 |
[Review] รัก 7 ปี ดี 7 หน (Seven Something) ... "รัก 3 แพร่ง เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง"
|
 |
หัดเขียนรีวิวมาให้อ่านกันอีกครั้งนะคะ หวังว่าคราวนี้กระทู้จะไม่โดนอุ้มเหมือนตอนเขียน Cosmopolis นะ >_< ... Review นี้ตัดทอนมาจากที่เราเขียนไว้ใน blog ที่ http://wp.me/p26iTc-3A ค่ะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
---------------
รัก 7 ปี ดี 7 หน (Seven Something)
★★★½ ☆
"รัก 7 ปี ดี 7 หน" หนึ่งในภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอยในรอบปีนี้ นอกจากหนังเรื่องนี้จะฉลองครบรอบ 7 ปี ของค่ายหนังอารมณ์ดี GTH แล้ว ยังมีผู้กำกับสุดเจ๋ง และนักแสดงชื่อดังมากมายมาร่วมงานอีกต่างหาก เชื่อได้ว่าสาวกหนัง "Feel Good" ไม่พลาดอย่างแน่นอน
ภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หนังได้แบ่งออกเป็น 3 ตอนย่อย โดยเล่นกับเลข 7 และความเชื่อเกี่ยวกับดาวมฤตยูที่ว่า ทุก 7 ปี ชีวิตคนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องของความรัก ... ซึ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตนี้ อาจคล้ายกับทางแยก ที่ไม่ว่าเราจะเลือกเส้นทางไหน ถนนแต่ละสายย่อมนำไปสู่สิ่งที่แตกต่างกัน และเราก็ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้ได้
14
โดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา
เมื่อรักครั้งแรกเกิดขึ้นในยุคดิจิตัล ซึ่งมี Social Network มากมายเป็นตัวช่วยในการสื่อสารกับคนรัก ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Skype และ WhatsApp ก็ไม่แปลกอะไรที่ "ป่วน" (เ้ก้า - จิรายุ) จะใช้สื่อเหล่านี้ในการสานสัมพันธ์กับแฟนรุ่นน้องอย่าง "มิลค์" (ปันปัน - สุทัตตา) แต่ความงดงามของโลกออนไลน์ก็หมดไป เมื่อป่วนโพสต์คลิปแฟนลง YouTube และหมกมุ่นกับยอด Views และ Likes จากคนแปลกหน้า จนละเลยทุกสิ่งรอบตัวไป
ประเด็นของหนังน่าสนใจมากและนำเสนอออกมาได้ดีทีเดียว ซึ่งในส่วนของตัวบทนั้นได้พี่เต๋อ - นวพล (ผู้เขียนบท "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" และ "Top Secret วัยรุ่นพันล้าน") มาดูแล ใครที่เคยดูผลงานพี่เต๋ออย่างเรื่อง "เมธาีวี" ก็น่าจะคุ้นเคยกับประเด็นนี้เป็นอย่างดี เมื่อมารวมกับสไตล์หนัง "บ้าพลัง" แบบพี่กอล์ฟ - ปวีณ ก็ทำให้รู้สึกว่า "14" บอกเล่าเรื่องราวของวัยรุ่นยุคนี้ได้ดีจริงๆ การเล่าเรื่องด้วยภาพต่างๆ ล้วนเปี่ยมไปด้วยพลังและความแปลกใหม่ แต่ลูกเล่นจัดจ้านเหล่านี้ค่อนข้างอันตรายทีเดียวสำหรับคนที่นั่งแถวหน้าจนเกือบติดจอ (แบบดิฉัน) เพราะทำให้เวียนหัวและปวดตาทีเดียวกับการชมตอนนี้ ... (ที่จริงแอบติดใจเล็กน้อยกับความเซียนคอมพ์ของป่วน และโรงเรียนที่เอื้อเฟื้อ iMac มากมายให้นักเรียนได้ใช้ - เริ่ดกว่ารัฐบาลแจก Tablet อีกนะเนี่ย)
สุดท้ายหนังก็นำไปสู่บทสรุปที่จี๊ดมาก และสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผู้ชมได้อย่างแน่นอน
21/28
โดย อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม
หลังจากความรักครั้งแรกอันสดใสของวัยแรกรุ่น หนังก็ได้พาเราดำดิ่งเข้าสู่ความรักที่จริงจังขึ้นและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงอายุ 21 และ 28
เมื่ออายุ 21 "จอน" (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) และ "แหม่ม" (คริส หอวัง) ได้แสดงหนังสุดฮิต "Sea You" ร่วมกัน รักกัน เกลียดกัน และเลิกกันไป เพราะความทะเยอทะยานของแหม่ม ... 7 ปีให้หลัง จะมีการสร้าง "Sea You" ภาค 2 ขึ้นมา แหม่มที่ตอนนี้เป็นดาราตกอับจึงยอมแบกหน้าไปขอร้องอดีตคนรักที่ตอนนี้ทำงานเป็นคนดูแลสัตว์น้ำ (ซึ่งอาจอยู่ในน้ำมากไปจนบวมน้ำ) ให้กลับมาแสดงหนังกับเธออีกครั้ง
เนื้อเรื่องอาจฟังดูเป็นหนังรักทั่วไป แต่ที่จริงมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น ... ตอนนี้เป็นตอนที่เราชอบมากที่สุดใน "รัก 7 ปี ดี 7 หน" อาจเพราะอายุอยู่ในช่วงวัยนี้พอนี้ เลยทำให้สามารถเข้าถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวละครได้มากกว่าตอนอื่นๆ และอีกอย่างที่ต้องชมคือฝีมือการแสดงของนักแสดงในเรื่องอย่าง พี่คริส ซึ่งเอาอยู่กับบทหนังรักแนวนี้อยู่แล้ว และพี่ซันนี่ ที่ห่างหายจากจอเงินไปนานถึง 4 ปี ถึงแม้บทในเรื่องอาจไม่แหวกไปจากบุคลิกและภาพที่เคยเห็นจากซิตคอม "เนื้อคู่ประตูถัดไป/อยากรู้ว่าใคร" มากนัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพี่ซันนี่ทุ่มเทมากกับการรับบทบาทนี้ ทั้งเพิ่มน้ำหนัก ลดน้ำหนัก หัดว่ายน้ำ ดำน้ำ เป็นนักแสดงไม่กี่คนที่เรารู้สึกว่ามี Passion ให้การแสดงมากจริงๆ จนแทบไม่รู้สึกว่ากำลังแสดงอยู่ ... เมื่อทั้งคู่โคจรมาเจอกันเลยทำให้การถ่ายทอด จอน และแหม่ม ออกมาเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่ซ้อมบท (หรือแคสต์ตัวละคร) ด้วยกันครั้งแรก ที่แสดงได้สุดยอดจริงๆ
ปล. F14 เกิดแน่ๆ!
42.195
โดย จิระ มะลิกุล
และแล้วเรื่องราวความรักก็ดำเนินมาถึงวัยผู้ใหญ่ที่ต้องพบเจอปัญหา อุปสรรคชีวิตมากขึ้น ... เมื่อชีวิตมาเจอจุดเปลี่ยนอย่างกระทันหัน "หล่อน" (สู่ขวัญ บูลกุล) ผู้ประกาศข่าวสาววัยหลัก 4 ก็เสียศูนย์ในการใช้ชีวิต แต่สวรรค์ก็ส่ง "เขา" (นิชคุณ) นักวิ่งหนุ่มหน้าใสกิ๊งมาจุดประกายเป้าหมายใหม่ในชีวิต นั่นคือ การวิ่งมาราธอน
สังเกตได้ชัดว่าจังหวะของหนังค่อยๆ ช้าลงจากตอนแรกมากทีเดียว แถมในตอน "42.195" นี้ ยังใช้การเล่าเรื่องแบบ Narrative มีเสียงลึกลับมาคอยบรรยายเรื่องเหมือนกำลังอ่านนิยายอยู่ยังไงยังงั้น ... เหมือนที่เรื่องย่อของหนังบอกไว้ว่าตอนนี้จะเปรียบการวิ่งมาราธอนกับชีวิตคนเรา ซึ่งก็เต็มไปด้วยสารพัดคำคมโดนใจมากมายตามสไตล์ GTH ที่ฝากไว้ให้คนดูมาคิดต่อกัน (เช่น "อยากวิ่งแต่ไม่อยากเหนื่อย" "เหนื่อยวันนี้ พรุ่งนี้ก็หายแล้ว" "ถ้าได้วิ่งมาราธอน ชีวิตคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป" หรือ "ปีศาจที่กิโลเมตรที่ 35") และรับรองได้ว่าโดนใจสาวน้อย สาวใหญ่ที่นิยม "กินเด็ก" อย่างแน่นอน หรือถ้าไม่ชอบกินเด็ก แต่อยากกินนิชคุณ ก็โดนใจ กรี๊ดแตกแน่ๆ
ในเรื่องของการแสดง นักแสดงมือใหม่ทั้ง 2 ก็ทำได้ดีทีเดียว ทั้งคุณสู่ขวัญที่ถ่ายทอดบทสาววัย 40 ได้อย่างน่าสนใจ และถึงจะเล่นบทโทรมขนาดไหน ก็ยังดูดีทุกฉากได้ เริ่ดจริงๆ และนิชคุณที่มีเสน่ห์มากกก แถมเล่นได้น่ารักทีเดียว จะซึ้ง จะฮา ก็บ่ยั่น ติดอย่างเดียวคือพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด ซึ่งทำให้รู้สึกขัดหูอยู่บ้างในหลายๆ ฉาก ... อ้อ อีกหนึ่งนักแสดงที่เป็นสีสันสำคัญในเรื่องนี้ก็คือ โอปอล์ - ปาณิสรา (จำไม่ได้แล้วว่าในเรื่องชื่ออะไร) ที่สวยเปรี้ยวเฉี่ยวทุกฉากจริงๆ
ปล. ในโลกแห่งความจริงนี่สามารถหาผู้ชายตามบทบาทของนิชคุณได้ที่ไหนคะเนี่ย จะรีบวิ่ง 4*100 เมตรไปเลย หรือจะให้วิ่งมาราธอนไปหาก็ได้ ขอแค่มีอยู่จริง!
:: สรุป ::
โดยรวม "รัก 7 ปี ดี 7 หน" นำเสนอความเปลี่ยนแปลงของชีวิตและอายุในช่วงอายุต่างๆ ออกมาได้ดีทีเดียว หลายประเด็นน่าสนใจถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้าใจได้ง่าย แถมมีนักแสดงแม่เหล็กมากมายมาเล่น ทั้งเป็นนักแสดงนำและนักแสดงรับเชิญ โดยเฉพาะนิชคุณที่จะช่วยดึงคนดูต่างชาติได้เยอะมากๆ (แถมยังมีผู้สนับสนุนมา Tie-in กันอย่างคับคั่ง) ก็รับรองได้ว่าหนังเรื่องนี้จะโดนใจคอหนัง GTH รวมถึงคนดูทั่วไป และกอบโกยรายได้หลายร้อยล้านบาทไปไม่ยาก
ปล. คุณจะดูหนังสนุกขึ้น และรักหนังเรื่องนี้ ถ้าคุณเป็นแฟนคลับตัวยงของหนัง/นักแสดงเครือ GTH หรือรู้จักคนทำงานที่ GTH หรือเป็นแฟนพันธุ์แท้ "นิชคุณโอปป้า"
ปล.2 แอบรู้สึกว่า Score บางตัวมันคุ้นๆ เหมือนเคยฟังใน "Little Miss Sunshine" แถมมีโฆษณาโคโลญจ์ของไทยเอามาใช้ด้วยนะ อืมมม
| จากคุณ |
:
meanbrat  
|
| เขียนเมื่อ |
:
22 ก.ค. 55 05:46:20
|
|
|
| |
