ทำท่าจะเป็นเพียงคลื่นกระทบฝั่งที่ซัดเข้าหาหาดทรายหรือโขดหินโสโครกแล้วก็ไหลคืนกลับลงสู่ทะเลดังเดิม...
กับกระแสเรียกร้องของคนในแวดวงวิชาชีพสื่อสารมวลชน ที่มีต่อ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง ให้ลาออกจากการทำหน้าที่สื่อมวลชน
เช่นเดียวกับที่ ภาคีเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่น จะออกมาเรียกร้องให้บรรดาสปอนเซอร์ ซึ่งเป็นภาคเอกชนรายใหญ่ ๆ ถอนตัวจากการเป็นผู้สนับสนุนรายการที่นายสรยุทธเป็นพิธีกร ซึ่งก็ไม่มีเสียงตอบรับจากบริษัทเอกชนเหล่านี้
ไม่ต่างกับที่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จาก เจ้าของสถานีโทรทัศน์ต้นสังกัด ที่นายสรยุทธดำเนินรายการอยู่
สุดท้ายจึงมาลงเอยที่นายสรยุทธยื่นจดหมายแสดงความจำนงขอลาออกจากการเป็น สมาชิกวิสามัญ ของ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย...
แต่เอวังเสียจริง ๆ ที่ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กลับไม่เห็นมีท่าทีใด ๆ ต่อเรื่องนี้เลย...???
ต้องไม่ลืมว่า การที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้อัยการดำเนินคดีอาญากับ นายสรยุทธและพวก รวมถึง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่นายสรยุทธเป็นเจ้าของ
เนื่องด้วยกระทำความผิด ฐานสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ อสมท ไม่ต้องรายงานการโฆษณาเกินเวลาที่กำหนดในสัญญา เป็นเหตุให้ อสมทได้รับความเสียหายมากถึง 138,790,000 บาทนั้น
แม้ว่าบริษัทไร่ส้มจะยินยอมชำระค่าโฆษณาเกินเวลาดังกล่าวแล้วก็ตาม...
แต่ภาษากฎหมายเรียกว่า ความผิดสำเร็จแล้ว...
ส่วนจะต้องโทษอาญาหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันในชั้นศาลต่อไป...!!!
ทว่าความผิดอาญาที่เกิดขึ้นชัดเจนว่า เป็นผลมาจากเรื่อง ประโยชน์ทางธุรกิจล้วน ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย...!!!
เพียงแต่คนในแวดวงวิชาชีพสื่อสารมวลชนและคนที่ตั้งตนมาทำเรื่องต่อต้านการคอร์รัปชั่นทั้งหลายแหล่ ต่างมองทะลุไปถึงเรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณของคนทำสื่อในทำนองว่า
หากสื่อคนไหนทุจริตคดโกงแล้วจะไปตรวจสอบผู้อื่น หรือทำหน้าที่สุนัขเฝ้าบ้านได้อย่างไร...???
เป็นนายสรยุทธก็ทำตัวลำบาก ตอน ม็อบเสื้อเหลือง แรง ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายมองว่าเข้าข้าง พอถึงเวลา ม็อบเสื้อแดง ขาขึ้นก็ถูกมองเป็นข้ารับใช้...
แต่มีใครนึกถึงการเป็นตัวตั้งตัวตีในการรับบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในรอบหลายปีที่ผ่านมา จนบางครั้งถูกแซวว่า นายกฯ สรยุทธ มาแล้ว
ใครกันที่ช่วยสร้างกระแสให้สังคมไทยได้ชื่นชม และส่งเสริมนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกทั้งหลาย
ในความไม่ดีย่อมมีความดี ฉันใดก็ฉันนั้น...!!!
หากมองโลกด้วยใจเป็นธรรม เราควรปล่อยให้นายสรยุทธได้ใช้สติใคร่ครวญต่อการ
กระทำที่เกิดขึ้นกับ อสมท และต่อวิชาชีพสื่อสารมวลชน แล้วให้เขาได้ตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองว่า จะเดินเส้นทางอาชีพนี้ต่อไปหรือจะหันเหไปทำอาชีพอื่น
เพราะผมคงไปตอบแทนบรรดาแฟนรายการของนายสรยุทธไม่ได้เช่นกันว่า
คนที่ออกมาเรียกร้องมีจริยธรรมและจรรยาบรรณสูงส่งไปกว่านายสรยุทธแค่ไหน...!!!.
สมิหลา นสพ.เดลินิวส์
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 55 20:39:38