ความคิดเห็นที่ 1 1. ค่าลงทุนสูงมากกว่าหนังสือการ์ตูน (มาก)     หนังสือการ์ตูน (Manga, มังงะ) ในญี่ปุ่นค่าใช้จ่ายลงทุนค่อนข้างน้อย หลักๆ ไปเสียกับค่านักเขียนที่ลงทุนแค่ค่าเครื่องเขียนกับฝีมือ ซึ่งอาจต้องจ่ายค่าสัญญาหลักร้อยล้านเยนต่อปี กับค่าส่วนแบ่งที่ขายได้ประมาณ 10% แต่ก็แปรผันตามกำไรที่บริษัทได้รับอยู่แล้วจึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพียงแต่การแข่งขันจะสูงทำให้เรื่องใหม่ๆ เกิดยาก และหลายเรื่องเขียนเป็น 10 – 20 ปีขึ้นไป ก็ยังไม่จบ     สำหรับอนิเมะแตกต่างกัน เพราะบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีเยอะมาก ไม่ว่าจะโปรดิวเซอร์, ผู้กำกับ, คนดูแลเรื่องบท, อนิเมเตอร์, เพลงประกอบ และอื่นๆ ร่วม 100 ชีวิต เมื่อเอาค่าเวลาฉายที่สูงมากไปบวกกับต้นทุนแล้วค่าใช้จ่ายจะสูงมากขึ้นไปอีก ทำให้ส่วนใหญ่ต้องทำแบบ 3 – 6 เดือนจบ  (ขั้นตอนในการสร้างอนิเมะทาง TV แบบคร่าวๆ) จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:28:25

ความคิดเห็นที่ 2 2. กว่า 80% ของอนิเมะ เลือกฉายรอบดึกเพื่อลดต้นทุน...ไม่ได้หมายความว่าต้องติดเรตเสมอไป     ในสายตาคนต่างประเทศ ญี่ปุ่นอาจเป็นประเทศที่รุ่งเรืองในด้านการทำแอนิเมชั่น มีการสนับสนุนให้เป็นอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง แต่ในความเป็นจริงคนในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับละครทีวี, เกมโชว์ และรายการพิเศษมากกว่าการ์ตูนอยู่ดี เวลาฉายเรื่องใหม่ๆ จึงถูกกำหนดไว้ประมาณ 3 ช่วงดังนี้ รอบเช้าจนถึงสาย (เสาร์ – อาทิตย์)     ส่วนใหญ่เป็นการ์ตูนเด็กและการ์ตูนที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนดังๆ เช่น One Piece, Naruto, Toriko, Bleach, Hunter X Hunter (2011) เป็นต้น เป็นช่วงที่เจาะกลุ่มเด็กได้ดี แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เด็กเล็กดูด้วย จึงมีการลดความรุนแรงลงไปตามความเหมาะสม Hunter X Hunter ภาครีเมค (2011) ปรับจากเลือดเป็นกลีบดอกไม้แทน (ปรับให้โหดขึ้นหน่อยในภายหลัง แต่ก็ห่างไกลจากต้นฉบับอยู่ดี) แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 01:31:07 จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:30:21

ความคิดเห็นที่ 3 รอบเย็นจนถึงค่ำ (เสาร์ – อาทิตย์)     เป็นกลุ่ม เรื่องที่มีสปอนเซอร์รายใหญ่คอยหนุนหลังอยู่ โดยหวังเข้าถึงทั้งกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่เป็นหลัก เช่น ซีรีส์ Gundam, Code Geass, Full Metal Alchemist, Fairy Tail เป็นต้น แต่เป็นช่วงที่ยังคำนึงถึงยอดขายแผ่นอยู่พอสมควร บ้างก็ไปเน้นกำไรจากสินค้า เช่น ซีรีส์ Yu-Gi-OH! ที่กระตุ้นยอดขายการ์ดไปในตัว จนหันไปเอาดีทางอนิเมะรอบ Prime Time เพราะเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่าหนังสือการ์ตูน Yu-Gi-OH! Zexal (ภาคที่ 4 ของซีรีส์) ยังคงฉายต่อเนื่อง ช่วยดันยอดขายการ์ดจริง จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:32:21

ความคิดเห็นที่ 4 รอบดึก (ทุกวัน)     การ์ตูนเรื่องใหม่เกือบทั้งหมดจะมีเวลาฉายในช่วงนี้ คิดเป็นประมาณ 80% - 90% ของที่ฉายในฤดูกาลนั้น มีตั้งแต่ช่วง 4 ทุ่มไปถึงตี 3 คนดูในญี่ปุ่นจึงนิยมตั้งเครื่องบันทึกอัตโนมัติไว้ดูในตอนเช้าแทน     สิ่งหนึ่งที่หลายคนเข้าใจผิด คือ อนิเมะที่ฉายรอบดึกเป็นเรื่องมีเนื้อหาไม่เหมาะสมกับเยาวชน จึงถูกย้ายไปฉายในช่วงนั้น แต่ในความเป็นจริง ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องนั้น ปัญหาหลักไปอยู่ที่เรื่องค่าเช่าสล็อตเวลาที่สูงกว่าปกติมาก เคยมีการเผยข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าเวลารายการโทรทัศน์ในญี่ปุ่นไว้ดังนี้ (ต่อ 1 ตอน)     รอบเช้าถึงค่ำ : 10,000,000 - 100,000,000 เยน (ประมาณ 40 ล้านบาท / ตอน)     รอบดึก : 300,000 -  5,000,000 เยน (ประมาณ 2 ล้านบาท / ตอน)     สำหรับการเช่าเวลาในการฉาย จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายต่างกันมากระหว่างรอบเช้าและรอบดึก ทำให้หลายรายการเลือกที่จะฉายรอบดึกเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง แล้วค่อยไปฉายซ้ำในช่องอื่น ซึ่งถ้าเป็นเรื่องที่ดังจริง เวลาฉายจะไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อยอดขายนัก Kuroko no Basuke ฉายเกือบตี 2 เพื่อลดทุน แต่ขายดีแบบสุดๆ  จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:34:14

ความคิดเห็นที่ 5 3. เวลาฉายส่งผลต่อคุณภาพของอนิเมะ สำหรับการ์ตูนรอบเช้าและเย็น     วิธีแก้ปัญหาสำหรับอนิเมะที่ฉายในช่วงเช้าจนถึงค่ำ จะอยู่ตรงสปอนเซอร์เป็นหลัก ซึ่งถ้าเสนอจนได้สปอนเซอร์รายใหญ่ที่อาจไม่เกี่ยวกับการ์ตูนโดยตรง ก็จะมีช่องทางหากำไรกลับคืนมาได้ในหลายช่องทาง ทั้งค่าลิขสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์และโฆษณาให้กับทางสถานีโทรทัศน์ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนมากพอ โดยไม่ต้องพึ่งพาการขายแผ่นก็ยังได้ ทำให้สามารถฉายได้นานเป็นปี หรืออาจต่อเนื่องกันหลายปี เพียงแต่ต้องมั่นใจว่าจะมีคนติดตามชมมากพอที่จะกระตุ้นเรตติ้งเรื่องนั้นๆ ได้ และทำให้ทางฝ่ายสปอนเซอร์พอใจ     ในมุมกลับ จะเป็นเรื่องที่ยืดและทำเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนอะไร เผางานบ้าง ไม่ค่อยเช็คคุณภาพงานมากก็ได้ เพราะไม่ต้องง้อ BD/DVD ขายไม่ออกก็ช่างมัน ถ้านึกถึงยุค Dragon Ball Z น่าจะเห็นภาพชัด สมัยนี้อาจมีพวกเนื้อเรื่องเพิ่มเข้ามาแทนแบบ One Piece, Bleach หรือ Naruto เพื่อให้ฉายได้นานๆ ลองกลับไปดู DBZ แล้ว รู้สึกถึงความแตกต่างของยุคสมัย (ด้านความยืด) ภาค Kai ค่อยรวบรัดขึ้นมาหน่อย จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:35:59

ความคิดเห็นที่ 6 รอบเย็นจะลำบากขึ้นมาหน่อย เพราะเป็นเวลา Prime Time ที่ค่า Slot เวลาแพงแบบมหาศาล นอกจากสปอนเซอร์ช่วยแล้ว คุณภาพควรจะสูงเพื่อให้ขายแผ่นได้ด้วย Gintama หนึ่งในอนิเมะไม่กี่เรื่อง ที่ทำออกมาดีไม่แพ้ฉบับมังงะ จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:37:01

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับการ์ตูนรอบดึก     อนิเมะช่วงดึกจะต่างออกไป เพราะพวกสปอนเซอร์จะจำกัดวงแคบลงไปมาก คนดูก็น้อยเพราะเข้านอนกัน ทำให้เรตติ้งไม่ค่อยดีนัก ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับทางอนิเมะโดยตรง เช่น บริษัทเพลง, ค่ายหนังสือการ์ตูน, ผู้พัฒนาเกม และอื่นๆ ทำให้กลุ่มรายได้หลักต้องมาพึ่งพาแผ่น BD/DVD กันเป็นหลัก     เนื่องจากการแข่งขันกันมาก ทำให้เนื้อหาการ์ตูนค่อนข้างเข้มข้นกับคุณภาพสูงกว่าการ์ตูนอนิเมะรอบเช้าในญี่ปุ่นมาก อีกทั้งส่วนใหญ่จบใน 12 – 26 ตอน ทำให้เนื้อเรื่องกระชับกว่า ใครที่มีอคติกับพวกอนิเมะยาวๆ ทางทีวีในไทย ที่มาจากหนังสือการ์ตูน ลองไปหาอนิเมะไม่กี่ตอนจบดูครับ จะเห็นความแตกต่าง บางเรื่องแค่ฉากก็กินขาดแล้ว (ภาพจากเรื่อง Tari Tari) จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:38:18

ความคิดเห็นที่ 8 4. ไม่นิยมสร้างอนิเมะยาวๆ เพราะเสี่ยงขาดทุนสูง     อนิเมะรอบเช้าส่วนใหญ่ ทำยาวๆ แบบสบายตัว เพราะทุนสนับสนุนเยอะ แต่รอบเย็นกับดึกจะหนักใจหน่อย มี Cost ก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เมื่อปลายปีก่อน ทาง Producer เปิดเผยผ่านการสัมมนาว่า ใช้ทุนสร้างร่วม 300 ล้านเยน (ประมาณ 120 ล้านบาท) สำหรับอนิเมะความยาว 26 ตอน ซึ่งถ้าขาดทุนทางฝั่ง Producer ต้องรับผิดชอบ ถ้าย้อนไปดูรูปแรกสุดของบทความ จะเห็นว่าทุนสร้างจะอยู่ประมาณ 10 – 13 ล้านเยนต่อ 1 ตอน เหมือนกัน     ด้านราคาแผ่น Blu-Ray แบบ 6 แผ่น 12 ตอน จะมีราคา (จองล่วงหน้า) ประมาณ 30,000 – 40,000 เยน ถึงจะรู้สึกว่าญี่ปุ่นค่าครองชีพสูงกว่าในไทยหลายเท่า แต่เงินสำหรับซื้ออนิเมะ 1 เรื่อง มากพอที่จะไปถอยเครื่อง PS 3 หรือ Xbox 360 รุ่นหลังๆ ได้สบาย ถ้าความยาวแบบ 26 ตอน บางเรื่องไปซื้อ PS Vita 3 - 4 เครื่องได้เช่นกัน (แค่เปรียบเทียบ คงไม่มีใครซื้อ PS Vita 4 เครื่องจริงๆ หรอก)     ทำให้ปัจจุบันนิยมทำอนิเมะแบบ 12 – 1 3 ตอนจบกันมากขึ้น เพื่อให้จำนวนแผ่นที่ขายน้อยที่สุด ผู้ชมจะได้ซื้อแผ่นได้แบบไม่หนักใจเกินไป ถ้าขายไม่ดีจะได้ไม่ขาดทุนมากนัก และทำเพื่อลองตลาดและกระตุ้นยอดขายฉบับมังงะ, นิยาย ถ้าขายดีค่อยทำต่อในอนาคต     อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องที่คาดว่าน่าจะขายดี จะมีการทำจำนวน 25 – 26 ตอนกันอยู่บ้าง อย่างเรื่องที่กำลังฉายอยู่ เช่น Accel World, Eureka Seven AO, Hyouka (21 ตอน), Sword Art Online เป็นต้น     ข้อมูลเพิ่มเติม : http://4NN.cx/76862 Accel World ฉายแบบไม่กลัวขาดทุน เพราะซันไรส์เตรียมขายฟิกเกอร์และของเล่นตามมาอีกเพียบ จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:40:00

ความคิดเห็นที่ 9 5. ดีแต่เนื้อเรื่อง ขายยาก / โมเอะ ขายง่าย     ทุก 3 เดือน มักจะมีอนิเมะพล็อตเรื่องดีปรากฏออกมาให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่ความจริงข้อนึง คือ ถึงจะชอบแค่ไหนก็ไม่ซื้อ แค่ชมว่าสนุก เนื้อเรื่องยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ซื้อ โดยเฉพาะแนวบู๊ดุเด็ดเผ็ดมัน ก็ขาดทุนกันมาบ่อยครั้ง     ยกตัวอย่างเรื่องเมื่อต้นปีก็อย่าง Danshi Koukousei no Nichijou (ในไทยชอบเรียก “ชายล้วนกวนบาทา”, มีมังงะภาษาไทยเพิ่งออกในชื่อ “วันๆของพวกผมก็งี้เเหละ” (เพิ่งออกเล่ม 1 ในไทยปลายเดือนก่อน)) ถึงคนโหวตให้ติดอันดับ 2 ของอนิเมะสุดฮาและกระแสในญี่ปุ่นมาแรงมาก แต่ยอดขายแผ่น 1 แค่ 3600-3700 ชุดเท่านั้น (ยอดจำหน่าย แผ่น 2 เหลือ 2500 ชุด ... แผ่น 3-4 2200 ชุด ...) จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:44:11

ความคิดเห็นที่ 10      กลุ่มที่ช่วยตลาดกลุ่มนี้ กลับเป็นกลุ่มที่ซื้อเพราะตัวละครมากกว่า ประเภทซื้อแบบไม่ต้องคิดมากและมีกำลังทรัพย์พอ (บางคนก็เรียกว่า โอตาคุ) แนวขายตัวละครจึงกลายเป็นเรื่องขายแล้วไม่ค่อยขาดทุนนัก ทำให้แนวเน้นตัวละครสวย ใส แบ๊วๆ เยอะขึ้นตามลำดับ     แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำแนวโมเอะภาพสวยก็พอ เพราะคนซื้อส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หน้ามืดซื้อแหลก ก็ต้องมีเนื้อเรื่องบ้าง รวมถึงองค์ประกอบหลายๆ อย่างในเรื่องก็ต้องทำออกมาน่าสนใจ มีคุณค่าพอให้ซื้อเก็บสะสมด้วย K-ON! เรื่องสบายๆ ของชมรมดนตรี ทั้งแผ่นและสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทำกำไรถึง 15,000 ล้านเยน (ประมาณ 6,000 ล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:45:13

ความคิดเห็นที่ 11 ปัจจุบัน กลุ่มคนดูอนิเมะที่เป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำให้อนิเมะแนวที่เอาใจแม่ยกก็เยอะขึ้นเช่นกัน อย่างตารางฉายซีซันฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ มีแนวดัดแปลงจากการ์ตูนผู้หญิงค่อนข้างมากกว่าซีซันก่อนๆ รวมถึงดีไซน์ผู้ชายเท่ๆ ก็เยอะขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นแนวที่ดูได้ทั้งชายหญิง เพื่อเอาใจผู้ชมทั้งสองกลุ่ม Uta no Prince-sama Maji Love 1000% อนิเมเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มนักร้องชาย อีกเรื่องที่ขายดีเกินคาด ดูได้ทั้งชายหญิง (ฉายปีก่อน, มีกำหนดซีซันต่อไป เดือน 4 ปี 2556) จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:46:37

ความคิดเห็นที่ 12 เกร็ดความรู้อื่นๆ     - สถานีโทรทัศน์ในญี่ปุ่น มีผังรายการรอบดึกไปจนถึงสว่าง เวลานับเวลาจะแปลกกว่าหลายประเทศ มีตั้งแต่ 24.01 น. ไปจนถึงประมาณประมาณ 28.59 น. ดังนั้น ถ้าเห็นการ์ตูนบางเรื่องฉายในญี่ปุ่นตามตารางเวลา 26.05 น. วันพฤหัส ก็หมายถึง เวลา 2.05 น. ในวันศุกร์     - สถานีโทรทัศน์ในญี่ปุ่นมีนับร้อยช่อง แต่ที่ถ่ายทอดทั่วทั้งญี่ปุ่น มีเพียง FujiTV และ TBS เท่านั้น ที่เหลือเป็นช่องเคเบิลที่เสียค่าใช้จ่ายและสถานีโทรทัศน์ประจำภูมิภาค จึงไม่ใช่ว่าอนิเมะทุกเรื่องจะแพร่ภาพได้ทั่วญี่ปุ่น และหลายเรื่องต้องเสียค่า Cable ถึงจะดูได้     - Original Video Animation (OVA) เป็นเรื่องประเภทที่ไม่ต้องฉายผ่านโทรทัศน์ ทำเป็นแผ่น BD/DVD ขายเลย ทำให้ประหยัดทุนเช่าเวลาฉายทางทีวีไปได้สูงมาก แต่ยอดขายก็ไม่ค่อยสูงตามไปด้วยเนื่องจากไม่ได้ผ่านสายตาของคนดูส่วนใหญ่ทาง ทีวีมาก่อน จึงไม่ค่อยรู้จักกัน     - บางเรื่องถึงขายได้ระดับขาดทุนแต่ทำต่อก็มี ทั้งนี้อาจเพราะโปรเจ็กต์เริ่มไปแล้ว แต่เว้นช่วงฉาย หรือช่วยดันยอดขายหนังสือการ์ตูนก็ได้ จึงมีทุนสนับสนุนจากด้านอื่น เช่น Bakuman SS3 หรือ Medaka Box SS2     - จุดคุ้มทุนไม่ค่อยเปิดเผยจากบริษัท ทางกลุ่มคนดูในญี่ปุ่นมีการประมาณว่า ขายได้สัก 3,000 – 4,000 แผ่น (นับเฉพาะแผ่นแรก) ก็ลุ้นได้ดูภาคต่อแล้ว แต่กลุ่มผู้สร้างเรื่อง Nichijou ก็เคยออกมาบอกว่าขาดทุน แม้จะขายได้ร่วม 4,000 แผ่นแล้วก็ตาม ทั้งนี้คงต้องดูเรื่องจำนวนตอนกับค่าใช้จ่ายอื่นร่วมไปด้วย     -  ว่ากันว่า อนิเมะทางทีวี ถ้าขายแผ่น DVD ได้เกิน 10,000 แผ่น ถือเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จมาก แต่ถึงจะบูมแค่ไหนก็อย่าเพิ่งหวังว่าจะได้เห็นภาคต่อทันที เพราะส่วนมากจะเกณฑ์ทีมงานไปทำเรื่องอื่นก่อน กว่าจะกลับมาทำต่อมักจะกินเวลา 1 – 2 ปีขึ้นไป ยอดขายแผ่น BD/DVD ในญี่ปุ่น     พูดถึงเรื่องยอดขายแล้ว ลองดูยอดขายในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อประกอบเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น ในที่นี้จะลงเฉพาะยอดที่ติดชาร์ตสัปดาห์แรก ส่วนยอดสรุปยอดรวมตลอดทั้งปีในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบางเรื่องน่าจะอันดับดีขึ้น ฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น ปี 2554 (Autumn / Fall 2011)     1. 47,623 Fate/Zero     2. 41,369 Persona 4 The Animation     3. 24,605 Kyoukai Senjou no Horizon     4. 19,613 Working'!!     5. 12,137 Guilty Crown     6. 11,984 Boku wa Tomodachi ga Sukunai     7. 4,524 Sekaiichi Hatsukoi 2     8. 4,333 gdgd Fairies     9. 4,240 Shakugan no Shana III (vol.2)     10. 4,077 Tamayura: Hitotose (Blu-ray data only, DVD *,920 ~1,131)     11. 3,421 Maji de Watashi ni Koi Shinasai!     12. 3,379 Shinryaku!? Ika Musume     13. 3,199 Maken-Ki! (Blu-ray data only, DVD *,920 ~1,131)     14. 3,026 Last Exile: Ginyoku no Fam     15. 2,343 Mobile Suit Gundam AGE     16. 2,336 Mirai Nikki     17. 2,333 Chihayafuru (vol.2)     18. 2,325 Mashiroiro Symphony: The Color of Lovers     19. 2,101 Ben-To     20. 2,038 C³     21. 1,853 Kimi to Boku.     22. 1,546 UN-GO     23. 954 Morita-san wa Mukuchi 2 ไม่ติดอันดับในสัปดาห์แรก     Hunter x Hunter     Phi Brain: Kami no Puzzle ฤดูหนาวในญี่ปุ่น ปี 2555 (Winter 2012)     1. 62,980 Nisemonogatari     2. 15,158 Inu x Boku SS     3. 10,793 Highschool DxD     4. 10,345 Natsume Yuujinchou Shi     5. 9,306 Aquarion Evol     6. 7,694 Ano Natsu de Matteru     7. 7,639 New Prince of Tennis     8. 6,472 Mouretsu Pirates     9. 5,098 Senki Zesshou Symphogear     10. 4,973 Brave 10     11. 4,888 Amagami SS+ plus     12. 4,391 Papa no Iukoto wo Kikinasai!     13. 3,694 Danshi Koukousei no Nichijou     14. 3,599 Rinne no Lagrange     15. 3,354 Black★Rock Shooter     16. 2,573 Another     17. 2,353 Tantei Opera Milky Holmes Dai 2 Maku     18. 1,525 Zero no Tsukaima F (vol.2)     19. 686 Kill Me Baby ไม่ติดอันดับในสัปดาห์แรก     Recorder to Randoseru Do♪     Thermae Romae ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น ปี 2555 (Spring 2012)     1. 20,524 Kuroko no Basket     2. 9,891 Accel World     3. 9,455 Hyouka     4. 9,200 Haiyore! Nyaruko-san     5. 7,990 AKB0048     6. 6,966 Saki: Achiga-hen - Episode of Side-A     7. 4,887 Eureka Seven AO     8. 4,698 Natsuiro Kiseki     9. 4,494 Tsuritama     10. 3,759 Queen's Blade: Rebellion     11. 3,588 Nazo no Kanojo X     12. 3,499 Jormungand     13. 3,302 Sengoku Collection     14. 3,192 Kore wa Zombie Desu ka? of the Dead     15. 2,520 Acchi Kocchi     16. 2,180 Hiiro no Kakera     17. 2,059 Tasogare Otome x Amnesia     18. 2,037 Sakamichi no Apollon     19. 1,487 Sankarea     20. 1,133 Shirokuma Cafe     21. 882 Kimi to Boku. 2     22. 612 Zetman ไม่ติดอันดับในสัปดาห์แรก     Medaka Box (483 < DVD < 1,133, Blu-ray < 1,470)     Shining Hearts: Shiawase no Pan (309 < DVD < 483, Blu-ray < 1,470) จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:48:50

ความคิดเห็นที่ 13 Credit Por-kk Air @ Online-Station http://www.online-station.net/entertainment/cartoon/180 จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:49:59

ความคิดเห็นที่ 14 ใครเข้ามาแล้วช่วยให้กิฟ หรือโหวตให้เขาหน่อยละกันครับ  นานอยากเห็นอะไรมีสาระแบบนี้บ้าง จากคุณ : GouKoong เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:57:47

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วทำไมมีเครดิตเค้าด้วยล่ะ คุณแอร์เขียนคนเดียว เค้าไม่รู้ เค้าไม่โอตาคุ 5555 จากคุณ : por_kk เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:58:10

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องการ์ตูนลงทุนสูงๆไม่นิยมสร้างยาวเพราะกลัวขาดทุน เราคิดว่าอันนี้มันเป็นแต่บางค่ายและเฉพาะเรื่องนะครับ เพราะ มันต้องมีการประชุมกันแล้วว่าเรื่องที่จะสร้างต่อไปนี้ มันจะคุมทุนจริงๆหรือเปล่า กระแสจะออกมาดีมั้ย มีอะไรเพิ่มเติมต่อยอดขึ้นไปอีกรึเปล่า ตัวอย่างที่เห็นชัดคือค่าย BONES และ น้ำยาล้างจาน เนี่ยแหละ ที่กล้าเสี่ยงกับการลงทุนสูงๆ เพราะเชื่อว่า ด้วยประสบการณ์และหลักการตลอดย่อมแน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไงก็ขายได้ ตัวอย่างก็ Gundam ที่เป็น แบรนด์ดังมานานแล้ว ซึ่งมีการต่อยอดขายของทุกภาคทั้งพวกรุ่นก่อนๆก็ยังเอามาขายได้อีด หรือของค่าย BONES อย่าง FMA , Eureka Seven 2 ภาค ที่กล้าลงทุนสูง สร้างถึง 2 ภาคที่จำนวนตอนก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่ก็ยังเชื่อว่าคุ้มทุนเพราะต้องมีเสียงตอบรับมาอยู่แล้ว จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 02:08:48

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นอย่างนี้แล้ว โอกาสที่วงการอนิเมชั่นของไทยจะโตนี่เป็นไปได้ยากทีเดียว ขนาดญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องการซื้อของถูกลิขสิทธิ์ ยังทำออกมาแล้วขาดทุนกันเพียบ จากคุณ : Followzii เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 02:39:00

ความคิดเห็นที่ 18 อนิเมะรอบดึกส่วนใหญ่จะได้น้ำได้เนื้อที่สุดจริงๆ เพราะสตูดิโอและบุคลากรที่ลงเวลานี้มักจะเป็นระดับมืออาชีพด้านนี้จริงๆ ส่วนเรื่องจำนวนตอนนี่น่าเห็นใจหลายๆเรื่องที่เคยทำมาแล้วขาดทุน บางทีดูไปรู้สึกว่าเนื้อเรื่องดีจัง แต่พอไปดูยอดขายแล้วอยากจะร้องไห้ ส่วนเรื่องอนิเมะตลาดนี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ตลาดมันเป็นอย่างนั้นไปแล้ว คงเป็นเรื่องที่แก้ยาก ตอนอยู่ที่โน่นผมเช่าห้องอยู่กับเพื่อน ไม่มีเครื่องอัด ส่วนใหญ่ก็อยู่ดูรอบดึกถึงตีสามช่อง Fuji TBS ไม่ก็ TV Tokyo จากคุณ : Kaito_Dash เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 02:40:54

ความคิดเห็นที่ 19 เครื่องเกมบ้านค้าถูกรึแผ่นบ้านเค้าแพงนะถึงเทียบออกมาเป็นได้ขนาดนั้นน่ะ ถ้าอออกมายังงั้นจริงถ้าผมจะซื้อแผ่นครบเซตจริงก็มีชั่งใจหนักเหมือนกันนะยังงั้น จากคุณ : เลิกใช้บัตรผ่านแล้ว เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 05:53:33

ความคิดเห็นที่ 20 นี่ขนาดประเทศเขาไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแผ่นผีนะ ยังจะเอาตัวไม่รอดเลยบางเรื่อง ค่า เวลา โหดจริงๆ จากคุณ : nattapon86 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 06:38:37

ความคิดเห็นที่ 21 กิฟท์+เก็บเข้าคลัง+โหวตให้แล้วครับ อยากให้กระทู้นี้ได้ขึ้นกระทู้แนะนำชะมัด จากคุณ : Stryder เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 07:01:58

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบคำถามคาใจได้หลายอย่างจริงๆ ขอบคุณที่แบ่งปันครับ จากคุณ : Yippie เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 07:12:28

ความคิดเห็นที่ 23 #19 เครื่องเกมบ้านเค้าถ้าตีเป็นเงินไทย ราคาใกล้เคียงกับบ้านเราครับ อาจจะถูกกว่านิดหน่อย แต่ด้วยค่าครองชีพ ซื้อเครื่องเกมบ้านเราจะรู้สึกแพงกว่าที่ญี่ปุ่น ยกตัวอย่างเช่นเครื่อง 3DS LL ที่พึ่งออกราคา 18,900 เยน  ในไทยขายอยู่ประมาณ 8,000 บาท เพื่อนผมอยู่ที่นู้นทำงานพาร์ทไทม์เป็นเด็กเสิร์ฟ ได้ชั่วโมงละ 900 เยน ทำงาน 21 ชั่วโมง (ประมาณ 3 วัน) ก็ซื้อได้แล้ว ถ้าเป็นที่ไทย ทำงานพาร์ทไทม์ทั้งเดือนอาจจะยังซื้อเครื่องไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 08:03:36

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วค่าลิขสิทธิ์ในต่างประเทศเค้าเอาไปนับรวมไว้ตรงไหนครับ ??? แปะไว้รวมกับกำไรรึแยกต่างหากอีกที ?? จากคุณ : Getter_ROBO เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:07:22

ความคิดเห็นที่ 25 พูดถึงเมะที่คนอวยแต่ขายไม่ออกนี่ผมนึกถึง PSG เลยกระแสแรงมาก(อย่างไม่น่าเชื่อ) แต่แผ่นดันขายไม่ค่อยออก จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:09:04

ความคิดเห็นที่ 26 5. 12,137 Guilty Crown ถามหน่อยเรื่องนี้เลยจุดคุ้มทุนยังเห็นมีคนบอกว่าแย่ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 09:25:27 จากคุณ : ปรา (kirayamato) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:25:20

ความคิดเห็นที่ 27 โหวต+เก็บเข้าคลัง จากคุณ : fanclub เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:34:53

ความคิดเห็นที่ 28 โหวตแล้วจ๊ะ จากคุณ : aoporadio เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:36:59

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ Blackrx  ครับผมว่าที่ยกมาเป็นกรณียกเว้นมากกว่าครับ เพราะมีทุนหนุนจากมังงะ และต้นสังกัดที่ทุนสูงอยู่แล้ว ยิ่งกันดั้ม ก็อย่างที่รู้กัน คิดอีกแง่ก็คล้ายๆที่หลายคนชอบพูดแนวโมเอะมีโอตาคุหนุน กันดั้มก็มีคนหนุนเช่นกัน จริงผมตอนเด็กไม่เคยดูกันดั้มจนจบเลย ดูอยู่ไม่กี่ตอนแต่ก็ซื้อกันพลามาต่อ แต่ต้องรอวันเกิดเลย แพงมากตอนนั้น จากคุณ : Thanathoz เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:49:26

ความคิดเห็นที่ 30 ดูตัวเลขแล้วทำไม บระแม่มาโดกะขายได้ 62000 แต่นำ พี่เทพคิระ 86000 ได้ล่ะเนี่ย ว่าแต่ seed des นี่เป็นการ์ตูนเผาที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์สินะ จากคุณ : welzer เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:59:39

ความคิดเห็นที่ 31 ...นี่สินะ สิ่งที่เรียก ว่า ดี อาจจะไม่เป็นที่นิยม ของแบบนี้ มันตัดสินกันที่ คำว่า ชอบ เท่านั้นเอง จากคุณ : takana เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:02:41

ความคิดเห็นที่ 32 ก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่อยากให้มีอนิเมขายเนื้อเรื่องซักซีซั่นละ1-2เรื่องก็ยังดี แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 14:48:50 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 10:07:33 จากคุณ : slamer เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:06:50

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ดีๆมันก็มีมาเรื่อยๆอยู่แล้วครับ แต่บางครั้งหาไม่เจอเพราะว่าโดนโมเอะ โชเนน กลบ... จากคุณ : Munch เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:16:52

ความคิดเห็นที่ 34 Nisemonogatari น่าจะมีภาคต่อนะ เห็นมีคนบอกว่าจบภาคนี้ เลยค้างคาใจพอสมควรน่ะ 55+ จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:20:36

ความคิดเห็นที่ 35 #20 ผมว่าอัดเก็บไว้ดูทีหลังนี่หนักกว่าแผ่นผีอีกนะ จากคุณ : alcalshel เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:22:11

ความคิดเห็นที่ 36 โหวต  !!  ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ครับ จากคุณ : กระต่ายอุซางิ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:22:30

ความคิดเห็นที่ 37 ชิวิตจริงมัน บู๊  ลำบาก ลำเค็ญ กว่าในการ์ตูนเยอะเลย ไม่เคยนึกเลยว่าต้นทุน มันจะสูงขนาดนี้   เคยนึกว่าเต็มที่ 1ตอน  เต็มที่ ทุนก็น่าจะสัก 1-2 ล้าน ก็หรูสุดๆละ       ขอบคูณสำหรับบทความที่ดีๆ ครับ จากคุณ : sosorut เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:28:56

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตตตตตค่าาาาาาา ช่วยกันซื้อแผ่นแท้กานนนนนนเถ๊อะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ชอบฤดูฝน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:03:39

ความคิดเห็นที่ 39 #26 แค่แผ่นเดียวเท่านั้นแหละครับ หลังๆยอดระดับ 6000ต้นๆถึงกลางๆ เรียกว่าถ้าเทียบกับต้นทุนแล้วขาดทุนย่อยยับ จากคุณ : ปีโป้รสมะนาว เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:07:15

ความคิดเห็นที่ 40 ยังกะสงครามศาสนา มองไม่เห็นทางชนะเลย ยิ่งสู้ยิ่งแพ้ จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:07:35

ความคิดเห็นที่ 41 Gundam Age ยอดต่ำเตี้ยเรียดิน T_T ปล. Unicorn ออกมา 5 ตอน ตูโดนโมไป 6 ตัวแล้วนะ ภาคเอจจะได้ซื้อสักตัวมั้ยนี่ จากคุณ : อาว์เอ็ด เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:47:12

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณครับ :) จากคุณ : Powercat เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:56:26

ความคิดเห็นที่ 43 หลายเรื่อง อคติมันบังตาคน ปากก็ว่าหาไม่มี ไม่เจอ ถ้าไม่ลองโยนอคติทิ้งไปแล้วจะรู้ได้ไง ลองเปิดใจออกให้กว้างๆดู ลบอคติในใจดู ก็จะรู้เอง บางครั้งตั้งกระทู้ก็แล้ว ก็ไม่มีคนสนใจ แอบบ่น 55 จากคุณ : แค่ใจละเมอ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:59:07

ความคิดเห็นที่ 44 เรื่องธุรกิจนี่นะ... ความสนุก ความชอบของเรา เป็นเรื่องเครียดสำหรับคนบางกลุ่มเหมือนกัน จากคุณ : guill2991 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 12:25:09

ความคิดเห็นที่ 45 เคยอ่านบทความที่อดีตอนิเมเตอร์คนยุ่นเขียน (คงเก่าแล้วแหละ ดราม่ามากเลยจำได้จนทุกวันนี้) แบบโหย ได้เงินเดือนนึงเป็นหลักหมื่นเยน ข้าวไม่ค่อยพอกิน ต้องพกลูกกวาดไว้ใกล้ตัวกันภาวะไฮโปไกลซีเมีย เคยมีคนช็อคตายด้วยภาวะที่ว่าด้วย เวลาไปขอเช่าห้องกับนายหน้าหาบ้านพอบอกอาชีพไปว่าเป็นอนิเมเตอร์ก็โดนตะเพิดอย่างหมูอย่างหมา ค่าแรงคิดเป็นรูปเป็นใบๆ เงินเข้าบริษัทอะเยอะ แต่ไม่ลงไปถึงอนิเมเตอร์เท่าไหร่ แจกแจงยอดให้ อ่านแล้วโห น่าสงสาร ในเซ็มมงกักโคสาขาอนิเมชั่น เวลาแนะแนวถึงอาชีพหลังเรียนจบก็ไม่มีใครรับประกันเงินเดือนว่าจะพอกิน มีแต่พูดว่าปีแรกๆ ต้องทน ...ฮา จริงๆ พวกตัวเมนๆ ก็คงได้เยอะสมค่าฝีมือล่ะมัง แต่นั่นคือต้องมหาเทพจริงๆ ประมาณวาดกันดั้มบนไวท์บอร์ดเสร็จได้ในสามนาที (เคยเห็นกับตามาแล้ว แต่เขาบอกมีเหนือกว่านั้น) ส่วนพนักงานในบริษัทอนิเมชั่นยักษ์ใหญ่ก็ใช่ว่าจะได้เงินเดือนเยอะทุกคน ออกน้อยด้วยซ้ำ ที่รวยก็มีแต่ตัวหัวเหมือนกัน เท่าที่รู้มา สรุปเสพอยู่ห่างๆ มีความสุขกว่าเยอะค่า ...แต่อาจจนพอกัน เพราะไอเท็มขยันออกเหลือเกิ๊น จากคุณ : annima เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 12:40:33

ความคิดเห็นที่ 46 คห. 25 PSG นี่ย่อมาจากเรื่องไรครับ นึก ไม่ออก คห. 41 Gundam Age แค่เห็นตัวละครก็ไม่ดูละครับ สู้ Seed กับ 00 ไม่ได้เลย จากคุณ : ช็อกโกแลตขมหวานมันเค็ม เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 12:47:58

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณครับ กระทู้นี้ตอบคำถามที่หลายๆคนเคยสงสัยว่า... ทำไมเรื่องนี้ไม่ทำเป็นอนิเม ทำไมอนิเมไม่เหมือนกับในมังงะ ทำไมอนิเมตัดจบแค่นั้นในมังงะยังไปต่ออีกตั้งไกล ได้ดีเลยนะครับ หลักๆก็เรื่องเงินลงทุนความคุ้มทุนทั้งนั้นล่ะครับ จากคุณ : Naruno เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 12:56:24

ความคิดเห็นที่ 48 ชอบๆ สู้ต่อไป จากคุณ : ห้าจิก เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 13:47:35

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณจขกท.มากๆค่ะ  ได้ความรู้หลายอย่าง แถมตอบข้อข้องใจที่เคยมีได้ด้วย เช่นเรื่องแนวเซอร์วิสที่มีเยอะจัดจนน่ารังเกียจ เคยคิดว่าในวงการนี้คงมีโอตาคุหื่นๆมากกว่าคนชอบดูการ์ตูนแบบธรรมดาๆแน่เลย แต่พอเข้าใจเรื่องธุรกิจก็ต้องทำใจสินะ ใครๆก็อยากรวย จากคุณ : tabby girl เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 14:02:21

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับ 49 ทุกประการเลยค่ะ บางเรื่องน่าเสียดายที่จริงๆ เนื้อเรื่องก็น่าสนุกอยู่แล้ว แต่พอหื่น+เซอร์วิสมากเกินไปมันก็น่ารังเกียจ น่าอ้วก อนิเมสมัยนี้มีแต่เซอร์วิส หื่นๆ ล้มเอานมทับ ลมพัดกระโปรงเปิด บางทีเราก็อดคิดไม่ได้นะว่าหื่นขนาดนั้นไปดูการ์ตูน H เลยง่ายกว่ามั้ย การ์ตูนบนดินกับใต้ดินสมัยนี้แทบจะไม่ต่างกันอยู่แล้ว (- -*) จากคุณ : สาวแว่นเลี้ยวซ้าย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 14:09:36

ความคิดเห็นที่ 51 มาโหวตตั้งแต่เมื่อคืน แต่เพิ่งมาอ่านเต็มๆตะกี้ สะดุดกับประโยคที่ว่า "ทุก 3 เดือน มักจะมีอนิเมะพล็อตเรื่องดีปรากฏออกมาให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่ความจริงข้อนึง คือ ถึงจะชอบแค่ไหนก็ไม่ซื้อ แค่ชมว่าสนุก เนื้อเรื่องยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ซื้อ" อ่านแล้วแอบปวดใจอ่ะ ตัวอย่างที่ยกมาก็เป็นเรื่องที่เราชอบด้วย.... มิน่า ลงท้ายการ์ตูนถึงได้ออกเฉพาะแนวเอาใจพ่อยก แม่ยกซะเยอะเลยเดี๋ยวนี้ แบบแหวกแนวแหวกกระแสหน่อยแต่เนื้อเรื่องดีหาไม่ค่อยเจอ T^T ขอบคุณสำหรับเกร็ดน่ารู้ที่เอามาแชร์ค่ะ ยิ่งอ่านแบบนี้ยิ่งอยากอุดหนุนสินค้าลิขสิทธิ์ด้วย (ถ้าทำในระดับคุณภาพที่ยอมรับได้นะ) จากคุณ : kurotama เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 14:29:09

ความคิดเห็นที่ 52 ดูแล้วน่าเห็นใจ ไอ้ที่สนุกๆ กันอยู่เนี่ย  บางทีคนทำเขาก็ลำบากใจลุ้นกันตัวโก่งว่าจะไปรอดไหม อ่านแล้ว ยิ่งอยากเลี่ยงของก็อป เถื่อน ละเมิด และให้ตระหนักถึงการสนับสนุนถ้าหากชื่นชอบผลงานจริงๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ผลิตมีกำลังทำงานต่อไปได้ จากคุณ : หงส์อรุณ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 14:38:02

ความคิดเห็นที่ 53 #25  #46 PSGน่าจะหมายถึง Panty and Stocking อนิเมสุดแนวของไกแนกซ์ ถ้าจะไม่ผิด ก่อนPSGแผ่นแรกจะวางขาย ยอดจองอยู่ที่4000แผ่น  แต่พอเจอตอนจบอันสุดแสนจะWTFเข้าไป  แผ่นแรกยอดขายเหลือ2000กว่าแผ่นเท่านั้น  คาดว่าพันกว่าคนที่หายไปนั่นคือเจอตอนจบเข้าไป เลยไปกดยกเลิกแผ่นที่จองไว้น่ะครับ จากคุณ : Captain_Adam เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 14:53:31

ความคิดเห็นที่ 54 เข้าใจนะ ว่าพวกเน้นโมเอะจะขายดี แต่ไม่รู้หลัง ๆ รู้ึสึกว่ามันเยอะไปไหม บางทีมองหน้าปกหรือภาพโฆษณา เห็นหน้าตัวละครตาโต ๆ นมใหญ่ ๆ หรือแบน ๆ โลลิื ๆ แล้วความรู้สึกมันล้นมาถึงคอจนแทบสำลักออกมาเลยอ่ะ อยากดูพวกอนิเมะแบบมันส์ เร่าร้อน ๆ แบบกุเลนรากัน มากกว่า โชว์เส้นสวย ๆ ซูมหน้าซูมตา มีกลีบดอกไม้ลอย จากคุณ : riamus เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 14:57:05

ความคิดเห็นที่ 55 #26 แผ่นหลังๆลงมาเยอะเลยครับ เหลือ 6 พันกว่าๆแต่ก็ยังถือว่ายังโอเคไม่เจ็บตัวละมั้ง ทุกอย่างมันก็ต้องขึ้นอยู่กับเงินเป้นหลักละนะ ก็เป็นธุรกิจถ้าทำแล้วต่อยอดไม่ได้ก็คงแย่ แต่พูดถึงเรื่องที่เน้นเซอร์วิสเอาจริงๆผมว่าสัดส่วนมันน้อยกว่าที่ไม่เซอร์วิสอีกนะในแต่ละซีซั่นเนี่ย จากคุณ : Arata เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 14:59:17

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณค่ะ ความจริงเราก็พอจะรู้ๆอยู่บ้างแล้วแหละ แต่อ่านกี่ทีก็อดสงสารทีมงานไม่ได้ กว่าจะเรียนจบ กว่าจะฝึกฝน กว่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่ค่าแรงยังน้อยนิดแทบไม่พอยาไส้ จากคุณ : XODA เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 15:02:49

ความคิดเห็นที่ 57 โห อ่านแล้วเห็นภาพเลย คือเรื่องที่เนื้อเรื่องดีๆ บทดีๆ มีแง่คิดนี่ไม่ซื้อ ส่วนเนื้อเรื่องไม่มีอะไร เน้นขายโมเอะ โชว์ กกน ขายดีสุดๆ แต่ก็ว่าเค้าไม่ได้ เพราะมันก็คือความเป็นจริงของทุกสังคม คนไทยก็เป็นแบบนี้ อาจเพราะเวลาคนเราชอบอะไรซักอย่าง มันก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องซื้อทุกอย่าง อย่างผมเอง ซื้อแต่หนังสือการ์ตูน ก็ซื้อเรื่องที่เป็นแนวโชเน็น เนือเรื่อง ไซโค ข้อคิด จิตๆหน่อย แต่ถ้าเป็นแนวโมเอะๆก็เช้าอ่านเอา ก็คงคล้ายๆกันมั้ง หรืออย่างนักร้อง บอดี้แสลมนี่ซื้อซีดีอย่างเดียว SNSD นี่ทุ่มเต็มที่เลย 5555 สงสัยเพราะอะไรน่ารักๆมันน่าดูกว่า นึกภาพผู้ชายเก็บรูปพี่ตูนหรือนารุโตะในกระเป๋า มันน่ากลัวกว่าเก็บรูปแทยอนหรือน้องฟ้ามืดไรงี้นะ อิอิ จากคุณ : หม้อไฟใส่หมูตัวอ้วนพี เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 15:12:30

ความคิดเห็นที่ 58 เราบ่นหลายๆที ว่าเบื่อโมเอะ แต่ก็ยังไงคนก็ต้องกิน ต้องใช้ล่ะน้อ โหวตๆ จากคุณ : กุเต่ยโหดกระถีบ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 15:41:38

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านแล้วนึกถึงตอนนึงใน เรื่อง น้องสาวของผมไม่น่ารัก ตอนแมวดำเห็นแผ่นดีวีดีเรื่องมาสเคร่าลดราคาล้างสต็อค ถึงกับบ่นอนิเมเทพๆ แบบนี้ ลดราคาเหลือ ไม่ถึงพันเยน ส่วนเมรุรุของคิริโนะ นี่มีแต่โอตาคุคอยสนับสนุน เนื้อเรื่องจะรั่วยังไงก้อดังได้ จากคุณ : Magnus Galand เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:02:00

ความคิดเห็นที่ 60 รบกวนแนะนำอนิเมะแบบในคห.7 (สำหรับการ์ตูนรอบดึก) หน่อยครับ จากคุณ : hutoew เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:34:48

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับ จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:35:39

ความคิดเห็นที่ 62 เข้าใจเลยว่าทำไมโมเอะเดี้ยวนี้เยอะจัง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบโมเอะแบบเยอะๆอยู่แล้ว มีเล็กน้อยพอรับได้ ทีแท้เพราะการตลาดนี้เอง ก็น่าเห็นใจจริงๆ จากคุณ : miyuna เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:35:53

ความคิดเห็นที่ 63 /แอบนอกเรื่อง แต่ไม่มาก คล้ายๆ สถานการณ์เกี่ยวกับนักแต่งเพลง/คนทำเพลงในวงการเพลงเมืองไทยเลย T^T เป็นคนทำงานเล็กๆ ไม่ได้หน้า งานก็เยอะ แต่รายได้น้อย ทำให้ความสามารถในการจัดเตรียมงานก็ค่อยๆ ลดน้อยลง งานก็เลยลดคุณภาพลง คาดหวังรายได้จากช่องทางปกติก็น้อย ก็ต้องดิ้นรนหาทางกันไปเรื่อยๆ ส่วนของทางอนิเมะนี่ ส่วนตัวไม่ได้ดู อ่านแต่มังงะ ก็เห็นใจนะครับ จากคุณ : มาม่าไข่มะตูม เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:36:36

ความคิดเห็นที่ 64 ยังมีอีกช่องทาง NHK ช่องของรัฐ เมะ ทั้งยาว และมีสาระ ไม่เอาใจโอตาคุ ชอบช่องนี้มาก เพราะไม่แค่เรื่องกำไรขาดทุน จากคุณ : sakza เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:18:29

ความคิดเห็นที่ 65 ตลาดอนิเมสร้างโอตาคุขึ้นมา แล้วก็เอาวงการฝากไว้กับโอตาคุที่ตัวเองสร้างขึ้น จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:27:16

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆครับ ได้ความรู้จัง จากคุณ : สุริยาแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:51:20

ความคิดเห็นที่ 67 อุดมการณ์ก็สำคัญ แต่ปากท้องก็สำคัญไม่แพ้กัน... การทำผลงานให้ออกมาดีแล้วก็ขายได้พร้อมกัน มันไม่ง่ายหรอก... ขอบใจ จขกท. สำหรับข้อมูลครับ... จากคุณ : จิบเดียวก็ซึ้งแมน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 18:09:13

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณความรู้ดีๆค่ะ ปกติเราชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่ถึงเรื่องไหนภาพสวย พลอตเรื่องน่าสน ดันมีเซอร์วิสเยอะๆ อกโตๆ เราก็ขอบายอ่ะ รับไม่ค่อยได้ เนื้อเรื่องดีๆเสียหมด (แบบว่าแม่เดินมาเห็นแล้วตกใจ นึกว่าลูกดูการ์ตูนโป๊) ก็เข้าใจว่าคนเสพแนวนี้เค้าเยอะ แต่พอมาอ่านที่จขกท.เขียนก็เข้าใจ(และเห็นใจ)มากขึ้นค่ะ แต่...ลดลงบ้างก็ดีเน้ออ จากคุณ : End of the walk way เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 18:18:39

ความคิดเห็นที่ 69 เรื่องที่ขาย เนื้อเรื่อง+โมเอะ+เซอร์วิส แล้วสมดุลสุดก็เรื่อง spice and wolf ล่ะมั้ง เปลือยกายก็จริงแต่ไม่อานาจาร เนื้อเรื่องก็มีข้อคิดเกี่ยวกับการค้าขายเยอะ จากคุณ : slamer เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 19:00:21

ความคิดเห็นที่ 70 เรื่องโมเอะเซอร์วิสผมมีอีกมุมมองนึงนะ กลุ่มคนดูการ์ตูนขอแบ่งเป็น กลุ่มเด็กผู้มีกำลังซื้อน้อย กับ กลุ่มผู้ใหญ่ผู้มีกำลังซื้อสูง ดัดการ์ตูนกระแสหลักอย่างวันพีซออกไปเพราะยังไงก็กำไร แน่นอนเนื้อเรื่องดีกลุ่มไหนก็ชอบ อย่างเช่น มาโดกะ ฮารุฮิ แต่ทีนี้เนื้อเรื่องที่จะดีแซงเรื่องอื่นๆมาได้มันก็มีจำกัด สำหรับผมที่อยู่ในกลุ่มผู้ใหญ่ ถ้าให้ดูการ์ตูนบู๊ดุเดือดที่เนื้อเรื่องและตรรกะมันไม่แน่นจริงๆ จะรู้สึกว่าไร้สาระอย่างนารุโตะหลังๆผมยังเลิกติดตามเลยโทริโกะ บลีซดูไปนิดเดียวก็ไม่สนใจ เพราะตรรกะมันไม่แน่นพอ แล้วคุณคิดว่าการ์ตูนแนวบู๊ที่ตรรกะแน่นกว่าเรื่องที่ว่ามามันจะมีกี่เรื่องกันเชียว กลับกันสำหรับผมแนวโมะเอะมันไม่จำเป็นต้องวางตรรกะและเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น ขอให้มันไม่เซอร์วิสพร่ำเพรื่อสะเหร่อๆ ตัวละครมีบุคลิกเฉพาะตัวที่โดดเด่นก็ถือว่าน่าสนใจแล้ว แต่อย่าง to love ru ผมว่าหลังๆก็เซอร์วิสพร่ำเพรื่อเหมือนกัน อย่างที่คห.บนๆว่าถ้าดูแต่เซอร์วิสสู้ไปโหลดหนังโป๊มาดูเป็นเรื่องเป็นราวยังจะดีซะกว่า ดังนั้นไม่แปลกที่แนวโมะเอะจะออกมาเยอะกว่าเพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถมากขนาดนั้น (แนวบู๊ต้องใช้นักเขียนที่ตรรกะแน่นกว่า บลีซ นารุโตะ ซึ่งมันจะมีซักกี่คนเชียว) ก็จะสามารถจับกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อมากกว่าได้ จึงไม่แปลกหรอกที่ทำไมแนวโมะเอะถึงออกมาเยอะ ส่วนตัวคิดว่าคนอ่านที่อายุมากขึ้นจะสนใจเหตุผลที่มาที่ไปของเนื้อเรื่องในการ์ตูนมากขึ้น แลบะอาจจะให้ความสำคัญมากกว่าไอเดียแปลกๆ ตัวการ์ตูนเท่ๆ พลังใหม่ๆ ด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนแนวโมะเอะมันทำง่าย อย่าง เคอง มันไม่มีอะไรให้เนื้อเรื่องขัดกันอยู่แล้ว แต่กับการ์ตูนบู๊มันยากมากที่จะเขียนให้เนื้อเรื่องมันไม่ขัดกันจนคนเป็นผู้ใหญ่ไม่สามารถจับผิดได้ แต่ยังไงก็ตาม แนวโมะเอะก็ใช่ว่าจะอยู่ยงคงกระพันเสมอไป ตอนนี้มันเยอะเพราะยังเป็นของใหม่แค่มีบุคลิกน่ารักๆที่เป็นเอกลักษณ์ที่ผู้ชายรู้สึกชอบและอยากเจอในโลกความเป็นจริงก็ขายได้ แต่ในอนาคตบุคลิกน่ารักที่เป็นเอกลักษณ์จะเริ่มคิดยากขึ้น เพราะมันจะไปซ้ำกับเรื่องเก่าๆจนดูไม่น่าสนใจ ถึงตอนนั้นกระแสใหม่ๆก็จะมาแทนที่กระแสโมะเอะเอง บางทีอาจจะกลายเป็นกระแสบ้ากล้ามก็ได้นะ จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 19:11:52

ความคิดเห็นที่ 71 เราก็สงสัยมานานแล้วว่าทำไมญี่ปุ่นฉายการ์ตูนตอนดึกๆ  เด็กที่ไหนจะดู  ขอบคุณนะคะ จากคุณ : beermania เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 19:58:30

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณสำหรับความรู้มากๆ เลยค่ะ จากคุณ : aey_omu เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 20:36:55

ความคิดเห็นที่ 73 เข้าใจเลยว่าทำไม บางเรื่องโดนตัดจบ บางค่ายปิดตัว ก็เล่นทำมาเยอะแยะแบบนี้ ดูกันไม่หวาดไม่ไหวจริงๆ จากคุณ : buta_king เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 21:45:02

ความคิดเห็นที่ 74 สุดยอดมากกระทู้นี้ ใ้ห้ไป 3 กิฟ + โหวตแนะนำ แบบไม่เสียดายเลย จากคุณ : ซินเดอเรล่า เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 21:50:16

ความคิดเห็นที่ 75 อาทิตย์นี้กระทู้การ์ตูนขึ้นบนสุดของกระทู้แนะนำสองอันเลย ตั้งอีกครับ! ตั้งอีกเยอะๆ! จากคุณ : supersaiya xo เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 21:53:35

ความคิดเห็นที่ 76 ผมชอบอนิเมะเเนวAction Comedy พวก High school of the dead , Saru Lock , JAPA FIVE  ฯลฯ ใครชอบเเนวนี้เเนะนำว่าไม่ควรพลาด3เรื่องนี้ครับ จากคุณ : พระเอกจอมหักกระดูก เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 21:56:11

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณที่แบ่งปัน  เบื้องหลังมันเยอะขนาดนี้นี่เอง โหวตจ้า   จากคุณ : คุรุมิ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:09:04

ความคิดเห็นที่ 78 #3 รู้สึกว่า Fairy Tail จะฉายช่วย 10.30 น. วันเสาร์นะครับ น่าจะอยู่กลุ่มเดียวกับ #2 มากกว่า เนื้อหาหลายๆเรื่องก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไรมาก มี #5 นี่แหละที่ประหลาดใจจริงๆ จากคุณ : พรายกระซิบ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:17:57

ความคิดเห็นที่ 79 ญี่ปุ่นเขาเป็นอุตสาหกรรม เข้าใจๆ จากคุณ : Rhen เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:22:54

ความคิดเห็นที่ 80 ได้ความรู้มาก ปกติไม่ดู Anime เพราะมันเป็นอะไรที่กินเวลาชีวิตมาก ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจล่ะว่าทำไม Anime สมัยนี้ถึงแนวเซอร์วิสเยอะจัง จากคุณ : Pride เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:48:16

ความคิดเห็นที่ 81 โหวตๆ อยากให้ขึ้นแนะนำจัง จะได้เผยแพร่ให้คนอ่านเยอะๆ จากคุณ : ทานุกิตาดำๆ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:54:16

ความคิดเห็นที่ 82 เข้าใจว่า แฟรี่เทลล์ฉายเช้าวันเสาร์สิบโมงครึ่งนะคะ เพราะรอตามดูเช้าวันเสาร์ทุกอาทิตย์ จากคุณ : glamorousbuild เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 23:05:27

ความคิดเห็นที่ 83 มิน่าเราถึงได้ชอบดูการ์ตูน12ตอนจบ- -" จากคุณ : นินนินมาแว้ว เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 03:44:05

ความคิดเห็นที่ 84 -คนวาดการ์ตูนญี่ปุ่นมักตายเร็ว ประมาณ 60 ปี ไม่รู้ทำไมนะ!?! จากคุณ : ด้วงแว่น เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 07:54:23

ความคิดเห็นที่ 85 84 ไม่แปลกหรอกครับ ญี่ปุ่น สูบจัด ดื่มหนัก  ทำงานโต้รุ่ง  ไม่ก็ทำงานกลางคืน ไม่งั้นสมองไม่แล่น ตับจะไปพักเวลาไหน ส่วนใหญ่ ไม่ตายเพราะ ตับ ก็ ปอด นี่แหละครับ เช่น คนแต่งนิยาย Guin Saga แต่งเล่มสุดท้ายจบไม่กี่วันก็สิ้นลมเพราะมะเร็งตับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 14:49:35 จากคุณ : Ex-Sentinel เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 14:48:26

ความคิดเห็นที่ 86 จะมาว่าโมเอะอย่างเดียวก็ไม่แฟร์นะ เพราะเราว่าโมเอะเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่แสนจะธรรมด๊าธรรมดาของอนิเมยุคนี้ไปแล้ว อนิเมโมเอะแฟนเซอร์วิส ดาดๆที่ออกมาเจ๋งก็ถมไป ที่สำคัญคืองานที่มีจุดเด่น ให้เป็นที่จดจำ ให้คนจำได้ และที่สำคัญคือให้คนอินและผูกพันธ์ มากพอที่จะให้คนทุ่มเงินกับมันดูต่างหากล่ะ  ถ้าไม่ดีพอจะก่อ impactอะไร ก็แค่เป็นงานดีๆ แต่แสนจะธรรมดา  ถ้าจะเรียกเป็นภาษาประกิด เราจะว่า mediocre แบบว่าคุณภาพงั้นๆ ไม่ดีไม่แย่  ไม่มีค่าควรจะจดจำใส่ใจ ที่ถูกลืมไปกับเวลาเท่านั้นแหล่ะ ปล. กรณีเคอองนี้ก็แอบเข้าใจนะ เหมือนคนเทียบกรณีเคอองฟีเวอร์ กับความรักที่มีกับเดอะบีทเทิ้ล  คือแบบ เนื้อหาไม่ได้ลึกซึ่้ง ให้ข้อคติธรรม ปรัชญาล้านแปดกับชีวิตอะไร แต่ดูแล้วเป็นสุขใจ แค่นี้ พอป่ะ? ปล2. นักดูฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย โปรดเข้าใจจิตใจผู้บริโภคธรรมดาๆด้วย อนิเมบางเรื่องเทพจริง แต่ต้องปีนกระไดดูมากเกินไป ใส่พวกสัญญะมากเกินไป มีป่มมาเกินไป คนเค้าก็ไม่แลหรอกนะ แถมจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อด้วย จากคุณ : ปืนติดพิษ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:22:43

ความคิดเห็นที่ 87 จริงๆโมเอะ + ฮาเรม  นี่มีเข้ามาฉายในซีซั่นนึงเกือบครึ่งของการ์ตูนทีมี  หลังๆก็ชักเอียน เหมือนกัน  หาดูการ์ตูนแนวหนักๆเนื้อเรื่องจริงจังไม่ค่อยได้  ส่วนใหญ่จะดูเนื้อเรื่องดีๆต้อง ไปดูพวกเดอะมูฟวี่  ชอบนะแต่มันสั้น  ไม่ได้ลุ้นเรื่อยๆเหมือนทีวีซีรีย์  เรื่องวับวับแวมๆนี่ ส่วนตัวก็ชอบนะ  แต่พวกลมปลิวกระโปงเปิดแบบตั้งใจๆไม่ใช่เหตุการณ์-มุมกล้องพาไปนี่ มันดูไม่เนียนตาเหมือนกัน  เห็นบ่อยๆก็เซง  ชอบเซอวิทของค่าย Gainax สุดล่ะจริงใจดี   กระชายเสื้อขาดเพราะมันต้องกระชาก   โป๊เพรามันต้องโป๊  ไม่ต้องลมพัดกระโปงเปิด หกล้มนม-ตูดทับหน้า  อ้าหว่างขาเห็น กกน.  ฮะ ฮะ จากคุณ : lolicon2015 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 17:02:28

ความคิดเห็นที่ 88 ว้าว มีอนิเมะวายติดอันดับด้วย 7. 4,524 Sekaiichi Hatsukoi 2 จากคุณ : Rdfaiz เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 17:47:41

ความคิดเห็นที่ 89 จากคุณ : lonea เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 18:25:15

ความคิดเห็นที่ 90 กระจ่างขึ้นเยอะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : i am tabo เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 20:36:15

ความคิดเห็นที่ 91 กระทู้นี้ดีจริงๆครับ ตอบข้อข้องใจผมได้แทบหมด โหวด + กิฟท์ครับ จากคุณ : RadiorA เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 23:41:50

ความคิดเห็นที่ 92 ตอนบ้านเราติดทรูนี่แฟนช่อง animax เลย เราชอบแบบแนวคนเก่งฟ้าประทาน มีบู๊หนุก ๆ  กับ demon king ที่ตัวเอกหล่อ ๆ หน้าหวาน ๆ แนวนี้อ่าน manga ด้วย ถ้าแนวต่อสู้นี่ดูอย่างเดียว พึ่งเห็น กท ดี ๆ แบบนี้  มาช่วยโหวตค่ะ ^^ จากคุณ : chinchang&jaejung เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 01:47:32

ความคิดเห็นที่ 93 . จากคุณ : soulmachine เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:55:11

ความคิดเห็นที่ 94 เบื่อแนวโมเอะ ขายเซอร์วิส ฮาเร็ม ชักเอียนขึ้นทุกวัน.... จะหาดูพวกการ์ตูนบู้+เนื้อเรื่องขั้นเทพ นับวันยิ่งหาโครตยาก ถึงมีอยู่บ้างแต่ก็กากตดเป็ด   นับวันการ์ตูนดีๆ ชักจะน้อยลงเรื่อยๆ เห้อออออออออ จากคุณ : PromZero เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 10:52:09

ความคิดเห็นที่ 95 //94 ช่วยไม่ได้จริงๆครับ  เพราะจำนวนคนที่บอกอยากดูอนิเมดีๆแบบนั้น ซื้อจริงๆน้อยมาก (เมื่อเทียบกับการ์ตูนสายหลักที่มีสปอนเซอร์  หรือสายโอตาคุที่ซื้ออย่างสม่ำเสมอ)  ถ้าให้ทำอนิเมแบบนั้นแล้วบริษัทคงไม่มีอะไรกิน อันที่จริงสายโมเอะ  นี่ก็ไม่ได้กำไรเว่อเวินอะไรนะ แต่โอกาสเจ็บตัวน้อยกว่า (ถึงไม่กำไรแต่ก็มักจะขาดทุนไม่มาก) ปล. ต้นทุนอนิเม 1 ตอน  ตั้งแต่ 15  - 120 ล้านเยน ถ้าลองดูซีรีย์ 12 ตอนก็คูณๆกันเข้าไปเอง ><" แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 11:31:43 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 11:22:19

ความคิดเห็นที่ 96 แต่เราชอบอ่านการ์ตูนเนื้อหาดี ๆ นะ ไอ้โมอ่งโมเอะอะไรนี่ไม่แตะเลย พยายามอ่านแล้วแต่ทำใจอ่านไม่จบซักที ตั้งแต่เนกิมะละ ไม่ใช่แนว จากคุณ : พุงโตน้อย... เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 11:38:43

ความคิดเห็นที่ 97 มิน่า One Piece อนิเม ถึงได้แย่ จากคุณ : Buddykung เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 14:03:57

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณ จขกท มากๆเลยคับ...ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย ^^ จากคุณ : epixma เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 15:06:24

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณจกขท มากๆนะค่า เมื่อก่อนเราก็เคยคิดว่าช่วงดึกมีแต่เรื่องติดเรท แต่หลังๆตารางฉายหลายเรื่องที่เราดู ที่ไม่ได้ติดเรทนะ555 ฉายช่วงดึก แล้วเอายอดดีวีดีเอา ก็อ่อ พอเข้าใจละ55 แต่เอียนพวกเซอร์วิสมากกกกกT.T จากคุณ : rerina เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 16:21:34

ความคิดเห็นที่ 100 55 จากคุณ : เขียนบน iPad (Cinnamoroll) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 17:23:01

ความคิดเห็นที่ 101 อ้อ นึกว่าผมเป็นคนเดียวซะอีก เบื่อพวก โมเอะกับขายเซอร์วิส แล้วก้อฮาเร็มสาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เข้าไปใยบอร์ดตุรกีก้อเจอแต่กองอวย ปักหมุดมีช่วงนึง มีแต่ฮาเร็ม ฮาเร็มโรบอท ฮาเร็มโรงเรียน ฮาเร็มตระกูลเซอร์วิส โมเอะ บลาๆๆๆๆๆ เข้าไปอ่านก้อเจอแต่กองอวย จะหาอนิเมะดราม่า น้ำดี แอกชั่นมันส์หายากเหลือเกิน จากคุณ : -sam- เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 20:03:44

ความคิดเห็นที่ 102 การค้นหาอะนิเมะน้ำดีในแต่ละซีซั่นท่ามกลางดงโมเอะเซอร์วิส ก็เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งล่ะนะ 55 จากคุณ : someday_for_somebody เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 23:55:31

ความคิดเห็นที่ 103 เพราะมีความต้องการในโมเอะของโอตาคุอยู่แล้วก็มันขายได้ (ซึ่งโอตาคุเหมือนเป็นผู้คุมตลาดไปแล้ว) ผู้ผลิตก็จึงผลิตมาตอบสนองสินะครับ เข้าใจล่ะ ว่าแต่ซีซั่นนี้ผมยังไม่มีอะไรจะดูเลยครับ โมเอะบานนน ซีซั่นหน้าคงฝากฝังได้แค่ชื่อของ Urobuchi Gen เท่านั้นแหละ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 07:47:07 จากคุณ : nicemaker เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 07:29:33

ความคิดเห็นที่ 104 =_= ช่วงนี้ดูแต่ ฮอไรซอน ไม่เจออนิเมถูกจริตอย่างนี้ มานานแล้ว จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 12:11:17

ความคิดเห็นที่ 105 Fate zero ยังแอบโมเอะเลย ฮ่วย!! จากคุณ : ไทนาวี เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 12:12:56

ความคิดเห็นที่ 106 โมเอะ,เซอร์วิส มี ก็ถือว่าดี ไม่เสียหาย ครับ เหมือนกับ ผงชูรส นั่นละครับ , กินเปล่าๆ ตัวมัน ก็ไม่มีรสชาติ อะไร นอกจาก เค็ม ปนเฝื่อน, อาหาร รสสุนัข ไม่รับประทาน ต่อให้เทลงไป เป็นถุงๆ ก็ยังมีรสชาติ สุนัขไม่รับประทาน เช่นเดิม แต่ ถ้าอาหาร มันดีอยู่แล้ว ใส่เพิ่มไปหน่อย ก็ได้รสชาติ มากขึ้น... ลองดูอย่าง Code Geass ก็ได้ ถ้า C.C. ไม่โป๊, ไม่นอนแก้ผ้าให้พระเอกดู ; Nunnally , Kaguya Hime ถ้าไม่โมเอะ น่ารัก คุณว่า มันจะสนุกอย่างที่เป็นแบบนี้ หรือเปล่า ล่ะ? หรือคุณ อยากดูแบบ นางเอก ไม่แก้ผ้า ; น้องพระเอก หน้าตาแบบเรื่อง Azuki สาวน้อยร้อยชั่ง แบบนั้นเล่า ครับ? แล้วมันจะกลืนลง ไหมเนี่ย? Plot เรื่อง ทีดี กับ โมเอะ/เซอร์วิส มันไม่จำเป็น ต้องแยกทาง กันเดิน หรอกครับ สองอย่างนี้ ไปด้วยกันได้ อยู่แล้ว แต่หลายคน พอเอียน โมเอะ,เซอร์วิส เข้า ก็เลยพาลเข้าใจไปว่า พอโมเอะ,เซอร์วิส ปั๊บ.. เนื้อเรื่อง ก็แย่ทันที ซึ่งมันไม่ได้เป็น ตรรกกะ แบบนั้น เสมอไป ครับ ตัวอย่าง ที่โมเอะ,เซอร์วิส ไปด้วยกันได้ ก็มีหลายเรื่อง แต่ มันมีน้อย เมื่อเทียบกับงาน ที่ปล่อยออกมา จำนวนมหาศาล ในขณะนี้ ครับ เรื่องที่อยากแนะนำ ก็พวก Madoka Magica , Spice and Wolf , Nanoha Series , Kamisama no Memochou , Kurenai ปล.ผมก็เป็น นักดู anime รุ่นใหญ่ เหมือนกัน คิดเหมือน บางความเห็น ข้างบน พวกที่ เนื้อเรื่อง ขาดตรรกกะ,บ้าพลัง หรือ พวก เน้น level upgrade , พลังแห่งมิตรภาพ หรือ โดนฆ่าไปกี่รอบ แม่v ก็ฟื้นกลับมา อย่างไร้เหตุผล ทุกที รวมถึงพวก ที่ทำมา ขายของเล่น โดยเฉพาะ... เรื่องพวกนี้ ต่อให้ดังขนาดไหน ก็ไม่อยากดู ครับ มันเป็น plot ซ้ำๆ น่าเบื่อกว่า พวกขาย โมเอะ,เซอร์วิส เสียอีก ตัวอย่างก็พวก Dragon Ball , Let's and Go , Yu Gi Ou ไม่ก็พวก ตระกูล ขาย มอนสเตอร์ ทั้งหลายแหล่ แค่มองผ่านๆ ก็เอือม ครับ... แต่พวกช่อง 9 ขยันหาพวกนี้ มาฉายหลอกเด็ก เจ็งๆ จากคุณ : จาน ชาม ช้อน ส้อม เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 16:25:10

ความคิดเห็นที่ 107 ^ ^ ^ เห็นด้วยเกือบทุกประการครับ (ผมก็รุ่นใหญ่เหมือนกัน 555) แต่เสริมและแย้งนิดนึง ไอ้เรื่องที่เน้นแต่ โมะเอะ กับ เซอร์วิส ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เอะอะแม่มโป๊ แบบไร้เหตุผล โมะเอะแบบไม่ธรรมชาติ ก็ไร้สาระพอๆกับการ์ตูนบ้าพลังขาดตรรกะเหมือนกัน ส่วนที่แย้งคือ ดราก้อนบอล ถึงแม้มันจะบ้าพลังแต่ตรรกะมันไม่หลุดนะครับ (ไม่เหมือนการ์ตูนต่อสู้ตอนนี้) ไอ้ตัวที่โผล่มาตอนแรกอย่างเถาไปไป มันก็น่ากลัวที่สุดในโลกจริงและคนก็กลัวกันทั้งโลกจริง เพียงแต่ไอ้ตัวหลังๆมันน่ากลัวที่สุดในจักรวาลและคนในดาวอื่นก็กลัวกัน ดังนั้นศัตรูตัวแรกมันจะมีชื่อเสียงโด่งดังก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตอนที่ตัวแรกดังตัวหลังมันยังไม่มีใครเคยเห็น และพระเอกก็ไม่ได้ใช้กำลังใจอย่างเดียว หากจะเพิ่มเรื่องที่ดูแถๆขึ้นมา (เช่นเรื่องหลังความตายหรือดาวดวงใหม่) พี่แกก็อุตส่าห์เขียนตรรกะให้จนกลายเป็นอีกภาคนึงได้เลย ต่างกับการ์ตูนบางเรื่องที่ศัตรูตัวแรกแม่มโคตรจะอ่อนด๋อย เอานิ้วจิ้มก็ตาย แต่ดันชื่อเสียงโด่งดังไม่สัมพันธ์กับฝีมือสักนิด ทั้งๆที่ศัตรูตัวแรกกับตัวสุดท้ายแม่มก็อยู่ในสังคม เมือง ประเทศ หรือโลกใบเดียวกันนั่นแหละ แต่อย่างเรื่อง fate stay night ที่หลายๆคนว่าดีกัน ผมดูแล้วก็ไม่ชอบ เพราะมันไม่มีตรรกะไรเลย นางเอกเล่นโกรธ เบ่งพลัง สู้ชนะหมด (แล้วทำไมเอ็งไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกวะ) ไม่รู้ว่าภาค zero จะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า เพราะไม่ได้ดูต่อ k-on หลังๆก็เริ่มเบื่อๆหน่อยดูเหมือนผู้กำกับอนิเมะเน้นโมะเอะเกินไปหน่อย จนดูไม่ค่อยธรรมชาติเหมือนพยายามทำตัวน่ารัก แต่ดูมังงะยังสนุกอยู่ เพราะยังโมเอะแต่พอประมาณแบบซีซันแรกและซีซันสองช่วงแรกๆ อย่างที่คุณว่าโมเอะมันควรจะเป็นรสชาติเสริมไม่ใช่รสชาติหลัก หากมันเสริมแต่พอประมาณก็จะสนุกขึ้น แต่หากมันกลายมาเป็นรสชาติหลักมันจะรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดให้เสพและผลจะออกมาตรงกันข้าม แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 19:31:21 จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 19:25:03

ความคิดเห็นที่ 108 #106 คุณ จาน ชาม ช้อน ส้อม มีความคิดเห็นที่น่าสนใจครับ ผมชอบมากและก็เห็นด้วย ตัวผมเองผมคิดอีกรูปแบบหนึ่ง ผมมองว่าอนิเมะที่ดีคืออนิเมะที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และรักษาความเป็นตัวของตัวเองไว้จนถึงที่สุดครับ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอนิเมะโมเอะหรืออนิเมะบ้าพลังก็สามารถโดนใจผมได้ตราบเท่าที่คงความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้ ยกตัวอย่างเช่น K-ON! ที่เป็น Slice of Life ไม่ได้มีแก่นสารอะไร แต่ผมก็มองว่าเป็นอนิเมะที่ดีเรื่องหนึ่ง (เฉพาะภาคแรก) เพราะคอนเซ็ปท์ของ K-ON! นั้นนำเสนอชีวิตประจำวันที่น่าสนใจของสาวๆ และก็ทำออกมาได้อย่างมีรสชาติ มีหัวเราะบ้างร้องไห้บ้าง อาศัยการดำเนินเรื่องที่สมดุลได้สัดส่วนและไม่จำเจ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีเซอร์วิสแต่ก็เพลิดเพลินได้ ในขณะที่ภาคต่อๆมานั้นแย่ลง เพราะนอกจากจะไปเน้นความโมเอะเป็นหลักจนสูญเสียประเด็นไปแล้ว ยังยืดเรื่องให้ยาวขึ้นอีกเป็นสองเท่าจนหมดมุขที่จะไปต่อ กลายเป็นโมเอะซ้ำซากไป ตัวอย่างในมุมกลับกันคือแนวบ้าพลังอย่าง Gurren Lagann ที่ผมก็มองว่าเป็นอนิเมะที่ดีเช่นกัน เพราะตรรกะแรกที่เรื่องนี้นำเสนอก็คือ "ถีบตรรกะให้ตกขอบไปและทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้" ซึ่งคอนเซ็ปท์นี้คงอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าความบ้าพลังที่เกิดขึ้นจะไม่ได้มีเหตุผลอะไรมารองรับเลยแม้แต่น้อย แต่เราก็สามารถเพลิดเพลินไปกับความเร่าร้อนของตัวละครโดยไม่ต้องใช้สมองคิดให้เปลือง สรุปแล้วผมมองว่าต่อให้อนิเมะเรื่องหนึ่งไม่ได้มีตรรกะหรือเหตุผลอะไรก็สามารถเป็นอนิเมะที่ดีได้ตราบเท่าที่ไม่ได้ขัดแย้งกับความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งสมัยนี้มันมีเยอะเหลือเกินประเภทที่หลายๆท่านบ่นไป พวกแอ็กชั่นบังหน้าแต่เอาเข้าจริงขายโมเอะ/เซอร์วิสเนี่ย จากคุณ : Kaito_Dash เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 03:28:52

ความคิดเห็นที่ 109 ไม่เห็นด้วยกับ #57 ครับ ไม่งั้น The Dark Knight Rises คงทำเงินน้อยกว่า On the Road ในอเมริกา (คุณบอกว่าความจริงของทุกสังคม) แล้วก็ #106 จริงครับว่าเนื้อหาที่ดีกับการใส่ฉากเซอร์วิซไม่จำเป็นต้องแยกกัน แต่ทุกวันนี้ที่ผมเจอมันมีแต่ เนื้อหาไม่ได้เรื่องแต่ยัดนมมาเยอะ ๆ ก็ขายได้แล้ว แล้วผมสงสัยว่าอนิเม"ปกติ" บางเรื่องเดี๋ยวนี้มันโป๊ยิ่งกว่่า H-Anime เมื่อประมาณ 15 - 20 ปีก่อนซะอีก อย่างไอ้เรื่องจอมมารหลังห้อง กับโรงเรียนอะไรดี ๆ นั่นน่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 55 15:45:12 จากคุณ : alcalshel เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 15:37:52

ความคิดเห็นที่ 110 แล้วพวกหนัง AV ที่จ้างดาราค่าตัวแพงๆมันอยู่ได้ไงหว่า... อยากรู้ ยอดขายบ้างจัง...อิอิ จากคุณ : owennaja เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:00:56

ความคิดเห็นที่ 111 ถ้าจะพูดกันตรง ๆ ตอนนี้หาการ์ตูนอนิเมะดี ๆ เริ่มหาดูยากแล้วครับ กี่เรื่อง ๆ ที่ออกมากลายเป็นแนวโมเอะ เซอร์วิสแทบจะ 80 % อัพแล้วตอนนี้เนื้อเรื่องเบาโหวงเหวง ปีนึงอาจมีอนิเมะที่เนื้อเรื่องดี ๆ ภาพเทพ ๆ ออกมาซักเรื่องสองเรื่องก็นับว่าบุญแล้ว จากคุณ : ไทนาวี เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 06:52:44

ความคิดเห็นที่ 112 พอรัฐบาลจะขึ้นครองชีพ ก็ด่ากัน แล้วไปเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วทำไม   ประเทศเราด้อยพัฒนาอย่าลืมสิ จากคุณ : mootomoosun เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 09:59:19