ใครหลาย ๆ คน คงแปลกใจบ้าง..ที่เราได้กำเนิดมาบนโลกใบนี้ แล้วพบปะผู้คนหลากหลายซะเหลือเกิน..นี่คงเป็นลิขิตอย่างหนึ่ง แล้วจะมีใครคิดบ้างมั้ยว่า..ทำไม..กับใครสักคนหนึ่ง..เราถึงมีความรู้สึกดีดีและมิตรภาพที่สวยงาม..มอบให้ทั้งที่เราอาจจะยังไม่รู้จักเขาดีพอเลย...
สำหรับฉัน..มันไม่ใช่เรื่องแปลกประการใดเลย..ด้วยเพราะฉันคิดเพียงว่า..ความรู้สึกเช่นนั้น...เป็นสิ่งที่สวยงาม..ที่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง...อาจจะเป็น section หนึ่งของการลิขิตที่ได้มอบให้เรามีหน้าที่ต้องดูแล..นั่นเอง..ที่ฉันจะบอกว่า... เมื่อความรู้สึกนั้นได้ก้าวเข้ามาหาเราแล้ว...เสมือนว่าเราได้ถูกกำหนดให้ต้องรับรู้และรับไว้ในฐานะของผู้รับอย่างสมบูรณ์
.นี่คือประการแรกของเรา..ส่วนประการต่อไปก็ขึ้นอยู่กับว่า..เราพินิจพิเคราะห์แล้วว่าสมควรจะให้มีความต่อไปมั้ย...ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกเช่นกัน...เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึก
.ความรู้สึกต่าง ๆ จะบอกเราได้เองว่าเราควรทำเช่นไร...นั่นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลเอง
คนเราโดยพื้นฐานแล้ว..มักจะทำอะไรตามแต่ใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง
สิ่งนี้ไม่ใช่ความผิดประการใด..เพียงแต่ว่า..เราต้องพึงคิดบ้างว่า..ในเมื่อใคร ๆ ต่างก็ทำตามแต่ใจของตัวเองแล้ว
เรื่องทุก ๆ เรื่องมันจะเป็นเช่นไร
จะมีใครบ้างมั้ย..ที่คิดและคำนึงถึงแค่ว่า
สัมพันธภาพที่ดี
..ควรดำรงอยู่ภายใต้ความรู้สึกที่ดี
.โดยไม่ให้คำว่า..อึดอัด..มาขัดขวางกันและกัน..เพียงแค่เรา
."พบกันครึ่งทาง"..นี่ก็เป็นทางหนึ่งที่จัดได้ว่าไม่เลวเลยทีเดียว
การพบกันครึ่งทาง
มีนิยามตามความเห็นของฉันนะ
เป็นการแบ่งปันความรู้สึกบางส่วน..ไม่ใช่ทั้งหมด
เป็นการให้ที่ทำให้รู้สึกดี..รู้สึกว่าสิ่งที่ได้ให้ไป..ทั้งเราและคนที่เราให้..ไม่รู้สึกอึดอัด..สบายใจ..สบายสมอง..ไม่เกรงต่อกันในทางสัมพันธภาพใด ๆ ทั้งสิ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่พึ่งจะมีให้กันและกันเสมอคือ
"จุดยืนของความรู้สึกดีดี"
เพราะภายใต้เงื่อนไขใด ๆ ทั้งมวล..จะไม่เป็นการดีได้เลยถ้าเราไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเอง
เสมือนเราขาดหลักในตัวเองและจะทำให้..ผู้ที่เรามอบความรู้สึกดีดีให้..ขาดความมั่นใจในตัวของเราด้วย
อีกประการหนึ่ง..ที่ใคร ๆ มักจะมองข้ามเสมอ ๆ ..นั่นก็คือ..การยอมรับในตัวตนทั้งของตัวเองและผู้ที่เราจะมอบความรู้สึกให้..สิ่งนี้อาจมีใครมองว่ามันเล็กน้อย
แต่เชื่อมั้ยว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย..แล้วก็มีน้อยคนมากที่จะทำได้
การยอมรับในตัวตน..ไม่ใช่เป็นการยอมรับเพียงแค่..สิ่งที่มองเห็นด้วยตา
แต่เป็นการยอมรับสิ่งที่อยู่ภายใน
ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาได้จะต้อง..ใช้เวลา..ใช้ความรู้สึกมอง..การมองและยอมรับนี้..ไม่ใช่ การจับผิด หรือ ค้นหา สิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น.. แต่เป็นการใช้ความรู้สึกของตัวเอง..เพื่อให้บอกว่า
ยอมรับได้ในทุก ๆ อย่างที่เขาเป็นอยู่
เพราะนั่นคือ..ผู้หนึ่งซึ่งมาพร้อมสิ่งที่สวยงามที่สุดของเราแล้ว
ถ้าคิดได้เช่นนั้น..ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร...เราจะมีพื้นฐานที่ทำให้เราระลึกได้ว่า..เรามีจุดยืนของความรู้สึกเป็นของตัวเองแล้ว
ฉะนั้น
เมื่อใดก็ตามที่มีความรู้สึกดีดีเช่นนั้น
เราควรจะรู้ตัวเองได้แล้วว่า..นี่เป็นสิ่งที่พิเศษและสวยงามที่เราไม่อยากให้มันต้องหายไปอย่างแน่นอน..เราจะเก็บรักษาไว้..ด้วยความรู้สึกที่ดีดีเช่นกัน..
สิ่งที่สวยงามที่ได้มา..ไม่ใช่การร้องขอ..ไม่ใช่การรอรับไม่ใช่เพียงแค่ให้
แต่เป็นทุกอย่าง
ทุก ๆ สิ่งที่ดีดีจะต้องทั้ง give และ get
ไม่ใช่ตลอดเวลา..แค่เพียง บ้าง..บางครั้ง..เพื่อให้รู้สึกดี ๆ กันและกัน
ความสวยงามของความรู้สึก..จะไม่เป็นไปได้เลยถ้า
ไม่มีจุดสุดท้าย
วันหนึ่งถ้ามีความรู้สึกดีดีที่มาพร้อมกับมิตรภาพที่สดใส
ขอให้รู้ว่า..มันเป็นสิ่งที่วิเศษ
รักษามันไว้ด้วยความรู้สึกดีดีเช่นกัน
.
คำว่า ใช่ กับ คนที่ใช่ หาได้ไม่ยากนัก..แต่คำว่า เป็น กับ คนที่เป็น นั้นหายากมากกว่า
เพราะ คนที่ใช่ อาจจะใช่เพียงแค่เสี้ยวเวลาหนึ่ง..แต่ คนที่เป็น นี่สิ..เพราะกว่าจะเป็นได้..ทั้งเป็นทุกอย่าง..เป็นตลอด..เป็นเสมอ..และเป็นทุกความรู้สึกนั้น..จะเป็นโดยไม่จำกัดช่วงเวลา
เพราะฉะนั้น
ให้เวลากับตัวเอง..และผู้นั้น
เพื่อที่จะมีสักวันหนึ่ง..คนที่เป็น จะมีตัวตนจริง ๆ และจะเป็นจริง ๆ สำหรับเราเสมอ
โอกาสอาจมีเข้ามาได้บ่อย ๆ
แล้วเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า..โอกาสไหนจะเป็นของเรา
ให้เวลาและความรู้สึกเป็นเครื่องวัด..
สิ่งเหล่านี้..ส่ามารถใช้ได้กับทุก ๆ มิตรภาพและความรู้สึกดีดี
ไม่มีจำกัด
โดย
รันรอน