Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[T-Ser] ไฟมาร (พอร์ช & ฉัตร) ติดต่อทีมงาน

ไฟมาร ตอนที่ 1
     
      บรรยากาศกรุงเทพมหานครช่วงเวลาตอนกลางวัน มีแต่ความสับสนวุ่นวาย ทุกชีวิตต่างรีบเร่งแข่งกับเวลา ในขณะที่สภาพการจราจรกลับติดขัดไม่เป็นใจ บนท้องถนนผู้คนเดินกันขวักไขว่ ส่วนในรถไฟฟ้านั้นเล่าผู้โดยสารแออัด ยอมเบียดเสียด เพื่อไปถึงที่หมายทันตามเวลา
     
      ไกลออกมาบริเวณชานเมือง เครื่องบินโดยสารระหว่างประเทศลำหนึ่งกำลังร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ
      นักข่าวสาวสวยมาดเท่ กาว หรือ กรรณนรี แต่งตัวทะมัดทะแมงพร้อมลุยทุกเมื่อ กำลังเดินแกมวิ่งอยู่ตรงทางเดินในสนามบินด้วยท่าทีท่าทีกระฉับกระเฉง จังหวะนั้นเธอวิ่งแซงหน้าผู้คนที่ยืนอยู่อย่างเร่งรีบพลางคุยโทรศัพท์ไปด้วยสีหน้าร้อนใจ
      “มะยม...บอกพี่จ๋าด้วย ฉันเข้าออฟฟิศตอนนี้ไม่ได้”
      ปลายสายคู่สนทนาคือ มะยม เพื่อนซี้ ซึ่งในตอนนั้นอยู่ที่ออฟฟิศหนังสือพิมพ์ที่ทำงานของกาว
      “ทำไมล่ะวะกาว” มะยมถามกลับหน้าเหยเก ร้องเสียงหลง
      “เก๊าะ...แหล่งข่าวของฉันบอกว่าน้องฟ้า ดาวรุ่งชื่อดังที่มีข่าวว่าเป็นเมียน้อยของเสี่ยวินัย กำลังจะบินตามเสี่ยวินัยไปญี่ปุ่นน่ะสิจ๊ะ” กาวบอก
      มะยมได้ฟังก็ตาลุกวาว เนื้อเต้น “โอ้…ถ้าเป็นข่าวนี้บก.พี่จ๋า...คงไม่ว่าอะไรแกหรอก แต่ยังไงฉันว่าพี่จ๋าก็ยังรอคำตอบจากแก เรื่องไปสัมภาษณ์คุณภาพิศอยู่นะ”
      ชื่อภาพิศทำให้กาวตาวาวไม่พอใจขึ้นมาแต่พยายามข่มอารมณ์ “บอกพี่จ๋า…แล้วค่อยคุยกัน”
      กาววางสายเก็บโทรศัพท์มือถือแล้ววิ่งไปตามทางเดินในสนามบินอย่างร้อนใจ
     
      เวลาเดียวกันสรวง ชายหนุ่มรูปงามเรือนร่างสูงโปร่ง รับกับหน้าตาอันหล่อเหลา เขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก และเดินออกจากประตูผู้โดยสารขาเข้า สรวงสวมชุดสบายๆ แต่ดูเท่ ชายหนุ่มอำพรางตัวด้วยการใส่แว่นตาดำ สวมหมวกขณะลากกระเป๋าออกมาพร้อมกับสาวเปรี้ยว สุขหฤทัย หรือ ฤทัย เสียงเตือนของคุณหญิงสุดา ผู้เป็นมารดา ดังก้องในหัวชายหนุ่ม
      “ระวังด้วยนะลูก ถ้านักข่าวรู้ว่าสรวงกลับมาวันนี้ เป็นได้แห่ไปสนามบินแน่”
      สรวงกลั้วหัวเราะ “จะมาทำไมครับคุณแม่ ผมไม่ได้สำคัญอะไรซักหน่อย”
      สุดาไม่พอใจ “สำคัญสิ เพราะนักข่าวคงอยากรู้ว่าสรวงรู้สึกยังไงที่คุณพ่อยกย่องนังภาพิศเมียน้อยออกหน้าออกตาทัดเทียมกับแม่ขนาดนี้”
      พอนึกถึงคำพูดนี้ สีหน้าของสรวงเคร่งเครียดไม่พอใจขึ้นมาทันที พร้อมกันนั้นชายหนุ่มก้มหน้าลงแล้วดึงหมวกลงบังหน้า กวาดตามองรอบๆ อย่างระวังตัว สุขหฤทัยเห็นเข้าก็ถามขึ้น
      “มองหาใครหรือคะสรวง”
      สรวงตอบโดยไม่ได้สนใจสุขฤทัยเท่าไหร่ “เปล่า”
      “ก็น่าจะเปล่าหรอกค่ะ” สุขฤทัยกอดแขนสรวงไว้ บอกอย่างมั่นใจ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้
      “เพราะถ้ามีฤทัยเดินอยู่ข้างๆ สรวงก็ไม่ควรจะมองหาใครอีก”
      สรวงเบี่ยงหน้าออกอย่างถือตัว “ฤทัย...ที่นี่ที่สาธารณะ ทำอะไรระวังหน่อย”
      สุขฤทัยยิ้มยั่ว พูดเย้า “งั้น...เก๊าะแปลว่า...ถ้าไม่ใช่ที่สาธารณะ...สรวงยินดีจะทำอย่างที่
      ฤทัยต้องการใช่มั้ยคะ”
      สรวงตำหนิแบบไม่ไว้หน้า “เป็นผู้หญิง พูดจาอะไรน่าเกลียด”
      สุขฤทัยไม่สน ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่หูสรวงใหม่ “แค่บอกความต้องการของตัวเอง น่า
      เกลียดตรงไหนกัน อีกอย่าง...ต่อไป..เราก็จะหมั้นหมายกันอยู่แล้วแค่นี้...ถือว่า…เบาๆ ค่ะสรวงขา” พลางกอดแขนแน่นเข้าไปอีก
      สรวงได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ
     
      กาววิ่งกระหืดกระหอบมาตามทางเดิน เพ่งมองไปเห็นดาราสาวน้องฟ้ากำลังตรงไปยังเคาน์เตอร์เช็กอินผู้โดยสารขาออกพอดี
      “บ๊ะ! น้องฟ้าอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”
      กาวยิ้มกริ่มยกกล้องขึ้นแอบถ่ายแบบปาปารัสซี่มืออาชีพ ภาพจากคมเลนส์เธอเห็นเสี่ยวินัยเดินมาจากอีกมุม ก่อนจะตรงมาหาฟ้าดาราสาว
      กาวตาโต “เสี่ยวินัย อีหรอบนี้ไปด้วยกันแหงๆ เฮ้ย! สับขาหลอกกันนี่หว่า”
      กาวยกกล้องขึ้นปรับซูมภาพอย่างแคล่วคล่องก่อนจะถ่ายภาพ น้องฟ้ากับเสี่ยวินัย และกดชัตเตอร์ถี่ยิบ
     
      ขณะนั้นสรวงเดินสวนออกมาพร้อมกับสุขฤทัย โดยที่สุขฤทัยกอดคล้องแขนสรวงอยู่ พร้อมกับเอาหน้าซบลงตรงไหล่สรวง แถมยื่นหน้ามานัวเนียตรงใบหน้าสรวง และจังหวะนั้นสรวงกับสุขฤทัยอยู่ด้านหน้าเป้าหมายของกาวเสี่ยวินัยกับน้องฟ้าโดยบังเอิญ
      ภาพในเลนส์กล้องจังหวะที่กาวกด เป็นใบหน้าสรวงมองมาเห็นกาวกำลังถ่ายรูปตนพอดิบพอดี ทั้งกาวและสรวงร้องขึ้นพร้อมๆ กัน
      “เฮ้ย!”
      “คุณ นี่เดินมาบังฉันทำไม” กาวฉุนต่อว่าทันที
      สรวงทั้งโกรธทั้งตกใจ “คุณน่ะสิ มาถ่ายรูปผมทำไม”
      กาวงง “ฉันจะถ่ายรูปคุณไปทำไม” พลางปรายตามองสุขฤทัยที่กอดสรวงอยู่ “อ้อ! หรือว่าทำอะไรประเจิดประเจ้อ จนกลัวว่าคนเค้าจะเอารูปไปประจาน”
      “คนเป็นแฟนกัน ต่อให้ยืนกอดจูบกันอยู่ตรงนี้ก็ไม่ผิด” จูบที่แก้มสรวงโชว์ “ใช่มั้ย
      คะที่รักขา”
      “งั้นจะทำอะไรก็เชิญตามสบาย แต่อย่าให้ถึงขั้นลงข่าวหน้าหนึ่งว่า “ผัวหนุ่ม
      เมียสาว” ทำ ”อนาจาร” กลางสนามบินก็แล้วกัน”
      กาวผลักสรวงออกแล้ววิ่งตามน้องฟ้าไป สรวงโมโหมาก
      “หยุดเดี๋ยวนี้นะเธอ!” วิ่งตามกาวไปติดๆ
      “สรวงคะ สรวง” ฤทัยขัดใจบ่นอุบ “ตามมันไปทำไม” ก่อนจะหันมาพูดกับตัวเอง “ให้มันลงข่าวแหละดี คนจะได้รู้ ว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน!”
      สุขฤทัยเลยต้องตามสองคนไปอย่างเสียไม่ได้
     
      กาววิ่งหน้าตั้งตามน้องฟ้ามา กวาดตามองหา ตามมุมต่างๆ ตาแทบปลิ้น แต่ไม่เห็นแม้เงา
      กาวชักหงุดหงิด ”น้องฟ้าหายไปไหนแล้ว ปั๊ดโธ่เอ๊ย”
      จู่ๆ สรวงวิ่งตามมาทันและคว้าข้อมือของกาวเอาไว้หมับ กาวหันไปมองอย่างตกใจ
      “เฮ้ย! คุณ”
      “เอากล้องมานี่” สรวงยื้อแย่งกล้องในมือกาว
      “จะเอากล้องฉันไปทำไม?” กาวไม่ยอมยื้อคืน
      “ก็คุณแอบถ่ายรูปผม เอามานี่” สรวงแย่งมาอีก
      “ไม่!” กรรณนรีแย่งคืน
      สองคนยื้อแย่งกล้องกันไปมา กาวตั้งใจเบี่ยงตัวหลบ แต่การณ์กลับกลายเป็นว่ากาวเข้าไป
      อยู่ในอ้อมกอดของสรวง จังหวะนั้นนิคนักข่าวรุ่นน้องเดินมาอีกมุมเห็นเข้าพอดี
      “บ๊ะ!พี่กาว”
      ตอนแรกนิคจะวิ่งเข้ามาช่วย แต่กลับเปลี่ยนใจยกกล้องขึ้นถ่ายตามประสานักข่าว สุขฤทัยมาถึงและเห็นเหมือนสองคนกอดกันอยู่
      “สรวง” สุขฤทัยแผดเสียง
      สรวงและกาวตกใจหันมาตามเสียง สรวงฉวยโอกาสนั้นแย่งกล้องคืนไปได้
      กาวร้องลั่น “เฮ้ย! เอาของฉันคืนมานะคุณ” กาวยื้อยุดหมายจะเอาคืน
      “ถ้าคุณไม่ได้ถ่ายรูปผม คุณกลัวทำไม”
      สรวงเปิดกล้องดูภาพที่ถ่ายในจอภาพ เห็นเป็นใบหน้าของสุขฤทัยนัวเนียอยู่ตรงหน้าสรวง
      “นี่ไงรูปผม”
      กาวเซ็ง พยายามอธิบาย “ก็แหงล่ะ คุณเดินมาบังหน้าฉัน จะไม่เห็นคุณได้ยังไง”
      สรวงไม่เชื่อ “ไม่จริง คุณตั้งใจถ่ายผม”
      สุขฤทัยเดินมาเกาะแขนสรวง “เค้าอยากถ่ายก็ช่างเค้าเถอะค่ะ จะไปสนใจทำไม”
      “ผมไม่อยากให้คนสร้างกระแส เอาเรื่องของผมไปทำมาหากิน”
      กาวโกรธ เริ่มมีอารมณ์กรุ่นๆ “สำคัญตัวผิดแล้วคู้ณ....ภาพหลุดของคนแบบคุณไม่มีใครเค้าอยากดู”
      สรวงจ้องหน้ากาวเขม็ง “จำคำนี้ไว้ให้ดี วันหลังจะได้ไม่กลืนน้ำลายตัวเอง”
      สรวงเปิดฝาหลังกล้องถอดเอาซิมการ์ดออกมาแล้วหักทิ้งต่อหน้าต่อตา กาวตกใจตาเหลือก
      “คุณ...คุณหักซิมฉันทิ้งทำไม?”
      สรวงเยาะ พร้อมกับพูดท้าทาย “คนอย่างพวกคุณไว้ใจไม่ได้ ถ้าคิดว่าผมทำเกินกว่าเหตุก็ไปฟ้องเอา” ก่อนจะยื่นกล้องคืนให้กาวแล้วเดินหนี
      สุขฤทัยทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนเดินตามสรวงไป
      กาวมองกล้องตัวเองใจหายแว้บ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโกรธ ด่าไล่หลังอย่างอารมณ์เสีย
     
      “ไอ้...ไอ้เบื๊อกเอ๊ย!”

จากคุณ : dewlove
เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 00:19:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com