ความคิดเห็นที่ 1 แล้วแต่เหตุผล ถ้าเจอแบบนี้ทิ้งแม่เลย เอางานแต่งให้จบก่อนเรียงตามลำดับความสำคัญ กรณีของแม่ถึงไปเฝ้าอยู่ข้างเตียงก็ไม่ได้ทำให้แม่ฟื้นได้ สำหรับเราจะยกเลิกงานแต่งกรณีเดียวคือ แม่ใกล้ตายแล้วขอสั่งเสียครั้งสุดท้าย จากคุณ : ็Hong Zu เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:54:51

ความคิดเห็นที่ 2 ใช่ค่ะ เราว่าไม่น่าถึงจะยกเลิกเลย แต่เราว่า ยังไงแม่ก็ต้องพยายามหาทางทำให้เลิกกันอยู่ดีแหละ จากคุณ : YEWARNON เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:55:03

ความคิดเห็นที่ 3 ดูแล้ว อึดอัด + เครียด  ยังไงไม่รู้ ^ ^* จากคุณ : กระปอมก่าคับ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:56:30

ความคิดเห็นที่ 4 แม่น่ากลัววววว จากคุณ : sweetbox เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:56:47

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือนมีโจทย์ถามว่า ลูกกับเมีย เลือกใคร อะไรแบบนี้ พล็อตเรื่องงี่เง่ามาก ผู้จัดต้องการสื่ออะไร ไม่เข้าใจจริงๆ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:57:25

ความคิดเห็นที่ 6 จะเลิกดูเพราะอึดอัดนี่แหละ ค้านความเป็นจริงมากไป จากคุณ : Les Femmes au chein * เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 21:57:51

ความคิดเห็นที่ 7 มันำม่สมจริงเลย ผู้ชายตัดสินใจแบบนี้ไม่น่าเป็นกัปตันเลย พาคนตายทั้งเครื่อง พลอยสวยมากแต่หนังห่วย ขอเปลี่ยนไปดู Hbo ดีกว่า จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:00:23

ความคิดเห็นที่ 8 โดนมาแล้วค่ะ แม่ก็รัก แฟนก็รัก เราขอให้แฟนแต่งงานมาอยู่กับเรา ย้ายบ้านมาอยู่ด้วยกันก็ได้ เราเป็นลูกคนเดียว   แต่แม่แฟนกลัวว่าแฟนจะรักเรามากกว่า  สุดท้าย ไปไม่รอดค่ะ จากคุณ : ตั้งหน้ารอคอย เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:00:44

ความคิดเห็นที่ 9 แม่สิ จากคุณ : ผมจะอยู่เพื่อคุณสองคน เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:01:03

ความคิดเห็นที่ 10 กด like ให้คห.7  ค่ะ จากคุณ : bangpoo เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:02:29

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าตอบตามความต้องการที่แท้จริง ต้องอยู่แต่งงานให้เสร็จเรียบร้อยครับ แต่คนเรามันมีจุดที่เรียกว่ามโนธรรมสำนึก เราต้องให้แม่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดครับ จากคุณ : เทพสังวาลย์ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:03:27

ความคิดเห็นที่ 12 ให้กิฟท์ *8 อ่านแล้วเห็นใจ จากคุณ : ป็อกป็อกแป็กแป็ก เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:04:09

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ เราแอบตกใจ กับความเห็นว่าจะไม่ยกเลิกงานแต่งอะ คือถ้าแม่ป่วยขนาดเข้า ICU จริงๆนี่จะไม่ยกเลิกงานแต่ง(ไปก่อน) จริงๆเหรอคะ ความจริงพิธีฉลองมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นนะ ก็เลื่อนไปก่อน จดทะเบียนแล้วฉลองทีหลังก็ไม่เห็นเป็นไรเลย คหสต.นะ จากคุณ : ก๋วยเตี๋ยวหน้าใส เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:05:28

ความคิดเห็นที่ 14 "พล็อตเรื่องงี่เง่ามาก" ไม่จริงหรอกครับ เรื่องแบบนี้มีจริง จากคุณ : Mr.thanyawat เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:05:43

ความคิดเห็นที่ 15 แปลกใจที่คุณหน่อยเลือกเรื่องแบบนี้มาให้คุณเคนเล่น แทนที่จะทำเรื่องที่ส่งเสริมภาพลักษณ์สามี แต่กลายเป็นว่าตัวละครธีระที่คุณเคนเล่นดูโลเล เป็นลูกแหง่ ทำอะไรไม่เคลียร์สักอย่าง ... จากคุณ : yibby เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:08:07

ความคิดเห็นที่ 16 ดูแล้วอึดอัดแต่ ความจริงก็มีแบบนี้ การตัดสินใจของตัวละครอาจจะขัดใจใครหลายคนแต่ก็เป็นเหตุผลของเค้า แม่กับเมีย เลือกข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้หรอก เจอแบบนี้ต้องแล้วแต่เหตุผล ตัดสินใจภายใต้เหตุผลห้ามลำเอียงเด็ดขาด เลือกข้างไหนต้องมีเหตุผลอธิบายให้อีกฝั่งเข้าใจได้ ถ้ามีอารมณ์ลำเอียงเทไปฝั่งไหน จบเห่ ทันที ส่วนตัวเคยคุยแบบนี้กับแม่แล้ว ว่าถ้าเจอแบบนี้นะ จะดูเหตุผลแต่ถ้าต้องชี้ขาด จะเลือกเมีย พูดแบบนี้แม่อาจเสียใจแต่เพื่อป้องปรามไว้ก่อนไม่ให้แม่เราหาเรื่องเมีย เพราะปัญหาจะเกิดส่วนใหญ่เกิดจากแม่ (เมียเราคงไม่หาเรื่องแม่ก่อนหรอก) จากคุณ : ็Hong Zu เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:08:22

ความคิดเห็นที่ 17 ครอบครัวพี่ผมเลยครับ เลือกเมีย เมียตื่นสาย เมียขี้เกียจ เมียไม่ทำงาน แม่บ่น บอกแม่อคติ สุดท้ายย้ายกันไปอยู่บ้านแม่ยาย พี่ชายผมต้องตื่นแต่เช้าเอาลูกไปส่งโรงเรียน ส่วนลูกอีกคน เอามาให้แม่ผมเลี้ยง จนเด็กเรียกย่าตัวเองว่าแม่ ขณะที่เมียนอนตื่นสาย สบายใจเฉิบ ส่วนใหญ่แล้วผมว่าคงเลือก เมีย จากคุณ : She Moves In Her Own Way เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:09:02

ความคิดเห็นที่ 18 ละครก็คือละคร ชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะห้ามขนาดนี้ ก็ชิงไปจดทะเบียนสมรสกันก่อนก็เป็นผัวเมียถูกต้องตามกฏหมายแล้ว แล้วค่อยจัดงานแต่งแบบง่ายๆรวบรัด แม่หวงลูกอะไร อยู่ก็อยู่คนละที่ ลูกอยู่คอนโด จะไปคั่วสาวทุกวันก็ยังได้ คนลักษณะหวงลูก หรือผู้ชายที่เป็นลูกแหง่นี่จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตนะ แถมต้องอาศัยอยู่กับแม่ด้วย แม่จะได้หวงและไม่ชินถ้าลูกจะย้ายออกไป นี่อะไรลูกอยู่คนละที่อยู่แล้ว ทำงานก็ต้องห่างบ้าน ไม่ได้อยู่กับแม่ทุกวัน แล้วบอกจะมาหวง ไม่ชิน มันเกิดขึ้นยากอ่ะค่ะ จากคุณ : เบบี้ดอลล์ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:13:12

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าเป็นพลอยจาก 4 แพร่งคงมันส์อ่ะค่ะ ได้เห็นพลอยวางยาแม่ผัวแน่ สะใจ55 จากคุณ : osakimikaru (Osakimikaru) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:14:31

ความคิดเห็นที่ 20 ก็เครียดนะ  แต่มันคล้ายชีวิตคนที่เิกิดขึ้นจริงได้  ไม่เพ้อฝัน ไม่ละครเกินเหตุ   ส่วนตัวชอบ จากคุณ : ปั๊มปิ้ง เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:15:24

ความคิดเห็นที่ 21 พล็อตห่วย เขียนบทเองหรือเอามาจากนิยายเนี่ย คนเขียนคงมีปมเรื่องแม่ไม่รักมาก ๆ เขียนบทละครได้สิ้นคิดมากเลย จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:21:19

ความคิดเห็นที่ 22 ของ 2 อย่าง นำมาเปรียบเทียบหรือให้เลือกไม่ได้ แม่ก็ตือแม่  เมียก็คือเมีย เหมือนที่มีคนให้เลือก  พ่อกับผัว , พ่อกับเพื่อน คนที่ตั้งคำถามนี้ พูดง่าย ๆ คือ จะหลอกด่าคนที่ถาม  ไม่ว่าจะตอบอย่างไรก็จะมีข้อด่าได้ทุกคำตอบ ก่อนจะตอบคนที่ถาม ให้ถามกลับที่ไปว่า  แล้วคนที่ถามจะเลือกใคร  เมื่อคนที่ถามตอบ เลือกแม่หรือเมียก็เอาคำตรงกันข้ามมาด่าคนตอบได้เลย ..ว่าไม่รักอีกคนหรือ... คำถามนี้ก็เหมือน  -ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน- แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 22:25:16 จากคุณ : นักเขียน ใส้แห้ง เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:23:35

ความคิดเห็นที่ 23 เลือกแม่ครับ เมียไม่ได้เลี้ยงมา  ไม่มีทางรักเราเท่าแม่หรอก   และกรณีนี้ ถ้าแต่ง แต่แม่ดันตายวันนั้น คงรู้สึกผิดแย่ ต้องดูตามความรุ่นแรงของ อาการ  ถ้าระดับโคม่า  ใกล้ตาย คงยกเลิก หรือรวบรัด   ปล  ถ้าระดับแม่เข้า icu  ผมมองว่าแค่พิธีฉลอง  มันตัดตอนกันได้ เรื่องง่ายๆ  งานฉลองมันจะมีพิธีอะไรเยอะแยะ  แดก แดก และก็พล่าม แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 22:28:31 จากคุณ : fanatic dog เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:24:43

ความคิดเห็นที่ 24 เชื่อสิ มันต้องมีมุม ให้คิด ให้อิน ฉลองวันแม่ จากคุณ : via iPhone (chabby) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:26:01

ความคิดเห็นที่ 25 โดยสิ่งแวดล้อมในละคร ไม่ใช่เรื่องมโนธรรมสำนึกหรอกครับ แต่เป็นความสามารถในการไตร่ตรองแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คุณแม่อยู่ ICU แต่มีพี่สาวและพี่เขยดูแลอยู่ แม่ยังไม่ฟื้นยังไม่ได้ิรียกหาตัวเราเลย ณ moment นั้น ผมจะเอาประสบการณ์การเป็นกัปตันเครื่องบินมาแก้ปัญหาทีละขั้นตอน โดยให้เหลือปัญหาน้อยที่สุด โดยฝากพี่สาวและพี่เขยดูแลไปก่อนแต่ให้ส่งข่าวทันทีเป็นระยะๆ มือถือก้อมี ไม่ใช่ต้องรอดูสัญญานควัน อธิบายให้เจ้าสาวเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ตัดสินใจร่วมกันเพราะตั้งแต่วินาทีนี่เราจะเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว อธิบายให้พ่อตาแม่ยายฟัง กุมมือลงไปกับเจ้าสาวให้ประธานอวยพรให้เสร็จ ให้กระชับ และอยู่กับเจ้าสาว แสดงความเป็นผู้นำที่จะต้องอธิบายให้แขกฟัง และขอบคุณที่มาเป็นสักขีพยาน แต่ขอทำพิธีแค่ครึ่งชม. ทั้งผมและเจ้าสาวจะรีบไปเฝ้าแม่ทันที แต่แขกยังอยู่ในงานได้ อยู่กับเพื่อนๆ ต่อได้หรือจะกลับก่อนก็ได้ แล้วไปเฝ้าแม่ด้วยกันกับเจ้าสาว ให้แม่ตื่นลืมตาภาคภูมิใจกับการแก้ปัญหาแบบผู้นำ และไม่เสื่อมเสียเกียรติของแม่ให้คนนินนทาว่าเพราะ:-)านเลยล่ม และจดทะเบียนกันทันทีวันรุ่งขึ้น ผมว่าผู้หญิงไม่หวังอะไรไปมากกว่านี้หรอก แม่และลูกสะใภ้คือปัญหาโลกแตก ถ้าผู้ชายห่วยไม่มั่นใจว่าจะดูแลให้ได้ทั้งสองคน ก้อให้เลือกอยู่ไปกับแม่เถอะครัฟ เพราะนั้นคือทางเลือกที่ไม่ทำร้ายใครเลย นอกจากคนห่วยๆ อย่างตัวเอง ป. ล. แต่นี่คือละครอ่ะนะ เข้าจาย จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:28:25

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ต้องลองไปอ่านในห้องชานเรือนค่ะ ประสบการณ์ตรงจากลูกสะใภ้ทั้งหลาย จากคุณ : ซูมิฟคุม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:29:22

ความคิดเห็นที่ 27 มีคนบอกว่า เรื่องนี้ แม่พระเอกคอยกีดกันผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิต จนต้องมีนางเอกถึง 4 คน จนคนสุดท้ายที่แฮปปี้เอนดิ้ง เพราะแม่พระเอกตาย ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เราว่า พล็อตเรื่องไม่น่าดูเลยอ่ะ ขอดูหนังน้ำเน่าที่พระเอกรักนางเอกคนเดียว แต่แม่พระเอกคอยกีดกัน แต่นางเอกก็อดทนจนแม่พระเอกยอมรับว่า นางเอกคือคนที่คู่ควร ดีกว่าอ่ะ >_< จากคุณ : fulllove4ever เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:30:40

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ท่าจะไม่เคยเจอปัญหา แม่ผัวลูกสะใภ้  ลองว่าแม่ผัวไม่ชอบลูกสะใภ้ ขอบอก  จาก ปสก ของ ญาติ มันยากมาก จนบางทีต้องตัดใจเลือก  จะแต่งงาน ถ้าแม่ผัวไม่เอาด้วยละก็ ชีวิตเป็นสุขยาก ปล แต่สงสัยจัง พอดีดูผ่านๆ  ไอ่ที่ป่วยเนี่ย จริงหรือแกล้ง แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 55 22:38:53 จากคุณ : fanatic dog เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:33:27

ความคิดเห็นที่ 29 #13 ของแบบนี้อยู่ที่เหตุผล อย่างที่บอกแม่ป่วยเข้าห้อง ไอซียู ใจเรามันอยากไปเกาะอยู่ข้างเตียง แต่หน้าที่มันก็อีกเรื่อง ถามว่าไปเกาะข้างเตียงแล้วทำให้แม่ฟื้นได้หรือไม่ คำตอบก็คือเปล่า ถามว่าทำไมไม่ยกเลิก เพราะผลกระทบไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียว (ไม่ใช่เราไปขาดสอบวิชาสุดท้ายและเป็นผลทำให้เรียนจบ อันนั้นเดือดร้อนคนเดียวยอมแลก) แต่กับงานแต่งคนอื่นอีกมากมาย ทำไมต้องทำให้เค้าเดือดร้อนเพราะเรา เราคิดข้อนี้ไหม ไหนจะหน้าตาของฝ่ายหญิง แขกที่มาในงานทำไมเค้าต้องมาเก้อเพราะเรา เหตุผลเราใหญ่ เลยมองเหตุผลเค้าเล็กหรือ ไม่สมควร นี้จึงเป็นที่มาของเหตุผลที่บอกว่าไม่ยกเลิก การมองว่าพิธีฉลองมงคลสมรสเป็นเรื่องเล็กอาจจะเห็นตรงกันทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว แต่ใช่ว่าทุกคนที่มาจะว่ามันเป็นเรื่องเล็กเหมือนกันหมด คนสนิทไม่เกรงใจอธิบายเค้าเข้าใจได้ แต่แขกผู้ใหญ่บางคนมีหน้าตา ทำแบบนี้ก็เหมือนไม่ให้เกียร์ติไม่เกรงใจเค้า เราจะอยู่ในสังคมลำบาก จากคุณ : ็Hong Zu เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:33:58

ความคิดเห็นที่ 30 เลือกแม่ค่ะ เราว่าถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ คงไม่มีกะใจไปจัดงานต่อแล้วแหละ ถ้าใครบอกว่าแม่อยู่ในมือหมอแล้ว แต่ถ้าระหว่างนั้นท่านต้องการกำลังใจ รึว่าช่วงสุดท้ายของชีวิตจริงๆ แล้วเราไม่ไป จะมานั่งเสียใจทีหลังก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนละคร แต่ดูพอร์ตเรื่องก็ไม่ดูแล้วค่ะ เนื้อเรื่องเรื่อยๆเกินไป น่าเบื่อ จากคุณ : ผ้าพันคอสีเขียว เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:35:50

ความคิดเห็นที่ 31 จริงๆ ผมว่าอันนี้มันเป็นคำถามที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง    ก็ตอบไปตามความรู้สึก  แต่ถ้าเกิดขึ้นกับตัวจริงๆ คนที่บอกเลือกเมีย อาจจะเลือกแม่ คนที่บอกเลือกแม่ อาจจะเลือกเมีย ปล  แต่ ดูๆแล้ว มีแววแกล้งป่วย แหะ จากคุณ : fanatic dog เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:44:18

ความคิดเห็นที่ 32 แม่เข้าขั้นโรคจิตอ่อนๆ จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:48:05

ความคิดเห็นที่ 33 ดูแล้วอึดอัดเพราะเหมือนชีวิตจริงมากไป... ชีวิตจริงคือแฟนขอยกเลิกงานแต่งค่ะ เพราะคุณแม่แฟนเสีย พ่อแม่โกรธโมโหสุดขีด แต่หลังผ่านงานศพ ก็กลับมาจัดใหม่ พ่อแม่ก็ยกโทษให้ค่ะ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 22:57:49

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบ คห.25ค่ะ ดูเรื่องนี้แล้วแบบว่า เอ่อมมม เนิบมากกกกก มันจะมีเซอร์ไพรซ์ซักตอนมั้ย อย่างที่หลายคห.บอก ว่าพล็อตเรื่องน่าเบื่อ เราเห็นด้วยค่ะ เพราะนางเอกแต่ละคน ในเรื่องก็เป็นคนดีทั้งนั้น แต่แม่ของพระเอกทำตัวเหมือนเดิม พระเอกก็เหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ เราคงกลับมาดูอีกทีตอนจบนะคะ แค่อยากรู้ว่าสุดท้ายพระเอกจะเลือกใคร พรุ่งนี้ขอบายค่ะ รอดูยัยตุ่นดีกว่า >< จากคุณ : เขียนบน iPhone (sweetiiz_me) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 23:15:26

ความคิดเห็นที่ 35 ชีวิตจริง เพื่อนชายเราแบบนี้เลยคะ เค้าเลือกแม่อะ. . .  สมควรอยุ่คนเดียว 46 แหละปีนี้ หุหุ จากคุณ : เขียนบน Galaxy Note (โลกกลม ๆ ใบนี้) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 23:16:47

ความคิดเห็นที่ 36 เคยถามพี่เค้าว่าผู้หญิงคนไหนก็หนีแกหมด แกตอบว่า แกจะหนีตามผู้หญิง ง่ายกว่า.  . . อย่างฮา จากคุณ : เขียนบน Galaxy Note (โลกกลม ๆ ใบนี้) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 23:19:44

ความคิดเห็นที่ 37 ด่าพ่อ ล้อแม่ น่ะพอคบ แต่ด่าเมียที่เคารพคบไม่ได้  จากคุณ : DJ-kornkyoko เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 23:21:03

ความคิดเห็นที่ 38 ก้อต้องเลือกแม่อยู่แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ จากคุณ : นายคล้าว เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 23:25:47

ความคิดเห็นที่ 39 กระทู้ถามเอามันใช่ไหมเนี่ย ผู้ชายที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว ขาดสติในการครองเรือน  อย่างนี้ลำบากไม่ใช่กับตัวเองอย่างเดียว ลำบากกับคู่ชีวิตด้วย จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 55 23:32:28

ความคิดเห็นที่ 40 สามีนั่งดูอยู่ด้วยแบบห่างๆ ได้ยินเค้าพูดบ่นแว่วๆข้างหู ตีความได้...ประมาณว่าเลือกแม่ จากคุณ : Tick Juntavaro เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 00:04:01

ความคิดเห็นที่ 41 เลือกแม่อ่าเลือกได้ แต่ขอเวลาสัก5นาทีจากที่นั่งคร่ำครวญเดินลงไปงานด้วยกันแล้วกล่าวขอบคุณแขกสะหน่อย บอกรักเจ้าสาวเค้าเป็นคนที่เข้าใจผมตลอด บลาๆ จุฟทีนึง ก่อนจะขอตัวลาเพราะมีเหตุจำเป็น เจ้าบ่าวอ่าไปแต่เจ้าสาวอยู่รับหน้าไปก่อน แค่เนี้ยยยย ถ้าเจ้าบ่าวเราเลือกแบบพี่ธีนะ เราเลิกสถานเดียว บ้ารึป่าว ไม่รักษาหน้ากันเลย เดินลงไปรับแขกสักแปปก็คงไม่เสียเวลามาก คนจะมาอยู่กะเราไปตลอดจุดเริ่มต้นแค่นี้ยังตัดสินใจไม่ได้ ต่อไปจะทำไง ใครบอกบทอ่อน เราว่ามันอาจจะดูขัดใจ แต่มันมีอย่างนี้จริงๆ เป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องเราเอง ผู้ชายเป็นคนไม่พูด รักทั้งแม่และเมีย ผู้หญิงเป็นผู้หญิงฉลาด มีความรู้หน้าตาดีฐานะดี จะแต่งงานแต่แม่ขอให้บวชให้ก่อน แม่ไม่ชอบว่าที่สะใภ้ ผู้หญิงก็รู้มาตั้งหลายปีละแต่พยายามปรับตัว จุดแตกหักมันตอนวันบวชผู้ชาย ว่าที่สะใภ้โดนกลั่นแกล้งให้ตำพริกเลี้ยงงานบวชหลายๆครกจนมือแตก(ทั้งๆที่จ้างแม่ครัวอยุ่แล้ว) ตอนลูกชายไม่อยู่แม่ถึงกะโวยวายว่าชั้นไม่เอาสะใภ้คนนี้จะหาเมียใหม่ที่ดีกว่าให้ลูกเอง พอสึกออกมาผู้หญิงก็เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและให้ผู้ชายทำอะไรสักอย่าง แต่ผู้ชายไม่กล้าตัดสินใจว่าต้องทำยังไง เลยปล่อยปัญหาไว้อีกหลายปี จนผู้หญิงทนไม่ได้ขอเลิกแบบนอนตรอมใจไปเอง ว่าที่พี่สะใภ้บอกเราว่า เรารักแฟนแฟนรักเรามันไม่พอ พ่อแม่เค้าต้องรักเราด้วย ถ้าเค้าไม่รักเรา แม้เราปรับตัวแล้วก็ยังไม่ใช่ ก็เลิกซะเพราะเอาเข้าจริงๆเค้าก็ต้องเลือกที่บ้านเค้า เราหมันใส้พี่เรากะป้าเรามาก ภาวนาอย่าได้เจอผู้ชายแบบนี้เลยแกคบกันมา13ปีตั้งแต่ม.3 รักกันมากกกกก แต่ต้องมาเลิกกัน แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 55 00:53:20 จากคุณ : ไม่มีเธอในวันที่ฟ้าสีเทา^^ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 00:52:13

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าเปนอย่างนี้นะ เราจะชวนพี่ธีระไปจดทะเบียนก่อนเลยแล้วบอกรอให้แม่หายแล้วคอยจัดงานเป็นทางการก็ได้ แล้วค่อยมาบอกแม่พี่ธีระ หลังจากจดทะเบียนแล้ว หึหึ จากคุณ : ImNothingInParticular เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 03:54:21

ความคิดเห็นที่ 43 ใครที่ว่าเรื่องแบบนี้เอามัน ไม่มีวันเป็นจริง . . ลองไปถามเรื่องแม่ผัว-ลูกสะใภ้ ที่ห้องชานเรือนสิคุณ รับรอง 100 คน 100 เรื่อง จริงๆ จากคุณ : *+*ข น ม ผิ ง ข้ า ง เ ต า*+* เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 07:56:36

ความคิดเห็นที่ 44 เอ...หรือคุณหน่อยเก็บกดเรื่องแม่สามีคะ เลยมาหาทางระบายให้คนอื่นรู้เป็นนัยๆ อิอิ ล้อเล่นนะคะ จากคุณ : กาสะลอง (PAKUNGKUB) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 09:09:43

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนนี้ใครๆก็พูดได้  แต่ถึงเวลา  แม่ป่วยเข้าโรงพยาบาล  ใจมันไม่อยู่ที่งานแล้วค่ะ  อยากไปหาแม่ให้เร็วที่สุด ถึงอยู่ในงานต่อ  ก็ทำหน้าที่เจ้าบ่าวได้ไม่ดีหรอก  เดี๋ยวแขกจะนึกว่าเจ้าบ่าวโดนเจ้าสาวจับนะคะ อย่างนี้เจ้าสาวไม่ดูแย่กว่าหรอ จากคุณ : Dalalin เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 10:11:48

ความคิดเห็นที่ 46 โชคดีที่มีตัวเองมีแม่มีเหตุผล ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าให้เลือก ไม่เคยคิดมีผู้หญิงคนใหนมีความสำคัญดีกว่าแม่อยู่แล้ว จากคุณ : Hainun Boy เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 12:04:14

ความคิดเห็นที่ 47 คำถามคือ ทำไม ว่าที่เจ้าสาวไม่ตามว่าที่เจ้าบ่าวไปเยี่ยมว่าที่แม่ยายด้วย หรือเพราะว่ายังไม่ได้แต่งงานจึงถือว่าไม่ใช่ดองกับตน จากคุณ : มีดแรกไม่พลาดเป้า เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 12:21:05

ความคิดเห็นที่ 48 คห.47 คำตอบคือต้องอยู่รับหน้าแขก อธิบายให้พ่อแม่และแขกเหรื่อเข้าใจสาเหตุที่ต้องยกเลิกงานแต่ง สรุปก็คือพระเอกบอกให้นางเอกอยู่แก้ปัญหาที่ตัวเองทิ้งไว้ให้ก่อนไปโรงพยาบาลไงคะ ก็เลยตามไปเฝ้าคุณแม่ยายด้วยไม่ได้ เรื่องของเรื่องมันคือถ้าจะตัดสินใจแบบนี้ ควรแก้ปัญหาทีละเปลาะไปด้วยกัน ลงไปอธิบายและขอโทษแขกพร้อมกันสั้นๆ แล้วไปโรงพยาบาลด้วยกันก็ได้ ไหนๆก็ตัดสินใจจะเป็นครึ่งชีวิตของกันแล้ว เราว่าผู้ชายคนนี้ยังไม่พร้อมจะเป็นสามีใคร จากคุณ : mel_girl เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 13:50:07

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้าเป็นเราคงแบบเร่งรัดงานแต่งแบบให้จบไวๆ และบอกแขกว่าแม่ป่วย แต่คงไม่ต้องถึงขนาดหนีออกไปจากงานแต่งกลางคันแบบนี้ ดูไม่แมน จากคุณ : หมูกลมอารมณ์ดี เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 16:40:39

ความคิดเห็นที่ 50 บอกเจ้าสาวกับพ่อแม่เค้า ขึ้นเวทีไปบอกเหตุผล แล้วขอบคุณแขกที่มา รวบรัดงาน แค่เนี้ยก็จบ ค่อยบอกให้เจ้าสาวเปลี่ยนชุดแล้วตามไปทีหลังก็ไม่แปลก จากคุณ : Book&Beer เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 17:06:58

ความคิดเห็นที่ 51 แม่ผัวแบบนี้ .. ต้องเจอ เรยา !!!!! จากคุณ : ~ปัจจัยที่ห้า~ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 17:30:55

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าความจริงไปแต่งงานกันที่โรงพยาบาลก็ได้นะเชิญแขกผู้ใหญ่ไปเลย แต่งที่นั่นรอดูผลการรักษาที่นั่นเลยกันก็ได้ผมว่าแขกผู้ใหญ่ท่านเข้าใจ แต่ธีร์นี่ก็นะเกินไป รู้ว่ารักแม่ แต่อย่าลืมคุณมีพี่สาวอีกคนที่ตัดสินใจได้ ไม่ใช่คุณค้องอยู่คนเดียวเสมอไป จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 55 23:51:24

ความคิดเห็นที่ 53 สมมติว่าเราเป็นผู้ชาย ถ้าแม่เป็นแบบไหนหนังขนาดนั้น คงเลือกเมียอ่ะค่ะ  จากคุณ : Hollywoodgirl เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 16:23:18