ความคิดเห็นที่ 1 เดี๋ยวนะๆ ใช้คำว่า "ก้าวพัฒนา" อืมม .. ดูเว่อร์ไปไหม เอาเป็นว่า "ขึ้นชื่อระดับโลก" พูดถึงกระแสกังนัมหน่อย .. อ่านมาว่า กระแสเริ่มกระพัดกระพือ ก็ตอนที่ไปบริทนีย์ทวิต แล้วได้ไปออกรายการ The Ellen Show.. ทั้งหมดเพราะได้พีอาร์ดี.. แต่สุดท้าย เขาก็ทำได้ จริงไหมล่ะ จากคุณ : จูริง เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 01:05:44

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าการก้าวกระโดดของเกาหลีนั้น ในหลายๆด้านมาจากการผลักดันจนผิดธรรมชาติของรัฐบาล จนหลายครั้งเกิดกระแสต่อต้านที่เติบโตไปพร้อมๆกับกลุ่มแฟนคลับนะเท่าที่ผมคลุกคลีอยู่กับทั้งสองกลุ่ม จากคุณ : สุดเวลา เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 01:27:43

ความคิดเห็นที่ 3 "รัฐบาล" จากคุณ : Kyo3 เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 01:27:57

ความคิดเห็นที่ 4 การก็อปการลอก ถึงทำแล้วเด่นดัง มีเงินเยอะ ประเทศพัฒนาฮวบฮาบ แต่สำหรับผมแล้วถ้าลอกมาจริง ก็อปมาจริงๆ ก็คงไม่ภูมิใจหรอกครับ (ความภูมิใจกินไม่ได้เพราะมันเป็นความรู้สึกและจิตใต้สำนึกที่คนๆหนึ่งครจะมีมันไม่ใช้ของกิน) พูดดักคอไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไรก็ตาม จากคุณ : สุดเวลา เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 01:32:22

ความคิดเห็นที่ 5 แดจังกึมค่ะ จากคุณ : คุณหญิงมณีจันทร์ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 01:42:55

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องเทคโนโลยีนี่ต้องเรียกว่า "เพราะทุนต่ำกว่า" ครับ ลองเอาของเดียวกัน มาตรฐานเดียว แค่เปลี่ยนโรงงานผลิตไปญี่ปุ่นหรืออเมริกา ราคาก็ต่างสุดกู่แล้วฮะ (ไม่งั้นโซนี่จะต้องลด ต้องเปลด เพราะ"ขายของไม่ดูราคาลูกค้า"รึ) พอตีตลาดได้...ก็เริ่มปรับราคาให้ดูมีคลาสขึ้น แล้วก็เป็นอย่างที่เราเห็นนี่แหละครับผม การศึกษา...ผมว่ายังไม่เท่าไหร่ ผมว่า...เราไปกลัวเพื่อนบ้านเราดีกว่าครับ อันนั้น ก้าวกระโดดของแท้เลยฮะ บันเทิงเนี่ย...จริงมันน่าจะเข้าสู่สภาวะขา(จะ)ลงได้แล้วนะ แต่เดชะบุญ...กังนัมมาพอดี ทั้งๆที่กระแสนี้ ดูยังไงรัฐบาลคงไม่น่าหนุนสุดตัวแบบศิลปินอื่นแน่ๆ เพราะมันมาในจังหวะที่ชาติอื่นๆ กำลังทวงกระแสคืนมา เพราะความไม่เป็นธรรมชาติของเกาหลีนี่แหละ แต่พอมาเจออะไรที่เป็นธรรมชาติปุ๊บ มันเหมือน "ยอมให้อีกสักหน่อยก็ได้" แต่ผลตอบรับมันไม่หน่อยเลยนะ กีฬานี่ต้องยอมรับว่า "กำลังจะแซงญี่ปุ่น" (หรืออาจะแซงแล้ว) ก็ได้ครับ ต้องเรียกว่า โอลิมปิกปีนี้ กู้หน้า "ศึกมวยที่บัดซบที่สุดของรอยโจน" กับ "ที่ 4 บอลโลกที่ไร้ความภาคภูมิของชาวเอเชีย" ได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 02:14:26 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 02:13:08 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 02:12:26 จากคุณ : rikitphorn เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 02:12:06

ความคิดเห็นที่ 7 รู้แล้วๆๆ อะไรที่เกาหลี ยังไม่สามารถ "ดัง" ได้ในตลาดโลก ภาพยนตร์ แม้ว่า เวลามีการพูดถึงหรือจัดอันดับหนัง จะมีการเอ่ยถึงหนังอย่าง Oldboy อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มีเรื่อไหน จะสามารถตีตลาดวงกว้างได้เลยนะ .. และคงจะยากกกกก จากคุณ : จูริง เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 02:14:32

ความคิดเห็นที่ 8 ความเป็นชาตินิยม และรัฐบาลมีส่วนสำคัญมาก แต่สำหรับภาพยนต์คิดว่ายังอีกไกล เพราะมีประเทศเจ๋งๆในการทำภาพยนต์เยอะมาก ทั้งประเทศฝั่งตะวันออกกลาง ประเทศในแถบยุโรปอย่างฝรั่งเศส หรืออินเดียที่ตลาดหนังใหญ่รองลงมาจากฮอลลีวูด ส่วนเพลงกังนัมคิดว่าดังจริงอะไรจริง แต่จะดังแค่เฉพาะเพลงมากกว่า คือดังเป็นเพลงๆไป เฉพาะตัวเพลง ถึงยังไงกระแสเคป๊อปก็ยังยากที่ตีฝั่งอเมกาอยู่ดี เอาแค่ฝั่งเอเชียเหลือแค่ญี่ปุ่นที่เดียวมั้งที่ยังยึดกระแสทั้งหมดไม่ได้ เพราะตลาดเพลงเขาก็แข็งเหมือนกัน จากคุณ : Rule_Of_Rose เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 03:53:01

ความคิดเห็นที่ 9 ของเค้าดีจริงครับ ไม่ใช่ทำออกมาส่งเดช และมีเป้าหมายชัดเจน คาดหวังกันเต็มที่ครับ ผมไม่ดูซีรี่ย์เกาหลีนะ แต่งานเพลงผมบอกได้เลยเค้าไปไกลกว่าเรา มาก ส่วนคนไทยหนักไปทางอะไรเริ่มจะดัง ก็วิ่งเข้าหาเอาหน้าแล้วก็ทำให้เละ แล้วก็เผ่นเป็นประจำครับ ดูได้อย่าง thai-fight จา พนม เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 05:35:54 จากคุณ : carloskop เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 05:33:07

ความคิดเห็นที่ 10 สงสัยเหมือนกัน อย่างนักร้องเนี่ย รัฐบาลเค้าสนับสนุนก็จริง แต่ก็ไม่ได้ผลักดันขนาดจ้างต่างประเทศให้ได้ไปโปรโมท แต่สามารถมีแฟนคลับกระจายอยู่ทุกมุมโลก มีโชว์เคส เอเชียทัวร์ เวิรล์ดทัวร์กันตัังหลายวง ทำได้ไง จากคุณ : The Opera เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 07:46:47

ความคิดเห็นที่ 11 ขอพูดถึงแง่ซีรีย์ละกัน โอเคว่าบางเรื่องอาจจะแต่งขึ้นจากประวัติศาสตร์จริงเพีงแค่ 1 ประโยค แต่เนื้อเรื่องมีความน่าติดตาม ตัวละครมีเหตุมีผล มีประเด็น ไม่ดีสุดขั้ว ชั่วสุดขีด จะปนๆ กันไม่ว่าจะพระเอก นางเอก และตัวร้าย ไม่ได้รักๆ ใคร่ๆ กุ๊กกิีกไปมาอยู่ร่ำไป แบบละครไทยครับ จากคุณ : องค์ชายแห่งชิลลา เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 08:26:48

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างอื่นไม่รู้นะครับ รู้แต่ว่าละครเกาหลีต่างจากละครไทยมากๆ ดูละครเกาหลีแล้วรู้สึกเหมือนละครไทยมันปัญญาอ่อนยังไงก็ไม่รู้ - -'   คือของบ้านเค้ามันจะเป็นแบบที่มีอยู่ในชีวิตจริงน่ะครับ ตัวร้ายก็ร้ายลึก แต่ไม่ต้องทำตัวปัญญาอ่อนไม่ต้องจิกตบเพื่อแย่งผู้ชายกัน ไม่ต้องทำท่าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อนางเอก แต่ร้ายแบบว่าเราดูแล้วรู้ได้ทันทีว่าเนี่ยแหละตัวร้ายตัวโกง จากคุณ : ชัยโอบายาชิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 08:43:41

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนหนึ่งเพราะมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ธุรกิจด้านวัฒนธรรมของเกาหลีเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายไปสู่ตลาดโลก ซึ่งธุรกิจด้านวัฒนธรรม ได้แก่ สื่อบันเทิงทุกชนิด เช่น ละคร ภาพยนตร์ นักร้อง นักแสดง เป็นต้น   เป็นหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจะรัฐบาลอย่างเต็มที่ ชื่อว่า  KOCCA หรือ The Korea Creative Content Agency โดยวิสัยทัศน์ของ KOCCA คือการเป็นผู้นำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และต้องมีการวัดผลของวิสัยทัศน์ได้ เช่น ต้องการส่งเสริมมูลค่าตลาดให้ได้ 10 ล้านล้านวอน มูลค่าส่งออก 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือจ้างงานให้ได้ 1 ล้านตำแหน่ง      เป็นต้น (อ้างอิงจากคุณศักดิ์ชัย เกียรตินาคินทร์) จากคุณ : vivaharry เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 08:48:57

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นเพราะอินเตอร์เนตหรือเปล่า เพราะเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีอินเตอร์เนตเร็วที่สุดในโลกอ้ะ จากคุณ : A-tarO เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 09:15:52

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องอื่นเราไม่รู้ เพราะไม่ค่อยตาม ตามแต่ละคร  ละครของเค้าดีจริง ดูแล้วอิน มีแรงบันดาลใจ มันเหมือนชีวิตจริง เราๆ ของไทยเราทำไม สายตาต้องจิก ต้องตบตีแย่งผู้ชายมากมายขนาดนั้น ไม่ใช่ชีวิตจริงไม่มีนะ มี แต่น้อย จากคุณ : จางแทกกี ที่รัก เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 09:18:12

ความคิดเห็นที่ 16 เราไม่ได้ตามเรื่องเพลงของเกาหลีเลยแต่ก็พอรู้จักจากสื่อแต่ ก็ยังชอบแบบไทยๆมากกว่านะ ส่วนซีรีย์ หนัง ยอมรับเหอะตลาดเค้าไปไกลกว่าเราเยอะเลย(ถึงแม้บางประเภทจะยังแพ้ญี่ปุ่นกับจีนอยู่บ้าง) ส่วนนึงเพราะการผลักดันของรัฐบาล การเป็นกึ่งๆชาตินิยมของคนในชาติ เงินทุน โปรดักชั่น จากคุณ : หนูวาลี เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 09:38:12

ความคิดเห็นที่ 17 1. รัฐบาลสนับสนุน เรื่องเงินทุน 2. ไม่มีระบบเส้นสาย ตัวอย่าง แดนเซอร์คนไทย มักเอาพวกหรือเพื่อนผ้องไปเต้นอย่างเดียว แต่คนเก่งอื่นๆ ไม่มีสิทธิเข้าไป ท่าเต้นเลยจำกัด จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 09:45:35

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อประมาณ 11-12 ปีที่แล้วอ่านหนังสือพิมพ์ มีเนื้อข่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังเตรียมทุ่มเงินเป็นพันล้านเพื่อโปรโมตประเทศ ด้วยการบันเทิง และสนับสนุนภาพยนตร์ นักร้อง นักแสดง การท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชาวโลกรู้จักเกาหลีใต้ ตอนนั้นในเนื้อข่าว คนเขียนข่าวยังเขียนแนวว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสิ้นเปลือง และไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ เพราะช่วงเวลาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน รัฐบาลทั่วโลกจะให้ความสำคัญกับการศึกษามากกว่า แต่ถึงวันนี้บันเทิงเกาหลีทำสำเร็จแล้ว บริทนีย์ สเปียร์ ยังเต้น กังนัม สไตล์ เลย - . . - จากคุณ : อินดา เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 10:20:06

ความคิดเห็นที่ 19 จริงใจและจริงจัง จากคุณ : ลูกกวาดมอมแมม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 10:27:59

ความคิดเห็นที่ 20 เราว่า การสนับสนุนจากรัฐบาลค่ะ แต่ ที่ว่าซีรี่ย์ดัง ใช่เมื่อก่อนชอบมาก โดยเฉพาะเรื่องดังๆ 10-20 เรื่องแรก สนุกเหลือเกิน แต่พอดูไปเรื่อยๆ เรื่องที่ 80 ที่ 81  แหม เวลาซีรี่ย์ห่วยๆเนี่ย มันเสียเวลาชะมัด  แต่ทนดูไปเพราะอยากรู้เนี่ย ว่ามันจะแย่ จะน่าเบื่อ ขนาดนี้เลยเหรอ ละครไทยหลายๆเรื่อง สนุกกว่ามาก คนที่ว่า ซีรี่ย์เกาหลีสนุก เหนือกว่าไทยเนี่ย ถามจริง เค้าดูเกิน 50 เรื่องหรือยัง กังนัมสไตล์  ยอมรับว่าดังมาก แต่ เรากลับรู้สึกว่ามันเป็นการดัง ปนการดูถูกเหยียดหยามนิดๆแฝงๆอยู่อ่ะ เหมือนมันเป็นการล้อเลียนแบบดูถูก ท่าเต้นมันดูสนุก  แต่มันดูไม่ได้น่าภาคภูมิใจหรอก เรานึกได้อย่าง ว่าเมืองไทยเหนือกว่าเกาหลีตรงไหน เราว่าอาหารไทย  มันอยู่ในโพลิชั่นที่มีเกรด เหนือกว่าเกาหลีอ่ะ  แล้วเราคิดว่า มันแพร่หลายกว่าเยอะ  รวมถึงสปาไทยด้วย จากคุณ : หวานตาลเฉาะ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 10:35:14

ความคิดเห็นที่ 21 พูดถึงละคร เมื่อเปรียบเทียบกับของไทย ต้องยอมรับว่าของเกาหลีดีกว่าในหลายๆด้าน ตั้งแต่วัสดุการผลิต เทคโนโลยี่ที่ใช้ เอาแค่มาตรฐานจอภาพของเขาก็เข้าสากลไปแล้ว ทุกเรื่องเป็นไวสกรีน ระบบไฮเด็ฟ ระบบเสียงส่วนใหญ่เป็น ดอลบี้ สเตริโอ 2แชนแนล บางเรื่อง 5.1 เนื้อเรื่อง โดยเฉพาะดราม่า จะเมคเซ้นกว่า เอาง่ายๆ นางร้ายไม่เคยตามตื๊อพระเอกเอามือเกาะแขน ถึงจะเกาะแขนส่วนใหญ่พระเอกก็สลัดหลุด ซึ่งของไทย พอนางร้ายเกาะแขน พระเอกของเราก็หมดแรงแกะไม่ออก ได้แต่ยืนทำหน้าปุเลี่ยนปุเลี่ยน ละครแอ็คชั่นของไทยก็เช่นกัน พระเอกขับรถหนี ผู้ร้ายตามยิง รถยังยิงไม่โดนเลย แล้วนับประสาอะไรคนนั่งในรถมีรึจะยิงโดน ในขณะที่ของเกาหลี กระจกตัวรถพรุนทั้งคัน, ฉากอุบัติเหตุรถยนต์ ของไทยจับภาพที่คนขับแล้วก็ส่ายไปส่ายใส่เสียงโครมลงไป ตัดมาอีกฉากรถชนกับต้นได้ ฝากระโปรงเปิด ในขณะที่ฝั่งเกาหลีบางเรื่องจะเห็นจะจะว่าชน แต่ก็ยังอีกไกลทั้งไทยทั้งเกาหลี ถ้าคนที่ต้องการซีรีย์ดูแล้วสมจริงในฉากนั้น จากฝั่งอเมริกากินขาดในทุกเรื่อง ถ้าคุณดูซีรีย์จากอเมริกาแล้ว อาจไม่อยากดูทั้งเกาหลีและไทย แต่ด้วยความเป็นไทย ดูพวกนั้นว่าดี แต่สุดท้ายก็เบื่อ สุดท้ายก็มาตายของไทย แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 10:38:19 จากคุณ : soigner เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 10:36:07

ความคิดเห็นที่ 22 ขอตอบแบบคนชอบดูซีรี่ย์เกาหลี และฟังเพลงเกาหลีนะคะ เขาทำงานให้เกียรติ์ผู้ชมผู้ฟังผลงานที่ออกมาน่าดูน่าฟัง ลองเอามาให้ดูกันนะคะ(ตัวอย่าง) จากคุณ : jaijay เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 11:18:35

ความคิดเห็นที่ 23 Copy วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ต่อครับ สิ่งใดที่ญี่ปุ่นมี เกาหลีใต้มีหมด และบางสิ่งเหนือกว่าไปแล้ว รถยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, วงการบันเทิง, การท่องเที่ยว ด้วยนิสัยคนเกาหลีเป็นคนบ้างานมากกก และมีความรับผิดชอบสูง แต่ไร้ซึ่งมารยาท จึงไม่แปลกใจที่ เกาหลีใต้จะเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของประเทศด้วยการ เลียนแบบคนอื่น แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนมุ่งมั้นและบ้างานสุดๆ ทำให้สิ่งที่เขาเลียนแบบมานั้น เหนือกว่าต้นฉบับไปแล้ว นิสัยพื้นฐานของคนในชาติ คือตัวกำหนด ความเจริญของชาติครับ ไม่เกี่ยวกับการศึกษา หรือ รัฐบาลเลย คนไทย อะไรก็ได้ง่ายๆ สบายๆ ให้อภัย ยิ้มแย้ม เราไม่ใช่คนที่ เคร่งเครียด ซีเรียสตลอดเวลา ดังนั้น อย่าฝันว่าเราจะไปสู้อะไรใครในแง่ธุรกิจได้ แต่ถ้าแข่งกันเรื่องความสุขในชีวิต คนเกาหลีใต้ คนญี่ปุ่น ยังอิจฉาเราเลย พวกเขาอาจจะมี เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ วงการบันเทิงสวยหล่อ เป็นของตัวเอง แต่วิถี ชีวิตเขา เคร่งเครียดและน่าเบื่อมาก ถึงเราจะไม่มีอะไรยิ่งใหญ่แบบเขา แต่เราก็มีวิถีชีวิตที่น่ารักๆ นะครับ ปล. ผมทำงานในบริษัทฯ คนเกาหลีครับ จากคุณ : เจ้าชายใจเย็น เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 11:42:49

ความคิดเห็นที่ 24 คห.20 ครับ ผมยังดูไม่ถึง 50 เรื่องหรอกครับ ละครเกาหลีน่ะ แต่ผมดูละครไทยมาหลายเรื่องแล้วครับ และยังไม่เห็นว่ามีพัฒนาการมากกว่าเดิมตรงไหน นางร้ายยังคงกรี๊ด วีน เหวี่ยง แอคติ้งเกินจริง เวลาแย่งผู้ชายทีก็ถึงลูกถึงคนมากเกินไป เรื่องพวกนี้ไม่มีในละครเกาหลีนะครับ ผมว่านี่ข้อดีของละครเกาหลี ที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีครับ การที่คุณดูมาเป็นร้อยเรื่อง มันก็ไม่ได้การันตีถึงพัฒนาการของละครไทยหรอกนะครับ ซึ่งถ้าคุณว่ามันห่วยลงเรื่อยๆ คุณจะทนดูทำไมตั้งเกือบร้อยเรื่องล่ะครับ ถามว่าละครไทยดีมั้ย ดีครับ ที่บ้านก็ดู แฟนชอบดู ผมก็ดู แต่ถ้าถามเชิงเปรียบเทียบว่าของละครบ้านเรากับซีรี่ย์เกาหลีอันไหนดีกว่ากัน ผมก็ยังมองว่าบ้านเรายังสู้ซีรี่ย์เกาหลีไม่ได้ครับ จากคุณ : ชัยโอบายาชิ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 11:44:47

ความคิดเห็นที่ 25 ขอเป็นอีกหนึ่งความคิดเห็นนะคะ ( เอาด้านบันเทิงเกาหลีล้วน ๆ ) ที่เคยได้คุยกับคนเกาหลี จะบอกว่า เป็นเพราะรัฐบาลเกาหลีใต้ค่ะ เกาหลีใต้ ประเทศเขา ไม่มีอะไรเด่น ไม่มีธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นประเทศเล็ก รัฐบาลเขาก็เลยเปิดประเทศเขาด้วย ซีรี่ย์(หรือละคร) ที่หลายคนติดกันงอมแงม หลังจาก ซีรี่ย์ประสบความสำเร็จ ก็มีคนรู้จักและรักประเทศนี้มากขึ้น จากนั้นจึงตาม มาด้วย ทัวร์ นักท่องเที่ยว มากมาย ทั้งตามรอยสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ หรือแม้แต่ วัดวาอาราม สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เขาก็สร้างขึ้นมาใหม่ให้สวยงาม เอาไว้รองรับ นักท่องเที่ยว ด้วยภูมิอากาศ ความสะอาดของบ้านเมืองเขา ความมีระเบียบวินัย ของคนชาติเขา ทำให้มีคนรู้จักและชื่นชอบในประเทศนี้มากขึ้น ในเมื่อชื่อเสียง เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ตามมาแบบที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่า รัฐบาลเขาทำสำเร็จและสำเร็จอย่างมากด้วย วันนี้เกาหลีใต้จึงเป็น ประเทศที่เป็นผู้นำด้านสื่อบันเทิงแทนที่ ญี่ปุ่นและฮ่องกง จากคุณ : BaNaNa CoFFee เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 11:58:32

ความคิดเห็นที่ 26 "รัฐบาลสนันสนุนการส่งออกวัฒนธรรมของประเทศโดยผ่านทางสื่อบันเทิงและเทคโนโลยี" จากคุณ : nuugoy เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 13:27:07

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าจขกทสนใจจริงเเนะนำให้เเยกย่อยทีละเรื่องเเล้วไปถามตามห้องต่างๆที่ตรงเรื่อง จะได้การวิเคราะห์ที่เข้มกว่านี้ ถ้าพูดถึงภาพรวม ต้องดูที่นิสัย วัฒนธรรมของคนในชาตินั้นก่อนเลย คนเกาหลีเขาจะคล้ายคนจีน ญี่ปุ่นค่ะ ขยัน ชาตินิยม ยอมทำงานหนักเพื่อให้ชาติเจริญ  ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรที่ที่รัฐขอให้ประชาชนทำเพื่อชาติ ทำเเล้วชาติตัวเองจะรวย พัฒนา มีเชื่อเสียงในต่างประเทศ เขาจะยอมทำค่ะ ผิดกับสังคมไทยที่ออกจะขี้เกียจ ไม่มีความเป็นชาตินิยมเท่าที่ควร เเถมดูถูกตัวเองอีกต่างหาก ถามว่าทำอย่างไงหลายอย่างถึงดีขึ้น เพราะความชาตินิยมละค่ะ การอยากให้ชาติเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ คนเกาหลีจะขยัน จะพัฒนางาน จะปรับปรุงบ้านเมืองให้มีความเจริญหลายอย่าง เเละอีกอย่างประเทศที่เจริญทั้งหลายเขาไม่ดูถูกเรื่องบันเทิงทั้งหลาย เช่นหนัง ละคร การ์ตูน ดารา ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หาเงินไม่ได้เหมือนบ้านเรา ซึ่งจะเห็นว่าสื่อเหล่านี้ถือเป็นสื่อต้นๆที่เข้าถึงคนนอกได้ง่าย พอเขารู้จักเเล้วเขาก็อยากจะรู้จักเรื่องอื่นตามมานั้นเอง เคยได้ยินคำว่าศิลปะเป็นเรื่องไร้พรหมเเดนไหมคะ ญี่ปุ่นเผยเเพร่ชาติตัวเองผ่านการ์ตูน เกาหลีผ่านละคร เพลง ในขณะที่ไทยมองเป็นเรื่องเด็กๆ จริงไหม เเม้เเต่ในขณะนี้คนไทยบางกลุ่มก็ยังมองไม่ออก คิดไม่ออกว่าเขามีดีอะไรคนถึงชอบ เขาเจริญได้อย่างไง ทำไมเด็กไทยถึงหลงง เอาเเต่ไปว่าเด็กที่ชอบเกาหลี ไปว่าเขาเป็นชาติก๊อป เเต่ไทยเรานี่อันดับต้้นๆในเอเชียมากกว่าเกลีอีก เหมือนเราเป็นพวกขีอิจฉา เห็นคนอื่นดีไม่ได้ ต้องหาเรื่องจับผิด ด่าเขาอะ ไม่ได้เป็นอะไรกับเกาหลีนะคะ เเต่อยากให้ไทยมองข้อดีของชาติต่างๆเเล้วเอามาพัฒนาบ้าง จริงจังกับเรื่องบ้าง ไม่ต้องเครียดเเบบเขา เเต่อยากให้มุ่งมั่นมากกว่านี้เท่านั้นเอง เห็นว่าเขามีดีอะไรก็เอามาพัฒนา ปรับใช้ อย่าเป็นคนที่เเค่เห็นคนอื่นเขามีเชื่อเสียงก็นินทาไปวันๆกันเลย แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 14:05:31 จากคุณ : น้ำค้างเเก้ว เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 14:03:12

ความคิดเห็นที่ 28 รัฐบาลสนับสนุนค่ะ และผลงานละครเขาก็ทำได้ดีจริงๆ ออกความเห็นในฐานะดูละครเกาหลีมาเกิน50เรื่องแล้วค่ะ แต่เรื่องหนังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ชอบเป็นบางเรื่องเท่านั้น ว่าเกาหลีก๊อป แต่ญี่ปุ่นก็เคยผ่านตรงนี้มาก่อน(การก๊อป) จีนและไทย ก็ก๊อปตัวแม่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : ehja เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 15:13:55

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นนโยบายของรัฐบาลเลยล่ะมั้งนั่น ส่งเสริมเต็มที่เลย จากคุณ : s_solar เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 16:43:24

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบความขยัน มุ่งมั่น บ้างานของเขา ทำให้เขาขึ้นมาเชิดหน้าชูตาเหนือคนอื่นๆ ได้ แต่....เพราะความที่เป็นประเทศที่ยากจน โดนรังแกจากญี่ปุ่นมาก่อน ทำให้คนของเขายิ่งมีกำลังแรงฮึดที่จะขึ้นเป็นแนวหน้าให้ได้ เคยเรียนกับครูที่ไปเรียนที่เกาหลี ครูบอกว่า เค้าจะสอนให้คนของเค้าคิดว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีสิ่งไหนที่ทำไม่ได้ ถ้าเราคิดจะทำ มันต้องทำได้ เราฟังยังรู้สึกว่า เจ๋งอะ เพราะตัวเราเองทุกวันนี้ที่ทำงานอยู่เราก็ใช้วิธีคิดอย่างนี้นะ เราจึงสามารถทำสิ่งที่คนอื่นบอกว่าทำไม่ได้ ให้ทำได้ง่ายๆด้วย ถ้าเรามีความคิดอย่างนี้สักครึ่งประเทศ เราคงจะเก่งอย่างเค้าหรือดีกว่าเค้าก็ได้ เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยชอบประเทศนี้ แต่หลังๆพอเราได้เห็นสิ่งที่ดีๆ ของเค้าก็รู้สึกทึ่งและยอมรับ แต่เหรียญก็มี 2 ด้าน ไม่ได้คิดว่าเค้ามีแต่ดีไม่มีเสียเลย แต่ถ้าเราเลือกที่จะหยิบมาใช้ เราคงไม่โง่ที่จะเลือกด้านไม่ดีใช่มั้ย แต่ด้านไม่ดีไม่ใช่ว่าไม่มีคุณค่า เพราะด้านไม่ดีคือประสบการณ์ของคนอื่น เอาไว้สอนตัวเราว่าอย่าทำอย่างนั้น ทุกวันนี้ดูดูละครเกากลี ญี่ปุ่น เมกา อังกฤษ ไม่ได้ยึดติดกับใคร แต่ชอบใจเกาหลีที่สุด 5555555+++ ละครไทย ไม่ได้ดูนานแล้วค่ะ ยังทำใจยอมรับไม่ได้ แต่เพลงไทยฟังค่ะและรักมาก ยิ่งเพลงเก่าๆ เนี่ยที่สุดเลยค่ะ ต่ออีกนิด จริงเรื่องชาตินิยม บ้านเราอาจจะไม่ได้เจอปัญหาอย่างเขา ความเป็นชาตินิยมเลยไม่เข้มข้นเท่า แต่สิ่งที่ดีๆ ที่เราอยากให้อนาคตประเทศเราอยู่ได้รอดปลอดภัย เราต้องสอนลูกหลานและคนใกล้ตัวเราก่อนค่ะ ให้เค้าซึมซับ สิ่งดีๆ ให้มีความคิดที่ดีๆ และให้เค้าสอนคนต่อๆไป ถึงมันจะยาก แต่ถ้าลงมือทำ มันต้องมีสักวันที่สำเร็จ เหมือนที่เกาหลี เค้าทำสำเร็จนั่นแหล่ะค่ะ จากคุณ : KraTai FC Mafia เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 16:44:42

ความคิดเห็นที่ 31 คงมีหลายปัจจัย คห. ที่บอกว่า รัฐบาล ผมกลับมองว่า เป็นเรื่อง "คุณภาพของประชาชน" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระดับที่มีผลต่อความคิดและทิศทางของประเทศ (เช่น อาจารย์, สื่อ, ดารา, นักการเมือง, นักธุรกิจ) เกาหลี พึ่งผ่านสงครามมาเพียง 59 ปี ต้องถามว่า ปรับตัวมาสู่จุดนี้ได้อย่างไร สิ่งหนึ่งที่เขาทำคือ SWOT ประเทศ แล้วสรุปว่า ประชาชนน้อย พื้นที่น้อย สภาพอากาศก็ไม่ดี จะแข่งขันได้ต้องใช้ IT หาเงินเข้าประเทศ ใช้การส่งออก เทคโนโลยี่ กับการท่องเทียว แล้วจะส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างไร ต้องสู้ด้วย วัฒนธรรม จะส่งออกวัฒนธรรม ต้องใช้สื่อ ระบบคิด มันเป็นขั้นเป็นตอนมากๆ กรณี เทคโนโลยี่ น่าสนใจมาก ผมมองว่า การมุ่งเน้นพัฒนา LCD,LED ตั้งแต่ต้น จนถึงจุดที่ จอคาร์โธด หมดสภาพไปจากตลาด และ mobile device เข้ามาเป็นกระแสหลัก จุดแข็งทางเทคโนโลยี จากญี่ปุ่น ก็ถูกเปลี่ยนมือมาสู่เกาหลีโดยทันที (ทุกอันใช้จอ LCD ทั้งนั้น และกำลังจะเปลี่ยนไปเป็น LED รวมทั้งหลอดแสงสว่าง) สิ่งเหล่านี้ ผมมองว่าเป็นวิธีคิดล้วนๆ ต้องมีวิธีคิดก่อน จึงลงมือทำ ไม่ใช่ทำไปเรื่อย มั่วไปเรื่อย ลอกชาวบ้านไปเรื่อย โดยไม่ดูว่าตัวเราเองจริงๆคืออะไร มีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร และมองให้ไกล เพื่อเตรียมตัวสำหรับอนาคต ก็ถ้ายังมัวแต่คิดว่า ทำง่ายๆก็ขายได้ ก็ทำง่ายๆดีกว่า(ทำยากๆไม่มีใครกิน) ก็ได้แค่นี้หล่ะครับ (ทำให้ยากขึ้น เพื่อพัฒนาตนเอง ไม่ใช่ทำให้ยากขึ้นเพราะหวังจะขายให้ได้มากขึ้น มันคนล่ะเรื่องกัน) อุปมา อุปไมย มากไปหรือเปล่า เนี่ย จากคุณ : ยังอยากเป็นคนไทยอยู่ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 19:49:05