Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพิ่งดู Home ชอบตอนของเนกับบีมครับ ตีความ+ความรู้สึกส่วนตัวครับ ติดต่อทีมงาน

ผมเพิ่งได้มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่อง HOME เมื่อคืนครับ(3-4ทุ่ม) ชอบตอนของเนและบีมเป็นพิเศษ ออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นเกย์นะครับ ผมชอบที่มันตีความได้หลากหลายแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน ความคิดของแต่ละคน และผมมองว่าความรักสวยงามในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นระหว่างเพศใดก็ตาม

เน เป็นช่างกล้อง ผมตีความว่าสื่อถึงช่างกล้องที่ไม่เคยอยู่ในรูป(เพราะเป็นคนถ่าย) เขาจดจำความทรงจำมากมายผ่านเลนส์และรูปภาพ แต่ไม่ได้เป็นความทรงจำสำหรับใคร อย่างที่เขาบอกเองว่าเพื่อนน่ะมี แต่ที่สนิทน่ะไม่มีหรอก และยังตอนที่เพื่อนโทรศัพท์มา ที่เหมือนจะเป็นห่วงแต่สุดท้ายก็บอกว่าจะขาดเนได้อย่างไร ใครจะถ่ายภาพ....

สำหรับบีม ด้วยความที่ย้ายโรงเรียนบ่อยๆ เขาจึงกลัวที่จะถูกลืม ตรงนี้หนังสื่อจากบทสนทนาระหว่างบีมกับเน บีมพูดเองทำนองว่าอยากให้ใครสักคนจำได้ และยังบ่นเหมือนน้อยใจที่โค้ชและใครๆก็สนใจเตอร์ แม้บีมและเตอร์จะได้โควต้า ทิวไผ่งามด้วยกัน แต่โค้ชกลับเรียกเฉพาะเตอร์เพื่อขอให้เตอร์อยู่กับโรงเรียน....

คน 2 คน คนหนึ่งผู้เก็บความทรงจำ(ช่างกล้อง) กับอีกคนที่อยากเป็นความทรงจำ......

แค่ช่วงเวลาสั้นๆ มิตรภาพก็ถักทอสายใยได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับในชีวิตคนเราเลยครับ หรือจะเรียกให้ถูกชีวิตของผม(เพราะผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกันหรือเปล่า) เคยมั้ยครับ บางครั้งคนบางคนที่เรารู้จักในช่วงเวลาสั้นๆแต่เรากลับรู้สึกผูกพัน มีความรู้สึกดีๆ มากกว่าคนบางคนที่อยู่ในชีวิตของเราตลอดมา.......

ต่อไปนี้เป็นการตีความการกระทำของตัวละครนะครับ ตามความคิดของผม แต่ขอบอกก่อนว่าผมโดนสปอยมาก่อนแล้วนะครับว่าสุดท้ายแล้วบีมจะตาย(ขนาดรู้มาก่อนแล้วนานแสนนาน ยังแอบเศร้ากับตอนจบเลยครับ)

สำหรับผม ผมมองว่าเนกับบีม ชอบกันนะครับ ผมตีความจากฉากต่อไปนี้นะครับ
1. ตอนที่บีมซ้อมชวนแพร(?)ไปดูหนัง กับเนน่ะครับ บีมเลือกที่จะให้เนเอารูปของแพรออก เหมือนกับบีมอยากจะชวนเนจริงๆ (ผมก็เคยซ้อมแบบนี้กับเพื่อนนะครับ แต่ไม่หวานไม่เคลิ้มขนาดนี้ แถมหลุดหัวเราะจนไม่เป็นอันซ้อม 55)
2. ตอนที่เนฝากให้บีมช่วยลงรูป บีมแอบดู Folder ชมรมบาส ตอนแรกที่้ดูก็ยิ้มแย้มเพราะมีรูปตัวเองอยู่ด้วย หลังๆเริ่มมีภาพเตอร์ และกลายเป็นบีมที่โดน Defocus เบลอๆ สีหน้าเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและออกอาการนอยทันที ดังที่เห็นว่าพอเนกลับเข้ามา บีมเดินออกไป (อันนี้จะตีความเป็นอีกอย่างก็ได้นะครับ เพราะหนังสื่อค่อนข้างชัดเจนว่าบีมอยากเป็นความทรงจำของใคร ภาพถ่ายก็เหมือนเป็นความทรงจำ เขาอาจรู้สึกเสียใจที่เขาก็ไม่ได้เป็นความทรงจำของเน)
3. ตอนที่เนละจากบีมมาลงมาเอาแบตสำรองที่รถ พอใส่แบตแล้วเขาก็ดูภาพของบีมแล้วยิ้ม
4. บีมดูเน้นพูดถึงเตอร์กับเน เหมือนอยากจะลองดูความรู้สึก(อารมณ์แบบเวลาเราแอบรักเพื่อนน่ะครับ แล้วหลอกถามถึงคนนั้นคนนี้ ชอบแซวแล้วดูปฎิกิริยา แล้วเอามานอย 55)
5. ตอนกอดกัน อันนี้มันตีความได้ทั้งมิตรภาพและความรัก แต่ไม่รู้นะผมมองเป็นความรัก 55 เพราะตีความของผมเชื่อของผมไปแล้วว่าเขาชอบกัน 55 แต่ผมชอบนะ บีมกอดก่อนและเนกอดตาม
6. ตอนที่บีมขึ้นรถแล้ว เจอกระดาษจดเมล์ของตัวเอง รีบวิ่งกระโจนไปข้างหลังรถเพื่อจะบอกให้เนรู้เมล์ของตัวเอง อันนี้ผมว่าถ้าไม่ได้คิดไรมาก ก็ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นนะ เพราะเดี๋ยวก็กลับมาเจอกันก็ได้(ถึงแม้ว่าความจริงก็คือไม่ได้กลับมาเจอกัน.....)

สำหรับผมตอนดูก็ตีความได้ 2 แบบเช่นกันแหละครับ แต่ผมเชื่อว่าเป็นความรักมากกว่า สวยงามดี ^^ ความรัก ความผูกพันมันไม่ได้ขึ้นกับเวลาที่สั้นหรือยาวนานเลยครับ มันเป็นความรู้สึกจริงๆ เรารู้สึกเอง กับบางคนอยู่กันมานานยังไม่รู้สึกอะไรเท่ากับใครบางคนที่อยู่ด้วยกันแค่เพียงไม่นานแต่กลับรู้สึกผูกพัน รู้สึกดีด้วย จนก่อตัวเป็นความรักในหลากหลายรูปแบบ ความรักแบบเพื่อน แบบพี่น้อง แบบเชิงชู้สาว ฯลฯ ก็เหมือนกับคู่ตัวละครของเนและบีมครับ ช่วงเวลาสั้นแค่ชั่วคืนทำให้คนสองคนผูกพันกัน รู้สึกดีต่อกัน...

สรุปแล้วผมก็ตีความว่าเนและบีมชอบกัน แต่ไม่ถึงขั้นเชิงชู้สาว เป็นความรู้สึกดีๆที่มีต่อกัน คนสองคนที่มีความเหงาในใจ เน ก็เหมือนไม่มีเพื่อนสนิท มาถ่ายรูปคนเดียว ส่วนบีมก็รู้สึกว่าตัวเองจะต้องถูกลืม คนสองคนก็เหมือนจิ๊กซอว์ของกันและกัน.... มาเติมเต็มคืนที่เงียบเหงาให้มีชีวิตชีวาขึ้น....... ถ้าบีมไม่ตายไปเสียก่อน ความสัมพันธ์คงมีโอกาสพัฒนานะครับ คิดว่า...

นอกจากนี้ พอดีหลังจากดูจบ ผมก็ลองเสิร์ชดูกระทู้เก่าๆใน Pantip พบมีคนถกเถียงกันเรื่องเวลาตายของบีมว่าอาจจะไม่ได้ตายขณะที่ไปกรุงเทพฯ ตรงนี้จากผมที่ดูหนังมา ยืนยันว่าบีมตายขณะไปกรุงเทพฯนะครับ(โดนรถชนตาย) เพราะเนบอกจะส่งรูปให้บีมแต่บีมจำอีเมล์ไม่ได้ บืมเลยบอกว่าเดี๋ยวค่อยให้เพราะยังไงเดี๋ยวเขาก็กลับมา และตอนหลังแม้จะเขียนอีเมล์ให้แต่เนก็ถ่ายรูปไม่ทัน สรุปก็คือไม่ได้ให้ เนได้มาให้ตอนหลัง วางไว้ที่หน้าโลงศพ (เศร้าจัง) อีกอย่างที่ยืนยันหนักแน่นยิ่งขึ้นคือที่ภาพของบีมที่หน้าโรงศพ ระบุมรณะเป็นปี 2554-2539(ชาตะ) ได้ 15 ปี ซึ่งอยู่ในช่วง ม.3 ขึ้น ม.4 พอดี

จริงๆก็แอบนอยกับตอนจบนะครับ ไม่ต้องเป็นคนที่เรารักหรอกครับ แค่คนที่รู้จักกันเสียชีวิตไป เราก็รู้สึกใจหาย แต่ก็คิดว่าจบแบบนี้ดีแล้วล่ะครับ ตรงตามประเด็นที่หนังสือจะสื่อ เวลาผ่านไปความทรงจำ ความรู้สึกดีๆกับใครบางคนก็ยังอยู่เสมอ แม้ว่าคนๆนั้นอาจไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตาม.....

ส่วนตอนอื่นๆก็ชอบนะครับ สื่อสารได้ดีกับคนหนึ่งคนที่ต้องก้าวผ่านความทรงจำ ส่วนอีกคนที่ถูกความทรงจำเก่าทำให้ไม่แน่ใจกับปัจจุบัน

โดยรวมๆก็ชอบครับเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่จะอยู่ในลิสต์รายชื่อหนังโปรดของผม ที่คงได้มีโอกาสได้หยิบมาดูอีกครั้งในกาลต่อไป.....

สวัสดีครับ

จากคุณ : blossomx92
เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 02:54:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com