ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจาก อันดับ 10 เป็นหนังไทยเข้าใหม่ ที่ฟอร์มอาจจะเล็กไปซักหน่อย กับ ค่าน้ำนม ภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ ที่ได้รับความร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรม กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน สอดแทรกเนื้อหาเทิดทูนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของแม่ ที่หวังเข้าฉายเพื่อต้อนรับเทศกาลวันแม่ในปีนี้ (อาจจะฉายเร็วไปนิดก็เถอะ!) แม้จะเป็นหนังที่สร้างออกมาดูมีความตั้งใจ และหวังดี แต่ด้วยการโปรโมตที่น้อยนิด(จนแทบจะเงียบเหงา) และดารานำก็ไม่ได้ระดับแม่เหล็กอะไร จึงไม่น่าแปลกใจที่สัปดาห์แรก หนังจะเปิดตัวไปแบบเหงาหงอย เพียง 1 แสนบาท นอกจากจะเป็นตัวเลขที่น้อยนิดไม่ผิดไปจากที่คาดหมายไว้แล้ว จำนวนโรงของหนัง ก็ไม่ได้น้อยนิดอย่างหนังจำกัดโรงเรื่องอื่นๆ ซะทีเดียว (อยู่ที่ 20 กว่าโรง เฉลี่ยต่อโรงไม่ถึง 5 พันบาท!!!!!! ถึงแม้ว่าวันหลังๆ จะได้รอบฉายไม่เต็มโรงก็เถอะ) น่าจะเป็นหนึ่งในหนังไทยที่เปิดตัวน้อยสุดๆ ประจำปีนี้แล้วก็ว่าได้ (เท่าที่มีข้อมูลอยู่ในตอนนี้) ถ้าจะให้น้อยกว่านี้ก็คงจะเป็นหนังรอม-คอมไร้กระแส(!!?) รักเลี้ยวเฟี้ยวว!! (อ่ะ) ที่ได้โรงฉายไปไม่น้อยหน้ากัน (24 โรง) แต่อาการหนักกว่า เพราะเปิดตัวไปแบบเหมาโรง ถึง 5 หมื่นบาท!!!!! (อ่านไม่ผิดหรอก) หรือมองไปถึงหนังไทยที่มาในแนวเนื้อหาส่งเสริมสังคม อย่าง สามชุก ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง ที่อาจจะดีกว่าในแง่ตัวเลข (เปิดตัว 1.3 ล้านบาท) แต่จากจำนวนโรงฉายที่มากกว่า (56 โรง) ก็ทำเอาเป็นตัวเลขที่ไม่ได้ดูดีกว่ากันไปเท่าไหร่นัก แต่จะว่าไปถ้าพูดถึงค่ายอภิชามณีด้วยกันแล้ว รายได้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้แตกต่างจากเรื่องอื่นเท่าไหร่นัก เรื่องก่อนหน้าที่ทั้งตลาดกว่า ตลกกว่า(???) และเกาะกระแสแวมไพร์ อย่าง แวมไพร์สตรอเบอร์รี่ แม้จะทำได้ดีกว่า แต่ก็มาแบบเงียบเหงากว่าแนวเดียวกันพอสมควร เปิดตัวไปที่ 5 แสนบาท ส่วนสาวโบวี่ หนังยังคงห่างไกลกับหนังเปิดตัวสูงสุด อย่าง แฟนเก่า ที่ได้กระแสร้อน ช่วยเปิดตัวแรงไปที่ 23.3 ล้านบาท จากที่เห็นมาหลายครั้งแล้ว ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่า แม้หนังจะมีความตั้งใจดีในการสร้าง แต่ถ้าหากไม่สามารถเรียกความสนใจจากคนดูได้ ก็คงต้องถูกเมิน อย่างที่เห็นนี่แหละ ยิ่งต้องให้คนดูเลือกที่จะเสียตังค์ด้วย ยิ่งแล้ว!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:43:22

ความคิดเห็นที่ 2 ก็ยังคงรูดลงมารุนแรง ถอยลงมาสามขึ้น นอนซมก้นตาราง ใน อันดับ 9 กับแมงมุมลายตัวนั้น The Amazing Spider-Man ที่ตอนนี้ เรียกได้ว่าแทบจะหมดสภาพแล้วจริงๆ เพราะแทบไม่เหลือโรงไว้ให้ได้ห้อยโหนกันเลยทีเดียว จากการมาของบรรดาหนังใหม่ฟอร์มเต็ง ทำให้สัปดาห์นี้ ยังคงใยขาด ร่วงลงมาแทบจะติดพื้น ถึง 80%! เหลือเพียง 1 แสนบาท กอบกู้โลกมาหกสัปดาห์ เริ่มโรยราด้วยเงินตุงกระเป๋าไปแล้ว 138.4 ล้านบาท   หมดสิทธิ์ลุ้นหลัก 140 ล้านแทบจะโดยสมบูรณ์แล้ว! รวมไปถึงอันดับในปีนี้ที่ก็คงไม่ขยับเช่นกันแล้วล่ะ ยกเว้นแต่สถิติเดียวที่หนังได้มาโดยไม่รู้ตัว นั่นก็คือ กลายเป็นหนังที่เข้าฉายในช่วงซัมเมอร์ฝรั่ง ติดอยู่ใน Top 10 ยาวนานที่สุดในปีนี้ไปแล้ว (ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าช่วงเวลานี้ จะหาหนังอยู่ยาวๆ คงยาก!) ครองสถิติร่วมกับ The Avengers ที่ 6 สัปดาห์เท่ากัน และคาดว่าน่าจะหยุดอยู่ที่ตรงนี้แล้วเช่นกัน และคงยากที่จะไปแซงสถิติของ Wrath of the Titans ที่ทำเอาไว้ยาวนานถึง 8 สัปดาห์!!! (แต่ได้ติดต่อกัน 7 สัปดาห์) ส่วนอันดับตลอดกาลในบ้านเรานั้น ไม่รู้จะเหลือแรงไว้แซง รถไฟฟ้า มาหานะเธอ อยู่หรือเปล่า เพราะเจ้าหลังปิดเอาไว้ รอให้แซงอยู่รอมร่อที่ 138.6 ล้านบาท เฉือนกันแค่ 2 แสนนี่สิ!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:45:06

ความคิดเห็นที่ 3 ร่วงลงมาอันดับเดียว มาอยู่ใน อันดับ 8 กับหนังรักของผู้กำกับมือเก๋า รวมดาวเด่น To Rome with Love ถือเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ในช่วงนี้พอสมควร แต่การที่ต้องโดนหนังใหญ่เข้ามาท้าชนหลากหลายเรื่องก็ยังถือว่าเป็นงานหนักอยู่ไม่ใช่น้อย สัปดาห์นี้ วันหยุดเหมือนจะช่วยไม่ได้มาก ร่วงลงไป 50% เก็บไปอีก 2 แสนบาท ท่องเที่ยวมาสองสัปดาห์ เก็บเงินค่าเดินทางได้แล้ว 8 แสนบาท   ก็ถือว่าโอเคอยู่สำหรับหนังจำกัดโรง แม้จะไม่ถือว่าโดดเด้งอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับหนังรักๆ วัยเด็กของผู้กำกับสุดแนว อย่าง Moonrise Kingdom ที่แม้จะฉายโรงเดียว แต่ก็ทำรายได้ตกลงไปเพียง 12%!! เก็บไปอีกเกือบ 2 แสนบาท (แต่รายได้รวมสองสัปดาห์ ยังห่างกันร่วมเท่าตัว!) หรือเทียบกับหนังของปู่อัลเลนเรื่องก่อนหน้า ดีกรีชิงออสการ์ อย่าง Midnight in Paris ก็แทบจะเรียกได้ว่า เดินตามสเต็ปกันมาเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเปิดตัวเท่ากัน รายได้ยังลดลง 50% เหมือนกันอีก! ซ้ำยังทำเงินสองสัปดาห์ที่ 8 แสนบาทเหมือนกันเด๊ะ!! (แต่ถ้าจะให้เดา Midnight ในสัปดาห์ต่อๆ ไปดูจะสบายกว่าตรงที่คู่แข่งไม่โหด แถมเข้าใกล้เทศกาลออสการ์ มาช่วยโหมกระแสให้อีกแรงนึง) หรือย้อนกลับไปอีกไกล กับ Scoop สมัยที่ปู่กำลังปั้นสาวโจแฮนสัน ก็ทำเงินสองสัปดาห์ได้ไม่ต่างกันเท่าไหร่ น้อยกว่านิดหน่อย ที่ 6 แสนบาท ฝั่งสาวร้อน เพเนโลเป้ ครูซ ผลงานช่วงหลังๆ ที่ได้เข้าฉายในบ้านเรา ออกจะฟอร์มใหญ่ซักหน่อย จะให้ไปเทียบด้วยก็คงจะกระไรอยู่ (อย่าง Pirates of the Caribbean 4 เมื่อปีก่อน สองสัปดาห์ ก็กวาดเงินไปร่วม 86 ล้านโน่นแล้ว!!!) จะหาหนังแบบจำกัดโรงก็ต้องย้อนกับไปไกลถึง 4 ปีก่อน กับ Elegy ประกบปู่เบน ที่อยากกินเด็ก (ในเรื่อง) ก็เปิดตัวไปเพียงโรงเดียว แบบไม่เงียบเหงาเท่าไหร่ ที่ 9 หมื่นบาท หวังว่าแฟนปู่จะช่วยกันออกมาอุดหนุนในโรงกันเยอะๆ ก่อนที่หนังจะโดนกองทัพยักษ์ เบียดหลุดผังไปซะก่อนนะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:45:27

ความคิดเห็นที่ 4 อันดับ 7 เป้นอีกหนึ่งหนังใหม่ แต่ดองข้ามปีมานานโขอยู่ กับทริลเลอร์ อาชญากรรม The Son of No One ผลงานเรื่องล่าสุด(ในบ้านเรา)ของหนุ่มฮ็อต หนังฮิตติดๆ กันหลายเรื่องในปีนี้ แชนนิ่ง ทาทั่ม ที่สงสัยเพราะช่วงนี้มีหนังออกมาเยอะ แล้วทำเงินไปไม่เลวในบ้านเรา ทางค่ายก็เลยถือโอกาส ปล่อยหนังร่วมแจมกระแสความฮ็อตของหนุ่มคนนี้ซะเลย! แถมยังได้มือเก๋าของคอหนังรุ่นเก่ามาช่วยขาย อย่างป๋าอัล ปาชิโน่ และอดีตศรีภรรยาป๋าครูซ คุณแม่ยังสาว เคที่ โฮมส์ ร่วมแสดง กับเรื่องราวของตำรวจหนุ่ม ที่ต้องมาเฉือนคมกับตำรวจมือเก๋า ในคดีที่ฝ่ายหลังแอบหมกเม็ดไว้ ก็น่าจะพอเรียกคนดูที่ต้องการหาหนังแนวแปลกแตกต่างในช่วงนี้ออกไปบ้าง แม้ความน่าสนใจ และกระแส จะออกมาเงียบเหงาเสียเหลือเกิน อย่างไรก็ดี สัปดาห์แรก หนังก็เปิดตัวไปที่ 3 แสนบาท ก็ถือว่าค่อนข้างเฉยๆ ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ (โรงฉายเกือบสิบโรง เฉลี่ยต่อโรงอยู่ที่หลักหมื่นบาท) เมื่อลองเทียบกับหนังแนวตำรวจเรื่องก่อนหน้า แต่ออกแนวระห่ำกว่า แถมมาจากฝั่งเอเชีย อย่าง The Viral Factor ที่ก็ได้โรงไปพอๆ กัน (11 โรง) แล้วก็เปิดตัวไปเท่ากันอีก ที่ 3 แสนบาท ก็ดูเหมือนว่า ไม่ได้ดีเด่นกว่ากันเท่าไหร่ หันมาดูผลงานของหนุ่มทาทั่มในปีนี้กันบ้างดีกว่า แม้ในบ้านเราจะไม่ได้ร้อนแรงเท่าในบ้านเกิด แต่การที่มีหนังเข้าฉายในบ้านเรา 4 เรื่องเข้าไปแล้วในปีนี้ ก็คงต้องยอมรับแล้วล่ะว่าเขากำลังฮ็อตจริงๆ! หนังเรื่องก่อนหน้า ก็คือชุมนุมหนุ่มล่ำ ขย้ำซิกซ์แพ็ค Magic Mike ของผู้กำกับโซเดอร์เบิร์ก ที่แม้จะเปิดตัวในวงกว้าง แต่รายได้ก็ไม่ค่อยหวือหวามากนักเรียกสาวๆ ตอนเปิดตัวได้ที่ 2.2 ล้านบาท หรือเถิบไปอีกก็คือหนังรักสุดร้อนแรงในบ้านเกิด อย่าง The Vow ที่ยังได้อานิสงค์เข้าฉายในบ้านเราอยู่ (แม้จะน้อยโรงก็เถอะ) แต่ก็พิสูจน์ความแรง ด้วยการเปิดตัวได้ที่ 7 แสนบาท จาก 4 โรงฉายเท่านั้น! ส่วนผลงานเรื่องก่อนหน้าของหนุ่มทาทั่ม กับผู้กำกับคนเดียวกันกับเรื่องนี้ อย่าง ดิโต้ มอลเทรียล ใน Fighting ก็ไม่ได้เข้าฉายในบ้านเราเสียด้วย (เพราะกระแสในบ้านเกิด ไม่เปรี้ยงอย่างที่หวังไว้) สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังที่แตกต่างออกไปในช่วงนี้ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ฆ่าเวลาได้ดีอยู่ แต่ก็อย่างที่บอกไปกับเรื่องบนๆ เวลาของหนังกลุ่มนี้มักจะน้อย ใครอยากดูก็รีบไปอุดหนุนซะก่อนก็ดีล่ะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:45:55

ความคิดเห็นที่ 5 เขยื้อนลงมาสองขั้น ทำเอาหลุด Top 5 มาอยู่ใน อันดับ 6 เสียแล้ว สำหรับภาคต่อแอนิเมชั่นฮาเฮ ไม่ต้องอิงเวลา Ice Age: Continental Drift ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเต็งผู้โชคร้ายที่สุดในสัปดาห์นี้ เพราะต้องชนกับยักษ์หน้าใหม่แนวเดียวกัน (แถม 3 มิติอีกต่างหาก!!) มาแย่งคนดูไป แต่เอาเข้าจริงๆ อาการดันไม่แย่อย่างที่คิด! เพราะสัปดาห์นี้ ก๊วนยุคน้ำแข็งเปลือกโลกยุบลงไปครึ่งนึงพอดี! เหลือที่ 9 แสนบาท เกาะรอยเลื่อนมาสี่สัปดาห์ พาคนดูฮาเฮไปแล้ว 33 ล้านบาท ในกลุ่มแอนิเมชั่นปีนี้ ณ ขณะนี้ ก็คงไม่มีใครให้แข่งด้วยแล้ว นอกจาก Madagascar 3 ดังนั้นฝั่งยุคน้ำแข็งของเราก็คงต้องยอมจำนนไปฐานะรองแชมป์ไป เพราะฝ่ายหลังเก็บเงินตลอดการฉายไปได้ถึง 47 ล้านบาท เลยทีเดียว ฝั่งบ้าน Blue Sky ก็แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ แล้วเช่นกัน แม้จะกลายเป็นแอนิเมชั่นหลัก 30 ล้านเรื่องที่สามของค่ายไปได้ไม่นาน แต่ในเมื่อยังตาม Ice Age สองภาคก่อนหน้าอยู่ไกล ก็คงได้แต่ทำใจในอันดับ 3 อยู่อย่างนั้น! (สองภาคก่อนหน้า ปิดเอาไว้ที่ 39.4 และ 38.5 ล้านบาท ตามลำดับภาค) ฟากแอนิเมชั่นฝรั่งทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา หนังก็เพิ่งจะไต่ขึ้นมาได้อีกหนึ่งเฮือกหนึ่งอันดับ มาอยู่ในอันดับ 19 แซงหน้ายักษ์เขียวภาคที่ทำเงินสูงสุด อย่าง Shrek 2 ที่ 31.3 ล้านบาท ไปแบบสบายๆ และมองข้ามรอแซงคุณหนู(จี๊ดๆ)ยอดกุ๊ก Ratatouille นั่งรอให้แซงที่ 33.2 ล้านบาท ไปอีกอันดับ งานนี้ เหล่ายุคน้ำแข็งของเราอาจจะได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่รอดตายมาแบบปาฏิหาริย์ (อาจเป็นเพราะหยุดยาว ทำให้คุณหนูๆ มาช่วยกันอุดหนุนมากเป็นพิเศษ) แต่สัปดาห์หน้านี่แหละที่มีสิทธิ์ไม่รอดของจริง เพราะนอกจากอีกหนึ่งยักษ์ใหม่จะกลุ่มเดียวกัน แถมมาจากฝั่งฮออลิวู้ดด้วยแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งเต็งปีนี้ จากค่ายชื่อดังในบ้านเราอีกด้วยนี่สิ .แก๊งค์ยุคโบราณของเราจะเหลือเหรอ!!!??? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:46:18

ความคิดเห็นที่ 6 อันดับ 5 เป็นหนังใหม่ที่กะจะมาดับฝันเรื่องข้างบน แต่ดันทำไม่ได้ซะงั้น! กับแอนิเมชั่น รักษ์โลก สายพันธุ์ไทย เอคโค่ จิ๋วก้องโลก แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจากค่ายกันตนา ที่ปัจจุบันยังคงเป็นเจ้าตลาดแอนิเมชั่นไทย แบบไม่มีใครกล้าท้าชน! แต่การกลับมาครั้งนี้ทำเก๋ ด้วยการสร้างหนังให้เข้าฉายในระบบ 3 มิติทะลุจอซะเลย!! ถือเป็นอีกครั้ง ที่ค่ายกลับมาเป็นผู้นำเทรนในตลาดแอนิเมชั่นบ้านเรา พร้อมกับเนื้อหาชวนให้คุณหนูๆ ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม และใส่ความเป็นสากลลงไปมากขึ้น ก็น่าจะเรียกคุณหนูๆ และครอบครัว ให้มาเข้าโรงในช่วงวันหยุดยาวนี้ได้อย่างง่ายๆ .......แต่จะง่ายอย่างที่คิดไว้หรือเปล่า อันนี้ก็อีกเรื่องนึงนะครับ!!! สัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 6.2 ล้านบาท ถ้าพูดถึงในแง่ของหนังไทย หรือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางน้อยด้วยแล้ว แต่ถ้าเทียบกับการเป็นหนัง 3 มิติ แถมทุนสร้างระดับ 100 ล้าน!!! คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่แล้วล่ะ! สำหรับในกลุ่มหนังไทยปีนี้ หนังเปิดตัวเข้ามาในอันดับที่ 11 ของปี (ตามหลังหนังภาคต่อ ปล้นนะยะ 2 อั๊ยยยย่ะ ของเจ๊พจน์ ที่กระแสตกจากเรื่องก่อนๆ ลงไปเยอะ เปิดตัวได้ไม่บานเบอะเท่าไหร่ ที่ 7 ล้านบาท) ขณะที่หนังถือว่าเป็นหนังไทย 3 มิติ เรื่องที่ 3 ของปีนี้เข้าไปแล้ว (แต่เป็นเรื่องที่ 4 ตลอดกาล) แม้จะห่างจากเรื่องก่อนหน้า อย่าง 407 เที่ยวบินผี ที่ท้าชนหนังใหญ่ แล้วเปิดตัวไปได้ค่อนข้างดี ที่ 15 ล้านบาท แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเรื่องแรกของปี อย่าง ตำนานรัก แม่นาค 3D ที่แทบไม่มีกระแส แต่ก็ได้อานิสงค์ความเป็นสามมิติวงกว้างเรื่องแรก เปิดตัวไปได้พอประมาณ ที่ 4.8 ล้านบาท หากลองมองย้อนไปดูผลงานจากค่ายเดียวกัน อย่างค่ายกันตนา ทำเอาเหล่าจิ๋วของเราดูดีขึ้นมาทันตาเลยทีเดียว!! เพราะหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง คนไททิ้งแผ่นดิน ที่สร้างจากหนังสือดี ก็ใช้ทุนไปในหลัก 100 ล้านเช่นกัน แต่ก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนเปิดตัวไปแบบโดนคนไทยทิ้ง ที่ 1.4 ล้านบาท เทียบในกลุ่มแอนิเมชั่นกันบ้าง หากเริ่มจากในกลุ่มปีนี้ ก็ถือว่าไม่สดใสเท่าไหร่ ถ้าดูบรรดาแอนิเมชั่นขาใหญ่จากฝั่งฮอลลิวู้ดทั้งหลาย ต่างก็เปิดตัวในระดับ 10 ล้าน+ ทั้งนั้น ก็มีเพียง Dr. Seuss' The Lorax เรื่องเดียวนี่แหละ ที่ทำได้น้อยกว่า เปิดตัวไปแบบผิดฟอร์มในบ้านเกิดค่อนข้างไกล ที่ 4.5 ล้านบาท แต่จะให้เทียบกับแอนิเมชั่นตลอดกาลทั้งมวลก็คงยิ่งถูกทิ้งไปไกลเข้าไปใหญ่ จึงจำเป็นต้องสโคปลงมาดูเฉพาะกลุ่มแอนิเมชั่นสายพันธุ์ไทยเรื่องก่อนหน้าก็พอนี่แหละ โดยแก๊งค์จิ๋วของเราถือเป็นแอนิเมชั่นไทยเรื่องที่ 6 ที่เข้าฉายในวงกว้างบ้านเรา (และเป็นแอนิเมชั่น 3 มิติ ของไทย เรื่องที่ 4.........จะทำเอาคนอ่านงงเพราะ “3 มิติ” นี่แหละ!) แม้จะเป็นแค่กลุ่มเล็กๆ แต่แก๊งค์จิ๋วของเรา ก็ดูเหมือนจะออกสตาร์ทได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะรายได้เปิดตัว หล่นไปอยู่กับกลุ่ม “ล้มเหลว” ทั้งหลายเสียนี่สิ! แม้จะทำได้ดีกว่าสองบ๊วย อย่าง แอนิเมชั่นพุทธประวัติ พระพุทธเจ้า และแอนิเมชั่นผีไทย นาค ที่ก็ต่างใช้ทุนกันไปไม่น้อย (เรื่องแรกอาจจะหนักว่าหน่อย เพราะใช้ไประดับ 100 ล้าน แถมไม่ใช่ค่ายใหญ่อีก!) แต่ก็ทำรายได้เปิดตัวกันไปจุ๋มจิ๋ม ที่ 4.3 และ 4 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ก็ยังห่างไกลรุ่นพี่ค่ายเดียวกัน ที่ถือว่าเป็นหัวแถวแอนิเมชั่นในบ้านเราก็ว่าได้ อย่าง ก้านกล้วย ที่ทั้งสองภาคต่างก็เปิดตัวในระดับสถิติแอนิเมชั่นของบ้านเราด้วยกันทั้งคู่ (แม้จะไม่ห่างกันมากนัก ที่ 23.8 และ 24.8 ล้านบาท ตามลำดับภาค) งานนี้ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้กระแสของหนัง ออกมาเงียบเชียบผิดกับก้านกล้วยซะขนาดนี้ แม้กระแสที่ออกมาจะค่อนข้างเป็นบวก แต่กองเชียร์แก๊งค์จิ๋วของเราก็คงต้องเหนื่อยหน่อย เพราะอย่างที่บอกไปว่า แอนิเมชั่นตัวเต็งอีกเรื่องของปีกำลังจะเปิดตัวท้าชน งานนี้ ถ้าโชคดี แรงเชียร์ช่วย.......ก็น่าจะพอต่อชีวิตเหมือนอย่างที่รุ่นพี่ช้างทำได้บ้างล่ะครับ (แม้จะหวังคืนทุนได้ยากสุดๆ ก็ตาม แต่ก็ขอเอาใจช่วยให้เจ็บตัวน้อยที่สุดก็แล้วกันนะครับ!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:47:44

ความคิดเห็นที่ 7 หล่นลงมาทีละนิด ทีละหน่อย มาอยู่ใน อันดับ 4 แล้วตอนนี้ สำหรับอัศวินผู้โดดเดี่ยว(??)กลางความมืด The Dark Knight Rises ที่กระแสยังคงดีอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องชนกับหนังใหญ่ใหม่กว่าอีกหลากหลาย แต่ค้างคาวของเราก็ยังคงไม่สะทกสะท้าน ยังคงเดินหน้าขี่แบทพ็อดตะบึงได้ต่อ โดยน้ำมันลดลงไปไม่ถึงครึ่ง! เก็บไปอีก  13 ล้านบาท เก็บเงินจากการปิดตำนานมาสามสัปดาห์ได้แล้ว 122 ล้านบาท ถือว่ายังคงแรงดีมากทีเดียว (ส่วนหนึ่งเพราะมีวันหยุดช่วยด้วยนี่แหละ) เพราะนอกจากจะหล่นลงไม่ถึงครึ่ง(ซึ่งหนังใหญ่หลายเรื่องมักมาตายกันตรงสัปดาห์นี้กันทั้งนั้น)แล้ว รายได้สัปดาห์ที่สามของหนังในปีนี้ ก็ยังดีถึงระดับไต่ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 ของปีนี้ได้อีกด้วย!!! (เป็นรองแค่ ATM เออรัก เออเร่อ เรื่องเดียว เคยทำเอาไว้หลุดโลก ที่ 19 ล้านบาท!) ซึ่งก็เป็นหนังเรื่องที่ 5 ในปีนี้แล้ว ที่รายได้สัปดาห์ที่ 3 มากกว่า 10 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:48:20

ความคิดเห็นที่ 8 ขณะที่คู่แข่งสำคัญ(ที่ยังพอจะไล่ทัน)ในปีนี้ อย่าง The Amazing Spider-Man หลังจากที่พี่แบทของเราพ่ายไปทั้งรายได้เปิดตัว และสัปดาห์ที่สอง มาถึงสัปดาห์นี้ เมื่อรายได้สัปดาห์ที่สามมากกว่า ถึงทำให้เริ่มได้จี้เข้ามาแล้ว โดยไอ้แมงมุมของเราใช้เวลาสามสัปดาห์ทำเงินไปที่ 129 ล้านบาท นั่นก็หมายความว่า ตามกันไม่ไกลมากแล้ว ที่ 7 ล้านบาท (แต่การจะแซง อาจจะยากอยู่ซักหน่อย เพราะรายได้สัปดาห์ที่สามก็ต่างกันเพียงล้านเดียวเท่านั้น) โอกาสจะกลายเป็นที่ 4 ของปีก็พลอยมีหนทางขึ้นมาบ้างทันทีแล้ว ฝั่งบ้านซูเปอร์ฮีโร่ตลอดกาลก็มีความเปลี่ยนแปลงไม่น้อยทีเดียว เริ่มจากบ้าน DC หลังจากที่หนังกลายเป็น 100 ล้านเรื่องที่สองไปแบบง่ายดายแล้ว ท้ายที่สุดก็ได้เวลาที่หนังจะผงาดเป็นที่หนึ่งของบ้านหลังนี้อย่างเป็นทางการซะที! ด้วยการแซง Superman Returns ที่เป็น 100 ล้านเรื่องเดียวของค่ายมาอย่างยาวนาน และปิดให้รอแซงไปได้แบบสบายๆ ที่ 104.2 ล้านบาทนี่เอง ส่วนฟากฮีโร่ตลอดกาลแบบไร้สังกัด แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นมาอีกยี่สิบกว่าล้านจากสัปดาห์ก่อน แต่อันดับ ก็กระเถิบขึ้นมาอีกแค่สองอันดับเท่านั้น นอกจากจะแซง Superman Returns จากค่ายเดียวกันอย่างที่บอกไปแล้ว ก็แซงหน้า X-Men: The Last Stand ที่ทำได้ไม่ห่างกันเท่าไหร่นัก ที่ 107 ล้านบาท แต่ยังไม่ใช่ขั้นสุดท้ายที่จะไต่ขึ้นมาได้แน่นอน เพราะข้างหน้ายังเหลือ Spider-Man ภาคแรก ที่ตอนนี้ ห่างกันไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว ที่ 127.9 ล้านบาท รวมไปถึง The Amazing Spider-Man ที่น่าจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่หนังจะไต่ขึ้นไปได้ (หากท้ายที่สุดแซงกันขึ้นมาได้จริงๆ นะ!!!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:48:44

ความคิดเห็นที่ 9 อีกเรื่องที่อันดับลด ตกจากรองแชมป์มาอยู่ใน อันดับ 3 สำหรับหนังรักฉลองครบรอบค่ายอารมณ์ดี รัก 7 ปี ดี 7 หน แม้จะเป็นการฉลองครบรอบ 7 ปีที่ไม่คึกครื้นอย่างที่หลายคนหวังไว้ แต่การที่แนวหนังแทบจะไม่ต้องชนกับใคร ก็ดูเหมือนจะช่วยให้หนังยังคงทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว สัปดาห์นี้ หนังหมดแรงวิ่งลงไปเกิน 40% นิดหน่อย ลงมาอยู่ที่  16 ล้านบาท ออกสตาร์ทมาสองสัปดาห์ วิ่งไปได้ระยะทาง 55 ล้านบาท เป็นรายได้สัปดาห์ที่สองที่ไม่เลวเลยทีเดียว (หากไม่สนว่าจะมีวันหยุดมันช่วยด้วยล่ะนะ) นอกจากจะลดลงมาในระดับน้อยกว่าครึ่งหนึ่งค่อนข้างเยอะ และดีกว่าหนังไทยแทบทุกเรื่องในปีนี้ (ถ้าวัดกันในระดับที่เปิดตัวมากกว่า 10 ล้านขึ้นไปด้วยกันแล้ว ก็คงมีเพียง ATM จากค่ายเดียวกันแค่เรื่องเดียวนี่แหละ ที่ลดลงน้อยกว่า เพียง 27% เท่านั้น!!!) รายได้สัปดาห์ที่สองก็ยังคงติดอยู่ในกลุ่ม Top 10 สูงสุดประจำปีนี้อีกด้วย! (กระเถิบจากตอนเปิดตัวมาสองอันดับ มาอยู่ในอันดับ 8 ตามหลังศึกเทพ Wrath of the Titans ไปไม่มาก ที่ 17 ล้านบาท) ขณะที่รายได้รวมสองสัปดาห์ ก็จ่อรอแซง วาเลนไทน์ สวีทตี้ ที่เปิดตัวน้อยกว่าล้านเดียว แต่ทำรายได้รวมน้อยผิดคาดไปที่ 58 ล้านบาท ขึ้นเป็นรองแชมป์หนังไทยประจำปีนี้แบบสบายๆ (เพราะแชมป์อย่าง ATM ก็คงไม่ปล่อยให้แซงง่ายๆ แล้วล่ะมั้ง!) ส่วนจะเข้าไปถึง Top 10 ประจำปีนี้ อาจจะไม่ยากเย็นเท่าไหร่ ถ้าไม่บังเอิญมีหนัง “ฮิตโคตร” มาเขี่ยลงไปซะก่อนนะ! (ตอนนี้อยู่ในอันดับ 14 ตามหลัง Underworld: Awakening ไม่ไกลที่ 57 ล้านบาท) ข้ามฟากมาดูในกลุ่มหนังแนวโรแมนติกกันบ้าง ก็อย่างที่เคยบอกไปสัปดาห์ก่อนว่า หนังสามารถเปิดตัวได้ถึงอันดับ 3 ของกลุ่มนี้ ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องยากเลย ที่รายได้ของหนังสองสัปดาห์ จะพุ่งขึ้นมาในกลุ่ม Top 5 อย่างรวดเร็ว ถามว่าเร็วแค่ไหน??? ตอนนี้หนังไต่ขึ้นมาถึงอันดับ 3 ตลอดกาลแล้วล่ะ!!!! (เร็วเกิ๊น!) ตามหลังเพียงแค่ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น และ Seasons Change สองเรื่องเท่านั้น (เรื่องหลังก็น่าจะถูกแซงในเร็ววันนี้ ที่ 66.8 ล้านบาท) ซึ่งก็แทบไม่ต้องไปพูดถึงกลุ่มหนังโรแมนติกดราม่าในปีนี้เลย เพราะหนังเป็นแชมป์ตั้งแต่เปิดตัวไปแล้ว!! (เคยสูงสุด คือ Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ที่ปิดเอาไว้น้อยสวนทางแรงเชียร์ ที่ 12.2 ล้านบาท ฝั่งบ้าน GTH หลังจากที่หนังเปิดตัวได้ในอันดับที่ 13 ของค่าย มาสัปดาห์นี้ รายได้ที่ลดลงไม่ถึงครึ่ง ก็ส่งผลให้อันดับของรายได้สัปดาห์ที่สอง กระเตื้องขึ้นมาอีกนิด แต่ก็ยังไม่พอที่จะเข้า Top 10 อยู่ดีแหละ (เฉียดฉิวที่อันดับ 11 ตามหลัง เพื่อนสนิท แบบน่าเสียดายสุดๆ เพียงแสนเดียว!!! ที่ 16.1 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวม แม้จะหมดหวังจาก 100 ล้านไปอย่างแน่นอนแล้ว แต่ดูจากรายได้สองสัปดาห์แล้ว ก็ค่อนข้างจะเป็นไปได้หลายทิศทางอยู่ เมื่อเทียบกับหนังที่ทำได้ใกล้เคียงกัน ในแนวเดียวกัน(และคล้ายๆ กัน)แล้ว เรื่องที่ใกล้เคียงที่สุดในตอนนี้ ก็คือเรื่อง เพื่อนสนิท ที่นอกจากรายได้เปิดตัวจะใกล้เคียงกันแล้ว (น้อยกว่านิดหน่อย แต่ถ้ารวมรอบพรีวิวก็เท่ากันพอดี) รายได้ทั้งสัปดาห์ที่สอง และสองสัปดาห์รวม ก็จัดว่าใกล้เคียงกันอีกเช่นกัน! ทำให้โอกาสที่รัก 7 ปีของเราจะไปแตะหลัก 80 ล้าน ยังมีอยู่พอสมควรทีเดียว แต่ที่ยังไงก็ผ่านแน่นอนแล้วก็คงจะเป็น 70 ล้าน (ถ้าไม่เละเทะไปกว่า Seasons Change ล่ะนะ!) ฝั่งเครดิตของทั้งนักแสดง และผู้กำกับก็ขอยกยอดไปสัปดาห์หน้าดีกว่า เพราะอันดับต่างๆ ก็ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่มากนักในส่วนใหญ่ (แอบอู้ล่ะสิ!!??) และดูถ้าแล้ว หนังก็น่าจะยืนโรงต่อไปได้อีกซักพัก จากกระแสบวกในแง่เนื้อหา ถ้าหากหนังไทยเรื่องใหม่ๆ ไม่ส่งผลต่อหนังมากนักล่ะนะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:49:09

ความคิดเห็นที่ 10 ขึ้นไปเต้นบนบัลลังก์ได้สัปดาห์เดียว ก็มีอันต้องลงมาหมุนควงใน อันดับ 2 ซะละ สำหรับภาคต่อ หนังเต้น เร้าใจวัยโจ๋! Step Up Revolution ที่เรียกได้ว่า ได้ใจคนดูไปเต็มๆ เกินคาด ในแง่ความบันเทิง จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังจะกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับหลายๆ คนในสัปดาห์นี้ เบียดเรื่องอื่นๆ ไป ยิ่งสัปดาห์หยุดยาวที่หลายๆ คนสรรหาความบันเทิงในการพักผ่อนด้วยแล้ว ทำเอาสัปดาห์นี้ หนังแทบไม่สะทกกับหนังใหม่ เพราะหมดแรงเต้นแบบไม่ทันเสียเหงื่อไปไม่ถึง 30% ด้วยซ้ำ!!ทำเงินไปอีก 22 ล้านบาท เปิดฟลอร์มาสองสัปดาห์ ออกลีลาเรียกคนดูได้แล้ว 68 ล้านบาท เป็นรายได้ที่มหัศจรรย์มากๆ ไม่ว่าจะมีวันหยุดมาช่วยก็ตาม! การที่รายได้ลดลงในระดับนี้ นอกจากจะนับนิ้วได้ในปีนี้แล้ว ด้วยรายได้ระดับนี้ก็ถือว่า ยิ่งยากเข้าไปใหญ่! เอาเป็นว่าถ้าในกลุ่มที่เปิดตัวระดับ 30 ล้าน+ หนังยังคงแพ้เพียง ATM เออรัก เออเร่อ เรื่องเดียว อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่า หล่นลงมาเพียง 27%! แต่ถ้าลดระดับรายได้เปิดตัวลงมาอยู่ในกลุ่ม 10 ล้าน+ ดูบ้าง อีกเรื่องที่โผล่เข้ามาก็คือ Madagascar 3 ที่กระแสดีเกินคาดเช่นกัน แต่ทำเอาไว้ได้โหดร้ายมากกว่าเยอะ ที่ 15% เท่านั้น!!!!! ส่วนรายได้สัปดาห์ที่สองนั้นก็ถือว่าแรงใช่เล่น สามารถขึ้นไปสูงถึงอันดับ 5 ของปีนี้ มันคงจะไม่แปลกอะไร ถ้ารายได้ของอันดับที่สูงกว่าขั้นนึง อย่าง The Dark Knight Rises จะเปิดตัวได้มากกว่าเกือบ 2 เท่า!!! (แต่มาสัปดาห์นี้ห่างกันเพียง 3 ล้าน!) ซึ่งถ้าถามว่า หนังเรื่องก่อนหน้าที่เปิดตัวในระดับ 30 ล้าน แต่ทำรายได้สัปดาห์ที่สองมากกว่า 20 ล้าน ใกล้ที่สุดที่นึกออกก็คงจะเป็นหนังไทยอารมณ์ดีเมื่อ 3 ปีก่อน อย่าง 32 ธันวา ที่เปิดตัวไป 35 ล้าน ก่อนที่จะทำรายได้สัปดาห์ที่สองไปอีกค่อนข้างมาก ที่ 22.7 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมก็ร้อนแรงใช่เล่น ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์แซงขึ้นมาสู่ Top 10 อย่างง่ายดาย ปาดหน้า The Hunger Games ที่ 65 ล้านบาท เข้าสู่อันดับ 10 พอดี !! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:49:42

ความคิดเห็นที่ 11 ขณะที่ในกลุ่มหนังเต้น ก็แทบจะไม่มีอะไรให้บรรยายอีกแล้ว เพราะเล่นปิดเกมไปหมดแล้วนี่นา!! ทั้งแชมป์หนังเต้นประจำปีนี้ ที่คว้าไปได้ตั้งแต่เปิดตัว (แซง StreetDance 2 แบบง่ายดายตั้งแต่วันแรก ๆ ที่ 7.6 ล้านบาท) หรือในกลุ่มหนังเต้นตลอดกาลที่มีตระกูล Step Up ครองหัวตารางไว้อยู่ หนังก็สามารถรับไม้ผลัด ขึ้นมาเป็นแชมป์ได่อย่างสมศักดิ์ศรีเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น!!! (แซงหน้า Step Up 3D ที่ 55.9 ล้านบาท และเป็นการขึ้นเป้นภาคที่ทำเงินสูงที่สุดของตระกูลไปในตัว) จึงกลายเป็นว่า ไม่เหลืออะไรให้ตื่นเต้นในกลุ่มนี้อีกแล้ว! แต่ที่ยังน่าตื่นเต้นก็คือรายได้รวมนี่แหละ ที่ยังคงไต่ทะยานแซงหนังตระกูลอื่นๆ ขึ้นไปได้อีกมาก รายได้ที่ตื่นตาเช่นนี้ ทำให้ผมนึกถึงสองตระกูลที่ต่างแนว แต่ทำได้คล้ายๆ กัน อย่างตระกูล The Fast and the Furious และ Resident Evil ที่ทั้งสองต่างก็พีคแบบก้าวกระโดดจากภาคก่อนๆในภาคที่ 4 เช่นกัน (Resident 4 อาจจะกระโดดจาก Resident 3 แบบไม่โดดเด้งเท่าไหร่ เกือบๆ 20 ล้าน แต่ The Fast 4 นี่สิคล้ายคลึงกว่า เพราะกระโดดจากภาค 3 ถึง 40 ล้านบาท!!!!) แม้ว่าภาค 4 ของทั้งสองตระกูลจะเปิดตัวไปไกลกว่าแก๊งค์เต้นของเราค่อนข้างมาก (The Fast 4 ที่ 40.5 ล้านบาท และ Resident 4 ที่ 51.7 ล้านบาท!!!) แต่ด้วยรายได้สัปดาห์ที่สองที่ลดลงน้อย ทำเอารายได้สองสัปดาห์ กระเตื้องขึ้นมาใกล้เคียงกันมากทีเดียว ซึ่งทำได้เท่ากับ The Fast 4 ที่เปิดตัวมากกว่าถึง 10 ล้านได้แล้ว!! จึงเป็นเรื่องที่หลายๆ คนสนใจว่า หนังจะมีโอกาสแตะหลัก 100 ล้านได้หรือไม่?? ถ้าดูถึงตรงนี้ ก็คงต้องยอมรับว่า โอกาสมีมากทีเดียว แต่ก็ต้องยอมรับว่าสัปดาห์นี้ หนังมีวันหยุดมาช่วยดันไม่น้อย (ต่อให้ไม่มี ก็ไม่น่าจะตกลงไปน้อยกว่า 17 ล้านหรอก) ซึ่งถ้าดูกำลังขาช่วงปลายของทั้งสองเรื่องบน ก็ต้องยอมรับว่าตกลงมากันเป็นว่าเล่นพอสมควร แล้วถ้าหากแก๊งค์เต้นของเราอยากทะลุร้อยล้านแบบอีสาวล่าซอมบี้ไปได้ล่ะก็ ......ก็คงต้องผ่านรายได้รวมของพี่โล้นซิ่งให้ได้ อย่างน้อยก็ภายในสามสัปดาห์กว่าๆ ล่ะนะครับ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:50:02

ความคิดเห็นที่ 12 ขึ้น อันดับ 1 ได้ตามคาด สำหรับอีกหนึ่งหนังใหม่ฟอร์มเต็ง มาพร้อมกับแนวแอ็กชั่น-ไซไฟ ฟอร์มเอาใจตลาด อย่าง Total Recall ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ เลน ไวส์แมน จาก Underworld สองภาคแรก และอึดตายยาก ภาคล่าสุด! ที่ครั้งนี้ จับของร้อน นำแอ็กชั่นขึ้นหิ้งกับมารีเมคด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อีกครั้ง (ซึ่งเวอร์ชั่นก่อนหน้า ก็ 22 ปีก่อนได้แล้ว!) ควงหนุ่มเคยฮ็อต โคลิน ฟาร์เรล มามึนงงลืมอดีต ประกบสองสาว(เคย)ร้อน ที่แม้ว่าฟอร์มจากออกมาค่อนข้างแตกต่างจากสมัยเวอร์ชั่นแรกอยู่มาก (ที่ดูใหญ่กว่า และดาราแม่เหล็กกว่าในตอนนั้น โดยเฉพาะป๋าอาโนลด์คนเหล็ก ในช่วงกำลังพีค) แต่ถ้าพูดถึงความมันส์ และเทคนิค ก็ต้องยอมรับว่า ใส่เข้ามาไม่น้อยหน้ากันทีเดียว (ส่วนประเด็นหรือเนื้อหาต่างๆ ก็คงต้องแล้วแต่คนชอบล่ะ) สัปดาห์แรก หนังจึงเปิดตัวไปที่ 28 ล้านบาท] ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับตัวหนัง ที่ก็ไม่ได้ถูกคาดหวังมากเท่าไหร่ในบ้านเกิด แถมมาในบ้านเรา ยังสามารถเปิดตัวได้สูงสุดใน Top 10 ประจำปีนี้อีกด้วย (เขี่ย รัก 7 ปี ดี 7 หน ไปแค่ปลายขนจมูก ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 10 ได้แบบเฉียดฉิวพอดีเชียว!) หรือถ้าจะว่ากันถึงกลุ่มหนังแอ็กชั่นไซไฟโลกอนาคต(หรือคล้ายๆ กัน)ในปีนี้ด้วยกัน เรื่องที่น่าจะทำได้ใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็น Underworld: Awakening (ที่ควรจะจัดให้อยู่ในกลุ่ม แอ็กชั่นสยองขวัญ มากกว่า!) ก็เปิดตัวไปได้ไม่เลวเช่นกัน (ชนกับ ATM) ที่ 23 ล้านบาท หรือจะว่าถึงแอ็กชั่นไซไฟโลกอนาคตแบบเพียวๆ ก็อาจจะทำได้ห่างออกไปอีกเยอะ อย่าง Lockout แม้จะทำได้น้อยกว่าเกินครึ่ง แต่ก็เปิดตัวได้เกินคาดพอสมควรทีเดียว ที่ 12 ล้านบาท ข้ามมาดูในส่วนเครดิตของผู้กำกับและนักแสดงนำกันบ้าง เริ่มจากผู้กำกับไวส์แมน ที่เรื่องนี้ก็เพิ่งจะเป็นหนังเรื่องยาวเรื่องที่ 4 ในการกำกับนี่แหละ เรื่องก่อนหน้าถือว่าสร้างชื่อมากๆ เพราะตัวหนังจริงๆ ก็ดังอยู่แล้ว อย่าง Die Hard 4.0 แต่เป็นการปลุกผีอึดให้ออกมา “ดีเกินคาด” หลายๆ คนจริงๆ จึงเปิดตัวไปแบบมหาศาลไม่ต้องคิดมาก ที่ 43.4 ล้านบาท หรือถัดไปอีกก็คืออีกหนึ่งภาคต่อสร้างชื่อ Underworld: Evolution กับการร่วมงานเรื่องก่อนหน้ากับภรรยาคนปัจจุบัน อย่างสาวเคท วาดลวดลายเปิดตัวได้ดีที่สุดในบ้านเราของตระกูลนี้ ที่ 27.6 ล้านบาท ฝั่งดารานำ เริ่มจากหนุ่มฟาร์เรลที่ความฮ็อตอาจจะส่างซาลงไปเยอะ แม้จะมีหนังอยู่เรื่อยๆ แต่ฟอร์มก็ไม่ใหญ่มากมายจนไม่ได้ฉายในบ้านเราหลายต่อหลายเรื่อง ปีที่แล้วยังดีหน่อย เพราะมีหนังถึงสองเรื่อง เรื่องก่อนหน้าก็คือหนังสยองรีเมค Fright Night ที่เฮียแกได้โชว์หล่อเต็มที่ แต่ก็ทำได้ไม่มากมายอะไรตามประสาหนังสยองฝรั่ง เปิดตัวไปที่ 5.3 ล้านบาท หรือก่อนหน้านั้นอีกหน่อยกับหนังตลกรวมดาว Horrible Bosses ที่เฮียแกหวังเป็นตัวขโมยซีน แต่ดันได้ออกน้อยไปนิด อย่างไรก็ตาม หนังก็ยังฮาโดนใจคนดู เปิดตัวไปพอประมาณ ที่ 1.7 ล้านบาท ส่วนหนังแอ็กชั่น-ไซไฟเรื่องก่อนหน้า คงต้องย้อนกลับไปถึงเมื่อ 10 ปีก่อน! กับ Minority Report ผลงานประกบป๋าครูซ ของพ่อมดฮอลลิวู้ด สปีลเบิร์ก ที่ตอนนั้นกระแสดีมาก เปิดตัวในบ้านเราไปไม่น้อยถึง 35 ล้านบาท ใน 3 วันแรก อีกสองสาว เริ่มด้วยศรีภรรยาคุณผู้กำกับ สาวเคท เบคคินเซล ผลงานเรื่องก่อนหน้าก็เพิ่งจะเข้าฉายเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เองอย่างที่บอกไป กับ Underworld: Awakening หรืออีกเรื่องที่ฮิตเกินคาดในบ้านเกิด อย่าง Contraband ก็เปิดตัวได้ไม่เลวเช่นกันในบ้านเรา สำหรับหนังฟอร์มนี้ ที่ 3.7 ล้านบาท และสาวยิ้มงาม เจสสิกา บีล ที่หลังคบหนุ่ททิมเบอร์เลค งานก็เหมือนจะไม่ชุกดั่งแต่ก่อน เรื่องก่อนหน้าก็คือการไปปรากฏในหนังรวมดาวฉลองปีใหม่ New Year's Eve ที่หวังสานต่อปรากฏการณ์วาเลนไทน์ แต่ก็ไปได้ไม่ไกล เปิดตัวไปเงียบๆ ที่ 3.6 ล้านบาท หรือถัดไปอีกก็คือหนังซัมเมอร์รีเมคหนังทีวี A-Team ที่ได้คำชมไปไม่น้อย แล้วก็เปิดตัวไปได้ไม่เลวเลยในบ้านเรา ที่ 18.4 ล้านบาท ส่วนแอ็กชั่น-ไซไฟที่หลายคนนึกออกของเธอก็คงจะเป็น “ป๋าเคจ ส่องอนาคต” Next ที่ในบ้านเกิดเงียบเหงาสิ้นดี แต่ในบ้านเรา ทำดูดีกว่า เปิดตัวไปพอสมควร ที่ 11.6 ล้านบาท กระแสหนังออกมาก็ถือว่าเป็นบวกพอสมควร (ที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนล่ะนะ) ดังนั้น ถ้าใครไม่คิดมาก ก็คงเป็นความบันเทิงที่โอเคในระดับหนึ่งแน่นอน แต่ตัวหนังจะไปได้ไกลแค่ไหนนั้น ถ้าดูจากตารางในสัปดาห์ต่อๆ ไปข้างหน้าแล้วก็ต้องยอมรับว่าหนักหน่อย เพราะเต็มไปด้วยหนังแอ็กชั่น รออัดอยู่เพียบเลย! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:50:28

ความคิดเห็นที่ 13 หนังเก่ายังไม่หมดไฟ หนังใหม่ก็ทำได้ดีไม่ใช่น้อย(บางเรื่องนะ!) เลยควงกันพา Top 10 สัปดาห์นี้ สูงขึ้นไปได้อีกนิด ที่ 86.8 ล้านบาท มากกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (86.5 ล้านบาท) ไปแบบเฉียดฉิว ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ!!! และมากกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (48 ล้านบาท) ไปค่อนข้างไกล ถึง 80%!! ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ จ๋อฉลาด Rise of the Planet of the Apes ยึดครองพิภพ เอ้ย! ครองบัลลังก์ แม้แรงเชียร์จะดี แต่ก็ออกสตาร์ทช้าไปนิด ที่ 19 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:51:08

ความคิดเห็นที่ 14 สุดสัปดาห์หน้า กับสุดสัปดาห์วันแม่ที่มาพร้อมกับวันหยุดยาวอีกครั้ง! (แต่เป็นชดเชยในวันจันทร์) บรรดาหนังเก่าๆ ก็ได้อานิสงค์เพิ่มกันไปตามระเบียบ ส่วนหนังใหม่ก็ยังคงมาพร้อมกับ ภารกิจการแย่งชิงบัลลังก์ ที่สัปดาห์นี้ต้องยอมรับว่า มีสิทธิ์พลิกได้ทุกทาง! ในเมื่อดีกรีของกลุ่มเต็งหนังใหม่ แต่ละเรื่องก็ใช่ย่อย แถมยังมีฐานลูกค้าแตกต่างกันไปอีก!!! ที่นำหน้าเรื่องอื่นมาหน่อยก็คือแอ็กชั่นระห่ำดิบ ที่จะเรียกว่าภาคต่อก็ไม่ปาน กับเรื่องราวของสุดยอดสายลับ ที่ครั้งนี้มาแต่ชื่อ ส่วนตัวนำ ส่งตัวใหม่ หน้า(ไม่ค่อย)ใหม่มาบู๊แทน กับคำโปรยเอาไว้ว่าทั้งเก่งกว่า ระห่ำกว่า และมันส์กว่า(รึเปล่า อันนี้เริ่มมั่วเอาเอง!!??) แน่นอนว่าแฟนๆ ต่างก็รอดูว่า การกลับมาครั้งนี้ จะกู้ชื่อให้กับมาหาเจ้าของชื่อเรื่องได้หรือไม่ กับ ”The Bourne Legacy” ตามมาด้วยอีกหนึ่งแอนิเมชั่นฟอร์มเต็งแห่งปีจากค่ายพิกซ่าร์ ที่ครั้งนี้ขอแก้มือ(หลังจากโดนถล่มยับไปเมื่อปีก่อน) ด้วยแอนิเมชั่นเจ้าหญิงเรื่องแรกของค่าย!! แต่เธอไม่ได้มาแบบสวยหวาน พิมพ์นิยมเหมือนกับดิสนี่ย์สมัยก่อน เพราะทั้งแก่นเฮี้ยว แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาที่เธอก่อไว้ให้แก่อาณาจักร ใน ”Brave” ร่วมด้วยหนังไทยรอม-คอมเรื่องล่าสุดจากค่ายใบโพธิ์ ที่ครั้งนี้ได้นักร้องหนุ่มงานชุก แดน วรเวช เลื่อนขั้นขึ้นมานำแสดง และกำกับเองเป็นครั้งแรก! แถมยังควงเพื่อนซี้ หนุ่มบีมกวี และแฟนสาวสุดเลิฟ แพ็ตตี้ อังศุมาลิน กับเรื่องราววุ่นๆ ของรักหลายคู่ ที่ต้องมาชุลมุนในเวลาเพียง 3 วัน 2 คืน ใน ”คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์” รวมไปถึงหนังจำกัดโรงสองสัญชาติ ทั้งหนังดราม่าเรียกน้ำตาจากฮ่องกง กับเรื่องราวของดาราหนุ่ม ที่ได้โอกาสคุณป้าผู้ซึ่งทำงานรับใช้ครอบครัวของเขามาอย่างยาวนาน น่าจะซึ้งโดนใจคุณลูกที่พาคุณแม่ไปเข้าโรงช่วงนี้กัน ใน ”A Simple Life” และหนังไทย-ลาว จากผู้กำกับผู้สร้างหนังชุด “สบายดี” ทั้งสามภาค กับเรื่องราวความรักของสี่คน สี่คู่ สี่เรื่องราว ที่มาโคจพบกันในเวียงจันทร์ ช่วงวันปีใหม่ ใน ”คิดถึงทุกคืน” สายลับมาดนิ่ง เจ้าหญิงสุดเฮี้ยว กับรักเลี้ยวในสามวัน จะพากันถล่มบัลลังก์ได้มากแค่ไหน??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01085&c=11 http://www.boxofficemojo.com/intl/thailand/?yr=2012&wk=31&currency=local&p=.htm จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 01:52:27

ความคิดเห็นที่ 15 สัปดาห์หน้า บอร์นกับแดน ท่าจะลุ้นกันมันส์ จากคุณ : คนมันเเรง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 02:26:50

ความคิดเห็นที่ 16 วีคหน้า ขอเชียร์ brave ฮะ ....... ไม่น่าเล้ย พี่เจเรมี่ - -'' จากคุณ : Barca'naL_uffy เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 03:36:17

ความคิดเห็นที่ 17 เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ผมว่าน่าจะเอาไปขายนอกประเทศด้วยนะ เพราะหนังแอนดิเมชั่นทุนสูง เอามาฉายแค่ในไทย คงไม่ได้หรอก - -* ขนาดแอนดิเมชั่นต่างชาติดัง ๆ ยังทำไม่ถึงเลย จากคุณ : mybnon เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 08:17:12

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาเสพย์สื่อครับ จากคุณ : ป็อกป็อกแป็กแป็ก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 10:44:38

ความคิดเห็นที่ 19 The Dark Knight Rises  อาจจะแพ้  The Amazing Spider-Man  โอว์ๆๆๆๆ จากคุณ : ชายคนนั้น เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 17:30:32

ความคิดเห็นที่ 20 ตามมาอ่านทุกสัปดาห์ครับ ^^ จากคุณ : Jakey_G เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 20:59:41

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้อัพเดทในบลอกด้วยอ่าครับ เผื่อจะไำด้ไปหาข้อมูลย้อนหลังได้อ่ะครับ จากคุณ : ปลาตะเพียนโออิชิ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 15:36:30