 |
คิดซักนิดก่อนสัมภาษณ์เถอะนะพลอย เรื่องมันเหมือนจะแยกกันได้แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเหตุเป็นผลกันนะ
เงิน 30,000 บาท ที่เป็นข่าวตอนแรก ว่าที่จริงมันก็ยังไม่เคลียร์ถึงที่มาที่ไปเลย ที่ทางออแกนไนซ์พูดก็คือ ตกลงค่าตัวแสนสองบวกค่าแต่งหน้าทำผมอีกสามหมื่นเป็นแสนห้า ซึ่งทางนั้นกล่าวว่าผู้จัดการพลอยบอกว่าไม่ใช้ช่างแต่งหน้าทำผมของออแกนไนซ์ แต่จะแต่งมาเองซึ่งค่าใช้จ่ายทางออแกไนซ์เป็นคนออก
แต่พอมาถึงงานทางฝ่ายพลอยเรียกหาช่างแต่งหน้าทำผมอีก พร้อมหลุดปากว่าหน้าผมนี้แต่งมาจากอีกงานนึงแล้วมาทำงานนี้ต่อ ออแกนไนซ์ก็ถามผู้จัดการของพลอยว่าสรุปที่ตกลงกันคือ ค่าตัวแสนสอง และ ค่าทำผมแต่งหน้าสามหมื่นใช่ไหม (ที่เว้นไว้ในช่องว่างคือ แล้วเรียกช่างแต่งหน้าทำผมเพื่อ ....) ซึ่งพลอยก็เข้ามาไกล่เกลี่ย
ประกอบกับการที่หลุดปากออกมาแล้วว่าทำผมแต่งหน้ามาจากอีกงานหนึ่ง มันก็สามารถแปลความหมายได้ว่า จะตีกินเปล่าเงินสามหมื่น ใช่หรือไม่ใช่ ? แล้วใครรู้เห็นบ้าง ? เงินมันไม่จำเป็นต้องโดนชักหายไปจากเช็คก็ได้ถ้ามีการรู้เห็นเป็นใจกันแบ่งกันภายหลัง มันคิดได้หลายมุม ถ้าพลอยแก้ที่ต้นเหตุได้มันก็จบ ก็อธิบายไป ไม่ได้โกงคือยังไง ไม่ใช่เงินไม่หายไปจากเช็คแค่นั้นต้องคิดให้รอบว่าเราจะเคลียร์ให้ไม่มีข้อโต้แย้งได้อย่างไร ซึ่งพลอยลากเรื่องอื่นเข้ามา คือ เช็คที่ได้ค่าตัวไม่ครบ พลอยจะตลบเขาเหมือนที่พลอยบอกว่าเขาจะทำกับพลอยแหละ แล้วพลอยถึงขึ้นผรุสวาสใส่เขาไง
มันก็ต่อเนื่องจากไม่ใช่แค่ 10% อย่างที่พลอยว่า เพราะ พลอยโยนเรื่องเงินใส่เขา บอกว่าเขาจ่ายค่าตัวไม่ครบ เรื่องใหญ่นะถ้าบอกว่าเขามีปัญหาทางการเงิน ซึ่งออแกนไนเซอร์เขาตอบได้รอบกว่า ที่มาที่ไปของเงินที่หายไปคือยังไง เมื่อบอกว่าเป็นภาษี ณ ที่จ่าย มันก็ไม่สามารถแก้ต่างเป็นอื่นได้นอกจากต้องบอกกระบวนการหักภาษี ซึ่งก็ต้องบอกว่าหักยังไง หลักฐานประกอบคืออะไร ซึ่งมันพอดีที่เข้าทางออแกนไนซ์ เพราะ มันกลายเป็นบัตรคนอื่นมารับ
พอถึงตรงนี้มันไม่ใช่ว่าใครเริ่มก่อนแล้ว เพราะ ข้อกล่าวหาเรื่องภาษีของพลอยมันมีน้ำหนักมากกว่าเรื่องเงินที่มันยังไม่เคลียร์ที่มาที่ไปหลายเท่า โชยกลิ่นผิดกฎหมายมาแต่ไกล เรื่องภาษีน่ะเป็นพลอยเองรึเปล่าที่ยื่นดาบมาให้เขาแทงน่ะ เรื่องบัตร เรื่องบริษัท เรื่องการกระจายรายได้
ส่วนเรื่องคุณต้าร์ พูดถูกแต่ไม่ดูสถานการณ์ ต้าร์จะสื่ออะไรมันไม่เป็นประเด็นล่ะ เพราะ การรับรู้ของคนส่วนใหญ่มันไม่ใช่แค่คำพูดเตือนสติ เพราะ เลือกพูดในสถานการณ์ที่หยิบโยงได้ คนรักกันให้กำลังใจกันก็ดีแล้ว แต่การเลือกถ้อยคำในสถานการณ์แบบนี้ก็ต้องตรองนิดนึงว่าส่งผลดีหรือเสีย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงภาษาและพฤติกรรมที่พลอยใช้กับคนอื่นโดยเฉพาะคู่กรณี คนที่เคยโดยพลอยว่าใส่แรง ๆ หมาขี้เรื้อนบ้าง ขี้เล็บบ้าง คำหยาบคายอื่น ๆ บ้าง
ไปพิจารณาเถอะ ว่ามีคนแกล้งเรา หรือ เราทำตัวเอง ? เวลาชี้นิ้วกล่าวหาคนอื่นอีกสามนิ้วมันก็เข้าตัวนะพลอย
จากคุณ |
:
วรินทร์รตา
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ย. 55 20:33:57
|
|
|
|
 |