ความคิดเห็นที่ 1 กำลังจะดูเลย ยืมแผ่นมา จากคุณ : คิวปิดน้อย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 21:47:01

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านนิยายจะรู้สึกว่าการเอาชีวิตรอดในอารีน่า ยากลำบากกว่าในหนังหลายเท่ามาก อาจเป็นเพราะหนังไม่สามารถยืดเยื้อในจุดนี้และแสดงความรู้สึกได้ลึก ในหนังสือนางเอกขาดน้ำเกือบตายหลายหนมาก เพราะไม่รู้ว่าแหล่งน้ำอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วแหล่งน้ำที่รู้ๆ พวก career ก็เฝ้าไว้หมด อารีน่าในแต่ละปี ไม่เหมือนกันค่ะ ปีนี้เป็นป่า ซึ่งเข้าทางนางเอกพอดี บางทีเป็นซากปรักหักพังบ้าง หิมะ ทะเลทราย อะไรบ้าง ผลัดเปลี่ยนกันไป การเอาตัวรอดก็ต้องแตกต่างกัน จากคุณ : มารกระบี่วายุจี้เชี่ยน เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 21:48:35

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ #1 ถ้าคาดหวังการต่อสู้เอาตัวรอดสมจริง .... อย่าหวังเลยครับ (ผมผิดหวังไปแล้ว บ่นซะยาวเลย) ถ้าชอบหนุ่มหล่อสาวสวยดูเพลินๆ .... จัดไปครับ ฟินแน่ (ผมชอบนางเอก) ถ้าชอบเนื้อหาเข้มข้น ...... สงสัยต้องไปอ่านนิยาย (ผมกำลังจะทำ) ------------------- #2 นี่แหละครับ พอคนอ่านนิยายมาเล่าเนื้อหา ผมรู้สึกสนใจเรื่องนี้จริงๆครับ เพราะดูๆแล้วเรื่องการเอาชีวิตรอดมันเข้มข้นกว่าเยอะ (หนังทำเนื้อหาส่วนนี้มาไม่ดีเลย) ยิ่งคุณเล่ามา ผมยิ่งอยากอ่านเร็วๆจัง แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 55 21:53:57 แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 55 21:51:42 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 21:51:25

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวคิดว่าหนังน่าเบื่อ ตอนแรกคิดว่าเพราะดูบนเครื่องบิน จริงๆ แล้วก็ไม่สนุกจริงๆ จากคุณ : คาทาน่า เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 21:54:39

ความคิดเห็นที่ 5 คือหวังไว้เยอะเพราะกวาดรายได้แบบเวอร์จากทั่วโลกด้วยมั้ง ผิดหวังนะสำหรับผม อวยกันมากเกินไป จากคุณ : นักกอล์ฟยาจก เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:03:17

ความคิดเห็นที่ 6 เข้าใจว่า จขกท คงคาดหวังไว้เยอะจริงๆ โดยเฉพาะกับฉากไล่ล่า และการเอาตัวรอดของแต่ละตัวละคร เลยผิดหวัง ตอนดูเราไม่รู้แบล็กกราวน์ของเรื่องมาก่อนเลย  ไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้รู้จักอะไรเกี่ยวกับเรื่องเลย ดูตามอารมณ์ของภาพยนตร์สนุกดีค่ะ  เข้าใจว่าตัวเรื่องเน้นที่นางเอกเลยไม่ค่อย มีฉากต่อสู้ของคนอื่นๆ อีกอย่างเรื่องนี้ออกแนวเรียลลิตี้  เหมือน AF บ้านเรา เพียงแต่แทนที่จะร้องเพลง  เป็นการตามล่าฆ่ากันเพื่อเอาตัวรอด  มีกล้องซ่อนทุกที่  แต่จะเน้นถ่ายคนที่คนดูให้ความสนใจเป็นพิเศษ  การได้รับความช่วยเหลือก็เหมือนผลโวต  ตัวแทนต้องมีการหาสปอนเซอร์ ต้องมีเงินเข้ารายการถึงส่งของไปช่วยได้  แถมกติกาในส่วนที่ไม่ใช่แกนหลัก  ก็มีการสับขาหลอก  บางช่วงในแต่ละปีก็ไม่เหมือนกัน   การรวมตัวของคนที่ได้รับการฝึกในเขต 1-2 ซึ่งรวมกันมาตั้งแต่ตอนช่วงฝึกสองสัปดาห์  จะเห็นได้ว่าพวกนี้อีโก้แรง  คิดว่าตัวเองแน่  และดูถูกคนอื่นเสมอ  นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขาดความระวังตัวเท่าที่ควร เรื่องนี้พอดูจบแล้วอยากรู้ต่อว่า ตกลงตอนต่อไปเป็นยังไง  แล้วตกลงความรักของนางเอกจะเป็นยังไงกันแน่  เลยไปหาหนังสือมาอ่านต่อจนจบ (อ่านตั้งแต่เล่มแรกเลย) หนังสือสนุกกว่า ตามปกติของวรรณกรรมที่ทำมาเป็นภาพยนตร์  แต่การที่ภาพยนตร์ตั้งใจจะให้เยาวชนรุ่นเด็กได้ดูด้วย  คือต้องการเรตที่ให้เด็กดูได้ด้วย  ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวภาพยนตร์ทำออกมารุนแรงไม่ได้มากนัก แต่เราก็ว่าสนุกดีนะคะ จากคุณ : lovelypinky เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:11:25

ความคิดเห็นที่ 7 โดยรวมดูหนังแล้วค่อนไปทางไม่ชอบนะ อาจจะหวังไว้สูงกับเทรลเลอร์และพลอตสูงไปหน่อย แต่มีเพื่อนเอาหนังสือมาให้อ่านก็โอเค อ่านเพลินๆละกัน สรุปก็คือพบว่า หนังสือสนุกกว่ามากๆครับ fox-face นี่เป็นตัวเทพเลย ขนาดนางเอกยังยอมรับในความสามารถว่าน่าจะเป็น the winner ได้ ความกดดันต่างๆก็มีเยอะกว่ามาก มันแปลกตรงที่ในหนังผมว่าทำช่วงก่อนเข้าเกมส์ได้ดี มีมิติกว่าในหนังสือนะ มีการเสริมพวกประเด็นความขัดแย้งทางชนชั้น หรือรายการเรียลลิตี้ได้ดี แต่พอเข้าช่วงป่าปรากฏว่าดันทำออกมาแย่กว่าในหนังสือหลายเท่าซะงั้น แบบอะไรๆก็ดูง่ายๆ เพลินๆไปหมด สู้กันก็แบบหมุนกล้องเฟี้ยวๆๆๆๆ มาอีกทีอีกฝั่งตาย คือจะให้ดูหรือจะให้ลุ้นยังไงเหรอ ไม่เ้ข้าใจจริงๆ โอเคว่าไม่ได้หวังจะเห็นการแล่เนื้อเถือหนังแบบหนังโรคจิตโหดๆ หรือสู้กันแบบมันส์ๆประหนึ่งอยู่ใน die hard อะไรนะ แต่แบบนี้มันก็ต่ำมาตรฐานเกินไป คืออาจจะคาดหวังกับหนังไว้มาก รวมไปถึงค่ายหนังที่ซื้อหนังสือไปก็น่าจะเป็นค่ายที่นำเสนออะไรให้น่าตื่นเต้นกว่านี้ได้ แต่สุดท้ายก็ออกมาเป็นหนังเบาๆเด็กๆไปไม่สุดสักทางซะงั้น ยิ่งถ้าอ่านหนังสือแล้วคุณจะรู้เลยว่ามันต่างกันมาก แต่ถึงจะว่างั้นว่างี้ก็แนะนำให้อ่านหนังสืออีกเสียงนะครับ ตอนนี้ผมอ่านไปถึงกลางๆเล่ม 2 แล้ว สนุก เครียด และกดดันกับชะตากรรมนางเอกมากกกกกกกก ส่วนเรื่องหนังเคยบ่นไปหลายรอบแล้วตั้งแต่ยังไม่เคยอ่านหนังสือจนกระทั่งอ่านแล้ว ไม่บ่นอีกละกัน เดี๋ยวแฟนๆหนังสือที่ชอบพยายามแก้ต่างให้หนังแบบเว่อร์ๆจะอย่างงั้นอย่างงี้กันอีก จากคุณ : Berserk Rabbit เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:15:12

ความคิดเห็นที่ 8 จบแบบไม่เข้าใจอะค่ะ สรุปนางเอกเลือกใคร แต่แฟนที่หมู่บ้านนางเอกหล่อนะ อิอิ จากคุณ : อนุสัญญาปลาทูนอนกอดกันในเข่ง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:17:59

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบรวมๆนะครับ ผมคาดหวังจากรายได้ และกระแสในพันทิปนี่แหละครับ แถมก่อนดู ผมก็รู้แค่ว่าเป็นหนังเกี่ยวกับเกมไล่ล่าเอาชีวิตรอดเท่านั้น ชอบอยู่แล้วด้วยแนวนี้ เลยยิ่งคาดหวังสูงเข้าไปอีก ถึงจะผิดหวังแต่ยังไง หนังมันก็ทำให้ผมอยากดูภาคต่อได้นะครับ ถือว่ายังโอเค จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:19:30

ความคิดเห็นที่ 10 ผมก็ไปดูเรื่องนี้ในโรงแบบไม่รู้อะไรมาก่อน รู้สึกคล้ายๆ จขกท. จากคุณ : A Million Ways เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:20:03

ความคิดเห็นที่ 11 จี๊ดโดนใจกระทืบไลค์ให้ 20 กะโหลกเลยค่ะ! จขกท.555555 ดูแบบไม่ได้คาดหวังแล้วก็ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนเลย ปรากฎว่ารู้สึกเหมือนจขกท.เป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ! หน่อมแน้มandเนิบนาบมากๆๆๆ มันดูไม่ค่อยเหมือนเป็นการใช้ทักษะในการเอาตัวรอดเลยเหมือนไปเที่ยวซาฟารีส่องสัตว์ที่ต้องระวังตัวกันนิดๆหน่อยๆมากกว่า ไม่มีตรงไหนกดดันไม่มีตรงไหนให้ลุ้นเล้ยยยยย พอจะได้ลุ้นๆๆๆ อุ๊ยๆๆๆ!เอาละๆๆๆ!ตอนวิ่งไปเอาของที่เต๊นท์กลางสนามโล่งมีศตรูัดักรออยู่เดี๋ยวนางเอกต้องโชว์เทพแน่ๆๆๆ แต่....ไอ่ดำวิ่งมาฆ่าแทนซะงั้น --..--" แหล่งน้ำเห็นไซโคกันทุกช่วงๆกว่าจะปล่อยเข้าป่าว่าหายากหาเย็น แต่....เข้าไปปุ๊บ..เจอปั๊บเรย เง้อออออ! สรุป ดูแล้วเข้าใจนะว่าเป็นหนังแนวเสียดสีสังคมอยู่เหมือนกัน แต่ดูไปหลับไปไม่มีอะไรเร้าใจเล้ยยยยย... จากคุณ : ต้าple เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:24:39

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่พูดถึงเรื่องอื่น เอาแค่เรื่องจุดไฟ จากในหนังสือเหมือนอากาศมันหนาวมาก  จนชีทนไม่ไหว(จำไม่ได้ละว่าคนไหนค่า)  ต้องจุดไฟคลายหนาวอ่ะค่ะ เหมือนสภาพแวดล้อมในลานประลองแต่ละครั้งๆจะเลวร้ายมากๆ  ส่วนมากผู้เข้าแข่งขันก็จะตายเพราะสภาพแวดล้อมมากกว่าฆ่ากัน จากคุณ : แมวหัวส้ม เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:25:22

ความคิดเห็นที่ 13 #12 ในหนังมันทำไม่สื่อถึงอารมณ์นั้นเลยครับ 5555 หนาวจนทนไม่ไหว แต่พวกพี่เทพยังเดินเฮฮา นางเอกหลับชิลๆบนต้นไม้ มีคุณเธอหนาวจุดไฟอยู่คนเดียว ผมวิจารณ์ตัวหนังนะครับจุดนี้ แฟนนิยายโปรดจงเข้าใจ^^ จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:29:12

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่มันส์เท่าที่คิดค่ะ..ตอนไปดูในโรง หันมองหน้ากับแฟน ไรแว้..แฮปปี้ เอ็นด์ดิ่งซะงั้น เห้อๆ จากคุณ : YuY-iPzZO เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 22:53:32

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับ จขกท ทุกอย่าง   เห็นดังนี้แล้ว ไปหาหนังสือมาอ่านดีกว่า จากคุณ : kanpi เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 23:04:53

ความคิดเห็นที่ 16 ผมพอจะแย้งได้บ้างส่วนนะ เอาแบบตามความคิดผมนะ คือไอ้พวกนักล่าที่มันเฮฮาปาร์ตี้เนี่ย อาจจะเพราะย่ามใจว่าพวกตรูเทพสุดแล้ว ใครจะทำอะไรได้ ก็เลยไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่าไหร่ จากตอนเริ่มเกมก็เชือดโชว์ให้ดู ไอ้คนอื่นป๊อดแหกไปหมดแล้ว ขนาดนางเอกที่เล็งไว้ตอนแรกยังหนีหางจุกตูด ประมาณนั้น แต่ส่วนอื่น เห็นด้วยกับ จขกท ทั้งหมด โฮโลแกรมบ้าไรฟ่ะ ไม่หลบ ไม่หนี ตายแน่นอน มีงี๊ด้วย แถมกฏมีเปลี่ยนกลับไปกลับมาได้ด้วย แล้วสู้ครั้งหน้าไม่ยอมสู้กัน หาของพิษมากินพร้อมกันทุกคนจะทำไงล่ะนั่น เกมมันโกงขนาดนี้ พวกเขตปกครองทนได้ยังไงมาตั้ง 70 กว่าปี มันต้องมีกลุ่มต่อต้านใหญ่ๆ รวมกลุ่มมาปลดแอกแล้วแบบนี้ จากคุณ : laonheart เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 23:16:35

ความคิดเห็นที่ 17 แล้วก็ฉากที่นายโหดคนเก่งเขตที่ 1 ตายอะคะ คือแบบเก่งตั้งนานมาตายเอาง่ายแบบนั้นอะหรอ ดูแล้วแบบว่า เหมือนนางเอกกับคู่หูรอดมาแบบฟลุ๊คๆ ดูไม่ฮีโร่เท่าไหร่เลย แต่มันก็สนุกนะคะ แต่แบบว่าก็ไม่สุด ปล.ออกความเห็นแบบชาวบ้านๆนะคะ จากคุณ : อนุสัญญาปลาทูนอนกอดกันในเข่ง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 23:26:39

ความคิดเห็นที่ 18 ไปดูกับพี่ หนังจบ มองตากัน ก็รู้ใจ "แค่เนี้ย!!" จากคุณ : phanyanukul เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 00:03:02

ความคิดเห็นที่ 19 เด็กที่ถูกเลือกมาจากพิธีเก็บเกี่ยวจะมีสองจำพวกค่ะ พวกแรกคือพวกอาสาสมัคร มักจะมาจากเขต 1 เขต 2 และเขต 4 (ตามหนังสือ) เด็กเหล่านี้จะถูกเรียกว่า พวกมืออาชีพ เพราะได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กเพื่ออาสาเป็นบรรณาการเมื่ออายุครบ 18 ปี ในหนังก็คือ คาโ้ต้ โครฟ กริมเมอร์ แล้วก็มาเวล พวกเขาใช้อาวุธเป็น รู้จักวิธีฆ่า และต้องการเป็นผู้ชนะ เพราะแคปิตอลจะตอบแทนผู้มีชัยด้วยเงินจำนวนมหาศาล ผู้ชนะจะได้ทั้งชื่อเสียงและความสะดวกสบายไปตลอดชีวิต ในหนังสือบรรยายว่า มีหลายๆปีที่พวกมืออาชีพจะรวมกลุ่มกันในตอนแรกเพื่อต้อนฆ่าพวกที่อ่อนแอกว่าจนหมด แต่ในที่สุดเมื่อไม่เหลือพวกไก่อ่อนให้ฆ่า พวกมืออาชีพก็จะหันมาฆ่ากันเอง พวกที่สอง คือ เด็กธรรมดาที่อยู่ในช่วงอายุ 12-18 พวกนี้จะถูกบังคับให้มีชื่อในโหลโดยมีเงื่อนไขว่า หากใครเขียนชื่อ ใส่ในโหลมากขึ้น ก็จะไ้ด้รับเสบียงอาหารเป็นเครื่องตอบแทนมากขึ้นไปด้วย เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนจึงมีโอกาสถูกเลือกเข้าสนามรบได้มากกว่าเด็กที่มาจากครอบครัวร่ำรวย ดังนั้น เด็กจากเขตอื่นที่ไม่ใช่บรรณาการอาสาสมัครจึงกลัววันเก็บเกี่ยว เพราะชื่อของใครก็ตามที่ถูกจับขึ้นมา แปลว่า คนๆนั้นกำลังจะถูกส่งให้ไปตาย ฮังเกอร์เกมจึงไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อให้ชาวแคปิตอลได้เพลิดเพลินกับการดูคนฆ่ากันตายเท่านั้น แต่มันคือสัญลักษณ์ของการมี "อำนาจเหนือกว่า" แคปิตอลต้องการสื่อสารให้เขตปกครองทั้งหมดรู้ว่าคำสั่งของแคปิตอลคือสิ่งที่ประชาชนต้องทำตามอย่างไม่มีข้อยกเว้น แม้กระทั่งคำสั่งให้พวกเขามาเพื่อตาย พวกเขาก็ไม่อาจขัดขืน ดังนั้นฉากที่มีพลังที่สุดของหนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่การเข่นฆ่ากันเองของประชาชน แต่กลับเป็นฉากพิธีเก็บเกี่ยวที่เด็กทุกคนของเขตต้องเดินเข้ามาเป็นตัวเลือกของเกมอย่างหดหู่ ฉากการยกมือชูสามนิ้วเพื่อแสดงความขอบคุณ ชื่นชม และบอกลา ให้กับบรรณาการแทนการปรบมือ ฉากการตายของเ็ด็กผู้หญิงอายุ 12 ปีที่นำมาสู่การลุกฮือของประชาชนในเขต 11 และฉากอื่นๆที่แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมล้ำและการถูกกดขี่ ฮังเกอร์เกมที่ดำเนินมานานถึง 74 ปี ไม่เคยมีปีไหนที่มีผู้ชนะสองคน และไม่เคยมีปีไหนที่การตายของบรรณาการ เป็นสาเหตุประชาชนกล้าลุกขึ้นมาต่อต้านแคปิตอล (ข้างล่างนี้มีสปอยด์ตอนต่อไปนิดหน่อย ยังไม่อยากรู้ล่วงหน้า อย่าเพิ่งอ่านนะจ๊ะ...) การปรากฎตัวของแคตนิสจึงถือเป็นคราวซวยของแคปิตอลโดยแท้ เพราะการต่อต้านเล็กๆของเธอในเกม เพื่อแสดงความอารีต่อริว และการออกอุบายเพื่อช่วยชีวิตพีต้า คือแรงสะท้อนให้ประชาชนรู้ว่าหากพวกเขากล้าพอ พวกเขาก็สามารถสู้กับแคปิตอลได้เช่นกัน และนั่นคือที่มาของการเกิด"สงคราม" ปล.อยากแนะนำให้ลองอ่านหนังสือดูนะคะ เรื่องนี้สะท้อนแนวความคิดเกี่ยวกับการเมืองการปกครองได้ดีมากทีเดียว แม้ว่าการอ่านหนังสืออาจจะไม่ได้ทำให้ดูหนังสนุกขึ้น แต่จะทำให้เข้าใจเหตุผลของฮังเกอร์เกมมากขึ้นค่ะ :) แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 01:17:05 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 01:16:16 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 01:14:24 จากคุณ : ก้อนหินที่มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 01:02:14

ความคิดเห็นที่ 20 เพิ่งดู DVD วันนี้เอง ส่วนตัวแล้วผิดหวังมาก หนังค่อนข้างแย่่ จากคุณ : Kill boy เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 01:20:30

ความคิดเห็นที่ 21 พอมีคนมาติหนังเรื่องนี้ทีไร ก็มีสาวกมาบอกให้ไปอ่านนิยายทุกที จากคุณ : TNSP เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 01:43:42

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ การวิจารณ์หนัง เราว่าทำได้เต็มที่นะคะ เพราะลางเนื้อชอบลางยา แต่ละคนล้วนมีวิจารณญาณเป็นของตัวเอง การดูแล้วสนุกหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่ที่อยากแนะนำให้ลองอ่านหนังสือ เพราะหนังเรื่องนี้ทำขึ้นโดยยึดแกนของหนังสือเป็นหลักค่ะ ภายใต้เนื้อเรื่องการเข่นฆ่ากัน มันมีสารที่ผู้เขียนเขาต้องการส่งให้ถึงผู้อ่านซ่อนอยู่ในนั้น จึงหลีกเลี่ยงได้ยากมากกับการแนะนำว่า หากคุณสนใจและอยากเข้าใจฮังเกอร์เกมมากขึ้น ก็ควรอ่านนิยายเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง แต่ถ้าไม่สนใจก็คงไม่ว่ากันค่ะ จากคุณ : ก้อนหินที่มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 02:31:15

ความคิดเห็นที่ 23 #21 ผมเห็นว่าที่คนออกมาพูดอย่างนี้เยอะเพราะว่าหนังสือมันดีกว่าหนังจริงๆครับ ได้ลองอ่านหรือยัง ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่คิดแบบนั้นเหมือนกันเพราะค่อนข้างชอบหนังสือนะ แต่หนังทำออกมาได้ค่อนข้างน่าผิดหวังทีเดียว หลักๆเลยคือหนังสือมันเป็นการบรรยายความรู้สึกของตัวนางเอก แต่พอมาทำเป็นหนังมันก็จะกลายๆไปเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ไป ถึงแม้หนังจะพยายามหลายวิถีทางถ่ายทอดความรู้สึกของนางเอกมากแล้วก็ตาม และอีกอย่างคือเรตติ้งที่เป็น PG13 ซึ่งส่วนตัวผมว่ามีส่วนมากๆเพราะผมคิดว่าถ้าทำเป็นเรต R ไปเลยพวกฉากในอารีน่าน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่อย่างว่าเพราะกลุ่มตลาดใหญ่มันคือเด็กๆด้วย รวมถึงรายละเอียดหลายๆอย่างที่ขาดหายไป อย่างเช่น หมาป่าพันธ์ผสมที่ถูกสร้างขึ้นมาในตอนท้ายจริงๆแล้วมันจำลองมาจากสภาพร่างกายของผู้เข้าแข่งที่ตายไปก่อนหน้านี้ด้วย (แคตนิสจำตัวที่เหมือนกับ Fox Face และ ริวได้พร้อมกับกรีดร้อง) ผมว่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ที่ขาดหายไปในหนังมันทำให้อรรถรสมันลดลงไปมากนะครับ จริงๆ The hunger games เป็นนิยายที่ดีนะครับ สนุกน่าติดตามและมีประเด็นแฝงอยู่ในนั้นให้ได้ขบคิด ส่วนหนังนี่เฉยๆครับดูเอาความสนุกนิดหน่อยแบบได้เห็นภาพบางภาพจากการอ่านหนังสือมาแล้วมากกว่านะสำหรับผม จากคุณ : พี่หมีขั้วโลก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 03:40:38

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับ จขกท สุดๆ ดูหนังจบก็คิดแบบนี้จริงๆ แต่ไปอ่านหนังสือ ถึงจะสนุกมากๆและมีเหตมีผลกว่าหนังเยอะ แต่มันก็ไม่สุดอ่ะ เหมือนความไม่มีเหตผลมันเยอะเหลือเกิน จากคุณ : KapampaBlue เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 05:09:21

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยกับ จขทก เหมือนกันค่ะ plot นี่น่าสนใจมากสำหรับเรา แต่พอเข้าไปดูจริง อารมณ์ไม่สุดสักทาง ตอนน้องเด็กคนนั้นตาย เราก็ไม่ค่อยเศร้าเหมือนเรื่องอื่น บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ให้ผ่าน ช่วงก่อนเริ่มการประลอง cg ตัวแสดง การเดินเรื่อง อะไรดีอ่ะ ชอบมาก พอเริ่ม ปึ้ป เรื่องนี้ตายสนิท ไม่สมเหตุสมผลในหลาย ๆ ฉาก แล้วเราว่า มันน่าจะรุ่น 17 มากกว่า 70 นะ มันเว่อร์ไปนิดในความรู้สึกเรา ใครจะทนดู เด้กฆ่ากันมาได้นานขนาดนี้ มันต้องมีบางปีเกิดเรื่องซึ้งแล้วคนลุกขึ้นมา ต่อต้านก่อนหน้านี้บ้างหล่ะ เรื่องนี้ทำอารมณ์เราไปได้ไม่สุดสักทางจริง ๆ จากคุณ : chinchang&jaejung เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 05:37:10

ความคิดเห็นที่ 26 มันไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่มีการรวมกลุ่มกันเพื่อกำจัดคู่ต่อสู้แล้ว ยิ่งมาให้เหตุผลว่าเกิดจากความรักที่มีต่อกัน (ตัวร้ายมันจับคู่กันสองคู่) ในสถานการณ์ที่ถูกกำหนดว่าจะมีผู้รอดเพียงหนึ่งเดียว สิ่งที่อยู่ในหัวก็คือทำอย่างไรให้ตัวเองรอด ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันมันจะเป็นกับดักแห่งความตาย การฆ่าคนไม่เหมือนการเล่นกีฬา วันนี้จับคู่ผสมลงไปแข่ง พอเอาชนะได้ พรุ่งนี้เรามาแข่งกันเอง อะไรแบบนี้ ความกลัวตายของมนุษย์มันจะก่อให้เกิดความอำมหิตในจิตใจลึกๆ ถ้าไม่อยากตาย ต้องกล้าและเลือดเย็นพอจะกำจัดศัตรู มันเหมือนทหารที่อยู่ในสงคราม ฆ่าฝ่ายตรงข้ามทั้งๆ ที่ไม่เคยโกรธแค้นกันมาก่อน แต่ต้องฆ่าไม่เช่นนั้นจะถูกฝ่ายนั้นฆ่าได้เช่นกัน จากคุณ : FIndinGBeautYINNegativESpacES เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 06:47:29

ความคิดเห็นที่ 27 ดูแบบไม่คาดหวังก็เงิบเหมือนกันครับ หนังมันไม่ดีจะให้ว่าดีได้ไงล่ะ ปล จขกท เตรียมตัวมาดีมากครับ 555 จากคุณ : pisty เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 08:42:49

ความคิดเห็นที่ 28 ชวนเพื่อนไปดูแบบไม่คิดไรมาก เห็นตอนนั้นในเฉลิมไทยเค้าชมกัน ก็ค่อนข้างสนุกนะคะ ร้องไห้หลายฉากเลย (หรือเราชอบแนวนี้ก็ไม่รู้)  กลับบ้านมาหาสปอยอ่านเพิ่ม เลยไปหาหนังสือมาอ่านด้วย เล่ม 1 สนุกมาก เล่ม 2 ง่อยไปหน่อย ตอนนี้ก็รอเล่ม 3  แต่เพื่อนหลายคนดูแล้วก็ไม่ชอบนะ โดยเฉพาะคนที่คาดหวังแอ็คชั่น  จากคุณ : LadyRevenger เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:10:33

ความคิดเห็นที่ 29 เคยบ่นหนังเรื่องนี้อยู่ แต่แฟนคลับที่อ่านหนังสือก็มาว่้าผม ผมก็เรยตามเรย จากคุณ : guluxann เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:23:43

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนตัวเป็นแฟนนิยายค่ะ และคิดว่าเรื่องนี้ดีมากถ้าหากเป็นฉบับนิยาย ส่วนตัวก็ดูหนังแล้วเช่นกันค่ะ และก็ไม่ชอบเหมือนกัน หน่อมแน๊มจริง ผิดหวังจริง ขาดๆเกินๆ จากคุณ : sAilOvEnOk เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:38:45

ความคิดเห็นที่ 31 เพิ่งดูเมื่อวาน ยังงงกับคำชมในหนังเรื่องนี้อยู่เลย เราว่ามันไม่ค่อยดูสมจริงเท่าไร คิดเหมือนกันว่าในนิยายคงสนุกกว่านี้ ถ้าเทียบกับแฮรรี่พอตเตอร์มันคนละเรื่องกันเลยนะ จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:43:41

ความคิดเห็นที่ 32 เสียดาย กิ๊ฟหมด   แต่....ผมชอบความคิดเห็นของ จขกท ครับ บรรยายออกมาได้ใกล้เคียงกับความรู้สึกหลังจากเพิ่งเดินออกมาจากโรงของผมเลย  = ='' เพียงแต่ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตอนนั้นยังไงดี รู้แค่ มันก็สนุกดี แต่ยังเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ดูมันแห้งๆ ยังไงพิกล  -*- จากคุณ : เซร์คีโอเลโอเนลเดลกัสตีโย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:45:42

ความคิดเห็นที่ 33 อยากรู้ว่าหนังสือนี่หาอ่านได้จากไหน?? มีฉบับแปลไทยด้วยหรือเปล่าครับ?? จากคุณ : migue เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:59:48

ความคิดเห็นที่ 34 หนังสร้างได้ห่วยจริงๆ  ไม่สมบทบาทอย่างที่สุด นึกถึงหนังเก่าๆ เรื่องหนึ่ง  ที่เอาคนสิบคนไปปล่อยเกาะแล้วให้ไล่ล่าฆ่ากัน หนังเรื่องนี้ ผมดูแล้วผมยังเฉยๆ   พอมาเจอเรื่องนี้  ฮังเกอร์เกมส์    ไอ้เรื่องเก่าๆ ที่ผมดูแล้วเฉยๆ นั้น  มันสุดยอดขึ้นมาทันทีทันใดเลย จากคุณ : หนึ่งจุดแดง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 10:09:35

ความคิดเห็นที่ 35 เห้นด้วยกับ จขกท นะครับ สำหรับผมอย่างอื่นผมชิลๆให้ได้   ไม่เข้าใจอยู่อย่างเดียวเกมนี้เป็นเกมฆ่าคน ต้องเหลือคนสุดท้ายคนเดียว มันรวมกลุ่มกันได้ไงอีกคนเดินนำหน้าอีกคนเดินตามหลังไม่กลัวโดนฟันหรอไง นอนหลับอยู่ข้างกันได้ไง ต่อให้เขตเดียวกันถ้าเป็นผม ผมก็ไม่กล้า จากคุณ : neoaugust เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 10:47:56

ความคิดเห็นที่ 36 คคห.33 ฉบับแปลไทย(แปลใหม่) มีวางขายแล้วค่ะ ตามร้านหนังสือใหญ่ๆทั่วไป จากคุณ : Lakesidemile เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:04:38

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องนี้เราดูแบบไม่ได้ทำการบ้าน  เลยไม่คาดหวัง ช่วงแรกก็งงๆ นิดๆ แล้วก็พอจะเริ่มเข้าใจ   ตัวเรื่องเสียไปกับเรื่องการวางพรอต และพื้นของแต่ละตัวละครมากไปในช่วงแรก กว่าจะเริ่มมาดำเนินการแข่งขันก็ปาไปเกินครึ่งเรื่องละ มันเลยเหมือนกันว่า ช่วงแข่งขันไม่ดุเดือด  คนที่บทจะตายง่ายแบบไม่ได้เอาวิชา ที่ฝึกมาใช้เลย เหมือนดูหนังไทย รับน้องสยองขวัญ อะไรประมาณนี้รึป่าว เราไม่แน่ใจจำไม่ค่อยได้ เพียงแต่พอตเรื่องนี้เค้าให้เรารู้ว่าเป็นเกมส์ตั้งแต่ต้น  มันก็น่าจะเป็นเกมส์ที่ดุเดือด  เอาตัวรอด ทำทุกวิถี ส่วนมายา หรือสิ่งแวดล้อมที่ใส่มา  สรุปได้ว่าล้วนเป็นสิ่งบันเทิงเพื่อเอาใจผู้สนับสนุน ที่มันมีส่วนได้ส่วนเสียกันอยู่  อย่างคนที่เป็นคนดูแลแต่ละเขต  ถ้าคนของเขตตัวเองชนะ ก็จะมี % ได้ ดังนั้นมันจึงดำเนินทั้งผู้แข่งขัน  และผู้จัดการด้านนอกที่จะโน้วน้าวให้ผู้สนับสนุนยอมใจอ่อนไปทางไหน  อยากดูกระแสแบบไหน จนเกิดการลดหย่อน กฏบางอย่างของเกมส์  มันเลยทำให้เกมส์ดูไม่ขลัง  หมดสนุกจริงๆ นะ -..- ส่วนตัวนางเอกเอง ก็หัดฉลาดเลียนรู้การเอาตัวรอด  นางเห้นช่องว่างจุดที่สามารถรอดได้ทั้ง 2 คนก็เลยเอามาเป็นประเด็นตีให้แตก เมื่อถึงจุดนี้นางก็เหมือนดาราอ่ะ  ออกสื่อ ก็ต้องยอมยืนคู่กับคู่ขวัญ  แต่ความรักนางเลือกไว้อยู่แล้ว   เราดูว่ามันสะท้อนวงการมายาชัดเจนมาก   แต่หนังมันไม่พีคอ่ะ  ไม่พีคสักฉากตามที่เจ้าของกระทู้ว่ามาเลย  -.- จากคุณ : พู่กันไร้สี เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:04:51

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยเลยครับ อารมณ์พยายามบิ้วว่าเกมนี้โหดนะ แต่มันบิวส์ไม่สุดอ่ะ ประมาณกราฟขึ้นสูงแล้วดิ่งลงฮวบๆเลย ความเห็นส่วนตัวให้ 5/10 ถึงหลายความเห็นจะบอกว่าในหนังสือสนุก แต่นี้มันหนัง ผมวัดจากการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาในจอเท่านั้น ถ้าหนังมันสนุกจะดูหรือจะอ่านมันก็สนุก ขึ้นอยู่กับการนำเสนอล้วนๆ จากคุณ : thanze เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:14:00

ความคิดเห็นที่ 39 หนังช่วงแรกๆดี เริ่มแย่ตั้งแต่นางเอกเจอกลุ่มพันธมิตรแล้วปีนต้นไม้หนี หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรสมเหตุผลเลย แย่สุดตรงกติกาเปลี่ยนเป็นผู้ชนะสองคนแล้วเปลี่ยนเป็นคนเดียวอีกรอบ แต่ถ้าดูเอเอฟบ่อยก็ไม่แปลกหรอก 5555 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 11:17:42 จากคุณ : atiporn เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:14:59

ความคิดเห็นที่ 40 หรือเรามันวิจารณ์ และดูหนังไม่เป็นหว่า TT เราว่ามันสนุกอะ 55555 ไม่ได้สนุกเทพ มันส์แสด แต่อยู่ในเรท สนุกดี จากคุณ : Piccalo_koz เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:31:41

ความคิดเห็นที่ 41 ผมก็ดูหนังไม่เป็น และกระทู้นี้ไม่ได้วิจารณ์แบบมีเหตุผลนักหรอกครับ ผมพูดถึงอารมณ์ตัวเองตอนดูหนังเรื่องนี้อย่างเดียว อยากบ่น ไม่รู้จะไปบ่นกับใครดี เพราะนั่งดูคนเดียว 5555 จากคุณ : จขกท (Kyo3) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:41:58

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นหลายคนชอบบ่นคนที่บอกให้ไล่ไปอ่านหนังสือ จริงๆแฟนหนังสือ ก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ แค่เห็นคนดู ดูแล้ว งง ก็แค่แนะนำ ไม่ได้เชิงไล่เสียหน่อย เหมือนแฮร์รี่ ถ้าคุณ งง แฟนนิยายก็มาช่วยอธิบาย ผิดด้วยเหรอครับ ส่วนตัวหนังขอไม่พูดละกันครับ มีทั้งชอบและไม่ชอบ แล้วแต่คนครับ จากคุณ : Christ.Lacoste เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:56:56

ความคิดเห็นที่ 43 ธรรมดามากครับ เริ่มออกแนว หนังทไวไลซ์ ตั้งแต่ภาคแรกเลย หนังสือไ่ม่เคยอ่าน แต่ในหนังดูธรรมดาและยืดเยื้อ ฉากสู้กันไม่สนุกครับ ส่วนตัวแล้ว ยังอยากดูภาคต่อของ I am Nuber 4 มากกว่าเรื่องนี้เลยครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 12:10:37 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 12:02:20 จากคุณ : แมวอ้วน (หมูน้อย กะ แมวอ้วน) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:57:32

ความคิดเห็นที่ 44 #42 แก้ตัวแทนคนอื่นไม่ไหวหรอกครับ คนแบบนั้นมีอยู่จริงๆ จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 12:02:25

ความคิดเห็นที่ 45 ช่วงแรกก็ทำออกมาได้ดีค่ะ พอช่วงหลังตั้งแต่นางเอกหนีมาอยู่บนต้นไม้   แล้วเริ่ม ไม่สมจริงละ ไรว้า ทำไมไม่จุดไฟรมควันง่ายๆ     มีกันตั้งหลายคน แล้วก็นอนหลับเหมือนมาอยู่แคมป์  แบบไม่กลัวตายกันเลย ตอนฉากรัก  ก็น่าเบื่อนะ คืออารมณ์หนีตายน่ะ แล้วตอนยิงธนูใส่แอบเปิ้ลให้โดนระเบิดทำไมต้องล่อตัวร้ายไปด้วย ยิงทีเดียว  ระเบิดก็โดนใส่ตัวร้ายเยอะแยะละ เพื่อให้ตัวร้ายไปฆ่าริว  ไม่สมจริงในหลายๆจุดเลย เปลี่ยนผกก.  กับคนเขียนบทเถอะ  เพลีย จากคุณ : music&lyric and cats เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 12:56:29

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคณ ความเห็น 19  Clear ดี สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นแฟนหนังสือ จากคุณ : OOY_W เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 13:33:59

ความคิดเห็นที่ 47 ระวังพวกแฟนคลั่งหนังสือเรื่องนี้มันมาเหน็บเอานะครับ พวกนี้มาแนวรู้จริง ด่าจริง กระแนะกระแหนจริง อย่าไปเถียงมันเชียว  มีเป็นฝูงเลยด้วย  55 จากคุณ : เฉลียวศักดิ์ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 13:38:39

ความคิดเห็นที่ 48 ต้องอ่านนิยายครับ เพราะเขียนได้ ค่อนข้างดี และละเอียด หนังทำจากนิยาย ผมว่าเรืองนี้ทำได้ไม่ค่อยดี คงเพราะรายละเอียดเยอะมากๆๆๆๆ จิงๆ แบ่งเป็นสองภาคยังได้เลย แต่อย่างว่านะ ถ้ารู้ว่าจะดังคงทำสองภาคแน่ รบกวนไปอ่านนิยายด่วน ถ้าอ่านแบบอิงได้จะดีมาก จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 14:28:52

ความคิดเห็นที่ 49 ยิ่งอ่านความเห็นที่คนชมหนังมาบ่น มาสงสัย มาตั้งคำถาม แนะนำยิ่งต้องไปอ่านหนั้งสือครับ ผมโชคดีหรือร้ายหว่า อ่านหนังสือก่อน ดูหนังไม่สนุกเลย ห่วยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้ที่ถามๆกันในหนังสือมีเฉลยไว้หมดเลยนะว่า ทำไม อะไร ยังไงมันมีที่มาที่ไปครับผม เช่น ทำไมคนเก่งๆต้องรวมกลุ่มกัน ทำไมนางเอกกับพระเอกช่วยเหลือกัน ทำไมต้องแกล้งรักกัน ทำไมบางคนโง่มาก บางคนเก่งมาก และอีกมากมาย จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 14:32:13

ความคิดเห็นที่ 50 เพิ่งดูDVDเมื่อวาน  เงิบนิดๆ  แต่ก็สนุกดี  หนังสือก็ไม่เคยอ่านมาก่อน^^ นางเอกดูช่างเย็นชาดี จากคุณ : Elizabethอีกแล้ว เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 14:40:34

ความคิดเห็นที่ 51 เท่าที่สังเหตุ คนที่ดูโรงจะมีบอกว่า สนุกและไม่สนุก คนที่ดูแผ่น ส่วนใหญ่จะไม่สนุก ไม่ได้ว่านะครับ เพราะคนที่ไปดูโรงหลายคนคือคนที่มีความชอบอยู่ส่วนนึงอยู่แล้ว หรืออ่านหนังสือมากแล้ว ส่วนคนที่ไม่ได้ดูโรงอาจจะเพราะไม่ได้สนใจในตัวหนังเท่าไหร่แต่แรก ดูแผ่นก็เลยไม่สนุกเท่าไหร่ ส่วนตัวผมไม่รู้เรื่องมาก่อนไปดูเลยในโรง ผมสนุกนะ แต่อยากอ่นหนังสือมาก เลยไปหามาอ่าน สนุกกว่าจริงๆครับ ปล. ถ้าจะไปซื้อหนังสือ เอาฉบับบแปลใหม่นะครับ ฉบับเก่าแปลไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 15:11:03

ความคิดเห็นที่ 52 เราดูแผ่นนะ ไม่ได้ดูในโรง กลัวเป็นเหมือนทไวไลท์หรืออะไรแจ็คสันๆซักอย่างนั่นอ่ะ ปรากกฏว่าเอาแผ่นมาดู กลับสนุก จนต้องไปหาหนังสืออ่าน ตอนนี้อ่านหนังสือได้ครึ่งเล่มล่ะ บอกตรงๆว่า ณ จุดนี้ชอบหนังมากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าหนังสืออธิบายไว้ละเอียดเกินไปจนไม่เหลือที่ให้คิดเอาเอง พอดีเราแก่แล้ว อ่านสำนวนแบบนี้แล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยละเมียดเท่าไหร่ ส่วนในหนัง มีหลายจุดที่ไม่ต้องอธิบายแต่ก็เข้าใจได้ (อย่างพวกเรื่องรักโปรโมต ฯลฯ) ส่วนประเด็นเรื่องการเมือง เราว่ามันชัดนะ เอาเป็นว่าหนังสือเป็นอย่างไรไม่รู้นะ แต่เราดูแค่หนังเรารู้สึกว่า แต่ละ district มันโดนกดขี่จนโงหัวไม่ขึ้น ถึงจะแข่งกันมา 70 ครั้งแต่คนที่ไม่ได้รับการศึกษา และถูกครอบหัวมาจากทาง capitol มันก็คงไม่สามารถคิดอะไรได้เยอะ นอกจากพยายามหาอาหารให้อิ่มท้องไปวันๆ ด้วยเรื่องเหล่านี้ เลยทำให้ทุกคนติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ที่ลุงหัวขาวแกคิดขึ้นมา คือสร้างความกลัวและสร้างความหวังไปในเวลาเดียวกัน แต่กลับไม่คิดถึงการลุกฮือ เพราะลำพังหากินก็ยากแล้ว การลุกฮือต่อต้านก็คงไม่มีแรง ดังนั้นคนที่เข้าไปแข่ง มันก็เลยโดนทำให้คิดว่า ต้องเหี้ยม ต้องรอด ต้องโหด *** (มีต่อ) จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 16:52:15

ความคิดเห็นที่ 53 (ต่อ แบบว่าบ่ายวันศุกร์ง่วงจริงไรจริง เลยหาอะไรทำแก้ง่วง) *** จนกระทั่งจุดเปลี่ยนคือนางเอก ที่มีความคิดที่รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง (ถ้าอ่านหนังสือจะเห็นว่านางเอกเหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลแม่และน้อง) (แต่ถ้าดูหนังก็จะเห็นแค่ว่านางเอกรักน้องมาก ก็เลยทำให้เอ็นดูน้องรูไปด้วยเพราะเหมือนกับน้องสาว) นางเอกฉลาดและเก่ง (เป็นนางเอกก็ต้องมีดีกว่าคนอื่นบ้างล่ะน่า) จึงสามารถมองออกมานอกกรอบที่คนอื่นมองไม่เห็น และมีความคิดขวางโลกเล็กน้อย จึงทำให้มองเห็นความจริงว่า "ถ้าไม่ทำตาม capitol แล้วไง?" นี่คือจุดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของทุกสังคม ถ้าเทียบแล้ว หนังสือ/หนังเรื่องนี้ก็เหมือนกับการทดลองทางจิตวิทยาหมู่แบบง่ายๆ ที่ใช้อธิบายพฤติกรรมคนทำงานอันหนึ่ง ที่ให้สัตว์เดินอยู่ในกรอบ ตอนแรกๆถ้าสัตว์ตัวไหนเดินออกนอกกรอบ ก็จะโดนไฟช็อต สัตว์จึงไม่กล้าเดินนอกกรอบ ถึงแม้ว่าจะไม่มีไฟช็อตแล้วก็ตาม สัตว์ตัวที่มาใหม่ ก็จะทำตามสัตว์ตัวเดิม โดยที่มันก็ไม่เคยเห็นเพื่อนมันโดนไฟช็อตหรอก จนกระทั่งมีสัตว์ตัวนึงเกิดสงสัย แล้วจึงเดินออกนอกกรอบนั่นแหละ เพื่อนๆมันถึงได้เห็นว่า เดินออกนอกกรอบก็ได้นะเออ *** จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 16:56:28

ความคิดเห็นที่ 54 *** กลับมาที่หนังนะ จุดเปลี่ยนแรกคือนางเอกเสนอตัวไปแทนน้องสาว ซึ่งเกิดขึ้นเพราะความรักเสียสละไม่เห็นแก่ตัว ตรงนี้ทำให้คนที่ก่อนหน้านี้หมกมุ่นแต่กับการอยู่รอดของตัวเอง หันกลับมามองสำรวจตัวเอง คือมันเป็นที่จังหวะและโอกาสที่อะไรหลายๆอย่างมารวมกัน คือนางเอกคิดนอกกรอบ เจอพีต้าที่แอบชอบนางเอกอยู่ และได้สไตลิสต์ที่ดี เลยทำให้ทุกอย่างมันแหวกแนว เลยเกิดเป็นการแหกกฏอันที่สอง คือ "รักโปรโมต" ขึ้นมา (แต่กลยุทธ์ตรงนี้ ในหนังสือเฮย์มิชเป็นคนคิดให้ และอย่างที่จขกท.ว่า ก็คือกลยุทธ์อะไรหลายๆอย่าง คนอื่นก็ทำมาหมดแล้ว เพราะจัดมา 70 ครั้งแล้ว ตรงนี้เราว่าหนังสือเขียนละเอียดไป จนทำให้รู้สึกว่า กลยุทธ์ที่เลือกมาใช้ก็ไม่เห็นแปลกใหม่เลย ทำไมคนอื่นคิดไม่ได้ แต่สถานการณ์ในหนังกลับทำให้น่าเชื่อถือมากกว่า) ความแตกต่างที่สามคือ ด้วยความที่น้องรูเหมือนกับพริมน้องสาวนางเอก เลยทำให้นางเอกเกิดสัญชาติญาณปกป้องขึ้นมา จึงทำให้เกิดผู้เข้าแข่งขันที่เห็นใจซึ่งกันและกัน และมีความผูกพันกันจริงๆ ตรงนี้คนดู (ชาวบ้าน) เริ่มมองเห็นทางว่า จริงๆแล้วผู้เข้าแข่งขัน รักกันก็ได้ ร่วมมือกันด้วยความจริงใจก็ได้นะ เหตุที่เขตน้องรูจลาจลก็เพราะว่า ตอนที่นางเอกกับน้องรูมาร่วมมือกัน มันเหมือนจะมีความหวัง และจริงๆน้องรูน่าจะเป็นที่ป๊อปและเอ็นดูในหมู่ชาวบ้านพอสมควร แต่พอน้องรูตาย ก็เหมือนกับความหวังดับไป โดยกระตุ้นจากท่าโบกมือสามนิ้วจากนางเอกอีก จึงทำให้ยิ่งแค้น ยิ่งรู้สึกไม่ยุติธรรม จนระเบิดออกมาเป็นจลาจล ถ้าน้องรูไปแข่งแล้วถูกฆ่าตายเฉยๆ คนคงแค่เสียใจ แต่พอดีมีเหตุการณ์ที่มาทำให้ชาวบ้านเกิดความหวังขึ้น *** มาถึงจุดนี้ เราเริ่มวาดไดอะแกรมวงจรอุบาทว์ในหัวล่ะ แคปิตอลต้องการลงโทษเขตต่างๆให้หลาบจำ ทำให้ไม่กล้ากบฏอีก -> กำหนดให้ส่งตัวแทนมาเล่นเกมส์ -> ถ้าชนะจะได้เงินทองชื่อเสียง -> คนถูกเลือกมีความหวัง ก็พยายามกระ:-)กระสนจะชนะ ก็คือต้องฆ่าทุกคน -> ชาวบ้านที่เหลือก็จะทั้งกลัวแต่ก็มีความหวังในเวลาเดียวกัน -> จิตใจหมกมุ่นแต่กับเรื่อง hunger game แต่ถ้าเกิดมีวงจรใหม่ แคปิตอลต้องการลงโทษ -> กำหนดให้ส่งตัวแทนมาเล่นเกมส์ -> ถ้าชนะจะได้เงินทองชื่อเสียง -> แต่คนถูกเลือกไม่เล่นด้วย ไม่ยอมฆ่ากัน (ซึ่งจริงๆแล้วอันนี้ยากเพราะต่างคนก็มีความคิดต่างกัน) -> แคปิตอลยอมให้รอดไม่ได้ เลยฆ่าทิ้งหมดเลย (ซึ่งอันนี้เป็นทางนึงที่ปู่หัวขาวบอกกับผู้จัดว่า จะทำอย่างนี้ก็ได้ แต่ทำแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ก็ดูตามไดอะแกรมของเราต่อไป -> ชาวบ้านเห็นคนโดนฆ่าทิ้งหมด ก็ไม่เห็นความหวัง  ->การถูกกฏขี่ก็สะสม และเนื่องจากไม่มีอะไรจะเสีย สุดท้ายก็จะมีคนที่ทนไม่ได้ ก็จะยอมตายลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน   *** แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 17:34:00 จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 16:58:43

ความคิดเห็นที่ 55 *** จุดต่อไปคือความโชคดีที่พีต้าแอบชอบนางเอก แล้วดันไปบอกกลางเวที (ในหนังเหมือนว่าหลุดปากนะ แต่ในหนังสือเหมือนว่าจะเตี๊ยม) เลยทำให้ผู้จัดได้แง่มุมที่จะเอาไปเล่น เรื่องรักกลางสนามรบอะไรอย่างงี้ได้อีก เรื่องอย่างนี้แฟนรายการเรียลริตี้รู้ดีกว่า ถ้าผู้จัดชอบ แน่ล่ะว่าคนที่มีเรื่องให้เล่นเยอะ ก็ย่อมได้อยู่ในรายการนานกว่าคนอื่น เพื่อเรียกเรตติ้ง การเรียกเรตติ้งดีตรงที่ทำให้ชาวบ้านหมกมุ่นมัวแต่พะวงเรื่องรายการ จนไม่เป็นอันจะไปคิดเรื่องกบฏ (ก็เหมือนรัฐบาลพม่าสนับสนุนให้คนเข้าวัดนั่นแหละ เข้าไปอธิษฐานขอพรจะได้เจริญ มีการเขียนชัดเจนว่าทำบุญอะไรเท่าไหร่ จะได้พุทธคุณแบบไหน ช่วยด้านการงานมั่นคง ฯลฯ เน้นวัตถุมากกว่าเมืองไทยเยอะ ชาวบ้านจะได้ไม่มีเงินเอาไปยกระดับการใช้ชีวิตและการศึกษา คนจะได้จนและมุ่งแต่เข้าวัดอย่างเดียว) *** จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 17:00:20

ความคิดเห็นที่ 56 คิดเหมือน จขกท เกือบทุกอย่าง หนังก๊องเก๊งมาก ประเด็นการเมืองก็ไม่สมจริง จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 17:16:49

ความคิดเห็นที่ 57 ด้วยอานิสงฆ์นี้ เลยทำให้ผู้จัดมีไอเดียที่จะเปลี่ยนกฏให้มีผู้ชนะสองคนได้ (ไอ้พวกเล่นเกมส์แบ่งกลุ่มในเรียลริตี้ บางทีผู้จัดเค้าก็ล็อคสเป็คไว้เหมือนกัน) เราดูหนังมาถึงจุดนี้ เราก็กะไว้แล้วว่าเดี๋ยวผู้จัดมันต้องเปลี่ยนกฏตอนจบแน่เลย กะให้คู่รักฆ่ากันเอง ดราม่าได้อีก แบบว่า ใครจะเสียสละเพื่อใคร หรือว่าสุดท้ายใครจะกลัวตาย หันมาแทงอีกคน หรือว่าจะยืดอกทั้งน้ำตาให้อีกคนแทง หรือจะปาดคอตัวเอง โดนหน้าผา ฯลฯ โอ๊ย ความดราม่ามันบังเกิดอยู่ในหัวผู้จัด ณ จุดนั้นเต็มไปหมด มันก็เลยกลับมาที่คำถามที่ว่า “แล้วถ้าคู่รักไม่ฆ่ากันเอง จะเป็นไงล่ะ?” ( ถ้าสงสัย ขอให้ย้อนกลับไปดูวงจรอุบาทว์ด้านบน) หากเป็นคู่รักปกติ คงจะได้ดราม่าอย่างข้างบน แต่ด้วยความที่นางเอกมีเนื้อแท้ที่เป็นคนที่เสียสละเพื่อผู้อื่นโดยไม่นึกถึงตัวเองอยู่แล้ว (ในหนังนะ ในหนังสือยังอ่านไม่เจอ ณ จุดนี้) จึงทำให้พระเอกเอง เห็นตัวอย่าง และฉุกคิดขึ้นมาด้วย จริงๆแล้วทั้งสองคนมองตากันแล้วก็ตัดสินใจแล้วว่า เราจะไม่ฆ่ากัน แต่นางเอกรู้ (ก็นางเอกเนอะ ฉลาดไง) ว่าถ้าเหลือกันสองคนแล้วไม่ยอมฆ่ากัน ผู้จัดต้องส่งอะไรเปรี้ยวๆแซ่บๆออกมาทรมานผู้แข่งขัน ให้สุดท้ายก็ต้องตายคนนึงอยู่ดี และรับรองว่าเป็นการตายที่ลำบากและทรมานแน่นอน นางเอกถึงได้บอกให้พระเอกแกล้งกินเบอรี่ เพื่อเป็นการฆ่าตัวตายคู่แบบธรรมด๊า ธรรมดา ไม่มีดราม่า เพราะถ้าตายคู่ ปีนั้นแคปิตอลก็จะไม่มีผู้ชนะเอาไปพาเหรด เชิดชู เรตติ้งตกแน่ๆ ส่วนผู้จัดก็ไปได้วาทะเรื่องนี้มาจากปู่หัวขาวพอดี จึงจะยอมให้ไม่มีคนชนะไม่ได้ ก็เลยต้องรีบประกาศให้ชนะทั้งคู่ แต่กลายเป็นว่า การให้ชนะทั้งคู่ มันจึงเป็นการเริ่มต้นของการที่คน "มีความหวังมากเกินไป" ซึ่งปู่ผมขาวเล็งแล้วว่า ปีหน้าถ้ามีมุขนี้มาอีก หรือถ้ามันไม่ยอมฆ่ากันเองทั้ง 24 คน ต้องเป็นปัญหาแน่ ปู่ผมขาวก็เลยต้องวางแผนกำจัดจุดอ่อนแบบแนบเนียนในภาคสองต่อไป .... ***จบ*** กรี๊ด จบแบบระทึก จนต้องไปขวนขวายหาหนังสือมาอ่านเลย จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 17:38:46

ความคิดเห็นที่ 58 สุดท้ายล่ะ *** แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังจะดีเลิศนะ ก็มีช่วงขำๆเหมือนกะที่จขกท.ว่าไว้หลายจุดแหละ อย่างตอนที่นางเอกจะตัดรังแตนอ่ะ คือตอนนั้นคิดว่าน้องรูวางยานางเอกแหงม เพราะแตนมันน่าจะเข้ามารุมคนที่มากวนรังมันแบบชัดๆมากกว่า (เห็นว่าเป็นแตนแบบ GM ดุร้าย น่าจะหวงรังไม่ให้ใครเข้าใกล้แต่แรกล่ะ นี่แบบว่าใกล้มาก มาขย่มกิ่งไม้อีก นางเอกสมควรโดนแตนต่อยตายแต่จุดนั้นแล้ว ฮา) จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 17:40:12

ความคิดเห็นที่ 59 ขออีกหน่อย ดูเรื่องนี้แล้วคิดถึง In Time ที่มีคนรวยคนจนเหมือนกัน เราว่า hunger game ตอบโจทย์อะไรหลายๆอย่างได้มากกว่า In Time เยอะเลย จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 17:42:14

ความคิดเห็นที่ 60 คหสต.แต่ผมกับชอบเรื่องนี้มากว่า twilight นะครับ 555+ ปล.รอภาค2ครับ ชอบๆเหมือนประเทศอเมริกา จากคุณ : 555+ อย่าท้าก๋อย (เกลียดนักคนรักกัน) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 19:05:55

ความคิดเห็นที่ 61 ส่วนตัวผมชอบนะ และผมเองก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของหนังและแฟนหนังสือ ที่ชอบ ก็คือการแสดงของ Jennifer Lawrence ที่พาหนังไปไกลจากคำว่า"ห่วย"พอสมควร และยากมากที่จะได้เห็นการแสดงที่ทรงพลังในหนังลักษณะนี้ แต่ยอมรับว่าช่วงที่อยู่ในเกมส์มีช่องโหว่เยอะเหมือนกัน แต่ผมเข้าใจว่าผู้กำกับและคนเขียนบทต้องการให้การแข่งขันเป็นเพียงแบคกราวด์ เพื่อขยายความเลวร้ายของแคปปิตอลมากกว่า พร้อมหย่อนประเด็นการเล็กๆน้อย และคนดูคิดเอาเองในบางจุด เพื่อปูไปสู่ภาคต่อไป เลยไม่ได้ลงลึกไปถึงรายละเอียดต่างๆ เพราะหนังจะยาวมาก โดยรวมเป็นหนังที่ดีแต่น่าสงสารนะ เพราะอยู่ตรงกลางระหว่างหนังดราม่าและหนังตลาด กระแสตอบรับมันจึงเป็นแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 20:00:52 จากคุณ : Samwise the Brave เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 19:38:05

ความคิดเห็นที่ 62 เราว่า จขกท มองไม่เห็นรายละเอียด และนัยยะที่มันสะท้อนออกมา เองมากกว่านะ เราไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อน แต่เข้าใจทุกอย่างที่หนังบอก เช่น การลุกฮือของประชาชน ประเด็นมันอยู่ที่การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ของนางเอกที่ช่วยเด็ก มันเลยเหมือนการจุดประกายความคิดบางอย่าง และเหมือนเป็นระเบิด ที่ช่วยระเบิดความอัดอั้นของผู้คนที่มามานาน มันก็แค่นั้นอ่ะ เท่าที่แย้ง จขกท ได้คือ นางเอกไม่ใช่เทพล่าสัตว์ แต่คือเทพของความแม่นในการยิงธนู ปาร์ตี้ที่ไม่มียามเฝ้า  เพราะฆ่าไปหมดแล้วไงคะ เหลือแค่นางเอก แล้วจะให้ระวังใครอีก? และอย่างที่สองคือ พวกนี้มันย่ามใจไง คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว นางเอกหมดทางสู้แน่นอน แค่นั้นแหละ ส่วนฉากฆ่ากัน จขกท คิดว่า เค้าทำให้สลบเหรอคะ สำหรับเรามันโหดมากแล้วนะนั่น อาจจะเป็นเพราะว่าเราอิน คิดไปว่า ถ้าเราได้ไปอยู่ตรงนั้นมั่ง จะเป็นยังไง ฉากที่ฆ่ากันในตอนแรกเลยสยองขวัญเรามากๆ ส่วนภาคต่อ มีแน่นอนค่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 20:05:26 จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 20:01:47

ความคิดเห็นที่ 63 ครึ่งแรกของเรื่อง เราว่าเป็นจุดที่สนุกที่สุดของหนังเลยค่ะ ปูเรื่องได้ดี มีเหตุผล เราอินไปกับอารมณ์นางเอกสุดๆ ส่วนครึ่งหลังเรารู้สึกแปลกหลายจุดนะ ตอนที่รูตาย นางเอกไปหาเก็บดอกไม้มาเรียงรอบศพซะพรึ่มเลย บรรยากาศนางชิวมาก ทำพิธีศพซะนานเชียว ไม่กลัวใครลอบฆ่าเลยเรอะ ตรงนี้เรารู้สึกแปลกสุดล่ะ เลยไม่ค่อยซึ้งตาม แต่รวมๆแล้วเป็นหนังที่สนุกนะ บางคนบอกว่าห่วยก็อาจจะเกินไปหน่อย ไม่เป็นไร ต่างคนต่างความคิด ความชอบไม่เหมือนกัน อยากลองอ่านหนังสือดูเหมือนกันค่ะ ยังไม่ได้ไปหามาอ่านเลย^^ จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 20:10:40

ความคิดเห็นที่ 64 เราดูในโรงนะคะ เพราะตามกระแสเชียร์ห้องนี้นี่แหละ แต่อารมณ์มันไม่สุดจริง ๆ อ่ะค่ะ พูดจากใจ แต่ที่ถูกใจสุด คือ เราเองรู้สึกชอบจุดที่เรื่องนี้ตีแผ่ reality show มากนะ ชัดเลยว่าพวกผู้จัดชอบตุกติก ใส่อะไรเข้าไปหวัง rating แล้วช่วงนางเอกกับพี่ต้าจะกินผลไม้นั่น เราไม่เคยอ่านนิยาย มาก่อน นึกไปเรียบร้อยว่านางเอกตายแน่ พีต้าหักหลังนางเอก ไม่กินจริงแน่เลย นึกภาพไปและว่าพอเอามือลง องุ่นที่มือพีต้า ยังอยู่ครบ นางเอกคงแบบกินไปเรียบร้อย ที่ไหนได้ปรากฎว่า เปลี่ยนกฎโต้ง ๆ ซะงั้น เรานี้เงิบไปเลย แอบนึกถึงเอเอฟช่วง ที่มีหลายคนกลับเข้าบ้านมาได้อีกรอบทันที 555+ พูดแล้วเงิบ จากคุณ : chinchang&jaejung เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 20:43:56

ความคิดเห็นที่ 65 ผมคิดแบบเดียวกับ จขกท. จากคุณ : Number. Ten เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 21:41:37

ความคิดเห็นที่ 66 #62 ไม่ใช่ไม่เข้าใจครับ แต่มันไม่สมจริงและดูตลกสำหรับเกมที่ต้องฆ่ากันและเอาชีวิตรอดอะครับ ผมเข้าใจทุกอย่างที่หนังบอกแต่"มันไม่สมเหตุสมผล"ครับ การลุกฮือของประชาชน - มันไม่สมจริงตรงจัดมา 74 ปี แล้วเพิ่งมาลุกฮือนี่แหละครับ = = ไอเกมแบบนี้ ไม่เกินสิบปีก็น่าจะมีคนต่อต้านแล้วครับ หนังสื่อออกมาว่าจราจลมาจากเด็กที่ช่วยเหลือกัน แล้วไอ 70 ปีที่ผ่านมาการแข่งขันมันเป็นยังไงกันแน่ ไม่เคยมีกรณีแบบนี้มาเลยรึ มันไม่อินอะครับ มนุษย์เราทนสภาวะกดดันเป็น 70 ปีไม่ได้แน่ๆ มันก็เลยทำให้ฉุกคิดไปอีกว่า... ถ้ามันมีมา 70 ปีนะครับ ผมเชื่อว่ามันต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนเข้าแข่งขันกันมากกว่านี้ นี่อะไรเหมือนส่งเด็กเข้าไปตายเฉยๆ ทั้งๆที่มีทุกปี (ยกเว้นเขต 1,2) ------------ นางเอกล่าสัตว์เป็นอาชีพ และคอยเรียนรู้จากเพื่อนชายบ่อยๆนะครับ ตอนเปิดเรื่องก็มีการแกะรอยสัตว์ให้เห็น แต่...พอมาแข่งเกม เหมือนนางเอกไม่มีทักษะในจุดนี้เลยสักนิด = = ตอนรอนางเอกปีนต้นไม้ ยังเหลือผู้เข้าแข่งขันคนอื่นอีกนะครับ เช่นพี่มืด ก็เข้าใจว่าพวกนั้นมันมั่นใจในฝีมือ แต่ยิงธนูไม่โดนนางเอก ปีนต้นไม้ไม่เป็นนี่ก็ทำเอาผมเงิบละ 555 "นักฆ่า" <<< อย่าลืมว่าไอพวกนั้นมันมีคำนี้ติดตัวอยู่นะครับ ฝึกมาแต่เด็กแล้วสมัครเข้ามาเองตอนอายุ 18 เป็นนักฆ่าที่...ไม่เหมือนนักฆ่าเลยสักนิด ออกจะดูโง่ๆด้วยซ้ำ จุดไฟเอาควันรมนางเอกก็ได้นะ ไม่ลงก็สูดควันตายบนต้นไม้นั่นแหละ นี่พี่แกทำไง ไปเชื่อพระเอกแล้วนอนรอแบบสบายใจ = = นักฆ่าในหนังหลายๆเรื่อง เสียงนิดเดียวก็ตื่นแล้วครับ ไม่มีทางหลับอุตุเหมือนมาแคมปิ้งแน่ๆ นี่นางเอกเลื่อยรังแตน แถมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว แสงแยงตา"นักฆ่า"ยังไม่ตื่นเลย จะเอาฮาไปไหน = = ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่ดูแล้วไม่เข้าใจ แต่หนังมัน....เพลียครับ ในแง่ความสมจริง ปล.เรื่องฉากฆ่ากัน ตอนแรกผมไม่ได้ดูเรทหนัง แต่พอรู้ว่าเรท 13+ ก็เข้าใจแล้วครับว่ามันทำให้ดูรุนแรงกว่านี้ไม่ได้ จุดนี้ก็เพราะผมดูหนังโหดจนชินแล้วครับ อีกอย่าง "เกมเอาชีวิตรอด" การ์ตูนญี่ปุ่นมีเยอะครับ และทุกเรื่องการเล่นกับจิตใจมนุษย์ดิบกว่านี้เยอะ หนังเรื่องนี้เลยออกจะหน่อมแน้มสำหรับผมอะครับ = = แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 22:54:19 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 22:11:15 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:05:55

ความคิดเห็นที่ 67 ผมกับแฟนยังบ่นเลยว่านี่มัน ตัวร้ายภาษาอะไรหว่า ง่ายชิบเป้ง เรื่องนี้ให้ B- ครับ  ความไม่สมเหตุสมผล ทำให้หน้งแย่ไปเกินครึ่ง คคสต ผมไปหยิบหนังของเฮีย ฌอง คลอด แวนแดม มาดู (เนื้อเรื่องเป็นแบบเล่นเกมล่าเหมือนกัน หนังเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ยังสนุกกว่าอีก) Hard Target (1993) : คนแกร่งทะลวงเดี่ยว จากคุณ : The Gun Desperado เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:42:04

ความคิดเห็นที่ 68 อีกนิดๆ (ต่อจาก 66) คำว่า"สมจริง"ของผมคือ "ความสมจริงของหนัง" อะครับ ต่อให้หนังมันโม้เว่อร์ยังไงก็ตาม แต่ขอให้มันสมเหตุสมผลกับสิ่งที่หนังบอกหน่อย ช่วงนี้ไม่สบาย เลยนอนดูหนังไปสี่เรื่องติด แบทเทิลชิป cabin in the wood อเวนเจอร์ แล้วก็เรื่องนี้แหละครับ ทำผมไข้ขึ้นอีกรอบเลย 555 (ล้อเล่น) เอาอย่างอเวนเจอร์ก็ได้ครับ หนังมันโครตขี้โม้เลย แต่ดูแล้วไม่ขัดอารมณ์สักนิด เพราะมันสมเหตุสมผลของตัวหนังอะครับ คนนี้เป็นเทพนะเลยมีพลังแบบนี้นะ คนนี้เป็นมนุษย์ทดลองนะเลยมีพลังแบบนี้นะ โลกิมันมีความแค้นแบบนี้มันเลยต้องทำแบบนี้นะ อะไรแบบนี้ ไม่ใช่บอกว่าเป็นเกมเอาชีวิตรอด แต่ออกมาเหมือนบางคนมาแคมปิ้ง เหมือนบางคนไม่รู้ว่าเค้าจะฆ่ากัน ไม่ใช่บอกว่าน้ำหายาก แต่ดูแล้วไม่เห็นยากตรงไหน ไม่ใช่บอกเป็นนักฆ่า แต่ง่อยมากอะไรแบบนี้ 555 ไม่ใช่จัดมา 74 ปี เพิ่งมารู้สึกตัวว่าต้องต่อต้านเพราะการตายของเด็กคนนึง (ปีที่ผ่านๆมาไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เลยเรอะ เหลือเชื่อ) -------- #67 กิฟท์หมดแล้วเด้อ ไว้มีเดี๋ยวกดให้ครับ คิดเหมือนผมเลย ตัวร้ายแลดูง่อยมาก (แต่แฟนหนังสือบอกว่าในนิยายมันเก่งสมชื่อ ต้องลองหามาอ่านดูซะแล้ว) แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 22:50:35 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 22:48:32

ความคิดเห็นที่ 69 ผมคนนึงนี่แหละครับที่ดูหนังเสร็จ ไปตามหานิยายมาอ่าน แต่ก็รู้สึกเฉยๆ คือมันสนุกแบบโอเคดี ไม่ได้รู้สึกว่าสนุกมาก วางไม่ลง เหมือนเรื่องอื่นๆที่เคยอ่าน อ่านเล่มสามไปได้ครึ่งนึง ไม่ได้อ่านต่อมานานแล้ว -_-"" ผมชอบครึ่งแรกของหนังมากนะครับ เห็นด้วยว่าปูและบิ๊วมาได้ดีเยี่ยม แต่ครึ่งหลังด้วยเรทอันหน่อมแน้มของหนังด้วย ทำให้ออกมาน่าหลับมาก จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 23:03:44

ความคิดเห็นที่ 70 ผมว่าหนังมันก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนทไวไลท์นะครับ ดูได้สนุกอยู่ แต่หนังสือสนุกกว่า รายละเอียดมากกว่า สามารถอธิบายหลายๆ อย่างที่เราดูหนังแล้วงงๆ ได้ เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ฆ่าๆ กันเท่านั้น มันเป็นเรื่องของการเมืองล้วนๆ เลย จากคุณ : ฆ่าไม่นับสับไม่เลี้ยง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 00:45:52

ความคิดเห็นที่ 71 ไอ้นิยายมันจะสนุกหรือไม่สนุกผมไม่รู้ เพราะผมไม่ได้อ่าน แต่หนังมันห่วยก็ต้องบอกว่าห่วย จะให้ผม:-) ผมทำไม่ได้ จากคุณ : TNSP เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 01:27:39

ความคิดเห็นที่ 72 #70 หนังมันทำไม่สื่อถึง"การเมือง"เลยครับ ตอนดูผมไม่รู้สึกเลยครับ (เพิ่งมารู้ตอนไปเซิร์จอ่านกระทู้เก่าๆว่าเรื่องนี้มันเน้นการเมือง) = = การก่อจราจลมันไม่มีพลังเลย เหตุผลที่ก่อจราจรก็ดูหน่อมแน้ม อ่อนด๋อย 70 กว่าปีไม่มีเหตุการที่ผู้เล่นแต่ละเขตช่วยเหลือกันเลยหรอ เป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่เอามาแข่งก็คงไม่ต่างจากปีนี้หรอก เหมือนไม่มีการเตรียมตัวอะไรสักอย่าง = = ตายกันมาทุกปี ทำเป็นมาซึ้งเอาปีนี้ ? แล้วไอ 70 กว่าครั้งดูถ่ายทอดสดด้วยจิตใจแบบไหน ? อย่างที่บอกหนังทำออกมาแบบว่าเพลีย ไม่สุดสักอย่าง ภาคสองเปลี่ยนผู้กำกับกับคนเขียนบทเถอะ = = แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 02:00:04 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 01:55:14

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนค่ะ อ่านที่จขกท.ว่า เห็นด้วยทุกอย่างเลย ว่าแต่ เริ่มสนใจหนังสือด้วยค่ะ อ่านหลายๆคห.ท่าจะสนุกว่าในหนังเยอะเลย จากคุณ : MooNymph เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 23:02:50

ความคิดเห็นที่ 74 ทำไมตอนผมตั้งกระทู้แซวหนังเรื่องนี้ไม่มีคุณ  Kyo3 มาช่วยเลยอ่า โดนพวกหนอนหนังสือมารุมด่าซะยับ 55   หนังบ้าอะไรสร้างมาเพื่อให้คนไปอ่านหนังสือเพิ่มรายละเอียดเอาเอง??? จากคุณ : เฉลียวศักดิ์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:34:38

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ^ ตอนนั้นยังไม่ได้ดูครับ ปล.ผมเห็นกระทู้ที่คุณโดนเล่นซะเละแล้วครับ (เซิร์จหลังจากดูหนังจบ หาข้อมูล) เสียดายที่ไปแจมตอนนั้นไม่ทัน = = จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:39:19

ความคิดเห็นที่ 76 ตกลงวิจารณ์ Hunger Game นี่ จะให้วิจารณ์ หนัง หรือ หนังสือ ? จขกทเค้าตั้งประเด็นว่าจะมาวิจารณ์หนังไม่ใช่เหรอ ? ไม่ใช่วิจารณ์ตัวหนังสือสักหน่อย จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:51:36

ความคิดเห็นที่ 77 น่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ของแฟนฮังเกอร์เกมนะครับ เวลาคนที่ดูหนังแล้วมาวิจารณ์ จะโดนไล่ไปอ่านหนังสือ ไม่งั้นก็ไล่ไปดูหนังโรงได้อีกอย่าง เพราะคนดูแผ่นจะบอกไม่สนุกครับ.. จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:16:39

ความคิดเห็นที่ 78 เอาดีวีดีมาดู น้องสาวบอกไม่สนุก เราบอกเอ๊ยยยยยยยยยยย เนี่ยอ่านในเวปเค้าบอกสนุก เทพมากกกก น้องสาวบอก ไม่สนุกงั้นๆๆ เราก็คิดในไง อะไรเนี่ย หรือน้องสาวจะดูหนังไม่เป็น เข้าไม่ถึง ความเทพของหนัง พอดูไป ถึงตอนขบวนเท่านั้นแหละ หลับเลย มาตื่นอีกที ตอนเสือปลุกเสก กินคนได้จริงๆๆ งงมากๆๆ เลย คือไปมา ไม่นะ ในพันทิปบอกเทพมากกกก มันมีเรื่องมาจาหนังสือ มีที่มาที่ไป ไม่ใช่แบบที่เราเห็นกัน ก็ได้ งั้นไปอ่านสปอย์ด่อนวันเต็ม ดูอีกรอบ หลับต่อ ไม่สนุกเลยอ๋า..... จริงๆๆนะ พยายามแล้ว สุดท๊ายกลับไปดูแฮรี่ พอตเตอร์ สนุกกว่าเยอเลย จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:32:41

ความคิดเห็นที่ 79 ก็เหมือนกับการดูหนังเรื่องอื่นที่สร้างมาจากนวนิยายชื่อดังเช่น twilight, harry potter คือถ้าอ่านหนังสือมาก่อนจะผิดหวังกับตัวหนังเพราะการอ่านหนังสือจินตนาการของเรามันกว้างและไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในหนังเค้าสร้างมาจากจินตานาการของผู้สร้างหนังซึ่งอาจจะมีขอบเขตที่ชัดเจนมากหรือน้อยการเราเวลาที่เราอ่านหนังสือ จากคุณ : pryemonda (pryemonda) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 09:11:46

ความคิดเห็นที่ 80 ขอโทษนะคะ...ส่วนตัวแล้วชอบหนังเรื่องนี้จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อ่านหนังสือ ส่วนตัวเราแทบไม่เคยดูเทรลเลอร์ด้วยซ้ำ เคยดูโฆษณาครั้งสองครั้ง ไปดูแบบอึน ๆ มึน ๆ เพราะช่วงนั้นรู้สึกว่าจะไม่มีอะไรที่อยากดูเลย (มีนัดแกมจำเป็นเลยต้องดูหนัง) คืออยากจะถามว่าจกท.ดูหนังจริงป่ะคะ? ทำไมพูดเหมือนไม่ได้ดูหนังเลย 55 ขอแย้งเป็นจุด ๆ อย่างที่พูดมาค่ะ... -พอเริ่มเข้าตัวเมืองมาฝึก เจอคู่แข่งคนอื่นๆ .... โอว้ มันส์แน่ๆ เขต 1 เขต 2 ไอบ้าพวกนี้มันนักฆ่าสุดโหดแน่นอน (ในใจคิดถึงแบทเทิลรอยัลขึ้นมาทันที) สมัครมาเอง ฝึกฆ่ามาตั้งแต่เด็ก ชนะเกือบทุกปี !! เริ่มรู้สึกตื่นเต้นไปกับหนัง นางเอกจะทำยังไงละเนี่ย __"เกือบ"ทุกปีนะคะ.... -ยิ่งตอนนางเอกฟังคำแนะนำ ผมคิดว่าสภาพแวดล้อมมันโหดแน่นอน แหล่งน้ำนี่แหละ จุดโหดเลย น้ำหายาก ดังนั้นพวกฝีมือเทพๆ มันต้องไปซุ่มรอเหยื่อแถวนี้แน่นอน ตื่นเต้นๆ __ได้ดูรึเปล่าคะ? พิธีกรรายการเค้าก็บอกว่าลานประลองปีที่แล้วเป็นซากปรักหักพัง แสดงว่าปีที่แล้ว ๆ ลานประลองในแต่ละปีไม่เหมือนกัน... มีปีนึงเป็นทะเลทราย...น้ำหายากมั้ยล่ะคะ? -อ้าว เธอคนนั้นจะจุดไฟทำแป๊ะอะไรว่ะ ไม่รู้หรือไงว่าจุดไฟก็เท่ากับเชิญเค้ามาฆ่าอะ คนในเขตไม่สอน ? ผู้ดูแลไม่แนะนำ ? ไม่รู้หรอเกมนี้เค้าฆ่ากัน ? คือถ้าจะโง่ ก็ไม่น่าโง่แบบนี้ มีเวลาเตรียมตัวตั้งหลายวัน ทำอะไรอยู่ ถ้ากลัวไม่อยากเล่นเกมก็น่าจะซ่อนตัวมิดชิดไปเลย มาจุดไฟกันหนาวเนี่ยนะ = = __"เด็ก"ค่ะ...เด็กคนนั้นเป็นเด็กมาก ๆ น่าจะเป็นอายุที่เข้าเกณฑ์ต้องมีรายชื่อเป็นปีแรก ด้วยซ้ำ เค้าจะรู้ได้ไงคะว่าห้ามทำ ขนาดพระเอกยังเกือบจะทำเลยถ้าเฮย์มิตช์ไม่ห้ามไว้ก่อน ถ้าเกิดพี่เลี้ยงของเขตเค้าไม่ดูแลก็จบเห่เหมือนกันค่ะ 55 -อ้าว พวกพี่เทพ เฮฮาอเมริกันปาร์ตี้เหมือนมาแคมป์ปิ้งฆ่าคน เฮ้ย พี่นักฆ่ามืออาชีพ เค้าเฮฮาไปฆ่าเหยื่อแบบนี้นี่นะ !! ไม่สมเหตุสมผลเลย เกิดมีคนดักฆ่า แบบซ้อนแผนไม่เงิบหรอ .... เออ แบบนี้ก็ชิลดีนะ เดินคุยสัพเพเหระเฮฮา พอเจอเหยื่อก็ฆ่าสนุกดี = = __วิธีดำเนินเกมมีได้แบบเดียวคือบุกเดี่ยวเหรอคะ? ที่เค้าเกาะกลุ่มกันก็ไม่ได้ไว้ใจ กันมากขนาดนั้นหรอกค่ะ ไม่งั้นเวลาแต่ละคนนอนต่างคนจะต่างกุมอาวุธไว้ใน มือทำไม? คนเก่งรวมกลุ่มกันมันจะไม่ประหยัดเวลากว่าเหรอคะ หรือยังไง?? -คุ้นๆว่าเกมนี่มันจัดมารอบที่ 70 กว่า มีถ่ายทอดสด ตัวอย่างมีให้ดูทุกครั้งว่าควรทำตัว แบบไหน ทำยังไงถึงรอดชีวิต ... แต่ฆ่ากันแบบไม่มีแผนอะไรเลยเนี่ยนะ เนี่ยนะรายการสดที่มีมากว่า 70 ครั้ง __ลานประลอง สถานที่การแข่งขัน การจัดฉาก ผู้เข้าแข่ง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปทุก ๆ ปี อย่างที่บอกไปแล้ว...จะวางแผนยังไงคะ? มีตาทิพย์เห็นอนาคตได้เหรอ? 55 -วันต่อมา โฮโลแกรมสร้างไฟของจริง...เจ๋งแฮะ แต่เดี๋ยวก่อนนี่มันเล่นยิงลูกไฟมาทางนางเอกเลยนี่หว่า ไหนบอกจะไล่ต้อนพื้นที่ นี่เค้าเรียกว่าไล่ฆ่าแล้ว ลองไม่หลบดิหน้าไหม้แล้ว = = พอนางเอกไปยังที่หมาย .... บอกเตรียมพลุได้ ... พ่อเอ้ย !! เตรียมตั้งแต่สร้างไฟเลยก็ได้ ถ้าเป็นกุตายไปแล้ว !! หลบไม่พ้นหรอก !! __ผู้คุมมีจุดประสงค์ไล่นางเอกมาหากลุ่มนักฆ่า ไม่ได้ไล่ให้กลับเข้ามาในเขตเกม อย่างเดียวค่ะ เกมนี้เค้าสร้างมาเพื่อความสนุก ถ้าฆ่าผู้เข้าแข่งขันด้วยลูกไฟไป แล้วจะมีเกมมาให้แข่งกันฆ่ากันทำไมคะ? -เริ่มกลับมาตื่นเต้นตอนไล่ล่า นางเอกฉลาดแบบนี้ผมชอบ ปีนขึ้นต้นไม้นี่แหละสุดยอด รอมันปีนมาแล้วหาจังหวะฆ่ามันซะ ...... นักฆ่า(ที่ฝึกมาตั้งแต่เด็ก) หล่นต้นไม้จ้า !! เงิบ  -_-" (หน้าผม) ไม่เป็นอะไร ไอพวกนักฆ่ายังมีธนูกับมีด พวกนี้โครตแม่นเลยตอนซ้อม นางเอกซวยละ ฟ้าววววว.... ว่าว........ O.o (หน้าผม) ละ...แล้วมันจะทำไงต่อ....นะ...นอนหลับอุตุ.... !! ไหนใครเฝ้ายาม ไม่มี!! __นักฆ่าก็ฝึกฆ่าสิคะ...คือการเอาตัวรอด ปีนป่ายก็คงฝึก แต่ต้นไม้ที่มีแต่ตาแบบนี้่ถ้า ไม่เคยชินก็คงจะปีนได้ยาก อย่างที่บอกไปค่ะว่าสนามประลองเปลี่ยนทุกปีนะคะ... ไม่มีใครรู้ว่าสนามประลองปีไหนจะเป็นไง ให้ฝึกมาทุกอย่างคงจะไม่ได้มั้งคะ......... __เฮย์มิตช์(พี่เลี้ยงเขตนางเอก)บอกไว้ว่า "พวกเขต 1 2 เป็นเขตที่เก่งและมักจะทะนงตน ตรงนี้แหละที่เป็นจุดอ่อนที่สุด" นอนรวมกันไม่เฝ้าเวรยามก็ไม่แปลกค่ะ ถ้าเกิดมีคนมาลอบทำร้ายรึอะไรจริงคิดว่าคนที่เข้ามาจะรอดเหรอคะ? 55 -ฉากต่อไปพอรับได้ที่เอารังแตนหล่นใส่ ถือว่าโชคดีและฉลาดพอตัว ชอบครับ ส่วนฉากภาพหลอนใส่มาทำไมหว่าจะหลับแทนนางเอก __ไม่ได้ฟังเหรอคะว่าแทรคเกอร์แจคเกอร์ที่เป็นต่อที่ต่อยนางเอกสามารถสร้างภาพหลอน ให้กับคนที่โดนต่อยได้ และถ้าโดนต่อยมากอาจถึงตาย..... .......เอ แล้วเค้าใส่มาทำไมนะ? 555555555 -น้องผิวสีน่ารักแฮะ แต่ผมเห็นยมทูตมารอรับน้องเค้าแล้วแหละ แล้วก็เป็นดังคาดตายจริงๆ ตอนนางเอกวิ่งไปช่วยน้องเค้า ผมระแวงว่าจะโดนซ้อนแผนคือรอให้คนมาช่วยก่อน แล้วค่อยมาจู่โจม ไม่มีอะไรเลยจริงๆ วิ่งดุ่มๆเข้าไปช่วยแบบไม่ต้องมองอะไรเลย แล้วก็มีโมเมนท์ให้ซึ้ง...แต่ผมไม่ซึ้งเลย เพราะอะไรไม่รู้ปกติฉากแบบนี้ผมอินนะ __แหม่..คนที่ตัวเองรักตกอยู่ในอันตรายใครจะไปมีเวลาวางแผนดุ่ม ๆ นางเอกก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาคนนึงนะคะ...ไม่ได้สายลับอะไรค่ะ orz -แล้วผมงงการก่อจราจลด้วย จัดมาตั้ง 70 กว่าครั้ง เพิ่งมีอารมณ์อยากต่อต้านตอนนี้นี่นะ !! ถ้าบอกว่าจัดครั้งแรก ผมอินผมเชื่ออารมณ์ในหนัง แต่นี่อะไรเพิ่งรู้ตัวว่าควรจะต่อต้าน ? ไม่เคยเกิดจราจลมาก่อนจริงอะ ? __ไม่ได้ยินเหรอคะว่าประธานาธบดีเคยพูดไว้ว่ายังไง เค้าพูดประมาณว่า "เปลวไฟถ้าควบคุมได้มันก็จะไม่ลุกลาม" ฟังจากคำพูดของประธานาธิบดีบอกได้ เลยค่ะว่าการจราจลเกิดขึ้นมาก่อนอย่างแน่นอน เพียงแต่นางเอกเป็นอีกคนที่จุดเปลว ไฟขึ้นมาอีกครั้ง แต่จะโหมกระพือหรือมอดไปอันนี้มันก็แล้วแต่อนาคตและการควบคุม... -โอ้.... เริ่มบ่นเยอะแล้ว อีกนิดจะจบแล้วครับ "น้ำหายาก" ตรงไหน....??? ภาพที่เห็นในหนังคือน้ำอุดมสมบูรณ์มาก จุดพีคที่โชว์ทักษะนางเอกว่าเป็นเทพล่าสัตว์ให้คนดูรู้สึกตื่นเ้ต้นมันอยู่ตรงหนาย ? แถมตอนสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมา มันคิดบ้างมั้ยถ้าสัตว์ประหลาดแดรกผู้เข้าแข่งขันหมดจะทำไง = = ที่เปลี่ยนกฏไปมาอีก...ไม่ขลังเลย !! มันดูง่ายพิลึก !! __อ ย่ า ง ที่ บ อ ก ไ ป ค่ ะ อีกรอบนะคะ ว่า "ลานประลองเปลี่ยนทุกปีค่ะ" ถ้าเกิดลานประลองปีนี้เป็นทะเลทราย...........น้ำจะหายากมั้ยคะ? 555555 __นางเอกยิงธนูเก่งไม่ได้แปลว่าสร้างหนังมาให้นางเอกเป็นนักยิงธนูค่ะ... ประมาณว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ถนัดอ่ะค่ะ หนังต้องเน้นขนาดนั้น? __ก็เค้าสร้างสัตว์ประหลาดมาให้ฆ่าผู้เข้าแข่งขันที่เหลือกัน 4 คน ได้แก่ พระเอก นางเอก เคโต้เขต 2 และเทรชเขต 11 สัตว์ประหลาดฆ่าเทรชเขต 11 ไป 1 คน อีก 3 คนฆ่ากันเองอย่างที่เห็นในตอนท้ายเรื่อง....ก็เหมือนเดิมค่ะที่บอกว่า เกมนี้สร้างมาเพื่อความสนุก ถ้าอยากให้สัตว์ประหลาดฆ่าคนหมดจริงก็ไม่ต้องแข่งกันแล้วค่ะ..... อย่างที่ประธานาธิบดีพูดไว้ว่า "เราสร้างเกมขึ้นมาทำไม? ถ้าอยากให้เห็นคนฆ่ากันจริงก็จับ เด็กมาฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง...แต่สิ่งที่เราอยากให้ประชาชนเห็นคือ"ความหวัง"...สิ่งที่มีอานุภาพ ยิ่งกว่าความกลัว เพราะอย่างงี้เราถึงต้องสร้างเกมนี้ขึ้นมาไง" ค่ะ............... __ที่กฎเปลี่ยนเพราะส่วนนึงคือต้องการควบคุมประชาชนและชาวแคปปิตอลไม่ได้ลุกฮือ นะคะ...อย่างตอนที่เฮย์มิตช์มาเจรจากับผู้คุมเกมค่ะ ผู้คุมเกมพูดประมาณว่า "คุณก็เห็นแล้วว่าแต่ละเขตเป็นยังไง(ลุกฮือขนาดไหน) ถ้าคุณมีทางเลือกดี ๆ ก็ลองเสนอให้ผมฟังดูสิ" ...จากนั้นเฮย์มิตช์ก็เสนอไปค่ะ...จากนั้นก็เลยเปลี่ยนกฏ อย่างที่เห็นนะคะ แต่พอเปลี่ยนแล้วกลับแย่กว่าเก่า (เป็นเนื้อเรื่องชักนำไปภาคต่อไป) ตามนั้นย์ค่ะ ชอบ >>> แนวคิดเรื่อง,นางเอกสวย,ตัวเอกฉลาด __เข้าใจแนวคิดเรื่องจริงเหรอคะ? 55 ผิดหวัง >>> การต่อสู้ หนังเหมือนเน้นการเอาชีวิตรอด แต่ไม่สมจริงเอาซะเลย หน่อมแหน้มมาก คิดในใจว่า หนังเรื่องนี้ทำมาจากนิยายเ้น้นความรักสามเศร้าแน่ๆ....ฉากต่อสู้ถึงเพลียได้เช่นนี้ = = และก็จริงดังที่คิดไว้ มันมาจากนิยายจริงๆด้วยแฮะ __หนังไม่ได้เน้นเรื่องเกมด้วยซ้ำค่ะ....รักสามเส้าก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก คือแต่ละประเด็นมันถัวเฉลี่ยกันไป ไม่มีอะไรเด่นชัดเจนขนาดนั้น(ในความคิดของเรา)นะคะ... -โมเม้นท์รักสามเศร้าและความรู้สึกนางเอกจริงๆ __ในหนังไม่ได้เน้นเรื่องรักสามเส้าค่ะ...แถมในนิยายก็อธิบายเป็นตัวหนังสือ ในหนังอธิบายด้วยภาพ ความรู้สึกจะเห็นชัดเจนต่างกันยังไงก็ตามนั้นนะคะ.... -ตอนพวกนักฆ่านอนเฝ้านางเอก มีการเฝ้ายาม มีการจับอาวุธไม่ปล่อยมือ ผลัดกันเฝ้ายาม __อันนี้ไม่ขอแย้งค่ะ มีการเฝ้ายามจริง - ในกลุ่มนักฆ่าเองที่มารวมกลุ่มกันก็มีเหตุผล __แล้วในหนังไม่มีเหรอคะ? - เหตุผลที่เปลี่ยนกฏแบบชัดๆ __ในหนังไม่ชัดเหรอคะ? - เหตุผลการเมือง ที่นำไปสู่ภาคต่อไป (ในหนังผมไม่รู้สึกเลย 555) __เราเห็นประเด็นนะคะ....ประธานาธิบดีก็พูดโต้ง ๆ บางอย่างในเรื่องก็สื่อโต้ง ๆ ค่ะ ไม่เห็นได้ไง งง 5555 -สรุป ผิดหวังกับตัวหนังทั้งๆที่ผมชอบแนวคิดของเนื้อเรื่อง ผิดหวังกับฉากแอคชั่นที่คิดว่าจะได้ลุ้นระทึก และผมจะลองไปหานิยายมาอ่านดูดีกว่า ท่าทางจะสนุกกว่าเยอะ เพราะคงได้รู้รายละเอียดความรู้สึกของตัวละครมากกว่านี้ __นิยายย่อมละเอียดกว่าหนังอยู่แล้วค่ะ....ลองเทียบดูกับหนังที่สร้างจากนิยาย เรื่องอื่นนะคะว่ามีเรื่องไหนทำได้ดีครบถ้วนสมบูรณ์แบบมั่ง จะลองไปหามาดูค่ะ __...ลุ้นระทึกแบบไหนคะ? แบบแอคชั่นสมบูรณ์แบบอย่างฮอลลิวู้ดเงี้ยเหรอ? ผู้กำกับเค้าตั้งใจจะสร้างเรื่องนี้ให้เหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์ ให้เหมือนมันเกิดขึ้นจริง ไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาเป็นหนังฮอลลิวู้ดค่ะ ถ้าอยากดูหนังฮอลลิวู้ดก็ไปดูหนังฮอลลิวู้ดค่ะ เพราะคุณไม่ได้อยากดู THG จริง ๆ เราค่อนข้างจะงงนะคะว่าเราไม่ได้อ่านหนังสือแต่ก็รู้และเข้าใจในเกือบทุกส่วน ในหนัง สงสัยเราจะเป็นเด็กที่ดูหนังแล้วคิดตามได้ ไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่ดูแล้ว คิดไม่ได้แถมสักแต่ด่า ขอบคุณค่ะ : DDD ป.ล. "สิ่งที่เหมาะกับนิยายอาจจะไม่เหมาะกับหนัง" ค่ะ ป.ล.๒ เราจะไม่ไล่ไปอ่านหนังสือใหม่หรอกค่ะ แต่จะไล่ไปดูหนังใหม่ และดูให้ดี ๆ เก็บรายละเอียดให้เยอะ ๆ แล้วจะเข้าใจเองค่ะ...ไม่รู้นะ แต่เราดูหนังครั้งแรก ครั้งเดียว เราก็ไม่เห็นจะสงสัย ไม่เห็นจะงงอะไร เหมือนคนอื่นเลย (นอกจากการเปลี่ยนบทกับความขัดกันของเนื้อเรื่อง เช่น บอกว่าสปอนเซอร์สำคัญมาก แต่ในหนังสปอนเซอร์มีบทบาทนิดเดียว) ป.ล.๓ ดูแล้วไม่เข้าใจก็อย่ามาพูดเลยค่ะ...เราดูแล้วเราเข้าใจ ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ ป.ล.๔ อย่าเอาไปเทียบกับแฮร์รี่ เพอร์ซีย์ แจ็คสัน ทไวไลท์ หรืออะไรเลยค่ะ รายละเอียดกับประเด็นมันไม่เยอะเท่า THG...ผู้กำกับเค้าคงเนื้อหาไว้ ได้มากขนาดนี้ก็เก่งมากแล้วค่ะ ป.ล.๕ ใครแย้งอะไรบอกได้นะคะ เรายินดีถกประเด็น  : DD [แก้ไข] จัดบรรทัดใหม่ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 18:25:57 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 18:24:26 จากคุณ : Canxe (CANXENE) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 18:17:41

ความคิดเห็นที่ 81 ^ ^ อ่านที่คุณเถียงมาก็เท่านั้นครับ เหมือนคุณมาช่วยหนังมากกว่าครับ มันไม่สมเหตุผลเลยครับ มีถ่ายทอดสดทุกปี แต่คนที่มาแข่งคิดอะไรไม่ได้ แล้วนักฆ่ามันง่อยมากครับ ฝึกมาไม่รู้กี่ปี ชนะเกือบทุกปี ทำได้แค่นี้ คิดดูคนที่ซ้อมอะไรเดิมมาตั้งแต่เด็กจนอายุ 18 ปี ฝีมือมันมีแค่นี้หรอครับ นอกนั้นก็เดิมๆไม่อยากพิมพ์ซ้ำๆครับ = = หลักการเอาชีวิตรอดในเกมแบบนี้มันมีแนวทางอยู่แล้ว เช่น 1.แหล่งน้ำ,อาหาร <<< นักฆ่าย่อมไปดักฆ่าตรงนี้อยู่แล้ว 2.ซ่อนตัวให้มิดชิด <<< จุดไฟเป็นการชี้ตำแหน่งตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย 3.อย่าไว้ใจใคร <<< เพราะเอาผู้ชนะเพียงหนึ่ง ขนาดผมเป็นคนธรรมดาผมยังรู้เลยครับเรื่องพวกนี้ ให้พิมพ์เยอะกว่านี้ก็ได้ครับแต่ขี้เกียจ สงสัยถ้าเอาผมไปสอนเด็กพวกนี้ คงชนะกันทุกปีอะครับ เพราะผู้แข่งขันคนอื่นอ่อนด๋อยมาก = = ......... เอาแค่คุณบอกว่า หนังทำให้เหมือนจริง <<< มันไม่เหมือนจริงเลยครับ ง่อยมาก เกมเอาชีวิตกันมันต้องกดดันกว่านี้ครับ ไม่ใช่ทำอะไรก็อ้อยอิ่งเหมือนมาแคมปิ้ง เป็นเกมเอาชีวิตที่ผู้แข่งขันกากมาก = = ง่ายๆคุณยังไม่เข้าใจคำว่าลุ้นระทึกของผมเลย ไม่ใช่ให้บู๊ล้างผลาญเอามันแบบฮอลีวู้ด แต่ผมหมายถึง "สภาวะกดดันและความตึงเครียดในเกมที่ต้องฆ่ากัน" ตะหาก มันไม่มีในตัวหนังเลย ตายกันทีก็แค่แบบว่า "อ่อ ตายซะแล้ว ตายโง่ด้วย" คุณอาจจะยังเสพหนังไม่เยอะพออะครับ หรืออาจจะไม่เคยเสพสื่อบันเทิงแบบโหดๆเลยก็ได้ เลยไม่เข้าใจคำว่า "ลุ้นระทึกของการฆ่ากัน" ไม่ใช่บู๊เอามันส์แบบหนังฮอลลีวู้ดนะครับ โปรดเข้าใจด้วย = = แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 22:35:07 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 22:31:48 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 22:26:34 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 22:24:39

ความคิดเห็นที่ 82 ถ้าคุณ"เชื่อ"ในหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด ถ้าคุณได้เข้าไปแข่งเกมนี้ คุณคงเป็นคนแรกๆที่จะตายอะครับ เพราะหนังเรื่องนี้ทำประเด็น "เกมการเอาชีวิตรอด" ออกมาได้ง่อยมาก ไม่สมจริงเลย จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 22:30:00

ความคิดเห็นที่ 83 เราไม่เถียงหรอกค่ะว่าเราเป็นคนที่จะตายคนแรก ๆ เพราะเราทำอะไรไม่เป็นเลย แค่เรื่องกำลังกายก็สู้ใครเค้าไม่ได้ละ 5555 แต่หนังลุ้นระทึกนี่มันต้อง...โหด เลือดสาด อย่างเดียวเหรอคะ? สงสัยจะไม่เคยดูหนังลุ้นระทึกที่ไม่โหด ไม่มีเลือดเบย XD แหม่ คุณก็พูดยังกะพวกบรรณาการไว้ใจกันมากนัก ไม่เคยเห็นหนังที่โจรร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์เหรอคะ D: ไม่เข้าใจจริง ๆ ค่ะ....คนเทพนี่ต้องตายอลังเหรอคะ? แบบไหนคือตายอลัง ฮาา ส่วนตัวคิดว่าความตายธรรมดา ๆ โง่ ๆ เนี่ยแหละที่สมจริง... เพราะชีวิตคนเราจะตายไม่ต้องมีงั้นงี้หรอกถึงจะเก่งมาจากไหนก็เถอะ นิดเดียวก็จอดแล้วค่ะ แล้วเข้าใจคำว่าคนไม่รู้ก็คือไม่รู้มั้ยคะ 5555 เด็กตัวเล็ก ๆ อ่า...จะรู้อะไรแค่ไหนกันเชียว ต้องเข้าใจนะคะว่าสภาพภูมิประเทศ แล้วก็หน้าที่ในแต่ละเขตมันไม่เหมือนกัน อย่างพวกมืออาชีพที่ฝึกมาปีนต้นไม้ไม่เป็น ก็ไม่แปลกค่ะ...เขต 1 เขต 2 มันมีต้นไม้ให้ปีนซะที่ไหน ถึงมีก็ทำได้ไม่ดีเท่ากับคนที่ ปีนต้นไม้อยู่ทุกวันหรอกค่ะ ความเป็นอยู่ก็ดีกว่าเขตอื่น ทำเพชรพลอยไรเงี้ย orz บรรณาการแต่ละคนไม่ได้สมัครใจมาหรอกค่ะ แล้วก็ไม่ได้อยากดูคนฆ่ากันด้วย เค้าไม่ใช่ชาวแคปปิตอลที่เกมนี้สร้างมาให้โดยเฉพาะ เค้าก็เป็นคนธรรมดา ๆ คิดว่าถ้าเอาคนทั่วไปไปปล่อยป่า น้ำอาหารไม่มีให้ คิดว่าจะมีซักกี่คนที่รอดคะ? สงสัยเราจะคิดลึกเกินไปมั้งคะเลยเห็นอะไร ๆ ในหนังเรื่องนี้เยอะกว่าคนอื่นเค้า ฮาา จากคุณ : CANXENE เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 07:19:59

ความคิดเห็นที่ 84 อ้อ ที่เราโพสต์ไปอ่านจบหมดแล้วใช่มั้ยคะ ส่วนอื่นของหนังที่งงก็คงรู้แล้วนะคะว่ามาจากตรงไหน อะไรยังไง ขอบคุณที่ให้ความสนใจค่ะ : D จากคุณ : CANXENE เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 07:25:12

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านคห.80แล้วจะบอกว่าดูแล้วมีเหตุผลตามที่คุณว่านั่นแหละค่ะ แต่ที่บอกว่าไม่เข้าใจๆๆไม่ใช่ไม่เข้าใจเนื้อเรื่องไม่เข้าใจว่าทำออกมาแบบนี้ได้ยังง๊ายยยย บทมันอ่อนแอ่ค่าาาาา ทำให้ตัวละครแต่ละตัวไม่โดดเด่นขนาดนางเอกเล่นดีก็ยังไม่ทรงพลังพอ(ไม่ได้หมายถึงท่าทาง อากัปกิริยาหรือแอ๊กชั่นต่างๆของนางเอกนะคะ หมายถึงฉาก-บท-ที่ส่งนางเอกให้ดูทรงพลังค่ะ) เนื้อเรื่องดูแล้วก็เข้าใจแต่นำเสนอไม่น่าชมไม่น่าติดตามหน่อมแน้มๆตลอดเวลาเหมือนต้มน้ำพอจะเดือดๆๆไฟก็ดันดับ(ซะงั้น) ไม่ต้องนับว่าหนังสือดีกว่านะเพราะเค้าทำหนังมาให้ดูก็พูดได้เฉพาะแค่หนังที่ดู **แต่หนังลุ้นระทึกนี่มันต้อง...โหด เลือดสาด อย่างเดียวเหรอคะ? สงสัยจะไม่เคยดูหนังลุ้นระทึกที่ไม่โหด ไม่มีเลือดเบย XD ---มีหนังลุ้นระทึกที่โหดเลือดไม่สาดเรื่อง funny game ลองดูแล้วจะเข้าใจค่ะว่าบทดีบีบหัวใจมันเป็นยังไง(เพิ่งนึกออกว่าเคยดูเมื่อไม่กี่วันนี้เองจากกระทู้ในพันทิปนี่แหละ) อีกเรื่องที่เลือดสาดพอเป็นกระสัยแต่ซึ้งใจลุ้นระทึกมากๆชอบมากๆก็ A man from now here หนังเกาหลีค่ะ บทพูดมีไม่มาก บทบู๊มีไม่เยอะ เลือดสาดเล็กน้อยแต่เร้าใจลุ้นระทึกมากๆ hunger gameนี่ไม่ต้องไปเทีียบกับหนังแอ๊กชั่นเลือดสาดสไตล์ฮอลลีวู้ดหรอกค่ะเพราะมันคนละแนว ตอนดูก็ไม่ไ้ด้คาดหวังว่าต้องมันส์สสสสสสสสสกระจายไรงี้ แต่พอดูแล้วมันยิ่งเกินกว่าที่ไม่ได้หวังอีกค่ะ หนังไม่สนุกขาดความสมจริง(ไม่ใชไม่เข้าใจเหตุผลของมันนะแยกให้ออก) นำเสนอแต่ละฉากไม่น่าติดตาม พอกำลังจะดีๆๆก็ดันแผ่ววววแล้วจะไม่หลับได้ไง --..-- จากคุณ : ต้าple เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 10:25:25

ความคิดเห็นที่ 86 หนังมีเหตุผลในความหมายของคุณมันคืออะไรคะ? คือจะบอกว่าเถียงข้าง ๆ คู ๆ ก็ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าภาคนี้ยังไม่ต้องทรงพลังหรอกค่ะ ที่ควรจะทรงพลังคือภาคต่อไปมากกว่า ภาคนี้ควรจะคงความเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาไว้ค่ะ สงสัยเราจะคิดลึกกว่าชาวบ้านเค้าจริง ๆ มั้งคะ 55 เรื่องที่คนอื่นว่าดีนักหนาเราก็เฉย ๆ แต่บางเรื่องที่มันลึกซึ้งหน่อยเรากลับชอบ : DD จากคุณ : CANXENE เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:15:22

ความคิดเห็นที่ 87 **หนังมีเหตุผลในความหมายของคุณมันคืออะไรคะ? --อ้าว? ก็มีเหตุผลแบบที่คุณอธิบายไว้ไงคะ ส่วนภาคนี้ยังไม่ต้องมีพลังเอาไว้ภาคต่อไปก็ได้นี่ ตอนไปดูไม่รู้นี่คะว่ามันต้องมีภาคต่อไปด้วย? ก็เลยครึ่งๆกลางๆ บทไม่ลึกแล้วก็ไม่ซึ้งด้วยค่ะ ^^ จะว่าไม่ควรคาดหวังอะไรก็ไม่ได้คาดหวังนะแค่คิดตามทีเซอร์โฆษณาที่ออกทีวีว่าเป็นหนังแนวsurvivalปนๆแอ๊กชั่นก็คิดตามนั้นแหละค่ะ แต่พอดูแล้วบทหนังทำออกมาให้เชื่อไม่ได้ว่าทุกๆตัวละครพยายามเอาตัวรอดแบบเอาจริงเอาจัง แต่ละฉากแต่ละตอนเหมือนมาsummer campน่ะค่ะ จากคุณ : ต้าple เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 17:37:05

ความคิดเห็นที่ 88 ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่ามีภาคต่อไปจนกระทั่งกลับมาหาข้อมูลอีกทีเหมือนกัน แต่อาจจะเพราะไปแบบไม่รู้พล็อต ไม่เคยดูเทรลเลอร์ เห็นแค่โฆษณาเลยลุ้นมากมั้งคะ ฮา จากคุณ : CANXENE เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 19:32:53

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ"ต้าple" ตอบคุณ CANXENE แทนผมแล้ว ผมก็เลยไม่รู้จะพิมพ์อะไรดี ---------------- ยกตัวอย่างอะไรนิดนึง สมมติว่า อีกเดือนนึงคุณจะแข่งรายการ "สนุกสุดขั้ว ชุดแชมป์เฉือนแชมป์ ตอนซาสึเกะ คนซ่าท้าเกมส์โหด" ถ้านึกไม่ออกก็รายการช่องเก้าตอนเย็นๆที่ ต้องใช้กำลังกายและไหวพริบฝ่าด่านต่างๆ ห้ามตกน้ำน่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแพ้แล้วคุณจะตาย ถามหน่อยว่าคุณจะไม่เตรียมตัวอะไรเลยหรอ ? กลับมาดูหนังเรื่องนี้อีกที สมมติผมเป็นเด็กในเรื่องนี้พอสักสิบขวบผมก็รู้ตัวแล้วว่าผมอาจจะโดนเข้าไปเล่นเกมนี้ได้ (เพราะมันมีมาแล้ว 74 ปี) ถ้าผมแพ้ผมตายแน่ๆ ผมคงฝึกทุกอย่างที่ต้องเอาชีวิตรอดละครับ ไม่ง่อยๆไปแข่งแน่นอน ผมมีเวลาสองปีในการฝึกตัวเอาชีวิตรอดนะครับ ฝึกวางกับดัก ฝึกพรางตัว ฝึกสภาวะอดอาหาร เยอะแยะ ปีนี้ไม่โดน ปีหน้าก็ไม่แน่ ได้เวลาฝึกเพิ่มอีก 1 ปี แถมถ้าผมโดนสุ่มได้ขึ้นมา ผมมีเวลาซ้อมอีกตั้งหลายวัน สบายๆ มีคนมาแนะนำอีก ชิลๆ อย่าลืม !!!! พวกเขต 1 และ 2 ฝึกจนอายุ 18 นะครับ ไม่เด็กแล้ว ฝึกเต็มที่แล้วสมัครเข้าไปเอง (ไหนคุณบอกว่าคุณดูแล้วเข้าใจทุกอย่าง ทำไมตรงนี้ทำลืม หนังบอกอยู่) คุณเห็นตอนซ้อมมั้ย แม่นชิหาย แต่พอฉากไล่ล่านางเอก ... ยิงว่าว !! ตลกละ เป็นนักฆ่าที่ไม่สมกับนักฆ่าอะไรเลย ผมอ่านที่คุณแก้ตัวให้หนังมา มัน"ฟังไม่ขึ้น"ครับ หนังบอกเองนะครับ หนังโชว์ความสามารถของนักฆ่า ให้คนเข้าใจว่ามันเก่งมันโหด แต่พอเริ่มเกมจริงๆ ... ง่อย กาก โง่ เพียงเพื่อจะส่งบทให้นางเอกชนะ = = ------- อีกอย่าง เหมือนที่คุณ"ต้าple" บอกแหละครับ หนังมันไม่มีพลัง มันไม่แบบว่า "โห ว้าว นางเอกแมร่งเจ๋งว่ะ" แต่อารมณ์ผมตอนดู .... "อ้าว...ตัวร้ายง่อย ตายโง่จัง" เปรียบเทียบกับหนังเรื่อง the expendables 1-2 ดูนะครับ ผู้ร้ายโง่เหมือนกัน ยิงเป็นร้อยๆนัดไม่โดนพวกตัวเอกเลย แต่ทำไมทุกคนรู้สึกได้ว่า "พวกตัวเอกแมร่งเจ๋งโครต" ลองคิดดูนะครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 55 20:29:03 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 55 20:21:06 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:19:26

ความคิดเห็นที่ 90 ขอแย้งค่ะว่าพวกมืออาชีพเขต 1 2 เก่งจริงแต่ไม่ได้เก่งทุกอย่างค่ะ ขอแย้งในกรณีกลิมเมอร์เขต 1 นะคะ กลิมเมอร์ยิงธนูไม่กลางเป้าค่ะ นางเอกยิงได้แม่นกว่าแต่อาวุธกลิมเมอร์เป็นธนู ก็เห็นข้อดีข้อด้อยนะคะ ก็เปรียบได้กับกลิมเมอร์ยิงเฉียด แคตนิสยิงโดนค่ะ ส่วนเรื่องการฝึกเนี่ย....เด็กในเขตอื่นเค้าไม่มีเวลามาให้ฝึกกันหรอกค่ะคุณ วัน ๆ ทำงานแทบไม่ได้นอนเวลากินข้าวก็ไม่มี(อันที่จริงข้าวไม่มีให้กินด้วยซ้ำ) แล้วจะเอาเวลาไหนมาฝึกเตรียมตัวคะคุ๊ณณณ คนทำอะไรไม่เป็นเลยมาฝึกในเวลาแค่สามสี่วันแล้วเก่งเทพชนะคน 23 คนได้นี่... ใช่คนป่ะคะ? : DD แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 55 23:58:00 จากคุณ : CANXENE เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 23:56:40

ความคิดเห็นที่ 91 ไม่ว่าอะไรใช่มั้ยถ้าจะบอกว่าไม่เชื่อเลยว่าคุณ CANXENE จะไม่เคยอ่านหนังสือ เหอๆๆๆ ศัพท์แสง หลักการณ์ที่ยกมาแกต่างของคุณน่ะอาจจะหลอกคนดูหนังอย่างเดียวได้่ แต่หลอกคนดูหนังแล้วอ่านหนังสืออย่างผมไม่ได้หรอกนะ เหอๆๆๆๆๆๆๆ สุดท้ายนี้ก็เพราะแฟนคลับอย่างงี้ล่ะนะ ที่ทำให้หนัง+หนังสือโดนรังเกียจ  เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กล้าพูดนะว่าไม่ได้อ่านหนังสือ ไม่รู้จักเลยยยยยย เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Berserk Rabbit เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 00:40:11

ความคิดเห็นที่ 92 จริงๆแล้วในหนังสือ นางเอกปีนขึ้นไปสูงมาก สูงจน นน. ของพวกมืออาชีพที่ตามมาไม่มีทางขึ้นไหว แน่ๆ แต่ในหนัง ต้นไม้ทำมาซะเตี้ยเชียะ เลยกลายเป็นพวกมืออาชีพดูง่อย ไม่สมราคาเลย ส่วนตัวคิดว่าอ่านหนังสือสนุกกว่าละค่ะ เพราะมีอะไรที่ไม่มีในหนังเยอะเลย อีกอย่างเป็นพวกชอบอ่านมากกว่า จิ้นเสียงเองได้ จิ้นหน้าตาพระเอกนางเอกตัวละครเองได้ด้วย หนังภาคต่อๆ ไปก็คงดูแหละค่ะ ดูมาแล้ว แต่คงไม่เครซี่เท่าอ่านหนังสือ จากคุณ : July1st เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 04:00:19

ความคิดเห็นที่ 93 ถึงคุณ Berserk Rabbit บอกไปแล้วในคอมเมนท์อันแรกที่แสดงความเห็นไปค่ะว่า "ตอนที่ไปดูตอนแรกไม่ได้อ่านหนังสือ ไม่ได้ดูเทรลเลอร์ ไม่รู้พล็อตเรื่อง เห็นแต่ โฆษณาในทีวีไม่กี่ครั้ง" ...แต่ตอนนี้อ่านจบทั้ง 3 เล่มแล้วค่ะ เพราะชอบมากเลยตามมาอ่านหนังสือต่อแล้วก็เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ตอนดูหนังเราเข้าใจทุกอย่างในหนังยกเว้นอารมณ์ของตัวละครที่สื่อออกมาเพราะ มันไม่ค่อยเคลียร์ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างเกลกับแคตนิสดูไม่เคลียร์ (ไม่อ่านหนังสือคงไม่รู้ว่าไม่ใช่แฟนกัน เป็นแค่เพื่อน) ตอนพีต้าโบกมือให้ชาวแคปปิตอลบนรถไฟ (ไม่รู้ว่าทำไปเพราะคึก สนุก หรือ เพราะมีจุดประสงค์อะไรแบบในหนังสือบอก) ฯลฯ เราชอบ"หนัง"ทั้ง ๆ ที่(ยัง)ไม่ได้อ่าน"หนังสือ"ค่ะ...คือชอบหนังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วก็ชอบเรื่องด้วยเลยมาหาอ่านนิยายต่อ...เข้าใจนะคะ? ในหนังเค้าบอกเหตุการณ์ทั้งหมดครบถ้วนแล้วแต่เป็นจากคำพูดตัวละครค่ะ คิดตามไม่ได้ ดูตามไม่ทันก็คงไม่รู้ กลับมาดูใหม่อีกสองสามรอบก็คงจะดีขึ้น ตอนเราดูเราก็ได้เนื้อหาหลักเกือบทั้งหมดที่ในหนังบอกจากในหนังค่ะ... หรือคุณไม่ได้? 55 แต่ละคำที่เรายกมาอ้างก็เป็นคำพูดที่มีอยู่ในหนังทั้งสิ้นนะคะ ไม่ได้อ้างจากใน นิยายเลยค่ะ กรุณาอ่านดี ๆ ด้วย จะเชื่อรึไม่เชื่อก็ตามใจนะคะ แต่เราจะโกหกไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาค่ะ จะให้เราสาบานเจ็ดวัดเก้าวัดก็ได้นะคะ หึหึ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 17:11:26 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 17:02:14 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 17:00:15 จากคุณ : CANXENE เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 16:56:13

ความคิดเห็นที่ 94 โอววว...ปริศนาไขกระจ่างแล้ว5555555 อ่านหนังสือไปแล้วมันก็ต้องรู้สิคะคู๊ณณณณณณณณณ นี่เค้าคุยกันแค่คน"ดูหนัง"อะค่าาา ขนาดดูออกมาแล้วยังจำชื่อใครไม่ได้สักคนนอกจากแคทนิส(นางเอก) นอกนั้นเรียก"นังหัวทอง","เด็กหัวหยิก","ไอ้ดำ","ไอ้ขี้เก๊กเขต1"ฯลฯอื่นๆที่เห็นคุณลักษณะจากในหนัง คุณอ่านหนังสือไปแล้วจะมาถกไปทำไมละคะ คนดูหนังไม่ได้อ่านหนังสือเค้าก็พูดแต่เรื่องที่ดูในหนัง พูดถึงความสมจริงสมจัง พูดถึงอรรถรสในการเสพภาพยนต์ค่ะ คุณอ่านหนังสือ(ถึงจะอ่านหลังจากดูก็เหอะ)คุณย่อมต้องเก็บรายละเอียดได้มากกว่าอยู่แล้วค่ะ ระดับความจำได้ของคนอยู่ที่"อ่าน"และ"เขียน"แล้วถึงจะเป็น"ดู"และ"ฟัง"ค่ะ คนที่ดูเรื่องนี้(ที่ไม่ได้อ่่านหนังสือมาก่อน)จะมีสักกี่คนที่จำรายละเอียดต่างๆได้แม้แต่ชื่อตัวละครทุกตัวก็จำได้หมดคงจะมีแค่ไม่กี่คนหรอกค่ะ คุณเอาความละเมียดละไมของการประพันธ์เป็นตัวหนังสือมารวมกับภาพในหนังให้เป็นสิ่งเดียวกันนี่มันไม่ใช่แล้วค่ะ ที่เค้ากำลังพูดถึงคือ"หนังมันไม่สนุก"นะคะ ไม่ใช่"นิยาย"ไม่สนุกค่ะ จากคุณ : ต้าple เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 21:37:52

ความคิดเห็นที่ 95 อืม คุณเอาเหตุผลจาก"หนังสือ" มาปนกับ"หนัง" งั้นผมไม่เถียงละครับ คุณไม่เข้าใจผม ผมก็บอกอยู่ว่าผมดูจากหนังอย่างเดียว ว่าหนังมันทำออกมาไม่ดี มันทำออกมาไม่สื่อ ทำออกมาไม่สุด อ่านหัวกระทู้ใหม่ ช้าๆนะครับ "ตอนแรกผมรู้สึกสนุกกับหนัง" แล้วพอเริ่มเข้าเกม "ผมรู้สึกว่าหนังมันง่อยลงไปเรื่อยๆ" ย้ำอีกครั้ง ผม"ไม่รู้" ว่า"เนื้อหาของหนังสือ"มันเป็นยังไง เพราะ"ไม่เคยอ่าน" หนังอะไรทำออกมาแล้วให้คนต้องไปซึมซับความสนุกจากหนังสือ ?? --------- อย่างไอเรื่อง เพอซี่แจคสัน ผมดูหนังอย่างเดียว ผมไม่รู้ว่ามันมีหนังสือด้วย ผมก็ว่ามันสนุกดี อย่างเดทโน้ต มันทำมาจากหนังสือการ์ตูน แต่เปลี่ยนเนื้อเรื่องไปหลายอย่าง มันก็ยังดูสนุก คนไม่เคยรู้จักเดทโน้ตมาก่อน มาดูก็รู้สึกสนุก (ตอนนั้นกระแสหนังในกลุ่มคนรู้จักผมแรงมาก หลายคนไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน แต่ดูเดทโน้ตแล้วชอบกันทั้งนั้น) แบทเทิลรอยัล ผมก็ชอบจากหนัง แล้วตามไปอ่านมังงะทีหลัง ผมดูรอบเดียว ผมจำชื่อตัวละครไม่ได้หรอกครับ แต่ผมชอบไอโหดหัวทอง  ที่มันเคยชนะเกมนี้มาก่อน มันโหดสมราคาคุย สไปเดอร์แมนภาคล่าสุด ผมก็ว่ามันสนุก ทั้งๆที่ทำตามหนังสือการ์ตูนเป๊ะๆ แน่นอนว่าผมก็ไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อน แต่หนังเรื่องนี้ The Hunger Game  ผมดูแล้วไม่สนุก เลยมาตั้งกระทู้ว่า"หนัง"มันไม่สนุกตรงไหน ถ้าคุณยอมรับว่าให้ผมไปอ่านหนังสือดีกว่า หรือการที่คุณเอาเหตุผลในหนังสือมาอ้างอิง ก็เท่ากับคุณก็ยอมรับว่าหนังมันไม่สนุก จนต้องไปหาอ่านหนังสือเพิ่มนะครับ = = ปล.หนังทุกเรื่องผมดูรอบเดียวครับ ปกติผมดูหนังผมคิดตลอดนะครับ ไม่ใช่ดูผ่านๆ ส่วนตัวแล้วรอบเดียวผมก็ตัดสินใจได้แล้วว่าหนังมันสนุกหรือไม่สนุก ถ้าให้ผมไปดูซ้ำๆแบบคุณรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ผมก็ไม่พลาดหรอกครับ แต่หนังเรื่องนี้มันไม่สนุกตั้งแต่รอบแรก แล้วผมจะอยากดูซ้ำหรอครับ ผมถึงบอกว่า อยากไปหาหนังสืออ่าน เพราะรู้สึกว่าหนังสือคงสนุกกว่าแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 22:23:27 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:17:29

ความคิดเห็นที่ 96 อ๋อ เล่าอะไรให้ฟังครับ วันนั้นผมไม่สบาย ผมเลยนอนดูหนังไปสี่เรื่องครับ พอดีพ่อผมชอบซื้อแผ่นหนังมาดองไว้ แล้วหนังพวกนี้มันเพิ่งออกด้วย ผมเห็นกระแสมันแรงทุกเรื่อง เลยจัดเทศกาลนอนดูหนังให้ตัวเองครับ เริ่มด้วย Battle ship  >> ตอนยิงกันสนั่นตอนช่วงแรกผมหลับสนิทเลย ตื่นมากลางเรื่องก็เริ่มตาสว่างดูต่อจนจบ อินกับหนังจนได้ .. อืม "สนุกใช้ได้" ถึงตอนจบมันจะดูโครตแฮปปี้เอนดิ้งก็เถอะ cabin in the wood >> หนังโหดตัวละครปัญญาอ่อนแนวเดิมๆมาอีกละ ชอบนะครับไม่ใช่ไม่ชอบ 555 เมื่อก่อนดูบ่อยมากแนวนี้ แต่สงสัยจังว่าทำไมเรื่องนี้มีคนพูดถึงเยอะ ก็ดูไปเรื่อยๆ ไร้สมองตามตัวละคร แต่พอฉากใกล้ๆจบ ... มันสนุกมาก !! ตอนลิฟท์ติ๊งๆอะครับ หนังพีคสุดๆ The Hunger Game  >> เริ่มเรื่องมาเอื่อยๆ แต่สักพักเหมือนไฟจะติด ผมเริ่มอินแล้วครับ ยิ่งตอนฝึกซ้อมนี่แบบว่าผมรู้สึกสนุกมาก พอตอนเริ่มแข่งเกมพีคสุดๆครับ !! มันส์แน่ๆ นี่แหละที่รอคอย เรื่องนี้เป็นที่ 1 ในเทศกาลนอนดูหนังของผมแน่ ......... แต่สุดท้ายก็อย่างที่บ่นไป....หนังเพลียลงเรื่อยจนหนังจบไปแบบว่า.....พอเถอะ The Avenger >> ก็คิดว่าคงสนุกธรรมดาตามมาตรฐานหนังซุปเปอร์ฮีโร่ของค่ายนี้ คิดในใจว่าเอาไว้ดูแก้เครียด .... ที่ไหนได้ อินตั้งแต่ช่วงแรกๆของหนัง จนอารมณ์สนุกมันถึงขีดสุด แล้วก็รู้สึกมันส์ไปจนจบหนัง .... ทำให้เรื่องนี้แหละครับ เป็นหนังที่ดีที่สุดของเทศกาลนอนดูหนังของผมในวันนี้เลย อยากเล่าเฉยๆ ว่าเวลาผมดูหนัง ผมเป็นยังไง ในวันนั้นดูมา 4 เรื่อง แต่คิดดูว่าผมตั้งกระทู้ถึง The Hunger Game เรื่องเดียว เพราะมันผิดหวังจนอยากระบายในเน็ทเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 22:51:57 จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 22:46:19

ความคิดเห็นที่ 97 เราดูหนังจบแล้วไปตามอ่านหนังสือไม่ได้เหรอคะ? เราบอกตอนไหนว่านิยายไม่สนุก?? เราพูดถึงเรื่องหนังล้วน ๆ ค่ะ เหตุและผลที่เราเอามาอ้างก็มาจากตัวหนังเองล้วน ๆ ไม่ได้ยกเพิ่มเติมมาจากในนิยายเลยค่าาาาา 555555 ไม่เชื่อไปดูแล้วเทียบกันได้นะ มีในหนังหมดเบยยยยยยยยยยย ไม่มีในนิยายมาเพิ่มเบยยยยยยยยยย XDDDD ย้ำอีกครั้งนะคะว่าที่เรายกไปพูดในคอมเมนท์ที่ผ่าน ๆ มาด้วยเนี่ย ดูรอบแรก รอบเดียวเราก็ได้หมดนั่นแล้วค่ะ ที่ดูเพิ่มคือ "เก็บรายละเอียด" นะคะ ไม่ได้ถามแต่อยากบอกค่ะ กันโดนถาม XDDDDDD ถึงเราไม่อ่านนิยายยังไงก็ไปเก็บในแผ่นต่อ จำชื่อตัวละครเพิ่มได้อยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องถึงกับอ่านนิยายหรอก 55555 (จริง ๆ เราจำชื่อได้จากในหนังมากกว่าในนิยายด้วยซ้ำ : PP) ป.ล. เราบอกแล้วในคอมเมนท์แรก ๆ นะคะว่าจะไม่ไล่ไปอ่านหนังสือ แต่ให้ไป ดูหนังอีกรอบเพราะเราว่ามันสนุก ครบถ้วน มีการบอกเหตุผลในตัวหนังเอง ดูแล้วไม่งง แค่บางคนอาจจะไม่เห็น ไปดูอีกรอบจะได้รายละเอียดที่เยอะขึ้น ค่าาาาา ถ้าหนังไม่สนุกเราคงไม่ถึงกับเครซี่มากจนเป็นบ้าเป็นบอไปหานิยายมาอ่านแถมลงแดง ตอนรอเล่ม 3 ฉบับปรับปรุงออกวางจำหน่ายหรอกค่ะ XDDD แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 55 23:22:53 จากคุณ : CANXENE เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:13:02

ความคิดเห็นที่ 98 ว๊ายยยยยยย ลาแล้วค่าาาาาาาาาาาาาา5555555555555555 //เหาะออกจากกระทู้ไปอย่างไวแบบไม่เหลียวหลัง! จากคุณ : ต้าple เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:44:52

ความคิดเห็นที่ 99 ไปด้วยคร้าบบบบ ก่อนจะร้อยคห. ผมบ่นเรื่องเดิมๆมาเยอะแล้ว ไปหาหนังบ่นเรื่องใหม่ดีกว่า (ไม่ก็ภาคสอง เจอกันนะ) จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 00:02:22

ความคิดเห็นที่ 100 มาตอนละครเลิกแล้ว พึ่งจะได้ดูครับ ส่วนตัวผมว่าหนังก็งั้นๆ มันดูหน่อมแน้มจริงๆ อย่างฉากที่พวกไล่ล่านางเอกแล้วหนีขึ้นต้นไม้ ตลกมากครับ ไล่ฆ่ากันจริงๆ แต่ปีนต้นไม้ไม่ได้ ของในมือ ธนูครบ แต่ เอ้า เรารอกันข้างล่างนี่แหละรอให้ลงมาเอง แม่เจ้า นี่จะฆ่ากันจริงๆรึป่าวครับเนี่ย หรือเล่นไล่จับกันเฉยๆ? จากคุณ : อสูรกายจำแลง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:48:53