ความคิดเห็นที่ 1 บางคนก็ไม่เก่งงานเขียน แต่เก่งด้านการถ่ายทอดงานเขียนให้เป็นละคร หรือภาพยนตร์ ก็มองกลับกันนั้นล่ะ ทำคนเขียนบทบ้างคน ถึงไม่กำกับเองเลยล่ะ จากคุณ : What แปลว่า อะไร เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 10:32:32

ความคิดเห็นที่ 2 เก่งคนละอย่างครับ ผกก.อาจไม่เก่งเขียนบท แล้วหนังที่ออกมาก็ขึ้นอยู่กับผกก. เพราะบทมันก็แค่ตัวหนังสือจะตีความตัวหนังสือยังไงอยู่ที่ผกก. แถมผกก.หลายคนยังกำกับไปเปลี่ยนบทไปก็มี จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 10:41:20

ความคิดเห็นที่ 3 (จขกท.) ไม่รู้สิครับ คือผมเข้าใจว่าบทภาพยนตร์ กับงานนิยายต้นฉบับมันคนละอย่างกันอะ คือตัวบทเหมือนจะกำหนดมุมกล้องและลำดับเรื่อง(ซึ่งจะไปส่งผลถึงการตัดต่อ) แล้วถ้าให้คนอื่นเขียน มันก็มาจากความคิดคนเขียนสิ ผกก.ก็แค่ถือโพย แล้วสั่งๆ สั่งตากล้องขอมุมกล้องนี้ สั่งช่างตัดต่อว่าเอาตามลำดับนี้ (ซึ่งไม่ได้คิดเองหรอก มันมีในบทแล้ว) แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 55 10:51:37 จากคุณ : aditus เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 10:41:42

ความคิดเห็นที่ 4 บางคนก็เขียนเอง แต่หลาย ๆ คนจะเก่งในแง่ของการถ่ายทอดจินตนาการของคนเขียนบทมากกว่าต้องคิดและเขียนเองครับ ผมว่าผู้กำกับคือผู้ตีความบทอีกทีครับ ไม่ใช่คนที่จะคิดแผนทั้งหมดของละครหรือภาพยนตร์ ผมว่ากระบวนการมันประมาณนี้ ผู้จัดคิดกรอบก่อนว่าต้องการให้เรื่องออกมายังไง ตีความแบบไหน >>> คนเขียนบทสนองความต้องการของผู้จัด จัดบทมาให้ตามที่เค้าทำกรอบไว้ >>> ผู้กำกับตีความจากบทว่านักแสดงจะต้องแสดงอย่างไรตามบทที่ให้มานี้ อาจจะต้องคุยกันกับผู้จัดและคนเขียนบทเพื่อให้เข้าใจตรงกันด้วย จากคุณ : Canon in Science Major เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 10:41:49

ความคิดเห็นที่ 5 จขกท ก็เข้าใจถูกแล้วนิครับ "ผกก.คือผู้ที่ถ่ายทอดจินตนาการและสื่อสารให้คนดูออกมาทางภาพยนตร์"  จะเขียนเองหรือจะเอาเรื่องที่แต่งแล้วมาทำเป็นหนังก็ได้ครับ แล้วแต่ว่าผกก ถนัดเขียนเรื่อหรือเปล่า  แต่ถ้าเอาเนื้อเรื่องที่มันประสบความสำเร็จมาแล้วว มันจะลดความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวของเนื้อเรื่องได้ครับอย่างเช่น แฮรี่พอตเตอร์ ลอดออฟเดอะริงค์ ที่เนื้อเรื่องมันประสบความสำเร็จมาแล้ว ผกกก็แค่ดึงเอาส่วนที่คนอ่านชอบจากในเนื้อเรื่องเอามาลงในหนัง ใส่จินตนาการ ผกก ลงไป พระเอกควรหน้าตาเป็นังไง ตัวโกงหน้าตาเป็นยังไง ภาพฉากควรมีโทนสีอะไร จากคุณ : อยากกินตับ (อยากกินตับ) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 10:45:19

ความคิดเห็นที่ 6 ผมหมายถึงตัวบทภาพยนตร์นะครับ (กับนิยายต้นฉบับคนคงละอย่างกัน) ยิ่งเรื่องที่ไม่มีนิยายต้นฉบับยิ่งแล้วใหญ่ ผกก.หลายคนก็ไม่เขียนเองเลย รอกำกับอย่างเดียว จากคุณ : aditus เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 10:50:38

ความคิดเห็นที่ 7 ทำหน้าที่คนละอย่างครับ คนเขียนบทก็ดูเรื่องบท แต่ผู้กำกับจะดูภาพรวมทั้งหมดและถ่ายทอดออกมาเป็นหนัง ผู้จัดการร้านอาหาร ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นพ่อครัวด้วย จากคุณ : Gusbell ครับผม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 11:02:12

ความคิดเห็นที่ 8 ปกติ บทที่เขียนจะไม่บอกมุมกล้องอะไรมากครับ..ผู้กำกับจะเอาบท มาเขียนเป็นบทสำหรับการถ่ายทำ เรียกว่า shooting script ครับ..เป็นบทที่วางมุมกล้องต่างๆ ครับ จากคุณ : เกี๊ยวหมู (เกี๊ยวหมู) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 11:14:53

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ คห.8 นี่แหล่ะ คีย์คำตอบ ที่ผมสงสัย ห้าๆๆ ปล. แล้วไอ้เจ้าชูตติ้ง สคริปนี้ ผกก.เขียนเองเลยใช่มั้ยครับ จากคุณ : aditus เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 11:20:33

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ส่วนมากมีผู้ช่วยครับ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 11:41:51

ความคิดเห็นที่ 11 แบ่งงานกันทำ จากคุณ : คนเดียวไม่เหงาเท่าสองคน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 12:08:36

ความคิดเห็นที่ 12 คนเราไม่ได้เก่งทุกอย่าง ไม่/ด้เขียรบทเอง เหมือนนักร้องบางคนที่ไม่ได้เขียนเพลงเองเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 55 13:16:22 จากคุณ : glorious เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 13:15:30

ความคิดเห็นที่ 13 ขี้เกียจ ไม่มีเวลา ได้เงินน้อยกว่า เสียเวลา เอาเวลาไปกำกับดีกว่า กระจายรายได้ไปให้คนอื่นบ้าง ผู้อำนวยการสร้างไม่ได้จ้างให้เขียน จ้างให้กำกับอย่างเดียว ฯลฯ จากคุณ : ฉลาดหน้าตาดีมีเงินใช้ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 13:16:19

ความคิดเห็นที่ 14 บทภาพยนตร์ส่วนมากจะเป็นแค่พล็อตเรื่องหลักๆ ใช้เล่าเรื่องราวว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ซึ่งเป็นเหมือนบทสรุปเนื้อเรื่องคร่าวๆครับ นักเขียนบทจะเขียนบทมาเสนอ และถ้า ผกก. ตกลงกำกับ ก็ต้องเอาไอ้ที่เขียนไว้มาแตกเป็นสตอรี่บอร์ด เป็นเหมือนภาพประกอบเรื่องราวบรรยาย มีมุมกล้องคร่าวๆ แบ่งลำดับเหตุการณ์ กำหนดว่าฉากไหนมีอะไรบ้าง มีตัวละครกี่ตัว ท้ายที่สุดก็จะมี ชู้ตติ้งบอร์ด อีก(แต่ในเมืองไทย อาจารย์บอกว่าส่วนใหญ่จะเขียนสอตร์รี่บอร์ดกับชู้ตติ้งบอร์ดรวมกันไปเลย ประหยัดเวลา) ซึ่งชู้ตติ้งบอร์ดจะมีความละเอียดสูงกว่าสตอร์รี่บอร์ดเพราะจะกำหนดเกือบทุกการเคลื่อนไหว กล้องขยับยังไง ซุมเข้าซูมออก โดยความละเอียดของชู้ตติ้งบอร์ดนั้นแทบจะสามารถเอาเย็บเล่มทำเป็นสมุดภาพสรุปเนื้อเรื่องของหนังได้เลย นักเขียนบทอาจจะคิดเนื้อเรื่องเก่ง แต่อาจจะไม่คล่องเรื่องกำกับมุมมกล้อง ฉากไหนกินระยะเวลาเท่าไหร่ หรือด้วยความยาวของตัวหนังควรจะตัดส่วนไหนให้กระชับบ้าง ซึ่งผู้กำกับก็จะหาคนมาทำงานตรงนี้ และคอยตรวจว่าเหมาะสมหรือไม่(ทำให้บางทีมีปัญหาทะเลาะกันเองในกลุ่มไงครับ ประมาณว่า "ตรงนี้ห้ามตัดนะ!!" "ส่วนนี้จะเก็บไว้ทำไม!!" "ย่อแบบนี้เนื้อเรื่องเสียหมด!" ทำนองนั้น) จากคุณ : ธารน้ำไพรกว้าง เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 14:08:12

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท.ต้องคิดว่า การเขียนบทมันเป็นสิ่งทำกันได้ง่ายๆแน่ๆเลย คนเรา ถนัดไม่เท่ากัน  ถึงต้องจ่ายหน้าที่กันตามความถนัด จะว่าไป คนเขียนบท ก็สามารถกำหนดมุมกล้องได้นะคะ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของผกก.หรือผู้ช่วยอย่างเดียว แล้วแต่ว่าเค้าต้องการระบุอะไรแค่ไหน การเขียนบทที่ดี มันทำยาก  และถ้าบทไหนที่เขียนแล้ว ผุ้กำกับอุทานด้วยความทึ่ง  ว่า เฮ้ย มันคิดได้ยังไงวะ  หนังก็ประสบผลสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว จากคุณ : หวานตาลเฉาะ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 14:27:26

ความคิดเห็นที่ 16 พจ อานนท์คงไม่้ต้องจ้างคนทำบทสินะ จากคุณ : Home_Nature เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 15:02:56

ความคิดเห็นที่ 17 การเขียนบทภาพยนต์ ( ที่ดี ) เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจบ้าง ประสบการณ์บ้าง เรื่องจริงบ้าง และ ความสามารถในจินตนาการบ้าง หรือแม้แต่ประสบการณ์จากการทำหนังมาหลายๆเรื่อง นำมาผูกเป็นเรื่องราวการถ่ายทอด คนเขียนบทหนังที่แย่ๆ ก็เยอะนะครับ ผู้กำกับ มีผู้ช่วยหลายคน ทั้งด้านเสื้อผ้า อาร์ท กล้อง สตอรี่บอร์ด บทภาพยนต์ แสง สี เสียง ผู้กำกับใหญ่ต้องงานหนักมากที่จะต้องรู้ทุกอย่าง แต่ไม่ทำเองทุกอย่าง เพราะมันจะออกมาจากมิติเดียวน่ะสิครับ อย่างผมกับ จขกท อาจจะเขียนบทหนังดีๆได้ แต่กำกับ ไม่ได้หรอกครับ เพราะไม่เคย ไม่รู้เรื่อง แต่เราไปบอกผู้กำกับได้ว่า บทที่เราเขียนน่ะ เรารู้สึกกับตัวละครและเหตุการณ์ยังไง ผู้กำกับเก่งๆ ก็จะทำออกมาได้ใกล้เคียง เหมือนอ่านแฮรี่พอตเตอร์ แล้วไปดูในภาคแรกน่ะครับ รู้สึกเออ มันเหมือนหนังสือที่จินตนาการไว้เลย จากคุณ : The Returner เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 16:33:38

ความคิดเห็นที่ 18 ผมดุหนังไทยมาหลายเรื่อง.... พบว่า หนังไทย....ไม่สมเหตุสมผลในความเป็นจริง..... เช่น... ความในใจ..ขอบพูดเสียงดังคุยกับตัวเอง...(เหมือนคนบ้า..ในความเป็นจริงมีแต่คิดในใจทั้งนั้น) หรือ...เกือบทุกเรื่อง จะบังเอิ๊ญบังเอิญให้นางเอกหกล้ม แล้วให้พระเอกเข้าไปประคองทันแล้วสบตาหวานเชื่อมใส่กัน.. และอีกหลายๆอย่าง.. อย่างนี้ต้องโทษ คนเขียนบท...หรือ ผู้กำกับดีครับ..... จากคุณ : คนไทย (HotBlog) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 18:56:31

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนใหญ่ สตูดิโอจะคุยกับคนเขียนบท ผู้อำนวยการสร้าง แล้วค่อยหาผู้กำกับไม่ใช่เรอะ จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 21:07:16

ความคิดเห็นที่ 20 จากประสปการณ์ของตัวเอง เปรียบเทียบกับการดูอะไรใกล้มากๆ เราจะเห็นภาพรวมไม่ชัด ผู้กำกับ จึงเป็นคนที่มีหน้าที ถอยออกมาดูภาพรวม อาจมีบางเวลาที่ต้องเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อปรับให้มันออกมากลมกลืนเมื่ออยู่ในภาพรวม ลองทดลองกับตัวเอง่ายๆ โดยมองใกล้ๆ กับ มองรวมๆ จะเห็นความแตกต่างทั้งผลดี และ ผลเสีย ผู้กำกับเก่งไม่เก่งวัดกันที่ จะเห็นความแตกต่างในแต่ละจุด ได้แค่ไหนนั่นแหละครับ เข่นกัน ผู้กำกับส่วนมากที่เขียนบทและกำกับเอง ส่วนมากหนังจะมีความเป็นส่วนตัวสูง ดูได้จากการทดลองมองอะไรใกล้ๆ เช่นกัน ผู้กำกับส่วนมากที่เป็นมือปืนรับจ้าง ส่วนมากหนังจะมีความเป็นส่วนรวมสูง ดูได้จากการทดลองมองอะไรไกลๆ สุดท้ายคนดูเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ทุกอย่างโดยไม่รู้ตัวครับ มีคำพูดเล่นๆกันว่า อยากรู้ว่าคนส่วนมากประเทศไหนเป็นยังไง ให้ดูที่หนังหรือละครที่ได้รับความนิยมของประเทศนั้นๆ ว่าเป็นแบบนไหน จากคุณ : 7 LOGIN เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:23:32

ความคิดเห็นที่ 21 เขียนบทเก่งๆ มันยากนะ ผกก.ที่เขียนบทเก่งด้วย ในวงการฮอลีวู้ดก็มีหลายคนแต่ไม่นับว่ามากมายเลยครับ จากคุณ : FIndinGBeautYINNegativESpacES เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 55 22:33:45

ความคิดเห็นที่ 22 ศึกษาหนังลุง วู้ดดี้ อัลเลน ส่วนใหญ่จะเขียนบทเอง งานเด่นยุคหลังMatch Point (2005) จากคุณ : jumpkaka เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 00:40:16

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่า คนเขียนบท เขามองเหตุการณ์ในฉากแบบ 360 องศาครับ แต่ผกก คือผู้ที่ต้องเลือกมุมดีๆ มานำเสนอครับ จากคุณ : อธติ23 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 13:53:09

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนหนึ่งก็มาจากว่า ผู้กำกับ ขี้เกียจเขียนเอง เชื่อปะล่ะ 555555555555555 ยังไงก้ตามแต่ ถ้าผู้กำกับ ต้องเขียนบทเอง งั้นถามกลับ แล้วทำไมคนเขียนบทไม่กำกับเอง? ตอบมาสิ จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 14:05:50

ความคิดเห็นที่ 25 มันแล้วแต่ความถนัดมั้งคะ ผกก.บางคน ถนัดสองทาง บางคนถนัดทางเดียว คือ ฝ่ายงานบท มันจะเน้นไปทาง ผลิตความคิด-สร้างสรรค์จินตนาการ คือต้นกำเนิดจินตนาการ มันต้องมาจากการเขียนก่อน ส่วนงานกำกับ มันต้องเน้นไปที่ ลงมือทำให้งานชิ้นนั้นๆบังเกิดออกมาบนจอให้ได้ตามจินตนาการนั้นๆ ผู้เขียนบางคน ก็ไม่มีความสามารถ ในการลงงานภาคสนาม เช่นว่า ไม่สามารถทำให้นักแสดงถ่ายทอดออกมาได้ตามบทนั้นๆ ไม่รู้จะบิ้วเขายังไง อะไรงี้ หรือว่า ไม่สามารถอธิบายและสั่งงานผกก.ภาพได้ว่า ชั้นต้องการให้ได้ฟิลแบบนี้ ควรได้ภาพแบบไหนมา ไม่รู้เลยว่า จัดแสงอย่างนี้ มันใช่มั้ย หรืออาจรวมไปถึง ผู้เขียนหลายคน ก็ไม่ทราบจะทำไง ถ้าฝนตั้งเค้ามาแล้ว ให้ใครปักตระไคร้ดี เป็นต้น.... ผู้กำกับ ก็หลายคนเช่นกัน ที่ไม่มีความถนัดในงาน"ผลิตความคิดต้นแบบ" คือ ไม่ถนัดจะคิดว่า เอ ไอ้ตัวนี้ จะไปรักกับตัวนี้ จะผ่านอุปสรรคอะไรแค่ไหนอย่างไรดี ให้คนดูลุ้นจิกหมอน อะไรงี้ คิดไม่ออก งั้นเอามุกเดิม ตามเรื่องที่แล้วละกัน ตันอ่ะ 555 แต่ผกก. จะร้องอ๋อทันที เมื่อเห็นบทคลอดออกมาแล้ว ว่าอ้อ นักเขียนว่ามางี้ รู้แล้วๆๆ ว่าจะถ่ายยังไง จะให้ใครเล่น แล้วจะให้เล่นอย่างไรดี รวมไปถึง เพลงล่ะ แนวนี้ เลือกใครมาทำเพลงเรื่องนี้ดี บลาๆๆ แต่ก็มีผกก. ที่เก่งครบทั้งสองด้านเหมือนกัน ซึ่ง ก็สามารถทำงานสองด้านไปได้เลยในเรื่องเดียวกัน แต่....หลายครั้ง ก็อาจจะเป๋ได้ด้วย เช่นว่า ตัวได้เขียนมาซะเยอะเลย แต่พองานรวมออกมา จริงๆถ้ามองด้วยสายตาผกก. ควรสั่งตัดทิ้งส่วนงอกเลอะเทอะย้วยยืดออกไปจะดีกว่า ไทมมิ่งมันไม่สวย แต่ ด้วยความที่ตนคือผู้เขียนบทเองกับมือ จึงเหมือนสวมหมวกหลายใบ มันก็อาจจะขาดการตัดสินใจที่มีความเฉียบขาดไปก็ย่อมได้ ทำนองนั้นมั้งคะ ^^ จากคุณ : 007-s เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 15:26:09

ความคิดเห็นที่ 26 . ฟังดูเหมือน จขกท. คิดว่า งานกำกับภาพยนตร์เป็นงานง่ายๆ แค่สั่งคนอื่นให้ทำตามบทนะ เอ่อ.. มันไม่ใช่นะ แล้วโดยระบบ มันก็ไม่ได้ต่างการระบบงานอื่นๆ หรอก ที่มี หัวหน้า ลูกน้อง ถ้าคุณคิดว่า งานทุกอย่างมันมาจากผู้กำกับ ถ้าผุ้กำกับไม่ได้เป็นคนคิดมาตั้งแต่บท มันก็ไม่ใช่งานที่ออกมาจากความคิดผู้กำกับ ถ้าคิดงั้นก็ผิดแล้วล่ะ เพราชื่อตำแหน่งหน้าที่ในการทำงาน มันก็มีอยู่แล้วว่าใครทำอะไร . . จากคุณ : last_february เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 12:42:12

ความคิดเห็นที่ 27 เพราะคนที่จะทำงานระดับนั้นได้ ต้องเป็นคนที่เก่งแบบสุดๆครับ คิดเรื่อง เรียบเรียง ถ่ายทอด จากคุณ : PsychicSpy เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 23:16:33