ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มด้วย อันดับ 10 ที่ถือว่าหล่นลงมาแรงเหลือเกิน กับหนังรักภาคต่อ ขวัญใจแฟนๆ Yes or No 2 รักไม่รัก...อย่ากั๊กเลย ที่ดูท่าแล้ว จะต้านทานการดูดโรงจากหนังใหม่ฟอร์มดีไม่ไหวจริงๆ เลยถึงกับรูดลงมาแบบน่าสงสารเช่นนี้ ทั้งอันดับและรายได้ เพราะสัปดาห์นี้ สองสาวหมดแรงรักไปถึง 75%!! เหลือเพียง 5 แสนบาท สู้เพื่อรักมาสี่สัปดาห์ เก็บเงินกันไปแล้ว 24 ล้านบาท รายได้ที่หดหาย ก็คงทำให้อันดับของหนังในกลุ่มต่างๆ ขยับไปไหนไม่ได้ไกลแล้วล่ะ (อย่างที่บอกไปสัปดาห์ก่อนว่า หนังเพิ่งจะขึ้นมาอยู่ในอันดับ 8 ของหนังไทยทำเงินปีนี้ได้ ซึ่งก็คงเป็นอันดับสูงสุดแล้วล่ะ เพราะอันดับเหนือขึ้นไปอย่าง อันธพาล ทำหน้าโหด ขวางทางไว้ที่ 28 ล้านบาท เลยทีเดียว!) รวมไปถึงในกลุ่มหนังรัก ที่ตามหลัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ถึง 40 กว่าล้าน!!) แม้อาจจะไม่ใช่ที่ทำให้ค่ายฮาเฮได้เต็มที่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังมาได้ค่อนข้างไกลแล้วทีเดียว เมื่อดูสภาพหนังไทยมากมายในปีนี้ที่เรียกได้ว่า “ตายเกลื่อน” ไปหมด (ยิ่งค่ายใหญ่ๆ ยิ่งหนักใจกว่า) เอาเป็นว่าถ้าแฟนๆ หนังยังคงมีรักตั้งมั่น(และเหนียวแน่น)ให้แก่คิมและพายแบบนี้ คาดว่า ตำนานรักบทที่ 3 คงไม่นานเกินรอหรอกครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:49:28

ความคิดเห็นที่ 2 เปิดตัวเข้ามาใน อันดับ 9 กับหนังเกาหลี ที่นานๆ ทีจะมาให้เห็นใน Top 10 อย่าง R2B: Return to Base หนังแอ็กชั่นรีเมค ที่ได้นักร้องหนุ่มโกอินเตอร์อย่างหนุ่ม เรน กลับมาขึ้นจอใหญ่ครั้งแรกในรอบ 3 ปี (เป็นเรื่องแรก นับจากไปเข้าเกณฑ์ทหาร) ที่ครั้งนี้ หนุ่มเรนจะได้สวมมาดนักบินรบ ที่เข้ามาอยู่ในภารกิจหยุดฝ่ายตรงกันข้าม ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นำไปสู่โศกนาฏกรรมขึ้น แม้ตัวหนังจะจัดเต็มด้วยเทคนิคพิเศษของฝูงบินกลางเมือง แต่เอาไปเอามา ตัวหนังกลับทำเงินได้หงอยเหงาผิดคาดในบ้านเกิด (สงสัยจะโดนกระแส The Thieves ของยัยตัวร้ายจีฮุนกลบไปหมด!) ยิ่งกระแสหนังเกาหลีแผ่วๆ ในบ้านเราแบบนี้ด้วยแล้ว ก็เลยยิ่งลำบากใหญ่! สุดท้าย หนังก็เปิดตัวไปที่ 6 แสนบาท ถ้าพูดถึงเฉพาะตัวเลขเฉยๆ ก็ถือว่าธรรมดา ค่อนข้างปกติสำหรับหนังเกาหลี แต่ถ้าพูดถึงรายได้เฉลี่ยต่อโรงของหนัง ที่ได้โรงไปเกือบๆ 20 โรงฉาย ก็ถือว่าอาการแย่หน่อย (เฉลี่ยอยู่ที่ 3 หมื่นบาท) ก็ต้องยอมรับว่า หนังแอ็กชั่นจากฝั่งเอเชียในช่วงหลายปีมานี้ ถือว่าได้รับความสนใจค่อนข้างน้อย แต่บางเรื่อง ก็ยังหาจุดสนใจให้ตัวเองได้ อย่าง The Raid: Redemption ที่เรียกได้ว่า คำชมเต็มปรี่จากทุกสารทิศ ก็สามารถเปิดตัวไปค่อนข้างดี ที่ 2 แสนบาท จาก 3 โรงฉาย โดยหนังเกาหลีเรื่องก่อนหน้า คงต้องย้อนกลับไปร่วมสองเดือนก่อน กับหนังสงคราม My Way ที่เข้าฉายโรงเดียว แต่คนดูก็ค่อนข้างเงียบเหงา เปิดตัวไปเพียง 3 หมื่นบาท หรือที่ได้โรงเยอะขึ้นมาอีกหน่อยก็คงจะเป็นหนังรัก Architecture 101 ที่ได้โรงน้อยกว่านิดหน่อย แต่เฉลี่ยต่อโรงน้อยกว่าพอสมควร เลยเปิดตัวไปที่ 4 แสนบาท มาดูในส่วนเครดิตหนังของหนุ่มเรนกันบ้าง แสดงหนังโรงไปแล้วสี่เรื่อง เป็นหนังเกาหลี 2 ฮอลลิวู้ด 2 และทุกเรื่อง ได้เข้าฉายในบ้านเราหมดเลย สองเรื่องก่อนหน้าคือหนังโกอินเตอร์ อย่าง Ninja Assassin และ Speed Racer ที่ได้สองพี่น้อง วาโชสกี้ ช่วยดัน แต่ผลการตอบรับออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังทั้งคู่ ส่วนในบ้านเรา เรื่องหลังเหมือนจะทำได้ดี แต่มาคอหักในสัปดาห์ถัดมาแทน (เปิดตัวไป 7.7 และ 18.3 ล้านบาท ตามลำดับ) ส่วนหนังเรื่องแรกอย่าง I'm a Cyborg, but It's OK ในฐานะหนังเกาหลีเรื่องก่อนหน้าของเขา ที่แม้จะดูมึนๆ แต่ก็เรียกแฟนๆ เข้าโรงได้พอสมควร ที่ 1.3 ล้านบาท นานๆ ทีจะมีหนังเกาหลีขายเอฟเฟ็คแบบนี้มาเข้าโรงในบ้านเราซักที แต่ในเมื่อค่ายหนังเห็นรายได้แบบนี้แล้ว ไม่รู้เรื่องหน้าจะอีกนานแค่ไหนนี่สิ?? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:49:48

ความคิดเห็นที่ 3 แม้จะถูกไล่ล่า แต่ก็ไม่ยอมหนีไปไหน ยังคงอยู่ใน อันดับ 8 เช่นเก่า (ช่างกล้า!) กับสุดยอดสายลับน้องใหม่ พันธุ์อึด The Bourne Legacy ไม่รู้ว่าเพราะช่วงนี้ขาดหนังแอ็กชั่นใหม่ๆ ฟอร์มดีๆ เข้ามาเสริมในโปรแกรมหรือเปล่า หนังก็เลยได้อานิสงค์ “ยืดอายุ” ต่อไปได้อีกหนึ่งสัปดาห์แบบเกินคาด เพราะสัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปไม่ถึงครึ่ง! เก็บไปอีก 6 แสนบาท ต่ออายุด้วยยามาห้าสัปดาห์ เก็บเงินไปได้แล้ว 41 แสนบาท (อ่าว! รายได้ในเอนเตอร์เทนเท่าเดิมจากสัปดาห์ก่อนซะงั้น!) แต่ถึงแม้ว่าตัวเลขจะไม่มีความผิดพลาด ก็คงไม่น่าไปไกลกว่านี่มากนัก เอาเป็นว่าอย่างน้อยในกลุ่มหนังทำเงินสูงสุดประจำปีนี้ แม้ยอดสายลับของเราจะยังพอเหลือหนังในระดับเดียวกันให้พอได้ประมืออยู่บ้าง แต่ดูจากแรงที่เหลือแล้ว คงทำให้ I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน แค่พอลุ้นเสียวไส้เท่านั้น! (เพราะเรื่องหลังปิดไปที่ 43 ล้านบาท ในอันดับ 19 คงได้แต่ภาวนาแฟนๆ ให้เข้าโรงกันแล้วล่ะ!) ซึ่งก็คงเป็นงานยากที่จะแซงแล้วล่ะ ในเมื่อสัปดาห์หน้า ยักษ์ใหญ่ของเรากำลังรอถล่มโรงอย่างเต็มที่ สายลับพันธุ์อึดก็เถอะ! เข้ามาแรมเดือนแล้ว....จะรอดไปได้ยังไง! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:50:22

ความคิดเห็นที่ 4 อีกหนึ่งหนังใหม่ ที่ตีฝ่าวงล้อมเข้ามาใน อันดับ 7 ก็ยังคงเป็นหนังเอเชียอีกเช่นกัน กับหนังจีนฟอร์มอลังภาคต่อ Painted Skin: The Resurrection หนังซึ่งดัดแปลงจากนิยายดัง ที่ได้ขึ้นจอเล็กจอใหญ่มานับสิบครั้ง ที่บ้านเราคุ้นชื่อกันดี อย่าง “โปเยโปโลเย” กับเรื่องราวความรักของปีศาจสาวและหนุ่มซึ่งเป็นมนุษย์ หลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จในระดับสถิติของหนังจีนในตอนนั้น สี่ปีถัดมา ก็ได้ฤกษ์ที่โปเยเวอร์ชั่นนี้ จะกลับมาสานต่อความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยทีมนักแสดงหลักแทบจะยกชุดจากภาคก่อน (ยกเว้นป๋างานชุก ดอนนี่ เยน และผู้กำกับ ที่เปลี่ยนมือจาก กอร์ดอน ชาน เป็น เวียร์ฉาน) แถมกลับมาครั้งนี้ ยังฮ็อตไม่แพ้ภาคเก่า ด้วยการถล่มสถิติ เป็นหนังจีนทำเงินสูงสุดในบ้านเกิดไปแล้วด้วย! งานนี้ ค่ายหนังในไทยก็รีบสวมบทปืนไว คว้ามาเข้าฉายอย่างเร็วไว แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ต่อให้ฮิตถล่มในบ้านเกิดแค่ไหน กระแสหนังเอเชียในบ้านเราตอนนี้ก็ยังคงหงอยๆ ไม่เปลี่ยน สัปดาห์แรก หนังจึงเปิดตัวไปที่ 1.1 ล้านบาท ถ้าดูจากตัวเลข ก็ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร ตามสไตล์หนังเอเชียช่วงหลังๆ แต่ถ้าลองไปดูจำนวนโรง กลับพบว่า รายได้เฉลี่ยถือว่าไม่เลวทีเดียว (เข้าฉาย 13 โรง รายได้เฉลี่ยเกือบแสน!) แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ รายได้ระดับล้านนิดๆ ของหนัง กลับเพิ่งจะเป็นหนังเอเชียเรื่องที่ 2 ของปีนี้ในบ้านเรา ที่เปิดตัวได้เกินหลักล้าน!!! (และถือว่า “มาช้า” มากทีเดียว เพราะเรื่องก่อนหน้าอย่าง Flying Swords of Dragon Gate ที่ผนึกกำลังกันระหว่างผู้กำกับฉีเคอะ และเฮียเจ็ต ลี ในระบบสามมิติอีก ทำเอาไว้ได้ดีที่สุด ณ ขณะนี้ที่รายได้เปิดตัว 3.2 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปีใหม่โน่นแล้ว!!!) ก็เลยกลายเป็นว่า แทบไม่มีคู่แข่งในกลุ่มนี้กันเลยทีเดียว ซึ่งหากดูจริงๆ หนังแนวย้อนยุคฟอร์มใหญ่ของเอเชียในปีนี้ ก็ถือว่ามาเข้าฉายไม่น้อยอยู่ นอกจาก Flying Swords of Dragon Gate อย่างที่บอกไปในฐานะหนังเปิดปี เรื่องก่อนหน้าโปเยก็คือ Legendary Amazons หรือขุนศึกตระกูลหยาง ที่นำทัพโดยสาวจางป๋อจือ ที่ได้โรงฉายไปพอๆ กัน (12 โรง) แต่ดับเครื่องชนป๋าแบท ก็เลยเปิดตังหงอยๆ ไปเพียง 3 แสนบาท หรือถัดไปอีกอย่าง Mural ที่ผู้กำกับภาคก่อนอย่างกอร์ดอน ชาน หนีมากำกับเรื่องนี้แทน ที่แย่หน่อยตรงที่ได้โรงไปไม่ถึงสิบ (8 โรง) เลยโดนชายชุดดำบี้ซะเกือบคาดินไปที่ 1 แสนบาท ฟากเครดิตนักแสดง ผมขอยกเฉพาะ “องค์หญิงกำมะลอ” หรือสาวจ้าวเหว่ยมาคนเดียวก็แล้วกันนะครับ ก็ถือว่าเป็นดาราสาวที่ค่อนข้างมีงานเข้ามาฉายในบ้านเราได้เรื่อยๆ แถมทุกเรื่องก็เป็นหนังฟอร์มใหญ่ทั้งนั้น! เรื่องก่อนหน้า คงต้องต้องย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน กับ 14 Blades ที่ได้กลับมาร่วมงานกับเฮียดอนนี่ เยน อีกรอบ แม้จะได้โรงฉายมากกว่า 2 เท่า (26 โรง) แต่กลับเปิดตัวไปน้อยกว่านิดนึง ที่ 1 ล้านบาทพอดี หรือถัดไปอีกหน่อย ก็คือตำนานวีรสตรีที่บ้านเราคุ้นชื่อกันดี อย่าง Mulan ที่คราวนั้นกลับมาในรูปแบบคนแสดง เนื้อหาจริงจัง แต่ไม่รู้ว่าคนดูบ้านเรายังติดภาพเวอร์ชั่นการ์ตูนอยู่หรือเปล่า ก็เลยเปิดตัวได้ไม่ไกลเท่าที่ควร ที่ 2.52 ล้านบาท (ด้วยโรงฉายที่มากกว่าเกิน 3 เท่าตัว!) รวมไปถึงผลางานสุดอลังการ อย่างศึกผาแดง Red Cliff หรือสามก๊กฉบับจอห์น วู ที่รวมนักแสดงชื่อดังไว้คับคั่งแทบล้นจอ เลยเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ทำให้หนังเปิดตัวสูงที่สุดในเครดิตของสาวจ้าวเหว่ย และในกลุ่มหนังเอเชีย ในรอบหลายปีอีกด้วย! (เปิดตัวที่ 13.7 และ 17.9 ล้านบาท ตามลำดับภาค) ส่วน Painted Skin หรือโปเยภาคแรกนั้น ก็ถือว่าเปิดตัวค่อนข้างวงกว้างอยู่ (44 โรง) ถึงขั้นท้าชนป๋าบอนด์(สัปดาห์สอง)ที่รายได้เปิดตัว 2.8 ล้านบาท แม้ตัวหนังจะทำได้ค่อนข้างดีกว่าเรื่องอื่นๆ แต่เมื่อสถิติมันฟ้องถึงความซบเซาของหนังเอเชียในบ้านเราปีนี้ ก็แอบที่จะอดใจหายไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงสิ้นปี ตอนเฮียเฉินหลง กลับมาบู๊กู้ชีพให้หนังเอเชียรึเปล่านี่สิ?? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:50:45

ความคิดเห็นที่ 5 ยังคงไหลลงมาเรื่อยๆ มาอยู่ใน อันดับ 6 กับหนังไทย ท่องทิเบต ชัมบาลา แม้ว่าจะไม่ต้องได้ชนกับเรื่องไหนตรงๆ แต่ดูเหมือนว่าตัวหนังจะโดนเรื่องอื่นๆ แย่งความสนใจไปมากขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาสัปดาห์นี้ หนังถึงกับร่วงลงไปกว่า 70%!! เหลืออยู่ที่ 1.1 ล้านบาท ตามศรัทธากันมาสามสัปดาห์ เรี่ยไรเงินเดินทางได้แล้ว 17.5 ล้านบาท ถือว่าแรงตกลงมามากทีเดียว ทั้งๆ ที่สัปดาห์นี้ก็ออกจะหงอยๆ ด้วยซ้ำไป ซึ่งนั่น ก็ส่งผลให้โอกาสที่หนังจะเข้าสู่ Top 10 ในกลุ่มหนังไทยปีนี้ หืดจับขึ้นมาทันที (เพราะล่าสุด หนังเพิ่งกระเถิบมาอยู่ในอันดับที่ 12 ตามหลัง เอคโค่ จิ๋วก้องโลก ที่ 18 ล้านบาท โดยมี ปัญญา เรณู 2 ห้อยอยู่ท้าย Top 10 ปิดห่างไม่มาก แต่อาจดับฝันได้อยู่ ที่ 19 ล้านบาท) รวมไปถึงการผ่านหลัก 20 ล้าน ที่ถ้าหากหนังไม่โดนน็อกคาโรงไปซะก่อน ก็น่าจะได้มีโอกาสเห็นอยู่ล่ะนะ (แต่ก็เป็นไปได้ยากจริงๆ!) ส่วนในกลุ่มหนังโร้ดมูฟวี่ของไทย หนังก็ไปได้ไม่ไกลกว่าเรื่องอื่นๆ ซักเท่าไหร่ แม้ล่าสุดจะสามารถแซงหน้า แก๊งค์ตะลุยเวียดนาม เราสองสามคน ที่รายได้ร่วงลงพอๆ กัน เลยปิดไปน้อยกว่า ที่ 16.5 ล้านบาท แต่ยังคงตามหลังสองสาวในแดนยุโรป หนีตามกาลิเลโอ ที่รายได้เปิดตัวก็มากกว่าอยู่แล้ว เลยทิ้งไปค่อนข้างห่าง ที่ 29.7 ล้านบาท ในส่วนเครดิตของทั้งสองนักแสดงนำนั้น ก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สำหรับหนุ่มซันนี่ หนังก็ยังค้างเติ่งอยู่ในอันดับโหล่เช่นเดิม แต่หนุ่มอนันดานั้น ยังพอมีความเคลื่อนไหวบ้าง ล่าสุดสามารถแซง อันดากับฟ้าใส หนังเรื่องแรกของเขาที่ได้หม่อมน้อยกำกับขึ้นมาได้ โดยเรื่องหลังปิดไปที่ 17 ล้านบาท ก็น่าเสียดายเหมือนกันที่หนังได้ดาราค่อนข้างมีชื่อมาเรียกแขก แต่ด้วยแนวหนังที่ค่อนข้างเจาะกลุ่มคนดูยาก ก็เลยไปไหนได้ไม่ไกลนัก ยิ่งสัปดาห์หน้า ต้องผจญกับยักษ์ใหญ่กวาดโรงด้วยอีก ต่อให้ไปถึงทิเบตกันมาแล้ว งานนี้คงต้องยอมรับว่าทั้งสองหนุ่มคงได้ “หนาว” กว่านี้อีกเยอะ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:51:37

ความคิดเห็นที่ 6 เกินคาดนิดหน่อย เพราะยังอยู่ที่เก่า ใน อันดับ 5 ไม่ขยับตามเรื่องอื่นๆ กับหนังรักหลากเรื่องราว Virgin Am I รักแรกกระแทกจิ้น ที่แม้ว่าจะเปิดตัวได้อย่างเงียบเหงาแบบไม่ทันให้ได้จิ้น แต่ด้วยกระแสที่ออกมาค่อนข้างเป็นบวกเกินคาด แถมคู่แข่งในตอนนี้ก็แทบจะไม่มีมาชน ก็เลยช่วยให้หนัง ประคองตัวไปได้อีกเฮือก (เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ในตารางล่ะนะ) แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นโดดเด่นอะไร เพราะลดลงเกินครึ่งไปนิดหน่อย เก็บไปอีก 1.2 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ รักแรก กระแทกกระเป๋าตังค์คนดูไปแล้ว 4.9 ล้านบาท แม้จะทำเงินลดลงใช้ได้ เมื่อเทียบกับมาตรฐานหนังไทย แต่ถ้าดูในแง่ตัวเลข ก็คงเป็นจำนวนที่ค่ายอาจจะยิ้มไม่ออกกันซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะค่ายเอ็มในปีนี้ ที่ยังไม่มีหนังไทยทะลุหลัก 10 ล้านบาทเลยแม้แต่เรื่องเดียว (ปีนี้ ส่งเข้าโปรแกรมมาแล้วทั้งสิ้น 4 เรื่อง) เอาเป็นว่าอย่างน้อย เปอร์เซ็นต์ที่ลดลง ก็ยังอยู่ในระดับมาตรฐานของค่ายในปีนี้ก็แล้วกัน แม้เรื่องก่อนหน้า(ที่ย้อนกลับไปก่อนช่วงซัมเมอร์) อย่าง รัก 55 อย่างท้าก๋อย จะทำรายได้ลดลงผิดกับเรื่องอื่นๆ ไปซักหน่อย เพราะรูดลงไปถึง 80%!!! เก็บไปอีกแค่ 1 แสนบาทเท่านั้น แต่สองเรื่องก่อนหน้า กลับทำได้ไม่เลยทีเดียว (เฉพาะ % ล่ะนะ!) ทั้ง รักเอาอยู่ กับหนุ่มฟิล์มกลางน้ำท่วม แม้จะท้าชนกับบักจอนจนคอพับแทบโดนน้ำพัด แต่สัปดาห์ถัดมาก็เหมือนจะพอยืนต้านน้ำได้ เพราะทำเงินลดลงไปเฉียดครึ่ง (48%) แต่ก็เป็นตัวเลขที่ไม่ได้มากมายอะไร ที่ 1 ล้านบาท และ ไม่ได้ขอให้มารัก ที่ก็อารมณ์ไม่ต่างกัน เปิดตัวได้น้อยผิดคาด แต่กระแสที่มาดี ก็ช่วยให้รายได้ลดลงไปเกือบครึ่งเช่นกัน (48%) ด้วยตัวเลขพอๆ กัน ที่ 1.1ล้านบาท (ส่วนรายได้รวมสองสัปดาห์นั้น สองเรื่องหลังยังแซงหน้าอยู่ ที่ 5.2 และ 5.9 ล้านบาท ตามลำดับ!) ข้ามมาดูในกลุ่มหนังรัก และรอม-คอมกันซักนิด ก็ต้องยอมรับว่าหากไม่ได้มาจากค่ายใหญ่จริงๆ รายได้ออกมาแต่ละเรื่องต่างก็ไม่ประสบความสำเร็จกันทั้งสิ้น ใกล้เคียงที่สุดก็คงต้องย้อนกลับไปในช่วงซัมเมอร์ กับ ชอบกด Like ใช่กด Love ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าแม้จะได้หนุ่มมอสมาช่วยเรียกคนดูก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าไหร่ สัปดาห์ถัดมา แม้จะไม่มีหนังใหญ่มาชน ก็ยังร่วงลงไปถึง 62%! (เก็บเงินรวมไปเพียง 4 ล้านบาท) หรือหนังรักวัยรุ่นปีก่อน ที่ออกจะโปรโมตแรงๆ อย่าง รักจัดหนัก แม้กระแสช่วงแรกจะออกมาค่อนข้างดี ได้รับความสนใจจากคนดูไม่น้อย แต่เมื่อเข้าฉายมาซักพัก กลายเป็นว่ากระแสลบเยอะกว่า รายได้เลยรูดแบบไม่เกรงใจถึง 66%!!! (ยังดีที่ตุนไว้ตอนเปิดตัวพอประมาณ เลยเก็บเงินรวมไปได้แล้ว 7.5 ล้านบาท) ฝั่งเครดิตของนักแสดง ที่ยกมาเฉพาะของคุณแม่ยังสาว นิโคล เทริโอ เมื่อสัปดาห์ก่อน แม้ในเครดิตของเธอจะเพิ่งผ่านหนังจอใหญ่มาเพียงสามเรื่อง แต่หนังเรื่องล่าสุด กลับยังไม่สามารถหลุดจากอันดับบ๊วยขึ้นมาได้เสียที! เพราะหนังเรื่องแรกของคุณแม่นิโคล อย่าง คืนไร้เงา แม้จะปิดเอาไว้ไม่เยอะ แต่ไม่รู้ว่าแก๊งค์จิ้นของเรา จะไล่ตามขึ้นมาทันหรือเปล่า เพราะยังห่างอยู่ล้านหน่อยๆ ที่ 6 ล้านบาท (ส่วนแชมป์ของเธอก็คงไม่ต้องไปยุ่งด้วยแล้วล่ะ ในเมื่อ ห้าแพร่ง เขาเล่นยึดหัวตารางด้วยระดับร้อยล้านเลยนี่นา!) ถึงแม้จะได้รับเสียงเชียร์มาพอสมควร ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว ในเมื่อยักษ์ใหญ่สัปดาห์หน้า ก็คงไม่ปราณีกับหนังเรื่องไหนๆ เป็นแน่แท้! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:52:09

ความคิดเห็นที่ 7 อีกหนึ่งเรื่อง ที่ก็ไม่ได้ร่วงอะไรมากมาย ตกจาก Top 3 มาอยู่ใน อันดับ 4 กับหนังภาคต่อรวมพล คน(แก่)พันธุ์บู๊ The Expendables 2 ที่ตอนนี้ ยังคงนอนนับเงินเล่นสบายๆ ในฐานะหนังแอ็กชั่นฟอร์มโตเรื่องเด่นในโปรแกรม โดยไม่มีคู่แข่งมาตอแย แถมแฟนๆ ยังคงเข้าโรงกันมาอุดหนุนเรื่อยๆ อีกด้วย ดูได้จากสัปดาห์นี้ ที่หนังทำเงินลดลงไปไม่ถึงครึ่ง! เก็บไปอีก 2.7 ล้านบาท รวมขาโหดมาสี่สัปดาห์ ไล่ผู้ร้ายซะกระเจิงไปแล้ว 53 ล้านบาท เป็นรายได้สัปดาห์ที่ 4 ที่ค่อนข้างดูดีทีเดียว สำหรับหนังฟอร์มยักษ์ซักเรื่อง (ซึ่งมักจะโดนหนังยักษ์เรื่องอื่นๆ มาบี้เอาในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 ซะเกือบหมด แต่แก๊งค์เก๋าของเราไม่!) ซึ่งก็พลอยทำให้อันดับของหนัง ในกลุ่มรายได้สัปดาห์ที่ 4 สูงสุดประจำปี ขยับขึ้นมาอีกด้วย (มาอยู่ในอันดับ 6 ตามหลัง The Amazing Spider-Man ที่ 2.9 ล้านบาทแบบไม่ห่างนัก) ส่วนรายรับรวม ก็อย่างที่เกริ่นๆ ไปสัปดาห์ก่อน ในที่สุด หนังก็สามารถทะลุหลัก 50 ล้าน เป็นเรื่องที่ 16 ของปีนี้อย่างเป็นทางการได้เสียที! (แต่อันดับประจำปีตอนนี้ ก็ยังคงไม่ขยับไปไหน ยังคงอยู่ในอันดับ 16 เช่นเก่า ตามหลัง 50 ล้านเรื่องก่อนหน้า อย่าง Total Recall ที่ 56.7 ล้านบาท แบบให้ได้ลุ้นกันอีกเฮือก!) ซึ่งก็มีโอกาสสูง ที่อันดับที่หนังติดอยู่ในตอนนี้ จะเป็นอันดับที่สูงสุดที่หนังจะทำได้ในปีนี้แล้วล่ะมั้ง (จากแรงที่เหลืออยู่ และคู่แข่งที่กำลังแห่แหนกันมา!!) ในส่วนเครดิตของนักแสดงแต่ละคน แม้หนังจะทะลุหลัก 50 ล้านมาได้ ก็ใช่ว่าจะมีอะไรให้ตื่นเต้นไปซะทุกคน ดูมีอะไรให้พูดถึงหน่อย ก็คงเป็นป๋าสตอลโลน ที่ท้ายที่สุด หนังก็สามารถไต่ขึ้นเป็นหนังทำเงินสูงสุดของป๋าอย่างเป็นทางการได้เสียที!! หลังจากที่ปล่อยให้ Daylight ค้างเติ่งอยู่บนหิ้งมานานแสนนานถึง 16 ปี (แห่งความหลังงงงง!!) เพราะเป็นเรื่องเดียวของป๋าที่ปิดเอาไว้ในระดับ 50 ล้าน คือที่ 50.3 ล้านบาท ฝั่งป๋าบรูซ วิลลิส อันดับก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอะไร อยู่ในอันดับ 5 เช่นเก่า (เพราะถูกเด็กเห็นผี The Sixth Sense ขวางลำเอาไว้ที่ 58 ล้านบาทนี่นา คาดว่าคงผ่านไปไม่ได้ด้วยแล้วล่ะ!) เช่นกันกับป๋าอาร์โนลด์ คนเหล็ก ที่หนังขวางลำค่อนข้างทำไว้ไกล อันดับเลยขยับไปไหนไม่ได้ เรื่องที่ว่าก็คือหนัง Y2K End of Days ที่ทำเงินเอาไว้ค่อนข้างห่างไกล ที่ 62.3 ล้านบาท ก็ทำเอาหมดลุ้นไปอีกหนึ่งคน ฝั่งรุ่นละอ่อนอย่างเฮียเจสัน สเตแธม และเฮียเจ็ต ลี ที่รายแรก สมหวังได้หนังทำเงินสูงสุดเรื่องใหม่ไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนๆ แล้ว คนหลังก็พอมีลุ้นอยู่บ้าง หลังจากที่ก๊วนเก๋า ฝ่าด่านไซอิ๋วพิสดาร The Forbidden Kingdom ซึ่งปิดเอาไว้เฉียด 50 ล้าน ที่ 49.6 ล้านบาท ขึ้นมาได้ จึงเหลือเพียง Lethal Weapon 4 หรือหนังโกฮอลลิวู้ดเรื่องแรกของเฮียแก (55.5 ล้านบาท) ไว้ให้ได้ลุ้น แต่ไม่รู้ว่า ดูจากกำลังขาแล้ว จะสามรถผ่านไปได้(แบบเฉียดฉิว)หรือไม่ ในเมื่อก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้า ยักษ์จอมโหดของเราคงไม่ปราณีหน้าไหนแน่นอน แม้จะเป็น “คนชรา” ก็ตามที! (ทำไมเหมือนกับเห็นชัค นอริสเดินผ่านหน้าบ้านแฮะเรา??) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:52:36

ความคิดเห็นที่ 8 อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่กระเทือนมากนัก ตกจากรองแชมป์ มาอยู่ใน อันดับ 3 สำหรับผีฝรั่ง สั่นประสาท The Possession ที่นอกจากจะเดินหน้าเก็บเงินเกินคาดในบ้านเกิดแล้ว ในบ้านเราก็ใช่ย่อย ในเมื่อไร้คู่แข่งยักษ์ๆ และแนวเดียวก็ ก็เลยได้โอกาสกอบโกย เรียกคอหนังสยองขวัญมากันเต็มที่ซะเลย! ซึ่งก็ได้ผลดีนักแล เพราะหนังทำเงินลดลงไปเพียง 40%! เก็บไปอีก 3.1 ล้านบาท หลอกหลอนมาสองสัปดาห์ สูบเงินลงกล่องได้แล้ว 10.4 ล้านบาท ถือว่าไม่เลวทีเดียว นานๆ ทีจะมีหนังผีฝรั่งซักเรื่อง ที่ทำเงินลดลงน้อยๆ แบบนี้ ถ้าพูดถึงในกลุ่มหนังผีฝรั่ง ปีนี้อาจจะไม่มีให้เห็นแบบนี้ ก็คงต้องย้อนกลับไปไกลหน่อยเมื่อปีก่อน กับหนังผีขวัญใจหลายๆ คน อย่าง Insidious ที่สถานการณ์อาจจะโหดหินกว่าหน่อย เพราะอยู่ในช่วงร้อนระอุของซัมเมอร์ แต่ก็ยังหากลุ่มคนดูให้กับตัวเองได้ไม่น้อย ถึงจะทำเงินลดลงไปเกือบๆ ครึ่งก็เถอะ (47%) แต่ถ้าว่ากันถึงหนังผีทุกสัญชาติในปีนี้ เรื่องก่อนหน้าที่ลดลงไม่ถึงครึ่ง ก็คงจะเป็น I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ที่เป็นเปอร์เซ็นต์ อาจจะสู้ไม่ได้ (49%) แต่ถ้าเป็นตัวเลขรายได้ ถือว่าห่างกันไกลพอสมควร (สองสัปดาห์ ฟันไป 32 ล้านบาทแล้ว ห่างกัน 3 เท่า!!) ส่วนหนังที่เกี่ยวกับเด็กสาวถูกผีสิงที่พอจะทำให้นึกถึง อย่างเรียลลิตี้ฮิตเกินคาด(ในบ้านเกิด) The Last Exorcism ถือว่าทำตัวเลขได้ไม่ใกล้เคียงนัก(เพราะได้โรงฉายน้อยกว่ากันเยอะนี่นา!) ก็เก็บเงินจาก 7 โรงฉายไปแล้ว 1.6 ล้านบาท (แม้คำวิจารณ์จะเละเทะก็ตาม) หันมาดูบรรดาผีๆ จากบ้าน Ghost House ของเฮียไรมี่กันบ้าง จากทั้งสิ้น 8 เรื่องที่ได้เข้าฉายในบ้านเรา ผีกล่องของเรา ก็เพิ่งจะเป็นเรื่องที่ 3 เท่านั้นเองแหละ ที่สามารถทะลุหลัก 10 ล้านของบ้านนี้! ซึ่งอันดับในบ้าน ก็ไต่มาอยู่ที่ 3 เช่นเดียวกัน ตามหลังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Drag Me to Hell ซึ่งถือว่าเป็นตัวท็อปของบ้าน เพราะผ่านหลัก 10 ล้านไปตั้งแต่เปิดตัวแล้ว!! แถมคู่แข่ง(อย่างปู่ซ่าส์ บ้านลูกโป่ง!) ไม่โหดนัก รายได้เลยร่วงลงเกินครึ่งไปไม่มาก (55%) สองสัปดาห์ เลยเก็บสบายๆ ไปแล้ว 17.9 ล้านบาท มากกว่ารายได้ตลอดโปรแกรมของหนังรีเมคเรื่องดัง อย่างจูออนฝรั่ง The Grudge ที่สัปดาห์ที่สองรูดหนัก เลยปิดไปที่ 14.7 ล้านบาท กระแสค่อนข้างดี แถมหนังผีฟอร์มดีก็ไม่ค่อยมีมาเข้า ไม่รู้ว่าจะช่วยต่ออายุให้กับหนัง พอมีโรงไว้ยาไส้ในสัปดาห์หน้าได้หรือเปล่านี่สิ??? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:54:02

ความคิดเห็นที่ 9 เด่นดังได้แค่สัปดาห์เดียว ก็ต้องลงมาซ่าส์ใน อันดับ 2 ซะละ! สำหรับหมีแสบ แอบดังเกินตัว Ted ที่ตอนนี้ก็คงกลายเป็นขวัญใจตัวใหม่ของใครหลายๆ คนไปแล้วล่ะมั้ง แม้จะไม่ได้กลุ่มเป้าหมายวัยเด็กสดใส(ห่างไกลกับเจ้า Ted!) มาช่วยจุนเจือ แต่ด้วยกระแสบวกที่เหลือล้น พร้อมกับคู่แข่งหนังฮาที่แทบจะหายไปจากตลาด ทำให้สัปดาห์นี้ กัญชาของเจ้าหมีหมดไปเพียง 40% เท่านั้น! เก็บไปอีก 8.5 ล้านบาท เรียกเสียงฮามาสองสัปดาห์ พาคนดูมึนเมาไปแล้ว 32.5 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ถือว่าไม่เลวทีเดียว ไม่ว่าจะเทียบกับกลุ่มหนังตลกเรต R ด้วยกัน หรือกลุ่มไหนๆ แม้รายรับสัปดาห์ที่ 2 จะถือว่ามากอยู่ แต่ก็ไม่พอที่จะเข้า Top 10 ได้อยู่ดี (ทำได้ดีที่สุด ในอันดับที่ 20 โดยมีคู่แข่งที่ทำเงินสัปดาห์ที่ 2 เกิน 10 ล้านมากถึง 16 เรื่องเลยทีเดียว!!) แต่แหม! ลดลงน้อยขนาดนี้ ก็เรียกได้ว่า แทบไม่มีคู่แข่งในกลุ่มหนังตลกเรต R ด้วยกันในปีนี้แล้วล่ะ ทั้งเรื่องก่อนหน้า อย่าง The Dictator ที่กระแสนำร่องมาดี แต่คู่แข่ง(อย่างเฮียแบท)ค่อนข้างตึงมือ รายได้เลยฮวบมาแรงพอสมควร ที่ 60%!! (สองสัปดาห์ เลยเก็บไปเพียง 11 ล้านบาท) ผิดกับก๊วนคืนสู่เหย้า American Reunion ที่มาในช่วงเว้นว่างหนังยักษ์ ก็เลยทำเงินลดลงไปเกินคาด ที่ 40% เช่นกัน แต่รายได้เปิดตัวน้อยกว่าเยอะ เลยเก็บไปค่อนข้างห่าง ที่ 13.7 ล้านบาท หรือหนังคอมเมดี้ที่ทำรายได้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน อย่างแอนิเมชั่นยอดฮิตแห่งปี Madagascar 3: Europe's Most Wanted ที่สัปดาห์ก่อน เปิดตัวไปเท่ากัน แต่มาสัปดาห์นี้ เรื่องหนังทิ้งห่างด้วยการทำเงินลดลงเพียง 15%!!! แต่ด้วยความที่เป็นหนังเจาะกลุ่มเด็ก(+พี่หมีชิงเปิดตัวรอบพิเศษไปก่อน) รายได้รวมสองสัปดาห์เลยตามหลังพี่หมีไปนิดหน่อย ที่ 31 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า สัปดาห์หน้า ยังไงพี่หมีก็คงตามไม่ทันเป็นแน่แท้(อย่างน่าเสียดาย!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:54:37

ความคิดเห็นที่ 10 ในเมื่อไม่มีเรื่องไหนในกลุ่มของปีนี้สู้ได้แล้ว ก็หันมาดูในกลุ่มหนังตลก เรต R ตลอดกาลกันบ้างดีกว่า แม้ตัวเลขจะถือว่ากลางๆ ค่อนไปทางน้อย สำหรับหนังทั่วๆ ไป แต่สำหรับกลุ่มนี้ การที่พี่หมีทะลุหลัก 30 ล้านมาได้ กลายเป็นว่า เป็นหนังเรื่องที่ 6 ตลอดกาลของกลุ่มที่สามารถผ่านจุดนี้ขึ้นมาได้เสียที! ส่วนอันดับนั้น ถึงจะมาเป็นเรื่องที่ 6 แต่หนังกลับทะลุเข้าสู่ Top 5 แบบสบายๆ! ซึ่งก็อย่างที่เห็นว่า ช่องว่างระหว่างอันดับ 1 กับ อันดับ 5 นั้น ค่อนข้างแคบเสียเหลือเกิน (ไม่ถึง 10 ล้าน!) โดยล่าสุด พี่หมีของเรา ไต่ขึ้นมายังอันดับ 4 แซงหน้าหนังฮ็อต The Hangover Part II ที่ได้อานิสงค์แฟนๆ ภาคก่อน และฉากหลังในไทย ช่วยเก็บเงินไปที่ 30 ล้านบาท และอย่างน้อยที่สุด หนังก็น่าจะไต่ขึ้นไปได้ถึงอันดับ 2 ตลอดกาล โดยมีแชมป์อย่าง Scary Movie ภาคแรก เป็นก้างขวางคอ ให้หนังได้ลุ้นแตะ 40 ล้านไปด้วยในตัว! (ซึ่งก็มีโอกาส ถ้าซอมบี้อำนวยทางให้ล่ะนะ!) ฟากเครดิตของสองนักแสดงประกบพี่หมี เริ่มจากพระเอกหนุ่มวอห์ลเบิร์ก ที่ถือว่าเป็นหนังทำเงินสุงสุดในรอบหลายปีของเขาเลยก็ว่าได้ นอกจากจะแซงหน้าหนังเปิดปี อย่าง Contraband (7.7 ล้านบาท) เป็นหนังทำเงินสูงสุดของเขาในปีนี้ ยังเป็นหนังเรื่องที่ 3 ของเขาที่ทำเงินเกิน 30 ล้านในบ้านเราอีกด้วย! ส่วนอันดับในเครดิต ก็อยู่ที่ 3 เช่นกัน แซงหน้า หนังจากเกมดังอย่าง Max Payne ที่ปิดเอาไว้ไม่ค่อยสูงนัก ที่ 25.5 ล้านบาท แต่พี่หมียังคงตามหลัง พายุยักษ์ถล่มเรือ The Perfect Storm ที่มากวาดเงินในบ้านเราใช่เล่น ที่ 45.3 ล้านบาท อยู่ค่อนข้างไกล (และน่าจะหมดสิทธิ์แซงแล้วล่ะ) (โดยมี Planet of the Apes เป็นหนังเรื่องเดียวในเครดิต ที่ทำเงินระดับ 50 ล้าน แต่ก็ปริ่มๆ ที่ 52 ล้านบาท) ฝั่งสาวมิล่า คูนิส กันบ้าง อาจจะแตกต่างหน่อย ทั้งเรื่องก่อนหน้า อย่าง Friends with Benefits ประกบหนุ่ม จัสติน ทิมเบอร์เลค ก็ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม แต่เก็บเงินไปค่อนข้างดี ที่ 11 ล้านบาท หรือหนังแจ้งเกิด ส่งเธอชิงออสการ์ อย่าง Black Swan ก็เข้าฉายในฐานะหนังรางวัลจำกัดโรง โอกาสเก็บเงินแบบโหดๆ ในบ้านเกิดเลยไม่มี แต่อย่างน้อย ก็ถือว่าดีมากแล้วในกลุ่มจำกัดโรง ที่ 8.3 ล้านบาท และมีหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตก็คือ Max Payne หนังพี่หมีของเรา จึงขึ้นมาเป็นในเครดิตของเธอได้อย่างง่ายดาย ส่วนผู้กำกับแม็คฟาร์เลน ให้เสียง(กวนๆ)แก่พี่หมีด้วย อย่างที่บอกไป เคยแอบไปโผล่ในหนังคนแสดง อย่าง Tooth Fairy ของเฮีย เดอะ ร็อค แต่ก็อย่างว่า เข้าฉายน้อยโรง โอกาสเก็บเงินเลยน้อยตาม ทำไปได้จุ๋มจิ๋มเพียง 1.8 ล้านบาท เห็นรายได้แบบนี้แล้ว ถ้าเป็นช่วงอื่นก็คงต้องบอกว่า “ไม่เป็นไร กระแสดีอย่างนี้ ยังมีเวลาให้โกยอีกมาก” แต่ในเมื่อสัปดาห์หน้า หน้าต้องปะทะกับยักษ์เต็มๆ งานนี้ นอกจากจะได้แต่ห่วงแบบห่างๆ แฟนๆ ก็คงต้องสวดภาวนาให้พี่หมีกันอีก(เยอะ)หน่อยล่ะครับ เพราะไม่รู้ว่า จะเหลือโรงให้พี่หมีได้สบถโชว์อีกซักแค่ไหนเชียว!!?? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:55:33

ความคิดเห็นที่ 11 และแล้ว ก็ขึ้น อันดับ 1 ตามคาด สำหรับหนังไทย หน้าใหม่ ตัวเต็งแห่งปี จันดารา ปฐมบท ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของหม่อมน้อย ที่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่า “ซี้ดซ้าด” กว่าครั้งไหนๆ! เพราะนอกจากจะเกณฑ์ดาราน้อยใหญ่มากฝีมือมาร่วมจอกันจนแทบจะลืมชื่อ! ยังเป็นการจับวรรณกรรม ที่ถือได้ว่า “ฮือฮา” และ “อื้อฉาว” ทุกครั้งที่กลายเป็นหนัง กลับมาขึ้นจออีกครั้ง!! กับเรื่องราวดังโศกนาฏกรรมของหนุ่มจัน ท่ามกลางวังวนของกิเลส และกามารมณ์ ที่อาจจะแตกต่างจากครั้งอื่นๆ ตรงที่ตัวหนังถูกแบ่งเป็นหลายภาคหลายตอน แน่นอนว่าจับของที่หวังจะมาพร้อมเสียงฮือฮา(ไม่ว่าจะด้านไหน)แบบนี้ ทางค่ายก็คงจะหวังกับหนังไม่น้อยแน่นอน ยิ่งฉายภาคแรกเพื่อหยั่งเชิง(+เพื่อให้ได้ตังค์เพิ่มขึ้น!)แบบนี้ด้วยแล้ว ท้ายที่สุด หนังก็เปิดตัวไปที่ 14.5 ล้านบาท ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่มาก ไม่น้อยสำหรับหนังไทย(โดยเฉพาะเรตที่ค่อนข้างแรงอย่างนี้ด้วยแล้ว ก็ถือว่าโอเค) ถือเป็นรายได้เปิดตัวระดับมาตรฐานของหนังหม่อมน้อยช่วงหลังๆ เลยก็ว่าได้ ถ้าว่ากันในกลุ่มหนังไทยทั้งมวลปีนี้ หนังถือเป็นเรื่องที่ 9 แล้ว ที่สามารถเปิดตัวได้เกิน 10 ล้านบาท (ส่วนในด้านอันดับ อยู่ในอันดับที่ 6 ตามหลัง 407 เที่ยวบินผี อยู่นิดหน่อย ที่ 15 ล้านบาท) แต่ถ้าหันมาดูฝั่งค่ายใบโพธิ์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะกลายเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของค่ายไปในทันที! (แม้จะห่างอันดับ 2 อย่าง อันธพาล ไม่ระเบิดระเบ้อเท่าที่ควร ที่ 12.7 ล้านบาท) รวมไปถึง เป็นหนังเรื่องที่ 3 ของค่ายติดต่อกันแล้ว ที่เปิดตัวในระดับ 10 ล้าน (ถัดจาก คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ และ อันธพาล นั่นแหละ ซึ่งมันคงไม่น่าตื่นเต้นอะไร ถ้าค่ายใบโพธิ์ไม่มีหนังเปิดตัวต่ำกว่า 10 ล้าน 7 เรื่องติดต่อกัน ตั้งแต่ปลายปีก่อนโน่นแล้วแหละ!) ก็ยังถือว่าเป็นข่าวดีอยู่หน่อย แม้จะมาค่อนข้างช้า(และสำหรับหนังฟอร์มเต็ง)ก็ตาม จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:56:28

ความคิดเห็นที่ 12 หันมาดูในส่วนของเครดิตของผู้กำกับ และนักแสดงกันบ้าง เริ่มจากหม่อมน้อย เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สามแล้ว นับตั้งแต่ก่อนจะหายไปจากจอเงินร่วมทศวรรษ ถ้าเทียบกันเฉพาะ 3 เรื่องหลัง รายได้เปิดตัวก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันที่เดียว แม้ความแตกต่างจะมีค่อนข้างน้อย (หลักล้านหน่อยๆ) แต่ก็ยังดีที่แต่ละเรื่องก็ทำรายได้เปิดตัวเพิ่มขึ้นมาทุกปี เรื่องก่อนหน้าก็คืออีกหนึ่งหนังรวมดารา บรรยากาศย้อนยุค อย่าง อุโมงค์ผาเมือง ซึ่งดัดแปลงจากบทละครของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่แม้ว่าจะได้ดารามาช่วยขายมากมาย แต่รายได้ก็ขยับจากเรื่องก่อนไม่มากเท่าไหร่ ที่ 13.7 ล้านบาท ซึ่งเรื่องก่อนหน้าที่ว่าก็คือ ชั่วฟ้าดินสลาย ที่ได้กระแส “ฉากเปลือย” ของสาวพลอยมาเรียกกระแสไม่น้อย ส่วนตัวหนังก็ได้คำชมไปพอสมควร ก็เปิดตัวไปโอเคในระดับหนึ่ง ที่ 12.2 ล้านบาท น้อยที่สุดในสามเรื่อง ข้ามฟากมาดูฝั่งนักแสดงกันบ้าง ประเดิมด้วยหนุ่มหล่อมาริโอ้ ที่ยังคงงานชุกไม่เปลี่ยนแปลง เพราะปีนี้ มีหนังเข้าฉาย 3 เรื่องเข้าไปแล้ว แต่ก็เรียกได้ว่า ยังไม่มีเรื่องไหนที่ประสบความสำเร็จจริงจังเสียที! ทั้งเรื่องก่อนหน้า(ที่ย้อนกลับไปนานหน่อยถึงช่วงต้นปี) อย่าง รักสุดทีน ที่ได้หนึ่งในทีมพากย์ “พันธมิตร” มากำกับหนังเป็นครั้งแรก แต่ตัวหนังก็ดูไม่มีอะไรโดดเด่นเท่าไหร่(ในช่วงที่ตลาด “อ่วม” ไปด้วยหนังรอม-คอม) ก็เลยเปิดตัวไปเฉยๆ เพียง 5 ล้านบาท หรือถัดไปอีกกับดราม่าลูกผู้ชาย มรึง-กรู เพื่อนกันจนวันตาย(ผิดให้ผ่านเซ็นเซอร์ล่ะน้า!) ที่โดนเลื่อนฉายแล้วเลื่อนฉายอีกซะจนคนลืม เลยฉลองวันเด็กไปแบบหงอยๆ ที่ 3.5 ล้านบาท โดยหนุ่มโอ้มีหนังเปิดตัวระดับ 10 ล้านเรื่องก่อนหน้าก็คือ อุโมงค์ผาเมือง ที่พูดถึงไปข้างบน และมี สาระแนเห็นผี เป็นหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของเขา (และเป็นระดับ 20 ล้านเพียงเรื่องเดียวอีกด้วย) ที่ 21.5 ล้านบาท ฝั่งสาวตั๊ก บงกช ปีนี้ก็ถือว่างานชุกไม่แพ้คนข้างบน เพราะมีหนังเข้าฉายในปีนี้ 3 เรื่องไปแล้วเช่นกัน เรื่องก่อนหน้าก็คือหนังรวมดารา แต่ออกแนวเฮฮาในฐานะหนังภาคต่อของเจ๊พจน์ อย่าง ปล้นนะยะ 2 อั๊ยยยย่ะ ที่ไม่รู้ว่าเพราะห่างภาคก่อนนานเกินไปหรือเปล่า(น้า!!??) ก็เลยทำให้เปิดตัวไปค่อนข้างน้อย ที่ 7 ล้านบาท ถัดไปอีกก็คือหนังผีสามมิติเรื่องแรกของไทย อย่าง ตำนานรัก แม่นาค 3D ที่น่าจะได้ความเป็นสามมิติมาช่วย แต่ก็เปิดตัวค่อนข้างวงแคบ เลยเปิดตัวไปไม่มากมายอะไร ที่ 4.8 ล้านบาท ซึ่งถ้าจะย้อนกลับไปหาหนังเปิดตัวระดับ 10 ล้านเรื่องก่อนหน้าของเธอ ก็ต้องย้อนกลับไปไกลพอสมควรถึง 4 ปีก่อน! กับหนังที่ขายชื่อดาวตลกชื่อดังเต็มๆ อย่าง เทวดาท่าจะเท่ง? ที่เนื้อหาก็ไม่ค่อยจะมีอะไร แต่ได้อานิสงค์ชื่อคุณเท่ง ช่วยเปิดตัวไปพอสมควร ที่ 14.1 ล้านบาท ส่วนหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของเธอก็คงไม่มีเรื่องไหนสู้ ต้มยำกุ้ง ได้แล้วล่ะ ในฐานะหนังไทยทำเงินเปิดตัวสูงสุดมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเล่นถล่มโรงไปถึง 93.4 ล้านบาท เลยทีเดียว!! ส่วนสาวรฐา โพธิ์งาม หรือ ญา ญ่า ญิ๋งที่ทุกคนคุ้นเคย ก็เพิ่งมีจันดารา เป็นหนังโรงเรื่องแรกนี่แหละครับ! รายได้เปิดตัวของหนังถือว่าทำไปได้พอๆ กับเวอร์ชั่นเก่าของคุณนนทรี เมื่อ 11 ปีที่แล้ว (ทำไปเกือบๆ 15 ล้านบาท) แม้ดูจากปีที่ห่างกันร่วมทศวรรษแล้ว ก็คงถือว่าไม่ดีซักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในปีนั้น กระแสหนังไทยถือว่าบูมแบบสุดๆ เลยทีเดียว รวมไปถึงตัวหนังก็ค่อนข้างจำกัดกลุ่มคนดูด้วย อาจจะทำให้รายได้ ไปไหนไม่ไกลนัก เห็นแบบนี้แล้ว ก็กลายเป็นว่า หนังไทยก็ยังคงไม่หลุดพ้นช่วงซบเซาไปอยู่ดี ยิ่งสัปดาห์หน้า ต้องมาเจอกับหนังฮอลลิวู้ดฟอร์มเต็งด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าหนังไทยของเรา จะเอาตัวรอดไปได้รึเปล่านี่สิ!? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 10:57:33

ความคิดเห็นที่ 13 หนังไทยกระแสไม่เด่น แต่ยังพอดูดี ส่วนพี่หมีก็ยังคงแรงดีต่อเนื่อง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่สามารถช่วยพา Top 10 สัปดาห์นี้  ให้รอดพ้นจากความหงอยเหงาไปได้ รวมไปที่ 33.9 ล้านบาท น้อยกว่า Top 10 ของสัปดาห์ก่อน (36.5 ล้านบาท) ไป 12% แต่อุตส่าห์มากกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (31.8 ล้านบาท) ไปนิดหน่อย เพียง 5% ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ อุโมงค์ผาเมือง ของหม่อมน้อย ขึ้นครองบัลลังก์ในสัปดาห์นี้เช่นกัน ด้วยรายได้ที่ไม่หวือหวาเท่าที่คิดนัก ที่ 13.7 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:00:07

ความคิดเห็นที่ 14 สุดสัปดาห์หน้า ไม่ต้องลุ้นแชมป์กันให้เสียเวลา เพราะนอนมากันเห็นๆ! ที่เรียกได้ว่าเต็งแล้วเต็งอีกตั้งแต่ประกาศสร้าง ทำเอาหนังเก่าหนังใหม่ พากันร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆกัน! (อย่างน้อยก็ในบ้านเราล่ะนะ!) สำหรับหนังแอ็กชั่น-สยองขวัญภาคต่อสุดฮ็อต ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าดัดแปลงมาจากเกมดัง(แต่เนื้อหาชักจะออกทะเลไปไกล!) แถมยังดำเนินมาถึงภาคที่ 5 แล้ว ก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมาก โดยยังคงกลับมากับดาราสาวนักบู๊คนเดิม ที่พร้อมจะสาดกระสุนใส่เหล่าซอมบี้ และองค์กรนรก ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดอีกคำรบ ในแบบทะลุจออีกครั้ง! (ส่วนเนื้อเรื่องน่ะเหรอ เอ่อ.....ดูๆ เอามันส์ไปเถอะ!) ใน ”Resident Evil: Retribution” ตามมาลิบๆ กับหนังผีจากค่ายอิสระ ที่มาแหวกพร้อมกับ 9 เรื่องสั้น จาก 12 ผู้กำกับ (อุ๊แม่เจ้า!) กับเรื่องราวของ 9 คน 9 มุมมอง ที่มีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งหญิงสาว จากเจ้าสาวผู้ผิดหวัง กลายเป็นผีเฮี้ยนผู้อาฆาตแค้น! ใน ”9-9-81 บอก-เล่า-9-ศพ” และหนังฟีลกู๊ดจากแดนน้ำหอม ที่เดินทางไปโกยทั้งคำชมและรายได้ถล่มทลายเกินคาดมาแล้วทั่วยุโรป กับเรื่องราวมิตรภาพระหว่างชายพิการผู้เคยสูงศักดิ์ ที่ได้คนดูแลเป็นหนุ่มผิวสีมองโลกในแง่ดี ใน ”Intouchables” อลิซ ในดินแดน(ซอมบี้)หฤหรรษ์ จะถล่มบัลลังก์ยับเยินแค่ไหน??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01102&c=11 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 11:01:01

ความคิดเห็นที่ 15 สัปดาห์หน้านี่ตัวเต็งนอนมาแบบไร้คู่แข่งเลยแหะ จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 12:13:00

ความคิดเห็นที่ 16 Resident  ภาคนี้ มี วาเลนไทน์ ด้วยแฮะ  ไปดูแน่นอน จากคุณ : หัวเวียงใต้ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 12:20:04

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ ติดตามเสมอครับ จากคุณ : Love Anyone เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 13:11:22

ความคิดเห็นที่ 18 รัก Ted จากคุณ : inselberg เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 14:02:40

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนนี้ลุ้นTEDอย่างเดียว นานๆจะมีหนังน่ารัก กวนๆแบบนี้ซักที ชอบมากๆเลย ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะครับ จากคุณ : ฉันรักภูกระดึง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 19:45:45

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ฉันเป็นหุ่นกระป๋อง เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 21:56:47

ความคิดเห็นที่ 21 เชียร์ให้ลองไปดูจันดารานะ ไปดูแล้วไม่ผิดหวัง ทำออกมาได้ดีเลย จากคุณ : gookgig เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 21:59:54

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาโหวตและให้ใจเหมือนเคยค่ะ จากคุณ : mini_me_yo เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 55 22:39:58

ความคิดเห็นที่ 23 มารอลุ้นว่าเจ้ อลิซจะเก็บไปได้เท่าไหร่ จะไปดู มิเชลด้วยอิอิ จากคุณ : miyuna เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 11:46:25

ความคิดเห็นที่ 24 TED มันสุดดด 55 จากคุณ : 2 Undifferent เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 55 23:04:07

ความคิดเห็นที่ 25 เป๊ะเหมือนเดิม...ขอบคุณค่ะ จากคุณ : RiverNoReturn เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 01:51:42

ความคิดเห็นที่ 26 Ted จอมลามก โหวตแอนด์กิ๊ฟท์เช่นเดิมค่ะ ^__^ จากคุณ : zelimony เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 11:37:18

ความคิดเห็นที่ 27 อยากให้ไปดูจันดารา กันจริงๆ ครับ ไม่ผิดหวัง .. ปล. ดูจบเอาไปเล่าให้แม่ฟัง แม่เลยอยากให้พามาดูอาทิตย์นี้ จากคุณ : น้ำดินทราย เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 14:00:39

ความคิดเห็นที่ 28 WOW จากคุณ : Par&Par เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 15:09:44

ความคิดเห็นที่ 29 ... จากคุณ : Par&Par เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 15:10:20

ความคิดเห็นที่ 30 โหวตจ้า กระทู้อัดแน่นไปด้วยข้อมูล ควรค่าแก่การอ่าน จากคุณ : joy_bph เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 55 23:11:37

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตครับ..กระทู้ดีๆมีสาระ ชอบๆ จากคุณ : แค่ฝันไป เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 55 14:40:46

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณที่เอามาฝากครับ รายได้หนังบ้านเรามันซบเซาลงเพราะแต่ละค่าย กระหน่ำขึ้นราคาตั๋วหนังจนคนเลิกดูหนังกัน แพงเว่อร์ เหลือเกิน ปล. สำนวนการเขียนอ่านรู้เรื่องยากมากเลยครับ ต้องอ่านซ้ำๆหลายๆรอบว่าพูดถึงอะไรอยู่ จากคุณ : tarodanex เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 55 16:24:02

ความคิดเห็นที่ 33 อยากดู the Intouchable มากเลยค่ะ ดูทีเซอร์แล้วแอบอบอุ่น แต่ถามโรงหนังแล้วเขาบอกยังไม่เข้าโรงเลย T^T และก็จะไม่เข้าด้วย เศร้าเลย จากคุณ : Tonberry_sista เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 20:45:29

ความคิดเห็นที่ 34 บอกเล่า 9 ศพ หนังดีครับ ผมเกือบพลาดดู เเต่เมเจอร์ลดค่าตั๋วเหลือ 100 บาท รวมทั้งคอมเม้นที่ดีจาก pantip เป็นหนังที่ดีกว่าลัดดาเเลนด์อีกนะครับ เเนะนำให้ไปดูกันครับ ค่ายน้องใหม่นี้อยู่ในใจผมไปเรียบร้อยเเล้วครับ จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:01:44