เสียงที่ได้ยินนี้เรียกว่า “Chant” เป็นการท่องบทสวดเป็นทำนองต่อกันไปเรื่อยๆ จากที่ผมค้นหาข้อมูลมา คำที่พูดนี้หลายแหล่งว่าไว้ไม่เหมือนกัน แหล่งหนึ่งซึ่งเห็นตรงกันเยอะพอสมควร บอกว่า Chant นี้พูดว่า Deshay Basara ตามนี้
Dey-shey bah sur-rah, Dey-shey bah sur-rah
และพูดต่อกันไปเรื่อยๆ โดยมีบางตอนที่เว้นวรรคเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยคำว่า Deshay Basara อาจเป็นภาษาฮินดี, ภาษาอารบิก หรือแถบๆอินเดีย ไม่แน่ชัดว่าเป็นภาษาอะไร แต่ความหมายก็ประมาณว่า Rise นี่แหละ
ส่วนอีกแหล่งหนึ่งก็บอกว่า Chant นี้พูดว่า De Bashari ตามนี้
Dey-ba sha-ri sha-ri, Dey-ba sha-ri sha-ri
คำนี้เป็นภาษาโมร็อคโกที่แปลว่า “He rises”
โดยคำพูดปลุกระดมในหนังดนตรีประกอบของหนังเรื่องนี้อาจจะเป็นสิ่งที่โนแลน และผู้ให้เสียงดนตรีอย่างฮานส์ ซิมเมอร์ คิดขึ้นมาใหม่โดยการรวมเอาหลายภาษามาไว้ด้วยกันเพื่อสื่อให้เห็นถึงการลุกฮือในหนังก็เป็นได้
ประเด็นหลักของหนังคือการ Rise อย่างที่ผมว่าไว้ ต่างฝ่ายต่างลุกขึ้นเพื่อตอบโต้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ฝ่ายกลุ่มคนในท่อน้ำทิ้งก็ลุกขึ้นเพื่อทวงสิทธิ์ของตัวเองที่พึงมี ฝ่ายตำรวจก็ลุกขึ้นเพื่อปราบปรามคนผิด ส่วนแบทแมนก็ลุกขึ้นเพื่อนำความสงบกลับคือสู่เมือง ไม่ว่าฝ่ายไหนจะถูกหรือจะผิด สิ่งที่จะตัดสินไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวเราเองที่ต้องตัดสิน ตัวเราเองที่ต้องยืนหยัดทำสิ่งที่เหมาะสม ความกล้าคิดกล้าลงมือทำเท่านั้นจะนำมาซึ่งความสงบสุข อย่างหวังว่าจะให้คนอื่นช่วย ในเมื่อตัวเองยังหลบหนีความจริง แล้วใครหน้าไหนจะยื่นมือเข้ามา
หนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดหลากหลายส่วนหลายตอน ด้วยเนื้อหาที่ตีแผ่ปัญหาสังคมอย่างเด่นชัด ด้วยบทสนทนาที่แฝงคติและทำให้ฉุกคิด ด้วยตัวละครแต่ละตัวที่ให้มุมมองการดำเนินชีวิต ด้วยการแสดงของนักแสดงที่ทำให้เราเชื่อไปกับเรื่องราวในหนัง ด้วยเสียงดนตรีประกอบที่สื่ออารมณ์และทำให้เรามีความรู้สึกร่วม หนังไม่ได้เน้นไปที่ฉากแอ๊กชั่น นั่นอาจทำให้หนังเรื่องนี้ดูไม่สนุกสำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้น แต่ต้องบอกเลยว่าความสนุกของหนังเรื่องคือการดูไปคิดตามไป แค่นี้ก็ทำให้การดูหนังเรื่องนี้มีความสุข
ในตอนท้ายของหนังแม้ว่าแบทแมนจะได้จากเมืองก๊อทแธมไปแล้ว แต่ก็เป็นการจากแค่ในนาม หนังสร้างอารมณ์เศร้าด้วยฉากฝังศพของบรู๊ซ เวย์น ก่อนที่จะมาเฉลยในตอนท้ายว่าบรู๊ซ เวย์นยังมีตัวตนอยู่ ต้องนับถือชายคนนี้จริงๆ ที่ยอมเสียสละทุกอย่าง ทั้งความผิดเรื่องการฆ่าฮาร์วี่ เดนท์ ความผิดที่ปล่อยให้เมืองน่าอยู่แห่งนี้ต้องพังทลายลง ด้วยการทิ้งฮีโร่ของตัวเอง ทิ้งให้คนข้างหลังคิดว่าไม่มีเขาอยู่แล้ว แต่นั่นก็เพื่อให้เมืองแห่งนี้ดำเนินต่อไป เพราะอย่างที่บอก “ใครก็เป็นฮีโร่ได้” ฮีโร่จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร แสงสว่างจะสาดส่องมาเมื่อใด นั่นไม่สำคัญ ความสำคัญมันอยู่ที่ว่า “คุณได้ลุกขึ้นเพื่อสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือยัง?”