ความคิดเห็นที่ 1 เพราะมัน Romance ยังไงละ ~ เตะเหตุผลทิ้งไปซะแล้วเสพให้สนุกก็พอแล้วครับ จากคุณ : Eranos เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:00:39

ความคิดเห็นที่ 2 เหมือนในไทยนี่แหละครับ ผมก็อยากรู้ว่ากลุ่มนักเลงอาชีวะ เทคนิค เทคโน ช่างกล บลา ๆ ๆ ทั้งหลายจะตีกันเพื่ออะไร จากคุณ : WarHammer เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:02:59

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ลองเอาไปถามพวกเด็กช่างกลบ้านเราสิครับ จากคุณ : Limelight เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:03:46

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านการ์ตูนอย่าไปถามหาเหตุผลเลยค่ะ จะไม่สนุกเอา จากคุณ : ข้าสวยที่สุดในสามปรโลก เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:05:04

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วทำไมโงกุนถึงบินได้หละครับ ? ลองถามตัวเองดู จากคุณ : ZxCoy เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:15:04

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ต้องพวกช่างกลหรอกครับ.. ..บ้านเรา มีให้เห็นเยอะ ถ้าเคยเรียน มัธยม ในเขตกรุงเทพหรือปริมณฑล ..จะเข้าใจ ไม่ว่าจะ.. ชายล้วน หรือหญิงล้วน ..,, เหตุผลที่ต่อยตบตีกันก็ไม่ต่าง.. จากการ์ตูนญี่ปุ่นซักเท่าไหร่หรอกครับ .. แต่พอเข้า มหาวิทยาลัย ..ก็มีบ้างที่เลิก หรือคิดได้เอง ..ครับ - - จากคุณ : Save da Last Piece เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:16:57

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่รู้นะ...รู้แค่ว่าชอบอ่านอ่ะมันส์ จากคุณ : via iPhone (cool_girlgang) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:19:56

ความคิดเห็นที่ 8 เหตุผลมันหาได้ไม่ยากครับ... วัยรุ่นครับ วัยคึกคะนอง ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง หลงอะไรผิดๆ ถูกบีบคั้นจากสภาพสังคม ฯลฯ ส่วนเหตุผลของผู้แต่ง ก็คือชอบแนวนี้ คิดว่าจะวาดออกมาได้สนุก และขายได้ครับ จากคุณ : Naruno เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:20:12

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นนักสืบในวัยเรียนก็มี เป็นนักปราบผีก็มี จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:20:22

ความคิดเห็นที่ 10 คิดเหมือน จขกท เลยว่า จะตีกันไปทำไม ไม่เห็นจะยิ่งใหญ่อะไรตรงไหน ออกมาเผชิญโลกความจริงที่ต้องหาเลี้ยงตัวเองและกฎหมายมากมาย จะทำอะไรได้เหรอ? ไม่มีพวกมากลากไปก็แค่คนธรรมดาๆเท่านั้นเอง ตรงนี้เคยอ่านในนัมบะ ซึ่งเป็นการ์ตูนต่อยตีไม่กี่เรื่องที่น้ำดีเลยนะ สปอย...*** ตัวเอกต่อยตีเก่งแต่อยากเรียนศิลปะ ไม่อยากเป็นนักเลง ต้องหลบๆซ่อนเป็นสองคนในคนๆเดียว เพราะที่บ้านชอบให้เป็นนักเลง และสนันสนุนให้เป็นนักเลงทั้งครอบครัวเพื่อพิชิตทั่วประเทศ (อะไรว่ะ?) ผลเป็นไง พ่อขับรถบรรทุก แม่เล่นปาจิงโกะ พี่ชายตอนเป็นนักเรียน-นักเลง ยิ่งใหญ่มาก พอจบมาหางานทำแทบไม่ได้เพราะอดทนต่ำ หาเรื่องไปทั่ว จนแฟนท้องค่อยสำนึก ตั้งหน้าตั้งตาหาเลี้ยง ด้วยการไปเป็นลูกมือในร้านบะหมี่ แสดงว่าคนญี่ปุ่นจริงๆก็เอือมๆเหมือนกันนะครับ ม๊าววววววววววววววววว จากคุณ : แมวกักขฬะ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:21:16

ความคิดเห็นที่ 11 @ZxCoy ผมอยากทราบเหตุผลแค่นั้นครับว่าตีกันทำไม ส่วนไอ้เรื่องนอกเหนือสามัญสำนึกอย่างบินได้หรือบินไม่ได้นั้น ควรจะเก็บเอามาคิดหรือเปล่านั้น ผมเชื่อว่าแม้แต่คุณเองก็รู้คำตอบอยู่แล้วล่ะครับ จากคุณ : thanze เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:22:24

ความคิดเห็นที่ 12 ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ ขั้นที่4 (ในการใช้ชีวิตประจำวัน คนเราจะมีความต้องการอยู่ 5 ขั้น) ขั้นที่ 4 ความเคารพนับถือ มนุษย์ทุกคนต้องการที่จะได้รับการนับถือและเคารพให้เกียรติ ความเคารพนับถือแสดงถึงความต้องการของมนุษย์ที่จะได้รับการยอมรับและเห็นคุณค่าโดยคนอื่น คนต้องการที่จะทำอะไรจริงจังเพื่อจะได้รับการยอมรับนับถือและต้องการจะมีกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกว่าเขาได้มีส่วนทำประโยชน์ เพื่อจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ หรือ งานอดิเรก ความไม่สมดุลย์ในความเคารพนับถือ อาจส่งผลให้มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำและรู้สึกต้อยต่ำ คนที่มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำต้องการการเคารพจากคนอื่นๆ เขาอาจพยายามแสวงหาความมีชื่อเสียง (ซึ่งขึ้นกับผู้อื่น) หมายเหตุ อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากที่มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ ไม่สามารถที่จะแก้ไขความภาคภูมิใจตัวเองได้ง่ายๆโดยการมีชื่อเสียง ได้รับความเคารพ จากภายนอก แต่ต้องยอมรับตัวเองจากภายใน และการตีกันอะไรแบบนี้ ก็เป็นการกระทำอย่างเสี่ยงๆที่ทำให้วัยรุ่นสามารถเรียกความนับถือจากคนในกลุ่มได้ (แบบกากๆ) แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 11:06:35 จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:23:13

ความคิดเห็นที่ 13 ชีวิตจริงที่เด็กช่างตีกันทำไมก็อยากรู้ค่ะ 5555 ให้เดานะ ช่วงการเป็นวัยรุ่นจะเลือดร้อน หงุดหงิดง่าย รักศักศรีตัวเอง เเละที่ตนอยู่ รักผู้ญิง เพื่อน ใครรังเเกไม่ได้ พอมีเรื่องอะไรก็ไปละ ดังนั้นที่ว่าไม่มีเหตุผลอะถูกเเล้วค่ะ วัยรุ่นมักจะใช้อารมณ์กันเป็นหลัก แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 11:08:13 จากคุณ : น้ำค้างเเก้ว เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:47:32

ความคิดเห็นที่ 14 #12 มีหลักการ แต่ทำไมผมแอบฮาหน่อยๆก็ไม่รู้ จากคุณ : SinnerSilent เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:48:38

ความคิดเห็นที่ 15 เหตุผลวัยรุ่นๆก็ไม่มีอะไรมากอ่ะครับ ศักดิ์ศรี(ของโรงเรียน รักสถาบันเยี่ยงชีพ) มิตรภาพ(ทำเพื่อนตรูได้ไงฟ่ะ) แย่งหญิง(เล็งหญิงคนเดียวกัน) และ เป็นหนึ่งในใต้หล้า(ระดับนักเรียน) ผู้ใหญ่อาจจะมองว่าเป็นเรื่องโง่ๆ แต่จะเอาอะไรมากกับเด็กวัยรุ่น ก็มันคิดกันได้แค่นี้ไง เขาถึงมองว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะไงครับ จากคุณ : LightBlaze เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:51:53

ความคิดเห็นที่ 16 มีศักดิ์ศรีไง ต้องรักษาจุดนี้ไว้ด้วยความทรนง เท่ดี ชอบอ่านเหมือนกันแนวนี้ จากคุณ : กุบกับ1 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:52:20

ความคิดเห็นที่ 17 เพราะจิตสำนึก ของมนุษย์ ชอบ การต่อสู้ แต่โดนสังคม วัฒนธรรม ข่มความรู้สึกนั้นไว้    ทำหนังแนวต่อสู้เป็นที่นิยม เพื่อปลดปล่อย สาร โคโมริตาคุ จากคุณ : หัวเวียงใต้ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:55:44

ความคิดเห็นที่ 18 99% ของบ้านเรามันไม่ใช่นักเลงครับ มันอันตพาล จากคุณ : mybnon เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 10:58:15

ความคิดเห็นที่ 19 เราว่าในการ์ตูนญี่ปุ่นมันมีมิตรภาพของลูกผู้ชายแทรกซึมอยู่ค่ะ ถึงพระเอกจะเป็นนักเรียนนักเลงแต่ก็รักพวกพ้องมาก และรักแบบมีเหตุผลอ่ะ มันไม่ใช่แบบเพื่อนไปเหยียบเท้าชาวบ้าน แล้วกร่าง โดนตบกะโหลกสั่งสอนกลับมา ก็มายกพวกไปแก้แค้น อันนี้ไม่ใช่มิตรภาพแล้วออกแนวยึดติดว่าตรูแน่ แก๊งตรูก็แน่ ต้องประกาศศักดา (เรียกง่าย ๆ ว่ากุ๊ยข้างถนนดี ๆ นี่เอง) จากคุณ : Furious+Rivery เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:16:12

ความคิดเห็นที่ 20 นึกถึงคำพูดในคุโรมาตี้เลย "พวกนายตีกันเพื่ออะไร เพื่อเอาไว้ระลึกถึงตอนที่เป็นผู้ใหญ่ว่า ครั้งหนึ่งฉันก็เคยเป็นเด็กเลว แค่นั้น? ช่างไร้ค่าเสียจริง" จำนิทานเรื่องสุนัขจิ้งจอกหางด้วนได้ไหมครับ คนพาลไม่มีอะไรดีจะเอาไปอวดคนอื่น จึงต้องพยายามนำเสนอความเลวแทน และเป่าหูให้คนอื่นคิดว่ามันดี มันเท่ เพื่อให้เลวเหมือนกันหมด ก็ทำนองเดียวกับพวกนักเลงอันธพาลครับ อีกอย่างพวกนักเรียนอันธพาลสมัยนี้ถือว่ากระจอกมาก ถ้าไม่มีพวก ไม่มีอาวุธ ก็ไม่กล้ากร่างหรอก ไม่เหมือนสมัยผม ตัว ๆ มือเปล่า ตีเสร็จจบไม่มีการเอาคืนทีหลัง จากคุณ : ตามนั้นครับ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:29:15

ความคิดเห็นที่ 21 อันนี้ต้องไปถามคนเขียนแล้วแหละครับว่าทำไมถึงนำเสนอการตีกันออกมาเป็น theme หลักซะหลายเรื่องเหลือเกิน ผมว่ายังมีประเด็นอื่นที่น่าเล่นกว่านะ เช่น yakuza เป็นต้น จากคุณ : pookpooi เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:38:15

ความคิดเห็นที่ 22 ถามอย่างกะบ้านเราไม่มีเด็กช่างไล่ตีกัน มันก็เหมือนบ้านเราน่ะแหละ พวกชอบโชว์พาว พวกเกเร ขาดความอบอุ่น พ่อแม่ไม่เหลียวแล จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 11:38:32

ความคิดเห็นที่ 24 ญี่ปุ่น เขาต่อยอดเป็นพวก ยากูซ่า ได้ ยังไงละครับ การ์ตูนแนวนี้เลยมีเยอะมาก จากคุณ : ตัวละครลับจริงๆนะ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:06:11

ความคิดเห็นที่ 25 ต่อยตีเพื่อปิดซ่อนความอ่อนแอของตัวเองค่ะ จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:34:40

ความคิดเห็นที่ 26 เคยถามคนญี่ปุ่นว่าพวกนักเรียนนักเลงแบบในการ์ตูนมีจริงป่าว เค้าบอกมีจริงๆ ทำหน้าจริงจัง ประมาณว่า Cool มาก ถามเค้าเวลาตีกันทำไง เค้าบอกพวกนี้เป็นแกงค์มอไซค์ขี่พวกฮาเล่ (แต่คงหมายถึงมอไซค์เครื่องใหญ่ๆมากกว่า) เวลามีเรื่องก็นัดมาต่อยกัน พบมากตามชนบท พอบอกเมืองไทยก็มี เอาปืนยิงกัน เขาก็ทำท่า โอ้ โนโนโน ญี่ปุ่นไม่มีปืน แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 12:51:41 จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 12:49:27

ความคิดเห็นที่ 27 นักเรียนนักเลงญี่ปุ่น เจอเด็กช่างกลไทยแล้วจะหนาว มีหมด มีด ดาบ ปืน ระเบิด  แล้วเอาถึงตายด้วย ไม่ใช่เลือดออกซิบๆแล้วมาเป็นเพื่อนกัน จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:10:00

ความคิดเห็นที่ 28 บ้านเราแย่กว่าอีก บางทีคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ โดนลูกหลงตายอนาถ พ่อแม่ก็ออกมาร้องไห้ ขอให้รายนี้เป็นรายสุดท้าย จากนั้นอีกไม่นานมันก็เกิดขึ้นอีก จากคุณ : skirmish เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:18:00

ความคิดเห็นที่ 29 มันเริ่มจาก สถาบันตัวเองยิ่งใหญ่ อย่าให้ใครมาดูถูก รุ่นพี่สั่งสอนมา พวกนั้นคู่อริระวังไว้ จีบหญิงคนเดียวกัน เขม่นอีกฝ่าย เมิงรุมเพื่อนกุ กุแทงเพื่อนเมิง เมิงยิงสวน กุหลบได้ สุดท้าย คนรอบข้างซวย จากคุณ : ohm121 เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:38:06

ความคิดเห็นที่ 30 เราว่าบ้านเราน่ากลัวกว่ามากค่ะ>_< จากคุณ : via iPhone (แมวเหมียวเริงร่า) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 13:50:01

ความคิดเห็นที่ 31 ก็วัยรุ่น จากคุณ : Mian_lover เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 14:24:26

ความคิดเห็นที่ 32 คิดถึงความรู้สึกฟินตอนอ่านคู่คนลุยเลอะแฮะ เหตุผลคือพอเป็นการ์ตูนมันก็สนุกจริงๆอ่ะถ้ามันสนุกมันก็สมควรได้พิมพ์! ส่วนเรื่องจริงมันเป็นสันชาตญาณล่ะมั้งไก่ก็ตีกันแย่งคุมฝูง หมาก็ประกาศอาณาเขตฯลฯ จากคุณ : mkhazard เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:21:44

ความคิดเห็นที่ 33 จากมุมมองของเด็ก  การเป็นนักเลงคือการส่งสารไปว่า ตนไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้ใหญ่"บังคับ"ครับ   เราจะสังเกตได้ว่า พอเด็กนักเรียนก้าวผ่านจากช่วง ม.ต้น ไปยัง ม.ปลาย ผู้ใหญ่รอบตัวเด็กจะเริ่มตั้งข้อเรียกร้องต่างๆจากเด็กอย่างที่ไม่เป็นมาก่อน ตัวอย่างประเด็นที่เห็นชัดๆก็คือเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย และการเลือกคณะเรียน ด้วยความหวังดี ผู้ใหญ่จะพยายามวางกรอบให้แก่เด็กว่า จงเข้าเรียนคณะยอดนิยม ในมหาวิทยาลัยดังๆ แล้วชีวิตจะมีความสุข (พอเด็กเรียนจบ ผู้ใหญ่ก็จะเสริมต่อไปว่า จงไปต่อโท จงไปต่อนอก จงไปทำงานในบริษัทใหญ่รายได้สูง เพิ่มไปอีก)   เพื่อให้เด็กคล้อยตาม ผู้ใหญ่บางคนจะใช้วาทะกรรมเกี่ยวกับความสำเร็จ ความล้มเหลว มาพูดให้เด็กฟังเรื่อยๆ จากเดิมที่ไม่ค่อยได้ยินมามากนักในช่วง ม.ต้น   ผู้ใหญ่บางคนก็จะนำภาษารุนแรงมาใช้ในวาทะกรรมของตน มีการแบ่งแยกชนชั้นอาชีพ แบ่งแยกชนชั้นสถาบันรุนแรงมากขึ้น  ตอนผมสมัยเรียนม.ปลาย มี อ. คนหนึ่งตอนสอนเห็นภารโรงเดินผ่านห้องไป ก็พูดกับนักเรียนว่า "ถ้าพวกแกไม่ตั้งใจ พวกแกก็เป็นได้แค่ตาลุงนั่น"  ตอนช่วงหนึ่งไปกวดวิชากับ อ.เวอร์โก้ ชากะ (อ.ชื่อดังท่านหนึ่งในสมัยนั้น) ตอนสอน อ. ท่านจะด่ากราดเด็กไว้ก่อนว่างี่เง่า ขี้เกียจ จั-ไร  เพื่อให้เด็กเกิดแรงฮึดตั้งใจสอบ entrance (แต่ อ.บางท่านเช่น อ. จินตหรา หุ่นAndroid ก็เลือกไม่ใช้ภาษารุนแรง แต่จะจูงใจนักเรียนด้วยการพูดถึงหลักคุณธรรม  ความกตัญญู ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและน่านับถือครับ ) ในช่วงนี้เด็กจำนวนหนึ่ง ก็จะถูกกดดันย้ายไปเรียนสายวิชายอดนิยม (วิทย์-คณิต) โดยไม่ดูความถนัดของเด็ก ทำให้หลายคนเกรดร่วงลงมาถล่มทลาย  อย่างผมเองตอน ป.1 ถึงจบ ม.ต้น ได้รางวัลเรียนดีทุกปี ลำดับที่ไม่น่าเกินที่ 15 ของห้อง แต่พอย้ายมา ม.ปลาย เรียนห้องท็อป เกรดเหลือ 2 ปลายๆ กลายเป็น 1 ใน 10 ท็อปบ๊วยของห้อง แน่นอน เหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ย่อมทำให้เด็กทั้งหลายไม่สบายใจ และรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตอย่างที่ไม่เป็นมาก่อน ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการรับมือที่แตกต่างกันไป เด็กบางส่วนเลือกที่จะ"ยอม" ยอมเชื่อฟังและทำตามคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ เพราะเห็นว่าถ้าทำตามแล้วตนเองจะปลอดภัย  ถ้าทำไม่สำเร็จ ก็จะำพยายามใหม่ หรือไม่ก็โทษว่ามาจากความบกพร่องของคัวเอง  แม้ว่าในบางกรณี มันเป็นเพราะว่ามันไม่ใช่ทางของเราก็ตาม เด็กบางกลุ่มเลือกที่ "ไม่สน" ตัดสินใจแสวงหาเส้นทางชีวิตด้วยตัวเอง ไปตามจังหวะของตัวเอง  ยอมน้อมรับทั้งความสำเร็จ ความล้มเหลวจากสิ่งที่ตัวเองเลือก แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับฟังจากกระแสหลักบ้าง ถ้าไปด้วยกันได้ก็ทำตาม ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ก็ไม่สน เด็กบางกลุ่มเลือกที่จะ "ต่อต้าน" เพราะรู้สึกว่าตัวเองอยู่ดีๆ ก็โดนโลกของผู้ใหญ่เข้ามาบังคับ เลยตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตตรงข้ามกับบรรทัดฐานของสังคมเท่าที่ทำได้  (แม้ว่าจริงๆแล้ว มันจะไม่ work เพราะท้ายที่สุดก็เป็นการสร้างกรอบที่ตรงกันข้ามไว้ขังตัวเอง) เด็กที่เลือกเป็นนักเลงจะจัดอยู่ในส่วนที่สามครับ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 55 15:50:03 จากคุณ : the scholar เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:39:24

ความคิดเห็นที่ 34 เพราะวัยรุ่นพลังงานมันเหลือเฟือ จากคุณ : garnet19th เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 15:52:26

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าผู้ชายเดี่ยวๆกันตัวต่อตัว ผมพอจะเรียกว่านักเลง แต่ถ้าพกอาวุธมาตีกัน โดยเฉพาะอีกฝ่ายมือเปล่า ผมเรียก "กุ๊ย" ครับถือว่าน่าสมเพชที่สุด ไร้ศักดิ์ศรี จากคุณ : Waiyakon เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 18:18:01

ความคิดเห็นที่ 36 ผมอยากเห็นนักเลงไทยตีกับนักเลงญี่ปุ่น ให้โลกได้รู้จักแกงป่าปลาดุก จากคุณ : picassoinhell เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 55 19:20:52

ความคิดเห็นที่ 38 ของไทยเลวกว่ามากครับ ของญี่ปุ่นเค้าจะยึดมั่นในศักดิ์ศรีของตัวเองมาก คือจะวัดแพ้ชนะด้วยฝีมือกันล้วนๆ ในใช้มีดนี่ถือว่าโคตรจะขี้ขลาดและถูกประนาณมันกันเลย ปืนนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เป็นของหายากและเป็นของที่ผิดกฎหมายร้ายแรงมาก ใครมีไว้ครอบครองนี่ติดคุกหัวโตเลย(พวกยากูซ่าญี่ปุ่นมันถึงไม่ค่อยใช้ปืนกันเท่าไหร่) ส่วนของไทยน่ะเหรอ ขอแค่ให้มันตายก็พอแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม สวะชัดๆ จากคุณ : ศิษย์เผยอิง เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 01:32:56

ความคิดเห็นที่ 39 ลองอ่านเรื่อง arakure knight ดู น่าจะเข้าใจว่ามำไม จากคุณ : สนุกนะ (ii-on) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 55 23:07:12

ความคิดเห็นที่ 40 ทำความเข้าใจซะใหม่นะ จขกท.ลองไปถามเด็กช่างกลดูก็ได้ จะได้ไม่โดนด่าว่ากระแดะโลกสวย จากคุณ : Trisha Foster เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 00:00:48

ความคิดเห็นที่ 41 แหมก็การ์ตูนนี่คะ เค้าก็ต้องดึงเอาเรื่องที่น่าสนใจมาเขียน อย่างที่ว่าเรื่องรัก ซึ่งก็เป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกคนสนใจ เรื่องนร.ตีกันมันก็ เป็นจุดบอดสะท้อนสังคมไงคะ มันมีประเด็นมาให้หยิบยกมาเขียนได้เยอะไง แล้วใครเล่าจะเอาเรื่อง ชีวิตของนร.ธรรมดาในวันหนึ่งๆ ทั่วไปมาเขียนล่ะคะ ส่วนที่ถามว่าทำไมนร.ต้องตีกัน ก็ต้องลองไปถามพวกนร.เทคนิคดูนะ มันมีกันทุกประเทศนั่นแหละอยู่ที่ความรุนแรงและรูปแบบ มันก็เป็นผลมาจากปัญหาครอบครัวซะส่วนใหญ่นะคะเราว่า แต่เราว่าปัญหาใหญ่ของนร.ญี่ปุ่นไม่น่าจะใช่การตีกันแบบนร.ไทยค่ะ มันออกจะเชยแล้วค่ะ มันน่าจะเป็นปัญหาการแกล้งกันซะมากกว่า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียวที่ญี่ปุ่นก็ปวดเฮดอยู่มิใช่น้อย เพราะมันค่อนข้างรุนแรงค่ะอย่างล่าสุดเมื่อไม่นานมีข่าวที่ดังมากราวๆ สองสามเดือนก่อนที่มีเด็กที่ถูกแกล้งจนต้องฆ่าตัวตายแต่โรงเรียนปิดข่าวไว้แต่สุดท้ายเรื่องก็แดงข่าวดังอยู่เป็นอาทิตย์เลยค่ะ จากคุณ : livchan เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 55 01:50:47