ความคิดเห็นที่ 1 จำไม่ได้เช่นกันครับ ไม่รู้ใครขโมยของใครมา จากคุณ : Activity Moniter เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:22:25

ความคิดเห็นที่ 2 ข้าน้อยจำอะไรไม่ได้เลย แต่มีตำราฉบับลิขสิทธิ์อยู่ในมือ ขอเวลาไปอ่านทบทวนก่อน แต่ระหว่างนี้ เข้าใจว่า คงมีจอมยุทธ์ผู้รอบรู้มาไขปริศนาคาใจของท่านได้ จากคุณ : aiwen^mei เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:31:21

ความคิดเห็นที่ 3 รู้สึกมี อันนึงเป็นต้นฉบับ คิดโดยขันที เลยต้อง ตัด ไข่ ทิ้งครับ อีกอันนี่คัดลอกมา โดยหลวงจีน มีดัดแปลงตอนหลังด้วย ถ้าจำไม่ผิด กระบี่ปราบมารเป็นอันหลัง (ฉบับคัดลอก) จากคุณ : สระนาฬิเกร์ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:37:52

ความคิดเห็นที่ 4 ถามอย่างนี้เล่ายาวเลยนะครับเนี่ย - -'   เดิมทีน่ะ "คัมภีร์ทานตะวัน" ถูกคิดค้นขึ้นในสมัยขันทีน่ะครับ ต่อมาได้ตกทอดมาสู่วัด "เสี้ยวลิ้ม" ต่อมาศิษย์สำนักฮั้วซัว 2 คนได้มีโอกาสแอบดู และช่วยกันจำเนื้อหามาคนละครึ่งเล่ม แต่ "คัมภีร์ทานตะวัน" มันลึกซึ้งมาก ทั้งสองจึงปะติดปะต่อเนื้อหากันไม่ได้ สุดท้ายแยกกันฝึกกลายเป็น " สายกระบี่"     "สายลมปราณ" พอทางวัด "เสี้ยวลิ้ม" รู้เรื่องเข้าก็ส่งลูกศิษย์คนนึงมาเกลี้ยกล่อมศิษย์สำนักฮั้วซัวทั้ง 2 คนให้เลิกฝึกซะ แต่ไอ้ศิษย์ตัวดี ดันอยากฝึกมั่ง เลยทำเป็นขออ่านทั้งสองครึ่งจากศิษย์สำนักฮั้วซัวทั้ง 2 คน สุดท้ายมันดันหัวดี ฝึกได้ แต่ไม่ครบ ตกๆหล่นๆ กลายมาเป็น "คัมภีร์กระบี่ปราบมาร"   ปล. ส่วนที่ว่าทำไมต้อง "ตัด" นั้นเพราะว่าเพื่อป้องกันธาตุไฟเข้าแทรกระหว่างฝึก เพราะวิชานี้ระหว่างฝึก ห้ามมีความรู้สึก "หื่น" โดยเด็ดขาด ไม่งั้นธาตุไฟเข้าแทรกจนถึงตายน่ะครับ จากคุณ : ชัยโอบายาชิ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:40:10

ความคิดเห็นที่ 5 ... ตังฮึงปุกป่่ายยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า "พวกท่านทั้งสองกล่าวเช่นนี้ แสดงเห็นถึงธาตุแท้ของลูกผู้ชาย โอ บาปกรรม บาปกรรม เราฝึกคัมภีร์ทานตะวัน ตอนตัวเองรับประทานยาตามตำรับลับในคัมภีร์ หนวดเคราหายไปทีละน้อย สุ้มเสียงเปลี่ยนไป นิสัยก็เปลี่ยนไป นับแต่นั้นไม่นิยมชมชอบอิสตรี ฆ่านางบำเรอทั้งเจ็ดนางจนหมดสิ้น กลับ...กลับทุ่มเทจิตใจทั้งมวลต่อเอี้ยเน้ยเต้งที่เป็นบุรุษ หากว่าเราถือกำเนิดเป็นสตรีก็ประเสริฐ ..." อ้างอิง : กระบี่เย้ยยุทธจักร เล่ม 4 หน้า 59 แปลโดย น.นพรัตน์ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 11:44:17 จากคุณ : aiwen^mei เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:42:55

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านมานานแล้วจำไม่ค่อยได้ วิชาต่างๆในงานของท่านกิมย้ง.แบ่งต้นธารเป็นสองสาย ๑.พุทธจากเส้าหลิน ๒.เต๋า  โดยเฉพาะ สำนักสราญรมย์ ต้นตอมาจากเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า ที่ต้องตัดจู๋ นั้นเข้าใจว่าตีความคัมภีร์ผิด???เดี๋ยวต้องไปอ่านไหม่ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 11:45:28 จากคุณ : sinnerman เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:44:34

ความคิดเห็นที่ 7 ในที่สุดก็มีผู้มีวิทยายุทธเลิศล้ำมาไขปริศนา หากแต่เสียดาย...ที่จอมยุทธ "ชัยโอบายาชิ" ยังมิอาจเฉลยปริศนาทั้งหมดได้ คงต้องรอยอดฝีมือท่านอื่นมาประลองวิชาความจำเพื่อตอบกระทู้ได้อย่างชนิดหมดจดก่อนตะวันตกดิน!!! ปัจฉิมลิขิต 1 คัมภีร์ทานตะวันควรจะตกทอดอยู่กับหัวซานมิใช่หรือ...เหตุใดมันจึงหายไป 2 การตัดจุ๊กกรู๊วมันไม่สามารถห้ามความกำหนัดได้มิใช่หรือ เพราะต่อให้ไม่มีจุ๊กกรูีว แต่ความหื่นภายในก็ยังไม่สิ้นไป...เช่นนี้แล้วการตัดจุ๊กกรุ๊วจึงอาจเพียงเพื่อป้องกันการสมสู่ มิใช่เพื่อควบคุมความกำหนัด...ข้าน้อยเข้าใจถกต้องหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 11:50:59 จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:45:37

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นข้อแลกเปลี่ยนเหมือนทำสัญญากับซาตานครับ  55+   ฝึกสำเร็จ ท่านจะเก่งไร้คู่เปรียบ  แต่ท่านจะไม่มีทายาทสืบสกุล  หากท่านฝึกหลังจากมีลูกเมียแล้ว  ครอบครัวก็จะร้าวฉาน  แตกแยก  น่ารังเกียจ  ต้องอยู่อย่างเดียวดาย  ตระกูลลิ้มจึงบอกว่านี่คือวิชาบัดซบ  ต้องเผา  ( แต่ก็ดันเก็บไว้ให้ภัยถึงตัวจนได้ T_T ) จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:51:30

ความคิดเห็นที่ 9 ยิ่มอั้วเกี้ย ยื่นมือไปในกระเป๋าเสื้อตังฮึงปุกป่าย ล้วงตำราเบาบางเก่าคร่ำคร่าออกมาเล่มหนึ่ง พลิกดูแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า "นี่คือคัมภีร์ทานตะวัน ในคัมภีร์เขียนบ่งไว้ คิดฝึกยอดวิชาสะบัดดาบสะบั้นอวัยวะสืบพันธุ์ ทำการตอนตัวเอง นับเป็นด่านแรกและด่านเดียวของการฝึกฝีมือ เล่าฮูจึงไม่กระทำการโง่เขลาเช่นนั้น ฮาฮา..." จากนั้นกล่าวอย่างครุ่นคิดว่า "แต่วิชาฝีมือในคัมภีร์ร้ายกาจจริง ๆ ผู้ฝึกวิชาบู๊เมื่อพบเห็น มิอาจไม่หวั่นไหวใจ ตอนนั้นดีที่เราฝึกยอดวิชาดูดดาวแล้ว ไม่เช่นนั้นคงฝึกวิชาในคัมภีร์เล่มนี้ด้วย" พลางเตะซากศพของตังฮึงปุกป่่ายเท้าหนึ่ง หัวร่อพลางกล่าวว่า "ต่อให้เจ้ากลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์ ก็คำนวณจิตเจตนาที่เล่าฮูถ่ายทอดคัมภีร์ทานตะวันแก่เจ้าไม่ออก เจ้ามีใจทะเยอทะยาน หรือว่าเล่าฮูดูไม่ออกด้วยฮาฮา..." เหล็งฮู้ชงใจสั่นสะท้านครุ่นคิดขึ้น "ที่แท้ยิ่มก่าจู้ถ่ายทอดคัมภีร์ทานตะวันแก่ตังฮึงปุกป่าย ไม่มีเจตนาดีแต่แรก คนทั้งสองหักเล่ห์ชิงเหลี่ยม ล้วนมีจิตใจลึกซึ้ง" จากคุณ : aiwen^mei เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:52:23

ความคิดเห็นที่ 10 ยิ่มอั้วเกี้ยยื่นมือลูบไปที่หว่างขาของตังฮึงปุกป่าย พบว่าอัณฑะทั้งสองลูกของเขากลับตัดทิ้งไป จึงกล่าวว่า "คัมภีร์ทานตะวันเล่มนี้ หากให้ขันทีที่ผ่านการตอนตัวเองฝึกปรือจึงประเสริฐสุด" จากคุณ : aiwen^mei เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:55:36

ความคิดเห็นที่ 11 ที่เจ๊แกฝึกนี่ไม่ใช่คัมภีฉบับสมบูรด้วยซ้ำ แต่ก็ยังไร้ผู้ต้าน ยอดวิชาจริงๆ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 11:57:33 จากคุณ : Berbazys เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:55:51

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามารายงานตัวเฉย ๆ ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น กร้ากกกกกกกกกกกก จากคุณ : @จอมยุทธกร@ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 11:58:06

ความคิดเห็นที่ 13 *** ตอบเรื่องเอี้ยก้วยนะครับ เอี้ยก้วยใช้กระบี่ 3 แบบของปรมาจารย์ต๊กโกวเพื่อฝึกลมปราณครับ ไม่ได้ฝึกกระบวนท่า ส่วน เล่งฮู๊ชงไม่มีลมปราณครับ  อาจารย์ฟงซิงหยางจึงฝึกให้แต่กระบวนท่าทั้ง 9 กระบี่  พอโชควาสนาทำให้ได้ฝึกมหาเวทย์ดูดดาว  เลยเข้าแก๊ป  เทพจุติเลย -_- จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:04:19

ความคิดเห็นที่ 14 คัมภีร์ทานตะวัน จริง ๆ ต้นฉบับภาษาจีนแปลอย่างนี้รึเปล่าไม่ทราบ เอาเป็นว่ามันคือต้นฉบับแท้ ๆ ละกัน เป็นวิชาของเหล่าขันทีในวังหลวง เดิมทีน่าจะเหมาะสำหรับผู้หญิงฝึกมากกว่านะ แต่ผู้ชายอยากฝึกก็ต้องตัด...ทิ้งแลกกับการฝึกจนสำเร็จ จำไม่ได้จริง ๆ ว่าคัมภีร์นี้ตกมาอยู่ในมือเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินสาขาฮกเกี้ยนได้ยังไง (คนละที่กับเส้าหลินใหญ่นะ) แล้วก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าศิษย์สองคนของหัวซานไปรู้ได้ไงว่ามีคัมภีร์นี้อยู่ จึงขออ่าน พออ่านแล้วก็ช่วยกันท่องคนละส่วน คนนึงท่องส่วนกระบวนท่าเพลงกระบี่ อีกคนท่องส่วนของการเดิมลมปราณ พอท่องแล้วก็เอากลับไปเขียนเป็นตำราสองเล่ม แต่พอจะฝึกมันกลับเข้ากันไม่ได้ ทำให้ทะเลาะกันสงสัยว่าอีกฝ่ายไม่เขียนที่จำได้ทั้งหมด ทะเลาะกันจนแยกสำนักออกเป็นสายกระบี่และสายลมปราณ ฟงชิงหยางแห่งหัวซานก็เป็นสายกระบี่ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ทะเลาะฆ่ากันเอง ตอนนั้นฝ่ายกระบี่แพ้ ฟงชิงหยางอยู่สำนึกผิดที่ผาสำนึกตน ส่วนฝ่ายลมปราณก็ครองสำนัก และไล่พวกสายกระบี่ออกไป คัมภีร์ทานตะวันสองเล่มสุดท้ายโดนพรรคสุริยันจันทรามาชิงไป รู้สึกว่าตอนนั้นพวกห้าสำนักขุนเขาได้จับผู้อาวุโสของพรรคสุริยันจันทรามาขังไว้ด้วย พวกที่ถูกขังจึงได้คิดค้นวิธีแก้เพลงกระบี่ของห้าสำนักสลักไว้ในถ้ำที่โดนขังนั่นแหละ แล้วเล้งฮู้ชงก็มาพบ ส่วนคัมภีร์ปราบมาร ต้นฉบับมาจากคัมภีร์ทานตะวันที่ถูกคัดลอกมา หลวงจีนคนหนึ่งถูกส่งจากเส้าหลินสาขาฮกเกี้ยนมาแจ้งแก่ศิษย์หัวซานที่แอบคัดลอกคัมภีร์ว่าวิชาในคัมภีร์มันทำร้ายผู้ฝึก อย่าฝึกมันเลย แต่กลายเป็นว่าศิษย์หัวซานทั้งสองคนได้ขอให้หลวงจีนช่วยชี้แนะตีความในคัมภีร์ให้แทน ศิษย์เส้าหลินคนนั้นเกิดอยากฝึกจึงแอบคัดลอกคัมภีร์ใส่จีวรไว้ แล้วก็สึกออกมาฝึกวิชาจนสำเร็จ แล้วตั้งชื่อใหม่ว่าเป็นคัมภีร์เพลงกระบีปราบมาร แต่ภายหลังน่าจะสำนึกผิด เลยซ่อนคัมภีร์ไม่ถ่ายทอดให้ลูกหลาน สอนแค่กระบวนท่าธรรมดา ๆ ให้ ส่วนเก้ากระบี่ต๊กโกว เป็นฝีมือการคิดค้นของต๊กโกวคิ้วป่ายเอง หลังจากที่ฝึกวิชาต่าง ๆ มากมายจนเก่งก็คิดค้นเพลงกระบี่เหล่านี้ขึ้นมา เป็นเพลงกระบี่ที่พลิกเพลงเน้นกระบวนท่าแต่ไม่เน้นลมปราณ ไอ้วิชานี้จริง ๆ เอี้ยก้วยไม่ได้ฝึกมั้งนะ แค่ไปเจอสุสานกระบี่ และมีนกอินทรีย์คอยชี้แนะการฝึกเฉย ๆ ส่วนว่าทำไมฟงชิงหยางถึงได้รู้วิชานี้ ไม่เห็นมีบอกในเรื่องนะครับ ผมตอบได้ประมาณนี้ แต่อาจจะไม่ถูก 100% อ่านมานานกว่าสิบปีละ จำได้เท่านี้ก็ว่าเยอะแล้วนะ 555 จากคุณ : Canon in Science Major เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:06:38

ความคิดเห็นที่ 15 ขอตอบที่มาของคัมภีร์ทานตะวันและคัมภีร์กระบี่ปราบมารก่อนละกัน เพราะคัมภีร์ทั้งสองเล่มมีที่มาจากวิชาเดียวกัน แนวทางการฝึกเลยเหมือนกันไงครับ โดยความเป็นมาของคัมภีร์ทั้งสองในนิยายบรรยายไว้ดังนี้คือ วิชานี้ตอนแรกถูกคิดค้นขึ้นโดยขันทีคนหนึ่ง ภายหลังขันทีคนนี้ได้บันทึกเคล็ดวิชานี้เป็นคัมภีร์แล้วถูกเก็บไว้ที่วัดเสี้ยวลิ้มใต้ ตอนแรกเจ้าอาวาสวัดเสี้ยวลิ้มใต้เห็นว่าคัมภีร์นี้เป็นแนวทางมารกะว่าจะทำลายทิ้ง แต่เสียดายวิทยายุทธ์อันล้ำเลิศในคัมภีร์ก็เลยเก็บเอาไว้ ต่อมามีศิษย์จากสำนักฮั๊วซัวสองคนรู้ข่าวเลยทำทีไปหาเจ้าอาวาสวัดเสี้ยวลิ้มใต้แต่กลับไปแอบขโมยอ่านคัมภีร์โดยสองคนแอบอ่านคนละครึ่งเล่ม (เพื่อความรวดเร็ว) เมื่อจำได้จึงกลับไปที่สำนักฮั๊วซัวแล้วทั้งสองคนช่วยกันเค้นสมองความจำเขียนเป็นคัมภีร์เล่มใหม่ขึ้นมาก็คือ "คัมภีร์ทานตะวัน" แต่คัมภีร์ทานตะวันเล่มที่เขียนมานี้เนื่องจากเขียนจากความจำและการตีความของคนสองคนที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ทั้งสองคนอ่านแล้วไม่เข้าใจจึงไม่สามารถฝึกได้ ต่อมาข่าวคราวเรื่องสองคนนี้แอบขโมยคัมภีร์รั่วออกไป เจ้าอาวาสวัดเสี้ยวลิ้มใต้รู้ข่าวด้วยความสำนึกเสียใจเลยเผาคัมภีร์ต้นฉบับทิ้งแล้วมอบหมายให้หลวงจีนในวัดผู้หนึ่งไปตามคัมภีร์กลับมา หลวงจีนรูปนี้เมื่อไปถึงสำนักฮั๊วซัวเลยออกอุบายว่าสองคนที่ขโมยคัมภีร์นี้ไปที่ฝึกไม่สำเร็จเพราะไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคัมภีร์ ตนเองเข้าใจสามารถให้ตนอธิบายได้ สองคนเลยเอาคัมภีร์ให้หลวงจีนอ่าน หลวงจีนอ่านเสร็จก็อธิบายไปตามเรื่องแล้วคืนคัมภีร์ให้จากนั้นก็ขอตัวกลับ แต่ในคืนก่อนที่จะกลับหลวงจีนที่แอบจดจำเนื้อความในคัมภีร์ได้จดบันทึกเคล็ดความสำคัญที่ตนตีความได้ไว้ในจีวรซึ่งก็กลายเป็น "คัมภีร์กระบี่ปราบมาร" เมื่อหลวงจีนออกจากสำนักฮั๊วซัวก็ไม่ได้กลับวัดเสี้ยวลิ้มใต้แต่สึกออกไปฝึกวิชาในคัมภีร์ กล่าวได้ว่าหลวงจีนนี้มีความฉลาดลึกล้ำสามารถตีความเคล็ดความสำคัญของคัมภีร์ที่ไม่ปะติดปะต่อของสองศิษย์ฮั๊วซัวออกจนสามารถฝึกวิทยายุทธ์ในคัมภีร์ได้สำเร็จมีชื่อเสียงในยุทธจักรภายหลังจึงก่อตั้งเป็นสำนักคุ้มกันภัยบุญบารมี ซึ่งหลวงจีนนี้ก็คือ ลิ้มเอี้ยงโต๋ว ต้นตระกูลของลิ้มเพ้งจื่อนั่นเอง และสาเหตุที่ใช้ชื่อวิทยายุทธ์ในคัมภีร์ว่า "เพลงกระบี่ปราบมาร" เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าตนนำวิทยายุทธ์มาจากคัมภีร์ทานตะวัน แต่ให้เข้าใจว่าตนต่อยอดวิทยายุทธ์มาจากสายของเสี้ยวลิ้ม (ส่วนมากวิทยายุทธ์ของเสี้ยวลิ้มจะลงท้ายด้วย ปราบมาร เช่น เพลงไม้เท้ากำราบมาร) ส่วนคัมภีร์ทานตะวันที่สำนักฮั๊วซัว ภายหลังนิกายสุริยันจันทราทราบข่าวเลยยกกำลังไปชิงมาเก็บไว้ที่นิกายแทน ศิษย์ฮั๊วซัวทั้งสองที่ขโมยคัมภีร์มาตายในการต่อสู้กับนิกายสุริยันจันทรา สำนักฮั๊วซัวถูกแบ่งเป็นสายกระบี่กับสายลมปราณตามการตีความวิทยายุทธ์ที่แตกต่างของศิษย์ฮั๊วซัวทั้งสอง เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงช่วงเวลาในนิยาย สำนักคุ้มกันภัยบุญบารมีถูกทำลาย ลิ้มเพ้งจื่อไปอยู่สำนักฮั๊วซัว สุดท้ายคัมภีร์กระบี่ปราบมารตกอยู่ในมืองักปุกคุ้ง ส่วนคัมภีร์ทานตะวันแม้อยู่ในนิกายสุริยันจันทราแต่เนื้อหาที่ไม่ปะติดปะต่อทำให้ไม่มีใครฝึกได้ แต่สุดท้ายตงฟางปุ๊ป๊ายกลับสามารถตีความเคล็ดวิชาในคัมภีร์ออกจนสำเร็จยอดวิทยายุทธ์ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 12:47:37 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 12:10:47 จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:08:09

ความคิดเห็นที่ 16 **** จำได้เลาๆว่า เคยมี อีเวนท์ที่ อึ้งเซี๊ยง ผู้คิดค้นคัมภีร์นพเก้า VS ต๊กโกว สมัยยังมีกระบวนท่าแค่ 8 กระบี่แล้วกินกันไม่ลง  จนต๊กโกวต้องไปฝึกกระบี่ที่เก้าคือปิดลมปราณเพื่อมาสู้ด้วยนะครับ :) จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:12:46

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาตอบ "ปัจฉิมลิขิต" 1. "คัมภีร์ทานตะวันควรจะตกทอดอยู่กับหัวซานมิใช่หรือ...เหตุใดมันจึงหายไป" ฉบับคัดลอกทั้ง 2 เล่มเคยอยู่ที่หัวซานจริง แล้วถูกทำลายไปในตอนที่วัด "เสี้ยวลิ้ม" ส่งลูกศิษย์มาเกลี้ยกล่อมให้เลิกฝึกเพราะว่าเป็นวิชาที่ให้โทษมากกว่าให้คุณ ทำให้สิ้นลูกสิ้นหลาย และทำลายทิ้ง (แต่ก่อนจะทำลายทิ้ง เจ้าศิษย์จากวัด"เสี้ยวลิ้ม"มันท่องจำได้หมดแล้ว ภายหลังเมื่อกลับวัดไป ก็ฝึกจนสำเร็จเป็น "คัมภีร์กระบี่ปราบมาร" จึงสึกออกมาตั้งสำนักคุ้มภัย(ปู่ของลิ้มเพ้งจือ" 2. "เพราะต่อให้ไม่มีจุ๊กกรูีว แต่ความหื่นภายในก็ยังไม่สิ้นไป"   เป็นจินตณาการของผู้แต่ง เพื่อให้เข้าใจในทิศทางที่ว่าเมื่อ "ตอน" แล้วก็เหมือนขันที คือถือว่าไม่ใช่ผู้ชายอีกต่อไปแล้ว เหมือนแมวที่ถูก "ตอน" ก็จะไม่สนใจตัวเมียอีกนั้นแหละครับ จากคุณ : ชัยโอบายาชิ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:20:53

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนเก้ากระบี่เดียวดายที่เล้งฮู้ชงฝึก กับเพลงกระบี่เหล็กดำที่เอี้ยก้วยฝึก ทั้งสองวิชามาจากมารกระบี่แสวงพ่ายต๊กโกวคิ้วป่ายเหมือนกัน แต่วิทยายุทธ์ทั้งสองเป็นวิชาฝีมือคนละแขนงกันครับ โดยจากในนิยายจะเห็นว่าเก้ากระบี่เดียวดายจะเป็นการฝึกจาก "เคล็ดความกระบี่" ที่ฮวงเช็งเอี๊ยงได้รับถ่ายทอดมา (จากไหนไม่รู้?) โดยเคล็ดความสำคัญคือ "ไร้กระบวนท่าสยบกระบวนท่า" ส่วนเพลงกระบี่เหล็กดำเป็นการฝึกจาก "สำนึกกระบี่" ที่ต้องอาศัยกระบี่เหล็กดำเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอด (การฝึกใช้กระบี่เหล็กดำกลางน้ำตกและทะเล) หากไม่มีกระบี่เหล็กดำก็ไม่อาจสำเร็จวิทยายุทธ์นี้ได้ โดยเคล็ดความสำคัญคือ "เรียบง่ายสยบซับซ้อน" และจากประวัติของมารกระบี่แสวงพ่ายทำให้คาดว่าเก้ากระบี่เดียวดายน่าจะเป็นวิชาที่มารกระบี่แสวงพ่ายคิดขึ้นก่อนในช่วงวัยหนุ่ม ส่วนเพลงกระบี่เหล็กดำเป็นวิชาที่คิดขึ้นในช่วงหลัง แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 12:23:09 จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:21:53

ความคิดเห็นที่ 19 คห.16  เคยมีจริงๆครับ ตอนนั้นกินกันไม่ลงจริงๆ บาดเจ็บทั้งคู่ ต่างคนต่างหยุดการประลองเอง ตอนนั้นเป็นการประลองระหว่างสองสาย คือ เพลงกระบี่ vs พลังลมปราณ ตอนนั้น "ต๊กโกคิ้วป้าย" ใช้ 8 กระบี่ยังเอาชนะไม่ได้(แต่ก็ไม่แพ้นะ) จึงเป็นที่มาของการคิดค้น 9 กระบี่ โดยเพิ่มท่า "ทำลายลมปราณ" เข้าไปน่ะครับ น่าเสียดาย พอคิดค้นสำเร็จก็ไม่มีโอกาสได้ประลองกับ "อึ้งเซี๊ยง" อีกแล้วเพราะ "อึ้งเซี๊ยง" ถูกลอบทำร้ายและหายสาบสูญไปก่อนน่ะครับ จากคุณ : ชัยโอบายาชิ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 12:31:55

ความคิดเห็นที่ 20  ที่เอี้ยก้วยฝึก อาศัยกระบี่เหล็กดำที่หนักมาก และตนเหลือแขนซ้ายข้างเดียวจนไม่อาจออกกระบวนท่าใดๆได้มากมาย ประกอบกับการสังเกตรอยกระบี่ที่ถ้ำของต๊กโกวคิ้วป่ายที่เรียบง่ายแต่กลับแฝงพลังล้ำลึก เมื่อนำมาใช้สู้กับนกอินทรีสัตว์เลี้ยงของต๊กโกวคิ้วป่าย ฝึกฟันกระบี่กลางน้ำป่า และคลื่นทะเลบ้าคลั่ง ประกอบกับสติปัญญาเหนือล้ำทำให้บรรลุศาสตร์ "ไร้กระบวนท่าสยบกระบวนท่า" = ทำสิ่งที่ยากให้ง่าย(กระบวนท่ากระบี่มีมากมายพิสดารแค่ไหน กลับไม่อาจสู้กระบี่ที่ไร้แบบแผนปล่อยท่วงท่าตามใจคิดได้) ใช้สิ่งที่ง่ายให้แคล่วคล่อง(ฝึกท่วงท่าธรรมดาๆ เช่น แทง ฟันซ้ายขวา กลับหลังฟัน ให้คล่องแคล่วที่สุด ส่งพลังลมปราณผสานกระบี่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด) ของต๊กโกวคิ้วป่ายได้   และท้ายสุดเอี้ยก้วยยังฝึกสำเร็จจนถึงขั้นไร้กระบี่ชนะมีกระบี่ หยิบจับสิ่งใดก็เป็นอาวุธได้ทั้งสิ้น และประยุกต์ศาสตร์นี้เข้ากับวิชาคัมภีร์มารนพเก้า และวิชาสำนักสุสานโบราณ สำนักช้วนจินก่า ไม้เท้าตีสุนัข พลังคางคก วิชาเกาะดอกท้อ ผนวกกับจิตสำนึกให้ความเศร้าที่ภรรยาจากไป จนกลายเป็น "17 ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย" ในจักรวาลกิมย้ง ผมว่าเอี้ยก้วยกับต๊กโกวคิ้วป่ายเทพสุดแล้วล่ะ   ซึ่งศาสตร์ไร้กระบวนท่าชนะมีกระบวนท่าถือเป็นศาสตร์กระบี่สูงสุดคืนสู่สามัญ ที่ฟงชิงหยางเคยสอนเล่งฮู้ชงหลังจากสอน 9 กระบี่เดียวดายให้ครบทุกกระบวนท่าแล้ว และเล่งฮู้ชงก็นำศาสตร์นี้ไปใช้รับมือกับศิษย์ฝ่ายกระบี่ของหัวซานที่จะกลับมายึดสำนักหัวซานคืนจากงักปุ๊กคุ้ง และชนะได้อย่างสวยงาม (แต่ยังไงเล่งฮู้ชงก็ยังไม่เทพขนาดไร้กระบี่ชนะมีกระบี่ได้นะ) แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 13:55:19 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 13:53:02 จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 13:44:13

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณจอมยุทธทกท่านที่เข้าร่วมประชันฝีมือ วันนี้ข้าน้อยได้เปิดหูเปิดตานับเป้นวาสนายิ่งแล้ว แม้มิอาจตัดใจเฉือนจุ๊กกรุ๊วสำเร็จเคล็ดวิชาทานตะวันแต่ก็นับว่ามิเสียชาติเกิด ปัจฉิมลิขิต 1 เอี้ยก้วยมันเก่งเว่อร์ไป 2 เล่งฮู้ชง เป็นพระเอกในดวงใจข้าน้อยเพราะมันทำตัวชิลๆและไม่เก่งเวอร์นี่แหละ 3 พวกห้าขุนเขากระบี่กากมาก สมกับเป็นพรรคระดับรองๆเลย จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 14:32:09

ความคิดเห็นที่ 22 นิยายจีนเรื่องนี้เคยอ่านมานานมากแล้ว ได้กลับมาเห็นการพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้อีกครั้งรู้สึกเหมือนได้ย้อนอายุตัวเองเลยค่ะ จากคุณ : jazzzero เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:05:24

ความคิดเห็นที่ 23 เพิ่มเติมจากปัจฉิมลิขิตใน คห.21 ของท่านปลาวาฬปุ๊ป๊ายอีกครั้งครับ 1. ตัวเอกที่เก่งที่สุดในนิยายกิมย้งมี 2 คนคือ เจี๊ยะพั่วเทียน จากเรื่องมังกรทลายฟ้า เป็นคนเดียวในจักวาลกิมย้งที่สามารถหลอมรวมลมปราณสุดร้อนสุดเย็นเข้าไว้ในตัวคนเดียว และยังบรรลุถึงขั้น "ไร้ตัวตน" ในขณะต่อสู้ได้ กับอีกคนหนึ่งคือ อาแช จากเรื่องกระบี่นางพญา มือกระบี่สาวจากสมัยชุนชิว ถือเป็นยุคที่เก่าแก่ที่สุดในนิยายกิมย้ง โดยกิมย้งได้แรงบันดาลใจตัวละครตัวนี้มาจากตำนานหญิงสาวผู้สามารถสยบเซียนที่เป็นผู้ให้กำเนิดเพลงกระบี่ของจีนจนเซียนผู้นี้ต้องกลายร่างเป็นค่างขาว 2. กิมย้งเคยให้สัมภาษณ์ว่าตัวเอกในนิยายของเขาที่เขาชื่นชอบที่สุดเรียงตามลำดับ 5 คนคือ โอ้วฮุย จากเรื่องจิ้งจอกอหังการ เซียวฮง จากเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า เอี้ยก้วย จากเรื่องมังกรหยกภาคสอง ก๊วยเจ๋ง จากเรื่องมังกรหยกภาคหนึ่ง เล่งฮู้ชง จากเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร 3. สำนักฮั๊วซัวหนึ่งในห้าขุนเขากระบี่ กากแค่เฉพาะในเรื่องกระบี่เย้ยเรื่องเดียว ในเรื่องดาบมังกรหยกซึ่งเป็นยุคสมัยก่อนหน้านี้ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในหกสำนักมาตรฐานคือ เสี้ยวลิ้ม บู๊ตึ๊ง ง่อไบ๊ คุนลุ้น คงท้ง และฮั๊วซัว ส่วนในสมัยหลังในช่วงปลายหมิงต้นชิง จากเรื่องเพ็กฮ่วยเกี่ยมและอุ้ยเสี่ยวป้อ สำนักฮั๊วซัวคือสำนักอันดับหนึ่งในยุทธภพอย่างชนิดไม่มีใครเทียบได้ คาดว่าความตกต่ำในช่วงกระบี่เย้ย เกิดจากศิษย์ในสำนักแบ่งเป็นสองสี เอ๊ย! สองสายคือสายกระบี่กับสายลมปราณ ทำให้วิทยายุทธ์ถดถอยจากเดิมไปมาก จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:09:10

ความคิดเห็นที่ 24 คห.20  เพลงกระบี่ที่เล่งฮู้ชงชนะ ศิษย์สายกระบี่เป็นวิชาในถ้ำครับ ไม่ใช่9กระบี่ จากคุณ : bankba (Bankba) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:09:26

ความคิดเห็นที่ 25 ท่านจอมยุทธ มดคันไฟไร้ระเบียบ ทำให้ข้าน้อยอยากออกท่องยทธจักรนวนิยายจีนกำลังภายในยิ่งนัก หากแต่ที่ผ่านมาข้าน้อยศึกษาเพียงตำรายุทธพิชัยสงคราม(ข้าน้อยเป้นแฟนคลับซุนวู อู๋ฉี่ และหานเฟยจื่อ) ยังไม่เคยข้ามพรหมแดนมาสู่หนังสือแนวนิยายจีนกำลังภายในแต่อย่างใด อาจต้องบิ๊วอารมณ์ด้วยการตามดูซีรี่ย์ของกิมย้งให้ถึงระดับก่อนค่อยว่ากันเรื่องหนังสือขอครับ หมายเหตุ ข้าน้อยใคร่รู้เรื่องจุดกำเนิด การขึ้นถึงจุดสูงสุดและความตกต่ำ ของแต่ละสำนักเหลือคณา มิทราบว่าท่านใดพอจะเล่าแจ้งแถลงไขให้ข้าน้อยได้เปิดหูเปิดตาได้บ้าง ปัจฉิมลิขิต - จอมยุทธหมายเลข 24 เพลงกระบี่บนผนังถ้ำมันก็กระบี่ต๊กโกวมิใช่หรือ - -" จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:22:44

ความคิดเห็นที่ 26 25* เพลงกระบี่บนผนังถ้ำ เป็น เพลงกระบี่ที่ใช้แก้กระบวนท่าของวิชาสำนัก 5 ขุนเขาครับ สลักโดยกลุ่มผู้เฒ่าพรรคมารที่โดนอุบายขังไว้ในถ้ำจนตาย จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:34:28

ความคิดเห็นที่ 27 เพลงกระบี่บนผนังถ้ำมันก็กระบี่ต๊กโกวมิใช่หรือ มิใช่ครับ เพลงกระบี่บนผนังถ้ำเกิดจากในช่วงที่ห้าขุนเขากับนิกายสุริยันจันทรามีเรื่องกันใหม่ ๆ มีช่วงหนึ่งที่นิกายสุริยันจันทรานำโดยสิบผู้อาวุโสยกกำลังเตรียมมาถล่มห้าสำนักขุนเขากระบี่ สำนักฮั๊วซัวเห็นว่ารับมือไม่ไหวเลยออกอุบายหลอกล่อให้สิบผู้อาวุโสเข้ามาในถ้ำแล้วใช้หินถล่มขังปิดตายซะ สิบผู้อาวุโสแค้นที่พวกห้าขุนเขากระบี่เล่นไม่ซื่อแต่จนใจที่ออกไปไม่ได้เลยสลักเพลงกระบี่ทั้งมวลของพวกห้าสำนักขุนเขากระบี่พร้อมกระบวนท่าที่ใช้ทำลายเพลงกระบี่เหล่านั้นเอาไว้ด้วย ส่วนพวกห้าสำนักขุนเขากระบี่หลังจากผ่านศึกกับนิกายสุริยันจันทราอย่างยาวนาน เหล่าผู้อาวุโสยอดฝีมือของแต่ละสำนักล้วนล้มหายตายจากไปจำนวนมาก ทำให้เพลงกระบี่ชั้นสูงจำนวนมากพลอยหายสาปสูญไปด้วย ดังนั้นเพลงกระบี่ที่เล้งฮู้ชงพบบนผนังถ้ำจึงมีทั้งเพลงกระบี่ปัจจุบันและเพลงกระบี่ชั้นสูงที่หายสาปสูญไปของทั้งห้าสำนักขุนเขากระบี่ พร้อมกับกระบวนท่าที่ใช้ทำลายเพลงกระบี่เหล่านั้นด้วย เพียงแต่เท่าที่จำได้ เล่งฮู้ชงใช้เพลงกระบี่บนผนังถ้ำนี้สองครั้งเท่านั้นคือ ตอนที่ใช้ประลองกับฉั้งแป๊ะกวง (ตอนนั้นผู้อาวุโสฮวงเช็งเอี๊ยงยังไม่ปรากฎกายมาสอนเก้ากระบี่เดียวดาย) กับตอนที่ใช้กระบวนท่าของสิบผู้อาวุโสทำลายเพลงกระบี่ของงักฮูหยิน ส่วนตอนที่รับมือกับศิษย์สายกระบี่คนสุดท้ายนั้นเล่งฮู้ชงใช้เก้ากระบี่เดียวดายเอาชนะ ซึ่งทำให้งักปุกคุ้งเข้าใจผิดคิดว่าเล่งฮู้ชงแอบฝึกเพลงกระบี่ปราบมารสำเร็จ (เพลงกระบี่ขั้นสูงงักปุกคุ้งดูไม่รู้เรื่องว่าเป็นเพลงกระบี่อะไรเลยเหมาว่าเป็นเพลงกระบี่ปราบมารไว้ก่อน) แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 15:53:37 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 15:52:02 จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:49:11

ความคิดเห็นที่ 28   24* เล่งฮู้ชงใช้ไม้กวาดผสานกับเพลงกระบี่ที่ผนังถ้ำชนะผู้อาวุโสฝ่ายกระบี่ของหัวซานฝ่ายกระบี่คนแรก แต่ต่อมามีการต่อสู้ในป่าที่ผู้อาวุโสสำนักหัวซานฝ่ายกระบี่ และนักฆ่าของซงซานมารุม ศิษย์สำนักหัวซานฝ่ายลมปราณ ทุกคนในสำนักโดนจับหมด เหลือเล่งฮู้ชงที่ไร้กำลังภายใน ต้องงัดศาสตร์กระบี่ไร้ท่าชนะกระบวนท่า มาสู้กับผู้อาวุโสสำนักหัวซานฝ่ายกระบี่ครับ จากนั้นจึงใช้เก้ากระบี่เดียวดายทำลายดวงตานักฆ่าสำนักซงซาน   25* เพลงกระบี่ที่สลักบนผนังถ้ำอยู่ในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรครับ เป็นกระบวนท่าแก้เพลงกระบี่ของห้าขุนเขากระบี่ทั้งหมด แค่ฝึกตามรูปก็ทำได้ไม่ยาก แต่ที่เอี้ยก้วยฝึกในถ้ำ ต๊กโกวคิ้วป่ายไม่ได้สลักวิชาไว้นะครับ เป็นแค่รอยฟันที่ติดกับหิน แต่เอี้ยก้วยไปจินตนาการต่อยอดเอาเองครับ     ดังนั้น ที่ผมเห็นว่าเอี้ยก้วยกับต๊กโกวคิ้วป่ายเก่งสุดเพราะเป็นผู้ที่คิดค้นศาสตร์วิชาขึ้นเองได้ครับ ส่วนด้านพลังฝีมือ ในจักรวาลกิมย้ง ตัวละครที่เกิดในยุคเก่าของจีนจะเก่งที่สุด ยิ่งเข้าใกล้ปัจจุบันเท่าไหร่ ความเก่งก็จะลดลงเรื่อยๆครับ เพราะวิชาเก่าๆสูญหายไปเยอะ ฝ่ามือสยบมังกรของเซียวฟง พอมาถึงยุคอั้งชิกกงมันเหลือแค่ 15 ท่า แต่อั้งชิกกงไปคิดต่อเองจนครบ 18 ท่า แต่ความรุนแรงก็ไม่เท่าเดิม, เทพกระบี่หกชีพจรสมัยต้วนอี้ พอมาถึงยุคต้วนทีเฮงก็เหลือแค่ดัชนีเอกสุริยัน, เทพวิชาสำนักสราญรมย์ของซีจุ๊ยิ่งแทบไม่เหลือ ท้ายสุดรู้สึกว่าลมปราณภูติอุดรจะเหลือมาถึงยุคกระบี่เย้ยยุทธจักรแต่ไม่สมบูรณ์ และเปลี่ยนชื่อเป็นมหาเวทย์ดูดดาวแทน  ปล. ผมว่าวิชากระบี่ปราบมารหรือคัมภีร์ทานตะวันมันเป็นวิชาวิปริตนะครับ ผู้หญิงไม่น่าจะฝึกได้ ต้องให้ผู้ชายที่ตอนตัวเองแล้วฝึกเท่านั้น แต่เท่าที่รู้มันร้ายกาจมาก แค่เข็มเล่มเดียวก็ฆ่ายอดฝีมือได้ง่ายๆ และทำให้มีปัญหาที่ค้างคาใจคนอ่านนิยายกิมย้งมานานว่า 1. บูรพาไร้พ่าย ปะทะกับ เดียวดายแสวงพ่าย ใครจะอยู่ใครจะไป             2. คัมภีร์มารนพเก้า  พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล  กระบี่เดียวดาย ใครจะเหนือกว่ากัน แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 16:04:18 จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:55:36

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นเช่นนี้เอง...อา...ข้าน้อยยังห่างไกลกับเส้นทางที่สลับซับซ้อนในยทธจักรนิยายจีนกำลังภายในยิ่งนัก แต่พูดก็พูดเถอะ...เจ้าศิษย์ไม่รักดีเล่งฮู้ชงนี่ก็ได้วิชาขั้นเทพมาไม่น้อย แต่ไหนเลยกลับถูกวางไว้เป็นลำดับหลังๆเมื่อเทียบกับจอมยุทธในกลุ่มไตรภาคมังกรหยก ข้าเองคิดว่าด้วยไหวพริบและสารพัดวิชาที่คุณชายเล่งฮู้ได้รับมาก็มิได้น้อยหน้าพระเอกตระกูลไตรภาคมังกรหยกแต่อย่างใด ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ว่าแต่ท่านกระบีวิญญูชนไฉนถึงกากได้ขนาดนี้ ทั้งฝีมือที่อ่อนรวมทั้งตาที่หามีแววไม่...ไม่รู้จักศึกษาเพลงยุทธสมัยก่อนเลยเช่นนั้นหรือ ปัจฉิมลิขิต จอมยุทธหมายเลข 28 เฉลยปริศนาคาใจข้าน้อยได้กระจ่างยิ่งนัก!!!!! มหาเวทย์ดูดดาวที่แท้ก็เป็นวิชาที่สืบทอดมานี่เอง...สมัยก่อนต้องเทพกว่านี้มากแน่ๆเลย!!! แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 15:59:58 จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 15:57:24

ความคิดเห็นที่ 30 เป้าหมายชีวิตของเล่งฮู้ชง  คือได้อยู่อย่างสงบ  เล่นเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักรกับเมีย  แค่นั้นแหละครับ  โคตรชิล  55+ จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:07:04

ความคิดเห็นที่ 31 ยืนยันว่าเพลงกระบี่ในถ้ำเป็นเคล็ดทางแก้เพลงกระบี่ของห้าขุนเขาครับ ไม่ใช่เก้ากระบี่เดียวดาย ถ้าจะพูดถึงจุดรุ่งเรืองตกต่ำของแต่ละสำนักในนิยายกิมย้งมันยาวมากมายนะ แต่คร่าว ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นมา เส้าหลินถือเป็นเสาหลัก ในทุก ๆ เรื่องเส้าหลินจะเป็นเสาหลักตลอด แม้จะมีเจ้าอาวาสเก่งบ้างไม่เก่งบ้าง แต่วิชาของเส้าหลินก็ถือว่าเป็นสุดยอดอยู่ดี ถ้าฝึกจนสำเร็จก็เก่งมาก แต่ถ้าฝึกไม่เท่าไหร่ก็อาจจะถูกใช้เป็นแบล็กกราวด์ในเรื่องต่าง ๆ อย่างในเรื่องกระเย้ยยุทธจักรเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเก่งกว่ายิ้มอั้วฮั้งที่เก่งเกือบที่สุดในเรื่อง อาจจะสูสีกับตงฟางปุ๊ป้ายเลย ในเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้าเป็นยุคที่วิชาต่าง ๆ มีความพิสดารล้ำลึกมาก ๆ สังเกตุจากวิชาของสำนักสราญรมย์ล้วนแต่มีวิชาล้ำเลิศ แต่สำนักนี้รับศิษย์ยาก วิชาต่าง ๆ จึงหายไปในที่สุด พบได้ในเรื่องนี้เรื่องเดียว วิชาล้ำเลิศอย่างเพลงกระบี่หกชีพจรของสกุลต้วนก็มีเพียงต้วนอี้ที่ฝึกสำเร็จ แล้วในยุคมังกรหยกก็เหลือแค่ดัชนีเอกสุริยัน ซึ่งราชันทักษิณใช้เป็นวิชาประจำตัวและจัดเป็นหนึ่งในห้ายอดฝีมือของยุค พอมายุคดาบมังกรหยก ผู้สืบทอดวิชาจากสกุลต้วนต่างก็ฝีมืองั้น ๆ ประมาณแค่สกัดจุดแล้วคลายได้ยากกว่าปกติ แต่ไม่โดดเด่นอะไรเลย บู๊ตึ๊งเกิดในยุคดาบมังกรหยก วิชาต่าง ๆ ของเตียซำฮงมีพื้นฐานมาจากคัมภีร์เก้าตะวันของเส้าหลิน แต่รู้สึกว่าตอนนั้นเตียกุนป้อจะจำเคล็ดวิชาและตีความเข้าใจแค่ 3 ใน 10 ส่วนนะ แล้วที่เหลือคือคิดดัดแปลงขึ้นมาเอง ง่อไบ๊เกิดจากก๊วยเซียงลูกสาวของก๊วยเจ๋งบวชเป็นชีแล้วก่อตั้งขึ้น แม่ชีก๊วยเซียงท่องจำและตีความเคล็ดวิชาจากคัมภีร์เก้าตะวันไม่แน่ใจว่าได้กี่ส่วน แต่ก็กลายมาเป็นรากฐานวิชาต่าง ๆ ของง่อไบ๊ในภายหลัง คุนลุ้นเป็นขุนเขาทางตะวันตก มีสำนักเกิดขึ้นตอนไหนไม่รู้ แต่ว่าในยุคดาบมังกรหยกสำนักนี้จัดเป็นสำนักใหญ่ของยุทธภพ จริง ๆ แล้วพรรคสุริยันจันทราก็ตั้งอยู่ที่เทือกเขาคุนลุ้นนะ แต่อาจจะอยู่กันคนละยอดเขา คงท้ง เป็นสำนักนักพรต จัดเป็นสำนักมาตรฐานใหญ่ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ไม่มีกล่างถึงในรายละเอียดเท่าไหร่ ชิงเฉิง จัดเป็นสำนักใหญ่อีกสำนัก บางเรื่องจัดเข้าเป็นสำนักใหญ่แถวหน้า บางเรื่องก็จัดไปแถวสอง ในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรจัดเป็นสำนักใหญ่ในระดับธรรมดา พรรคใหญ่อันดับหนึ่งของนิยายกิมย้งหรือนิยายอื่น ๆ ก็คือ พรรคยาจก มีวิชาไม้เท้าตีสุนัขเป็นวิชาประจำตัวของประมุข ในยุคแปดเทพอสูรมังกรฟ้า (เป็นยุคซ้องเหนือ) พรรคนี้มีความยิ่งใหญ่มาก เซียวฟงมีวิชา 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร ซึ่งจริง ๆ น่าจะเป็นวิชาเส้าหลิน มาถึงยุคมังกรหยก อั้งชิดกงได้เรียนแค่ 15 ฝ่ามือที่เหลือสูญหายไป แล้วคิดเพิ่มเติมกลับไปอีก 3 ฝ่ามือเพื่อให้ครบ 18 เหมือนเดิม พรรคสุริยันจันทรา (บางเรื่องจะเรียกว่า "หมิงเจี้ยว" หรือ "เม้งก่า") จริง ๆ เป็นนิกายจากเปอร์เซีย บูชาดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ในกระบี่เย้ยฯไม่ได้กล่าวอะไรเกี่ยวกับพรรคนี้ว่ามีที่มาจากเปอร์เซียตรงไหนเลย แต่ในดาบมังกรหยกได้กล่าวถึงชัดเจนว่าพรรคนี้มีออริจินอลจากเปอร์เซีย นอกจากนี้จะสังเกตุว่าบรรดายอดฝีมือในนิยายกิมย้งที่เป็นยอดฝีมือหลัก ๆ มักจะเก่งเอง โดยฝึกวิชาชั้นสูงเพียงวิชาใดวิชาหนึ่ง แล้วตัวเอกหลัก ๆ ก็จะได้รับถ่ายทอดมาหลายวิชาประมาณว่าเก่งเพราะมีอาจารย์ดี แต่ส่วนใหญ่พวกที่เก่งอยู่แต่ก่อนมักจะเก่งเพราะเก่งด้วยตัวเอง มีเอี้ยก้วยคนหนึ่งล่ะที่อย่างน้อยยังคิดค้นวิชาใหม่ ๆ ของตัวเองได้ จะว่าไปเนื้อหารายละเอียดยังมีอีกเยอะมาก ๆ ไม่รู้จะเล่ายังไงหมด ฮ่าฮ่าฮ่า... จากคุณ : Canon in Science Major เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:12:49

ความคิดเห็นที่ 32 28. คัมภีร์นพเก้า( ผู้คิดค้น )  เคยประลองกับ ต๊กโกว ตอนที่ยังมีแค่ 8 วิชากระบี่  เสมอกันครับ   ส่วนพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล  ที่เห็นบ่อกี้ใช้ได้แบบขั้นเทพ  เพราะบ่อกี้สำเร็จเก้าเอี้ยงมาก่อนครับ  เลยมีพลังภายในเหลือเฟือเกินความจำเป็น  จึงสามารถรับการโจมตี ดึงดูด สลายหรือโต้กลับไปได้  ไม่ว่าการโจมตีนั้นจะแรงเวอร์ขนาดไหน  ( สำหรับวิชาในภาคดาบมังกรหยกนะครับ  เพราะถ้าเจอโคตรฝ่ามือ 18 มังกร  ไม่รู้จะเป็นไงบ้าง 55+ ) ส่วนเคลื่อนย้ายจักรวาล ถ้าเจอ 9 กระบี่เดียวดาย  ผมว่า บ่อกี้ไม่รอดครับ  9 กระบี่ในส่วนกระบวนท่าไม่ใช้ลมปราณ  แล้วบ่อกี้จะเอาหอกไหนกลับคืนสนองได้  >,< แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 16:18:55 จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:15:08

ความคิดเห็นที่ 33 แนะนำให้เจ้าของกระทู้ไปหาดูเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้านะครับ ตัวละครแต่ละตัว เก่งเทพมากๆ ส่วนวิชามหาเวทย์ดูดดาว คาดว่าน่าจะมาจากพ่อเฒ่ามารติงชุนชิว ในเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าที่ลอบทำร้ายอาจารย์แล้วลักวิชาลมปราณภูติอุดรมาฝึกเองแต่ได้มาไม่สมบูรณ์ และไม่มีคนชี้แนะ (เพราะวิชานี้มีทั้งขั้นดูดพลังขั้นการย่อยสลายพลังที่ดูดมาเอามาใช้ และขั้นขจัดพลังส่วนเกิน) ทำให้วิชามีข้อบกพร่องคือดูดพลังคนอื่นมากไปลมปราณจะติดขัดเพราะรับพลังภายในมากๆไม่ไหว และหาทางสลายพลังภายในส่วนเกินไม่ได้ และเพราะสาเหตุนี้เองจึงทำให้ ยิ่นอั้วฮั้ง ลมปราณสับสนเพราะดูดพลังคนอื่นมากเกินไป แต่ย่อยสลายไม่ได้ เลยพลาดท่าโดนตงฟางปุ๊ป้ายจับไปขังเป็นสิบปี จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:18:00

ความคิดเห็นที่ 34 ท่านจอมยุทธ 31แตกฉานด้านประวัติศาสตร์กำลังภายในยิ่งนัก หากแม้นได้ร่ำสุรา ชมจัทนร์ พลางเสวนาเรื่องความรุ่งเรืองและล่มสลายของพรรคต่างๆคงจะนับเป็นวาศนาของข้าไม่น้อย จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:25:42

ความคิดเห็นที่ 35 เล่งฮู้ชงแกถือว่าเปนพระเอกที่แหวกแนวสุดๆคนนึงเหมือนกัน นับถือคนพรรคมารเปนพี่น้อง ขอแค่มีเหล้าแกเปนมิตรกะใครก้ได้ ทรยศอาจาร ถึงเรื่องราวพวกนี้มันจะไหลตามเนื้อเรื่อง แต่ผมว่าแกเปนพระเอกที่เจ๋งดี จากคุณ : Berbazys เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:29:44

ความคิดเห็นที่ 36 โอ้ท่านจอมยทธ 33 ข้าน้อยได้ เอ่อ...เอิ่ม...หละ...โหลด 8 เทพอสูรมาไว้ในครอบครองแว้ว - -" รวมทั้งมังกรหยกก๊วยเจ๋ง และกำเนิดเอี้ยก้วย ว่าจะค่อยๆไล่ดูทีละเรื่อง เพียงแต่ตัวข้าประทับใจพระเอกชิลๆแบบเล่งฮู้ชงที่สดจึงดูเรื่องกระบี่เย้ยก่อน แต่ข้าน้อยไม่ถูกชะตากับเตียบ่อกี้ยิ่งนัก ด้วยว่าความทรงจำสมัยเด็กมันบอกว่าไม่สนกยังไงพิกล..ทั้งเตียบ่อกี้ ยังเป็นพระเอกที่โลเล ขาดความหนักแน่น ออกแนวเก่งแต่บื้อ...ข้าน้อยไม่ชอบพระเอกคนนี้ที่สุดแล้วจึงไม่ค่อยสนใจ จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:30:06

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าคิดว่าคนที่เก่งสุดในด้านพลังฝีมือในจักรวาลกิมย้งจริงๆ ผมว่ามี 2 คน คือไต้ซือที่ดูแลหอคัมภีร์ในวัดเส้าหลินจากเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าที่ฝึกคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นสำเร็จขั้นสูงสุด(และดูเหมือนจะแตกฉานอีกหลายวิชาเพราะแนะนำผู้ธาตุไฟแตก อย่างเซียวเหยี่ยนซัน กับ มู่หยงป๋อ ให้กลับมาฝึกในทางที่ถูกต้องได้) กับเตียซัมฮง ที่คิดเพลงยุทธไท้เก๊กอะครับ ส่วนเจี่ยพั่วเทียน ฝึกวิชาจากผนังในเกาะลึกลับ ผมว่าก็เก่งมากนะ แต่สมัยนั้นคนที่ดูเก่งเว่อร์ๆ อย่างเจี่ยพั่วเทียน กับฆราวาสผาเสียดฟ้า เซี่ยเยียนเค่อ มันน้อยยังไงไม่รู้อะครับ แถมเรื่องมันก็ไม่ยาวมากเลยไม่ค่อยเห็นว่าวิชามันเทพระดับไหน ส่วนอาแช จากเรื่องกระบี่นางพญา (ผมไม่เคยดูเลยอะ พลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงเนี่ย) แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 16:41:37 จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:30:06

ความคิดเห็นที่ 38 ท่านจอมยทธ 37 คิดว่าท่านเตียซำฮงเก่งที่สุด ข้าน้อยก็คิดเช่นนั้น(เพราะปัจจุบันข้าน้อยก็ปวารณาตนเป็นศิษย์ท่านเตีย โดยการรำไท้เก๊กอยู่เป็นนิจ) แต่ข้าน้อยผิดหวังกับ 7 ศิษย์เอกบู๊ตึ๊งเหลือเกิน ทำไมไม่ได้สักครึ่งของอาจารย์บ้งเลย(อ้างอิงจากภาคเตียบ่อกี้ และความอ่อนของเหล่าศฺษย์เอกบู๊ตึ๊งนี่เองที่ทำให้ข้าน้อยไม่อยากกลับไปดูเรื่องนี้อีก...รับไม่ค่อยได้ - -") จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:33:31

ความคิดเห็นที่ 39 ชอบกระทู้นี้มากค่ะ ขอเกาะกระทู้ดูเหล่าจอมยุทธ์คุยกันนะคะ จากคุณ : แอปเปิ้ลน้อยสีชมพู เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:36:49

ความคิดเห็นที่ 40 37 ** ครับ เห็นด้วยสุดๆครับ หลวงจีนกวาดลานวัด หรือใต้ซือหอคัมภีร์นั่นแหละครับ  เก่งระดับผู้หลุดพ้น  จัดการมู่หยงป๋อ  เซียวหย่วนซัน  แบบชิลๆ  แถมรับโคตรฝ่ามือ 18 มังกรของเฉียวฟงแบบสุดกำลังแล้วแค่ร้องว่า สมคำล่ำลือ   แต่ในจักรวาลอื่น  ตระกูลมู่หยงนี่ ถึงขนาดทะลุมิติได้เลยนะครับ  555+ จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:37:12

ความคิดเห็นที่ 41 38* ความจริงศิษย์ทั้ง 7 ของเตียซัมฮงเก่งระดับยอดฝีมือทั้งนั้นนะครับ เพียงแต่เรื่องนี้ เตียซัมฮง เตียบ่อกี้ และจิวจี้เยี้ยก เก่งเว่อร์มากๆ จนกลบรัศมีคนอื่นหมดเลย โดยเฉพาะเตียบ่อกี้ ถ้านิสัยเด็ดขาด ไม่ใจอ่อน มันจะเก่งเทพกว่านี้อีก 40* ตระกูลมู่หยงนี่ผมเห็นมาหลายเรื่องเหมือนกันครับ แต่ไม่แน่ใจว่ามันอ่านอีกอย่างว่าม่อย้งรึเปล่า แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 16:47:40 จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:45:20

ความคิดเห็นที่ 42 ครับ มู่หยง  ม่อย้ง  อันเดียวกัน  จะกอบกู้รัฐเอี้ยนกันอย่างเดียว ตระกูลนี้  :) ปล. เรื่อง 8เทพ มังกรหยก กระบี่เย้ย  ผมสามารถนั่งคุยด้วยได้เป็นวันๆเลยนะเนี่ย ถ้ามีเพื่อนคุย  55+ จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 16:56:46

ความคิดเห็นที่ 43 38   7จอมยุทธ์ บู๊ตึ้ง ถือเป็นระดับอาจารย์ในยุคนั้นแล้วครับ จากคุณ : bankba (Bankba) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 17:25:23

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนนี้ข้อมูลตีกันในหัวหมดล่ะ เลยต้องมาเรียบเรียงอีกที มาเรื่องกระบี่เย้ยก่อน จะสรุปย่อให้อ่านกันอีกที 1.คัมภีร์ทานตะวันที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง เดิมมีขันทีในวังหลวงเป็นผู้คิดค้น ไม่ปรากฏว่ามาอยู่ที่เส้าหลินได้ยังไง แต่ต้นฉบับได้ถูกทำลายไปหลังที่ศิษย์หัวซานได้แอบจำไปคัดลอกใหม่ จนเกิดเป็น ฉบับที่ตงฟางปุ๊ป้ายฝึก ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างครบถ้วน แม้อานุภาพคาดว่าจะไม่เท่าต้นฉบับ แต่ก็เหนือกว่ากระบี่ปราบมาร ส่วนฉบับที่ปู่ของลิ้มเพ้งจือฝึก เป็นเพียงฉบับดัดแปลง อาศัยพื้นฐานจากเส้าหลินดัดแปลงเป็นกระบี่ปราบมาร 2.เก้ากระบี่เดียวดายของเอี้ยก้วยกับเล้งฮู้ชงเป็นฉบับเดียวกันหรือไม่ ? อันนี้ถกกันมานานแล้วจนน่าจะได้ข้อสรุปที่ว่า เป็น "คนละฉบับ" ครับ เอี้ยก้วยนั้นไม่ได้ฝึกเพลงกระบี่ แต่เป็นสำนึกกระบี่ ซึ่งน่าเป็นขั้นสูงของเก้ากระบี่แล้วครับ ของเล้งฮู้ชงเป็นเคล็ดกระบี่ ที่ไม่รู้ว่ามีต้นสายมาจากไหน เพราะมารกระบี่แกตายในถ้ำ ไม่ปรากฏว่ามีศิษย์ ไม่เหลืออะไรทิ้งไว้นอกจากกระบี่ กับอินทรียักษ์ ดังนั้นอนุมานได้ว่าน่าจะมาจากเอี้ยก้วยมากกว่า ที่ดัดแปลงให้มันเรียนมันเรียนได้ง่ายขึ้น(คหสต.) 3.ใครเก่งสุดในจักรวาลกิมย้ง..มารกระบี่เอย หลวงจีนกวาดลานเอย ตงฟางปุ๊ป้ายเอย ในห้องกำลังภายในเคยถกกันไว้ และหลายคนเห็นพ้องตรงกันว่า หากไม่นับหลวงจียกวาดลานวัด และพวกยอดฝีมือที่ไม่ปรากฏตัวในเรื่อง ก็จะเป็น เจี๊ยะพั่วเทียนครับ เพราะจากความเว่อร์ที่กิมย้งบรรยายไว้ มันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นล่ะ ขอยกคำพูดจากท่าน เก้ากระบี่เดียวดาย จากกระทู้นี้.. http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2011/01/K10093762/K10093762.html " ความคิดเห็นที่ 5 พั่วเทียน ตอนท๊อปฟอร์ม ? หมายถึงตอนได้ไท่เฮี่ยง ใช่ไหมขอรับ ถ้าตอนนั้นฝีมือก็ระดับ ขนาดทำลายห้องโถงศิลาขนาดใหญ่ได้ ใช้วิชาตัวเบาเหาะจากเรือไปหาฝั่งไกลเป็นสองสามร้อยวาได้ ไม่ต้องคิดมากขอรับ ..... ถ้ามันปล่อยแสงได้ มันปล่อยไปแล้ว ดังนั้น เจี๊ยะ Only ขอรับ จากคุณ : เสี่ยวเก้า (กระบี่เก้าเดียวดาย)   เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 15:59:15" ใช้ครับ มันปล่อยแสงได้มันปล่อยไปแล้ว ส่วนตัวมองว่าควรจัดให้เรื่องมังกรทลายฟ้าอยู่นอกสารบบจักรวาลกิมย้งจะดีกว่า เพราะไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นๆในจักรวาลกิมย้งเลยสักนิด อีกหนึ่งคนคืออาแช จากกระบี่นางพญา ถ้าเจี๊ยะพั่วเทียนคือสายลมปราณ อาแชก็คือสายกระบี่ ทั้งๆที่ไม่มีลมปราณ ไม่ได้เรียนวรยุทธ แต่อาศัยแวดล้อมสร้างเพลงกระบี่เฉพาะตัวขึ้นมาได้ และความเว่อร์ของเพลงกระบี่ชุดนี้ก็คือ ฝ่าวงล้อมของทหารชั้นดีเป็นพันๆคนเข้าหาตัวไซซีได้ และกลับออกมาแบบไร้รอยขีดข่วน... เพลงกระบี่นี้ภายหลังก็คือเพลงกระบี่แคว้นเวียด ที่อาจารย์หญิงในเจ็ดประหลาดกังหนำ เป็นผู้สืบทอดมาสอนก๊วยเจ๋งอีกที ความร้ายกาจนั้น พูดก็พูดเถอะ มันเป็นเพลงกระบี่ที่ธรรมดามากในยุทธภพ แต่ความเว่อร์ของผู้คิดค้นมันทำให้ว่าตัวเพลงกระบี่ไม่ลงจริงๆ จากคุณ : ติสท์แตก เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 17:54:13

ความคิดเห็นที่ 45 บัดนี้ถึงเวลาที่ข้าน้อยจะต้องจำจากยุทธภพไซเบอร์แล้ว กว่าจะมีเวลาได้เข้ามาเล่นอินเตอร์เน็ตอีกคงต้องรอสัปดาห์หน้าเป็นอย่างไว อย่างไรก็ตามวันนี้ข้าน้อยรู้สึกสุนทรีย์กับการเสวนายิ่งนัก ต้องขอขอบคณจอมยุทธทุกท่านที่เข้าร่วมประชันความรู้ในครั้งนี้(และขอบคุณจอมยุทธสาวที่แอบมาอ่าน ไม่แสดงความเห็นเช่นกัน) หวังว่าโอกาสหน้าฟ้าใหม่ หากแม้นมีวาศนาคงได้กลับมาพบกันอีกครา ขอคารวะทุกท่านแล้ว (ยกเป๊ปซี่ขวดลิตรขึ้นซด...ความซ่าส์พุ่งขึ้นจมูกและวางลงอย่างสาแก่ใจ) จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 17:56:09

ความคิดเห็นที่ 46 ก็ยังคงยืนยันเช่นเดิมครับว่า เจี๊ยะพั่วเทียน คือตัวเอกที่เก่งที่สุดในจักรวาลกิมย้งแล้ว ในด้านลมปราณ เจี๊ยะพั่วเทียน ได้รับประสบการณ์ปาฏิหาริย์ถึงสามครั้ง ครั้งแรกคือการโดนหลอกให้ฝึกลมปราณโป๊ยอิมโป๊ยเอี๊ยง (ความเย็นทั้งแปดและความร้อนทั้งแปด) ซึ่งเป็นลมปราณสุดร้อนสุดเย็นที่ไม่สมบูรณ์แบบ หากฝึกถึงขั้นหนึ่งความร้อนความเย็นในร่างกายจะปะทะกันจนทำให้ผู้ฝึกถึงแก่ความตาย แต่เจี๊ยะพั่วเทียนกลับประสบเหตุทำให้ผสานลมปราณสุดร้อนสุดเย็นในร่างกายกลายเป็นสุดยอดลมปราณที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุทธภพ ในขณะที่เทียบกับเตียบ่อกี้คือลมปราณเก้าเอี๊ยง (ความร้อนทั้งเก้า) ลมปราณของก๊วยเจ๋งคือเก้าอิม (ความเย็นทั้งเก้า) แต่เจี๊ยะพั่วเทียนกลับรวมลมปราณสุดร้อนสุดเย็นเข้าไว้ในตัวคนเดียวได้ ที่จริงในจักรวาลกิมย้งยังมีอีกคนที่มีลมปราณร้อนเย็นในตัวคนเดียวคือ ฮือเต็ก จากเรื่องแปดเทพ แต่ลมปราณของฮือเต็กเป็นการได้รับถ่ายทอดจากบ๊อไง๊จื่อ ไม่ใช่การฝึกด้วยตัวเองเหมือนเจี๊ยะพั่วเทียน และดูไม่พิสดารมหาศาลเท่าด้วย หลังจากสำเร็จลมปราณโป๊ยอิมโป๊ยเอี๊ยง เจี๊ยะพั่วเทียนยังได้ฝึกลมปราณอรหันต์ปราบมาร ซึ่งเป็นวิชาลมปราณลับของวัดเสี้ยวลิ้มที่สลักไว้บนตุ๊กตาไม้แต่ด้วยเหตุที่เป็นวิชาที่มีความร้ายกาจเกินไปหลวงจีนที่คิดค้นจึงซ่อนเคล็ดวิชาเอาไว้ในตุ๊กตาดินเหนียวอีกที แต่เผอิญเจี๊ยะพั่วเทียนทำตุ๊กตาดินเหนียวแตกจึงได้พบเคล็ดวิชาในตุ๊กตาไม้ ทำให้สามารถใช้ลมปราณโป๊ยอิมโป๊ยเอี๊ยงได้ตามแนวทางการโคจรของลมปราณอรหันต์ปราบมาร (เปรียบได้กับเตียบ่อกี้ใช้ลมปราณเก้าเอี๊ยงผ่านวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล) ยอดวิชาลมปราณสุดท้ายที่เจี๊ยะพั่วเทียนได้ฝึกสำเร็จคือวิชาลมปราณลูกอ๊อดบนผนังถ้ำสุดท้ายของเกาะวีรบุรุษ ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้แม้ในด้านความมหาศาลของลมปราณอาจจะยังไม่แน่ว่าจะเหนือกว่าต้วนอื้อ จากเรื่องแปดเทพ เพราะรายนั้นดูดลมปราณของคนอื่นรวมไว้ในร่างกายร่วมร้อยกว่าปี แต่ในด้านความกล้าแข็งสมบูรณ์แบบและพิสดารของลมปราณถือว่าเหนือกว่าทุกคนในจักรวาลกิมย้งเลยทีเดียว ในด้านความลึกล้ำของวิทยายุทธ์ ในช่วงแรกนอกจากความกล้าแข็งของลมปราณแล้วเจี๊ยะพั่วเทียนเหมือนจะยังไม่ได้ฝึกยอดวิชาในด้านกระบวนท่าสักเท่าไหร่ แต่ในช่วงท้ายเจี๊ยะพั่วเทียนได้ฝึกวิชาบทกลอนจรรยาวีรบุรุษบนผนังถ้ำในเกาะวีรบุรุษ ซึ่งวิชาบนผนังถ้ำนี้มีความลึกล้ำจนทำให้บรรดายอดฝีมือจากทุกสำนักทั้งแผ่นดินไม่ว่าจะเป็นเสี้ยวลิ้ม บู๊ตึ้ง หรือสำนักอื่น ๆ ต่างหลงงมงายกับวิชาจนถึงกับไม่ไปไหนเป็นเวลาหลายสิบปี แถมฝึกผิด ๆ ถูก ๆ ก็ยังมีพลังฝีมือเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเคล็ดวิชาบนผนังถ้ำเกาะวีรบุรุษนี้น่าจะเทียบเคียงได้กับเคล็ดวิชาบนผนังศิลาของสำนักสราญรมณ์ที่สลักไว้บนยอดเขาเทียนซานและในวังซีเซี่ย เพียงแต่เคล็ดวิชาของสำนักสราญรมณ์ที่สลักบนศิลาถูกแยกเป็นสองและไม่แน่ว่าฮือเต็กในเรื่องแปดเทพจะตามไปฝึกได้ครบหรือไม่ แต่เจี๊ยะพั่วเทียนกลับได้ฝึกเคล็ดวิชาบนผนังถ้ำเกาะวีรบุรุษอย่างแตกฉานครบถ้วนสมบูรณ์ ตัวละครเจ้าเกาะวีรบุรุษทั้งสองในเรื่องมังกรทลายฟ้า เคยมีผู้วิเคราะห์ไว้ว่าสองเจ้าเกาะแต่ละคนน่าจะมีวิทยายุทธ์ระดับเดียวกับหลวงจีนกวาดลานในเรื่องแปดเทพ โดยดูจากความลี้ลับของวิทยายุทธ์ที่ใช้ออก แต่สองเจ้าเกาะรวมพลังกันยังสู้แพ้เจี๊ยะพั่วเทียนคนเดียว คิดดูละกันว่าเจี๊ยะพั่วเทียนมันเทพขนาดไหน? และประเด็นสุดท้ายที่นำมาวิเคราะห์ความเก่งของเจี๊ยะพั่วเทียนก็คือ นามธรรมของการฝึกวิทยายุทธ์ หากมารกระบี่แสวงพ่ายสามารถฝึกวิทยายุทธ์จนถึงขั้นไร้กระบวนท่าสยบกระบวนท่า เรียบง่ายสยบซับซ้อน และไร้กระบี่สยบกระบี่ แต่มารกระบี่ก็ยังติดกับดักสุดท้ายคือตัวตนของผู้ฝึกวิทยายุทธ์ คือติดกับการแสวงหาความพ่ายแพ้อยู่ ขณะที่เจี๊ยะพั่วเทียนในตอนที่ปะทะกับสองเจ้าเกาะกลับไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเองหรือคู่ต่อสู้หรือแม้แต่สภาพแวดล้อมใด ๆ เพียงนึกถึงวิทยายุทธ์ที่เรียนร่ำเรียนมาเท่านั้น และในตอนที่ช่วยอาซิ่วจากการกระโดดทะเลฆ่าตัวตาย เจี๊ยะพั่วเทียนอยู่ในเรือห่างจากตัวอาซิ่วหลายร้อยก้าว กลับคว้าแผ่นไม้หนึ่งแผ่นขว้างลงทะเลแล้วกระโดดจากเรือลงสู่แผ่นไม้แล้วลอยไปรับตัวอาซิ่วมาหน้าตาเฉย นอกจากจะเป็นฉากที่แสดงถึงตัวเบาที่เทพที่สุดเมื่อเทียบกับฉากทุกฉากในนิยายทุกเรื่องของกิมย้งแล้ว กิมย้งยังบรรยายว่าในตอนนี้เจี๊ยะพั่วเทียนบรรลุถึงขั้น "ใช้กำลังภายในได้โดยไม่ต้องสะสมกำลังภายใน ใช้วิทยายุทธ์ได้โดยไม่ต้องคิดทบทวนท่าวิทยายุทธ์" นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่าเจี๊ยะพั่วเทียนบรรลุวิทยายุทธ์ถึงขั้น "ไร้ตัวตน" ซึ่งน่าจะเป็นความสำเร็จเชิงนามธรรมที่สูงที่สุดในจักรวาลของกิมย้งแล้ว ในตอนที่เจี๊ยะพั่วเทียนเอาชนะสองเจ้าเกาะได้ หนึ่งในสองเจ้าเกาะบอกว่า "ตัวท่านขณะนี้มิใช่เพียงแค่มีฝีมืออันดับหนึ่งในแผ่นดิน แต่เกรงว่าตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันคงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเทียบเคียงท่านได้" นั่นคือการบอกใบ้ในตัวของกิมย้งแล้วครับว่าเจี๊ยะพั่วเทียนคือตัวละครที่เก่งที่สุดในจักรวาลของเขา และหากจะมีใครในจักรวาลกิมย้งที่เหนือกว่าเจี๊ยะพั่วเทียน ก็น่าจะมีเพียงคนเดียวก็คือ อาแช จากเรื่องกระบี่นางพญา ครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 18:29:08 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 18:25:13 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 55 18:20:37 จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 18:17:52

ความคิดเห็นที่ 47 จะว่าไป มังกรทลายฟ้านี่  ทำลายตรรกที่ว่า วรยุทธ์ในยุคหลังยิ่งเสื่อมถอยอ่อนด้อยลงเรื่อยๆไปเลยแฮะ   เอิ่ม ผมเรียงไทม์ไลน์ถูกหรือเปล่า -_- จากคุณ : achez เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 18:41:25

ความคิดเห็นที่ 48 ถูกแล้วครับ ไทม์ไลน์ตามนิยายกิมย้งเรียงแบบนี้ครับ กระบี่นางพญา - ยุคชุนชิว แปดเทพ - ยุคซ้องเหนือ มังกรหยก - ยุคปลายซ้องใต้ มังกรหยกภาคสอง - ยุคปลายซ้องใต้ ดาบมังกรหยก - ยุคหยวน กระบี่เย้ย, มังกรทลายฟ้า, กระบี่ใจพิสุทธิ์ - ยุคหมิง แต่ไม่ได้ระบุว่าเรื่องไหนเกิดก่อนเกิดหลัง เพ็กฮ่วยเกี่ยม - ยุคปลายหมิง อุ้ยเสี่ยวป้อ - ยุคต้นชิง ตำนานอักษรกระบี่ (จอมใจจอมยุทธ์) - ยุคกลางชิง จิ้งจอกอหังการ - ยุคกลางชิง จิ้งจอกภูเขาหิมะ - ยุคกลางชิง ยังมีเรื่องสั้นคือ ดาบอวงเอียตอ อยู่ในช่วงยุคชิงแต่ไม่ระบุเวลาชัดเจน และเรื่องเทพธิดาม้าขาวที่ไม่ระบุเวลาเช่นกัน แต่คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงยุคชิง จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 19:02:32

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นที่ 48 นี่แฟนพันธุ์แท้จริงๆ นับถือๆ จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 22:22:40

ความคิดเห็นที่ 50 แต่น่าแปลกที่เรื่อง กระบี่นางพญา มังกรทลายฟ้า กระบี่ใจพิสุทธิ์ เพ็กฮ่วยเกี่ยม จอมใจจอมยุทธ์ ไม่ค่อยมีใครเอามาทำเป็นหนังจีนชุดเลย โดยเฉพาะกระบี่นางพญา กับ กระบี่ใจพิสุทธิ์ ผมไม่เคยเห็นหนังเลย ท่านใดพอทราบข้อมูลว่ามีหนังเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้บ้างมั้ยครับ อยากดูมากครับ ปล. ท่านใดทราบบ้างมั้ยครับว่าใครแต่งเรื่องฤทธิ์หมัดสะท้านบู๊ลิ้มเห็นว่าเกี่ยวกับเตียซัมฮงเหมือนกัน จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 22:31:21

ความคิดเห็นที่ 51 ข้าน้อยมาช้าไปมีผู้บันทึกตำราจอมยุทธ์ไว้มากมายถึงเพียงนี้ คงไม่ต้องเอ่ยคำใด แต่คงสรุปได้ง่ายๆ เพียงว่า ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าจอมยุทธ์ท่านใดเก่งที่สุดเพราะ ความเก่งกาจในแต่ละยุคและความกดดันไม่เท่ากัน บางยุคก็ต้องรบกับมองโกเป็นหลัก บางยุคก็ฝึกวิชากันกระจุยกระจาย ในบางครั้งก็ตีกันเองตายหองไปหลาย ต่างกันที่แรงผลักดันและโชคครับ พวกโชคดีก็จะมีเช่น เอี้ยก้วย ที่เป็นอัฉริยะและโชคดีมากๆ ในหลายๆ ครั้ง หรือ องค์ชายด้วน ที่ได้วิชามาแบบฟลุ๊คๆ อะไรประมาณนี้ ส่วนพวกโชคร้ายก็เช่น พี่เล้งหูชง ที่ซวยตลอดศก จนกระทั่งมาเจอธิดามาร นี่คือด้านวรยุทธ์ในสายตอข้าน้อยนะขอรับ ถ้าท่านใดเห็นต่างหรือมีอะไรผิดพลาดข้าน้อยต้องขออภัย สุดท้ายถ้าถามผมว่าจอมยุทธ์ท่านใดเก่งที่สุด ขอแอบอัญเชิญ มีดบินลี้น้อย จาก นวนิยายของโกวเล้ง มาหน่อยนะครับ เพราะสุดท้าย นอกจากผู้อ่าน ไม่เคยมีผู้ใดรอดมาบอกเล่าเรื่องราวการใช้มีดได้เลย(ล้อเล่นนะครับ) -/\ - ข้อน้อยขอลา จากคุณ : ptoryuwa เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 55 23:45:42

ความคิดเห็นที่ 52 คห.50 จริง ๆ แล้วเรื่องกระบี่นางพญา เป็นนิยายขนาดสั้นที่สุดของกิมย้ง อาจเรียกว่าเป็นเรื่องสั้นก็ยังได้เลยมั้ง เนื้อหาคงไม่เพียงพอจะทำหนังชุด แต่ถ้าทำเป็นหนังก็น่าจะได้แต่ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน เรื่องกระบี่ใจพิสุทธิ์ก็ยังไม่เคยเห็นเป็นหนัง แต่เรื่องเพ็กฮ่วยเกี่ยมเคยมีหนังชุดมาลงช่อง 3 เมื่อไม่กี่ปีที่แล้วใช้ชื่อ "แค้นกระบี่โค่นบัลลังค์" กับเรื่องจอมใจจอมยุทธ์ก็เคยเอามาลงแล้วเหมือนกันในชื่อ "ตำนานอักษรกระบี่" แต่เนื่องจากสองเรื่องนี้ได้ลงรอบหลังเที่ยงคืนในวันธรรมดา ผมก็เลยไม่มีโอกาสได้ดูน่ะ จากคุณ : มดคันไฟไร้ระเบียบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 00:13:31

ความคิดเห็นที่ 53 LIN SHING KUET - มังกรสะท้านบู๊ลิ้ม (กระบี่ใจพิสุทธิ์) เวอร์ชั่น TVB จากคุณ : คุณคือ..ตัวจริง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 06:29:34

ความคิดเห็นที่ 54 เพ็กฮ่วยเกี่ยม มีหลายเวอร์ชั่นมากๆ นะครับ เฉพาะของ tvb มี 2 ไม่รวมตอนแยกชื่อ กระบี่ทองคำสะท้านภพ (จอมยุทธกระบี่งูทอง) ปล. ใช้ชื่อกระบี่เลือดสะท้านบู้ลิ้ม นะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 55 06:37:18 จากคุณ : คุณคือ..ตัวจริง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 06:35:18

ความคิดเห็นที่ 55 มังกรทลายฟ้า - เห็นแต่เวอร์ชั่นเหลียงเฉาเหว่ยอะครับ จอมใจจอมยุทธ์ - มีเยอะนะ ไม่น่าต่ำกว่า 6-7 เวอร์ชั่น สร้างกันแทบจะทุก 5 ปีมั้งครับ จากคุณ : คุณคือ..ตัวจริง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 06:42:06

ความคิดเห็นที่ 56 รู้แล้วล่ะว่าทำไมผมไม่เคยเห็น เพราะชื่อหนังพอเอามาแปลเป็นไทยดันมีหลายชื่อเกินจนไม่รู้ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ใช้ชื่อที่ทุกคนรู้กันทั่วไป ไม่เหมือนเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า หรือมังกรหยก ไม่เห็นมีการใช้ชื่อหลากหลาย เวลาสร้างหนังก็เลยจำชื่อได้ทันที ขอบคุณจอมยุทธทุกท่านมากครับ จากคุณ : vampirano เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:28:51