Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
"หมอ" เดือด! รุมถล่ม "บิณฑ์" สร้างกระแส "ศพแม่ลูก" ด่าเอาสะใจ! ติดต่อทีมงาน

"หมอ" เดือด! รุมถล่ม "บิณฑ์" สร้างกระแส "ศพแม่ลูก" ด่าเอาสะใจ!

Go6TV(11กันยายน2555) จากกรณีที่มีข่าวผู้หญิงคนหนึ่งไปทำคลอดที่โรงพยาบาลลำลูกกา แล้วเสียชีวิต ต่อจากนั้นดาราดัง "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" นำภาพศพแม่-ลูกมาลงไว้ พร้อมกับเขียนข้อความในทำนองเป็นความผิดของโรงพยาบาล

ล่าสุด กระแสข่าวดังกล่าวทำให้กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพหมอ ได้เขียนข้อความบนเฟรซบุ๊คถึงกรณีข่าวดราม่า "แม่-ลูก" ตอบโต้ดาราดังว่า ดาราดังเขียนเฟรซบุ๊คเอาดังแต่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยทางการแพทย์ แต่กลับมาแสดงความเห็นผิดๆทางวิชาการ  ดังรายละเอียดต่อไปนี้

"ผมว่าเรื่องนี้มันเลยเถิดไปเพราะเอาอารมณ์มาสู้กันนี่เแหละครับ เถียงจนลืมไปแล้วว่าที่เถียงๆ กัน เถียงเรื่องอะไร
ถ้าอยากชี้แจง อยากให้ข้อมูล การเหน็บแนมเสียดสี มีแต่จะทำให้กลไกปกป้องตัวเองของอีกฝ่ายทำงาน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็สื่อสารไม่ถึงหรอกครับ

ลองดูที่เพจวิชาการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้นะครับ ไม่จิกกัด ไม่เสียดสี มันก็ไม่ดราม่า แม้จะมีพวกไม่อ่านให้จบมาคอมเมนต์บ้าง แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อย

จากกรณีที่คุณบิณฑ์โพสต์ภาพและเหตุการณ์สุภาพสตรีและลูกที่เสียชีวิตระหว่างคลอด เนื่องจากนำเสนอด้วยภาพที่สะเทือนอารมณ์ ผลตอบสนองจึงค่อนข้างรุนแรง ทั้งฝ่ายที่ออกมาด่าโรงพยาบาล และอีกฝ่ายที่ออกมาโต้เถียงแทนโรงพยาบาล จนเรื่องราวค่อนข้างจะบานปลายทีเดียว

เมื่อนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาเรียบเรียงเพื่อให้เห็นภาพว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร พอจะเรียบเรียงได้ดังนี้ครับ

จากปากคำของสามีผู้ตาย บอกว่า

"ภรรยาปวดท้องคลอดจึงเดินทางไปยังโรงพยาบาลลำลูกกาซึ่งฝากครรภ์ไว้ ต่อมาได้รับแจ้งว่า ภรรยามีอาการเป็นลม ต้องส่งต่อไปยังไปยังโรงพยาบาลนพรัตน์ และได้รับแจ้งอีกครั้งว่าภรรยาแต่เสียชีวิตให้กลับไปยังโรงพยาบาลลำลูกกา  เมื่อกลับมาถึงก็พบว่าภรรยาและลูกเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งความและมีหน่วยกู้ภัยนำศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ผลว่าเสียชีวิตเพราะ "ขาดอาการหายใจ ติดเชื้อในกระแสเลือด"

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=649247

http://77.nationchannel.com/home/295300/

คุณบิณฑ์ โพสต์ภาพและข้อความทาง facebook บอกว่า ผู้ตายไปโรงพยาบาลแต่ไม่มีห้องคลอดให้ และถูกย้ายไปอีกโรงพยาบาล จนเสียชีวิตเพราะช๊อกจากความเจ็บปวด มีร่องรอยการกัดลิ้นจากความเจ็บปวด   และเชื่อว่าทางโรงพยาบาลไม่ยอมทำคลอดให้จนเด็กและแม่ตายเสียชีวิต เพราะเห็นว่าเป็นคนจน ใช้บัตร 30 บาท มารักษา

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=442602655792725&set=a.244483192271340.76321.236308269755499

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=442832869103037&set=a.244483192271340.76321.236308269755499

ทางผู้เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล อธิบายว่า  โรงพยาบาลมีห้องคลอด แต่ระหว่างที่คนไข้เปลี่ยนเสื้อเพื่อนอนโรงพยาบาล เกิดอาการตัวเขียวขึ้นแบบเฉียบพลัน จึงไม่สามารถทำคลอดได้  สันนิษฐานว่าผู้ป่วยเกิดภาวะน้ำคร่ำอุดหลอดเลือด (amniotic fluid embolism) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เกิดจากเนื้อเยื่อของทารกหลุดเข้าไปในกระแสเลือดของแม่ ทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงและหัวใจหยุดเต้น เป็นภาวะที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาล จึงต้องย้ายไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจัดการ  และแพทย์ได้พยายามช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งปั๊มหัวใจ จากนั้นจึงส่งขึ้นรถและคอยดูแลอยู่บนรถ แผลที่ลิ้นไม่ได้เกิดจากการกัดลิ้น แต่เกิดจากการสอดท่อต่างๆ ทางปากเพื่อช่วยเหลือ  แต่คนไข้เสียชีวิตระหว่างเดินทาง เมื่อไปถึงปลายทางก็ผ่าท้องเอาเด็กออกแต่เด็กก็เสียชีวิตเช่นกัน

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151220245935460&set=a.415861130459.218945.542610459

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151141695423291&set=a.411063588290.186101.141108613290



ข้อกังขาที่คุณบิณฑ์ตั้งคำถามและจุดประเด็นไว้คือ "ทำไมไม่ทำคลอดให้คนไข้" ทั้งที่ใกล้คลอดมากๆ แล้ว
ซึ่งคำตอบเบื้องต้นคือทางโรงพยาบาลเตรียมทำคลอดทุกอย่างแล้ว แต่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น คนไข้เกิดภาวะน้ำคร่ำอุดหลอดเลือด หัวใจวาย จึงปั๊มหัวใจและส่งให้แพทย์ผู้เชียวชาญที่โรงพยาบาลอื่น ฉะนั้นจึงไม่ใช่ไม่ยอมทำคลอดแต่ในสภาวะนั้นทำคลอดไม่ได้ มันเกินความสามารถ

ณ ตอนนี้เรายังไม่มีหลักฐานอะไรมากไปกว่าถ้อยคำของทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งเป็นการบอกเล่าจากมุมมองของตัวเองเป็นหลัก
รายละเอียดข้อมูลชันสูตรก็ยังไม่มีใครทราบ มีเพียงประโยคเดียวจากปากคำของสามีผู้ตาย  ส่วนข้อมูลจากทางโรงพยาบาลที่รับฝากครรภ์โดยตรง ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

หน่วยกู้ภัยเข้ามาเกี่ยวตอนไหนก็ยังไม่แน่ชัด แต่สามีผู้ตายบอกว่า ได้แจ้งความและมีหน่วยกู้ภัยเข้ามา นั่นหมายถึงหน่วยกู้ภัยเข้ามาหลังจากผู้ตายและลูกเสียชีวิตแล้ว?

ส่วนคุณบิณฑ์บอกว่าเดินทางจากลำลูกกาไปถึงนิติเวช แต่ผ่าช่วยเด็กไม่ทัน ทั้งที่ตอนนั้นน่าเด็กน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเดินทางไปหานิติเวชแล้ว? นิติเวชน่าจะผ่าชันสูตรเท่านั้น

ที่จริงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอะไรเป็นอะไรก็ยังไม่แน่ชัด
แต่อ่านคอมเมนต์กลับเต็มไปด้วยการประณาม ด่าทอ
ด่าโรงพยาบาลที่รับฝากครรภ์ว่าเห็นแก่เงิน ทั้งที่เค้าอาจรักษาไม่ได้ก็เลยส่งต่อ
ด่าโรงพยาบาลที่รับช่วงต่อ ทั้งที่ผู้ตายเสียชีวิตมาก่อนถึง
ด่าโรงพยาบาลที่ชันสูตรศพ ทั้งที่หน้าที่เค้าคือตรวจสอบ
ด่าคุณบิณฑ์ว่าสร้างกระแส
ด่า
ด่า
ด่าเหมือนจะเอาความสะใจเป็นหลัก

ตกลงเราต้องการอะไรกันแน่?

เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าเศร้า เป็นเรื่องสะเทือนจิตใจ แต่เพราะอย่างนั้นก็เลยยิ่งต้องใช้สติในการพิจารณาใช่หรือไม่?
ส่วนตัวแล้วยังไม่ตัดสินว่าใครถูกใครผิด หรือประณามใคร จนกว่าข้อเท็จจริงจะปรากฏชัดเจน

ขอแสดงความเสียใจกับสามีผู้ตายครับ

ที่มา Vcharkarn Dot Com
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151204193480358&set=a.237278260357.176915.205230200357

จากคุณ : แม่จ๋าพ่อจ๋า
เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 12:52:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com