่เนื้อหาแน่นและเข้มข้นใช้สมองตลอดเวลา...กลับไปดูอีกก็สนุก TDKR เป็นภาคที่ไม่ต้องใช้หัวคิดไรมาก...นนอกจากมันส์!...เท่!...แอคชั่นสุดๆ!!...ภาพสวย!!.... ปล.จุดสังเกตุ 1....แต่พอดูภาคนี้เพิ่งสังเกตุได้ว่า...ไอ้ TDK ภาค2 นี่ไม่มีฉากในถ้ำค้างคาวแฮะ... 2...ใครโดนยิงแทบจะหารอยยิงหรือเลือดไม่เจอเลยสักภาค 555 โนแลนด์เซฟมาก --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- นี่เป็นหนังฮีโร่เรื่องแรกที่บอกเหตุผล...ของการใส่หน้ากากปิดบังความจริงที่ดูดีที่สุด
หนังฮีโร่ทั้งหลายยังไม่เคยมีเรื่องไหนบอกความหมายของการปิดบังหน้าตาหรือการใส่ชุดเท่ๆอย่างเรื่องนี้มาก่อน เหตุผลที่สำคัญที่สุดของภาคนี้คือ
"หน้ากาก...ใส่เพื่อป้องกันคนที่เป็นห่วงใยคนไกล้ตัวเราถูกทำร้าย... แต่จุดประสงค์คือเพื่อเป็นสัญลักษณ์... สัญลักษณ์แห่งความดีที่ชาวเมืองยึดมั่นในความถูกต้องและมีความหวัง เพราะฮีโร่จะเป็นใครก็ได้... แค่คนธรรมดาคนนั้นคลุมเสื้อให้เด็กชายตัวเล็กๆในวันที่พ่อแม่เค้าสิ้นใจ...แล้วบอกกับเด็กคนนั้นให้รู้ว่าโลกมันยังไม่แตกสลาย ...ก็เป็นฮีโร่แล้ว"
เป็นฉากที่ประทับใจที่สุด...ฉากที่เฉลยกับกอดอน -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประโยคเด็ดในหนังที่จำได้...
1.ตอนแบทแมนคุยกับแคทวูแมน...หันควับเธอหายไปแล้ว "คนเขารู้สึกกันแบบนี้สินะ" ...นี่อย่างฮาเลย
2.ตอนเบนไปกระชากคอคนในตลาดหุ้ย "ที่นี่ไม่มีเงินให้แกปล้นหรอก" เบน "งั้นแกมาที่นี่ทำไม" ...นี่ก็หงายเงิบ 555
3.แคทวูแมนพูดเสียงสั่น "คุณไม่ติดค้างอะไรคนพวกนี้อีกแล้ว...คุณมอบให้เขาแล้วทุกสิ่ง" แบทแมน "ยัง...ยังไม่หมด" ...จึ๊ก...ซึ้ง
4. กอดอนบอกกับเบรคว่า"ตำรวจสืบสวนไม่เชื่อในเรื่องบังเอิญ " ...เท่โคตร...สัญชาติญาณล้วนๆ
5.อีตา สการ์คราว มั่วนิ่มไปเป็นผู้พิพากษา ...ให้ตัวเลือกชาวบ้าน 2 ข้อคือ สั่งประหาร หรือเนรเทศ...ผบ.กอดอนหล่อ...เลือกโดนประหารดีกว่า อีตานี่เลย..."ขอสั่งประหาร...โดยการเนรเทศ"...!!! นี่เมิงมั่วนิ่มหมดมุขนี่หว่า 5555 ...สมเป็นคนบ้าติงต๊องหน้าฮามาก
6.ตอนปะทะคารมกันระหว่างอัลเฟรดกับบรูซ "คุณเลิกจับคู่ให้ผมเถอะอัลเฟรด" (หรืออะไรทำนองนี้) "จะให้ผมจับคู่คุณกับลิงชิมแปนซีก็ได้มิสเตอร์เวย์น ถ้ามันทำให้คุณยอมออกไปเจอโลกภายนอก" ...ฮามาก...บรูซไม่เคยโต้คารมอัลเฟรดได้เลย
เป็นหนังที่ดูแล้วมีความสุขกับฮีโร่จริงๆ...จบไตรภาคได้เพอเฟ็คมากๆ
จากคุณ |
:
society6600gt
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ก.ค. 55 00:37:30
|
|
|
|