ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากก้นตาราง อันดับ 10 กับแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจากค่ายพิกซ่าร์ อย่าง Brave ที่อันดับยังคงไหลลงมาเรื่อยๆ (ซะจนจะตกตารางอยู่แล้ว!) แต่ด้วยความที่คู่แข่งแทบจะไม่มี รายได้ก็เลยไม่ได้ไหลดิ่งลงมากซักเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่เป้นช่วงไร้คู่แข่ง ทำให้รายได้ที่ลดลง ก็ออกมาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะสัปดาห์นี้ ทำเงินลดลงไปเกือบ 60%!! เก็บไปอีก 9 แสนบาท ง้างคันธนูมาสี่สัปดาห์ แก้คำสาปได้แล้ว 24.5 ล้านบาท ด้วยกำลังของหนังที่ดูจะอ่อนแรงลงไปมาก ทำให้อันดับของหนังในกลุ่มแอนิเมชั่นปีนี้ก็คงแทบไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรมากแล้วล่ะ เพราะยังตามหลังอันดับ 2 อย่าง Ice Age: Continental Drift อยู่ค่อนข้างห่าง (33.2 ล้านบาท) คว้าอันดับ 3 ไปแบบน่าผิดหวังอยู่บ้าง รวมไปถึงอันดับในบ้านพิกซ่าร์ ที่ถือว่าน่าจะเป็นเอกฉันท์ไปแล้ว ด้วยการมอบตำแหน่ง “รองบ๊วย” ของบ้านให้แก่เจ้าหญิงของเราไป (หรือให้พูดเป็นอันดับ ก็คือ อันดับที่ 12 จากทั้งสิ้น 13 เรื่องนั่นเอง!) ก็อย่างที่บอกไปสัปดาห์ก่อนนั้นแหละว่า เพิ่งจะแซงบ๊วย อย่าง Cars ในหลัก 10 ล้านได้เพียงเรื่องเดียว และแม้จะตามหลัง Toy Story ภาคแรก อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ด้วยกำลังล่าสุดที่เห็นในตอนนี้ ตัวเลข 27.8 ล้านบาท ของเรื่องหลัง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากไปในบันดลเสียแล้ว!! ส่วนอันดับในกลุ่มแอนิมเมชั่นตลอดกาลในบ้านเรา แม้ว่าจะพอขยับขึ้นมาได้อีกนิดๆ หน่อยๆ แต่ล่าสุด อันดับก็ยังถือว่าค่อนข้างไกล อยู่ถึงอันดับ 35 เลยทีเดียว!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:08:06

ความคิดเห็นที่ 2 อ่าว! เห็นทรงตัวได้ดีอยู่พักใหญ่ มาสัปดาห์นี้ร่วงทะลุ Top 5 มาอยู่ อันดับ 9 เลยแฮะ! กับรอม-คอมไทยอารมณ์ดี คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ ไม่รู้ว่าเพราะโดนหนังใหม่ ที่แนว(พยายามจะ)คล้ายกันมาแย่งคนดูด้วยหรือเปล่า ทำเอาหนังถึงกับเป๋กว่าช่วงก่อนหน้าไปค่อนข้างเยอะทีเดียว เพราะสัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปเกือบ 70%!! เก็บไปอีก 1 ล้านบาท เก็บเงินกันแบบเฮฮา สี่สัปดาห์ได้ไปแล้ว 31 ล้านบาท แม้ในแง่อันดับต่างๆ ของปีนี้ จะไม่แตกต่างจากสัปดาห์ก่อนเท่าไหร่ แต่ในเมื่อหนังสามารถผ่านหลัก 30 ล้านได้อย่างเป็นทางการ ก็เลยมีสถิติอะไรให้ได้พูดกันอีกซักหน่อย เริ่มจาก เป็นหนังไทยระดับ 30 ล้าน เรื่องที่ 6 ของปีนี้อย่างเป็นทางการ (ซึ่งอันดับของหนังไทยปีนี้ ก็อยู่ที่อันดับ 6 ในตอนนี้เช่นกัน ตามหลัง 407 เที่ยวบินผี ที่ 34.4 ล้านบาท) และเป็นหนังจากค่ายใบโพธิ์เรื่องแรกของปีนี้ ที่สามารถผ่านหลัก 30 ล้านบาทได้อีกด้วย!! (เอ่อ....จะดีใจหรือเสียใจดีหว่า เพราะไม่อยากยกสถิติเก่าๆ ของค่ายนี้มาพูดถึงเลย!) ขณะที่ในกลุ่มรอม-คอมปีนี้ด้วยกัน อันดับก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรจากสัปดาห์ก่อน ยังคงตามหลังทั้ง ATM และ วาเลนไทน์ สวีทตี้ สองเรื่องเดิมเช่นเก่า รวมไปถึงเครดิตของนักแสดงแต่ละคน ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเช่นกัน เอาเป็นว่าถ้าผู้กำกับแดนจะมีหนังเรื่องใหม่ ก็ขออวยพรให้ทำได้มากกว่าเดิมแล้วกันนะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:09:31

ความคิดเห็นที่ 3 นี่ก็รูดมาท้ายๆ ตารางแล้วเช่นกัน หลุดมาสองขั้น ลงมาอยู่ใน อันดับ 8 กับสุดยอดสายลับ The Bourne Legacy ที่แม้ว่าจะไม่ต้องเจอกับคู่ปรับโหดๆ แบบช่วงก่อน แต่โรงที่หายไปก็ไม่ใช่น้อย ทำเอารายได้วูบลงมาอย่างที่เห็น สัปดาห์นี้ รายได้ลดลงมาแรงถึง 65% เก็บไปอีก 1.1 ล้านบาท โชว์บู๊ตลอดสี่สัปดาห์ไปแล้ว 41 ล้านบาท แม้จะกลายเป็นหนัง 40 ล้านในบ้านเราอย่างเป็นทางการได้ซะที (เรื่องที่ 21 ของปีนี้ โดนปาดหน้าไปนิดเดียวเมื่อสัปดาห์ก่อน!) แต่อันดับ ก็ไม่ได้กระเตื้องอะไรมากเท่าไหร่ ยังดีที่อุตส่าห์ทะลุเข้า Top 20 ของปีนี้ได้สมใจซะที! (แซงหน้า Journey 2: The Mysterious Island ที่ 40 ล้านบาท ไปแบบง่ายๆ แต่ยังตามอันดับ 19 อย่าง I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ที่ 43 ล้านบาท อย่างเป็นกังวล!) หรือกระทั่งในกลุ่มหนังบอร์นด้วยกัน แม้จะมาได้เกินคาดหน่อย ตรงที่ได้หวังลุ้นแชมป์ประจำตระกูล แต่ท้ายที่สุด ก็คงหมดหวังแล้วล่ะที่จะทำได้ (เพราะห่างจากแชมป์ อย่าง The Bourne Ultimatum ค่อนข้างห่างแล้ว ที่ 49.4 ล้านบาท) ในส่วนของเครดิตนักแสดง และผู้กำกับ ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร แต่เห็นจากรายได้ ณ ตอนนี้(ทั่วโลก)แล้ว โอกาสที่จะได้เห็นหนุ่มแอรอน กลับมาโลดแล่นอีกซักครั้ง ก็ยังถือว่า พอสดใสอยู่ล่ะน่า! (ซึ่งก็คงต้องรอลุ้นคืนทุนจากอีกหลายตลาดใหญ่อยู่ล่ะ) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:10:09

ความคิดเห็นที่ 4 หล่นลงมาพอสมควร แต่ก็ยังไม่ไปไหน เกาะ อันดับ 7 ไว้ได้ กับเรียลลิตี้ ผจญสัตว์ดึกดำบรรพ์ The Dinosaur ที่สัปดาห์ก่อน เปิดตัวด้วยรายได้ที่ค่อนข้าง “เอาเรื่อง” ทีเดียว (เมื่อเทียบกับฟอร์มหลัง และอะไรหลายๆ อย่าง) แม้สัปดาห์นี้ รายได้จะวูบลงมาตามคาด แต่ก็ยังทรงตัวในระดับที่ “ผิดคาด” อยู่ดี! ไม่รู้ว่าเพราะช่วงนี้ไร้คู่แข่งฟอร์มโหดด้วยรึเปล่านี่สิ สัปดาห์นี้ ไดโดนเสาร์ของเราถูกกวาดต้อนไปกว่า 70%! เก็บไปอีก 1.3 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ ออกตั๋วให้คนดูร่วมผจญภัยไปแล้ว 7.2 ล้านบาท อืม... ถ้าเทียบกับฟอร์มหนังแล้ว ก็ถือว่าเก็บไปได้เกินตัวมากทีเดียว แต่ด้วยรายได้ที่รูดลงมากขนาดนี้ ก็ทำให้โอกาสที่หนังจะผ่านหลัก 10 ล้าน หดหายไปค่อนข้างมาก แต่อย่างน้อย มาถึงตอนนี้ หนังก็ถือว่าเป็นหนังจากค่าย เอ็ม พิคเจอร์ ทำเงินสูงสุดอันดับ 3 ในปีนี้ไปแล้วล่ะ (เป็นอันดับที่รวมทั้งหนังไทย และหนังเทศ ที่ค่ายนี้จัดจำหน่ายเข้าด้วยกันเลยนะครับ โดยแซงหน้า ไม่ได้ขอให้มารัก ที่ทำเอาไว้แบบน่าผิดหวังที่ 6.9 ล้านบาท) ขณะที่ในกลุ่มเรียลลิตี้ ก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว ก็ถือว่าแซงขึ้นมาอยู่ในกลุ่มหัวแถวได้ไกลพอสมควร แต่ถ้าลองเทียบกับหัวแถวเรียลลิตี้ที่เคยเปิดตัวได้ใกล้เคียงกัน อย่าง Chernobyl Diaries แม้จะทำเงินลดลงเกินครึ่ง แต่ก็ไม่ถึงกับ “รูดลงเหว” แบบนี้ (ลงไป 55%) และเก็บเงินสองสัปดาห์ นำไปแล้ว 9 ล้านบาท (สถิติสูงสุดของเรียลลิตี้สยองขวัญประจำปีนี้ด้วย) หรือสถิติหนังเรียลลิตี้ประจำปีนี้ อย่าง Chronicle ที่เจอของแข็งอย่างบักจอน ตบเกรียนแตกลงมาจากฟ้า ก็ยังร่วงลงมาไม่มากเท่า (แต่ก็ 66% เลยแฮะ!) ยังดีที่ตุนไว้ตอนเปิดตัวพอสมควร เลยทะลุสิบล้านไปแบบสบายๆ ที่ 15 ล้านบาท ส่วนในกลุ่มหนังผจญในโลกไดโนเสาร์ด้วยกัน ก็แทบจะไม่ค่อยเห็นแนวนี้ในบ้านเราเท่าไหร่ เอาเป็นว่าก็ปล่อยให้ตระกูล Jurassic Park เค้าครองความยิ่งใหญ่ต่อไปละกัน (โดยมีภาค 3 ทำเงินน้อยที่สุดในบ้านเรา ที่ 48.1 ล้านบาท อึ๋ย!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:10:34

ความคิดเห็นที่ 5 อีกหนึ่งเรื่องที่หล่นลงมาแรง หลุดจาก Top3 มาอยู่กลางๆ ใน อันดับ 6 กับหนังรักภาคต่อ Yes or No 2 รักไม่รัก...อย่ากั๊กเลย ดูเหมือนว่า การที่มีหนังคู่แข่งสไตล์แนวคล้ายกันมาแย่งคนดู ก็ทำเอาหนังหวั่นไหวอยู่บ้าง ดูจากรายได้สัปดาห์นี้ ที่ลดลงมาถึง 60% เหลืออยู่ที่ 2 ล้านบาท ออมรักมาสามสัปดาห์ เรียกแฟนๆ เข้าโรงได้แล้ว 23 ล้านบาท ก็ถือว่ายังโอเคอยู่ (แม้ว่ารายได้จะร่วงลงมาค่อนข้างเยอะ) ส่วนรายได้รวมของหนังที่สามารถทะลุหลัก 20 ล้านไปได้ ก็ทำให้กลายเป็นหนังไทยเรื่องที่ 9 แล้ว ที่สามารถผ่านหลักนี้ไปได้ (ส่วนอันดับหนังไทยประจำปี แอบแซงหน้า มะหมา 2 ที่ 22.5 ล้านบาท ขึ้นมาอยู่อันดับ 8 แบบสบายใจ) โดยที่ในกลุ่มหนังรักสัญชาติไทยประจำปีนี้ อันดับของหนังก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอะไร (เพราะยังตามหลัง รัก 7 ปี ดี 7 หน อยู่อีกไกลเกินเอื้อม กว่า 40 ล้าน!!) มาดูหนังรักไทย ในอารมณ์ หญิง-หญิง เรื่องก่อนหน้ากันบ้าง แม้รายได้ของหนังจะไม่ได้มากมายในระดับประวัติการณ์ แต่ก็ไม่ยาก ที่หนังจะกลายเป็นแชมป์ของกลุ่มนี้ไปแล้ว เพราะนอกจากจะเอาชนะเพื่อนร่วมปี อย่าง She เรื่องรักระหว่างเธอ ไปได้ตั้งแต่วันแรกๆ (เพราะเรื่องหลังปิดเอาไว้แค่ 2.4 ล้านบาท) หนังยังแซง Yes or No ภาคแรกนั้น ไปได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วด้วยซ้ำ! (ปิดเอาไว้ที่ 16.5 ล้านบาท) แต่เมื่อลองดูจริงๆ แล้ว ก็ถือว่า ยังห่างกันไม่มากเท่าไหร่ เห็นกระทู้ไม่กี่วันก่อน ที่ค่ายบอกว่าอาจจะไม่ได้เห็นความรักของคิมและพายเป็นครั้งที่สาม ก็อดเศร้าใจไปด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าหากหันไปดูสถานการณ์หนังไทยในปีนี้ ก็ต้องยอมรับว่า ซบเซาลงไปไม่น้อย เพราะแทบไม่มีเรื่องไหนที่เรียกตัวเองได้ว่า “ประสบความสำเร็จตามคาด” ได้เลย แถมตอนนี้ ก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ก่อนที่หนังจะต้องสละโรงจำนวนมากให้กับหนังฟอร์มยักษ์ ดังนั้นแฟนๆ หนังหรือค่ายหนังคิดอยากจะจัดโปรแกรมอะไรขึ้นมา ก็รีบกันได้เลยครับ! (เห็นว่ามีรอบฉายควบสองภาคแล้วนี่นา!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:12:55

ความคิดเห็นที่ 6 หนังใหม่ ใสกิ๊ง เปิดตัวเข้ามากลางตาราง ใน อันดับ 5 กับหนังไทย ชื่อชวนจิ้น! Virgin Am I รักแรกกระแทกจิ้น หนังไทยเรื่องล่าสุดจากค่าย เอ็ม พิคเจอร์ ที่เรียกได้ว่า ขนดาราวัยรุ่นเอาไว้ล้นจอกันเลยทีเดียว (มีรุ่นใหญ่ แต่ไม่มาก อย่างคุณแม่ยังสาว นิโคล เทริโอ มาช่วยขายด้วย) จะไม่ให้เยอะได้อย่างไร ในเมื่อเนื้อเรื่องแบ่งเป็นสามเรื่อง สามคู่ (ตามสมัยนิยม) แถมยังแทรกประเด็น “ทางเพศ” เข้ามาเป็นปมในเรื่องอีกด้วย แม้ตัวหนังจะโปรโมตตัวเองราวกับเป็นหนังรอม-คอม ปนทะลึ่งตึงตังไป แต่ดูเหมือนเนื้อหาจริงๆ ของหนังจะหนักไปทางดราม่าไม่น้อย ไม่รู้ว่าจะทำเอาคนดูกลุ่มแรก ผิดหวังไปบ้างหรือเปล่า เอาเป็นว่า ท้ายที่สุด หนังก็เปิดตัวไปที่ 2.5 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างน้อยทีเดียวสำหรับหนังไทย ยิ่งเป็นช่วงหนังซัมเมอร์ฝรั่ง ที่ไร้คู่แข่งบิ๊กเบ้งอย่างนี้แล้วด้วยแล้ว ถือว่าค่อนข้างลำบากทีเดียว ถ้าพูดถึงหนังรักของไทยที่ทำได้ในระดับเดียวกัน ก็คงต้องย้อนกลับไปไกลหน่อยถึงช่วงต้นๆ ซัมเมอร์ นั่นก็คือ ชอบกด Like ใช่กด Love ที่ได้หนุ่มมอสมาช่วยขาย ก็ไม่อาจฝ่ากระแสหนังฝรั่งไปได้ เปิดตัวไปเพียง 2.1 ล้านบาท ถ้าพูดถึงค่ายเอ็มปีนี้ ก็ถือว่าปล่อยหนังไทยออกมาค่อนข้างเยอะทีเดียว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่มีเรื่องไหน ที่ไปเกินจุด “เสมอตัว” ได้จริงๆ เรื่องก่อนหน้า ก็คงต้องย้อนกลับไปไกลหน่อย ก่อนซัมเมอร์โน่นเลย กับ รัก 55 อย่างท้าก๋อย ที่ได้ผู้กำกับจาตุรงค์ หอบโปรเจ็คมาร่วมงานเป็นครั้งแรก แต่ไม่รู้ว่าทั้งชื่อหนัง และตัวหนัง จะแปลกจะจนคนดูไม่กล้าลองกันรึเปล่า เลยเปิดตัวไปแบบเหงาๆ เพียง 1.6 ล้านบาท (ส่วนหนึ่งก็เพราะไปชน สงครามพี่ครึ่งเทพด้วยนั่นแหละ!) ถัดไปอีกหน่อยก็คือหนังเกาะกระแสน้ำท่วม รักเอาอยู่ ที่ได้หนุ่มฟิล์มหวนคืนจออีกครั้ง ก็ดูจะเป็นการคืนจอที่เงียบเหงาไปซักหน่อย เพราะเปิดตัวหงอยๆ อีกเรื่องไปเพียง 1.9 ล้านบาท และหนังที่ได้รับคำชมไปไม่น้อย อย่าง ไม่ได้ขอให้มารัก ที่อุตส่าห์เปิดตัวรับรักในวันวาเลนไทน์ (ยอมชนหนังรักอีกเรื่องจากค่ายใหญ่เลยทีเดียว!) แต่ท้ายที่สุด ก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ เปิดตัวได้จุ๋มจิ๋มเพียง 2.1 ล้านบาท ทำให้เหล่าเวอร์จิ้นของเรา กลายเป็นหนังไทยที่เปิดตัวสูงสุดของค่ายเอ็มในปีนี้ (ไปแบบงงๆ!) จริงๆ ถ้าพูถึงหนังเรื่องนี้แล้ว ทำให้ผมนึกถึงหนังอีกเรื่องเมื่อปีก่อน ที่ประเด็นคล้ายๆ กัน อย่าง รักจัดหนัก ที่หนึ่งในผู้กำกับเรื่องนี้ ก็มาฉายเดี่ยวกำกับเวอร์จิ้นของเรานี่แหละ แต่เรื่องหลังเหมือนจะสร้างกระแสได้ “แรง” ดีกว่า เลยเปิดตัวได้ค่อนข้างเกินคาดเหมือนกัน ที่ 4.5 ล้านบาท ถ้าพูดถึงเครดิตของทั้งผู้กำกับ และนักแสดงนั้น ผู้กำกับก็อย่างที่บอกไปแล้วจากเรื่องข้างบน ส่วนดารานั้น ผมขอยกเฉพาะ คุณนิโคลมาคนเดียวก็แล้วกัน หนังเรื่องนี่ก็ถือว่าเป็นหนังเรื่องที่สามของเธอก็ว่าได้ โดยเรื่องก่อนหน้า ก็คงเป็นสถิติที่น่าจะหาหนังมาล้มยากแล้วล่ะมั้ง อย่าง 5 แพร่ง เพราะเรื่องหลัง ทำเอาไว้โหดเสียเหลือเกิน ถึง 48.2 ล้านบาท ทิ้งเวอร์จิ้นให้หนังหงอยกับหนังเรื่องแรกของเธอ อย่าง คืนไร้เงา ที่คงดูหม่นๆ ไปสำหรับคนดูในตอนนั้น เลยเปิดตัวไปแบบเหงาๆ เพียง 2 ล้านกว่าบาท งานนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่หนังไปไม่ถึงฝัน เพราะการโปรโมต หรือตัวหนังที่ดูไม่โดนใจกันแน่ แม้กระแสที่ออกมาจะค่อนข้างเป็นบวก แต่งานนี้ ถ้าคนดูไม่รู้สึกสับสนตัวหนังจากหน้าตา ก็คงจะได้แรงเชียร์ปากตอปากมาช่วยได้บ้าง ถ้าไม่ร่อแร่ไปซะก่อนที่หนังใหญ่จะมาถล่มโรงล่ะนะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:13:19

ความคิดเห็นที่ 7 ตกจากรองแชมป์ ลงมาสองขั้น ใน อันดับ 4 กับหนังไทยโร้ดมูฟวี่ ตะลุยทิเบต อย่าง ชัมบาลา ที่แม้ว่าตัวหนังเองจะค่อนข้างแหวกตลาดซะจนไม่มีคู่แข่งแนวเดียวกันให้กังวล แต่กระแสหนังที่ออกมาค่อนข้างก้ำกึ่ง ก็อาจทำเอาคนดูบางส่วน ลังเลไปบ้าง แต่เหมือนจะไม่หนักหนาอะไร เพราะสัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงเกินครึ่งไปนิดหน่อย อยู่ที่ 3.6 ล้านบาท ออกเดินทางมาสองสัปดาห์ เรียกศรัทธาไปได้แล้ว 15 ล้านบาท ก็ถือว่าโอเคอยู่สำหรับหนังไทยแนวนี้ แม้ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะรายได้สัปดาห์ที่สองในกลุ่มหนังไทย ก็ยังคงไม่สามารถขึ้นมาติด Top 10 ปีนี้ได้อยู่ดี (ซึ่งก็เรียกได้ว่า “เฉียด” ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะอยู่ในอันดับ 11 ตามหลัง มะหมา 2 ที่ 4.5 ล้านบาท) ส่วนรายได้รวม แม้ยังกระโดดเข้า Top 10 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้เข้ามาไม่ได้ (ยังติดอยู่ในอันดับ 13 ตามหลัง ปล้นนะยะ 2 อั๊ยยยย่ะ อีกไม่ไกล ที่ 16 ล้านบาท) แต่อย่างน้อย ถ้าพูดถึงในค่ายใบโพธิ์ปีนี้ หนังก็สามารถกระโดดขึ้นมาถึงอันดับ 3 ของปีนี้ได้อย่างรวดเร็วทีเดียว (ตามหลังเพียงระดับ 20 ล้านทั้งสองเรื่องของค่าย อย่าง อันธพาล และ คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์) แม้จะยังมีโอกาสผ่านหลัก 20 ล้านได้อยู่พอสมควร แต่โอกาสที่หนังจะขึ้นไปอยู่อันดับ 2 ของค่าย ก็น่าจะยากเกินไปหน่อยแล้วล่ะ (ถ้าดูจากอัตราที่ตกลงมา) หันมาดูฟากหนังไทยแนวโร้ดมูฟวี่กันบ้าง จากรายได้ที่ออกสตาร์ทค่อนข้างโอเค พอมาถึงสัปดาห์ที่สองก็ยังดูเหมือนจะโอเคอยู่เช่นกัน เพราะดูจากสถิติเก่าๆ ก็ไม่ค่อยจะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ซักเท่าไหร่ ที่มักจะรายได้รูดลงมาเกินครึ่ง อย่างโร้ดมูฟวี่วัยรุ่นเมื่อปีก่อน อย่าง Love Summer รักตะลอนออนเดอะบีช ที่อาจจะอาการหนักหน่อย เพราะโดนอิทธิฤทธิ์สาวโสด ON SALE เบียดซะกระเด็น รานได้เลยวูบหนักหนาสาหัสถึง 85%!!! เก็บเงินสองสัปดาห์ไปเพียง 7.3 ล้านบาท หรือเจ้าส้มฉุน บุกเวียดนาม เราสองสามคน แม้จะได้รับคำชมพอสมควร แต่การต้องมาชนกับแวมไพร์ขวัญใจแม่ยก ก็เลยแอบง่อยไปบ้าง ทำเงินลดลงไป 55% เท่ากัน แต่เปิดตัวน้อยกว่า รายได้รวมสองสัปดาห์จึงน้อยกว่า ที่ 13.5 ล้านบาท หรือตัวท็อปของกลุ่ม อย่างสองสาว หนีตามกาลิเลโอ แม้จะไม่ต้องเจอคู่แข่งโหดๆ แบบสองเรื่องข้างบน แต่กระแสก็ค่อนข้างออกมาก้ำกึ่ง รายได้เลยวุบลงไปเกือบครึ่ง แต่ก็ตุนสองสัปดาห์ไปแล้ว 24.7 ล้านบาท มาดูเครดิตของสองนักแสดงหนุ่มกันบ้าง สำหรับหนุ่มซันนี่ อาจยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร ในเมื่ออย่างที่บอกไปสัปดาห์ก่อนว่า หนังเรื่องก่อนหน้าของเขาทุกเรื่องต่างก็เปิดตัวในระดับ 20 ล้านขึ้นไปทั้งนั้น! ดังนั้น อันดับต่างๆ เลยแทบไม่ต้องลุ้นกันเลยทีเดียว (อันดับรองบ๊วยก็คือหนังที่เพิ่งจะฉายไป อย่าง รัก 7 ปี ดี 7 หน ก็ทำไปได้ไม่ถึงคาดเท่าไหร่ เก็บล่าสุดไปที่ 67.1 ล้านบาท) ส่วนหนุ่มอนันดาที่มีหนังเข้าเยอะหน่อย รายได้ก็เลยค่อนข้างคละๆ กัน แต่ก็ต้องยอมรับว่า หลัก 10 ล้านในเครดิตของเขา ถือว่าน้อยมาก ที่จะมีเรื่องไหนไม่ผ่าน (แต่เรื่องก่อนหน้า อย่าง ไฮโซ ก็ทำได้เพียงหลักแสนเท่านั้นเอง!) เทียบกับหนังใหญ่เรื่องก่อนหน้า อย่าง อุโมงค์ผาเมือง ก็ทะลุหลัก 10 ล้านด้ตั้งแต่เปิดตัว หรือถัดไปอีก อย่าง หลุดสี่หลุด ที่เปิดตัวได้น้อยกว่า แถมรายได้ยังดิ่งลงอีก จึงปิดไปแบบไม่สดใสเท่าไหร่ ที่ 13.4 ล้านบาท ทำให้ในเครดิตตั้งแต่แสดงมาของหนุ่มอนันดา มีเพียง 3 เรื่องเท่านั้น ที่ไม่ผ่านหลัก 10 ล้าน จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:15:12

ความคิดเห็นที่ 8 หล่นจากแชมป์มาแบบจำยอมแต่แอบมาตั้งหลักไกลถึง อันดับ 3 กับภาคต่อแก๊งค์เก๋า เกินครึ่งศตวรรษ(อายุนะ) The Expendables 2 แม้ว่าจะต้องถอยร่นลงมาเพราะอ่อนแรงซะเอง แต่เพราะคู่แข่งใหม่ไม่ใช่ตัวแย่งลูกค้าตรงๆ ก็เลยยังพอมีออกซิเจนให้ผู้เฒ่าของเราได้หายใจหายคอกันบ้าง แต่ก็เป็นออกซิเจนที่มากพอดู เพราะลดลงไปครึ่งนึงพอดี เก็บไปอีก 5 ล้านบาท กระแทกปากเหล่าร้ายมาสามสัปดาห์ ระเบิดภูเขา เผากระท่อมกันไปแล้ว 48 ล้านบาท รายได้สัปดาห์ที่สามก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว เพราะนอกจากจะลดลงไปครึ่งเดียวแล้ว ยังเป็นรายรับสัปดาห์ที่ 3 ที่สูงในระดับ Top 10 ของปีนี้เลยทีเดียว! (อยู่ที่อันดับ 10 พอดิบพอดี ตามหลัง Step Up Revolution ที่หมดแรงตอนปลาย เก็บเงินสัปดาห์ที่ 3 ไปที่ 5 ล้านเช่นกัน) ส่วนเรื่องรายได้คงไม่มีอะไรให้กังวลแล้วล่ะมั้ง เพราะทำได้ค่อนข้างเกินคาดอยู่ โดยเฉพาะยอดรายได้รวม ที่จ่อจะทะลุหลัก 50 ล้านเป็นเรื่องที่ 16 ของปีนี้อยู่รอมร่อ (ส่วนอันดับประจำปีตอนนี้ ก็อยู่ในอันดับ 16 เช่นกัน ตามหลัง Total Recall ที่แม้จะห่างกันแค่อันดับเดียว แต่รายได้ยังตามห่างพอสมควร ที่ 56.7 ล้านบาท!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:15:37

ความคิดเห็นที่ 9 เทียบกับกลุ่มหนังก๊วนชายระห่ำ หนังก็น่าจะเป็นเรื่องแรกเลยมั้ง ที่ผ่านหลัก 50 ล้าน ดูจากเรื่องก่อนๆ หน้า ทั้งก๊วนแก่แต่โหด อย่าง Red ก็ไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร ปิดไปค่อนข้างน้อย ผิดแรงเชียร์ ที่ 19.5 ล้านบาท หรือออกตัวแรงอย่าง The A-Team ก็เหนื่อยหน่อย เพราะต้องชนหนังซัมเมอร์ฟอร์มดี(กว่า)หลายเรื่อง เลยปิดไปได้ไม่ไกลกว่ากันมากนัก ที่ 31.8 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ต่างจาก The Expendables ภาคแรก ที่อาจจะทำได้ดีกว่าสองเรื่องข้างบนหน่อย แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างอะไรเช่นกัน ก็เก็บไปพอประมาณ ที่ 32.8 ล้านบาท หันมาดูเครดิตของนักแสดงพันธุ์เก๋า ที่รายชื่อแทบจะล้นจอกันบ้าง! ก็ยังคงเกาะติด 5 คนเมื่อสัปดาห์ก่อนเช่นเดิม เริ่มจากตัวหลัก อย่างป๋าซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ที่ในอดีตนั้นมีผลงานฮิตมากมาย แต่ที่น่าสนใจว่า ก๊วนเก๋าภาคสองที่กำลังจะผ่านหลัก 50 ล้านอยู่รอมร่อ เพิ่งจะเป็นหนัง 50 ล้านเรื่องที่ 2 ของป๋าแกเท่านั้น!! ก็อย่างที่เห็นกันใน Top 5 ของแกนี่แหละ ว่าหนังสร้างชื่อ อย่าง Rocky และ Rambo ของป๋าแก ไม่สามารถดันตัวเองขึ้นมาได้ซักภาค (แต่จริงๆ แล้ว Rambo 4 เพิ่งถูกเขี่ยจาก Top 5 ไปนี่เอง!) โดยมีหนังฮิตสุดก็คือหนังแป้กในบ้านเกิด อย่าง Daylight ที่ฮิตไม่น้อยในบ้านเรา ที่ 50.3 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า สัปดาห์หน้า อันดับในเครดิตของป๋าแกก็คงถูกเปลี่ยนมาแล้วล่ะ! ตามมาด้วยป๋าบรูซ วิลลิส ที่ขานี้อาจจะไม่ถึงกับแห้งแล้งหนัง 50 ล้านเหมือนป๋าสไลเท่าไหร่! เพราะแม้ว่าหนังล่าสุดกำลังจะทะลุหลัก 50 ล้าน ก็ยังคงติดแหง่กอยู่ที่อันดับ 5 ณ ขณะนี้! โดยแซงหน้า The Fifth Element แอ็กชั่นล้ำโลกของลุค เบซง ที่ทำไปได้ไม่น้อยในตอนนั้น ที่ 45 ล้านบาท แต่ยังตามหลัง The Sixth Sense หนังผีฝรั่งสุดฮ็อตของผู้กำกับมาโนช ที่ยังมีสิทธิ์ถูกแซงอยู่ ที่ 58 ล้านบาท โดยมีหนังโลกแตก Armageddon เป็นร้อยล้านเรื่องเดียวในเครดิตของแกไป ส่วน ป๋าอาร์โนลด์ คนเหล็ก ถือว่า แค่ชื่อแก ก็ขายได้แล้วในบ้านเรา อารมณ์จึงไม่ต่างจากป๋าบรูซเท่าไหร่ เพราะอันดับในเครดิตของหนังเรื่องล่าสุดก็อยู่ที่ อันดับ 5 เช่นกัน! แซงหน้าหนังที่ต้องไปแก้ไคลแม็กซ์ใหม่ อย่าง Colleteral Damage ที่ดูเหมือนคนดูก็ยังคงรอดู เพราะเก็บเงินไปไม่น้อย ที่ 42 ล้านบาท แต่ตามหลังหนังที่ไม่ค่อยเปรี้ยงในบ้านเกิด อย่าง End of Days ซึ่งก็นั่นแหละ ไม่มีผลกับบ้านเรา เพราะกวาดเงินไปถึง 62.3 ล้านบาท ปล่อยให้ Terminator 3: Rise of the Machines กลายเป็นหนังระดับ 100 ล้านเรื่องเดียวในเครดิตของป๋าแกต่อไป(อีกคน) ส่วนสองรุ่นละอ่อนลงมาอย่างเฮียเจสัน สเตแธม และเฮียเจ็ต ลี คนแรกไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้วล่ะ เพราะหนังทำเงินสูงสุดของเฮียแก ก็คือ The Expendables ภาคแรกนี่เอง! ส่วนคนหลัง ปราการด่านสุดท้ายในกลุ่มหนังเอเชียทั้งหมดของเฮียแกก็ถูกแซงไปหมดแล้ว (มี Hero ทำเอาไว้สูงสุด ที่ 38 ล้านบาท) ตอนนี้ จึงเหลือเพียงสองเรื่องที่น่าจะถูกแซงได้ในที่สุด ทั้งหนังที่แฟนๆ รอคอยให้ประกบกันมาตั้งนานแล้ว อย่าง The Forbidden Kingdom แม้จะผิดหวังแฟนๆไปบ้าง แต่ก็ยังกวาดเงินไปไม่ใช่เล่น ที่ 49.6 ล้านบาท และมีหนังโกฮอลลิวู้ดเรื่องแรกของเฮียแก อย่าง Lethal Weapon 4 ยังคงเป็นหนังทำเงินสูงสุด(อย่างน้อยก็ตอนนี้) ที่ 55.5 ล้านบาท แม้รายได้ในบ้านเกิดที่ไปได้ไม่ไกลเท่าที่คิด แต่รายได้จากต่างแดน(รวมทั้งในบ้านเรา)ที่ค่อนข้างสดใส ก็น่าจะทำให้ป๋าสไล แกมีกำลังใจ ดันก๊วนของแกกลับมารอบสามได้อยู่ล่ะมั้ง?? (เพราะเห็นข่าวลือเยอะเหลือเกิน!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:16:22

ความคิดเห็นที่ 10 เปิดตัวเข้ามาได้ถึง อันดับ 2 เลยทีเดียว สำหรับผีฝรั่ง The Possession ที่กำลังคว้าแชมป์ในบ้านเกิดสองสมัยซ้อนในขณะนี้ หนังผีเรื่องล่าสุดจากค่าย Ghost House ที่ได้ชื่อผู้กำกับดัง แซม ไรมี่ มาช่วยขาย กับเนื้อเรื่องที่น่าจะดึงดูดคอหนังสยองได้ไม่น้อย เพราะได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงสุดสยอง ของกล่องอาถรรพ์ ที่ว่ากันว่าเป็นกล่องกักปีศาจ ทำเอาผู้ครอบครองที่เปิดมันออกมา ต้องประสบกับเหตุการณ์สุดสยองกันมาแล้ว! แม้ว่าหนังผีฝรั่งจะทำเงินกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (โดยแทบไม่ต้องไปเทียบกับผีไทย) แต่การที่ช่วงนี้ หนังผีฟอร์มดีๆ ออกมากันค่อนข้างน้อย ก็น่าจะช่วยเรียกคอหนังสยองที่กำลังโหยหาความหลอน เข้าโรงกันมากขึ้นบ้าง ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะหนังเปิดตัวสัปดาห์แรกที่ 5.1 ล้านบาท อาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่มากมายอะไร เมื่อเทียบกับแนวอื่น แต่ในฐานะหนังผีฝรั่งสยองขวัญด้วยกันแล้ว ถือว่าไม่เลวทีเดียว ยิ่งเมื่อเทียบกับปีนี้ด้วยกันแล้ว ถือว่าเป็นหนังผีอันดับต้นๆ ของปีเลยทีเดียว! วัดกันในโซนผีฝรั่ง หนังก็คว้าอันดับหนึ่งไปแบบสบายๆ (ซึ่งก็เต็มไปด้วย ผีเรียลลิตี้ก็ว่าได้ นำมาโดย The Devil Inside ที่ 2.4 ล้านบาท) แต่ถ้าว่ากันถึงกลุ่มหนังสยองขวัญฝรั่งทั้งมวล หนังกลับต้องเสียแชมป์ให้กับ The Cabin in the Woods ที่กระแสมาแรงไม่น้อย เปิดตัวไปหลังรอบพิเศษสบายๆ ที่ 7.3 ล้านบาท แต่ถ้ารวมหนังผีทุกสัญชาติในปีนี้ ก็ต้องถอยร่นลงไปสองอันดับ ไปอยู่ในอันดับ 3 ซะ เพราะมีสองผีไทยฟอร์มเต็ง อย่าง I MISS U และ 407 เที่ยวบินผี ขวางลำอยู่ (เรื่องหลังรายได้เปิดตัวก็ห่างกันถึง 3 เท่าแล้ว ที่ 15 ล้านบาท แต่อีกหนึ่งผีไทยที่ชอกช้ำ อย่าง ตำนานรัก แม่นาค 3D แอบพ่ายไปที่ 4.8 ล้านบาทเอง!) ถ้าพูดถึงหนังสาวน้อยผีเข้าเรื่องก่อนหน้า ก็คงต้องย้อนกลับไปพูดถึง เรียลลิตี้ไล่ผี อย่าง Last Exorcism ที่มาค่อนข้างจำกัดโรงในบ้านเรา (7 โรง) แต่ก็ทำไปได้ไม่เลว เปิดตัวไป 8 แสนบาท พูดถึงหนังผีจากค่าย Ghost House ของเฮียไรมี่กันบ้าง แค่ชื่อก็คงไม่ต้องไปนึกถึงหนังแนวไหนกันแล้วล่ะ! เรื่องก่อนหน้าที่ได้ลงโรงในบ้านเรา ก็คือ Drag Me to Hell ที่เฮียไรมี่มากำกับเอง ได้รับคำชมไปค่อนข้างเยอะ ก็ทำได้ไม่เลวในบ้านเราทีเดียว เปิดตัวไป 10.2 ล้านบาท หรือถัดไปอีกก็คือหนังที่ชื่อไทย ดังกว่าตัวหนังซะอีก อย่าง Rise: Blood Hunter หรือ “ผีกระชากหัว” นี่เอง! ถึงชื่อจะผวนกันมันส์ แต่คนก็ไม่ได้จะดูหนังกันเพราะชื่อซะหน่อย! เลยเปิดตัวไปหงอยๆ ที่ 1.3 ล้านบาท หรือหนังเรื่องแรกของค่าย ก็คือการจับหนังสยองของญี่ปุ่นมารีเมค อย่าง The Grudge หรือ ผีดุ จูออนฝรั่ง ก็เปิดตัวไปได้ไม่น้อย (แม้จะมากไม่เท่าเวอร์ชั่นยุ่นก็เถอะ) ที่ 7 ล้านบาท กระแสหนังที่ออกมาก็ค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่ง ยิ่งตัวหนังมีความน่าสนใจในตัวเองด้วยแบบนี้ ก็น่าจะยืนระยะเก็บเงินต่อไปได้ไม่ยาก ถ้าไม่โดนยักษ์ใหญ่สูบโรงไปจนหมดซะก่อนล่ะนะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:18:27

ความคิดเห็นที่ 11 นี่สิ! พระเอกตัวจริงประจำสัปดาห์ เพราะเปิดตัวเต็มๆ ก็คว้า อันดับ 1 ไปครองแบบสบายๆ เลยทีเดียว สำหรับเจ้าหมีไม่แอ๊บ Ted ผลงานการกำกับเรื่องแรกของ เซธ แม็คฟาร์เลน ผู้ปั้นซีรี่ย์สุดแสบสันต์อย่าง Family Guy ขึ้นมา ได้หนุ่มหล่อ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก กลับมาเรียกเสียงฮาในหนังแนวตลกอีกครั้ง (แถมเจ้าหมีสุดแสบของเรา ก็ได้คุณผู้กำกับเนี่ยแหละ มาพากษ์เสียง ชงมุขให้!) เรื่องราวของหนูน้อย ผู้อธิษฐานให้ตุ๊กตาหมีของเขามีชีวิต แล้วมันดันเป็นความจริงซะนี่! ทั้งคู่เลยเป็นเพื่อนซี้กันมาจนถึงวัยผู้ใหญ่ ที่เจ้า Ted กลายเป็นหมีนิสัยกักขฬะไปเสีย แถมพาพระเอกของเรากลายเป็นผู้ใหญ่ไม่ยอมโตไปอีก เรื่องวุ่นๆ ก็เลยบังเกิดขึ้น ดูแค่เนื้อเรื่องก็น่าสนใจไม่หยอกแล้ว แถมต้องยอมรับว่าหนังตลกฟอร์มดีในบ้านเราปีนี้ แทบจะหายไปจากตลาดเลยก็ว่าได้ ยิ่งตัวหนังได้รับคำชมจากคนดูและนักวิจารณ์ไม่น้อยแบบนี้ด้วยแล้ว ท้ายที่สุดก็เลยเปิดตัวไปแบบสวยหรู ที่ 14 ล้านบาท รวมฉายรอบพิเศษไปสัปดาห์ก่อน เก็บเงินชิลๆ ไปแล้ว 18.5 ล้านบาท เป็นรายได้ที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว หลังจากที่ทำให้ฮือฮาไม่น้อย ตั้งแต่รอบพิเศษเมื่อสัปดาห์ก่อน รายได้เปิดตัว นอกจากจะถือว่าค่อนข้างเยอะ สำหรับหนังตลกเรต R ซักเรื่องในบ้านเราแล้ว เทียบกับหนังตลกทุกสัญชาติในบ้านเราปีนี้ด้วยกันแล้ว หนังถือว่าทำได้ดีที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้!!! (แชมป์ก่อนหน้าก็คืออีกหนึ่งหนังตลกเรต R อย่าง The Dictator ที่ก็ฉายรอบพิเศษนำร่องไปก่อนเช่นกัน เปิดตัวไปได้ไม่เลว ที่ 7 ล้านบาท โดยมีหนังไทยอย่าง ปล้นนะยะ 2 อั๊ยยยย่ะ ทำได้เท่ากัน แต่เฉือนกันแค่นิดหน่อย!) หรือถ้าจะพูดถึงหนังคอมเมดี้ที่ทำได้พอๆ กัน ใกล้เคียงที่สุด ก็คงจะเป็นแอนิเมชั่นภาคต่อ อย่าง Madagascar 3: Europe's Most Wanted ที่ได้คำชมค่อนข้างเยอะ เลยเปิดตัวไปไม่เลว ที่ 14 ล้านเท่ากัน วกกลับมาดูในกลุ่มหนังตลก เรต R กันอีกซักรอบ ก็ต้องยอมรับว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มที่ทำรายได้กันมากมายอะไร นานๆ ทีถึงจะมีเรื่องไหนโผล่ฮิตขึ้นมาซักเรื่อง (เอาแค่ยุคหลังๆ ระดับ 10 ล้านขึ้นก็ถือว่าเก่งกันมากแล้ว) ปีนี้ก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว เพราะก่อนหน้าเจ้าหมี ก็มีหนังในกลุ่มนี้เปิดตัวระดับ 5 ล้านขึ้นถึง 2 เรื่องเข้าไปแล้ว เรื่องหนึ่งก็คือ The Dictator อย่างที่บอกไป ส่วนอีกเรื่องก็คือภาคต่อของหนังตลกตระกูลดังในบ้านเรา อย่าง American Reunion ที่ดูเหมือนจะไม่ทิ้งลายไปซะทีเดียว เพราะเปิดตัวได้ค่อนข้างโอเคอยู่ ที่ 6.6 ล้านบาท หรือย้อนกลับไปดูปีก่อน ก็มีหนังฟอร์มดีของกลุ่มนี้เข้ากันเพียบ ทั้งภาคต่อฟอร์มเต็ง อย่าง The Hangover Part II ที่มาถ่ายทำในไทย ก็เปิดตัวได้ถึงระดับสิบล้านเรื่องแรกในรอบหลายปีของกลุ่มนี้ ที่ 10 ล้านบาทพอดี หรือครูสาวสุดแสบ Bad Teacher ก็ไปได้สวยเช่นกัน ชนยักษ์ใหญ่แบบไม่สะทก ที่ 5.2 ล้านบาท ที่ทำได้สูงมากในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ก็คงต้องย้อนกลับไปหาสุดป่วง อย่าง You Don't Mess with the Zohan ที่มาในฐานะแอ็กชั่น-คอมเมดี้ ก็เลยเปิดตัวไปค่อนข้างดี ที่ 12.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหมีของเราจะไม่ใช่หนังตลกเรต R เปิดตัวสูงสุดในบ้านเราอยู่ดี (สถิติยังคงเป็นของ Scary Movie ภาคแรก ในระดับ 15 ล้านบาท) แต่แค่นี้ ก็เรียกได้ว่า แทบไม่มีใครจะมาสู้ด้วยแล้วมั้ง! มาดูในส่วนของเครดิตนักแสดงนำกันบ้าง เริ่มจากพระเอกหนุ่มวอห์ลเบิร์ก ที่ไม่ค่อยได้เห็นในบทคอมเมดี้เท่าไหร่นัก แต่ปีนี้เราก็เพิ่งได้พบหน้าเขาไปเมื่อช่วงต้นปีกันนี่เอง กับหนังแอ็กชั่นฮิตเกินคาด(ในบ้านเกิด) Contraband ก็ได้รับคำชมไปไม่เลว เปิดตัวไปตามสมควรในบ้านเรา ที่ 3.7 ล้านบาท ถัดไปอีกหน่อยก็คือ หนังดราม่าหวังรางวัล อย่าง The Fighter ก็เรียกว่าเปิดตัวจำกัดตามสภาพหนังรางวัล ซึ่งก็ทำได้ไม่เลวเช่นกัน ที่ 8 แสนบาท (จาก 7 โรง) ส่วนบทบาทในหนังคอมเมดี้ที่เข้าในบ้านเราเรื่องก่อนหน้า ก็คงต้องย้อนไปหา Date Night ที่เขารับบทบาทสมทบ(แต่โชว์หล่อเต็มๆ!) แถมมีสาวคูนิสมาแจมในเรื่องนี้ด้วย แต่เปิดตัวหงอยๆ ในบ้านเราไปซักหน่อย ที่ 2.7 ล้านบาท ข้ามฟากมาที่สาวมิล่า คูนิส กันบ้าง ผลงานเรื่องก่อนหน้าก็คือหนังตลกเรต R เช่นกัน อย่าง Friends with Benefits ประกบหนุ่มงานชุก จัสติน ทิมเบอร์เลค เมื่อปีก่อน กระแสก็ไม่เลว แต่โรงอาจจะน้อยไปซักหน่อย เลยเปิดตัวไปที่ 3.1 ล้านบาท ถัดไปอีก ก็คืออีกหนึ่งหนังหวังรางวัล(สเต็ปเดียวกับหนุ่มวอห์ลเบิร์กเลยแฮะ!) อย่าง Black Swan ที่ส่งให้ชื่อเธอ โด่นเด่นขึ้นมาจริงๆ แถมสร้างกระแสได้ค่อนข้างดีมาก เปิดตัวในวงจำกัด ที่ 2 ล้านบาท (จาก 11 โรงฉาย!) จะว่าไป ทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาแล้วในหนังอย่างน้อยสองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรก คือ Date Night อย่างที่บอกไปข้างบน อีกเรื่องก็คือหนังดัดแปลงจากเกมดัง Max Payne ที่ทั้งคู่ประกบกันครั้งแรก ก็เปิดตัวในบ้านเราไปโอเคอยู่ ที่ 11.5 ล้านบาท ส่วนพี่หมี Ted หรือผู้กำกับแม็คฟาร์เลน ถ้าพูดถึงงานกำกับ นี่ก็คือหนังใหญ่เรื่องแรก อย่างที่บอกไป แต่ถ้าพูดถึงงานแสดง เฮียแกเคยไปปรากฏตัวมาแล้ว ใน Tooth Fairy ของเฮีย เดอะ ร็อค แต่เข้าฉายน้อยโรง (8 โรง) เลยเปิดตัวไปน้อยหน่อย ที่ 6 แสนบาท กระแสของหนังก็ถือว่าดีมากทีเดียว ยิ่งไร้คู่แข่งแบบนี้ด้วยแล้ว ก็น่าจะทำเงินต่อไปได้ค่อนข้างสบายๆ อยู่ แต่ก็อย่างว่าแหละ ในเมื่อยักษ์ใหญ่กำลังรอถล่มโรงในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าแล้ว ความฮาจะต้านทานกระสุนได้มากแค่ไหน???......ก็คงต้องมาลุ้นกันต่อด้วยใจระทึกล่ะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:18:54

ความคิดเห็นที่ 12 หมีแสบแอบซ่าส์ พาผีกล่อง ครองใจคนดูได้ไม่ใช่น้อย แต่ก็ช่วยกันพา Top 10 สัปดาห์นี้ ไปได้ไม่ไกลอย่างที่คิด หยุดอยู่ที่ 36.5 ล้านบาท น้อยกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (41.1 ล้านบาท) ไป 12% และน้อยกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (38.3 ล้านบาท) ไปนิดหน่อย เพียง 5% ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ บางกอกกังฟู ของเฮียต้อม ที่ได้หนุ่มพากันขึ้นบัลลังก์ตามคาด แต่ด้วยรายได้ที่ค่ายไม่ค่อยอยากจะให้เป็นนัก ที่ 6.5 ล้านบาท (ถือเป็นหนังที่ขึ้นเป็นแชมป์ด้วยรายได้น้อยที่สุดประจำปีก่อนอีกด้วย) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:19:58

ความคิดเห็นที่ 13 สุดสัปดาห์หน้า ได้เวลาหนังไทยกลับมาผงาดอีกครั้ง!! เพราะถึงเวลาสำหรับอีกหนึ่งหนังไทยฟอร์มเต็งแห่งปี เบิกโรงกู้วิกฤติความซบเซาของหนังไทยซะที(??)! จะไม่ให้ฟอร์มเต็งได้อย่างไร ในเมื่อหม่อมน้อยเจ้าเก่าของเรา ขนดาราดังมาร่วมวงกันแทบจะล้นจอ ตัวหนังยังดัดแปลงจากนิยายดัง ที่เคยขึ้นจอมาหลายครั้งด้วยกระแส “อื้อฉาว” แทบจะทุกครั้งมาแล้ว! อืม....งานนี้ ก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากแล้วล่ะมั้ง เพราะหลายๆ คนคงรู้จักชื่อนี้กันพอสมควร (เพราะเวอร์ชั่นที่แล้วก็เพิ่งถูกสร้างมาได้สิบปีนิดๆ เอง) แถมครั้งนี้มั่นใจความดัง ด้วยการหั่นหนังออกเป็นสองภาคอีก! (เผลอๆ ทำเงิน อาจจะเป็นไตรภาคด้วยล่ะเออ!!) กับหนังย้อนยุค อีโรติก สะท้อนด้านมืดของสังคม ”จันดารา ปฐมบท” ตามมาห่างๆ กับหนังเอเชีย กับอีกหนึ่งเวอร์ชั่นของ “โปเยโปโลเย” ที่ได้ขึ้นจอเงิน แต่เรื่องนี้ ถือเป็นการสานต่อกระแสทำเงินเกินคาด(ในบ้านเกิด)จากภาคที่แล้ว ที่ได้ดาราสาว จ้าวเหว่ย กลับมาในภาคนี้อีกครั้ง ใน ” Painted Skin: The Resurrection” ร่วมด้วยหนังหลากสัญชาติ หลากหลายแนว ทั้งหนังแอ็กชั่นฟอร์มใหญ่จากแดนกิมจิ ที่ได้หนุ่มเรน หวนกลับคืนจออีกครั้ง กับภารกิจพิชิตเครื่องบินรบของฝ่ายตรงข้าม ที่มีชีวิตของชาวเมืองเป็นเดิมพัน กับฉากเครื่องบินโฉบตะลุยกลางเมือง แสดงศักยภาพ CGI ของแดนกิมจิกันเต็มที่! ใน ”R2B : Return To Base” หนังตลกร้าย กับเรื่องราวของเจ้าหนูอัจฉริยะ ที่ต้องการพบกับพ่อแท้ๆ ผู้เป็นเจ้าของน้ำเชื้อจากการเป็นเด็กหลอดแก้วอย่างเขา ใน ”Jesus Henry Christ” หนังตะลุยคานส์ ของนางเอกสุดฉาว คริสเต็น สจ๊วต กับเรื่องราวสไตล์โว้ดมูฟวี่ของสามวัยรุ่น ที่ออกเดินทางสู่อิสรภาพ เพื่อหาเป้าหมายของแต่ละคน ใน ”On the Road” และหนังบอลลิวู้ดชนโรง กับหนังทริลเลอร์สยองขวัญภาคต่อ (ที่ภาคก่อนหน้า ทำเงินไปพอหอมปากหอมคอ) กับเรื่องราวไสยศาสตร์ ของนักแสดงสาว ที่ต้องการแย่งทุกอย่างของเธอกลับคืนมาด้วยมนต์ดำ แถมกลับมาในรูปแบบสามมิติอีกต่างหาก ใน ”Raaz 3” หนังไทยดาราคับคั่ง จะอยู่บนบัลลังก์ได้อย่างห้าวหาญแค่ไหน??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01101&c=11 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 55 03:22:43 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:22:12

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : juthakan2008 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 03:39:37

ความคิดเห็นที่ 15 ทำดีกว่านิตรยสารเสียตังซื้ออีก จากคุณ : nattapon86 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 07:08:55

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพในคห. 11 น่ารักดีอ่ะ จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 08:03:27

ความคิดเห็นที่ 17 วีคนี้มาเร็ว >< เค้าโหวตให้น้า  ^^ จากคุณ : Brown_Label เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 08:21:48

ความคิดเห็นที่ 18 โหวต ๆ จากคุณ : HaHaHa เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 09:31:13

ความคิดเห็นที่ 19 รอดูอาทิตย์หน้ารายได้เปิดตัว จันดารา อยู่เหมือนกันครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : เมื่อเวลาคือสิ่งมีค่าที่สุด เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 09:53:48

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ จากคุณ : Love Anyone เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 11:15:32

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่า จากคุณ : popcorn lover เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 11:23:32

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ ยอดเยี่ยมจริงๆ จากคุณ : ลูกยาง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:34:58

ความคิดเห็นที่ 23 ติดตามทุกอาทิตย์ ขอคุณมากครับ จากคุณ : GrefreZ เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:41:59

ความคิดเห็นที่ 24 week หน้า จันดารา ชัวร์ ^ ^ จากคุณ : Jane Thailand เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 12:57:29

ความคิดเห็นที่ 25 Ted Ted Ted Ted Ted Ted Ted Ted Ted สุดยอดไปเลยเจ้าหมีน่อย ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : B-Crusher เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 13:09:58

ความคิดเห็นที่ 26 ตามมาอ่าน มาโหวตกันเช่นเคย ขอบคุณมาก สำหรับกระทู้ดี ๆ จขกท. สุดยอดค่ะ ไม่ได้เพียงแค่รายงานตัวเลข แต่มีบทวิเคราะห์ และข่าวเกี่ยวกับหนังเรื่องต่าง ๆ ด้วย   ที่สำคัญภาพประกอบเจ๋งมาก จากคุณ : joy_bph เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 15:09:50

ความคิดเห็นที่ 27 รายละเอียดเป๊ะมาก...เปิดรับสมัครแหนคลับมั๊ยสมัครด้วยคน   จากคุณ : RiverNoReturn เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 16:20:02

ความคิดเห็นที่ 28 มาเชียร์ จันดารา อิอิ จากคุณ : ปุริมาน เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 16:31:12

ความคิดเห็นที่ 29 vote จากคุณ : varada เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 17:15:12

ความคิดเห็นที่ 30 TED มาแรงเกินคาดเยอะเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ นะคะ ^^ จากคุณ : NickyOkawa เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 18:01:16

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตครับ เข้ามาดีใจกับ yes or no ถึงรายได้ไม่ได้ถล่มทลายแต่ส่วนตัวคิดว่าประสบความสำเร็จมากเหมือนกันนะเนี่ย ยังไงเรื่องนี้ก็น่าจะขายเมืองนอกได้อีกอยู่แล้ว รอดูกระแสตอนฉายเมืองนอกด้วยเนอะ อยากให้มีภาค 3 อ่ะเนอะ จากคุณ : NORITA...BOY เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 18:05:51

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาให้กำลังใจครับ... มาตามอ่านสรุปรายได้หนังและอ่านวิเคาระห์ทุกสัปดาห์ นั่งอมยิ้มและชื่นชมครับ จากคุณ : บ่าวเมืองเทิง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 19:13:16

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ แบบนี้ค่ะ จากคุณ : jedi2543 เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 20:28:19

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาดีใจกับ เจ้าหมีจอมกวน ที่ไปดูมาแล้ว3รอบ เป็นหนังที่ดูสนุกและคลายเครียดได้ดีจริงๆครับ ชอบมากๆเลย จากคุณ : ฉันรักภูกระดึง เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 21:03:41

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นกระทู้ที่เข้ามาอ่านเป็นประจำครับ จากคุณ : Petch_W เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 21:06:37

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบพระคุณมากขอรับ  ^ ^ จากคุณ : xcessshin เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 22:18:03

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณ จขกท มากค่ะ ดูเกือบทุกเรื่องเลยเรา จากคุณ : อย่าพิมพ์ยากอ่านยาก เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 55 23:12:19

ความคิดเห็นที่ 38 Tedค่ะ สนุกน่ารักด้วย จากคุณ : มิยุจังน่ารักค่ะ เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 02:24:55

ความคิดเห็นที่ 39 ชอบ Ted อย่าลืมมาดู Ted กันเยอะๆนะครับ ^^ จากคุณ : inselberg เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 07:39:38

ความคิดเห็นที่ 40 ชัมบาลาได้น้อยมากครับ ไม่น่าเชื่อว่าดาราเเม่เหล็กทั้งสองคนไม่พอดึงคน จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 55 22:28:07

ความคิดเห็นที่ 41 ชัมบาลาของผ๊มมมม จากคุณ : ป็อกป็อกแป็กแป็ก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 16:08:04

ความคิดเห็นที่ 42 ผมยอมรับว่าอ่านกระทู้ของ จขกท เข้าใจง่ายทุกครั้งเลย สนุก ได้รู้อะไรใหม่ๆที่เป็นเรื่องเก่าๆเยอะเลย สรุปชอบมากครับ ชอบอ่าน จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 16:19:51

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบมากเลยครับ ^^ จากคุณ : iPengSilverBullet เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 17:26:12

ความคิดเห็นที่ 44 จากคุณ : zelimony เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 22:45:34

ความคิดเห็นที่ 45 เขียนได้ดีมาก อ่านเพลินเลยคะ ปกติไม่ค่อยชอบอ่านอะไรยาวๆเพราะปวดตา แต่ทู้นี้อ่านเพลินจนลืมปวดตาเลย จากคุณ : permanent ink เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 12:04:33