 |
これが戦争だ! やろう共 出合えい!出合えい! นี่มันสงคราม! ระดมพล อย่ายอมมัน!อย่ายอมมัน!
#35 โห นั่นมันกระทู้ตั้งแต่ 2 ปีก่อน อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดกันหน่อยสิ
[Spoiler] นิยาย Ore no Imouto บทโหมโรงเล่ม 12
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บทโหมโรง เล่ม12 [ในมุมมองของคุโรเนโกะ] หลังการสอบซ้อมของเคียวสุเกะกับมานามิ ในช่วง 1 เดือนที่ว่างเปล่าระหว่างที่รอผลการสอบ วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน ตัวฉัน โกะโค รุริ ถูกคิริโนะเรียกตัวให้มาพบกันที่ “พริตตี้การ์เดน” และฉันก็มาในอาภรณ์ของ “ควีนออฟไนท์แมร์” เหมือนกับงานมีตติ้งครั้งแรก -ในร้านมีซาโอริที่แต่งตัวแบบโอตาคุเหมือนปกติรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งคุโรเนโกะและซาโอริ ยังไม่รู้ว่าคิริโนะเรียกให้มารวมตัวกันทำไม แต่ไม่น่าจะเป็นการเที่ยวอากิบะเหมือนปกติ ได้แต่รอจนคิริโนะมาถึง คิริโนะ “แหม โทษทีๆ พอดีไปเจอฟิกเกอร์ออกใหม่ เลยขาตายขยับขาก้าวออกมาไม่ได้” เธอผู้ปรากฏตัวพร้อมเสียง กรอกแกรกของเครื่องประดับที่สวมอยู่ยนตัวกระทบกัน คือนางฟ้าแห่งแสงสว่าง ศัตรูแห่งเรา--- ไม่ใช่หรอก คิริโนะ นั่นแหละ -คุโรเนโกะกับซาโอริ ถามคิริโนะด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เรียกว่าคราวนี้มีเรื่องอะไร คิริโนะ ยิ้มแห้งๆตอบกลับ คิริโนะ “---คิดว่าเรื่องนี้น่าจะมาคุยกันที่นี่ ที่ได้พบกับพวกเธอครั้งแรกน่าจะดีที่สุดน่ะ--- ---คือฉันตั้งใจว่า พอเรียนจบ ม.ต้นแล้ว จะไปเรียนต่อเมืองนอกอีก” เป็นคำพูดที่เรียบง่ายชัดเจน แต่ตัวฉันที่ได้ฟังกลับไม่ได้ง่ายเลย ......เอ๋......ทำไม......กันล่ะ...... รู้สึกสับสนมึนงงจนตัวแข็งทื่อไปหมด ทั้งที่พอจะเดาได้อยู่แล้วแท้ๆ -ซาโอริถามว่า ไปเรียนต่อทางกรีฑาแบบเดียวกับคราวก่อนหรือเปล่า คิริโนะตอบว่าไม่ใช่ ไปทำงานนางแบบพร้อมกับเรียนไปด้วย ตามที่ประธานมิซากิเคยแนะนำมา คุโรเนโกะถามว่า รู้ตัวมั้ยว่าที่คราวก่อนต้องกลับมาเป็นเพราะอะไร คิริโนะตอบว่ารู้เพราะเธอเองทนอยู่ตัวคนเดียวที่ต่างประเทศตลอดเวลาไม่ไหว คุโรโกะ “ถ้างั้นแล้วทำไมถึงยัง......” คิริโนะ “ก็นั่นล่ะ ไปคราวนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะแวะกลับมาบ่อยๆ มาหาพวกเธอ แล้วก็---มาหาพี่ ......ฉันเลิกโกหกความรู้สึกในใจตัวเองแล้วล่ะน่า เป็นเพราะพวกเธอนั่นแหละ” คุโรเนโกะ “ถ้ากลัวจะไม่ได้เจอพวกเราอีก......ก็ไม่เห็นต้องไปเลยนี่นา” ทั้งที่รู้ว่าพูดแบบนี้ไป เธอจะต้องลำบากใจ แต่ฉันก็เผลอพูดอย่างเอาแต่ใจตัวเองออกไป ซ้ำยังด้วยเสียงแหลมสูงขึ้นจมูก แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาอายอะไรแล้ว คุโรเนโกะ “บอกไว้ก่อนเลยนะ...... ถ้าเธอไม่อยู่ล่ะก็ ฉันตายแน่?” คิริโนะ “โหย มิตรภาพอะไรมันจะหนักอึ้งปานนั้น!? แล้วเดี๋ยวสิ ถึงฉันไม่อยู่ก็ยังมีซาโอริ ยังมีเพื่อนที่โรงเรียนใหม่อีกนะ!” ซาโอริ “ท่านคิริริน นี่แก่ใจจะให้ข้าน้อยแบกรับมิตรภาพที่หนักเกินไปชิ้นนี้ ไว้แต่ผู้เดียวเลยหรือขอรับ! ท่านคุโรเนโกะก็พูดอะไรหน่อยสิขอรับ!” คุโรเนโกะ “หึ......หึหึ...... โง่เขลานัก คิดว่าฉันจะหาเพื่อนที่โรงเรียนใหม่ได้ง่ายอย่างงั้นเลยเหรอ?” คิริโนะ “ไม่ต้องมาภูมิใจเรื่องพรรค์นี้เลยนะ! เอ๋? เดี๋ยว? นี่ขนาดย้ายไปแล้วก็ยังหาเพื่อนไม่ได้เหรอ?” ซาโอริ “อ่ะ ท่านคิริรินถามได้ขวานผ่าซากเกินไปแล้วขอรับ!?” ซาโอริช่วยตบมุกให้ คุโรเนโกะ “ถ้าจะว่าไม่มีเพื่อนเลย แต่สภาพมันก็ยังดีกว่าตอน ม.ต้น อยู่เยอะล่ะนะ หึๆๆ สกิลการคบหาผู้อื่นของเราก็ พัฒนาขึ้นมากแล้วสินะ ในช่วง 1 ปีนี้......เอาสิ จงสรรเสริญเราซะ” คิริโนะ “จ้าๆ พยายามได้ดีมากเลยนะ ---ถ้าหาเพื่อนได้แล้วแนะนำห้รู้จักด้วยสิ เอาจริงๆนะ” คุโรเนโกะ “......รับทราบ จะจับให้ได้ซักคนนึงก่อนจะเรียนจบ” ก่อนจะเรียนจบ ทันทีที่ฉันพูดคำนี้ออกมา บรรยากาศวังเวงก็เข้าครอบคลุมการสนทนาแบบกระทันหัน .................. คนที่เปิดฉากพูดออกมาก่อนเป็นซาโอริ ซาโอริ “ สำหรับ‘ดิฉัน’แล้ว--- กลุ่มของพวกเราเป็นเพื่อนที่ถูกใจดิฉันมากเลยค่ะ อยู่ๆถ้าต้องเสียมันไปฉันคงลำบากใจมาก แม้ท่านคิริรินยืนยันว่า จะกลับมาเป็นะระยะ อย่างไรเสียก็ยากจะเชื่อได้นะขอรับ” คิริโนะ “......นี่ไม่เชื่อใจฉันเลยนี่นา” จะเชื่อได้ยังไงล่ะ เรื่องคราวก่อนก็ทีนึงแล้ว ซาโอริ “---เพราะอย่างนั้น ฉันจะขอตั้งเงื่อนไขอะไรไว้ซักหน่อยนะคะ” คิริโนะ “เงื่อนไข?” ซาโอริ “ค่ะ อย่างแรก ต้องมีช่องทางพร้อมจะติดต่อกับพวกเราได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ทางเมลหรือทางสไคป์” คิริโนะ “ได้ โอเคเลย เข้าใจแล้วล่ะ งั้นอย่างที่สอง?” ซาโอริ “อย่างที่สอง พวก ‘ดิฉัน’ จะเป็นฝ่ายไปหาถึงทางโน้นเองบ้างเป็นบางครั้ง ถึงตอนนั้นช่วยแบ่งเวลาให้ด้วย” คิริโนะ “เอ๋? พวกเธอจะตามมาถึงเมืองนอกเลยเหรอ?” ซาโอริ “ขอรับ ข้าน้อยได้เรียนรู้จากท่านเคียวสุเกะมาแล้ว ต่อจากนี้ข้าน้อยย่อมไม่ลังเลที่จะใช้อำนาจเงินเพื่อความต้องการของตัวเอง อีกแล้ว---หึหึหึ” ซาโอริหัวเราะพร้อมกับทำปากเป็นรูป ω ซาโอริ “ว่าอย่างไรขอรับ” คิริโนะ “......ฮึ......ก็ตามใจสิ? ซาโอริก็ตามมาส่งฉันอยู่เรื่อยนี่นา ป่านนี้แล้วจะเกรงใจอะไรอีก” คิริโนะหน้าแดงขึ้นมานิดหน่อย คงจะอายอยู่นั่นล่ะ คิริโนะ “มีอย่างที่สามมั้ย?” ซาโอริ “ค่ะ อย่างที่สาม------ขอร้องล่ะค่ะ...... ช่วยคิดทบทวนเรื่องนี้ดูอีกซักครั้งนึง ยังมีจนกว่าจะเรียนจบ หากท่านคิริรินไม่อยู่ญี่ปุ่นเสียแล้ว พวกข้าน้อยคงเหงามากเลยขอรับ” คิริโนะ “---อืม เข้าใจแล้ว” คิริโนะกับซาโอริพยักหน้าให้กัน ซาโอริถอนหายใจ ฟู่ ออกมา -ซาโอริบอกว่า ยังมีอีกบางเรื่องที่อยากจะพูดเอาไว้ แต่ขอให้คุโรเนโกะเป็นคนพูดแทน เพราะน่าจะชักจูงคิริโนะได้ดีกว่า คุโรเนโกะก็รับคำว่าขอลองคิดดูก่อน ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับซาโอริ ซาโอริ “---ยามนี้ สิ่งที่ผองเราต้องทำมีเพียงหนึ่งเดียว! วันนี้ก็ส่วนวันนี้ เรามาสรวลเสกันให้สนุกสนานดีกว่านะขอรับ!” แล้ววันนั้นพวกเราสามคนก็ยังหัวเราะด้วยกันเหมือนกับทุกที เสี้ยวเวลานี้แหละ เป็นสมบัติอันภาคภูมิแห่งเราไปตราบชั่วนิรันดร์ ---ฤดูเหมันต์นี้ ทั้งเขาและเธอ รวมทั้งตัวฉัน......กำลังผ่านฤดูกาลที่ผันแปรไปตามปกตินี้ด้วยกัน เหลือเวลาน้อยนัก ก่อนจะ‘เรียนจบ’ ตัวฉัน พอจะทำอะไรได้บ้างนะ [ในมุมมองของอายาเสะ] วันรุ่งขึ้น จากวันที่คิริโนะ+เพื่อนสองคน สนุกสนานกันอย่างน่าอิจฉา--- วันหนึ่งกลางเดือนพฤศจิกายน ตัวฉัน อารางากิ อายาเสะ กำลังเผชิญกับภาวะคับขันที่สุดในชีวิต ในห้องของตัวเอง อายาเสะ “............” คุโรเนโกะ “........................” คิริโนะ “....................................” ขออธิบายนะคะ ฉันกำลังนอนหงายอยู่บนพื้น กลางห้องของตัวเอง และคุณคุโรเนโกะในชุดเครื่องแบบนักเรียน กำลังยกเท้ามาวางถูไถอยู่ที่ท้องของฉัน ส่วนคิริโนะ พึ่งจะเปิดประตูเข้ามาเมื่อซักครู่นี่เอง คิริโนะ “..................ทะ ทำอะไรกันอยู่น่ะ?” อายาเสะ “คิๆๆๆๆ คิริโนะ คือว่านี่น่ะ---” คุโรเนโกะ “ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ” คะ คุณแม่! ให้คิริโนะเข้ามาในบ้านแล้วก็ไม่เรียกเลยเหรอ แล้วคิริโนะน่ะ จะมาเร็วไปไหน พึ่งจะโทรไปหาเมื่อตะกี้เอง -คิริโนะยกนิ้วชี้จิ้มหน้าผากตัวเอง บอกว่า “มันมีจุดที่ต้องตบมุกมากเกินไปจนเกิน ความสามารถของฉันไปเยอะเลยน่ะ ขอไล่ทีละอย่างก็แล้วกันนะ” ก่อนจะชี้มาทางอายาเสะแล้วบอกว่า “นี่พวกเธอคบกันอยู่เหรอ?” อายาเสะกับคุโรเนโกะโวยวายลั่นว่า คิดไปถึงขนาดนั้นได้ยังไง อายาเสะขอให้คุโรเนโกะอธิบายสถานการณ์ คุโรเนโกะ “คิริโนะ......ฟังให้ดีนะ ที่พวกเรากำลังทำอยู่นี่คือ ‘พิธีกรรมกลับชาติ’ ที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และชั่วร้าย” คิริโนะ “นี่มันดูยังไงก็กำลังเล่น SM กันอยู่ชัดๆ” คุโรเนโกะ “สมองเธอโดนเกมโป๊ถมเต็มไปแล้วเหรอไง......ถึงได้พูดศัพท์น่าเกลียดแบบนั้นออกมาได้หน้าไม่อาย” คิริโนะ “เอ้อ ความสัมพันธ์ต้องห้ามของพวกเธอน่ะ จะยังไงก็เอาเถอะ” อายาเสะ “อย่าพูดปัดทิ้งแบบไม่เกี่ยวข้องแบบนั้นสิ! คิริโนะ! เธอยังเข้าใจผิดอยู่นะ” คิริโนะ “จ้าๆ เข้าใจแล้วๆ ---แล้วยังไง? อธิบายมาทีสิ ทำไมฉันถึงถูกคุโรเนโกะเรียกให้มาหา ที่บ้านของอายาเสะ?” อายาเสะ “ยังไม่เข้าใจเลยนี่นา กลับไปเรื่องเดิมก่อน!” -อายาเสะรีบลุกขึ้นมา อธิบายความเป็นมาให้คิริโนะฟังพร้อมกับคุโรเนโกะ คิริโนะ “อืม......สรุปก็คือ พวกเธอไม่ได้คบกันอยู่ ที่ทำนั่นจะเรียก พิธีอะไรก็เอาเถอะ ตกลงว่าเป็นแค่วิธีทำความรู้จักกันแบบหนึ่งที่บังเอิญถูกใจทั้งคู่ พอว่างก็เลยทำแบบนั้น...... ฉันเข้าใจถูกมั้ย?” อายาเสะ “......เกือบทั้งหมดแล้วล่ะ” มั้ง? คุโรเนโกะ “หึหึ......ทักษะการทำความเข้าใจของคนทั่วไปก็ทำได้แค่นี้ล่ะนะ จะบอกให้ว่า ในพิธีครั้งก่อนตัวฉันเป็นฝ่ายดูดซับเอาความมืดในตัวเธอมาไว้ในตัว(คราวก่อน อายาเสะเป็นคนเหยียบ)” คิริโนะ “ใครช่วยแปลไทยเป็นไทยอีกทีสิ?” -คิริโนะยอมแพ้ที่จะทำความเข้าใจ ถอนหายใจแล้วถามอีกครั้งว่า ตกลงเรียกเธอมาด้วยเรื่องอะไรกันแน่ อายาเสะตอบว่าเธอกับคุโรเนโกะมีเรื่องที่ต้องคุยกับคิริโนะ ทำให้คิริโนะแปลกใจว่าทั้งที่ นิสัยน่าจะไม่ถูกกันแต่ทำไมกลับมาสนิทสนมกันได้ อายาเสะเข้าใจไปว่าคิริโนะคงจะไม่สบายใจที่อยู่ๆเพื่อนสนิทของตัวเองก็ไป สนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่น คุโรเนโกะ “......หึ......เธอได้กลายเป็นภราดรแห่งความมืด สมาชิกเซอร์เคิล ‘แบลคไนท์โนว่า’ ของเราไปแล้วน่ะสิ บัดนี้เธอได้ทิ้งนามแห่งมนุษย์อย่าง อารางากิ อายาเสะ ไปแล้ว จากนี้ไปจงเรียกเธอว่า ‘ดาร์คแองเจิล’ ” ดาร์คแองเจิลอะไรกันล่ะคะ นังทาสมาโซคนนี้ คิริโนะที่ยังไม่เข้าใจหันหาถามกับฉัน คิริโนะ “อายาเสะ ช่วยแปลคำพูดที่ยัยนี่พล่ามออกมาให้ฟังทีสิ” อายาเสะ “คือ มันมีเหตุผลหลายๆอย่างน่ะ...... กลายเป็นว่า......ฉันต้องช่วยงาน คอมิเกะฤดูหนาว? ของเธอน่ะ” คิริโนะ “อายาเสะ? จะไปงานคอมิเกะฤดูหนาว?” -อายาเสะพยักหน้ารับ คุโรเนโกะอธิบายว่าอายาเสะอยากจะทำความเข้าใจงานอดิเรกของคิริโนะ ก็เลยอยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง อายาเสะคิดในใจว่าน่าจะเรียกว่า ‘ยุทธการแก้อาการแพ้โอตาคุ’ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ ‘แผนการพิชิตใจคิริโนะ’ คิริโนะบอกว่า ไม่นึกว่าจะมีวันที่เธอได้เดินงานคอมิเกะพร้อมกับอายาเสะ แต่งานคราวนี้เธอไม่ว่างช่วย คงทำได้แค่แวะไปให้กำลังใจ ทำเอาอายาเสะสะดุ้ง จนคิริโนะสงสัยว่าเป็นอะไร คนให้คำตอบกลับเป็นคุโรเนโกะ คุโรเนโกะ “......ฉันตั้งใจจะให้เธอแต่งคอสเพลย์แล้วไปยืนขายโดจินน่ะสิ” คิริโนะ “เอาจริงดิ!? แบบนี้ต้องไป! ดีล่ะในเมื่อรู้ว่าจะมีอิเวนท์เด็ดๆแล้ว ก็ต้องไปซื้อกล้องมาเตรียมไว้!” คุณคุโรเนโกะ~~~~ แล้วจะไปบอกทำไม! ---หวาย คิริโนะ ดีใจแทบเต้นเลย! คิริโนะ “แล้ว ที่จะพูดคือเรื่องนี้น่ะเหรอ?” คุโรเนโกะ “เปล่า”, อายาเสะ “ไม่ใช่หรอก” -คุโรเนโกะกับอายาเสะ ผลัดกันอธิบายว่า หลังจากงานปาร์ตี้ย้ายบ้านของเคียวสุเกะเมื่อเดือนก่อน พวกเธอที่ไปร่วมงานนั้นก็ได้พูดคุยกันหลายครั้ง ถึงเรื่องของเคียวสุเกะกับคิริโนะ และรู้ว่า คิริโนะก็จะไปคุยกับมานามิ คุโรเนโกะ “มีหลายเรื่องที่ฉันต้องบอกให้เธอรู้......นั่นสิ อย่างแรกก็คงเป็น รุ่นพี่ทามุระกำลังวางแผนอะไรซักอย่างอยู่” -ทันทีที่ได้ยินชื่อมานามิ ท่าทีของคิริโนะก็ดูเคร่งเครียดขึ้น แต่ถามกลับมาว่าคงไม่ใช่ แผนการเพ้อเจ้อแบบที่คุโรเนโกะชอบพูด ทั้งคุโรเนโกะและอาย่าเสะ ปฏิเสธพร้อมกัน ทำให้คิริโนะยอมเชื่อและขอฟังแผนการที่ว่า อายาเสะบอกว่าได้ยินจากคานาโกะอีกทีที่มานามิพูดว่า “ตั้งใจจะทำให้คิริโนะจังร้องไห้” กับ “ก่อนเรียนจบจะทำให้ทั้งสองคนกลายมาเป็นพี่น้องธรรมดา” -คิริโนะตกใจจนต้องนิ่งคิดอะไรอยู่คนเดียว คุโรเนโกะถามว่าพอจะนึกอะไรออกบ้างมั้ย คิริโนะตอบว่า น่าจะเป็นเรื่องที่เรียกไปพูดคุยปรับความเข้าใจที่จริงต้องการจะให้ตัวเธอ กับเคียวสุเกะคืนดีกัน แต่อายาเสะยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า “ตั้งใจจะทำให้ร้องไห้” คิริโนะ “ขอบใจพวกเธอมากนะที่บอกเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ข้ออ้างของเธอคนนั้นฉันเคยฟังมาจนเบื่อแล้ว จะร่ายซ้ำให้ฟังอีกทีก็เอาเถอะ แล้วความสำคัญของการปรับความเข้าใจคราวนี้ ไม่ได้อยู่ที่ฉันกับคุณมานามิ แต่......” คำพูดคิริโนะขาดไปแบบห้วนๆ แต่ถึงเธอจะไม่พูดออกมาพวกเราตรงนี้ทุกคนก็เข้าใจว่า นั่นหมายถึง---คุณพี่ชาย คิริโนะ “แต่ยังไงซะ ฉันก็คงต้องเตรียมใจเอาไว้บ้างล่ะนะ เพราะดูแล้ว ทางนั้นคงจะเอาจริงเลยล่ะ” -คิริโนะถามว่ายังมีเรื่องอื่นอีกมั้ย คุโรเนโกะตอบว่ามี แต่กลับเป็นเรื่องของอายาเสะที่เจ้าตัวอ้อมแอ้ม ออกมาว่าเธอชอบผู้ชายอยู่คนนึง คิริโนะดีใจและแปลกใจว่าไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันนี้ จนคุโรเนโกะต้องสะกิดอายาเสะถึงจะยอมพูดว่า อายาเสะ “คิริโนะ--- ---ฉันตั้งใจว่า จะไปสารภาพรักกับคุณพี่ชายของเธอ” คิริโนะ “............หืม” เป็น ‘หืม’ ที่เย็นชามากแบบที่ไม่เคยได้ยินจากเธอมาก่อน คิริโนะ “ก็ตามใจสิ...... แต่อายาเสะ เธอสนิทกับคุโรเนโกะแบบนี้แล้ว น่าจะรู้ใช่มั้ยว่าทำไมยัยนี่กับเคียวสุเกะถึงเลิกกัน” อายาเสะ “......อื้อ ฉันรู้ เพราะคิริโนะจะไม่พอใจถ้าหากว่าคุณพี่ชายจะมีคนรัก สินะ?” คิริโนะ “รู้อย่างนั้นแล้ว ยังจะไปอีกเหรอ” อายาเสะ “อื้อ” -ทำให้คิริโนะสงสัยว่า ที่อายาเสะเคยบอกว่าเกลียดเคียวสุเกะเป็นเรื่องโกหก อายาเสะปฏิเสธว่าไม่ได้โกหก เธอเกลียดเคียวสุเกะจริงๆ แต่หลังจากที่ได้เห็นเขาพยายามเพื่อเธอ เพื่อคิริโนะหลายครั้ง อายาเสะ “ฉันก็รู้สึกรักเขาไป แบบไม่รู้ตัว จนทนเก็บเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะอย่างนั้น---” คิริโนะ “ถึงจะต้องทะเลาะกับฉัน ก็จะไปงั้นเหรอ?” อายาเสะ “ไม่ใช่แบบนั้น” คิริโนะ “งั้น---” ก่อนที่คิริโนะจะได้พูดอะไรต่อ ฉันตะโกนแทรกเข้าไปอย่างสุดเสียง อายาเสะ “ฉันรักทั้งคิริโนะ แล้วก็คุณพี่ชาย เท่าๆกันเลย!! ฉันจะทำตามวิธีของฉัน คนละแบบกับของคุณพี่สาว ทำให้ความสัมพันธ์ของคิริโนะกับคุณพี่ชายกลายเป็นเรื่องถูกต้อง! ฉันจะบอกรักกับคุณพี่ชาย ทำให้เขาหันมาหาฉันให้ได้......แต่ก็ยังจะเป็นเพื่อนกับคิริโนะอยู่แบบนี้! ฉันจะไม่ยอมแพ้กับความสัมพันธ์ที่มีให้ทั้งสองคน! มีปัญหาอะไรมั้ย!” นี่มัน---เหมือนกับคำพูดของคิริโนะ เมื่อตอนที่เธอขอคืนดีกับฉัน นั่นสินะ ฉันยังคงได้แต่ไล่ตามเพื่อนสนิทผู้น่าชื่นชมคนนี้อยู่ข้างเดียว ทั้งเรื่องทรงผม เรื่องงาน แต่ปฏิกิริยาของคิริโนะ กลับเป็นอะไรที่ฉันคาดไม่ถึง คิริโนะ “......เมื่อกี้” อายาเสะ “เอ๋?” คิริโนะ “เมื่อกี้ที่ฉันบอกว่า “ก็ตามใจสิ” นั่นน่ะ แต่ยังไงช่วยรอจนถึงช่วงที่ฉันเรียนจบได้มั้ย” -คิริโนะตอบกลับมาแบบอึดอัด จนคุโรเนโกะถามว่า ถ้ารอถึงเรียนจบแล้วเธอจะทำอะไรได้ คิริโนะ “ฉันจะจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนจะเรียนจบน่ะสิ ฉันรู้ตัวว่าความสัมพันธ์ของตัวเองกับพี่ชาย มันไม่สวยงามนักหรอก แต่เพราะนั่นแหละ---ช่วยรออีกซักไม่กี่เดือนได้มั้ย” คุโรเนโกะ “ไม่ได้ ฉันไม่รอหรอก” คุณคุโรเนโกะตอบกลับทันทีด้วยสียงเย็นชามากๆ คุโรเนโกะ “ฉันเองก็ขอประกาศเอาไว้ตรงนี้เลยว่า ---‘ฉันจะทำให้เขาเป็นฝ่ายมาสารภาพรักกับฉันเองบ้าง ก่อนที่เธอจะเรียนจบ’---” คิริโนะ “อึก” คิริโนะกัดฟันจนได้ยินดังกรอดๆ คิริโนะ “---ทำไมถึงพูดแบบนี้กันล่ะ!? ทั้งเธอ แล้วก็อายาเสะด้วย...... บอกก่อนนะว่า หมอนั่นน่ะมันซิสค่อนเข้าเส้น ถึงจะบอกรักไปตอนนี้ก็ไม่ได้คำตอบกลับมาหรอก!” คุโรเนโกะ “เรื่องนั้นน่ะ ทั้งฉัน ทั้งเธอ(อายาเสะ) รู้อยู่แล้วล่ะ ‘เพราะอย่างนั้นแหละ’ ถึงต้องเป็นตอนนี้---จริงมั้ย?” คุณคุโรเนโกะหันมาทางฉัน ฉันก็พยักหน้ารับ อายาเสะ “คิริโนะ---ได้ยินจากคุณคุโรเนโกะตอนที่เธอพูดว่า จะไม่โกหกความรู้สึกของตัวเองอีกแล้วใช่มั้ย? แล้วทำไมถึงยังโกหกอยู่อีกล่ะ แบบนั้นไม่ได้นะ ถ้าจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ‘ฉันอยากให้เธอจัดการเรื่องราวทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องโกหกอีกแล้ว’ ” คุโรเนโกะ “พวกฉันน่ะ ไม่ใจดีเหมือนรุ่นพี่ทามุระหรอกนะ ‘ไม่ยกเว้นให้เธอ’ ไม่ว่ากรณีไหนทั้งนั้น” อายาเสะ “คิริโนะ......เข้าใจเรื่องที่ฉันกับ คุณคุโรเนโกะ อยากจะพูดใช่มั้ย?” คิริโนะก้มหน้าเงียบลงไป จนมองไม่เห็นสีหน้าแบบนั้นอยู่นาน คิริโนะ “..................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ เฮ้อ---ปัดโธ่เอ๊ย! เห็นฉันไม่พูดอะไรก็ใส่กันใหญ่เลยนะ!” ความอดกลั้นขาดผึงไปซะแล้ว คิริโนะ “ฉันเข้าใจ เรื่องที่พวกเธออยากจะบอก---เข้าใจ! ดีมากเลย! ......แล้วพวกเธอจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังที่ทำให้ น้องสาวผู้น่ารักที่สุดในโลกคนนี้ต้องเอาจริงขึ้นมาน่ะ!” คิริโนะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ชี้นิ้วท้าทายใส่พวกเรา คิริโนะ “ก่อนจะเรียนจบ ฉันจะทำเรื่องที่มันสุดยอดยิ่งกว่าเกมโป๊ให้ดู!” อายาเสะ “แย่ล่ะสิ สงสัยจะยั่วหนักเกินไปหน่อย” คุโรเนโกะ “......หึหึหึ......ต้องแบบนี้สิถึงจะสมเป็นตัวเธอ อา~ ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงหมุนไปตามวงล้อชะตากรรมแห่งความชั่ว......ใช่แล้วล่ะ พวกเราไม่มีความจำเป็นที่ต้องเต้นไปตามแผนการของจอมมารแห่งความถูกต้อง ------แต่จงรู้ไว้ซะ ผู้ที่จะครองชัยชนะในบั้นท้ายของที่สุดแล้ว คือคุโรเนโกะผู้นี้” ---ฤดูเหมันต์นี้ ระหว่างที่กำลังใช้ชีวิตในช่วงเวลาก่อนจบการศึกษาที่เหลืออยู่ไม่มากนี้ พวกเราเหล่าเพื่อนสนิท ก็ประกาศสงครามใส่กัน
To be continue to น้องสาวของผมไม่มีทางน่ารักขนาดนี้หรอก ‘เล่มสุดท้าย’ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 55 20:32:31
จากคุณ |
:
Lemonade4-0
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 55 19:53:20
|
|
|
|
 |