Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Dredd สนุกอ่ะ อย่างนี้มีภาคสองสบายๆเลย (สปอยล์นะจ๊ะ) ติดต่อทีมงาน

(สปอยล์นะจ๊ะ)

Dredd เป็นหนังเรื่องที่เราไม่เคยคิดจะไปดู เพราะเราไม่ค่อยประทับใจกับเวอร์ชั่นที่แล้วเท่าไหร่

แต่ด้วยกระแสที่คนบอกกันว่าสนุก ก็เริ่มสนใจ บวกกับเพิ่งเห็นว่าพี่ Karl Urban เป็นพระเอก เราก็เลยตั้งใจว่าจะไปดูให้ได้

ไปดูวันอาทิตย์รอบ 11 โมง ทั้งโรงมีกันสามคน ! แบบว่านั่งกันอย่างสบายเลย

***

หนังเปิดเรื่องที่เล่าแบ็คกราวด์ของเมืองต่างๆแบบคร่าวๆ ว่าคนอยู่ภายในกำแพงกันกัมมันตภาพรังสีอย่างแออัด อาชญากรรมเยอะ จึงต้องมี Judge มาทำรักษาความสงบแบบ one-stop-shop คือเห็นการกระทำผิดแล้วตัดสินได้ทันที

ต่อมาก็ตัดเข้ามาที่การทำงานของ Judge Dredd ด้วยการไล่ล่าคนร้ายเสพยา ซึ่งเป็นการแนะนำให้คนดูเห็นการทำงานของ Judge รวมถึงเปิดตัวการเสพยาสโลโมด้วย จุดนี้นอกจากจะเล่าเรื่องได้กระชับ ยังเป็นการโชว์เทคนิคการถ่ายทำ slow motion และ 3D ที่สวยงามอีกด้วย

หลังจากตัดสินโทษคนร้ายเรียบร้อย Dredd ก็ถูกเรียกให้เข้าสนญ.เพื่อให้ไปเป็นพี่เลี้ยง Judge ฝึกหัดคนหนึ่ง (เรียกว่า rookie นะ เราจำชื่อไม่ได้) ที่ผลการเรียนไม่ดี แต่มีความสามารถพิเศษคืออ่านใจคนได้ โดยหัวหน้าบอกให้ Dredd ประเมินนักเรียนจากการสอบปฏิบัติงานจริง

Dredd พา  rookie ออกมาโดยอธิบายเกี่ยวกับการประเมินผล ส่วนคนดูก็จะได้รู้ว่า เหตุผลที่เมืองต้องมี judge แบบนี้ก็เป็นเพราะว่าอาชญากรรมเกิดเยอะมากจนดูแลไม่หมด จะดูแลได้แค่ 6% ของอาชญากรรมที่รายงานเข้ามาเท่านั้น นอกนั้น เรายังรู้อีกว่านักเรียนฝึกหัด 1 ใน 5 จะตายในช่วงฝึกงานวันแรกๆ

Dredd ให้ rookie เลือกว่าจะตอบรับ emergency call ที่ไหน rookie จึงเลือกไป peach tree ซึ่งเป็นตึกสองร้อยชั้นแบบแหล่งเสื่อมโทรม สาเหตุที่เลือกที่นี่เพราะเธอโตมาจากแหล่งเสื่อมโทรมแบบนี้ และอยากเป็น Judge เพื่อที่จะทำให้สถานที่น่าอยู่ขึ้น สำหรับครอบครัวคนธรรมดาๆ

เมื่อไปถึงพีชทรี ทั้งสองคนก็ตามหลักฐานไปจนเข้าจับกุมแกงค์ขายยาได้ โดยตอนเข้าไปจับกุมคนร้ายโดนยิงตายหมดห้อง เหลืออยู่คนนึง rookie ก็ไปอ่านใจจนรู้ว่าคนนี้แหละเป็นคนร้ายแต่หลักฐานไม่มี จึงต้องจับไปสอบสวน แต่หารู้ไม่ว่าคนร้ายไม่ได้ขายยาเฉยๆ แต่เป็นคนที่รู้เรื่องในองค์กรใหญ่ของตึก จึงทำให้เจ้าแม่หัวหน้าแกงค์สั่งปิดตึกและสั่งให้กำจัด Judge ทั้งสองคน

จากนี้ไปก็เริ่มยิงกันระเบิดระเบ้อ มันส์สุดๆ

สิ่งที่ชอบก็คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำอะไรได้พอดี คล้ายๆเมตริกตรงที่ว่า ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ แต่ว่าใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วเล่าเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม

เรื่องราวตัวหนังเองก็เล่าเรื่องได้กระชับ ไม่เวิ่นเว้อ ไม่ต้องดราม่า เอาปมในอดีตอะไรมาคุยกัน ส่วนความรุนแรงเลือดสาดนั้น เราว่าแอบเกินพอดีไปหน่อย แต่ไม่มาก เพราะหนังตั้งใจจะสื่อถึงความไม่มีขื่อมีแปของสังคม ในยุคนั้น

ตัว Judge ทั้งสองคนเอง ถึงแม้ตกในสถานการณ์ที่ถ้าเป็นคนอื่นคงยอมแพ้ไปแล้วเพราะดูไม่มีทางรอด แต่ก็ยังทำหน้าที่ต่อไปอย่างมีสติ และดำรงกระบวนการทางกฏหมายไว้อย่างเคร่งครัด เราดูตรงนี้แล้วเราว่ามันก็มีคติสอนใจว่า คนที่ทำอะไรอย่างมีสติ และยึดมั่นในความถูกต้อง ถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายก็จะผ่านไปได้ ถึงแม้ผ่านไปไม่ได้ ก็จะไม่มีการเสียใจในภายหลัง (ถ้าเป็นหนังสูตร คงจะมีดราม่า Dredd อาจจะถอดหน้ากาบีบน้ำตา เล่าเรื่องเมียเรื่องลูก ส่วน rookie คงสติแตกแหกปากร้อง ฯลฯ)

ที่สำคัญคือ ขนาดที่ระเบิดภูเขาเผากระท่อมขนาดนี้ สุดท้ายมันก็เป็นแค่ "งานประจำอีกวันหนึ่ง"

ไม่เวิ่นเว้อแบบนี้ ทำให้การสร้างภาคสองไม่น่าจะมีปัญหา ดีไม่ดีอาจจะได้ซีรี่ส์พ่วงมาอีกหนึ่ง

 
 

จากคุณ : booklovers
เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 55 16:05:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com