เข้ามาเพราะสดุดในดราม่า ตรงที่มีคนโพสว่า ความรู้ วิชาการ สำคัญกว่าจินตนาการ และพูดในเชิงทิ้งไม่เห็นฝุ่นเลย... จริงหรอ?
ลองย้อนไปดูหน่อยมั้ย? เค้าบอกว่า ถ้าไม่มีความรู้ก็สร้างเครื่องบินไม่ได้ ก็จริง แต่ถามหน่อย ถ้ายังไม่มีเครื่องบินเกิดขึ้นเลย คุณไม่รู้จักสิ่งที่บินได้เลยนอกจากบอลลูน แล้วคุณมีความรู้มหาศาล แต่ไม่เคยจินตนาการถึงเครื่องบินเลย ให้ตายคุณก็สร้างเครื่องบินไม่ได้หรอก ถ้าคุณยังไม่แม้แต่คิดว่าสิ่งที่จะสร้างมันทำอะไรได้
เค้าถึงบอกไงว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะต่อให้มีความรู้มากมาย แต่ประยุกต์ไม่เป็น ไม่มีจินตนาการที่จะต่อยอด ก็ไม่มีโลกที่เราเห็นกันปัจจุบันหรอก
เพราะชอบลอก ชอบทำอะไรที่มันรู้ๆกันอยู๋แล้วว่าทำได้ แล้วออกมาดี เพราะแบบนี้ไงเราเลยไม่คิดอะไรใหม่ๆได้สักที (แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะคิดอะไรใหม่ๆได้ แค่แหวกแนวก็ดีแล้ว)
เอาละ ส่วนกรณีข่าวข้างบน ยอมรับว่าแนวที่เด็กเอามาทำก็ดี มีสกิล มีเทคนิคที่เอามาใช้ได้ แต่...
ลองคิดดูเอานะ คุณตั้งใจวาดรูป เพราะอะไร?
วาดเพราะอยากวาด หรือ วาดเพราะอยากให้คนอื่นชม
ถ้าวาดเพราะอยากให้คนอื่นชม อย่างดีก็แค่วาดเลียนแบบสิ่งที่คิดว่าสวย ไม่มีจินตนาการ แปบๆก็เบื่อ ว่ามั้ยล่ะ ถ้าไม่มีใจอยากจะทำก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆแหละ
แต่ถ้าอยากจะวาดเพราะต้องการจะวาด ถึงจะวาดไม่สวยก็จะวาดไปเรื่อยๆ แล้วก็จะพยายามเรียนไปเรื่อยๆ หาเทคนิคมาพัฒนาสิ่งที่อยากวาด สุดท้ายก็จะวาดได้ดีเองโดยที่่ไม่รู้ตัว
เช่นกัน ถ้าคุณบังคับให้เขาวาดตามแบบคุณ เค้าก็จะวาดได้ มีเทคนิค แต่ไม่มีกะใจจะวาด วาดสวยก็งั้นๆแหละ พอใจแปบเดียวก็เบื่อ คนเรามักจะยึดติดกับครั้งแรก อคติกับอาหารก็เพราะครั้งแรก จะชอบก็เพราะครั้งแรก ถ้าคุณวาดรูปครั้งแรกๆด้วยอารมณืที่ไร้อิสระและตามความต้องการขนาดนั้น คุณจะชอบมั้ยล่ะ
ลองมาเทียบกันนะ ในปัจจุบันที่หลายๆคนอยู่ในการศึกษาภาคพื้นฐาน ทำไมถึงเบื่อ ทำไมถึงไม่อยากเรียน ทำไมถึงไปโรงเรียนเพราะอยากเจอแค่เพื่อน สำหรับบางคนที่เก่งก็จะชอบเรียนแค่วิชาที่ชอบ นั่นก็เพราะว่าการศึกษาไทยจำกัดกรอบการเรียนที่สำคัญแค่ วิทยาศาสตร์ กับ คณิตศาสตร์ไง
การสอบและทุกๆอย่างเปิดโอกาสให้สายนั้น เพราะฉะนั้นโรงเรียนก็จะเน้นอะไรแบบนั้น ลองถ้าคุณได้เรียนวิชาที่ชอบ หรือวิชาที่ไม่ชอบ แต่ว่างทั้งคาบสิ มันจะเป็นอารมณืที่แตกต่างเลย