 |
อยากตายตามลูก"โกวิท"สุดทำใจ
|
 |
''โกวิท'' ผู้เป็นพ่อรับยังทำใจไม่ได้ หลังสูญเสียลูกสาวคนเล็ก ''น้องมายด์'' จากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันก่อน ด้าน ''มิ้น เอเอฟ 3'' พี่สาวบอกต้องเข้มแข็งให้กำลังใจครอบครัว
หลังจากเกิดเหตุการณ์สลดเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 55 ที่ผ่านมา จากการประสบอุบัติเหตุของน้อง ''มายด์'' มาธวี วัฒนกุล วัย 21 ปี ลูกสาวคนเล็กของนักแสดงรุ่นใหญ่ ''เมา'' โกวิท วัฒนกุล และน้องสาวของ ''มิ้น เอเอฟ 3'' ล่าสุดเมื่อวันที่ 10
ส.ค. 55 ที่ผ่านมานั้นครอบครัว ''วัฒนกุล'' ได้มีพิธีรดน้ำศพและทำพิธีสวดพระอภิธรรมที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ย่านปากเกร็ด โดยมีเหล่าญาติ เพื่อนสนิท และคนในวงการบันเทิงร่วมไว้อาลัยกับครอบครัววัฒนกุลอย่างคับคั่ง ซึ่งภายในงาน
นั้นผู้เป็นพ่ออย่างโกวิทมีอาการโศกเศร้าและร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ด้านผู้เป็นแม่ก็ถึงกับต้องออกไปนั่งที่ด้านหลังของงานเพราะไม่สามารถเห็นรูปหน้าลูกสาวในงานได้ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามถึงความรู้สึก ณ ขณะนี้ของนักแสดงรุ่นใหญ่
ว่าทำใจได้หรือยังนั้น ผู้เป็นพ่อร่ำไห้และตอบด้วยเสียงสะอื้นว่า
''ยังทำใจไม่ได้เหมือนใจจะตายไปตามลูก แก้วตาดวงใจของผมไปแล้วหนึ่งชีวิต แต่ว่าก็ได้กำลังใจมาเยอะมาก เพื่อนสนิทโทร.มาให้กำลังใจกันหมด แต่ก็ยังนึกอะไรไม่ออกเลยครับ คิดว่าจะทำพิธีศพให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาเป็นลูกคนเล็ก
แต่เหมือนเขาไม่ใช่ลูก เหมือนเขามาเป็นแขกมาเยือนบ้านนี้ อยูที่นี่เขาสุขสบายมาก แต่เขาจะเป็นคนหัวสูง ชอบใช้ของแพง ถ้าเงินที่เราให้ไม่พอเขาก็จะทำงานหาเงินใช้เองด้วยการไปเป็นล่าม ทั้งๆ ที่เพิ่งเรียนปี 3 และเขาเก่งภาษาอังกฤษ ผม
กำลังทำหนังเพื่อให้เขาเล่นเป็นนางเอกอยู่แต่เขาก็จากไปเสียก่อน'' (ร้องไห้)
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นนั้น ได้มีลางบอกเหตุอะไรให้ทราบบ้างหรือไม่ ด้านโกวิทก็ได้เล่าให้ฟังว่า
''ไม่มีเลย คืนก่อนที่จะเกิดเรื่อง ผมกลับมาจากงานที่จังหัวดลพบุรีก็ดึกพอสมควรนะ เขาก็นั่งกินขนมอยู่กับแม่ ผมเดินเข้าบ้านก็ไปกอดเขา หอมเขาที่หน้าผากที่จมูก จนทั่วหน้าแล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำ พอลงมาก็เห็นเขายังนั่งอยู่ก็เลยกอดเขา
หอมเขาแล้วก็ฟัดเขาอีกรอบหนึ่ง ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นลางอะไรหรือเปล่า เพราะเราก็หอมกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ปกติจะแค่ครั้งเดียว แต่วันนั้นมันเหมือนเป็นลางว่าผมจะไม่ได้กอดไม่ได้หอมเขาแบบนี้อีกแล้ว ตอนนี้แม่เขาผมก็ต้องพยายามดูแล
จิตใจ ต้องพยายามให้เขาสงบจิตสงบใจเพราะเขาร้องไห้จะตายตามลูกไปให้ได้เลย''
ต่อด้วยคำถามที่ว่าดูมิ้นนั้นเข้มแข็ง ได้มีการให้กำลังใจพ่อยังไงบ้าง ผู้เป็นพ่อกล่าวต่อว่า
''พ่อแม่เสียพี่น้องเสีย ยังไม่รุนแรงเท่ากับลูกเสีย ผมเข้าใจว่าเขาไปตามเวลา มิ้นกับน้องเขาก็สนิทกันแต่เขาก็ยังมีระยะห่าง มันจะไม่เหมือนพ่อกับแม่ อีกอย่างมายด์สนิทกับพ่อที่สุด เขาเป็นลูกของพ่อ (ร้องไห้) เกิดราศีเดียวกับพ่อ ปีเดียว
กัน วันเดียวกัน เดือนเดียวกัน ตรงหัวจะมีสัญลักษณ์เดียวกับพ่อ เขาเป็นลูกของผมเป็นคนที่พ่อรักที่สุด''
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จริงๆ แล้วรถคันที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นรถของใครกันแน่ โกวิทอธิบายว่า
''จริงๆ แล้วรถคันนั้นเป็นของพี่คนโตเขาใช้อยู่ แต่พี่เขาไปเรียนต่อที่อินเดียก็เลยให้มิ้นใช้ จนมิ้นมาซื้อรถของตัวเองก็เลยเอามาให้มายด์ใช้''
ผู้สื่อข่าวหันมาถามผู้เป็นพี่สาวอย่าง มิ้น เอเอฟ 3 ว่า ในตอนนี้ได้สอบถามรายละเอียดกับทางตำรวจบ้างหรือยัง โดยสาวมิ้นก็ได้เล่าว่า
''ยังไม่ได้คุย แต่ทางตำรวจสันนิษฐานว่า รถเสียหลัก คนคงกระเด็นออกมาจากรถ แต่เราก็ยังไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด มิ้นทราบเรื่องประมาณ 7-8 โมงเช้าว่าน้องประสบอุบัติเหตุที่เปาโล ทางหมอก็ได้ทำการยื้อชีวิตแต่ก็ไม่ไหว เพราะก้าน
สมองน้องแย่มาก ถึงน้องกลับมาได้ก็คงทรมานปล่อยให้เขาไปอย่างสงบ อีกอย่างวันนั้นแม่ตื่นมาทำกับข้าวพ่อก็ไปปลุกมิ้น แม่ก็ร้องไห้ พ่อพยายามคุมสติ พวกเราคิดว่าน่าจะมีปาฏิหาริย์ น้องเป็นคนซ่าและแสบต้องอยู่กับพวกเราอีกนาน แต่พอ
ไปถึงรพ. ระบบประสาทน้องแย่ไม่มีการตอบสนองเราก็ต้องยอมรับและทำใจ''
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางมิ้นได้ให้กำลังใจพ่อแม่ยังไงบ้าง มิ้นกล่าวว่า
''ก็ให้กำลังใจกันเป็นพักๆ พอใครร้องให้อีกคนก็ต้องเข้มแข็ง เรื่องเสียน้องก็ถือว่าหนักสำหรับมิ้น แต่คงไม่เท่าพ่อแม่ที่เสียลูกเพราะเขาคือแก้วตาดวงใจ ไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดกับลูกคนเล็กที่อายุน้อยที่สุดในบ้าน พวกเราช็อกกันมาก
เรื่องความสนิทกับน้องเราสนิทกัน ทำกิจกรรมกันที่บ้านบ่อย แต่พักหลังไม่ค่อยมีเวลา ถามว่ามีทะเลาะกันบ้างไหมก็ต้องมีอยู่แล้ว''
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าดูมิ้นเข้มแข็งกว่าทุกๆ คน ด้านมิ้นแจงว่า
''จริงๆ แล้ว พ่อแม่ต้องดูแลมิ้นมากกว่า เรายังอยู่ เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป แต่เราก็เชื่อว่าน้องก็ยังอยู่กับเรา แต่เขาเปลี่ยนรูปแบบให้เราสื่อสารกันทางอื่น เราก็ต้องทำบุญตักบาตรทำสิ่งดีๆ ส่งไปให้เขา''
มีอะไรอยากจะพูดกับน้องบ้างไหม ถ้าน้องฟังเราอยู่ มิ้นกล่าวต่อทันทีว่า
''คงไม่ต้องพูดไม่ต้องบอกอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาก็คงรู้ว่าเรารักเขามาก ถ้าเขาได้ยินอยู่ก็อยากบอกว่าตอนนี้เขาต้องเดินคนเดียวแล้วนะ อยากให้เขาเดินอย่างมีสติ เดินตามรอยพระพุทธศาสนา อย่าให้ใครหรือคนที่ไม่รู้จักมาดึงเดินนำไปใน
ทางที่ไม่ดี ถ้าเรามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก'' มิ้นกล่าว
ทั้งนี้บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้านั้นก็มีเหล่าผู้มาร่วมงานไว้อาลัยกันอย่างคับคั่ง ทั้งเหล่าเพื่อนที่มหาวิทยาลัย, เพื่อนมิ้น, เพื่อนดาราอาวุโสของพ่อ อาทิ ''แตน'' ราตรี วิทวัส, นก เชิญยิ้ม, ซาร่า เอเอฟ ฯลฯ
ทั้งนี้พิธีสวดที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ศาลา 2 สวดทั้งหมด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-18 งดสวดวันที่ 12 เผาวันที่ 18 ส.ค. เวลา 16.30 น.
| จากคุณ |
:
vaio_vaio 
|
| เขียนเมื่อ |
:
วันแม่แห่งชาติ 55 00:21:32
|
|
|
| |
