ความคิดเห็นที่ 1 อันดับ 10 เป็นหน้าเก่าโรยแรง ร่วงลงมาสองขั้น สำหรับหนังรักหลากคู่ รวมดารา To Rome with Love ที่ยังคงเรียกคอหนังรัก และแฟนๆ ปู่อัลเลนได้เรื่อยๆ แม้ว่าบรรดาหนังยักษ์เรื่องใหม่ๆ จะยังคงโหมถล่มโรงอยู่เรื่อยๆ ก็ตาม สัปดาห์นี้ มะกะโรนีหมดถ้วยไปอีก 50% เหลือติดก้นถ้วยนิดหน่อย ที่ 1 แสนบาท ตะลอนทัวร์มาสามสัปดาห์ สำราญรักกันไปแล้ว 1 ล้านบาท   ไม่เลวทีเดียวสำหรับหนังจำกัดโรงนอกกระแสเทศกาลรางวัล ที่จะเก็บเงินเกินล้านได้ เทียบกับ Moonrise Kingdom ของผู้กำกับหนุ่มสุดแนว ก็ยังไม่สามารถไปถึงระดับนั้นได้เลย ทำไปได้(ไม่ค่อย)เฉียด ที่ 7 แสนบาท (แต่ก็จากแค่โรงเดียวเอง) หรือหนังรักจำกัดโรงที่ทำได้ดีมากๆ ก็คงจะเป็น The Vow นี่แหละ ที่นอกจากจะเปิดตัวแรงได้ดีผิดคาดหนังน้อยโรงแล้ว การได้ยืนโรงฉายแบบยาวนานก็ช่วยทำให้หนังเก็บเงินไปได้ถึง 3.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับหนังเรื่องก่อนหน้าของปู่ อย่าง Midnight in Paris ก็เรียกได้ว่า ตามรอยเท้ากันมาเลย เพราะนอกจากจะทำเงินเท่ากันแทบจะทุกกระเบียดนิ้วไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนแล้ว มาสัปดาห์นี้ แม้เรื่องหลังจะทำเงินลดลงมากกว่า (69% เหลือที่ 6 หมื่นกว่าบาท) แต่รายได้สามสัปดาห์ที่ออกมาก็ดันเท่ากันอีก ที่ 1 ล้านบาท! แม้จะเดินรอยตามกันมาขนาดนี้ แต่เรื่องหลังกำลังจะเข้าสู่ช่วงประกาศผลรางวัลต่างๆ นี่สิ ทำให้ได้อานิสงค์เพิ่มโรงกันไป เก็บรายได้สุทธิไปที่ 1.4 ล้านบาท ผิดกับเมืองมะกะโรนีของเรา ที่ทำท่าว่าจะต้องเจียดโรงไปให้กับเรื่องอื่นๆ เพราะหนังใหญ่ก็จ่อคิวเข้าฉายกันไม่น้อยเหลือเกิน! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:39:36

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับ 9 เป็นหนังเข้าใหม่ อีกหนึ่งเรื่องจากฝั่งเอเชีย กับหนังดราม่า เรียกน้ำตา A Simple Life ผลงานเรื่องล่าสุดในบ้านเราของพระเอกฮ่องกงตลอดกาลคนหนึ่ง เฮียหลิวเต๋อหัว ที่ก็เพิ่งเข้าฉายไปไม่นานในบ้านเกิด เมื่อช่วงต้นปีนี่เอง นอกจากจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชม จนคว้ารางวี่รางวัลไปไม่น้อย ยังทำเงินได้ไม่น้อยเสียด้วย (ปัจจุบัน ยังติดอยู่ใน Top 10 สูงสุดฮ่องกงประจำปีนี้อยู่) ได้นักแสดงรุ่นเก๋า อย่าง เยี่ยเต๋อเสียน มารับบทคนรับใช้เก่าแก่ประจำตระกูล ที่ขอเกษียณตัวเอง แล้วได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพระเอก แน่นอนว่ายิ่งมาเข้าฉายในเทศกาลวันแม่เช่นนี้ด้วยแล้ว ก็น่าจะเรียกคนดูที่ต้องการความประทับใจในโรงร่วมกับคุณแม่ได้เป็นแน่แท้ แม้จะมาแบบเงียบเหงา ผิดคุณภาพ และฟอร์มพระเอกชื่อดังไปเสียหน่อย สัปดาห์แรก หนังจึงเปิดตัวไปที่ 1 แสนบาท ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับโรงฉายที่ได้ไปเพียงโรงเดียว แม้ตัวเลข จะได้ไปค่อนข้างน้อย ตามสภาพหนังจำกัดโรงของฝั่งเอเชียทั้งหลาย ทั้งก่อนหน้า อย่าง My Way หนังเกาหลีบรรยากาศสงคราม ก็เงียบเหงาไม่แพ้กัน มาเพียงหนึ่งโรงเช่นกัน แต่กลับไปด้วยรายได้เงียบๆ ที่ 3 หมื่นบาท หรือฝั่งหนังจีน อย่าง Legendary Amazons ที่แม้ว่าจะได้โรงฉายมากกว่าถึง 12 เท่า (12 โรงนี่แหละ!) แต่เฉลี่ยต่อโรงไม่ค่อยสู้ดี  เลยทำรายได้เปิดตัวไปเพียง 3 แสนบาท ข้ามมาดูผลงานของเฮียหลิวในบ้านเรากันบ้าง ดูจากรายได้เรื่องก่อนๆ กับเรื่องนี้ ก็ต้องยอมรับว่า แตกต่างกันพอสมควร เรื่องก่อนหน้าก็คือหนังฟอร์มใหญ่ ประกบพระเอกนักบู๊ เฮียเฉินหลง ใน Shaolin อาจจะไม่แรงตามฟอร์มทั้งคู่ แต่ก็เปิดตัวได้สูงพอสมควรสำหรับหนังเอเชียช่วงนี้ ที่ 10 ล้านบาท หรือก่อนหน้าไปอีก กับยอดนักสืบ Detective Dee ของผุ้กำกับคนดัง ฉีเคอะ ก็ได้คำชมไปไม่น้อยเช่นกัน เปิดตัวในบ้านเราไปที่ 4.4 ล้านบาท ถือเป็นข่าวดีเล็กๆ สำหรับหนังก็ว่าได้ ที่มีคนให้ความสนใจเข้าไปชมพอดูทีเดียว สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศพักจากหนังฟอร์มใหญ่ทั้งหลายในช่วงนี้ หนังก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี แม้โอกาสที่จะอยู่ยาวๆ จะมีน้อยนิดก็ตามที! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:39:59

ความคิดเห็นที่ 3 ร่วงแรงทีเดียว หลุดจาก Top 5 มาอยู่ท้ายตารางใน อันดับ 8 สำหรับปิดตำนานอัศวินรัตติกาลของเฮียโนแลน The Dark Knight Rises ที่ความร้อนแรงลดลงไปค่อนข้างมากตามกาลเวลา จากการท้าชนโดยบรรดาขาบู๊หน้าใหม่ทั้งหลาย คอยให้ป๋าแบทต้องเจียดให้ทั้งโรง และกลุ่มคนดูไปไม่น้อย แม้ว่าสัปดาห์ก่อนจะยังคงร้อนแรงผิดคาดก็ตาม แต่ก็อย่างว่าแหละครับ พอไม่มีวันหยุด(ที่แทรกอยู่ในสุดสัปดาห์ 4 วัน)มาช่วยด้วย สัปดาห์นี้ ป๋าแบทของเราตกจากปากบ่อ ลงมากระแทกแทบกระอักถึงเกือบ 80%!! เหลือเพียง  3 ล้านบาท ปิดตำนานมาสี่สัปดาห์ ได้เงินไปฟื้นฟูเมืองได้แล้ว 128 ล้านบาท ข่าวดีก็คือ รายได้สัปดาห์ที่ 4 ยังมากพอที่จะติด Top 10 ประจำปีนี้ ให้ได้ใจชื้นเล่นๆ (ขึ้นไปสูงถึงอันดับ 4 เบียดแซงคู่แข่งอย่าง The Amazing Spider-Man ไปแบบเฉียดฉิว ที่ 2.9 ล้านบาท) แต่ข่าวร้ายก็คือ แม้รายได้สัปดาห์นี้จะแซงหน้าไอ้แมงมุม แต่รายได้รวมในช่วงเวลาเท่ากันของทั้งสองเรื่องนั้น พี่แบทยังตามห่างอยู่ค่อนข้างมาก (8 ล้านบาท โดยไอ้แมงมุม ใช้เวลาสี่สัปดาห์ โกยไป 136 ล้านบาทแล้ว) ทำให้โอกาสที่พี่แบทของเราจะแซงไอ้แมงมุมไปได้นั้น เริ่มริบหรี่ลงเต็มทน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเป็นการดับฝันไม่ให้พี่แบทของเรา ไต่ขึ้นไปในกลุ่มต่างๆ ได้สูงไปกว่านี้ ทั้งอันดับหนังทำเงินสูงสุดประจำปี (ปัจจุบันยังอยู่ในอันดับ 5 ตามหลังแมงมุมของเรานั่นแหละ!) หรือในกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ตลอดกาล ที่หลังจากเพิ่งขึ้นมาอยู่ในอันดับ 6 ได้แล้ว (แซงหน้า Spider-Man  ภาคแรกไปแบบฉิวเฉียด ที่ 127.9 ล้านบาท) ก็คงหมดโอกาสที่จะเข้า Top 5 ตลอดกาลได้ดั่งฝัน เพราะยังคงเป็นแมงมุมตัวเดิมที่ขวางอยู่!! งานนี้ ก็ต้องยอมรับว่า แม้จะพ่ายไป แต่การที่หนังไร้สามมิติมาช่วย ก็ถือว่า มาได้ไกลมากแล้วล่ะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:41:26

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องนี้ก็ร่วงแรงใช่เล่น หลุดจาก Top 3 มาอยู่ใน อันดับ 7 เลยทีเดียว สงสัยจะลงมาเอาเคล็ดตามจำนวนปี สำหรับ รัก 7 ปี ดี 7 หน ที่แม้ว่าสัปดาห์ก่อนจะได้วันหยุดกลางสุดสัปดาห์ช่วยทำให้รายได้ดูดีขึ้นมาผิดหูผิดตา แต่ทันทีที่ไร้วันหยุด (แถมโดนหนังใหม่ๆ แย่งโรง) ก็ทำเอาสภาพหนังดู “อ่วม” ใช่เล่น! เพราะสัปดาห์นี้ รายได้หล่นลงไปแรงถึง 75%!! ลงมาที่ 3.9 ล้านบาท ฉลองกันมาสามสัปดาห์ ชื่นมื่น 7 ปีกันไปแล้ว 7 x 9 ล้านบาท (อย่าเพิ่งงงกันไป  63 ล้านบาท นั่นแหละ!!!) รวมวันหยุดชดเชยวันจันทร์เข้าไป ทำเงินรวมไปแล้ว 64.6 ล้านบาท เป็นรายได้ที่หล่นลงมาแรงไม่ใช่เล่น แต่ถ้าพูดถึงว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนมีวันหยุดช่วยไว้ก็เลยดูดีขึ้นมานิดนึง แม้จริงๆ แล้วเมื่อเทียบรายได้สัปดาห์ที่สามกับเรื่องอื่นๆ ในปีนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในกลุ่มสูงอยู่ แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไม่อาจติดเข้ามาใน Top 10 ของสัปดาห์ที่สาม สูงสุดปีนี้ได้ (อยู่ในอันดับที่ 12 ตามหลัง I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ที่ 4.1 ล้านบาท ไปเล็กน้อย) ขณะที่รายได้รวมก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาช้าๆ จ่อเข้า Top 10 สูงสุดประจำปีนี้เข้าไปทุกที (ล่าสุดอยู่ในอันดับที่ 12 ตามหลัง The Hunger Games ที่ 65 ล้านบาท) ซึ่งถ้าไม่มีอะไรเกินคาด ก็น่าจะเข้าไปได้ในที่สุดล่ะนะ! (ส่วนในกลุ่มหนังไทยสูงสุดปีนี้ หนังก็สามารถแซง วาเลนไทน์ สวีทตี้ ที่ 58 ล้านบาท ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ได้แล้วแบบสบายๆ) ในกลุ่มหนัง GTH ด้วยกัน การที่รายได้หนังตกลงไปมาก ก็ทำเอาหนังตกที่นั่งลำบากไม่ใช่เล่น เทียบกับหนังแนวใกล้เคียงกัน และเคยทำเงินได้ใกล้เคียงกัน อย่าง เพื่อนสนิท มาสัปดาห์นี้ ก็ทำเงินลดลงไปพอควร แต่ก็ไม่ได้เยอะมากเกินไป เก็บเงินสัปดาห์ที่สามไปอีกถึง 7.5 ล้านบาท (ทำเงินสามสัปดาห์ทิ้งห่างไปแล้ว 70 ล้านบาท) หรืออีกเรื่องที่อาการคล้ายๆ กันหน่อย อย่าง Suck seed ห่วยขั้นเทพ ที่โดนกองทัพหลวงชนแบบไม่ปราณี รายได้เลยร่วงกรูดลงไปถึง 63%!!! แต่อาการก็ดูเหมือนจะดีกว่า 7 ปีพอสมควร เพราะเก็บเงินไปอีกถึง 5.8 ล้านบาท รวมอยู่ที่ 66.4 ล้านบาทไปแล้ว ซึ่งถ้าหากเทียบจากสองเรื่องที่บอกไปนี่แล้ว ก็ต้องยอมรับแล้วว่า หลัก 80 ล้านนั้น ก็คงหมดโอกาสไปแล้วแน่นอน หลัก 77 ล้านเลขสวยก็แทบจะเป็นฝันค้าง คงเหลือแต่หลัก 70 ล้านนี่แหละที่อาจจะต้องลุ้นกันหน่อยว่า หนังจะไม่โดนใครถล่มซ้ำอีก เพราะดูจากในโปรแกรมาแล้ว ยังคงมีหนังรักมาลุ้นลงโรงกันอีกเพียบเลย ส่วนอันดับตลอดกาลของค่าย GTH ตลอดกาลนั้น หนังยังมีอีกหลายอันดับให้ได้ไต่แน่นอน ล่าสุดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 16 แซงหน้าผี แฝด ไปแบบสบายๆ ที่ 62.1 ล้านบาท และมี โกยเถอะโยม รอให้แซงอยู่ไม่ไกล ที่ 66.2 ล้านบาท แต่ถึงแม้ว่าหนังจะทะลุหลัก 70 ล้านไปได้ ก็ยังไม่รับประกันว่าหนังจะเข้าสู่ Top 10 ตลอดกาลของค่ายได้อยู่ดี ซึ่งใครจะมาขวางลำเอาไว้นั้น....ก็คงต้องรอติดตามอ่านกันต่อไปล่ะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:41:50

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ร่วงลงไปแบบเรื่องอื่นๆ หล่นลงมาหนึ่งขั้น ลงมาอยู่ใน อันดับ 6 กับแอนิเมชั่นไทย ทะลุจอ เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ที่แม้ว่าจะเปิดตัวไปได้อย่างน่าผิดหวังมากๆ เมื่อเทียบกับทุนสร้างที่ค่อนข้างสูง แต่ด้วยกระแสเชียร์ที่ออกมาไม่น้อย รวมไปถึงโปรโมชั่นที่ออกมาต้อนรับวันหยุดในช่วงนี้ ก็สามารถดึงดูดคุณพ่อคุณแม่ และคุณหนูๆ ให้กลับมาเข้าโรงกันได้ไม่เลวทีเดียว สัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปเพียง 1 ใน 3! เก็บไปอีก 4 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ ช่วยกันปกป้องโลกได้แล้ว 11 ล้านบาท ถ้ารวมวันหยุดชดเชยเข้าไปด้วย ก็จะทำเงินรวมไปแล้วทั้งสิ้น  13.4 ล้านบาท ถือเป็นนิมิตหมายอันดีทีเดียว นอกจากจะไม่โดนแอนิเมชั่นหน้าใหม่ฟอร์มใหญ่ทำให้ร่องแร่งแล้ว หนังยังทำเงินลดลงน้อยเกินคาดอีกด้วย (ทั้งๆ ที่ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่เป็นวันหยุดด้วยนะ!) ถ้าว่ากันเฉพาะหนังไทยที่เปิดตัวเกิน 5 ล้านด้วยกันในปีนี้ เรื่องที่เปิดตัวใกล้เคียงกันที่สุดแล้วทำเงินลดลงน้อยๆ ก็คือ Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ ทำเงินลดลงสัปดาห์ที่สองไปเพียง 37% เท่านั้น!! (ซึ่งก็ยังทำได้ไม่ดีเท่า รวมไปถึงรายได้รวมที่ตามหลัง) มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำได้ดีกว่า ก็คือ ATM เออรัก เออเร่อ ที่รายได้ก็มากกว่า(มากๆ!) ยังทำเงินลดลงไปน้อยมากอีก ที่ 27% เท่านั้น!! ข้ามฟากมาดูฝั่งแอนิเมชั่นในปีนี้กันบ้าง ถ้าลองเทียบกันแล้ว ถือว่าดีมาก เพราะกลุ่มนี้ก็ใช่ว่าจะทำเงินลดลงน้อยกันซะทุกเรื่อง ถ้าตัวหนังไม่ยอดไปเลย หรือคู่แข่งไม่หินจริงๆ ฟอร์มใหญ่เรื่องก่อนหน้าก็คือแอนิเมชั่นภาคต่อ ขวัญใจหลายๆ คน Ice Age: Continental Drift ที่เจอป๋าแบทขโมยซีนซะจนรายได้ร่วงเกินครึ่งไปกว่า 55% หรือที่เปิดตัวพอๆ กัน อย่าง Dr. Seuss' The Lorax ก็โดนพี่ครึ่งเทพสอยร่วง ยังดีที่ประคองตัว ลดลงไม่ถึงครึ่งแบบเฉียดฉิว (49%!!) เรื่องเดียวที่ทำได้ดีกว่า และถือว่าสุดยอดปาฏิหาริย์ของปีนี้ ก็คือ Madagascar 3: Europe's Most Wanted ที่แรงเชียร์เยอะเกินคาดจริงๆ รายได้ก็เลยลดลงไปแบบจุ๋มจิ๋มเพียง 15% เท่านั้น!!!!! (ส่วนเรื่องรายได้รวม มีเพียง The Lorax เท่านั้น ที่โดนแก๊งค์จิ๋วแซงไปในตอนนี้ เพราะปิดเอาไว้ที่ 11.1 ล้านบาท) ข้ามฝั่งมาดูแอนิเมชั่นไทยกันบ้าง ถ้าเทียบกันจากรายได้ของทุกเรื่อง ในบ้านเราก็แบ่งแอนิเมชั่นออกได้เป็นสองกลุ่ม นั่นก็คือฮิตมาก ไม่ก็แป้กมากไปเลยแก๊งค์จิ๋วของเรา แม้ว่าจะเปิดตัวในระดับของกลุ่มหลัง แต่ด้วยรายได้ที่ลดลงน้อย ก็ทำให้พอมีความหวังขึ้นมาบ้าง (เพราะหนังของกลุ่มแป้ก อย่าง นาค และ  พระพุทธเจ้า ต่างก็ทำเงินกันลดลงเกินครึ่ง ที่ 57 และ 52% ตามลำดับ) แม้จะเทียบไม่ได้กับ ก้านกล้วย ที่ลดลงไปโหดสุดๆ เพียง 9% เท่านั้น!!! แต่ก็ยังดีกว่าภาคสอง ที่แม้จะไม่เกินครึ่ง แต่ก็ปริ่มเจียนไป ที่ 49% ส่วนรายได้รวม หนังก็ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์กว่าๆ พระพุทธเจ้า ที่ปิดเอาไว้น้อยนิด 13.2 ล้านบาท ขึ้นมาเป็นแอนิเมชั่นไทยอันดับ 3 ตลอดกาลได้แล้ว ฟังดูอาจจะเหมือนดูดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังก็ยังไม่ถึงในระดับที่เรียกได้ว่า “เอาตัวรอดไปได้” อยู่ดี เพราะเมื่อดูอันดับถัดขึ้นไป อย่าง ก้านกล้วย ๒ ก็เรียกได้ว่า แตกต่างกัน อย่างสุดกู่ เพราะเรื่องหลัง ปิดเอาไว้กะไม่ให้ตามทันถึง 73.3 ล้านบาทเลยทีเดียว!!! แม้จะต้องออกแรงอีกเยอะ แต่ก็ถือเป็นข่าวดีเล็กๆ ที่น่าจะทำให้แฟนๆ ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ซึ่งของอย่างนี้ก็ไม่แน่เหมือนกัน หากได้รับแรงเชียร์และการสนับสนุนมากๆ บางที ปาฏิหาริย์แบบ “โหมโรง” อาจจะเกิดอีกครั้งก็ได้ ใครจะไปรู้?? (ถ้าโรงไม่หายไปหมดซะก่อนล่ะนะ!!) แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 55 07:43:08 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:42:32

ความคิดเห็นที่ 6 อีกหนึ่งเรื่องที่ร่วงผล็อย ตกจากรองแชมป์ มาอยู่กลางๆ ใน อันดับ 5 กับภาคต่อ ดิ้นกระจาย ทะลุจอ Step Up Revolution หลังจากที่ทำเงินสัปดาห์ที่สองเยอะมากซะจนน่าตกใจไปแล้ว พอมาถึงสัปดาห์นี้ กลายเป็นว่าพอวันหยุดหาย ความร้อนแรงก็พลอยหายตาม (แต่โรงก็หายไปไม่น้อยด้วยแหละ) เพราะทำเงินลดลงไปแบบเจ็บหนักเกือบ 80%!!! เหลืออยู่ที่ 5 ล้านบาท แด๊นซืกันมาสามสัปดาห์ เรียกคนมาดูได้แล้ว 79ล้านบาท รวมวันหยุดชดเชยในวันจันทร์ ทำเงินไปแล้วทั้งสิ้น 80.7 ล้านบาท แม้จะตกหนักแบบสาหัส แต่ก็ไม่น่าจะเรียกว่าเจ็บหนักเท่าไหร่ (ส่วนหนึ่งก็คงเพราะสัปดาห์ก่อนทำไว้ดูดีเกินไปด้วยล่ะ!) ในเมื่อรายได้สัปดาห์ที่สามของหนัง ยังอุตส่าห์ติดอยู่ใน Top 10 สูงสุดประจำปีนี้ด้วยซ้ำ (อยู่ในอันดับ 9 ตามหลัง The Hunger Games ที่ 6.5 ล้านบาท) ขณะที่รายได้รวมก็เรียกได้ว่า ตุนเอาไว้เยอะซะจนสบายตัวไปแล้ว เพราะล่าสุดสามารถแซงหน้ายักษ์ใหญ่ Men in Black III (80 ล้านบาท) ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ประจำปีนี้แบบไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว และรอแซง Snow White and the Huntsman (82 ล้านบาท) ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องสุดท้ายในปีนี้ ที่หนังจะแซงขึ้นไปได้ ในอันดับ 6 หากข้ามกลุ่มหนังเต้น ที่กวาดไปหมดแล้วทุกแชมป์ทุกสถิติ ก็ข้ามมาดูสถิติตระกูลหนังทำเงินเพิ่มขึ้นทุกภาคกันบ้าง หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ได้ยกตระกูล The Fast and the Furious และ Resident Evil ภาคสี่มาเทียบ แล้วทำให้เห็นถึงความหวังที่จะทะลุหลัก 100 ล้านมีมากแค่ไหน แต่พอมาสัปดาห์นี้ รายได้วูบลงไปเยอะ โอกาสถึง 100 ล้านก็พลอยวูบจนหายไปหมดซะอย่างนั้น!! ก็ไม่น่าแปลกใจเลย ในเมื่อลองมาเทียบรายได้สัปดาห์ที่สามกับ The Fast 4 ที่เคยทำได้พอๆ กัน มาสัปดาห์นี้ แก๊งค์เต้นของเรา ก็ต้องเป็นฝ่ายตามห่างแก๊งค์ซิ่งไปซะงั้น! (โดย The Fast 4 ทำเงินลดน้อยผิดคาด เก็บไปอีก 7.8 ล้านบาท สามสัปดาห์แซงไปแล้วที่ 85 ล้านบาท) ทำเอาโอกาสทะลุ 100 ล้าน (ที่เรื่องหลังก็ไปไม่ถึง) พลอยหายไปทันที รวมไปถึงหลัก 90 ล้าน จากที่ไม่น่าจะยาก กลายเป็นหืดจับจนแทบจะสุดเอื้อมไปทันตา แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องยอมรับว่า หนังมาไกลกว่าที่หลายๆ คนคาดไว้มากแล้ว โดยเฉพาะเป็นการเหมือนกับยกระดับหนังกลุ่มนี้ให้มีฐานคนดูเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย แม้ว่าอาจจะมีแค่ตระกูล Step Up เท่านั้น ที่จะเก็บเงินเป็นกอบเป็นกำได้จากหนังแนวนี้ก็ตาม!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:43:35

ความคิดเห็นที่ 7 เปิดตัวเข้ามาใน อันดับ 4 กับแอนิเมชั่นเรื่องใหม่จากฝั่งฮอลลิวู้ด อย่าง Brave ผลงานเรื่องล่าสุดจากค่ายคุณภาพ Pixar ที่หลังจากเสียศูนย์ไปไม่น้อยจากแอนิเมชั่นปีก่อน มาปีนี้ก็เลยขอแก้ตัวด้วยแอนิเมชั่นแนวย้อนยุค กับตัวละครเอกที่เป็นเจ้าหญิงเรื่องแรกของค่าย! ที่มาพิสูจน์ความกล้าของตัวเองช่วยเหลืออาณาจักร พร้อมกับฉากหลังสวยงาม และสามมิติทะลุจอ น่าจะดึงดูดคุณหนูๆ และแฟนๆ หนังจากค่ายนี้ได้ไม่ยาก แต่ไม่รู้ว่าเพราะต้องรอนานเกิน หรือการโปรโมตที่ไม่ดึงดูดพอ ทำให้สัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 9 ล้านบาท รวมหยุดชดเชยวันจันทร์ เก็บเงินห้าวันแรกไปแล้ว 12.1 ล้านบาท ถือว่าน้อยผิดคาดมากๆ ไม่ว่าจะในฐานะแอนิเมชั่นฟอร์มเต็ง หรือจากค่าย Pixar เพราะเมื่อดูจากเรื่องก่อนๆ หน้าที่เปิดตัวไป ต่างก็ทำเงินในระดับ 10 ล้านขึ้นเกือบทั้งนั้น อย่าง Ice Age: Continental Drift ก็กลายเป็นแอนิเมชั่นเปิดตัวสูงสุดของปีนี้ต่อไป ด้วยรายได้ที่ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก ที่ 16 ล้านบาท หรือที่ออกตัวช้ากว่าหน่อย อย่าง Madagascar 3: Europe's Most Wanted ก็ยังเก็บเงินไปได้ไม่น้อยที่ 14 ล้านบาท แต่ก็ต้องยอมรับว่า ทั้งคู่ต่างก็เป็นแอนิเมชั่นภาคต่อ ที่มีฐานเสียงหนาแน่นกันอยู่แล้ว ดังนั้นหากว่ากันเฉพาะในกลุ่มแอนิเมชั่นที่ไม่ใช่ภาคต่อ เจ้าหญิงธนูของเราจึงคว้าแชมป์กลุ่มนี้อย่างง่ายดาย (แซงหน้าคู่แข่งอย่าง เอคดค่ จิ๋วก้องโลก ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อนไปสบายๆ ที่ 6.2 ล้านบาท) ลองเทียบกับแอนิเมชั่นย้อนยุคในบรรยากาศคล้ายๆ กันบ้าง พอมาดูดีๆ แล้วดูเหมือนว่าแอนิเมชั่นแนวนี้จะทำเงินได้ไม่ทิ้งกันไปซักเท่าไหร่ ก่อนหน้าก็คือเจ้าหญิงผมยาวจอมแก่นจากค่ายดิสนี่ย์ Rapunzel ก็ปล่อยให้คนดูรอกันแหง่ก เปิดตัวได้ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่ ที่ 9.2 ล้านบาท หรือมังกรกะไวกิ้ง How to Train Your Dragon ก็ไม่ต่างกัน เปิดตัวไปน้อยกว่านิดหน่อย ที่ 8.4 ล้านบาท แต่ที่แกจากทั้งสามเรื่องไปเลยก็คือ Beowulf ที่ออกแนวบ๊จริงจังกว่ามาก เลยเปิดตัวในระดับหนังฟอร์มใหญ่ซักเรื่อง ที่ 24.9 ล้านบาท ข้ามมาดูฝั่งบ้าน Pixar กันซักนิด นอกจากจะไม่ได้สร้างสถิติอะไรใหม่ๆ แล้ว ที่น่าตกใจหน่อยก็คือ เจ้าหญิงของเราเป็นหนัง Pixar ที่เปิดตัวต่ำกว่า 10 ล้านเรื่องล่าสุด นับตั้งแต่ Cars ภาคแรกเลยทีเดียว! (นั่นก็คือ 6 ปีได้แล้ว!!!) แต่จะว่าไป ถ้าไม่นับ toy Story ภาคแรกแล้ว ค่าย Pixar ก็เพิ่งจะมี Brave เป็นเรื่องที่สองนี่แหละ ที่เปิดตัวน้อยกว่า 10 ล้าน!!! (เคยปริ่มๆ หน่อยก็คือหนูยอดกุ๊ก Ratatouille เปิดตัวไปไม่ห่างมาก ที่ 10.3 ล้านบาท) เห็นสถิติแบบนี้ก็เลยทำเอาน่าเห็นใจไม่น้อย จนไม่ค่อยอยากจะไปเทียบกับบรรดาเรื่องก่อนหน้าทั้งหลายเลย อย่าง Cars 2 ที่โดนนักวิจารณ์สวดยับ ก็ยังทำได้ดีกว่า แม้จะชนกับเหล่าทหารเสือ ที่ 13 ล้านบาท หรือ Toy Story 3 เมื่อวันแม่สองปีก่อน ชนทั้งหลวงพี่น้อย และสิ่งเล็กๆ ก็ไม่สะทก เปิดตัวแรงแบบที่แฟนๆ รอคอยกันมานาน ที่ 20.9 ล้านบาท (หวุดหวิดเป็นสถิติของค่ายไปแล้ว) หรือแอนิเมชั่นที่ไม่ใช่ภาคต่อเรื่องก่อนหน้า ก็คือ Up กลับยิ่งทำให้เจ็บช้ำยิ่งกว่า ได้ความน่ารัก ดึงดูดคนดูตอนเปิดตัวไปมากมายถึง 19.4 ล้านบาท เห็นแบบนี้แล้วก็ถือว่าเป็นงานหนักใช่เล่นสำหรับเจ้าหญิง ที่จะต้องไล่ตามรุ่นพี่ กระแสที่ออกมาก็ถือว่าไม่เลว แม้ว่าจะไม่ตื่นตาเท่ารุ่นพี่เรื่องก่อนๆ แต่ด้วยความที่คู่แข่งแนวเดียวกันในช่วงนี้ได้หมดไปแล้ว ก็น่าจะถึงเวลาที่หนังจะได้กอบโกย(ก่อนจะโดนหนังยักษ์ขโมยซีน)ซะทีล่ะนะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:44:00

ความคิดเห็นที่ 8 โดนหนังใหม่เบียดตกบัลลังก์ ลงมาทีเดียวถึงสองขั้น มาอยู่ใน อันดับ 3 ซะ สำหรับแอ็กชั่น-ไซไฟ ทะลุโลก Total Recall หนังจากที่เปิดตัวได้ไม่เลวเลยในสัปดาห์ก่อน พอมาสัปดาห์นี้ที่ไร้วันหยุดช่วยดัน(ในสี่วันสุดสัปดาห์) แถมเต็งหน้าใหม่ที่มาท้าชนยังเป็นแนวแอ็กชั่นอีก งานนี้ ต่อให้เทพทะลุโลกแค่ไหน ก็มีอันต้องอ่อนระทวยลงไปบ้างล่ะ! สัปดาห์นี้ พระเอกของเราโดนล้างสมองไปถึง 70%!!! เหลืออยู่ที่ 9.2 ล้านบาท ไล่ล่าข้ามโลกมาสองสัปดาห์ ทวงความทรงจำได้แล้ว 46 ล้านบาท รวมวันหยุดชดเชยเข้าไปด้วย เก็บเงินรวมไปแล้วทั้งสิ้น 48.3 ล้านบาท แม้จะตกหนักก็ไม่ถือว่าแย่อะไรมาก เมื่อเทียบกับฟอร์มหนัง และคู่แข่งที่ต้องเจอ เมื่อเทียบกับแอ็กชั่น-ไซไฟเรื่องก่อนหน้า อย่าง Lockout ก็ถือว่า ประสบชะตากรรมไม่ต่างกันนัก เพราะทำเงินรูดแบบไม่ต้องรอรับกันถึง 80%!!! และเก็บเงินรวมสองสัปดาห์ไปที่ 18 ล้านบาท (แต่ขานี้เจองานช้างกว่ามาก ต้องที่ชนกับ The Avengers จนร่วงนี่แหละ!) ขณะที่รายได้รวมก็ถือว่าตุนไว้เยอะตอนเปิดตัว เลยรอเป็นหนัง 50 ล้านเรื่องที่ 15 ของปีนี้แบบสบายๆ แล้ว (ซึ่งก็เทียบเท่ากับอันดับประจำปีนี้ของหนัง ณ ตอนนี้ด้วย ตามหลัง Underworld: Awakening ที่ 57 ล้านบาท) ข้ามมาดูในส่วนเครดิตของผู้กำกับและนักแสดงนำกันซักหน่อย เริ่มจากผู้กำกับไวส์แมน ที่จะว่าไป ผลงานในเครดิตถือว่าทำเงินแทบทุกเรื่องในบ้านเราก็ว่าได้ เรื่องก่อนหน้าก็คือหนังทำเงินถล่มทลายเกินคาด อย่าง Die Hard 4.0 ที่ประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน แต่เฉพาะในแง่รายได้ที่รูดลงมหาศาลนะ เพราะลดลงมาถึง 79%!!! จากการต้องชนกับพ่อมดน้อยแฮร์รี่ภาค 5 รายได้สัปดาห์ที่สองน้อยกว่านิดหน่อย ที่ 9 ล้านบาท หรือภาคต่อแวมไพร์สาวนักบู๊ Underworld: Evolution ของคุณศรีภรรยา อาจจะทำเงินลดลงน้อยกว่า เพราะคู่แข่งไม่โหดมากนัก (57%) เลยเก็บเงินไปอีกสบายๆ ที่ 11.9 ล้านบาท (ทำเงินรวมมากกว่าหน่อย ที่ 49 ล้านบาท) ฝั่งดารานำกันบ้าง เริ่มจากหนุ่มฟาร์เรล ที่เรียกได้ว่า เป็นหนังทำเงินแบบจริงจังเรื่องหนึ่งของเขาก็ว่าได้ โดยหนังมาแรงถึงขนาดใช้เวลา 2 สัปดาห์ ขึ้นแซง Daredevil (42.3 ล้านบาท) เป็นหนังทำเงินสูงสุดอันดับ 2 ในเครดิตของเขาในบ้านเราไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือเพียง ไซไฟพลังพ่อมด+ป๋าครูซ Minority Report ฟากสาวเคท อาจจะต่างกันหน่อย แม้หนังจะไต่ขึ้นมาสูงพอสมควร นอกจากเรื่องก่อนหน้า อย่าง Underworld: Awakening ตามที่บอกไว้ข้างบนว่ายังทำเงินมากกว่า ยังมีหนังอีก 3 เรื่องที่ยังขวางลำเอาไว้อยู่ ทำให้หนังในตอนนี้ ยังติดอยู่ในอันดับ 5 (แถมมีทีท่าว่าจะกระดูกแข็งซักหน่อย เพราะถัดขึ้นไปในอันดับ 3 อย่าง Underworld: Evolution ก็ทำเงินไปร่วม 61 ล้านบาทแล้ว!) ส่วนสาว บีล อาจจะไม่มีอะไรให้ต้องลุ้น ในเมื่อปราการด่านสุดท้ายอย่าง Blade: Trinity (41 ล้านบาท) ถูกแซงไปแล้วอย่างง่ายดาย! เจอหมัดไม่หนักมากไปหนึ่งดอก ก็ถึงกับทรุดลงไปพอสมควร ไม่รู้ว่าสัปดาห์หน้า ที่มาพร้อมกับยักษ์ใหญ่ กับทัพหมัดรุ่นเก๋า จะทำเอาหนุ่มความจำหายของเรา ถึงกับน็อกลงไปนอนรึเปล่านี่สิ!!?? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:44:44

ความคิดเห็นที่ 9 อีกหนึ่งหนังใหม่ฟอร์มเต็ง เปิดตัวเข้ามาในฐานะรองแชมป์ อันดับ 2 กับหนังไทย รอม-คอม คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ ผลงานเรื่องล่าสุดจากค่ายใบโพธิ์ ที่สบโอกาส ดันพระเอกอารมณ์ดี แดน วรเวช ขึ้นเป็นผู้กำกับ(ควบแสดงนำ)กับเค้าซะที (แม้หลายคนจะบอกว่า เร็วไปนิดก็เถอะ!) พร้อมทั้งควงแฟนสาวแพทตี้ อังศุมาลิน มาวุ่นรักกับเพื่อนซี้ หนุ่มบีม กวี กับเรื่องราวรักวุ่นๆ หลายเส้า ของสี่คนในเวลาตามชื่อเรื่อง แน่นอนว่าพร้อมเพรียงด้วยดาราคุ้นหน้าแบบนี้ ก็น่าจะเรียกคนดูวัยรุ่นได้ไม่ยาก ยิ่งช่วงนี้บ้านเรา ห่างหายหนังไทยรอม-คอมฟอร์มดีไปพักใหญ่ด้วยแล้ว สัปดาห์แรก หนังจึงเปิดตัวไปที่ 10 ล้านบาท รวมวันหยุดชดเชยเข้าไปด้วย เก็บเงินรวมห้าวันแรกไปแล้ว 13.6 ล้านบาท ถือว่าโอเคอยู่ สำหรับหนังไทยรอม-คอมซักเรื่องในปีนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวเลขที่น่าตื่นเต้นอะไร แต่อย่างน้อย ก็ไม่ถึงกับ “น่าผิดหวัง” หรือ “ตายเกลื่อน” แบบเรื่องก่อนๆ หน้าที่เราเห็นกันไป (โดยเฉพาะ ถ้าไม่ได้มาจากค่าย GTH และ M๓๙ ด้วยนี่สิ!) ย้อนกลับไปไกล ก็คือ Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์ เมื่อสองเดือนกว่า ก็ท้าตายด้วยการชนทั้งเจ้าหญิงสโนว์และหมอนก เลยล้มทั้งยืนไปแบบน่าเห็นใจ ที่ 1.5 ล้านบาท หรือถัดไปอีก อย่าง ชอบกด Like ใช่กด Love ที่มากขึ้นมาอีกนิด แต่สภาพก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เปิดไปที่ 2.1 ล้านบาท ว่ากันถึงหนังจากค่ายใบโพธิ์ในปีนี้ด้วยกัน ไม่รู้ว่าจะถือเป็นการกู้หน้ามาได้หรือเปล่า นอกจากจะเป็นหนัง รอม-คอม เรื่องแรกของค่ายในปีนี้ ที่เปิดตัวเกิน 10 ล้าน (มากสุดเรื่องก่อนหน้า อย่าง รักเว้ยเฮ้ย! เคยทำเอาไว้ที่ 8.2 ล้านบาท) ยังเป็นหนังเรื่องที่ 2 ของค่ายในปีนี้ ที่เปิดตัวได้มากกว่า 10 ล้านบาทอีกด้วย!!! (เรื่องก่อนหน้าอย่าง อันธพาล ก็ถือว่าทำได้มากที่สุดของค่ายในตอนนี้ ที่ 12.7 ล้านบาท) สถิติดูสูงไปเลย เพราะต้องยอมรับว่าปีนี้ค่ายใบโพธิ์แทบไม่มีหนังเรื่องไหนที่เป็นความหวังได้เลย อย่างเมื่อปีก่อน ยังมี รอม-คอม เรือธง 30+ โสด ON SALE เปิดตัวไปถึง 34 ล้านบาทเลยทีเดียว! หันมาดูเครดิตของสามดารานำขายชื่อของเรื่องกันบ้าง เริ่มจากหนุ่มแดน ที่ปีนี้ มีหนังเข้าฉายถึง 3 เรื่องเข้าไปแล้ว (ไม่นับปริ่มๆ สิ้นปีอย่าง ส.ค.ส สวีทตี้ ด้วยนะ!) เรื่องก่อนหน้าก็คือหนังรักดราม่า The Melody รักทำนองนี้ ที่เข้าฉายรับวันวาเลนไทน์ แต่ก็ทำได้เงียบเหงาผิดคาด เปิดตัวไปเพียง 2.1 ล้านบาท ผิดกับเรื่องถัดไปอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อน อย่าง วาเลนไทน์ สวีทตี้ ที่อุดมไปด้วยนักแสดงดังมากมาย แม้จะเปิดตัวได้เยอะ แต่ก็ลดลงจากตอนก่อนมาหน่อย ที่ 27 ล้านบาท โดยมีหนังเปิดตัวสูงสุดอย่าง หนังผีหลายตอนย่อย ห้าแพร่ง สร้างกระแส เรียกคนดูถล่มโรงไปถึง 48.2 ล้านบาททีเดียว! ตามมาด้วยหนุ่มบีม หนังเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สองของเขาในปีนี้ เรื่องก่อนหน้าก็คือ วาเลนไทน์ สวีทตี้ ซึ่งร่วมงานกับหนุ่มแดนอีกเรื่อง ถัดไปอีกก็ยังคงอยู่กับหนุ่มแดนอีก ใน ส.ค.ส. สวีทตี้ เปิดตัวส่งท้ายปีเก่าไปที่ 30 ล้านบาท และถือว่าเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของหนุ่มบีมก็ว่าได้ ส่วนสาวแพตตี้ ที่ก็ร่วมงานกับทั้งสองคนมาก่อนหน้าเช่นกัน นอกจาก วาเลนไทน์ สวีทตี้ และ ส.ค.ส. สวีทตี้ อย่างที่บอกไปแล้ว (เฉพาะบทเด่นนะครับ) ผลงานเรื่องก่อนหน้าของเธอ และถือว่าทำเงินสูงสุดในเครดิตสาวแพตตี้ด้วย อย่าง รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ก็เปิดตัวในระดับ สถิติค่าย GTH ถึง 55.9 ล้านบาทเลยทีเดียว! แล้วก็อย่างที่ทราบกัน ทั้งสามคน ร่วมงานกันในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 แล้ว (ต่อจาก วาเลนไทน์ สวีทตี้ และ ส.ค.ส. สวีทตี้ ของเฮียยอร์ช เช่นเคย) ส่วนนางแบบสาว นุช นีรนาท หนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่สามของเธอแล้ว เรื่องก่อนหน้า ก็คือ หนังผี ของคุณแมลงปีศาจ ที่ออกจะมาแบบเงียบเหงาไปซักหน่อย เปิดตัวไปเพียง 1 ล้านบาท ถัดไปอีกก็คือหนังรักวัยรุ่น Roommate เพื่อนร่วมห้อง...ต้องแอบรัก? ที่เหมือนจะทำได้ดี แต่ก็ไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ เปิดตัวไปพอประมาณ ที่ 7.7 ล้านบาท แม้กระแสหนังจะออกมาค่อนข้างก้ำกึ่ง แต่ด้วยความที่ไร้คู่แข่งแนวเดียวกันในช่วงนี้  (นับเฉพาะค่ายใหญ่ๆ ล่ะนะ) หนังก็น่าจะเก็บเงินต่อไปได้อีกซักพักล่ะ(มั้ง!!??) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:45:15

ความคิดเห็นที่ 10 และแล้ว ก็มาถึง อันดับ 1 ของเรา กับหนังใหม่ของสุดยอดสายลับหน้าใหม่ แต่ขายชื่อคนเก่า อย่าง The Bourne Legacy หนังต่อยอดความสำเร็จของยอดสายลับ เจสัน บอร์น ด้วยการโยงเรื่องราว เปิดทางให้สายลับหน้าใหม่ของเราได้บู๊เสียเลย! โดยได้หนุ่มงานชุก เจเรมี่ เรนเนอร์ มาวาดลวดลายสายลับมากความสามารถ พร้อมกับการเลื่อนขั้นของมือเขียนบททั้งสามภาคก่อน อย่าง โทนี่ กิลรอย มากำกับ ก็น่าจะรับประกันความมันส์แบบเน้นตามสามภาคก่อนหน้าได้ไม่น้อย สัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 17.5 ล้านบาท รวมวันหยุดชดเชยเข้าไปด้วย หนังจึงเก็บเงินรวมห้าวันแรกไปแล้ว 22.2 ล้านบาท ก็ถือว่าโอเคทีเดียว สำหรับการเปลี่ยนผ่านของสายลับคนใหม่ แม้จะเปิดตัวได้ไม่เยอะเหมือนกับบรรดาฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นๆ (อยู่ในอันดับ 18 ของหนังเปิดตัวสูงสุดประจำปีนี้ ตามหลัง Ghost Rider: Spirit of Vengeance ที่ 19 ล้านบาท) แต่ก็ต้องยอมรับว่าแอ็กชั่นแนวนี้ ไม่ได้เป็นที่นิยมในวงกว้างเท่าแนวอื่นนัก (ที่ใส่ความอลังลงไปมากกว่า) ดูอย่างเรื่องก่อนหน้า อย่าง Haywire ที่ได้พลังหนุ่มๆ มาช่วยกันดันสาวนักบู๊ ก็ดูจะไม่ค่อยโดนใจคนดูในบ้านเราเท่าไหร่ เปิดตัวไปตามฟอร์มที่ 3 ล้านบาท หรือถัดไปอีก อย่าง Safe House ที่เปรี้ยงปร้างในบ้านเกิด แต่ในบ้านเรา ป๋าวอชิงตันอาจจะยังขายได้ไม่มากเท่าไหร่ เปิดตัวไปพอประมาณ ที่ 4.7 ล้านบาท ข้ามมาดูฝั่งหนังสายลับกันบ้าง ปีนี้ ถ้านับกันจริงๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่สามได้แล้ว เรื่องก่อนหน้าก็คือคู่หูสายลับ This Means War ที่ดูจะเน้น รอม-คอม พอสมควร ก็เปิดตัวไปพอประมาณในบ้านเรา ที่ 7 ล้านบาท ข้าม Haywire ไปปลายปีก่อนเลยก็คือ Mission: Impossible - Ghost Protocol ตระกูลคู่แข่ง ที่ถือว่า “ฟื้นจากปากหลุม” ได้อย่างสวยงาม เปิดตัวในบ้านเราในระดับหัวแถวของกลุ่มนี้ที่ 45.5 ล้านบาทเลยทีเดียว (ปล่อยให้ป๋าเจมส์ บอนด์ ยังคงครองแชมป์ไปกับตอน Die Another Day ด้วยรายได้เปิดตัวระดับ 50 ล้านบาทเพียงเรื่องเดียวในกลุ่มนี้!) เทียบกับสายลับทุกหมู่เหล่าอาจจะกระดูกคนละเบอร์ มาเทียบกับบ้านบอร์นด้วยกันดีกว่า ก็ต้องยอมรับว่าตระกูลบอร์นในบ้านเรา อาจจะทำเงินได้ไม่มากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับในบ้านเกิด (รวมไปถึงเทียบกับป๋าบอนด์, อีธาน ฮันต์ หรือกระทั่ง จอห์นนี่ อิงลิซ!!) รายได้เปิดตัวของภาคนี้ถึงขั้นสูงเป็นอันดับ 2 ของตระกูลบอร์นเลยทีเดียว ตามหลังเพียงตอนก่อนหน้า อย่าง The Bourne Ultimatum ภาคเดียวเท่านั้น (ทำเอาไว้ที่ 22 ล้านบาท ส่วน 2 ภาคก่อนหน้า เปิดตัวไว้ที่ 8 และ 12.3 ล้านบาท ตามลำดับภาค) ฟากเครดิตของนักแสดงนำ และผู้กำกับ เริ่มจากหนุ่มเจเรมี่ ที่ปีนี้ก็ต้องยอมรับว่า เป็นปีทองของเขาอีกปีหนึ่งจริงๆ นอกจากจะได้บทนำ ที่ค่ายคงหวังให้เป็นซีรี่ย์ใหม่ให้ได้ เขาก็เพิ่งรับบทฮีโร่สุดเท่ห์ไปไม่นาน ใน The Avengers ที่ถือว่าเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของเขา ที่ 78 ล้านบาท รวมไปถึงเพิ่งจะชิมลางเป็นสายลับ ประกบป๋าครูซไปหมาดๆ ใน Mission: Impossible 4 นี่เอง ฝั่งผู้กำกับ กิลรอย ที่เขียนบทให้ซีรี่ย์นี้มาทุกภาค ก็เพิ่งจะได้กำกับหนังเป็นเรื่องที่สาม แต่อนิจจา! มีเพียงเรื่องแรก อย่าง Michael Clayton ที่ได้เข้าฉายในบ้านเรา เปิดตัวไปแบบเหงาๆ (แม้จะฉายในวงกว้าง) ด้วยรายได้เพียง 2 ล้านบาท งานนี้ จะหวังถึงตำแหน่งแชมป์ของตระกูลบอร์นอาจจะไม่ยากเย็นเท่าไหร่ (เพราะได้รายได้วันจันทร์มาช่วยพอสมควร) แต่กระแสอาจจะสู้ไตรภาคก่อนไม่ได้เท่าไหร่ รวมไปถึงการต้องชนกับขาใหญ่วัยเก๋าในสัปดาห์หน้า ก็เลยไม่รู้ว่ายอดสายลับของเรา จะฝ่าดงบาทาของแก๊งค์นั้นได้หรือเปล่านี่สิ!!?? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:45:49

ความคิดเห็นที่ 11 สายลับหน้าใหม่ผงาด ท่ามกลางหนังเก่าหนังใหม่ที่อ่อนแรงผิดคาด ทำเอา Top 10 สัปดาห์นี้ หย่อนลงมาพอสมควร ที่ 61.8 ล้านบาท น้อยกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (86.8 ล้านบาท) ไปพอสมควร เกือบ 30% และน้อยกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (93.1 ล้านบาท) ไปอีก 34%!! ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ กรีฑาทัพ เถลิงบัลลังก์ ด้วยรายได้ที่อาจจะน้อยกว่าภาคก่อนไปซักหน่อย ที่ 68 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:46:22

ความคิดเห็นที่ 12 สุดสัปดาห์หน้า ถึงเวลากลับมาทวงบัลลังก์ของรุ่นใหญ่วัยดึก ที่ครั้งนี้ ไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่มากันทั้งแผง แถมมากกว่าภาคที่แล้วซะด้วย!!! เต็งที่ว่า ก็คือแอ็กชั่นบู๊ระห่ำภาคต่อ หลังจากที่ภาคแรกประสบความสำเร็จไปไม่น้อย ครั้งนี้ ป๋าสตอลโลนของเราก็เลยได้ใจ ขนทีมเก๋าทั้งวัยหนุ่ม และวัยดึกกลับมากันอีกครั้ง พ่วงด้วยหน้าใหม่(แต่วัยเก๋า) คืนจอกันอีกเพียบพร้อม รวมอายุอานามแต่ละคนเข้าด้วยกันก็คงปาเข้าไปเฉียดสหัสวรรษ เลยทีเดียว! (เว่อร์ไปนิด) กับ ”The Expendables 2” ตามมาด้วยหนังไทยภาคต่อ ที่ได้แรงเชียร์จากแฟนๆ ทั้งในบ้านเรา และต่างแดนไม่น้อย กับเรื่องรักวุ่นๆ ของสองสาวที่เหมือนจะแฮปปี้ไปแล้วในภาคก่อน ก็ต้องมามีเรื่องให้ได้พิสูจน์หัวใจกันอีกจนได้ ใน ”Yes or No 2 รักไม่รัก..อย่ากั๊กเลย” และหนังจำกัดโรงทั้งหลาย ทั้งหนังรักจากเบลเยี่ยม กับเรื่องราวของสองเด็กหนุ่ม ที่เข้ามาเติมเต็มความรักให้กันและกัน ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ใน ”North Sea Texas” และหนังบอลลิวู้ดชนโรง ของพระเอกวัยดึก กับเรื่องราวของชายที่หมดหวังในเทพพระเจ้า ที่กำลังจะป่าวประกาศเพื่อคนอื่นเลิกเชื่อเหมือนกับเขา ก็ดันมาเจ๊อะเทพตัวจริงเสียนี่! ใน ”Oh My God!” ขาบู๊วัยดึก จะทำรายได้คึกคักมากแค่ไหน??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01088&c=11 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=movietalk&group=5 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 07:47:14

ความคิดเห็นที่ 13 Brave เปิดตัวได้น้อยกว่าที่คิดแฮะ หนังมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอครับ ทั้งที่การโปรโมทก็ไม่ได้แย่อะไรนะ แต่ผมก็ยังไม่ได้ไปดูอ่ะ   จิ้มโหวตไปที่รัก 7 ปดี ดี 7 หน ให้กำลังใจ จขกท.ครับ ตามอ่านตลอด กราฟฟิคเนียนมากกกกก จากคุณ : PAXIFIZTA เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 08:36:37

ความคิดเห็นที่ 14 Brave น่าจะโดน echo ที่กระแสแรงขึ้น+โปรโมชั่นเด็กลดราคา ดึงลูกค้าไปเยอะ A Simple Life รายได้ดีผิดคาด รอบที่ผมดูคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ A Simple Life ฉายที่ SFW ด้วย ไม่ใช่เหรอครับ จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 09:19:24

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท. คุณยอดมากครับ ติดตามอยู่ตลอดนะ จากคุณ : คนคายาก เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 11:26:49

ความคิดเห็นที่ 16 เยี่ยมครับ ตามอ่านตลอดน่ะครับ จากคุณ : Love Anyone เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 12:01:03

ความคิดเห็นที่ 17 นับถือ  จขกท.ม๊ากกกกกกกกกกกกกก ติดตามอ่านตลอดนะครับ อยู่คู่เฉลิมไทยไปนานๆเน้อ.. จากคุณ : ป็อกป็อกแป็กแป็ก เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 12:11:12

ความคิดเห็นที่ 18 ตั้งแต่ติดตามกระทู้มา สังเกตพฤติกรรมการบริโภคหนังของคนไทย ส่วนใหญ่ชอบดูหนังแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก หนังบู๊ หนังตลก หนังผี กระเทยด จะขายดี เรียกว่า ไม่ขาดทุน บางเรื่องที่สร้างแบบลวกๆ นี่ก็ได้กำไรเพียบ อาทิตย์หน้า ฟันธงว่า The Expendables 2 น่าจะเข้าวินอันดับ 1 หนังรวมเหล่าดารานักบู๊ตัวพ่อทั้งหลาย แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 55 12:27:14 จากคุณ : ผู้กอง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 12:26:26

ความคิดเห็นที่ 19 Echo เห็นรายได้แล้ว น่าใจหายมากๆ ทำไมหนังดีๆแบบนี้ คนถึงไมุ่อุดหนุนกัน ปีนี้หลายเรื่องแล้วนะที่หนังดีแต่ไม่ทำเงิน ไม่ว่าจะเ็ป็น Home / ไม่ได้ขอให้มารัก / The Melody ฺBrave นี่ถือว่าทำรายได้ดีเลยนะ(ถ้าเทียบว่าเจอคู่แข่งอย่าง Echo มาแย่งโรงไป) จากคุณ : Barry Banana Caramel เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 12:45:21

ความคิดเห็นที่ 20 อยากทราบรายได้ของ "แต่เพียงผู้เดียว P047" ครับ ฉายน้อยโรงมากแต่เต็มเกือบตลอด จากคุณ : Mr. Coffee เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 13:36:39

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณฮะ จากคุณ : Robbie_God เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 14:27:37

ความคิดเห็นที่ 22 จำนวนโรงของ A Simple Life ผมว่า Mojo น่าจะผิดพลาดล่ะครับ เพราะที่ผมดูเอาไว้มีอยู่สามโรง ส่วน แต่เพียงผู้เดียว นี่ ครั้งสุดท้ายเห็นอยู่ที่เฉียดๆ ล้านนะครับ จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 15:11:27

ความคิดเห็นที่ 23 น่าดูเยอะมาก แต่ขออุดหนุนหนังไทยก่อนแล้วกัน :) จากคุณ : kaikung เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 15:20:45

ความคิดเห็นที่ 24 total recall สนุกดีอ่ะ ^^ จากคุณ : พุทราแสนรัก เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 15:42:33

ความคิดเห็นที่ 25 brave ไม่ได้แย่ครับ แต่มีหนังทางเลือกและฟอร์มเป้งกว่า (โดยเฉพาะคนไทยกับการ์ตูน/อนิเมชั่น .. ต่อให้มันดียังไง แต่ก็มีคนไม่น้อยคิดว่า ก็แค่หนังการ์ตูน) แล้วยิ่งไปเทียบกับหนัง pixar ก่อนหน้านี้ ผมว่า brave เจองานหนักสุดแล้วในด้านของ คู่แข่งมีฟอร์มทั้งแย่งโรง แย่งความสนใจ (ในไทย) อ่ะนะ .. ไหนจะหนังแอ็คชั่นภาค4 ตย.เร้าอารมณ์ชวนดู / ไหนจะหนังไทยโรแมนติก-คอมมาดี้ เพลินๆของไทย / ไหนจะอนิเมกลุ่มคนดูเดียวกันสร้างโดยคนไทยอีก 9m ในไทย จากหน้าหนัง ตย.ที่ปล่อยออกมา (ซึ่งไม่มี "พล็อตหลัก" แพลมมาเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่มันเหมาะกับเทศกาลเดือนนี้มากๆ) ผมว่า brave "กล้า" มากแล้วที่ได้รายได้เปิดตัวเฉียด 10m นี่ก็ว่าจะไปเพิ่มยอดอีกรอบให้อีก 150 บาท นิ ;)) . คนที่ไปพิสูจน์ the bourne แล้วเจ็บหนัก .. lol+ .. อยากให้ลองกลับมาดู brave หรือ คืนวันเสาร์ฯ ดูบ้างนะครับ ผมว่าสนุกกว่า bourne เป็นไหนๆ แต่ดูท่า วีคนี้คงเสร็จโปรเจ็คภาค 2 ของอภิมหารวมคนเหล็กอึดระห่ำตายยาก แหงๆ จากคุณ : Barca'naL_uffy เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 16:22:51

ความคิดเห็นที่ 26 หมด The Dark Knight Rises กับ Step Up แล้วไม่รู้สึกอย่างดูหนังเรื่องไหนอีกเลย ที่พาเหรดกันเข้าฉายช่วงนี้ไม่เข้าตา รอดู Ted นี่ล่ะ แนวเราชัดๆ อิอิ จากคุณ : ปุริมาน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 16:59:55

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบอาร์ทเวิร์คของคุณ gunki_kun มากๆเลย จากคุณ : เด็กภูเวียงโดยกำเนิด เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 19:05:56

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับบบ ^^" จากคุณ : limitedheinz เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 20:04:23

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบกราฟฟิคของ Pixar อ่ะ จากคุณ : 2 Undifferent เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 20:06:13

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณจขกท.มากนะคะ ข้อมูลเเน่นเป๊ะกว่าสื่อบางสำนักอีกค่ะ ^^ สู้ต่อไป ผกก.แดน จากคุณ : Ms.Perfect เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 22:29:53

ความคิดเห็นที่ 31 สายลับติดยา อิอิ จากคุณ : peerasak30 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 55 00:16:09

ความคิดเห็นที่ 32 *** โหวต กิฟต์ เก็บเข้าคลัง อ่าน และให้กำลังใจครับ *** จากคุณ : สมาชิกหน้าเหลือง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 55 14:28:34

ความคิดเห็นที่ 33 ข้อมูลแน่น กราฟฟิคเจ๋ง เหมือนเคย ^^ อย่างงี้ต้องโหวตค่ะ จากคุณ : joy_bph เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 01:36:46

ความคิดเห็นที่ 34 ไปดูทั้ง brave และ echo มาแล้ว echo นี่...วันนึงมีน้อยรอบมาก วันที่ได้ดู brave ก็เพราะไม่มีรอบดู echo นี่แหละ อายุอานามก็ 23 แล้ว(ตอนโดนเจ้าหน้าที่ถามหาบัตรนักเรียนนี่อ๊ายอาย)ฝีมือ กราฟฟิค ภาพ อนิเมชั่น ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย แต่ที่ชิงชัยกันคงเป็นบทหรือ plot การดำเนินเรื่อง ที่บอกตามตรงไม่ได้อวยหรือดูถูก คือ brave ดำเนินเรื่องได้น่าสนใจกว่า พยายามเข้า animation ไทย ...... จากคุณ : Tonberry_sista เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 13:25:09

ความคิดเห็นที่ 35 ติดตามผลงาน จขกท. นะ จากคุณ : teaspoonful เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 14:10:12

ความคิดเห็นที่ 36 ติดตามผลงานตลอดนะคะ แล้วเจอกันอาทิตย์หน้านะคะ จขกท. ขอบคุณค่ะที่สรุปรายได้ให้ดู จากคุณ : S@iYoJang เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 19:30:28

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณนะคะ ติดตามจขกท มานานแล้ว Braveน่าดูมาก ยังไม่มีโอกาสไปดูเลย จากคุณ : i.amyiing เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 55 23:20:27

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาเป็นกำลังใจคับ จากคุณ : SoRN KOP เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 55 13:06:01

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ แอบเอาใจช่วยเอคคโค่ จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 55 14:19:30