ขอแยกทีละประเด็นนะคะ
1. เรื่องการใช้ปากดูดพิษงู เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่ในละครน้าแก้วก็ห้ามและย้ำนะคะว่ามันอันตราย อาทิจเองก็ย้ำอีกทีว่าอันตราย ฉะนั้นจะบอกว่าผู้จัดเค้าไม่รับผิดชอบซะทีเดียวก็คงไม่ใช่ เพราะอย่างน้อยเค้าก็พยายามย้ำซึ่งนั่นก็คือชี้ว่าอันตรายไม่ควรทำ และเราคิดว่าที่ไม่เปลี่ยนบทเพราะเหตุการณ์นี้มันสื่อให้เห็นว่าน้องณีรักอาทิจมากขนาดที่ไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลย อาทิจเองก็ซาบซึ้งกับเรื่องนี้มาก มันทำให้ทำรู้สึกของตัวละครชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
2. เรื่องการขันชะเนาะ อันนี้เราไม่รู้จริงๆว่าไม่ควรทำ เพราะที่เคยเรียนมาทั้งในวิชาสาธารณะสุขตอน ม.ปลาย และเนตรนารี ในบทเรียนมันมีบอกว่าถ้าถูกงูกัดให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการขันชะเนาะหรือรัดเหนือแผลประมาณ 3 นิ้วมือ แต่อย่ารัดแน่นเกินไปเพราะอาจทำให้อวัยวะส่วนปลายขาดเลือด และให้มีการคลายชะเนาะเป็นระยะ พยายามอย่าขยับร่างกายมากเพราะทำให้พิษเข้าสู่กระแสเลือดเร็วขึ้นได้ แต่จำไม่ได้ว่าในบทเรียนว่ามันเคยบอกรึเปล่าว่างูชนิดไหนกัดขันชะเนาะได้หรือไม่ได้ แต่เราเข้าใจว่าถึงมันจะช่วยได้ไม่มาก แต่ไม่ได้หมายความว่าช่วยไม่ได้เลยนะคะ และงูที่กัดเมื่อคืนคืองูเห่าค่ะ
3. เรื่องสมุนไพร จริงๆในความรู้สมัยใหม่มีบอกว่าไม่ควรใช้ แต่คนที่เกิดในยุคกลางเก่ากลางใหม่และเกิดในบ้านนอกคอกนาอย่างเราไม่ดูถุูกเรื่องนี้ และยังเชื่อว่ามันใช้ได้ค่ะ อันนี้จากประสบการณ์ตรงเพราะตอนเราเด็กๆเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วพ่อเราถูกงูเห่ากัดค่ะ และรอดชีวิตมาได้เพราะหมอสมุนไพรที่อยู่ในหมู่บ้านเนี่ยแหล่ะค่ะไม่ได้ใช้เซรุ่มอะไรทั้งนั้นด้วย แต่ว่าไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ไม่ใช่เอาอะไรโป๊ะเข้าไปก็ได้ เรื่องพวกนี้มันมีสูตรยาซึ่งต้องเป็นคนที่รู้จริงๆถึงทำได้ ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปหาหมอเพราะเราอยู่ชนบทในภาคอีสานห่างจากตัวอำเภอเกือบ 20 กม. สมัยก่อนเดินทางไม่สะดวก ถ้ารอไปโรงพยาบาลพ่อคงตายก่อน...แต่ย้ำนะคะว่าถึงเราเชื่อว่าสมุนไพรใช้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้พร่ำเพรื่อ มันต้องเป็นคนที่มีความรู้จริงๆค่ะ...แต่ถ้าเถียงว่ามันใช้ไม่ได้เลย เราก็อยากให้ลองคิดดูนะคะว่าสมัยก่อนที่การแพทย์สมัยใหม่ยังไม่เจริญคนสมัยก่อนเค้าใช้อะไรรักษาคะ...ความรู้บางอย่างไม่ได้มีในตำราสมัยใหม่อย่างเดียวนะคะ....ไม่แน่การที่เราไปดูถูกว่ามันผิดมันอาจเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ก็ได้ค่ะ...
อีกเรื่องนะคะ ลองนึกถึงสถานการณ์จริงๆนะคะ ว่าทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่ได้มีความรู้การแพทย์แบบลึกๆ กรณีเกิดงูกัดอย่างนี้ถ้าเป็นชาวบ้านเค้าก็ใช้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่พอจะรู้บ้าง แต่เค้าก็ไม่ได้ขาดความรับผิดชอบโดยการปล่อยเลยไปเฉยๆ มันก็มีการย้ำตั้งหลายครั้งว่าอันตรายๆ อย่าทำ....
ที่เขียนซะยืดยาวไม่ใช่จะออกรับแทนละครนะคะ แค่แสดงความเห็นในอีกมุมที่เคยรู้ เคยเจอมาอะไรไม่รู้เราก็บอกไม่รู้ เห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณ ประสบการณ์ของแต่ละคน แต่เราคิดว่าการวิจารณ์มันไม่ใช่การด่าแบบใส่อารมณ์และหยาบคายค่ะ สิ่งที่เรารู้เราก็อธิบายไปยกตัวอย่างเหตุผลไป แต่การพูดจาหยาบคายดูถูกคนอื่นนี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ